Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: MoO Cnoe ที่ เมษายน 08, 2019, 14:51:09
-
ยอดจอง Mazda ในงาน Motor Show 2019 อยู่อันดับ 2 : 5,211 คัน
แบ่งตามรุ่น Mazda 2 จองเยอะสุด (เบนซิน 1.3 Skyactiv-G) ตามด้วย CX-5
อ่านข้อมูลทั้งหมดได้ที่นี่
http://www.headlightmag.com/mazda-booking-in-motor-show-2019/
(https://www.img.in.th/images/51147004ea3ab5ea07d03b01141d9ec9.jpg)
-
ยอดcx5 เยอะกว่าที่คิดไว้อีกแฮะ
เขารู้ไหมว่าซื้อไปจะต้องเจอกับอะไรบ้าง
-
CX-5ลดเป็นแสนๆ ยอดยัง500ต่อเดือน ทำตัวเองทั้งนั้น
-
ทำธุรกิจยานแม่ช่วงนี้น่าจะรุ่งนะไม่ต้องกลัวไม่มีลูกค้า 8)
-
ทำธุรกิจยานแม่ช่วงนี้น่าจะรุ่งนะไม่ต้องกลัวไม่มีลูกค้า 8)
555
-
โอ้ว บัดนี้น้องสองได้กลายเป็นรถโหล รถตลาดไปแล้วโดยปริยาย ทุกวันนี้เกลื่อนเมืองไปหมด เจอถี่กว่าตี้กับออสอีก จากบริบทเดียวกันเมื่อราวสิบปีก่อนออสอยู่ในสถานะนี้มาก่อน ปัจจุบันต่างกันราวฟ้ากับเหวเลย :-X
-
ถ้าไม่มีน้ำดัน ปั๊มติ๊กเสีย สงสัยยอดรวมจะไปไกลกว่านี้เยอะ
-
มันก็ยังงๆ สงสัยเซลมีของดี ใครเดินผ่านโดนป้ายยา
-
ถ้า BT / M3 / cx3 ออกรุ่นใหม่มา ยอดคงกระหึ่มเข้าไปอีก 8)
-
เห็นมีคนเล่าให้ฟังว่าขับมาสด้า3 แล้วโดนทักว่าเป็นมาสด้า2
สงสัยแบบนี้ละมั้งยอด3เลยน้อย
-
cx5 ไม่ต้องแก้ปัญหาก็ยังขายดี เหตุนี้ละมั้งที่มาสด้าทำเป็นเฉย
-
โห
ตอนซื้อ mazda 2 ก็กะว่าจะไม่โหล
ตอนนี้โหลเชียว555
ขนาดหัก BT50 ออกก็ยังเหนือ Honda น่ะเนี่ย
ไม่รู้นี้ Honda นับรวมยอดจองAccord หรือยัง?
-
ถ้าสนใจลูกค้าคนไทยอย่างจริงจังก็จะขายดีแน่นอน แต่นี่บริหารแบบญี่ปุ่นหัวดื้อหัวโบราณ ไม่ยอมปรับปรุงปัญหาอะไร ทำตัวเป็นรถพยาบาลกับค่ายสีน้ำเงิน. ทำแบบนี้อาจจะตามรุ่นพี่ทั้งสองได้ครับ
-
อยากให้มาซด้า รีบปรับปรุงจุดอ่อนโดยด่วน
ตัวสินค้ามาถูกทางแล้ว ดีไซน์ถูกใจลูกค้า เครื่องยนต์ช่วงล่างดี
-
คนจะซื้อรถ ไม่มัวมามองข้อเสียของรถหรอกครับ รถสวย ขับดี ก็ขายได้แล้ว ... มาสด้าแสดงให้เห็น
-
ยอดขนาดนี้ ทำเอากองแช่ง อยู่ไม่เป็นสุขกันเลยทีเดียว 555555
-
CX-5 ก็ยังเป็นรถที่ดีอยู่นะครับ ปัญหาบางคนก้ไม่กลัว คิดว่าเข้าศูนย์ตามปกติก็พอ
-
ใช้ไปเถอะครับ มีปัญหาค่อยมาตั้งทู้ปรึกษากันดีไม่เหงา
-
ผมอยู่ใน Help club บอกตามตรง เห็นด้านมืดของค่ายนี้แล้ว ยังไงก็คงไม่ซื้อยี่ห้อนี้
- ฟ้องร้องลูกค้าเคสน้ำดัน ของ Cx5 ทั้งๆที่สินค้าตัวเองบกพร่อง สุดท้ายตัวเองก็พ่ายแพ้ ต้องออกมาขยายวารันตีเครื่องยนต์เพิ่มให้
- แต่ขยายเวลารับประกันไปอีกแค่ 180,000 โล ถ้าหลังจากนั้นลูกค้าเกิดน้ำดัน ก็ต้องจ่ายค่าเครื่องเองอีก 2-3 แสนบาท ที่สำคัญ มีลูกค้าเจอเคสน้ำดันรอบที่ 2-3 กันหลายคัน
- Cx5 ดีเซล gen.1 ปัญหาน้ำดันมาจากระบบรีเจ็นของ Dpf ที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้ดีเซลไหลลงอ่างไปผสมกับน้ำมันเครื่อง ในขณะที่ Cx5 gen.2 ค่ายรถบอกว่าแก้แล้ว แต่ระบบรีเจ็นยังคงเป็นระบบเดิม ดีเซลไหลลงอ่างจนระดับน้ำมันเครื่องเพิ่มเหมือนเดิม แบบนี้ลูกค้าก็ต้องเสี่ยงกับปัญหาน้ำดันอีกแน่นอน แถมการรับประกันคุณภาพของ gen.2 ก็แค่ 100,000 โล ไม่ได้ถูกขยายออกไปเหมือนกับ gen.1
- เคส Mazda2 ดีเซล รถมีปัญหาจุกจิกมาก เครื่องสั่น เร่งไม่ขึ้น ดับกลางอากาศ จนลูกค้าต้องรวมตัวกันฟ้องร้องต่อศาล เพราะค่ายรถนิ่งเฉยที่จะแก้ปัญหา
- เคสปั๊มติ๊ก ดับกลางอากาศ บางคันป้ายแดงวิ่งไม่ถึง 400 โลก็เจอปัญหา บางคันผู้หญิงขับแล้วดับกลางอากาศขณะรถวิ่ง เสี่ยงอันตรายต่อชีวิตมากๆ กว่าค่ายรถจะมีมาตรการแก้ไขปัญหา ก็กินเวลานานมากๆ
นี่ปัญหาก็ยังไม่จบง่ายๆ คนที่ได้เคลมปั๊มแล้ว เจอปัญหารอบตก เครื่องสั่นอีก
- นโยบายของเหลวไม่ต้องเปลี่ยนถ่าย Long life time หลังหมดประกันคุณภาพ 3 ปี เริ่มมีรถลูกค้าเกียร์พังกันเยอะขึ้นเรื่อยๆ เพราะตอนเข้าศูนย์ ศูนย์ไม่ได้แจ้งว่าต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ ลูกค้าต้องรับผิดชอบค่ายใช้จ่ายเองเต็มๆ ถามว่าจะมีลูกค้าสักกี่คนที่รู้เรื่องรถ ส่วนใหญ่เขาก็เชื่อมั่นในศูนย์ยริการในการบำรุงรักษากันทั้งนั้น
- ค่าอะไหล่ที่แพงเกิน มอเตอร์พัดลมหน้าเครื่อง Cx5 ชุดละ 17,000 บาท แต่พอลูกค้าออกมาร้องเรียน กลับลดราคาให้พิเศษเฉพาะลูกค้าคนนั้นๆเหลือแค่ 1,700 บาท มาตรฐานอยู่ตรงไหน ใครไม่รู่ก็โดนฟันค่าอะไหล่หัวแบะ ยังไม่นับรวมค่าแรงที่แพงเวอร์วังอลังการ สวนทางกับฝีมือของช่าง
เห็นปัญหาที่กลุ่มผู้ใช้เขาเจอแล้ว ตัวรถสวย อ๋อพชั่นดีแค่ไหน ผมซื้อไม่ลงจริงๆ ซื้อมาแล้วเจอปัญหาผมคงรับเรื่องพวกนี้ไม่ไหว
-
ตอนนี้หา suv สักคันที่บ้านทุกคนกายี่ห้อนี้ออกก่อนเลย
-
Mazda นี่มันประหลาดครับ
ปรกติ รถยี่ห้อไหนขายดี จะมีอะไหล่ สินค้าที่ใช้กับรถ แบบ OEM, Aftermarket มาขายถูกๆ
แต่พอเป็น Mazda ปุ๊ป ขายได้เท่าไหร่ก็แล้วแต่ อะไหล่แพงคงที่
ปั๊มน้ำ สายพาน ลูกรอก ไดชาร์จ มอเตอร์สตาร์ท ปั๊มติ๊ก ฯลฯ
และที่สำคัญขายแพงคนใช้ก็ไม่ค่อยบ่นนะเออ ถ้าเป็น VIOS ปั๊มน่้ำเกิน 1000 บาทนี่โดนด่าไปแล้ว
-
ผมอยู่ใน Help club บอกตามตรง เห็นด้านมืดของค่ายนี้แล้ว ยังไงก็คงไม่ซื้อยี่ห้อนี้
- ฟ้องร้องลูกค้าเคสน้ำดัน ของ Cx5 ทั้งๆที่สินค้าตัวเองบกพร่อง สุดท้ายตัวเองก็พ่ายแพ้ ต้องออกมาขยายวารันตีเครื่องยนต์เพิ่มให้
- แต่ขยายเวลารับประกันไปอีกแค่ 180,000 โล ถ้าหลังจากนั้นลูกค้าเกิดน้ำดัน ก็ต้องจ่ายค่าเครื่องเองอีก 2-3 แสนบาท ที่สำคัญ มีลูกค้าเจอเคสน้ำดันรอบที่ 2-3 กันหลายคัน
- Cx5 ดีเซล gen.1 ปัญหาน้ำดันมาจากระบบรีเจ็นของ Dpf ที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้ดีเซลไหลลงอ่างไปผสมกับน้ำมันเครื่อง ในขณะที่ Cx5 gen.2 ค่ายรถบอกว่าแก้แล้ว แต่ระบบรีเจ็นยังคงเป็นระบบเดิม ดีเซลไหลลงอ่างจนระดับน้ำมันเครื่องเพิ่มเหมือนเดิม แบบนี้ลูกค้าก็ต้องเสี่ยงกับปัญหาน้ำดันอีกแน่นอน แถมการรับประกันคุณภาพของ gen.2 ก็แค่ 100,000 โล ไม่ได้ถูกขยายออกไปเหมือนกับ gen.1
- เคส Mazda2 ดีเซล รถมีปัญหาจุกจิกมาก เครื่องสั่น เร่งไม่ขึ้น ดับกลางอากาศ จนลูกค้าต้องรวมตัวกันฟ้องร้องต่อศาล เพราะค่ายรถนิ่งเฉยที่จะแก้ปัญหา
- เคสปั๊มติ๊ก ดับกลางอากาศ บางคันป้ายแดงวิ่งไม่ถึง 400 โลก็เจอปัญหา บางคันผู้หญิงขับแล้วดับกลางอากาศขณะรถวิ่ง เสี่ยงอันตรายต่อชีวิตมากๆ กว่าค่ายรถจะมีมาตรการแก้ไขปัญหา ก็กินเวลานานมากๆ
นี่ปัญหาก็ยังไม่จบง่ายๆ คนที่ได้เคลมปั๊มแล้ว เจอปัญหารอบตก เครื่องสั่นอีก
- นโยบายของเหลวไม่ต้องเปลี่ยนถ่าย Long life time หลังหมดประกันคุณภาพ 3 ปี เริ่มมีรถลูกค้าเกียร์พังกันเยอะขึ้นเรื่อยๆ เพราะตอนเข้าศูนย์ ศูนย์ไม่ได้แจ้งว่าต้องเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ ลูกค้าต้องรับผิดชอบค่ายใช้จ่ายเองเต็มๆ ถามว่าจะมีลูกค้าสักกี่คนที่รู้เรื่องรถ ส่วนใหญ่เขาก็เชื่อมั่นในศูนย์ยริการในการบำรุงรักษากันทั้งนั้น
- ค่าอะไหล่ที่แพงเกิน มอเตอร์พัดลมหน้าเครื่อง Cx5 ชุดละ 17,000 บาท แต่พอลูกค้าออกมาร้องเรียน กลับลดราคาให้พิเศษเฉพาะลูกค้าคนนั้นๆเหลือแค่ 1,700 บาท มาตรฐานอยู่ตรงไหน ใครไม่รู่ก็โดนฟันค่าอะไหล่หัวแบะ ยังไม่นับรวมค่าแรงที่แพงเวอร์วังอลังการ สวนทางกับฝีมือของช่าง
เห็นปัญหาที่กลุ่มผู้ใช้เขาเจอแล้ว ตัวรถสวย อ๋อพชั่นดีแค่ไหน ผมซื้อไม่ลงจริงๆ ซื้อมาแล้วเจอปัญหาผมคงรับเรื่องพวกนี้ไม่ไหว
:'(
-
ขายดีแบบนี้ คงมองข้ามเรื่องแก้ปัญหาไปเลยมั้ง ถ้าเป็นแบบนั้นจะไม่ยั้งยืนนะ product ทำมาดีแล้ว ถ้าดูแลลูกค้าดีๆคันที่ 2 ที่ 3 จะตามมาอีก
ไม่อยากให้ตามค่ายอเมริกันไป อยากให้ mazda กลายเป็นรถเจ้าตลาดบ้าง toyota กับ honda จะได้เลิกกั๊ก
-
คนซื้อส่วนมากเพราะรถมันดี แต่ไม่รู้ถึงปัญหาที่อาจตามมา
-
คนซื้อส่วนมากเพราะรถมันดี แต่ไม่รู้ถึงปัญหาที่อาจตามมา
ภายนอกสวย ภายในดี ก็ซื้อแล้วครับ บางคนไม่รู้อะไรเลยก่อนซื้อด้วยซ้ำ