Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Red Bicycle ที่ มิถุนายน 04, 2019, 15:35:45
-
:) :) :) Camry ใหม่ ACV70
Zone ที่ผมอยู่ สังเกตุได้ชัดเจนครับว่า
จำนวนไม่น้อยเลย ที่ไม่ค่อยเปิดไฟ DRL
ไม่ทราบว่าทำไมถึงพร้อมเพรียงไม่เปิดกันเยอะ
ผมว่าที่ไม่เปิดจะเห็นชัดกว่ารุ่นอื่นๆชัดเจนครับ
มีท่าน สมช. ท่านใดใช้รุ่นนี้อยู่ไหมครับ
::) เลยไม่ค่อยผ่องนะครับ ไฟออกจะสวย
ของผมเป็น ACV51 เปิดตลอดเลยครับ
ขนาดเป็นไฟขี้ตา 555
-
ต้องหมุนเป็น auto ครับ ไฟ DRL ถึงจะติด
-
เดาคร่าวๆ ว่าเพราะต้องหมุนออโต้มันถึงจะติด
คนมีอายุส่วนมากชอบเปิดปิดเอง ซื้อให้พ่อใช้ก็แบบนี้ครับ บ่นตลอดว่าทำไมต้องออโต้ก็หมุนเองได้
แล้วก็กังวลว่าทำไมปิดรถละไฟไม่ดับกลัวแบตหมด (welcome light น่ะแหละ)
ก่อนหน้านี้เค้าใช้ hrv ก็จะหมุนเอง ดึกๆบางทีไฟยังไม่เปิดเลยเพราะ drl สว่างนึกว่าเปิดไฟแล้ว
-
เดาคร่าวๆ ว่าเพราะต้องหมุนออโต้มันถึงจะติด
คนมีอายุส่วนมากชอบเปิดปิดเอง ซื้อให้พ่อใช้ก็แบบนี้ครับ บ่นตลอดว่าทำไมต้องออโต้ก็หมุนเองได้
แล้วก็กังวลว่าทำไมปิดรถละไฟไม่ดับกลัวแบตหมด (welcome light น่ะแหละ)
ก่อนหน้านี้เค้าใช้ hrv ก็จะหมุนเอง ดึกๆบางทีไฟยังไม่เปิดเลยเพราะ drl สว่างนึกว่าเปิดไฟแล้ว
อันนี้ผมว่าจริงครับ เห็นหลายคันเลยมีไฟออโต้ แต่ไม่ตั้งออโต้ เลือกเปิดปิดเอง บางทีกลางคืนก็ลืมเปิดไฟหน้า
-
อยากให้รถทุกคันบังคับไฟหน้า Auto ทั้งหมด เหมือน Revo/Fortuner แล้วก็เบนซ์ยุคปัจจุบัน
-
หลังจากนี้ไม่มีการปิดไฟหน้าแล้วหละครับ
ผมเองเจอปัญหารบกวนสมาธิ เดี๋ยวเปิดเดี๋ยวปิด รีเลย์ดังติ๊กต๊อกตลอด
ผ่านเงาต้นไม้ยาวหน่อยก็ดัง มีเมฆมากหน่อยก็ดัง
ถ้ากลางวันผมก็ชอบเปิดเป็นไฟหรี่แทนครับ :-\
(เส้น DRL ขึ้นเหมือนกันแต่จะสว่างน้อยกว่าของอัตโนมัติ)
-
ส่วนตัวขับรถมีไฟ Auto มาโดยตลอดค่ะ มีสมัยขับ Mazda 2 ที่เป็นรถคันแรกที่ไม่มีไฟ Auto
ตอนออกรถมาใหม่ๆ ขับรถตอนกลางคืนโดยไม่เปิดไฟอยู่ประมาณสองเดือนด้วยความเคยชิน ยิ่งตอนเปลี่ยนไปใส่โคม LED ที่มีไฟ DRL ยิ่งไปกันใหญ่ กลางคืนก็ขับมันไปทั้งไฟ DRL แบบนั้นเลย :(
พอเปลี่ยนมาใช้ HR-V นี้ เปลี่ยนเป็นไฟ Auto ตั้งแต่วันแรกเลยค่ะ เป็นฟังค์ชั่นที่คิดถึงมาก 555
-
รุ่นน้องผมสมัยก่อนก็ตั้ง auto ตลอดครับ ตั้งแต่รู้ว่าเสียแล้วต้องเปลี่ยนทั้งโคม โคมละสองสามหมื่นบาทนั่นแหละ เปลี่ยนมาเป็นเปิดเมื่อจำเป็นกันเป็นแถว
-
ผมยังมีความเห็นส่วนตัวเหมือนเดิม Toyota ควรทำให้ไฟ DRL ติดตลอดเวลาไม่ว่าสวิตช์ไฟหน้าจะอยู่ตำแหน่งใด ไม่งั้นจะเรียกไฟ Daytime ได้ยังไง ก็เป็นไฟหรี่ปกติไปเลยก็ได้
-
ผมยังมีความเห็นส่วนตัวเหมือนเดิม Toyota ควรทำให้ไฟ DRL ติดตลอดเวลาไม่ว่าสวิตช์ไฟหน้าจะอยู่ตำแหน่งใด ไม่งั้นจะเรียกไฟ Daytime ได้ยังไง ก็เป็นไฟหรี่ปกติไปเลยก็ได้
เห็นด้วยครับ ผมชอบแบบ mazda ติดตลอดยกเว้น n แล้วดึงเบรคมือ หรือ p (จำไม่ค่อยได้ละ ขายไปสองสามปีละ)
-
ผมก็ไม่เปิดครับ เพราะโหมด Auto มันทำงานไวเกิน ขนาดผมตั้งต่ำสุด+ฟิล์มบานหน้าใสแล้วนะ นิดหน่อยไฟหรี่มาไฟหน้าเปิดแล้ว ค่อนข้างรำคาญเลยคับ แต่รถมันก็ฉลาดนะครับ พอขับในที่มืดไม่ได้เปิดไฟมันจะขึ้นข้อความฟ้องให้เปิดเลย ล่าสุดขับรถเปิดกระจกถึงความเร็วเท่าไหร่ไม่ทราบ มันก็มีข้อความขึ้นมาว่าให้ปิดกระจก ไม่รู้มีฟังก์ชั่นอะไรอีก
-
ผมยังมีความเห็นส่วนตัวเหมือนเดิม Toyota ควรทำให้ไฟ DRL ติดตลอดเวลาไม่ว่าสวิตช์ไฟหน้าจะอยู่ตำแหน่งใด ไม่งั้นจะเรียกไฟ Daytime ได้ยังไง ก็เป็นไฟหรี่ปกติไปเลยก็ได้
เห็นด้วยครับ ผมชอบแบบ mazda ติดตลอดยกเว้น n แล้วดึงเบรคมือ หรือ p (จำไม่ค่อยได้ละ ขายไปสองสามปีละ)
ของ Mazda จะติดตอนวิ่งไปเกิน 3 km/h ครับ จะเกียร์ D หรือ R ก็ได้ และปลดเบรกมือลง
แล้วจะดับตอนเข้าเกียร์ P หรือดึงเบรกมือขึ้นครับ
ตอนจอดสตาร์ทรถไว้ก็ไม่ติด ไม่มีใครรู้
หรือถ้าวิ่งมาอยากปิดไฟก็ตั้งค่าปิดในจอรถเองก็ได้
อันนี้ส่วนตัวก็ชอบแบบนี้ แต่จะเสียตรงเจ้าของรถหรือคนขับจะไม่ได้เห็นซะเอง 55555 ถ้าไม่มีใครเดินมาบอกหรือสะท้อนจากรถคันหน้า
แถมข้อดีอีกอย่างของไฟ Auto Mazda คือเซ็นเซอร์แสงมันเป็นเซ็นเซอร์ใสอยู่รวมกับกล่อง Rain Sensor ติดฟิล์มกี่ % ก็ไม่มีผล (แต่ในแง่คนผลิตมันก็เปลืองต้นทุนแหละต้องขายแพ็คคู่กันไปกับปัดน้ำฝน Auto)
-
รถผม ก็ไฟหน้า Auto นะ แต่ใช้ manual ตลอดครับ ข้อดีของมันสำหรับผม มีอย่างเดียวคือ ตอนเปิดไฟหน้า ผมบิดสวิทช์แค่แก๊กเดียว (เพื่อเข้าโหมด auto) มันก็ติดละ
รถผม ผมก็ว่า มันติดไวไปครับ ข้างนอกยังสว่างอยู่เลย มันก็ติดละ ฟิล์มหน้าผมก็ไม่ได้มืดนะ มองทะลุเห็นในรถด้วย
-
เพราะไม่อยากให้หลอดไปไวมั้ง กลัวเสียเงิน 4หมื่นกว่าบาท
-
ผมก็ชอบใช้แบบ แมนนวล มากกว่า auto
-
มันควรมีทั้ง Auto และ Manual เหมือนเดิมดีแล้วครับ ส่วนตัวผมชอบแบบ manual ครับ
-
ตอนโฉมเก่า ก็มีแต่คนถามว่าทำไม camry ปิด DRL ไม่ได้ พอโฉมใหม่เขาทำให้ปิดได้ ก็มีคนถามว่าทำไมไม่เปิดไฟกัน...จะเอาไงเนี่ย โทโยดะ เกาหัว 555+
ส่วนตัวผม Auto ตลอดครับ จะเปิดจะปิด จะแก๊กๆไรก็ช่างมัน ผมชอบแบบนี้ ขี้เกียจมาบิดเปิดปิด
-
รุ่นน้องผมสมัยก่อนก็ตั้ง auto ตลอดครับ ตั้งแต่รู้ว่าเสียแล้วต้องเปลี่ยนทั้งโคม โคมละสองสามหมื่นบาทนั่นแหละ เปลี่ยนมาเป็นเปิดเมื่อจำเป็นกันเป็นแถว
ผมเป็นอีกคนที่คิดแบบนี้ เลยเปิดปิดเองตลอด
-
ผมก็ไม่ชอบเปิดครับ เพราะชอบนั่งสมาธิ ฟังเพลง เปิดพัดลม
ถ้าเปิดไว้ แล้วจอดตามปั๊มตามห้าง ชอบมีรถมาจอดต่อ เพราะนึกว่าผมจะออกจากที่จอด
-
ผมตั้ง Auto ตลอด มันสะดวกดี
เตาขนม (https://www.taokanom.com), นำเจริญ (https://www.numcharoen.com), ไชยชนะ (https://www.chaichana.net), เตาอบ (https://www.oven.co.th)
-
เขาบิดสวิตช์มาตำแหน่งปิดไงครับ มันเลยปิดหมดพร้อม DRL ถ้าจะเปิดก็บิดสวิตช์ไปที่ตำแหน่ง AUTO ผมว่า TOYOTA ทำสวิตช์มาแบบนี้ดีนะครับ ช่วยแก้ปัญหาการลืมเปิดไฟหน้า เพราะส่วนใหญ่รถที่มี DRL คนมักลืมเปิดไฟหน้า แล้ว DRL มันก็แยงตา เพราะมันสว่างและฟุ้งกระจาย หรือบางทีติดเครื่องยนต์แล้วเปิดแอร์ในห้างรอใครก็แล้วแต่ เราก็สามารถเลือกปิดได้ ผมคิดว่า TOYOTA ทำแบบนี้ถูกละ เพียงแต่ เซนเซอร์มันไว แล้วยิ่งติดฟิล์ม มันก็ยิ่งไวขึ้นไปอีก ถ้าย้ายตำแหน่งเซนเซอร์ไฟหน้ามาอยู่ที่เดียวกับเซนเซอร์วัดปริมาณน้ำฝน มันจะลดปัญหาไปหน้าติดไวไปได้เยอะเลยแหละ
-
หืม รถใหม่ๆผูกเข้ากับออโต้แล้วหรือนี่ ส่วนรุ่นเก่าปิดลำบาก ผมใช้วิธีดับเครื่องแล้วสตาร์ตใหม่ แต่นานมากๆค่อยมีโอกาสได้ปิดเลยไม่มีปัญหาครับ :-\
อยากให้ทำปุ่มแยกไปเลย แบบปุ่ม lane assist ;D
-
ผมยังมีความเห็นส่วนตัวเหมือนเดิม Toyota ควรทำให้ไฟ DRL ติดตลอดเวลาไม่ว่าสวิตช์ไฟหน้าจะอยู่ตำแหน่งใด ไม่งั้นจะเรียกไฟ Daytime ได้ยังไง ก็เป็นไฟหรี่ปกติไปเลยก็ได้
เห็นด้วยครับ ผมชอบแบบ mazda ติดตลอดยกเว้น n แล้วดึงเบรคมือ หรือ p (จำไม่ค่อยได้ละ ขายไปสองสามปีละ)
ของ Mazda จะติดตอนวิ่งไปเกิน 3 km/h ครับ จะเกียร์ D หรือ R ก็ได้ และปลดเบรกมือลง
แล้วจะดับตอนเข้าเกียร์ P หรือดึงเบรกมือขึ้นครับ
ตอนจอดสตาร์ทรถไว้ก็ไม่ติด ไม่มีใครรู้
หรือถ้าวิ่งมาอยากปิดไฟก็ตั้งค่าปิดในจอรถเองก็ได้
อันนี้ส่วนตัวก็ชอบแบบนี้ แต่จะเสียตรงเจ้าของรถหรือคนขับจะไม่ได้เห็นซะเอง 55555 ถ้าไม่มีใครเดินมาบอกหรือสะท้อนจากรถคันหน้า
แถมข้อดีอีกอย่างของไฟ Auto Mazda คือเซ็นเซอร์แสงมันเป็นเซ็นเซอร์ใสอยู่รวมกับกล่อง Rain Sensor ติดฟิล์มกี่ % ก็ไม่มีผล (แต่ในแง่คนผลิตมันก็เปลืองต้นทุนแหละต้องขายแพ็คคู่กันไปกับปัดน้ำฝน Auto)
ของผม Mazda 3 Sky
DRL จะติด เมื่อเข้าเราเกียร์ทุกเกียร์ (ยกเว้น P) และ ปลดเบรคมือครับ และจะดับ หากเข้า P หรือ หาก ยกเบรคมือขึ้น ไม่เกี่ยวกับจะวิ่งหรือไม่ เคยพยายามจะถ่ายรูปรถตัวเองตอน ไฟ DRL ติด ต้องหาพื้นที่ เรียบๆ ไม่เป็น slop เข้าเกียร์ N ปลดเบรคมือ แล้ว วิ่งออกมาเพื่อถ่ายรูป แล้ววิ่งกลับไปรีบดึงเบรคมือ เพราะกลัวรถไหลครับ
-
ผมยังมีความเห็นส่วนตัวเหมือนเดิม Toyota ควรทำให้ไฟ DRL ติดตลอดเวลาไม่ว่าสวิตช์ไฟหน้าจะอยู่ตำแหน่งใด ไม่งั้นจะเรียกไฟ Daytime ได้ยังไง ก็เป็นไฟหรี่ปกติไปเลยก็ได้
เห็นด้วยครับ ผมชอบแบบ mazda ติดตลอดยกเว้น n แล้วดึงเบรคมือ หรือ p (จำไม่ค่อยได้ละ ขายไปสองสามปีละ)
ของ Mazda จะติดตอนวิ่งไปเกิน 3 km/h ครับ จะเกียร์ D หรือ R ก็ได้ และปลดเบรกมือลง
แล้วจะดับตอนเข้าเกียร์ P หรือดึงเบรกมือขึ้นครับ
ตอนจอดสตาร์ทรถไว้ก็ไม่ติด ไม่มีใครรู้
หรือถ้าวิ่งมาอยากปิดไฟก็ตั้งค่าปิดในจอรถเองก็ได้
อันนี้ส่วนตัวก็ชอบแบบนี้ แต่จะเสียตรงเจ้าของรถหรือคนขับจะไม่ได้เห็นซะเอง 55555 ถ้าไม่มีใครเดินมาบอกหรือสะท้อนจากรถคันหน้า
แถมข้อดีอีกอย่างของไฟ Auto Mazda คือเซ็นเซอร์แสงมันเป็นเซ็นเซอร์ใสอยู่รวมกับกล่อง Rain Sensor ติดฟิล์มกี่ % ก็ไม่มีผล (แต่ในแง่คนผลิตมันก็เปลืองต้นทุนแหละต้องขายแพ็คคู่กันไปกับปัดน้ำฝน Auto)
ของผม Mazda 3 Sky
DRL จะติด เมื่อเข้าเราเกียร์ทุกเกียร์ (ยกเว้น P) และ ปลดเบรคมือครับ และจะดับ หากเข้า P หรือ หาก ยกเบรคมือขึ้น ไม่เกี่ยวกับจะวิ่งหรือไม่ เคยพยายามจะถ่ายรูปรถตัวเองตอน ไฟ DRL ติด ต้องหาพื้นที่ เรียบๆ ไม่เป็น slop เข้าเกียร์ N ปลดเบรคมือ แล้ว วิ่งออกมาเพื่อถ่ายรูป แล้ววิ่งกลับไปรีบดึงเบรคมือ เพราะกลัวรถไหลครับ
3 Sky ปีไหนครับ ของผมลองทั้งใน 3 Sky 2014 / 2 Sky 2016 , 2017 , 2018 / CX-3 2017 ถ้าสตาร์ทเครื่องมา ใส่เกียร์เลย ไม่เคลื่อนให้เกิน 3 km/h ก่อน ยังไงก็ไม่ติดครับ
-
ผมยังมีความเห็นส่วนตัวเหมือนเดิม Toyota ควรทำให้ไฟ DRL ติดตลอดเวลาไม่ว่าสวิตช์ไฟหน้าจะอยู่ตำแหน่งใด ไม่งั้นจะเรียกไฟ Daytime ได้ยังไง ก็เป็นไฟหรี่ปกติไปเลยก็ได้
เห็นด้วยครับ ผมชอบแบบ mazda ติดตลอดยกเว้น n แล้วดึงเบรคมือ หรือ p (จำไม่ค่อยได้ละ ขายไปสองสามปีละ)
ของ Mazda จะติดตอนวิ่งไปเกิน 3 km/h ครับ จะเกียร์ D หรือ R ก็ได้ และปลดเบรกมือลง
แล้วจะดับตอนเข้าเกียร์ P หรือดึงเบรกมือขึ้นครับ
ตอนจอดสตาร์ทรถไว้ก็ไม่ติด ไม่มีใครรู้
หรือถ้าวิ่งมาอยากปิดไฟก็ตั้งค่าปิดในจอรถเองก็ได้
อันนี้ส่วนตัวก็ชอบแบบนี้ แต่จะเสียตรงเจ้าของรถหรือคนขับจะไม่ได้เห็นซะเอง 55555 ถ้าไม่มีใครเดินมาบอกหรือสะท้อนจากรถคันหน้า
แถมข้อดีอีกอย่างของไฟ Auto Mazda คือเซ็นเซอร์แสงมันเป็นเซ็นเซอร์ใสอยู่รวมกับกล่อง Rain Sensor ติดฟิล์มกี่ % ก็ไม่มีผล (แต่ในแง่คนผลิตมันก็เปลืองต้นทุนแหละต้องขายแพ็คคู่กันไปกับปัดน้ำฝน Auto)
ของผม Mazda 3 Sky
DRL จะติด เมื่อเข้าเราเกียร์ทุกเกียร์ (ยกเว้น P) และ ปลดเบรคมือครับ และจะดับ หากเข้า P หรือ หาก ยกเบรคมือขึ้น ไม่เกี่ยวกับจะวิ่งหรือไม่ เคยพยายามจะถ่ายรูปรถตัวเองตอน ไฟ DRL ติด ต้องหาพื้นที่ เรียบๆ ไม่เป็น slop เข้าเกียร์ N ปลดเบรคมือ แล้ว วิ่งออกมาเพื่อถ่ายรูป แล้ววิ่งกลับไปรีบดึงเบรคมือ เพราะกลัวรถไหลครับ
3 Sky ปีไหนครับ ของผมลองทั้งใน 3 Sky 2014 / 2 Sky 2016 , 2017 , 2018 / CX-3 2017 ถ้าสตาร์ทเครื่องมา ใส่เกียร์เลย ไม่เคลื่อนให้เกิน 3 km/h ก่อน ยังไงก็ไม่ติดครับ
2014 ครับ ผมสตาร์ททุกเช้า ก่อนออกไปทำงาน เข้าเกียร์ D ปลดเบรคมือ ไฟ DRL ก็ติดละครับ ล้อยังไม่ต้องหมุนเลย
-
ผมยังมีความเห็นส่วนตัวเหมือนเดิม Toyota ควรทำให้ไฟ DRL ติดตลอดเวลาไม่ว่าสวิตช์ไฟหน้าจะอยู่ตำแหน่งใด ไม่งั้นจะเรียกไฟ Daytime ได้ยังไง ก็เป็นไฟหรี่ปกติไปเลยก็ได้
เห็นด้วยครับ ผมชอบแบบ mazda ติดตลอดยกเว้น n แล้วดึงเบรคมือ หรือ p (จำไม่ค่อยได้ละ ขายไปสองสามปีละ)
ของ Mazda จะติดตอนวิ่งไปเกิน 3 km/h ครับ จะเกียร์ D หรือ R ก็ได้ และปลดเบรกมือลง
แล้วจะดับตอนเข้าเกียร์ P หรือดึงเบรกมือขึ้นครับ
ตอนจอดสตาร์ทรถไว้ก็ไม่ติด ไม่มีใครรู้
หรือถ้าวิ่งมาอยากปิดไฟก็ตั้งค่าปิดในจอรถเองก็ได้
อันนี้ส่วนตัวก็ชอบแบบนี้ แต่จะเสียตรงเจ้าของรถหรือคนขับจะไม่ได้เห็นซะเอง 55555 ถ้าไม่มีใครเดินมาบอกหรือสะท้อนจากรถคันหน้า
แถมข้อดีอีกอย่างของไฟ Auto Mazda คือเซ็นเซอร์แสงมันเป็นเซ็นเซอร์ใสอยู่รวมกับกล่อง Rain Sensor ติดฟิล์มกี่ % ก็ไม่มีผล (แต่ในแง่คนผลิตมันก็เปลืองต้นทุนแหละต้องขายแพ็คคู่กันไปกับปัดน้ำฝน Auto)
ของผม Mazda 3 Sky
DRL จะติด เมื่อเข้าเราเกียร์ทุกเกียร์ (ยกเว้น P) และ ปลดเบรคมือครับ และจะดับ หากเข้า P หรือ หาก ยกเบรคมือขึ้น ไม่เกี่ยวกับจะวิ่งหรือไม่ เคยพยายามจะถ่ายรูปรถตัวเองตอน ไฟ DRL ติด ต้องหาพื้นที่ เรียบๆ ไม่เป็น slop เข้าเกียร์ N ปลดเบรคมือ แล้ว วิ่งออกมาเพื่อถ่ายรูป แล้ววิ่งกลับไปรีบดึงเบรคมือ เพราะกลัวรถไหลครับ
3 Sky ปีไหนครับ ของผมลองทั้งใน 3 Sky 2014 / 2 Sky 2016 , 2017 , 2018 / CX-3 2017 ถ้าสตาร์ทเครื่องมา ใส่เกียร์เลย ไม่เคลื่อนให้เกิน 3 km/h ก่อน ยังไงก็ไม่ติดครับ
2014 ครับ ผมสตาร์ททุกเช้า ก่อนออกไปทำงาน เข้าเกียร์ D ปลดเบรคมือ ไฟ DRL ก็ติดละครับ ล้อยังไม่ต้องหมุนเลย
ปีเดียวกันกับที่ผมลอง เดี๋ยวไปลองใหม่กับคันเดิมครับ
เมื่อเช้าลองใน 2 Sky 2016 ผมแล้วยังไงก็ต้องเคลื่อนที่ก่อนถึงติดครับ