Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Imgenesis ที่ มิถุนายน 11, 2019, 10:48:40
-
พอดีกำลังสนใจ อยากได้ ตัว F30 ครับ
ออกรถ เร็วๆนี้ 2-3 เดือน กำลังเก็บข้อมูลอยู่ครับ ตอนนี้มีรถสำรองที่ใช้ปัจจุบันอยู่
ใช้รถใน กทม เป็นส่วนใหญ่ครับไม่ค่อยได้ขับออก ตจว เลย นานๆ ทีถึงจะขับออก ตจว 2-3 เดือนครั้ง
รถที่ใช้ปัจจุบันใช้มา 7 ปีละ ไมล์ 40000 ต้นๆ
ช่วงนี้กำลังมีแพลนจะออกรถคันใหม่ มือสองครับ งบ 1.7 - 1.8 บวก/ลบ คาดว่าจะซื้อสดครับ เน้นมี bsi 2-3 ปีขึ้นไป
พอดีกำลังสนใจตัว 330e แต่หารีวิว แบบใช้ในชีวิตประจำวันไม่ค่อยจะเจอเลย ส่วนใหญ่ก็มีแต่ รีวิวรถใหม่ทั้งนั้น
อยากทราบเกี่ยวกับ เรื่องแบตเตอรี่ ว่ามีประกันยังไงบ้างด้วยครับ BSI / Warranty ครอบคลุมขนาดไหน ถ้าเสียขึ้นมา ค่าใช้จ่าย แพงหรือไม่
เรื่องค่าดูแลรักษา คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาครับ แต่ถ้ามันสูงมากจนเกินไปก็คงจะตัดใจไปหา รุ่นที่เป็นเครื่องยนต์สันดาปมาใช้แทน
ขอบคุณทุกความเห็นครับ หรือแนะนำเข้ามาได้นะครับถ้ามีรุ่นไหนน่าสนใจ ใน range งบนี้
ปล. เน้น sedan / coupe ครับ วัยรุ่นอยู่ ส่วนใหญ่นั่ง 1-2 คน ยังไม่อยากจับ SUV / Compact SUV ;D
-
F30 330e ไม่ค่อยเห็นคนบ่นเรื่อง Hybrid นะครับ คือที่เห็นแย่สุดคือเริ่มมีเข้าไปเคลมเซลล์แบตเตอรี่กันแล้วครับ แต่แบต BMW แยกเป็น Module เล็กๆครับ ไม่เหมือน MB ที่เป็นลูกใหญ่ลูกเดียว เวลาเปลี่ยนก็เปลี่ยนที่ละอัน ถ้าอยู่ใน BSI น่าจะโอเคแต่พอหลุด BSI แล้วน่าจะเรื่องใหญ่ครับ
ส่วนตัวผมว่า หา 330i F30 ดีกว่าครับ ไม่รู้ว่าพอหาได้ไหม ราคาที่ให้มาซื้อได้เลยครับ แบบนั้นจะปลอดภัยกว่าและใช้ยาวน่าจะดูดีกว่าครับ :D
-
พูดในส่วนที่ว่าถ้าซื้อรถที่ bsi เหลือแล้วได้ราคาโอเค ผมก็ว่าคุ้ม ไม่ว่ารุ่นไหนก็ตามของ bmw นะ เพราะอย่างน้อยก็จับไล่เช็คไล่เครมได้
-
รีวิวสั้นๆ ละกันครับ ของผม 330e m sport วิ่ง 12,000 ละ ขับดีครับ ขนาดยาง runflat ยังรู้สึกว่านุ่ม การเข้าโค้ง balance ดี รู้สึก body roll น้อย แรงเหลือใช้ใน กทม แซงหายห่วง ไม่ต้องลุ้นทั้งใน กทม และ ตจว แต่พวงมาลัยคม ถ้าคนเคยขับพวกรถที่พวงมาลัยระยะฟรีเยอะๆ อาจจะไม่ชินในการขับความเร็วสูงแรกๆ เพราะมันเหมือนรถจะดิ้นๆ ตามรอยบนถนน เลนทำให้รถเหมือนไม่นิ่ง ต้องคอยยึกๆ มือตาม
การประหยัดน้ำมัน สรุปสั้นๆว่า วิ่งรถติดๆๆๆๆๆ ไฟฟ้าล้วนได้ประมาณ 13-20 กิโล ไม่เกินนี้ แอร์มีผลมากๆ ต่อระยะทาง ถ้าวิ่งยาวๆ ไม่เกิน 90 ไฟฟ้าล้วนได้ 30 กิโลไม่ยาก วิ่งต่างจังหวัดแล้วแต่เท้าขวาเลย เคยไปเชียงใหม่ กินเฉลี่ย 13 ต้นๆ ขับไป โคราชชิวๆ 17-18 กิโลลิตร ตอนนี้ผมวิ่ง 12,000 หน้าจอขึ้นกินน้ำมันเฉลี่ย 24.5 กิโลลิตร อ่อ รถผมชาร์จไฟทุกวัน ค่าไฟเพิ่มประมาณ ไม่เกิน 1,000 บาท/เดือน
อุปกรณ์ option ที่ให้มาถือว่าเพียงพอและร่วมสมัย ทั้งระบบ connectedrive ที่ขอแค่มือถือต่อเน็ทไว้ก็สามารถสั่งรถให้ทำต่างๆ นาๆ ได้ เช่น เปิดแอร์ล่วงหน้าได้, กดเปิดไฟ, กดล๊อครถ หรือกดบีบแตร เวลาหารถไม่เจอตามลานจอดรถ
ที่ผมคิดว่าเจ๋งดีคือเรื่องระบบ navi ที่ สามารถ search หาแผนที่ในมือถือแล้วส่งเข้าไปในรถได้เลย พอสตาตรถ หน้าจอก็ขึ้นแผนที่ที่เรา search ไว้ แรกๆได้มาก็ลองเล่น แต่หลังๆ ผมใช้ google map แทน อ่อลืมบอก รถรองรับ apple car play แล้ว หรือถ้าคุณขับรถอยู่ไม่สามารถ search หาสถานที่ได้ ก็กดโทรหา call center และบอกสถานที่ไป เดียวเขาก็จะส่ง location เข้ามา คุณก็ขับตามทางไป
ระบบไฟฟ้าส่วนไว้ใจได้ในระดับนึงมั้งครับ แต่ก็เห็นมีปัญหากันบ้าง เช่น ชาร์จไฟไม่เข้า, แต่ที่เห็นมากๆ เลยคือเวลาแบตลูกเล็กหมดจะใช้ระบบ hybrid ไม่ได้ส่วนมากชอบขึ้นข้อความให้ตกใจเล่นว่า Drivertain ถ้าของเบนซ์จะขึ้น anxillary batt บางศูนย์ก็จับเปลี่ยนแบตให้เลย แต่บางศูนย์ก็ให้จอดเพื่อจรวจเช็ค โรคประจำตัวอีกอย่างคือประตูดัง แก้ไขโดยการแปะเทปใสตามขอบยางประตู ลองดูว่าเจ้าของเก่าเขาทำมารึยัง เพราะศูนย์บอกว่าไม่อยู่ในวารันตรี (อ่าว) เรื่องความจุกจิกไม่ขอตอบละกันครับเพราะส่วนตัวยังไม่ประสบปัญหาอะไร
วารันตรีอันนี้เขาบอกรับประกันแบต 10 ปี พวกส่วนควบน่าจะเท่ากับวารันตรี ของผม 6 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
ปล. เห็นว่าใช้น้อยลองหาคันที่มี bsi 10 ปี ผมว่าเพิ่มอีกนิดหน่อยน่าจะคุ้มนะครับ
-
รีวิวสั้นๆ ละกันครับ ของผม 330e m sport วิ่ง 12,000 ละ ขับดีครับ ขนาดยาง runflat ยังรู้สึกว่านุ่ม การเข้าโค้ง balance ดี รู้สึก body roll น้อย แรงเหลือใช้ใน กทม แซงหายห่วง ไม่ต้องลุ้นทั้งใน กทม และ ตจว แต่พวงมาลัยคม ถ้าคนเคยขับพวกรถที่พวงมาลัยระยะฟรีเยอะๆ อาจจะไม่ชินในการขับความเร็วสูงแรกๆ เพราะมันเหมือนรถจะดิ้นๆ ตามรอยบนถนน เลนทำให้รถเหมือนไม่นิ่ง ต้องคอยยึกๆ มือตาม
การประหยัดน้ำมัน สรุปสั้นๆว่า วิ่งรถติดๆๆๆๆๆ ไฟฟ้าล้วนได้ประมาณ 13-20 กิโล ไม่เกินนี้ แอร์มีผลมากๆ ต่อระยะทาง ถ้าวิ่งยาวๆ ไม่เกิน 90 ไฟฟ้าล้วนได้ 30 กิโลไม่ยาก วิ่งต่างจังหวัดแล้วแต่เท้าขวาเลย เคยไปเชียงใหม่ กินเฉลี่ย 13 ต้นๆ ขับไป โคราชชิวๆ 17-18 กิโลลิตร ตอนนี้ผมวิ่ง 12,000 หน้าจอขึ้นกินน้ำมันเฉลี่ย 24.5 กิโลลิตร อ่อ รถผมชาร์จไฟทุกวัน ค่าไฟเพิ่มประมาณ ไม่เกิน 1,000 บาท/เดือน
อุปกรณ์ option ที่ให้มาถือว่าเพียงพอและร่วมสมัย ทั้งระบบ connectedrive ที่ขอแค่มือถือต่อเน็ทไว้ก็สามารถสั่งรถให้ทำต่างๆ นาๆ ได้ เช่น เปิดแอร์ล่วงหน้าได้, กดเปิดไฟ, กดล๊อครถ หรือกดบีบแตร เวลาหารถไม่เจอตามลานจอดรถ
ที่ผมคิดว่าเจ๋งดีคือเรื่องระบบ navi ที่ สามารถ search หาแผนที่ในมือถือแล้วส่งเข้าไปในรถได้เลย พอสตาตรถ หน้าจอก็ขึ้นแผนที่ที่เรา search ไว้ แรกๆได้มาก็ลองเล่น แต่หลังๆ ผมใช้ google map แทน อ่อลืมบอก รถรองรับ apple car play แล้ว หรือถ้าคุณขับรถอยู่ไม่สามารถ search หาสถานที่ได้ ก็กดโทรหา call center และบอกสถานที่ไป เดียวเขาก็จะส่ง location เข้ามา คุณก็ขับตามทางไป
ระบบไฟฟ้าส่วนไว้ใจได้ในระดับนึงมั้งครับ แต่ก็เห็นมีปัญหากันบ้าง เช่น ชาร์จไฟไม่เข้า, แต่ที่เห็นมากๆ เลยคือเวลาแบตลูกเล็กหมดจะใช้ระบบ hybrid ไม่ได้ส่วนมากชอบขึ้นข้อความให้ตกใจเล่นว่า Drivertain ถ้าของเบนซ์จะขึ้น anxillary batt บางศูนย์ก็จับเปลี่ยนแบตให้เลย แต่บางศูนย์ก็ให้จอดเพื่อจรวจเช็ค โรคประจำตัวอีกอย่างคือประตูดัง แก้ไขโดยการแปะเทปใสตามขอบยางประตู ลองดูว่าเจ้าของเก่าเขาทำมารึยัง เพราะศูนย์บอกว่าไม่อยู่ในวารันตรี (อ่าว) เรื่องความจุกจิกไม่ขอตอบละกันครับเพราะส่วนตัวยังไม่ประสบปัญหาอะไร
วารันตรีอันนี้เขาบอกรับประกันแบต 10 ปี พวกส่วนควบน่าจะเท่ากับวารันตรี ของผม 6 ปี ไม่จำกัดระยะทาง
ปล. เห็นว่าใช้น้อยลองหาคันที่มี bsi 10 ปี ผมว่าเพิ่มอีกนิดหน่อยน่าจะคุ้มนะครับ
ขอบคุณมากครับ comment ช่วยได้เยอะมากเลย สอบถามเพิ่มเติมนิดนึงได้มั้ยครับ ว่าขับตัว luxury หรือ m sport ใจจริง อยากได้ m sport มากกว่าครับ ชอบเบาะแดง ;D
-
ใช้ m sport คร๊าบ
-
ขับ 330e Luxury 51,000 km สองปี แล้วคับ
มี่ปัญหาแค่ ฝาถังน้ำมันเปิดไม่ได้ (อัพเดตเฟิร์มแวร์แล้วหาย)
ขับดีมากครับ แต่พวงมาลัยจะเบาๆ หน่อย แต่ค่อนข้างคม
แบตเตอร์รี่เป็น module ครับ พังก็เปลี่ยนทีละอัน
ถ้าจำไม่ผิด (ไม่แน่ใจ) มี 6 module , Module ละ 24000 (อยู่ใน BSI เปลี่ยนฟรี )
-
ขับ 330e Luxury 51,000 km สองปี แล้วคับ
มี่ปัญหาแค่ ฝาถังน้ำมันเปิดไม่ได้ (อัพเดตเฟิร์มแวร์แล้วหาย)
ขับดีมากครับ แต่พวงมาลัยจะเบาๆ หน่อย แต่ค่อนข้างคม
แบตเตอร์รี่เป็น module ครับ พังก็เปลี่ยนทีละอัน
ถ้าจำไม่ผิด (ไม่แน่ใจ) มี 6 module , Module ละ 24000 (อยู่ใน BSI เปลี่ยนฟรี )
สอบถามหน่อยได้มั้ยครับว่า luxury กับ m sport ต่างกันยังไงบ้างครับ
-
ขับ 330e Luxury 51,000 km สองปี แล้วคับ
มี่ปัญหาแค่ ฝาถังน้ำมันเปิดไม่ได้ (อัพเดตเฟิร์มแวร์แล้วหาย)
ขับดีมากครับ แต่พวงมาลัยจะเบาๆ หน่อย แต่ค่อนข้างคม
แบตเตอร์รี่เป็น module ครับ พังก็เปลี่ยนทีละอัน
ถ้าจำไม่ผิด (ไม่แน่ใจ) มี 6 module , Module ละ 24000 (อยู่ใน BSI เปลี่ยนฟรี )
สอบถามหน่อยได้มั้ยครับว่า luxury กับ m sport ต่างกันยังไงบ้างครับ
M sport ต่าง Luxury (รุ่นปีเดียวกัน)
- ช่วงล่าง M sport เตี้ยกว่า 1 cm เกาะถนนดีกว่า แต่กระด้างกว่า
- แม็ก Double Spoke ของ M sport ยางล้อหลังใหญ่กว่าล้อหน้า
- ซันรูฟ
- Paddle shift
- Mode Sport plus
- เบาะมีสีแดง ชุดแต่ง M ภายใน และภายนอก
- เบาะหลังพับได้ 60 40
ประมาณนี้ครับ จริงๆ ค่อนข้างคุ้มเชียร์ M Sport มากกว่า ปีใหม่ๆ ก็จะมีพวก High-beam Assistance
Connected drive ต้องดูออปชั่นอีกทีครับ
-
ใช้ไม่เยอะนะครับ แนะนำไป 320i 320d ก็พอแล้วครับอัตราเร่งถือว่าดีกว่ารถบ้านๆทั่วไปขับสนุกพอตัวแล้วครับ ระบบไฮบริดมีความจุกจิกยุ่งยากเวลาอายุเยอะขึ้น เวลาผมเอารถไปเซอร์วิสที่ศูนย์มักจะสังเกตุเห็นว่าเวลาช่างจะซ่อมจะรื้ออะไรนี่ต้องเอาช่างไฟมาช่วยเซอร์วิสตลอด ต้องแยกต้องถอดระบบไฟก่อนเสมอคือดูแล้วยุ่งยากพอควร ไปต่างจังหวัดไม่มีเวลาชาร์ตหรือจะหาชาร์ตฟรีหัวชาร์ทคนละซอกเกตกันก็มี ระบบไฟเป็นอะไรที่น่ากลัวครับจากประสบการณ์วงการเครื่องเสียง คือนึกจะเสียก็เสียเลยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้าเหมือนแมคคานิคตาดูหูฟังตรวจสอบเเช็คสภาพได้แต่นี่นึกจะเสียก็เสียกลางทางเลยแค่รถสันดาปธรรมดาเซนเซอร์รอบคันเป็นสิบๆตัวก็รำคาญแย่แล้วครับ ความประหยัดกว่าต่อถังหลักสิบ/ร้อย แต่ค่าซ่อมที่ต้องจ่ายเพิ่มหมื่น-แสน ขายราคาเท่ากันพ่วงไฮบริดให้ผมฟรีก็ไม่เอาอะ
ิbsi กับวารันตีบางทีก็แค่เส้นบางๆ มันสามารถตีความช่วยเหลือกันได้เช่น รถผมสามปี 1 เดือนหมดวารันตีหนูกัดสายเซนเซอร์ขาด จริงๆต้องจ่ายเองแต่ช่างตีความว่าเซนเซอร์เสื่อมตีความเข้า bsi เซอร์วิสห้าปีได้ ประหยัดไปเป็นหมื่นครับ ส่วนแบตเขารับประกันให้สิบปีถ้าบกพร่องจากการผลิตสบายใจได้ครับยกเว้นแต่เอาไปลุยน้ำมีปํญหารื้อมาเจอคราบน้ำอันนี้ตัวใครตัวมันครับ
-
เสริมให้ครับ มีการปรับเพิ่มออพชั่นในรุ่น M Sport CKD ถ้าอยากได้ ไฟหน้า adaptive led,เครื่องเสียง harman kardon, connected drive ต้องหารถที่เป็นปี2018 นะครับ ถ้าปีเก่ากว่านี้จะไม่มีและไม่รองรับระบบนี้ เรื่องค่าบำรุงรักษาระยะยาวหลังหมดประกันก็ยังน่าเป็นห่วงนิดๆครับ เพราะอะไหล่พวกระบบ hybrid ราคายังสูงอยู่ แต่ถ้าใช้ยาวๆและดูแลถึงก็จัดได้เลยครับ ส่วนการใช้งานด้านอื่นๆก็ตาม comment ด้านบนเลยครับ ;)
-
ใช้ไม่เยอะนะครับ แนะนำไป 320i 320d ก็พอแล้วครับอัตราเร่งถือว่าดีกว่ารถบ้านๆทั่วไปขับสนุกพอตัวแล้วครับ ระบบไฮบริดมีความจุกจิกยุ่งยากเวลาอายุเยอะขึ้น เวลาผมเอารถไปเซอร์วิสที่ศูนย์มักจะสังเกตุเห็นว่าเวลาช่างจะซ่อมจะรื้ออะไรนี่ต้องเอาช่างไฟมาช่วยเซอร์วิสตลอด ต้องแยกต้องถอดระบบไฟก่อนเสมอคือดูแล้วยุ่งยากพอควร ไปต่างจังหวัดไม่มีเวลาชาร์ตหรือจะหาชาร์ตฟรีหัวชาร์ทคนละซอกเกตกันก็มี ระบบไฟเป็นอะไรที่น่ากลัวครับจากประสบการณ์วงการเครื่องเสียง คือนึกจะเสียก็เสียเลยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้าเหมือนแมคคานิคตาดูหูฟังตรวจสอบเเช็คสภาพได้แต่นี่นึกจะเสียก็เสียกลางทางเลยแค่รถสันดาปธรรมดาเซนเซอร์รอบคันเป็นสิบๆตัวก็รำคาญแย่แล้วครับ ความประหยัดกว่าต่อถังหลักสิบ/ร้อย แต่ค่าซ่อมที่ต้องจ่ายเพิ่มหมื่น-แสน ขายราคาเท่ากันพ่วงไฮบริดให้ผมฟรีก็ไม่เอาอะ
ิbsi กับวารันตีบางทีก็แค่เส้นบางๆ มันสามารถตีความช่วยเหลือกันได้เช่น รถผมสามปี 1 เดือนหมดวารันตีหนูกัดสายเซนเซอร์ขาด จริงๆต้องจ่ายเองแต่ช่างตีความว่าเซนเซอร์เสื่อมตีความเข้า bsi เซอร์วิสห้าปีได้ ประหยัดไปเป็นหมื่นครับ ส่วนแบตเขารับประกันให้สิบปีถ้าบกพร่องจากการผลิตสบายใจได้ครับยกเว้นแต่เอาไปลุยน้ำมีปํญหารื้อมาเจอคราบน้ำอันนี้ตัวใครตัวมันครับ
กังวลอยู่เหมือนกันครับ กำลังหารายระเอียดเพิ่มเติมประกอบการตัดสินใจอยู่เหมือนกัน ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ :-*