Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: blade ที่ พฤษภาคม 01, 2019, 15:32:15
-
Camry 2.0G AVC50 ถึงเวลาเปลี่ยน ทางบ้านเน้นยางนุ่มเงียบ(C1S ยางเดิม)
พอดีมีร้านยางเปิดใหม่ แบรน์ด เยอรมัน
เลย....อยากลอง!!!!! เข้าไปศึกษาดูก็เลยเลือกรุ่น CC6 เพราะเป็นรุ่น นุ่มเงียบ พอถึงร้าน ทางร้านแนะนำ
เป็นรุ่น UC6 เพราะ UC6 เน้นสมรรถนะด้วย ยิ่งเห็นลายยาง CC6 ของจริงแล้ว :-X :-X :-X
เลยจะลองวัดสมรรถนะของยางใหม่กับเก่า ก็มีแต่เรื่องเสียงที่วัดง่าย มีเลขบอก(ใช้แอฟในมือถือ)
ลองรถกลับ ก็เห็นรถที่ว่างอีก4คัน เลย..ก็ไหนๆละเลยได้แว้นอีก4รอบ
https://www.picz.in.th/image/1234.w9h5dz
โดยขับที่ความเร็ว 100 Km/h ปิดแอร์ เติมลมตามสเปคที่รถกำหนด ถนนเดียวกันช่วงถนนเดียวกัน ช่วงเวลาเดียวกัน
สรุป..
Camry(ยางเดิม) เงียบสุด 68.6 dB รองลงมาก็ Civic 70.3 db Mirage 71.6 dB Avanza 72.1 dB Vios 73.3 dB
Civic เก็บเสียงด้านหน้าดี ด้านหลังแย่ ขับสัก 100 แล้วเหมือนรถไม่ปิดกระจกข้างด้านหลัง
เหมือนรถทุกๆคันเสียงจะเข้ามาแบบ หน้า 50% หลัง 50% แต่ Civic มา หน้า 30% หลัง 70%
เลยทำให้ขับรถช้าๆ ก็คุยกันในรถไม่รู้เรื่อง...แบบข้างหน้าคุยกันข้างหลังโดนเสียงกลบ หลังคุยหน้าก็ฟังไม่รู้เรื่อง
การขับขี่ นุ่มแต่ดีดๆ รู้สึกว่าเริ่มขับเร็วประมาน 130 พวงมาลัยกำลังดี คล้ายๆ Camry อัตราเร่งดีสุดในกลุ่มออกตัวอึดๆนิดๆ ลอยตัวแล้วดี
Vios เสียงเข้า กระหึ่มรอบทิศทาง แบบลำโพง 7.1 การขับขี่แน่นเกาะแบบรถเล็กๆ แต่เก็บแรงกระแทกมากทุกสุด
รู้สึกว่าเริ่มขับเร็วประมาน 110 พวงมาลัยหนักโดยเฉพาะรถนิ่งหรือขับช้าๆ แต่ขับเร็วแล้วกำลังดี
อัตราเร่ง อืดสุดในกลุ่ม(คงเป็นขอบ17ด้วย)
Camry เก็บเสียงช่วงล่างดี แต่เก็บเสียงลมไม่ดีเท่าที่ควร ขับเกิน110 เริ่มได้ยินลม การขับขี่ แน่น นุ่ม นิ่งดี
รู้สึกว่าเริ่มขับเร็วประมาน 140 พวงมาลัยกำลังดี เบาไปนิดเมื่อขับเร็ว อัตราเร่ง อืดแบบเรื่อยๆ ถ้านั่งเต็มอึดขึ้นแบบชัดเจน
Avanza เสียงรอบทิศทาง มีเสียงเพลา เสียงเครื่องแบบเร่งตลอดเวลา ขับ 100 รอบเครื่อง 3600
การขับขี่ช่วงล่างแย่สุดในกลุ่ม(แย่สุดในรถที่เคยนั่ง) ดีด ดิ้น โครงเคร่ง มากเต็ม
รู้สึกว่าเริ่มขับเร็วประมาน 90 อัตราเร่งออกตัวอืด แต่เร่งแซงดี คงเพราะเกียร์ธรรมดา ขับเกียร์สูงรอบเครื่องก็แทบอยู่ที่แรงบิดสูงตลอดเวลา
Mirage เก็บเสียงแย่โดยเฉพาะเสียงถนนช่วงล่าง การขับขี่ ช่วงนุ่ม ซับแรงกระแทกดีที่ความเร็วต่ำ แต่ขับเร็วแล้วออกการส่าย โครง ชัดเจน
รู้สึกว่าเริ่มขับเร็วประมาน 100 ออกตัวอืดในแบบ Eco ช่วงเร่งแซงพอได้
https://www.picz.in.th/image/3456.w9hP4P
แล้ว 1 dB เงียบขึ้นแค่ไหน ก็ลองวัดดู
ถ้าจะลดเสียง 1 dB ก็ลดความ ประมาน 7-10 km/h(ลอง 3 คัน)
ในภาพวัดจาก Civic ขับ 90 km/h 69.4 dB ขับ 80 km/h 68.2 dB
ถ้าอยากรู้ว่า 1 db ดังแค่ไหน ลองขับรถสัก 100 แล้วลดเหลือ 90 ประมานนี้
https://www.picz.in.th/image/2345.w9hEK8
ความดังเมื่อเปลี่ยนยางไหม่ เหลือ 65.1 dB เงียบลง 3.5 dB
ความรู้สึก ยางใหม่(UC6) กับ เก่า(C1S)
ความเงียบ คงพอๆกัน ถ้าใหม่ทั้งคู่
ความนุ่ม C1S นุ่มกว่า ยางเก่าก็ยังรู้สึกนุ่มกว่า
สมรรถนะ U6 ดีกว่า C1S รู้สึกโครงๆเวลาขับเร็วกับเข้าโค้ง ยิ่งถ้าถนนเปียก เจอแอ่ง C1S ออกอาการส่ายชัดเจน
สรุป....ก็พอใจกับภาพรวมๆยางใหม่ ราคาพอได้ UC6 ถูกกว่า C1S 4 เส้นต่างกันประมาน 5000 บาท
-
ขอบคุณครับ
ขอสอบถามหน่อยครับว่าใช้เครื่องวัดของอะไร อยากเอามาลองเล่นกับรถที่บ้านบ้าง ขอบคุณครับ
-
ขอบคุณครับ
ขอสอบถามหน่อยครับว่าใช้เครื่องวัดของอะไร อยากเอามาลองเล่นกับรถที่บ้านบ้าง ขอบคุณครับ
Sound meter โหลดใน play store ครับ
-
ขอบคุณสำหรับข้อมุลครับ แต่ความน่าเชือถือผมหักคะแนนออกไป 50% เพราะ ยางคนละรุ่น คนละยี่ห้อ และ คนละปี ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญทั้งหมดที่มีผลต่อสมรรถนะ และเสียงรบกวน
ปล. อ่านตอนแรก นึกว่าร้านยางใจปล้ำให้ลองยางแต่ละตัวในรถคันเดัยว
-
ขอบคุณสำหรับข้อมุลครับ แต่ความน่าเชือถือผมหักคะแนนออกไป 50% เพราะ ยางคนละรุ่น คนละยี่ห้อ และ คนละปี ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญทั้งหมดที่มีผลต่อสมรรถนะ และเสียงรบกวน
ปล. อ่านตอนแรก นึกว่าร้านยางใจปล้ำให้ลองยางแต่ละตัวในรถคันเดัยว
ตอนแรก ก็กะว่าจะวัดความดังแค่ยางเก่า กับ ใหม่เลยเขียนละเอียดๆหน่อน ว่ารถปีไหน ยางปีไหน เผื่อคนเทียบรถปีไกล้กันๆ หรือคนมองรถมือ 2 ครับ ว่ารถประมานไหน ;D ;D ;D
-
ไปลองเล่นดูดีกว่า
Thx u for sharing krab.
-
ขอส่งซิตี้ 2012 (GM2) ของผมเข้าประกวดด้วยครับ (อิอิ)
ตอนนู้นวันแรกที่เปลี่ยนยางใหม่เป็น Nitto NT860 ในขณะที่ขับช้า ๆ เสียงเครื่องยนต์ดังลอดเข้ามาในห้องโดยสารครับ ::)
เสียง "แกรก ๆ" ซิกเนเจอร์เขาเลยหละ
แต่ก็ดีกว่าตอนใช้ยาง TZ700 เยอะครับ เซอร์ราวด์ 7.1 ไม่แพ้วีออสแน่นแน
-
อัตราเร่งสมัยนี้ใช้ feeling วัดไม่ได้แล้วนะครับ
CVT นุ่มนวลแต่ 0-100 โดดเด่นมีหลายคันครับ
มันถึงต้องมี Fun to drive แยกออกมา เพราะบางทีเราต้องการความกระชากกระชั้น ไม่ใช่อัตราเร่งจริงๆ