Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: หมื่นเรืองราชภักดี ที่ พฤษภาคม 09, 2019, 23:58:16
-
อยากสอบถามว่าน้ำมันดีเซลพรีเมี่ยมมันคุ้มค่ากับส่วนต่างประมาณ 3 บาท/ลิตร ที่เพิ่มขึ้นมาเมื่อเทียบกับดีเซลธรรมดามากน้อยแค่ไหนครับ แล้วดีเซลพรีเมี่ยมของ ปตท. ที่ได้รับ Euro 5 เมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นแค่ Euro 4 ต่างกันมากมั้ยครับ เพราะตอนนี้ทาง ปตท.เค้าโปรโมทตัวดีเซลพรีเมี่ยมมากๆ มีคูณแต้ม Blue card ให้ด้วยครับ
-
ผมเติม v power ของ shell ถ้าถามว่าคุ้มค่ากว่าดีเซลปกติมั้ย ตอบไม่ได้ครับ เพราะเพิ่งจะใช้รถดีเซลคันแรกในชีวิตก็คือเจ้า X1 ซึ่งตั้งแต่ออกจากศูนย์มาจนจะ 2 ปีแล้ว ก็เติมแต่ตัวนี้ตลอด ไม่เคยเติมดีเซลธรรมดาทั้งของ shell และปั๊มอื่น รวมถึงพรีเมี่ยมดีเซลของปั๊มอื่นด้วย เลยไม่รู้จะเทียบยังไงครับ ปัญหากวนใจก็ไม่มีอะไร นอกจากส่วนต่างราคา แต่ส่วนตัวผมคิดว่า อย่างน้อยการเติมพวกสารเสริมประสิทธิภาพลงไป มันก็ต้องมีอะไรดีกว่าดีเซลธรรมดาบ้างแหละ แต่จะดีกว่าจนคุ้มค่าส่วนต่างลิตรละ 3 บาทหรือเปล่านี่ก็ไม่ทราบเหมือนกัน
ถ้ารับได้กับส่วนต่างถังละ 100-200 บาท ก็ถือเป็นการซื้อความสบายใจละกันครับ ;D
-
ถ้าเป็นรถกระบะ ไม่จำเป็น เติมใช้ เผาไหม้ หมดไป
เพราะยังไงก็ผสมไบโอ7% อยู่ดี
ตอนนี้สายกระบะ เฮไปหา บี20 กันละ
แต่ถ้าเป็นรถยุโรปราคาสูงๆ ก็น่าสน
-
สำหรับผมไม่คุ้ม ราคาที่เพื่มมาต่อถัง สามารถซื้อนำมันธรรมดาแล้ววิ่งได้เพิ่มเกือบ 100 km.
-
ถ้ารถเติมดีเซลธรรมดาได้ "ดีเซล premium" ก็ไม่จำเป็น
จะเติม premium ไปเพื่อ....
- แรง
- รักรถ
- อื่นๆ
ส่วนต่าง 3บาท/ลิตร คิดเบาๆ ใช้ไปแสนลิตร ส่วนต่าง 300,000 บาท!!!
-
บางปั้มมันแพงกว่า4-5บาทเลย ::)
-
ไม่คุ้มครับ ยกเว้นว่ารถคุณจะเป็น Euro5 แล้วไม่อยากเติมน้ำมัน Euro4 เพราะกลัวปัญหาภายหลัง อันนั้นสนับสนุนให้เติมพรีเมี่ยม Euro5 ไปเลย
ผมเติมของพรีเมี่ยม ของทั้ง ปตท. และ บางจาก ถ้าเทียบกับธรรมดาแล้ว บอกเลยว่าผมไม่เห้นความต่างจากการใช้งานในชีวิตประจำวันเลยจริงๆ เช้าขับไปทำงาน เย็นขับกลับบ้าน ติดรถ หยุดๆ วิ่งๆ กระดึ๊บๆ
ที่ต่างอาจจะเรื่องมลพิษ ซึ่งผมก็ไม่ได้มีเครื่องมือวัดตลอดเวลา หรือ ไม่ได้ดมท่อไอเสีย จริงบอกชัดเจนไม่ได้
-
ผมว่าไม่คุ้มครับ
ถ้าเป็นรถกะบะ สายดีเซล ใช้เป็น ดีเซลธรรมดาก็ได้ครับ
แต่ถ้ารถกะบะ บ้างยี่ห้อ เป็นเครื่อง euro 5 ก็ใช้พรีเมียมก็ได้ครับ
กันเกิดความเสียหายในภายหลังครับ
แต่ถ้ารถยุโรป ที่เป็นเครื่องดีเซล ใช้เป็นดีเซล พรีเมียมได้ครับ
ผมก็รู้เท่าที่รู้น่ะครับ แต่ส่วนตัวผมใช้รถ กะบะ ที่เป็นเครื่อง euro 4 อยู่ก็ใช้ น้ำมัน ดีเซลธรรมดา ของปตท อยู่ครับ
-
ผมเติม euro 5 มาตลอด ไม่ใช่เพราะว่าเรื่องความแรง แต่ด้วยเหตุผลที่ลดมลพิษ
euro 5 มลพิษน้อยกว่า euro4 เยอะมาก ตัวเลขตามนี้
[ตัวเลขนี้ จะอ้างอิงตามมาตรฐาน Euro สำหรับรถยนต์ประเภท Light Commercial Vehicle ซึ่งมีคุณสมบัติคล้ายรถกระบะที่ประเทศไทยใช้, เป็นตัวเลขมาตรฐานสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล]
ค่าไนโตรเจนออกไซด์ - ลดลงจากเดิม ไม่เกิน 0.33 กรัม/กิโลเมตร เป็น 0.235 กรัม/กิโลเมตร (ลดลง 28.7%)
ค่ารวมของไฮโดรคาร์บอนกับไนโตรเจนออกไซด์ - ลดลงจากเดิม ไม่เกิน 0.39 เป็น 0.295 กรัม/กิโลเมตร (ลดลง 24.3%)
มลพิษอนุภาค (PM) - ลดลงจากเดิม ไม่เกิน 0.04 กรัม/กิโลเมตร กลายเป็น ไม่เกิน 0.005 กรัม/กิโลเมตร (ลดลง 87.5%)
ข้อมูลจากface book คุณแพนครับ
ส่วนน้ำมัน premium มันมีส่วนผสมที่ทำให้แรงขึ้นจริง แต่เคยดูทดสอบ แรงม้า ต่างกัน 1.7 % ครับ
-
ผมเติม v power ของ shell ถ้าถามว่าคุ้มค่ากว่าดีเซลปกติมั้ย ตอบไม่ได้ครับ เพราะเพิ่งจะใช้รถดีเซลคันแรกในชีวิตก็คือเจ้า X1 ซึ่งตั้งแต่ออกจากศูนย์มาจนจะ 2 ปีแล้ว ก็เติมแต่ตัวนี้ตลอด ไม่เคยเติมดีเซลธรรมดาทั้งของ shell และปั๊มอื่น รวมถึงพรีเมี่ยมดีเซลของปั๊มอื่นด้วย เลยไม่รู้จะเทียบยังไงครับ ปัญหากวนใจก็ไม่มีอะไร นอกจากส่วนต่างราคา แต่ส่วนตัวผมคิดว่า อย่างน้อยการเติมพวกสารเสริมประสิทธิภาพลงไป มันก็ต้องมีอะไรดีกว่าดีเซลธรรมดาบ้างแหละ แต่จะดีกว่าจนคุ้มค่าส่วนต่างลิตรละ 3 บาทหรือเปล่านี่ก็ไม่ทราบเหมือนกัน
ถ้ารับได้กับส่วนต่างถังละ 100-200 บาท ก็ถือเป็นการซื้อความสบายใจละกันครับ ;D
พี่ตอบได้ดีมากๆ สุดท้ายเราๆก็ซื้อความสบายใจเนอะ ขอบคุณนะครับ
-
ผมเติม euro 5 มาตลอด ไม่ใช่เพราะว่าเรื่องความแรง แต่ด้วยเหตุผลที่ลดมลพิษ
euro 5 มลพิษน้อยกว่า euro4 เยอะมาก ตัวเลขตามนี้
[ตัวเลขนี้ จะอ้างอิงตามมาตรฐาน Euro สำหรับรถยนต์ประเภท Light Commercial Vehicle ซึ่งมีคุณสมบัติคล้ายรถกระบะที่ประเทศไทยใช้, เป็นตัวเลขมาตรฐานสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล]
ค่าไนโตรเจนออกไซด์ - ลดลงจากเดิม ไม่เกิน 0.33 กรัม/กิโลเมตร เป็น 0.235 กรัม/กิโลเมตร (ลดลง 28.7%)
ค่ารวมของไฮโดรคาร์บอนกับไนโตรเจนออกไซด์ - ลดลงจากเดิม ไม่เกิน 0.39 เป็น 0.295 กรัม/กิโลเมตร (ลดลง 24.3%)
มลพิษอนุภาค (PM) - ลดลงจากเดิม ไม่เกิน 0.04 กรัม/กิโลเมตร กลายเป็น ไม่เกิน 0.005 กรัม/กิโลเมตร (ลดลง 87.5%)
ข้อมูลจากface book คุณแพนครับ
ส่วนน้ำมัน premium มันมีส่วนผสมที่ทำให้แรงขึ้นจริง แต่เคยดูทดสอบ แรงม้า ต่างกัน 1.7 % ครับ
ขอบคุณความรู้ดีๆ มากๆครับ
-
เครื่องยนต์ดีเซล Euro 5/6 แนะนำพรีเมี่ยม (Euro 5 ก็ดี)
ถ้าเครื่องยนต์ดีเซลธรรมดา เติมตัวปกติ Euro 4 ก็ได้อยู่
-
ปกติผมเติมเดือน 2 ถัง (80 ลิตร x 2 = 160 ลิตร) ไม่นับรวมออกทริปเที่ยว ถ้าคำนวนจากส่วนต่างของราคาคร่าวๆตอนนี้
พรีเมียม...............32 บาท = 5,120 บาท : ปีละ 61,440 บาท
ธรรมดา(B5/B7?)...28 บาท = 4,480 บาท : ปีละ 53,760 บาท
B20...................23 บาท = 3,680 บาท : ปีละ 44,160 บาท
ปกติผมเติม V สลับตัวธรรมดาที่ปั๊มเชลล์มา 90,000 กว่าโล ไม่เห็นความแตกต่างแบบรู้สึกได้ครับ ถามว่าคุ้มกับส่วนต่างมั้ย?ผมว่าไม่คุ้ม จน 1-2 เดือนมานี้ที่โตโยต้าประกาศรับรอง B20 กับเครื่องของ Revo เลยลองเติมดู พบว่ารอบต้นอืดๆขึ้นนิดนึง แต่พอลอยตัวแล้วกำลังเครื่องก็ยังเหมือนเติมครับ การกินน้ำมันก็ปกติ กะจะลองใช้ B20 ดูซักปี แล้วจะถอดหัวฉีดออกมาดู ว่าโตโยต้ามันโม้รึเปล่า
-
ปกติผมเติมเดือน 2 ถัง (80 ลิตร x 2 = 160 ลิตร) ไม่นับรวมออกทริปเที่ยว ถ้าคำนวนจากส่วนต่างของราคาคร่าวๆตอนนี้
พรีเมียม...............32 บาท = 5,120 บาท : ปีละ 61,440 บาท
ธรรมดา(B5/B7?)...28 บาท = 4,480 บาท : ปีละ 53,760 บาท
B20...................23 บาท = 3,680 บาท : ปีละ 44,160 บาท
ปกติผมเติม V สลับตัวธรรมดาที่ปั๊มเชลล์มา 90,000 กว่าโล ไม่เห็นความแตกต่างแบบรู้สึกได้ครับ ถามว่าคุ้มกับส่วนต่างมั้ย?ผมว่าไม่คุ้ม จน 1-2 เดือนมานี้ที่โตโยต้าประกาศรับรอง B20 กับเครื่องของ Revo เลยลองเติมดู พบว่ารอบต้นอืดๆขึ้นนิดนึง แต่พอลอยตัวแล้วกำลังเครื่องก็ยังเหมือนเติมครับ การกินน้ำมันก็ปกติ กะจะลองใช้ B20 ดูซักปี แล้วจะถอดหัวฉีดออกมาดู ว่าโตโยต้ามันโม้รึเปล่า
ขอบคุณมากเลยครับ พอดีผมเพิ่งออก KIA Grand Carnival 2019 มา เครื่องยนต์รองรับ Euro4 ผมเลยอาจจะเติมแค่ ดีเซลธรรมดาต่อไป ขอบคุณมากๆนะครับ
-
ในแง่พลังงาน ไม่คุ้มแน่ๆ
ถ้าเพิ่มเงิน 10% ไม่ได้พลังงานเพิ่มมาด้วย 10%
บริษัทน้ำมันรับรองแค่ 1:70 คือ ถ้าเติมพรีเมียม เทียบธรรมดา จะประหยัดขึ้น 1 ลิตรใน 70 ลิตร
แต่พลังใจ ได้แน่ ๆ
เรื่องไอเสีย ไม่เคยเทสครับ
-
จากที่เคยเติมดีเซลพรีเมี่ยมมาของ เชลล์ ปตท บางจาก ตั้งแต่ตอนแต่ละแบรนด์เปิดตัวใหม่ๆ
- เชลล์ วีเพาเวอร์ เติมแล้วไม่รู้สึกถึงความแตกต่างจากดีเซลธรรมดา
- ปตท พรีเมี่ยมดีเซล เติมแล้ว ไม่รู้สึกถึงความแตกต่างจากดีเซลธรรมดา
- บางจาก พรีเมี่ยมดีเซล เติมตอนเปิดตัวทำตลาดใหม่ๆ เห็นความแตกต่างแบบรู้สึกได้ แต่พอนานวันเข้า เติมไปแล้วไม่เห็นความต่างจากดีเซลธรรมดา
สรุปผมเติมดีเซลธรรมดานี่แหละครับ เพราะพวกพรีเมี่ยมทั้งหลาย เติมแล้วงั้นๆ แพงเฉยๆ
-
ถ้ารถเป็นeuro5ผมว่าดี แต่ถ้าeuro4ก็เติมธรรมดา
Euro5เอาไปเติมเครื่องeuro4มองแทบไม่เห็น แต่ถ้าเติมในเครื่องeuro5ผมว่าต่าง เดินเรียบขึ้นชัดเจน
แต่ก่อนใช้vpower ตอนนี้เลิก หันมาใช้Ptt euro5แทน
-
คุ้มไม่คุ้มต้องดู ความต้องการคุณภาพน้ำมันของเครื่องยนต์และเจ้าขิงรถเป็นหลักครับ สำหรับผมรถขนสินค้ากระบะ ใช้ B20 ครับถูกดี ก็บริษัทเขารับริงว่าใช้ได้ ไม่มีปัญหา ก็ใช้ เพราะต้องดารลดต้นทุน แต่ถ้าไม่เกี่ยวกับต้นทุน เงินเหลือๆ และต้องการดูแลรถยนต์สูงสุดประสิทธิภาพสูงสุด ผมว่าคุ้มครับ น้ำมันคาดว่าน่าจะทำในแบบที่มีคุณถาพมากกว่า คนขับก็น่าจะมีความสุขแค่นี้ก็เกินคุ้มครับ
-
ดีเซลพรีเมี่ยมราคาสูงกว่า ซึ่งเกินความจำเป็นที่ต้องใช้จริง
-
ไม่คุ้มครับ แต่คันบีเอ็มดีเซลก็เติมแต่ดีเซลพรีเมียมเฉพาะที่เป็น euro 5 ปตท บางจาก ตลอด
ส่วนกระบะวีโก้ไม่เคยเติมพรีเมียมเลยครับ ถ้าน้ำมันธรรมดาเป็น euro 5 ก็คงเติมแบบธรรมดา