Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Siemens ที่ มีนาคม 11, 2019, 21:43:10
-
เอาเฉพาะแบรร์ดที่เป็น Mass Market เช่น โฟร์ท เปอร์โย เรโนท์ สโกด้า
เน้นคุณภาพโดยรวมของตัวรถครับ
ไม่เทียบกับพวกระดับพรีเมี่ยม
-
รถญี่ปุ่นบางยี่ห้อก็สามารถเทียบได้ครับ เช่น Subaru Impreza และ Crosstrek ทดสอบความปลอดภัย Euro Ncap ได้คะแนนในระดับสูงสุดของ class เลย
เทียบเท่ากับ Volvo และ Volkswagen ที่ได้คะแนนสูงสุดใน class ของตัวเอง ส่วนเรื่องคุณภาพในการขับสื่อเมืองนอกหลายๆเจ้าก็ยกมาเทียบเคียงกับรถบ้านยุโรปได้
-
พี่โฟกัสที่ "คุณภาพ" หรือ "สมรรถนะ" ครับ อาจมีไหลไปจนถึงเรื่อง สเป็ค, ออปชั่นด้วย
ต้องตีความกันดี ๆ นะครับ
เช่นเครื่องยนต์ขนาดเท่ากัน เครื่องยนต์ของค่ายไหนให้เรี่ยวแรงมากกว่า อันนั้นเป็นเรื่อง "สมรรถนะ"
แต่เครื่องที่แรงกว่า ใช้งานไป 4-5 หมื่น กม. ก็มีชิ้นส่วนพังกันระนาว อันนั้นเป็นเรื่อง "คุณภาพ" ครับ
สำหรับ คคห ผม ผมคิดว่า ถ้า "สมรรถนะ" ให้ยุโรป
แต่ถ้า "คุณภาพ" ให้ญี่ปุ่นครับ
-
ได้แน่นอนครับ
-
ได้ครับ
-
ผมกลับมองว่ารถญี่ปุ่นคุณภาพดีกว่าด้วยซ้ำครับ
-
ใครที่ใช้รถยุโรป รถเมกัน และญี่ปุ่น พร้อมๆกัน หรือต่อเนื่อง จะทราบดีครับ
-
ผมมองว่า มิติโดยรวมยังไม่ได้และยังห่างด้วย
คุณภาพเนี่ยะผมมองว่ามันไม่ใช่แค่สมรรถนะ หรือความทนทาน
แต่มันหมายถึงprinciple การสร้างรถสักคันออกมาด้วยความใส่ใจในการเป็นรถ. ความปลอดภัยอย่างตั้งใจจริง ทั้งคนขับและผุ้ร่วมใช้ถนน. ไม่ใช่จำเป็นต้องมีเพราะถูกกำหนดให้มีเป็นต้น
เวลาพุดถึงคุณภาพ. มันต้องมองว่า คำว่า คุนภาพ คืออะไร
เช่น วัสดุบางชิ้นมีอายุของมัน. พอครบวาระมันพัง. เราจะมองว่าคุณภาพแย่หรือเปล่า
การที่ไม่ใส่ระบบความปลอดภัยมาให้. แต่ไปใส่แฟนซีFn จะมองยังไงกัน
-
อยู่ที่บุคลิก และภาพลักษณ์ ของแบรน มากกว่า
ดูตัว Hi end นะ ไม่ใช่ตัว top ของรุ่น ถ้าไม่นับรูปลักษณ์ ที่เป็นความชอบส่วนบุคคล ไม่สามารถเปรียบเทียบได้
มีอะไรที่ต่างกันบ้าง มีแต่ของยิบย่อยทั้งนั้นที่ต่างกัน
คุณภาพ ด้านไหนล่ะ
เครื่องแรง
ยุโรป - มี
อเมริกา - มี
ญี่ปุ่น - มี
ความปลอดภัยผ่านเซนเซอร์
ยุโรป - มี
อเมริกา - มี
ญี่ปุ่น - มี
ช่วงล่างที่ดี
ยุโรป - มี
อเมริกา - มี
ญี่ปุ่น - มี
การขับขี่ที่ดี
ยุโรป - มี
อเมริกา - มี
ญี่ปุ่น - มี
ความหรูหรา
ยุโรป - มี
อเมริกา - มี
ญี่ปุ่น - มี
-
ในต่างประเทศรถยุโรปหลายรุ่นเทียบกันจะมีราคาใกล้เคียงกับรถญี่ปุ่น(แพงกว่ากันหลักหมื่นบาท-แสนต้นๆ)
แต่บ้านเรารถยุโรปจะแพงกว่าความเป็นจริงค่อนข้างมาก (แต่หลังๆ benz bm ประกอบไทยก็ทำราคาถูกลงเยอะ)
-
ช่วงหลังๆ เห็นคำถามแนวนี้บ่อย แสดงว่ารถยี่ปุ่น นาทีนี้ต้องพัฒนาจนสวยขึ้น จนคนที่จะซื้อรถยุโรปยังต้องมาคิดว่ารถยี่ปุ่นคุณภาพระดับไหนกัน
แต่ผมว่า camry ใหม่ที่เพิ่งออกมา ออกแบบมาได้สวย ดูสง่า สวยและดูดีได้ ไม่แพ้ benz และ bmw ในรุ่นปัจจุบัน คือ สวยจบตั้งแต่หน้ารถ ด้านข้าง ด้านท้าย ดูแบนลง หรูขึ้น ลบเหลี่ยมในรุ่นก่อนหน้าทิ้งไปหมดเลย คือ มาแนว มนๆ ไล่ๆไปทั้งคัน สไตส์เดียวกับการดีไซส์ของรถยุโรปตัวปัจจุบันกันเลย
-
เอาเฉพาะแบรร์ดที่เป็น Mass Market เช่น โฟร์ท เปอร์โย เรโนท์ สโกด้า
เน้นคุณภาพโดยรวม ของตัวรถครับ
ไม่เทียบกับข้ามรุ่นกับพวกระดับพรีเมี่ยม
ส่วนตัวไม่ทราบเพราะไม่เคยใช้แบรนด์ยุโรปที่ว่าครับ และไม่คิดจะซื้อหรือทดลองขับด้วย
https://www.best-selling-cars.com/global/2018-full-year-international-global-top-car-brands/
เดาล้วนๆไม่มีเหตุผลอื่นๆประกอบ ถ้าคุณภาพโดยรวมตามหลังจริงๆ ยอดขายทั่วโลกมันจะออกมาแบบนี้ได้จริงๆหรือ :-\
ปล. แก้ไข เห็นหลายๆคนอ่านแต่หัวข้อครับ
-
สมรรถนะผมว่าตามราคาครับ แต่ถ้านับความทนทานผมว่าสู้ได้สบายครับ
-
เอา คุณภาพ ใช่ไหม
คุณภาพ(Quality) คือ หมายถึง การดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพเป็นไปตามข้อกำหนดที่ต้องการ โดยสินค้าหรือบริการนั้นสร้างความพอใจให้กับลูกค้า
และมีต้นทุนการดำเนินงานที่เหมาะสมได้เปรียบคู่แข่งขัน ลูกค้ามีความพึงพอใจ และยอมจ่ายตามราคาเพื่อซื้อความพอใจนั้น
ผมว่า เหนือกว่านานแล้วครับ
พิสูจนย์จาก ไมล์รถหลายๆคัน ที่ วิ่งเกือบ 1,000,000 โล
-
ถ้ารถญี่ปุ่นที่ผลิตในประเทศไทย สู้ยาก เพราะลด/ตัดออกเยอะ แต่ถ้า รถญี่ปุ่นที่นำเข้าจากญี่ปุ่นนี่หลายๆอย่างสู้ได้แระดีกว่าด้วย เช่น Harrier Lexus Crown
-
ได้มานานแล้วครับ
ปกติขาดแค่ไม่ได้หมุนล้อหลังและไม่มี AWD
ที่เหลือดีกว่าทุกอย่าง และยังราคาถูกกว่าอีก (M กับ AMG ไม่เกี่ยว)
-
ถ้ารถญี่ปุ่นที่ผลิตในประเทศไทย สู้ยาก เพราะลด/ตัดออกเยอะ แต่ถ้า รถญี่ปุ่นที่นำเข้าจากญี่ปุ่นนี่หลายๆอย่างสู้ได้แระดีกว่าด้วย เช่น Harrier Lexus Crown
ผมไม่คิดงั้น นะครับ พาร์ท หลายๆ อย่าง ที่ผลิตในไทย ทนทาน และ ส่วนใหญ่ ผู้ผลิต ก็คือ Maker ต่างชาติ พวก ยุโรษ
อย่า OEM ไม่ได้ ผลิตรถทั้งคัน
แต่เป็น Supplier ต่างหากที่ผลิตชิ้นส่วน
ไทยเรา แค่ฐาน การผลิต ไม่ได้ทำ R&D
คุณภาพเริ่มมันมาจาก R&D
รถไทย ก็มีส่งออกไปขายต่างประเทศ จนรับรู้ถึงความทนทานก็เยอะครับ แค่ มันมีไม่กี่รุ่น ที่ผลิตส่งออก
อย่าดูถูก แบบ ส่งเดช กันเลยครับ
-
แล้วแต่คน แล้วแต่มุมมอง ผมเอง ก็ใช้ทั้ง 2 แบบ ... ไม่เห็นมีอะไรเลวร้าย ยุโรปผม ปีนี้อายุ 19 ปีแล้ว ใช้ประจำ ยุ่น สำรองไว้ ใช้สัปดห์ละครั้ง...
-
ถ้ารถญี่ปุ่นที่ผลิตในประเทศไทย สู้ยาก เพราะลด/ตัดออกเยอะ แต่ถ้า รถญี่ปุ่นที่นำเข้าจากญี่ปุ่นนี่หลายๆอย่างสู้ได้แระดีกว่าด้วย เช่น Harrier Lexus Crown
ผมไม่คิดงั้น นะครับ พาร์ท หลายๆ อย่าง ที่ผลิตในไทย ทนทาน และ ส่วนใหญ่ ผู้ผลิต ก็คือ Maker ต่างชาติ พวก ยุโรษ
อย่า OEM ไม่ได้ ผลิตรถทั้งคัน
แต่เป็น Supplier ต่างหากที่ผลิตชิ้นส่วน
ไทยเรา แค่ฐาน การผลิต ไม่ได้ทำ R&D
คุณภาพเริ่มมันมาจาก R&D
รถไทย ก็มีส่งออกไปขายต่างประเทศ จนรับรู้ถึงความทนทานก็เยอะครับ แค่ มันมีไม่กี่รุ่น ที่ผลิตส่งออก
อย่าดูถูก แบบ ส่งเดช กันเลยครับ
รถไทยที่ส่งออก กับที่ขายในไทยมันคนละเกรดกันค่ะ หลายคนก็รู้ รถขายคนไทยตัดระบบอะไรบ้าง เช่น ฮีทเตอร์ ถุงลมรอบคัน รถรุ่นเดียวกันแต่ส่งออกได้ครบ อ่านดีๆ ใช้สติเยอะๆ ค่ะ โตแล้ว
-
เอา คุณภาพ ใช่ไหม
คุณภาพ(Quality) คือ หมายถึง การดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพเป็นไปตามข้อกำหนดที่ต้องการ โดยสินค้าหรือบริการนั้นสร้างความพอใจให้กับลูกค้า
และมีต้นทุนการดำเนินงานที่เหมาะสมได้เปรียบคู่แข่งขัน ลูกค้ามีความพึงพอใจ และยอมจ่ายตามราคาเพื่อซื้อความพอใจนั้น
ผมว่า เหนือกว่านานแล้วครับ
พิสูจนย์จาก ไมล์รถหลายๆคัน ที่ วิ่งเกือบ 1,000,000 โล
เห็นด้วยนะครับ การวัดคุณภาพต้องมีกรอบอ้างอิงเช่น ต้นทุนที่เท่ากันหรือ ประสิทธิผลที่ได้ หรือ positioning การตลาดตำแหน่งเดียวกัน
ถึงวัดออกมาได้ ......ผมว่าค่ายญี่ปุ่นเหนืออยู่
-
ถ้ารถญี่ปุ่นที่ผลิตในประเทศไทย สู้ยาก เพราะลด/ตัดออกเยอะ แต่ถ้า รถญี่ปุ่นที่นำเข้าจากญี่ปุ่นนี่หลายๆอย่างสู้ได้แระดีกว่าด้วย เช่น Harrier Lexus Crown
ผมไม่คิดงั้น นะครับ พาร์ท หลายๆ อย่าง ที่ผลิตในไทย ทนทาน และ ส่วนใหญ่ ผู้ผลิต ก็คือ Maker ต่างชาติ พวก ยุโรษ
อย่า OEM ไม่ได้ ผลิตรถทั้งคัน
แต่เป็น Supplier ต่างหากที่ผลิตชิ้นส่วน
ไทยเรา แค่ฐาน การผลิต ไม่ได้ทำ R&D
คุณภาพเริ่มมันมาจาก R&D
รถไทย ก็มีส่งออกไปขายต่างประเทศ จนรับรู้ถึงความทนทานก็เยอะครับ แค่ มันมีไม่กี่รุ่น ที่ผลิตส่งออก
อย่าดูถูก แบบ ส่งเดช กันเลยครับ
รถไทยที่ส่งออก กับที่ขายในไทยมันคนละเกรดกันค่ะ หลายคนก็รู้ รถขายคนไทยตัดระบบอะไรบ้าง เช่น ฮีทเตอร์ ถุงลมรอบคัน รถรุ่นเดียวกันแต่ส่งออกได้ครบ อ่านดีๆ ใช้สติเยอะๆ ค่ะ โตแล้ว
การออกความคิดเห็น...ไม่ใช่เอาชนะนะครับ
เฮ้อ...
-
ความเห็นส่วนตัว หากเทียบรถที่ระดับเดียวกัน ผมว่าใกล้เคียงกันนะครับ
-
คุณภาพ ในเรื่องไหน ครับ มันกว้างมาก
แต่สำหรับผม ถ้าไม่นับเรื่องหน้าตาของแบรนด์ และคำว่า พรีเมี่ยม แล้วละก็(ซึ่งผมให้ความสำคัญน้อยมาก แต่คนอื่นผมไม่ทราบ)
ถ้ารถใน seg ต่อ seg แบบว่า ยุโรปมี แล้ว ญี่ปุ่นมีไหม ผมให้เท่ากันหรือดีกว่าในบางรุ่นด้วยซ้ำ ไม่ต้องกลุ่มยี่ห้อที่ จขกท. ยกมาหรอกครับ เพราะอันนั้นมันเป็น local brand มากไปหน่อย(อาจจะ Mass ในบางประเทศ) ผมเทียบง่ายๆ กับ BMW , Benz เลยละกัน
เอาง่ายๆ เลยครับ
เรื่อง เทคโลโลยี ในบางรุ่นญี่ปุ่น เยอะกว่า ในยุโรป บางรุ่น ซะด้วยซ้ำ ในราคาที่ตำกว่ากว่าเกือบครึ่ง
เรื่อง การขับขี่ ผมว่าไม่หนีกันแล้วครับ เพราะยุโรปบางคัน ไม่ได้เน้นขับขี่จ๋าแบบในอดีตแล้ว มาปรับให้เน้นนั่งสบายกว่าเดิม เช่นเดิมกับญี่ปุ่นด้วยเหมือนกัน
เรื่อง เครื่องยนต์+เกียร์ ค่ายญี่ปุ่นเกรดธรรมดา เทียบกันแบบ แรงม้า vs แรงม้า และ แรงบิด vs แรงบิด ไม่แพ้เลย แต่แลกมาด้วยค่าตัวที่ถูกกว่าเยอะ แต่ถ้าจะเอาแบบจัดเต็ม ญี่ปุ่นเองก็มีเกรด พรีเมี่ยม ด้วยนะ และ ในเกรดพรีเมี่ยม เขาก็จัดเต็มเหมือนกัน ญุี่ปุ่นตลาดๆ บางสิ่ง บางอย่าง ก็ถูกลด cost ลงตามปกติ แต่ก็ไม่ได้ขี้เหร่ น่าเกลียด นะ เพราะเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว
แต่ก็เข้าใจว่า ยุโรป บางกลุ่ม (รวมทั้งกลุ่มแบรนด์ mass เอง) ก็จะมี product ในบาง Line up ที่จะเป็นรถเฉพาะกลุ่มอยู่ ซึ่งญี่ปุ่น อาจจะมีกลุ่มนี้แต่น้อย(มีให้เห็นน้อย แต่มีอยู่)
ผมมองแบบนี้ครับ จากที่เคยใช้ยุโรปมา ถึงวันนี้ผมเริ่มเฉยๆ แล้ว ถ้าจะซื้อรถเพิ่มหรือซื้อคันใหม่ ผมยังคิดเลยว่าในรถญี่ปุ่น ณ ปัจจุบัน มีให้หมดแล้ว ทำไมต้องจ่ายเงินเพิ่มเท่าตัวไปเอายุโรปอีก ในเมื่อมีตังเหลือครึ่งนึงไปทำอย่างอื่น
-
ถ้ารถญี่ปุ่นที่ผลิตในประเทศไทย สู้ยาก เพราะลด/ตัดออกเยอะ แต่ถ้า รถญี่ปุ่นที่นำเข้าจากญี่ปุ่นนี่หลายๆอย่างสู้ได้แระดีกว่าด้วย เช่น Harrier Lexus Crown
ผมไม่คิดงั้น นะครับ พาร์ท หลายๆ อย่าง ที่ผลิตในไทย ทนทาน และ ส่วนใหญ่ ผู้ผลิต ก็คือ Maker ต่างชาติ พวก ยุโรษ
อย่า OEM ไม่ได้ ผลิตรถทั้งคัน
แต่เป็น Supplier ต่างหากที่ผลิตชิ้นส่วน
ไทยเรา แค่ฐาน การผลิต ไม่ได้ทำ R&D
คุณภาพเริ่มมันมาจาก R&D
รถไทย ก็มีส่งออกไปขายต่างประเทศ จนรับรู้ถึงความทนทานก็เยอะครับ แค่ มันมีไม่กี่รุ่น ที่ผลิตส่งออก
อย่าดูถูก แบบ ส่งเดช กันเลยครับ
รถไทยที่ส่งออก กับที่ขายในไทยมันคนละเกรดกันค่ะ หลายคนก็รู้ รถขายคนไทยตัดระบบอะไรบ้าง เช่น ฮีทเตอร์ ถุงลมรอบคัน รถรุ่นเดียวกันแต่ส่งออกได้ครบ อ่านดีๆ ใช้สติเยอะๆ ค่ะ โตแล้ว
การที่พี่ยกตัวอย่างรถที่ขายในบ้านเราถูกตัดโน่นตัดนี่เช่น ตัดฮีตเตอร์ ตัดถุงลม อันนั้นเป็นเรื่องสเปกครับ
ไม่ใช่เรื่องของเกรด ไม่ใช่เรื่องคุณภาพ และที่สเปกมันต่างกันก็ขึ้นอยู่กับว่าตลาดไหนต้องการอะไร
ที่เห็นๆ อย่างบ้านเรา คนชอบ รถสวยๆ ช่วงล่างดี ๆ ของเล่นเยอะๆ ถึงจะมีถุงลม 2 ใบ
ก็ชอบกว่ารถหน้าตาเชยๆ แก่ๆ แต่ถุงลม 6 7ใบ เป็นต้นครับ
ส่วนเรื่องคุณภาพ เนื้อวัสดุ ความหนา ขั้นตอนการทำงาน จำนวนน๊อตที่ไข ค่าทอร์คที่ขัน
ความเข้มงวดในการตรวจสอบ ไม่ว่าจะขายในประเทศหรือส่งออกก็ไม่ต่างกันครับ
ผมคลุกคลีกับ คนงาน โรงงาน และ Process พวกนี้อยู่ครับ
-
ตามประสบการณ์ผม ผมว่ารถยุโรปก็ดีกว่ารถยี่ปุ่นอยู่นิดๆ
อย่างแคมรี่ใหม่กะซีรี่5 ที่ผมใช้อยู่ ผมว่าใกล้เคียงกันมาก ให้คะแนนคงต่างกันแค่1คะแนน
แต่ราคามันต่างกันตั้ง3เท่า มันเลยทำให้เราคิดว่ารถยุโรปดีกว่ามากๆ
ก่อนนี้ผมใช้มาสด้า3 กะซีรี่3 ผมยังชอบมาสด้า3 มากกว่าเลย ขับสนุกกว่ามาก
ก่อนผมไม่เคยใช้รถยุโรปก็คิดว่ารถยุโรปนี่มันคงสุดยอดมากๆ
พอมาใช้จิง มันก็ดีจิง แต่ดีระดับหนึ่งไม่ได้สุดยอดอะไรขนาดนั้น รถยี่ปุ่นหลายๆรุ่นยังรู้สึกประทับใจกว่าเลย
นานาจิตตังครับ แลกเปลี่ยน ปสก กัน
-
คหสต. ผมคิดว่าคุณภาพที่มองเห็นได้เช่นวัสดุ การประกอบตัวถัง ดีเทลต่างๆยังให้รถอย่าง VW เหนือกว่าเล็กน้อย แต่สิ่งที่มองไม่เห็นเช่นความทนทาน อันนี้ให้รถญี่ปุ่นครับ ส่วนแบรนด์ฝรั่งเศสยุคหลังๆนี่ไม่มีประสบการณ์ได้ลองโดยตรงครับ
-
คุณภาพอะไรครับ?
คุณภาพชีวิต เมื่อต้องนั่งรถในขับ200? อยากให้คุณหรือครอบครัวมีคุณภาพชีวิตแบบสบายๆหรือแขวนบนเส้นด้าย ในสถาวะเดียวกัน
คุณภาพหู เมื่อความเร่วเกิน120ก้อรำคาญแล้ว?
คุณภาพความสนุกในการขับขี่? น่าจะชัดอยู่
ส่วนราคานั้น. มันก้อมาจากต้นทุนtechnologyวัสดุและอีกมากมาย
ไม่เทียบละ. เอาเป็นว่า. สำหรับผมจะเลือกรถยุโรปครับ
ปัจจุบันd segment ราคาเกือบ2ล้าน. แน่ใจหรือว่าโอเคกันอยู่
-
ถ้าขับไม่เร็วมาก ไม่ค่อยแตกต่าง แต่ถ้า ช่วงความเร็วสูง ยังต่างกันแบบ รู้สึกได้
-
ถ้ารถญี่ปุ่นที่ผลิตในประเทศไทย สู้ยาก เพราะลด/ตัดออกเยอะ แต่ถ้า รถญี่ปุ่นที่นำเข้าจากญี่ปุ่นนี่หลายๆอย่างสู้ได้แระดีกว่าด้วย เช่น Harrier Lexus Crown
ผมไม่คิดงั้น นะครับ พาร์ท หลายๆ อย่าง ที่ผลิตในไทย ทนทาน และ ส่วนใหญ่ ผู้ผลิต ก็คือ Maker ต่างชาติ พวก ยุโรษ
อย่า OEM ไม่ได้ ผลิตรถทั้งคัน
แต่เป็น Supplier ต่างหากที่ผลิตชิ้นส่วน
ไทยเรา แค่ฐาน การผลิต ไม่ได้ทำ R&D
คุณภาพเริ่มมันมาจาก R&D
รถไทย ก็มีส่งออกไปขายต่างประเทศ จนรับรู้ถึงความทนทานก็เยอะครับ แค่ มันมีไม่กี่รุ่น ที่ผลิตส่งออก
อย่าดูถูก แบบ ส่งเดช กันเลยครับ
รถไทยที่ส่งออก กับที่ขายในไทยมันคนละเกรดกันค่ะ หลายคนก็รู้ รถขายคนไทยตัดระบบอะไรบ้าง เช่น ฮีทเตอร์ ถุงลมรอบคัน รถรุ่นเดียวกันแต่ส่งออกได้ครบ อ่านดีๆ ใช้สติเยอะๆ ค่ะ โตแล้ว
การที่พี่ยกตัวอย่างรถที่ขายในบ้านเราถูกตัดโน่นตัดนี่เช่น ตัดฮีตเตอร์ ตัดถุงลม อันนั้นเป็นเรื่องสเปกครับ
ไม่ใช่เรื่องของเกรด ไม่ใช่เรื่องคุณภาพ และที่สเปกมันต่างกันก็ขึ้นอยู่กับว่าตลาดไหนต้องการอะไร
ที่เห็นๆ อย่างบ้านเรา คนชอบ รถสวยๆ ช่วงล่างดี ๆ ของเล่นเยอะๆ ถึงจะมีถุงลม 2 ใบ
ก็ชอบกว่ารถหน้าตาเชยๆ แก่ๆ แต่ถุงลม 6 7ใบ เป็นต้นครับ
ส่วนเรื่องคุณภาพ เนื้อวัสดุ ความหนา ขั้นตอนการทำงาน จำนวนน๊อตที่ไข ค่าทอร์คที่ขัน
ความเข้มงวดในการตรวจสอบ ไม่ว่าจะขายในประเทศหรือส่งออกก็ไม่ต่างกันครับ
ผมคลุกคลีกับ คนงาน โรงงาน และ Process พวกนี้อยู่ครับ
เห็นด้วยครับคุณ Symphonic ครับ
เรื่องตัดนู้น นี่ นั้น เป็นเรื่องของสเปค
แต่คุณภาพการผลิตถือว่าพอกันครับ
ผมเคยเช่า March ที่ฮฮกไกโดไปกับบรรดาลูกเรือ เค้าอยากไปเที่ยวคลอง Otaru กัน
ถ้าพูด "คุณภาพ" ของรถ ไม่ใช่ "สเปค" ถือว่าพอๆกับของเมืองไทย
เพราะ March ส่งออกจากบ้านเราไปขายที่นั้น เรื่องคุณภาพการประกอบ ความแน่นหนาตัวรถ พอๆกันกับรถที่ขายในบ้านเรา
แม้แต่อัลเมร่าที่ประกอบบ้านเราเพื่อส่งขายที่นั้น ตัวรถ การประกอบ เหมือนกันทุกอย่างกับไทย
หรืออย่างโตโยต้าวีออส ก็ถูกส่งไปขายที่สิงคโปร์ ซึ่งนำเข้าโดยบอร์เนียวมอเตอร์
ซึ่งคุณภาพการประกอบเหมือนกับบ้านเราทุกอย่างครับ ต่างกันแค่สเปคตามแต่ละประเทศเท่านั้น
ฉะนั้นแล้วผมถึงกล้ายืนยันว่า รถบ้านเรามีคุณภาพการประกอบที่ดีเทียบเท่ารถญี่ปุ่นครับ
เพียงแต่ "อะไหล่" บางอย่างจะค่อนข้างต่างจากญี่ปุ่น ก็แค่นั้น
แต่นั้นเป็นเรื่องของ "อะไหล่" ครับ ไม่ใช่ "คุณภาพ" การประกอบรถแต่อย่างไร
-
ถ้าจะเทียบกันจริงๆ ต้องมีจุดอ้างอิงนะครับ กับคำถามนี้ นั่นคือราคาครับ
ถ้าราคาเท่าๆกัน ในรถแบบเดียวกัน ผมว่าญี่ปุ่นไม่แพ้ครับ สู้ได้สบาย
แต่ถ้าเปลีย่นคำถามเป็น -ในปัจจุบันระหว่างญี่ปุ่นกับยุโรปใครสามารถทำรถที่มีคุณภาพสูงได้ดีกว่ากัน? อันนี้อีกเรื่องนึง
-
ถ้าคุณภาพ หมายถึง งานประกอบ ความทนทาน .. รถญี่ปุ่นเหนือกว่ามานานครับ ทน ถึก ไม่จุกจิก ประกอบเนี๊ยบ ครับ
ถ้าคุณภาพ หมายถึง สมรรถนะ การทรงตัว .. ญีุ่่ปุ่นยังเป็นรอง แต่ไม่ห่างแบบสมัยก่อนครับ
-
ยุโรปดีกว่า แต่ดีกว่าไม่คุ้มกับราคาที่เพิ่มขึ้น
ตอนหนุ่มๆยังโสดผมขับรถยุโรป ตอนนั้นขับรถเร็วและไว้ให้สาวๆนั่ง
ตอนนี้อายุ50กว่าขับรถช้าลงมากจนเมืยบ่นไม่เคยขับเกิน120มาหลายปี สาวๆก็ไม่มานั่งอีกแล้ว
ใช้camry มันตอบโจทย์ทุกอย่างได้ ไม่รู้ว่าจะซื้อแพงกว่านี้ไปทำไม
พวกรถยุโรปจุกจิกบำรุงรักษายากกว่าcamryแน่
เอาเงินไปทำอย่างอื่นดีกว่า
-
จากที่เคยใช้มา ผมว่าญี่ปุน ดีกว่า
-
จากที่เคยใช้มา ผมว่ายุโรป ดีกว่า ครับ
-
ถ้าแค่ตอบโจทย์ใช้งาน ปีละ 3-4 หมื่น กม. ทาง ตจว.เส้นเดิมๆเป็นประจำ
D-seg ญี่ปุ่น ช่วงล่างดีๆ เพียงพอต่อการใช้งานแล้วครับ option ก็ครบปลอดภัยเพียงพอ
ถึงยุโรปจะดีกว่าจริง และ จัดหาได้ไม่ยาก ก็ไม่คิดจะข้ามไปเลยครับ มันตอบสนองเพียงพอแล้วจริงๆ ซื้อแค่ที่ใช้ครับ
ส่วนต่างผมเอาไปงอกหลายคัน ใช้ต่างกิจกรรมครับ
-
ไม่ทราบว่าผมรู้สึกไปเองรึเปล่า ผมว่าคนไทยมีความสามารถซื้อรถยุโรป ที่ราคาแพงๆ ได้มากกว่าที่เห็นบนท้องถนนนะครับ แต่ปัจจัยนึงที่เค้าไม่กล้าซื้อกัน ปันจัยสำคัญข้อนึงเลย คือเค้ากลัวความจุกจิก ซ่อมยาก อะไหล่แพง สุดท้ายถอดใจไปซื้อญี่ปุ่นรุ่นท๊อปดีกว่า ซื้อครั้งเดียวสบายใจหายห่วงไปยาวๆ ทั้งเรื่องค่าซ่อมบำรุงและราคาขายต่อ แบบนี้จะเรียกว่า เค้ามั่นใจในคุณภาพของรถญี่ปุ่นมากกว่ารึเปล่าครับ