Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: patzahut ที่ สิงหาคม 16, 2010, 13:29:55
-
ผมไปลอง ALTIS 1.8 กับ 2.0 MC มาแล้วนะคับ แต่ระยะทางไม่ไกล+รถติดบ้าง โดยผมไม่เคยขับ รุ่นก่อน MC นะ 1.8 ผมว่าแรงดึงใช้ได้เลย ไม่ต้องรอหน่วง พวงมลัยไม่เบาไม่หนัก เบรคนี้ ดูดมาก ถ้าเหยียบมากหน่อย หัวทิ่ม แต่ก็เอาอยู่นะ ช่วงล่างก็แน่นๆดี ส่วน 2.0 แรงกว่า แต่รู้สึกไม่มาก คงเพราะไม่มีทางให้ซัดยาวๆด้วยแหละคับ
ไปลองที่งานเปิดตัวที่ เซนทรัลลาดพร้าว 14-15
ใครไปลองมาแล้วบ้าง เชิญ comment เพิ่มได้เลยนะคับ
-
ไม่ได้ลอง แต่ขอถามละกัน เปลี่ยนเกียร์นุ่มนวลไหมครับ
เห็นบอกมันดึงๆเพราะเครื่องหรือเพราะเกียร์มันเปลี่ยนไม่ลื่นครับ
ผมเดาว่าโตโยต้าเช็ต CVT ไม่ให้ไหลลื่นมาก เพื่อให้คนทั่วไปไม่สับสน ว่ารถวิ่งไม่ออก
เลยให้มันกระตุกนิดหน่อย จะได้รู้สึกว่ามันดึงๆ
;D ;D ;D
-
วันนี้เอารถไปเช็คมา เห็นจอดอยู่เป็นรุ่น 1.6 ? ครับ ไม่ได้ลองแต่ดูสวยดี เหมือนจะดูเพรียวกว่าตัวก่อน MC ด้วย รึว่ารู้สึกไปเองก็ไม่รู้ แต่ก็มีคนมายืนมุงดูเยอะมาก ก็เลยไม่ได้ไปดูอะไรมากมายครับ แหะๆๆ
-
รอดู กล้วย กับตอย ใน The Coup Channel "Live!"
เร็วๆนี้ ครับ
พวกเขาไปลอง และไปถ่ายคลิปมาแล้ว
และจริงๆ ก็แอบเห็น Pat อยู่ในงานวันเสาร์ นั่นแหละ
-
ว่าจะลองขับรถของเพื่อนอยู่เนี่ย
รุ่น 1.8G ครับ
-
ไม่ได้ลอง แต่ขอถามละกัน เปลี่ยนเกียร์นุ่มนวลไหมครับ
เห็นบอกมันดึงๆเพราะเครื่องหรือเพราะเกียร์มันเปลี่ยนไม่ลื่นครับ
ผมเดาว่าโตโยต้าเช็ต CVT ไม่ให้ไหลลื่นมาก เพื่อให้คนทั่วไปไม่สับสน ว่ารถวิ่งไม่ออก
เลยให้มันกระตุกนิดหน่อย จะได้รู้สึกว่ามันดึงๆ
;D ;D ;D
CVT มันจะสัมผัสกับการเปลี่ยนเกียร์ไม่ได้นะครับ เพราะมันไม่ใช่เฟืองเกียร์
(ถ้าไม่ได้ขับแบบปรับเปลี่ยนอัตราทด หรือโหมดปรับเกียร์เองอ่ะคับ)
ที่บอกว่าดึงก็อาจจะหมายถึงอัตราเร่งดี เหยียบเป็นมา อะไรทำนองนั้นอ่ะครับ
และก็ไม่ใช่ว่าต้องกระตุกถึงจะทราบว่ามันดึงไม่ดึง หรือวิ่งออกไม่ออกอ่ะครับ
ถ้าเครื่องมันแรง มันก็รู้สึกว่ามันดึงได้อ่ะครับ..
-
เมื่อวันเสาร์ได้ไปดูมาคับ 1.8G แล้วเซลล์ก็ขับพาไปลอง ไม่ได้ขับเอง
จับ Feeling อะไรไม่ได้มาก จับได้แค่ว่า ตอนออกตัวรถมันไม่ค่อยอืดนะ รอบก็มาเรื่อยๆ ความเร็วก็ขึ้นเรื่อยๆ
และเกียร์ M 7 speed เปลี่ยนเกียร์ค่อนข้างนุ่มคับ แทบไม่กระตุกเลย
-
ลองทั้ง 2.0 และ 1.8 แต่ผมขับแค่ 2.0 ส่วน 1.8 เพื่อนผมขับ สิ่งที่สรุปได้นั้นคือ
ผมขอขับซีวิคต่อไปดีกว่า ซึ่งผมมีเหตุผลอยู่ประมาณนี้
สำหรับตัว 2.0 นั้นพวงมาลัย ดีกว่า 1.8 จริง ไม่เถียง มันหนืบในความเร็วต่ำและกลับรถ แต่พอขึ้น 100 อยากให้หนืดกว่านี้จะได้ไหม อันนี้แบบเอาใจผู้ใหญ่ไปนะ และตรงข้ามกับ 1.8 เพื่อนผมบอกว่า เบากว่าเดิม ก็เลยสงสัยว่า ลมยางรถที่ Test เติมมากกว่า 30 ปอนต์ หรือ โปรแกรมไม่ได้แก้อะไรเลย
ส่วนเรื่องเครื่อง ก็มาไวทันใจตามสไตล์ 2.0 และคันเร่งไม่ตอบสนองช้าอย่าง ยาริส และ อัลติส 1.8 เดิม(ก่อนตัว 2.0 มา)
ส่วนเกียร์ Super CVTi ตินิดนึง ความเป็น CVT ที่ผมเข้าใจคือออกตัวต้องเรียบไม่สะดุด แต่ทำไม ผมขับ แล้วเวลารถออกตัว รอบพี่ท่าน ปาไป 1500 แล้วสักพักเหมือนพูเลย์ทำงาน รถจึงกระตุกซะอย่างงั้น ผมก็เลยไม่เ้ข้าใจว่าเพราะอะไร อาการนี้เป็นทั้ง 2.0 และ 1.8 เลย ช่วงล่างนั้น 2.0 เกาะครับให้คะแนนดี แต่พอจะเปลี่ยนเลนกระทันหัน ยวบแต่ไม่ถึงกับโคลง ถือว่าดีขึ้นครับ
นอกนั้น ไมล์ กับรูปร่างรถทั้งหมด สวยขึ้นแบบผิดหูผิดตา มันก็ชวนว่า "ลองฉันสิ ฉันขับสนุกขึ้นนะ" ผมก็ลองแล้ว แต่ อีกนิดนึงน่ะ ทุกอย่างดี แต่ ส่วนที่ comment เหล่านี้ปรับหน่อยนะ
อ้อ อีกส่วน มันแพงขึ้นกว่าเดิม จนทำให้กุมขมับ และหันไปตัวอื่นอย่างง่ายดายไปนิดนะ(ก็ผมไม่ได้เลือกรถที่ยี่ห้อ อย่างเดียวสักหน่อยนี่หน่า)
-
ลอง รุ่น 2.0G มา ตอนวันอาทิตย์ครับ ซึ่งถนนโล่งใช้ได้พอสมควรครับ
คนที่นั่งไปด้วยเป็นคนของ TMAP-EM หรือไม่ก็ TMT พอดีไม่ได้ถามครับ
ซึ่งให้ข้อมูลได้ละเอียด ไม่เหมือนกับการทดลองขับที่ศูนย์ที่เน้นการขาย
แต่คน Toyota ที่นั่งมาด้วยนั้นเน้นให้ข้อมูลโดยเฉพาะ ผมซึ่งเข้าไป test
drive เป็นคนท้ายๆ เค้าบ่นกับผมว่า เมื่อวานวันเสาร์มีคนมาทดลองขับเพียง
40 กว่าคนเท่านั้น ซึ่งน้อยมาก ส่วนวันอาทิตย์ก็ดีหน่อย ได้ประมาณ 90 กว่าคน
ปกติผมขับ Fortuner ดังนั้น ผมจะประทับใจรถหลายๆ คันที่ตีนต้นออกตัวไว
อย่าง Mazda 2, March สำหรับผมถือว่าออกตัวไว แต่ความเป็นจริงแล้วถ้าผ่าน
ไป 2-3 วิ Fortuner มันก็ไปอย่างเร็ว ตามแรงม้าตามแรงบิดที่มากของมัน
กลับมาที่ Corolla 2.0G เริ่มต้นก็บิดกุญแจสตาร์ทแบบปกติๆ ไม่มีปุ่มสตาร์ท
เครื่องยนต์เงียบดี ออกตัว smooth ตามสไตล์ CVT ต้องยอมรับว่า หากยุคใหม่
เกียร์ทั้งหมดเปลี่ยนมาใช้ CVT อารมณ์ของเกียร์ออโต้เดิมๆ คงหายไปหมด
ถ้าออโต้เดิมๆ ความรู้สึกตอนมันดึงเมื่อเปลียนเกียร์นั้น ให้อารมณ์ความสนุกมากกว่า
ส่วนขับแบบเกียร์ CVT นั้น เหมือนกับขับยานอวกาศ คือค่อยๆ เร่งๆๆๆๆ ขึ้นไปเรื่อยๆ
เหมือนกราฟที่ต่อเนื่องขึ้นไปข้างบน ตอนที่เหยียบเร่ง ไม่ค่อยรู้สึกถึงการหน่วงเท่าไหร่
เหยียบเท่าไหร่ก็มาเท่านั้น มันค่อยๆ ไหลขึ้นของมัน ความรู้สึกเหมือนกับ อารมณ์ของ
สายน้ำ ตามแบบในโฆษณานั่นแหล่ะ ทำให้เข้าใจถึงสัจธรรมข้อหนึ่งว่า บางที เกียร์
CVT นั้นอารมณ์ทำให้นึกถึงสายน้ำไหล อาจจะน้ำเชี่ยวเหมือนในโฆษณา Teana ก็ได้
หรือจะมาแบบเรื่อยๆ เหมือนกับ Corolla ก็ได้ เสียดาย รถค่อนข้างหนาแน่น ขับเร็วกว่านั้น
ก็ได้ แต่ก็ไม่ค่อยอยากซิกแซกอะไรนัก กับรถที่เราเพิ่งได้ทดลองขับเป็นครั้งแรก
คนของ Toyota บอกว่า การใช้ Paddle shift นั้น ต้องกดลบก่อนหนึ่งครั้งเสมอตอนเริ่มต้น
แล้วถึงจะค่อยๆ กดบวกเพิ่มขึ้นๆ ผมก็ลองทำดูตามนั้น การเร่งก็เร่งได้ดีขึ้น ซึ่ง คน Toyota
บรรยายว่า เกียร์อาจจะชิดกันไปนิด ไม่ลากรอบได้ยาวๆ จะมันกว่านี้ แต่หากเหยียบยาวๆ
ไม่ยอม shift ซักที เกียร์มันก็จะปรับขึ้นเองโดยอัตโนมัติ
หลังจากนั้น ก็ขับแบบปกติซักพัก เพราะรู้สึกว่า "ก็ไม่ได้ชอบการ paddle shift เท่าไหร่"
อีกอย่าง เพราะไม่มั่นใจว่าเกียร์จะทนให้เรา shift ได้มากน้อยแค่ไหน สำหรับผมไม่ใช่แค่ CVT
นะครับ ที่ผมกังวล เกียร์ออโต้ธรรมดาๆ นี่แหล่ะ ผมยังไม่ค่อยชอบที่จะ shift มันมากนัก เพราะ
รู้สึกว่าถ้าไม่จำเป็นอย่าเลยดีกว่า กลัวพังแล้วไม่คุ้ม
แต่ผมก็ลองกด paddle shift อีกเป็นครั้งที่สอง เพราะว่ามันว่างๆ มือ ไม่รู้จะทำอะไร เพราะรถติด
มากขึ้น คราวนี้ ลองกดปุ่ม บวก ก่อน เสร็จแล้ว เอาล่ะสิ เกียร์มันอาการแปลกๆ ไป มันไม่ยอม
ให้เร่งขึ้น อิ๊บอ๋ายล่ะ เลยต้องรีบกดปุ่มลบ แล้วก็ทำอะไรต่อก็ไม่รู้ มันแป๊บเดียวเอง แล้วไฟก็โชว์
เกียร์กลับมาเป็น D เหมือนเดิม เฮ้อ ตื่นเต้นแฮะ กลัว อิอิอิ
สำหรับช่วงล่าง เกาะถนนใช้ได้ ผมเป็นคนขับรถเร็ว แบบว่าไม่บ่อย แต่จะขับเร็วก็เร็วมากๆ
ทุกๆ ครั้งที่ขับเร็วๆ ความรู้สึกกลัวตายก็จะเกิดขึ้นทุกครั้ง เป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน รู้สึกตัวเอง
ไม่ประมาทดี สำหรับ Corolla ช่วงล่างโอเค ใช้ได้ น่าจะขับได้ที่ 160 ไม่มีปัญหา ส่วนมากกว่า
160 นั้น ต้องได้มีโอกาสลองถึงจะรู้ แต่เบื้องต้น ขับแค่ระยะทางแค่นี้ เวลาสั้นๆ แค่นี้ ถือว่าช่วง
ล่างนั้นผ่าน ช่วงขับช้าๆ ช่วงล่างนุ่มนวลพอประมาณ ไม่มีเสียงยางบดถนนเข้ามาเท่าไหร่
ภายในสีดำ กับลายไม้เข้มสีแบบผู้ใหญ่ ให้อารมณ์ของรถแพง มากกว่าอารมณ์ของความมีอายุ
ซึ่งรถแพงๆ ของ Toyota เค้าก็ใช้สีดำ ตัดลายไม้เข้มๆ แบบนี้กันทั้งนั้น แล้วก็คงไม่ได้หลอก
ตัวเอง เพราะมันก็ไม่ได้ดูแก่จริงๆ เพียงแต่ ถ้าส่วนที่เป็นไม้ หากเป็นสีเงินโครเมี่ยม ก็จะเป็น
รถสปอร์ตๆ แบบวัยรุ่นในทันที แต่ลายไม้สีเข้ม มันก็ดูดี น่าจะดูดีกว่า สีดำตัดเงิน แน่ๆ ล่ะ
ในขณะที่ version Taiwan รุ่นที่ไม่ใช่ 2.0 ใช้ภายในสีเบจเหมือนบ้านเรา แต่จับเอาลายไม้สี
เข้มมาใส่ร่วมกับภายในสีเบจ ช่างเข้ากันเหลือเกิน~~ ได้อารมณ์หรูคุณชายมากๆ ส่วนตัวท๊อป
2.0 ก็ใช้สีภายในต่างๆ เหมือนๆ กับบ้านเรา แต่ไม่แน่ใจว่าบ้านเค้ามีรุ่นที่ใช้ โครเมี่ยมตกแต่งด้วย
รึเปล่า
งานในวันนั้น มี Jetsetter, Boy Peacemaker แล้วสุดท้าย ก็มีคุณโฬม มาโชว์ตัวด้วย แต่แค่ 10
นาที เป็นดาราที่ดูถ่อมตัวดี เป็นกันเอง แล้วก็ดูขี้อายทุกครั้งที่พิธีกรเล่นมุกใส่แบบไม่ทันตั้งตัว
เมื่อวันเสาร์ผมยังคุยเล่นๆ กับที่บ้านว่าพรุ่งนี้ ผมจะไปดู "Corolla Rome" คาโรล่าโรม โคโรล่าโรม
ออกเสียงสำเนียงไหน ก็ดูเข้ากันดี แฮะ ถ้าผมซื้อ รถคันนี้ 2.0V อิอิอิ ได้เมื่อมีกะตัง 555 ผมก็จะ
ตั้งชื่อรถคันนี้ว่า คาโรล่าโรม นี่แหล่ะ เพราะชอบ โฆษณาด้วย presenter ด้วย ทำได้เยี่ยมจริงๆ
คุณภาพของตัวรถก็ส่วนหนึ่ง แต่การตลาด การเอาใจใส่ การวางแผนงาน การโชว์ต่างๆ ในงานสอง
วันนี้คงทำให้หลายๆ คนได้ใจไปเยอะ แต่สำหรับคนที่ไม่หลงมัวเมา อาจจะไม่หลงสเน่ห์ไปด้วย อิอิอิ
สรุป ผมว่า Corolla Minor Change เปลี่ยนเยอะ แต่เนื้อแท้แล้ว ดีขึ้นกว่าเดิมนิดนึง หน้าตาได้อารมณ์
ขึ้นเยอะ แต่สเน่ห์ของ Corolla ก็ประมาณนี้แหล่ะ ไม่เคยเปลี่ยน
-
ลองทั้ง 2.0 และ 1.8 แต่ผมขับแค่ 2.0 ส่วน 1.8 เพื่อนผมขับ สิ่งที่สรุปได้นั้นคือ
ผมขอขับซีวิคต่อไปดีกว่า ซึ่งผมมีเหตุผลอยู่ประมาณนี้
สำหรับตัว 2.0 นั้นพวงมาลัย ดีกว่า 1.8 จริง ไม่เถียง มันหนืบในความเร็วต่ำและกลับรถ แต่พอขึ้น 100 อยากให้หนืดกว่านี้จะได้ไหม อันนี้แบบเอาใจผู้ใหญ่ไปนะ และตรงข้ามกับ 1.8 เพื่อนผมบอกว่า เบากว่าเดิม ก็เลยสงสัยว่า ลมยางรถที่ Test เติมมากกว่า 30 ปอนต์ หรือ โปรแกรมไม่ได้แก้อะไรเลย
ส่วนเรื่องเครื่อง ก็มาไวทันใจตามสไตล์ 2.0 และคันเร่งไม่ตอบสนองช้าอย่าง ยาริส และ อัลติส 1.8 เดิม(ก่อนตัว 2.0 มา)
ส่วนเกียร์ Super CVTi ตินิดนึง ความเป็น CVT ที่ผมเข้าใจคือออกตัวต้องเรียบไม่สะดุด แต่ทำไม ผมขับ แล้วเวลารถออกตัว รอบพี่ท่าน ปาไป 1500 แล้วสักพักเหมือนพูเลย์ทำงาน รถจึงกระตุกซะอย่างงั้น ผมก็เลยไม่เ้ข้าใจว่าเพราะอะไร อาการนี้เป็นทั้ง 2.0 และ 1.8 เลย ช่วงล่างนั้น 2.0 เกาะครับให้คะแนนดี แต่พอจะเปลี่ยนเลนกระทันหัน ยวบแต่ไม่ถึงกับโคลง ถือว่าดีขึ้นครับ
นอกนั้น ไมล์ กับรูปร่างรถทั้งหมด สวยขึ้นแบบผิดหูผิดตา มันก็ชวนว่า "ลองฉันสิ ฉันขับสนุกขึ้นนะ" ผมก็ลองแล้ว แต่ อีกนิดนึงน่ะ ทุกอย่างดี แต่ ส่วนที่ comment เหล่านี้ปรับหน่อยนะ
อ้อ อีกส่วน มันแพงขึ้นกว่าเดิม จนทำให้กุมขมับ และหันไปตัวอื่นอย่างง่ายดายไปนิดนะ(ก็ผมไม่ได้เลือกรถที่ยี่ห้อ อย่างเดียวสักหน่อยนี่หน่า)
ราคาผมว่าก็ประมาณเดียวกับยี่ห้ออื่นในตลาดนะครับ ต้องเทียบของที่ได้รับด้วย
แต่ในสายตาผมตอนนี้นะ รุ่นที่คุ้มค่าเงินที่สุดเลยคือ 2.0G และ 1.8G หรือถ้างบน้อยลงมาอีกนิดก็ 1.8E ครับ สามตัวนี้แหละ ส่วนพวงมาลัยของเดิมที่ว่าเบานักเบาหนา พอขับชินมือมันก็ไม่ได้ควบคุมยากเกินไปนะครับ วิ่งเร็วๆผมปล่อยมือยังไม่เห็นวอกแวกเลย (ที่ความเร็วประมาณ 150-160 วัดจาก GPS ไม่ใช่ไมล์รถนะ ไมล์รถผมเพี้ยนไปตั้ง 10 km/hr แน่ะ สงสัยเป็นเพราะเปลี่ยนตัวใหม่มา T_T) เวลาขับเร็วๆผมใช้มือไล้พวงมาลัยเวลาเปลี่ยนเลนเอา
แต่ยอมรับว่า หากต้องการขับเร็วด้วย ซิกแซกด้วย พวงมาลัยแบบนี้มันไม่สนุกเหมือนซีวิคแน่นอนครับ เพราะลองของพี่ชายมาแล้วให้คนละอารมณ์โดยสิ้นเชิงเลย
-
งานในวันนั้น มี Jetsetter, Boy Peacemaker แล้วสุดท้าย ก็มีคุณโฬม มาโชว์ตัวด้วย แต่แค่ 10
นาที เป็นดาราที่ดูถ่อมตัวดี เป็นกันเอง แล้วก็ดูขี้อายทุกครั้งที่พิธีกรเล่นมุกใส่แบบไม่ทันตั้งตัว
เมื่อวันเสาร์ผมยังคุยเล่นๆ กับที่บ้านว่าพรุ่งนี้ ผมจะไปดู "Corolla Rome" คาโรล่าโรม โคโรล่าโรม
ออกเสียงสำเนียงไหน ก็ดูเข้ากันดี แฮะ ถ้าผมซื้อ รถคันนี้ 2.0V อิอิอิ ได้เมื่อมีกะตัง 555 ผมก็จะ
ตั้งชื่อรถคันนี้ว่า คาโรล่าโรม นี่แหล่ะ เพราะชอบ โฆษณาด้วย presenter ด้วย ทำได้เยี่ยมจริงๆ
คุณภาพของตัวรถก็ส่วนหนึ่ง แต่การตลาด การเอาใจใส่ การวางแผนงาน การโชว์ต่างๆ ในงานสอง
วันนี้คงทำให้หลายๆ คนได้ใจไปเยอะ แต่สำหรับคนที่ไม่หลงมัวเมา อาจจะไม่หลงสเน่ห์ไปด้วย อิอิอิ
สรุป ผมว่า Corolla Minor Change เปลี่ยนเยอะ แต่เนื้อแท้แล้ว ดีขึ้นกว่าเดิมนิดนึง หน้าตาได้อารมณ์
ขึ้นเยอะ แต่สเน่ห์ของ Corolla ก็ประมาณนี้แหล่ะ ไม่เคยเปลี่ยน
ถ้าได้ดู Boy Peacemaker ต้องเห็นผมนะคับ เค้าแซวผมตลอดเลย
-
งานในวันนั้น มี Jetsetter, Boy Peacemaker แล้วสุดท้าย ก็มีคุณโฬม มาโชว์ตัวด้วย แต่แค่ 10
นาที เป็นดาราที่ดูถ่อมตัวดี เป็นกันเอง แล้วก็ดูขี้อายทุกครั้งที่พิธีกรเล่นมุกใส่แบบไม่ทันตั้งตัว
เมื่อวันเสาร์ผมยังคุยเล่นๆ กับที่บ้านว่าพรุ่งนี้ ผมจะไปดู "Corolla Rome" คาโรล่าโรม โคโรล่าโรม
ออกเสียงสำเนียงไหน ก็ดูเข้ากันดี แฮะ ถ้าผมซื้อ รถคันนี้ 2.0V อิอิอิ ได้เมื่อมีกะตัง 555 ผมก็จะ
ตั้งชื่อรถคันนี้ว่า คาโรล่าโรม นี่แหล่ะ เพราะชอบ โฆษณาด้วย presenter ด้วย ทำได้เยี่ยมจริงๆ
คุณภาพของตัวรถก็ส่วนหนึ่ง แต่การตลาด การเอาใจใส่ การวางแผนงาน การโชว์ต่างๆ ในงานสอง
วันนี้คงทำให้หลายๆ คนได้ใจไปเยอะ แต่สำหรับคนที่ไม่หลงมัวเมา อาจจะไม่หลงสเน่ห์ไปด้วย อิอิอิ
สรุป ผมว่า Corolla Minor Change เปลี่ยนเยอะ แต่เนื้อแท้แล้ว ดีขึ้นกว่าเดิมนิดนึง หน้าตาได้อารมณ์
ขึ้นเยอะ แต่สเน่ห์ของ Corolla ก็ประมาณนี้แหล่ะ ไม่เคยเปลี่ยน
ถ้าได้ดู Boy Peacemaker ต้องเห็นผมนะคับ เค้าแซวผมตลอดเลย
เห็นครับ 16 กิ๊กไง อิอิอิ ใช่รึเปล่าหรือผมจำผิด
-
งานในวันนั้น มี Jetsetter, Boy Peacemaker แล้วสุดท้าย ก็มีคุณโฬม มาโชว์ตัวด้วย แต่แค่ 10
นาที เป็นดาราที่ดูถ่อมตัวดี เป็นกันเอง แล้วก็ดูขี้อายทุกครั้งที่พิธีกรเล่นมุกใส่แบบไม่ทันตั้งตัว
เมื่อวันเสาร์ผมยังคุยเล่นๆ กับที่บ้านว่าพรุ่งนี้ ผมจะไปดู "Corolla Rome" คาโรล่าโรม โคโรล่าโรม
ออกเสียงสำเนียงไหน ก็ดูเข้ากันดี แฮะ ถ้าผมซื้อ รถคันนี้ 2.0V อิอิอิ ได้เมื่อมีกะตัง 555 ผมก็จะ
ตั้งชื่อรถคันนี้ว่า คาโรล่าโรม นี่แหล่ะ เพราะชอบ โฆษณาด้วย presenter ด้วย ทำได้เยี่ยมจริงๆ
คุณภาพของตัวรถก็ส่วนหนึ่ง แต่การตลาด การเอาใจใส่ การวางแผนงาน การโชว์ต่างๆ ในงานสอง
วันนี้คงทำให้หลายๆ คนได้ใจไปเยอะ แต่สำหรับคนที่ไม่หลงมัวเมา อาจจะไม่หลงสเน่ห์ไปด้วย อิอิอิ
สรุป ผมว่า Corolla Minor Change เปลี่ยนเยอะ แต่เนื้อแท้แล้ว ดีขึ้นกว่าเดิมนิดนึง หน้าตาได้อารมณ์
ขึ้นเยอะ แต่สเน่ห์ของ Corolla ก็ประมาณนี้แหล่ะ ไม่เคยเปลี่ยน
ถ้าได้ดู Boy Peacemaker ต้องเห็นผมนะคับ เค้าแซวผมตลอดเลย
เห็นครับ 16 กิ๊กไง อิอิอิ ใช่รึเปล่าหรือผมจำผิด
ใช่คับ วันนั้นดันใส่เสื้อไปตัวเดียวกันกับในรูป Display ด้วย น่าจะจำได้นะ
-
งานในวันนั้น มี Jetsetter, Boy Peacemaker แล้วสุดท้าย ก็มีคุณโฬม มาโชว์ตัวด้วย แต่แค่ 10
นาที เป็นดาราที่ดูถ่อมตัวดี เป็นกันเอง แล้วก็ดูขี้อายทุกครั้งที่พิธีกรเล่นมุกใส่แบบไม่ทันตั้งตัว
เมื่อวันเสาร์ผมยังคุยเล่นๆ กับที่บ้านว่าพรุ่งนี้ ผมจะไปดู "Corolla Rome" คาโรล่าโรม โคโรล่าโรม
ออกเสียงสำเนียงไหน ก็ดูเข้ากันดี แฮะ ถ้าผมซื้อ รถคันนี้ 2.0V อิอิอิ ได้เมื่อมีกะตัง 555 ผมก็จะ
ตั้งชื่อรถคันนี้ว่า คาโรล่าโรม นี่แหล่ะ เพราะชอบ โฆษณาด้วย presenter ด้วย ทำได้เยี่ยมจริงๆ
คุณภาพของตัวรถก็ส่วนหนึ่ง แต่การตลาด การเอาใจใส่ การวางแผนงาน การโชว์ต่างๆ ในงานสอง
วันนี้คงทำให้หลายๆ คนได้ใจไปเยอะ แต่สำหรับคนที่ไม่หลงมัวเมา อาจจะไม่หลงสเน่ห์ไปด้วย อิอิอิ
สรุป ผมว่า Corolla Minor Change เปลี่ยนเยอะ แต่เนื้อแท้แล้ว ดีขึ้นกว่าเดิมนิดนึง หน้าตาได้อารมณ์
ขึ้นเยอะ แต่สเน่ห์ของ Corolla ก็ประมาณนี้แหล่ะ ไม่เคยเปลี่ยน
ถ้าได้ดู Boy Peacemaker ต้องเห็นผมนะคับ เค้าแซวผมตลอดเลย
เห็นครับ 16 กิ๊กไง อิอิอิ ใช่รึเปล่าหรือผมจำผิด
ใช่คับ วันนั้นดันใส่เสื้อไปตัวเดียวกันกับในรูป Display ด้วย น่าจะจำได้นะ
จำไม่ได้หรอกครับ ในรูป display ออกจะขรึมๆ แต่ที่งาน ยิ้มใหญ่เชียวตอนโดนแซว อิอิอิ
-
ไปลองมาวันนี้เองครับ พอดีเอาไอ้หมูที่บ้านไปเข้า 0
เลยได้ลองตัว 1.8E : ถ้าเทียบกับตอนลอง2.0V ก่อนไมเนอร์ รู้สึกว่าเกียร์ชุดนี้ทำมาได้ดีขึ้นมากเลย
สร้างแรงดึงจากจุดหยุดนิ่ง เพียงไม่กี่อึกใจก็ ปาเข้าไป120+แล้ว ... ถือว่าประทับใจครับ
แต่ก็ต้องมาเซ็งเรื่องต้องซ่อมชุดบังคับเลี้ยวไอ้หมู โดนไปหลายพัน :-\
-
ส่วนเกียร์ Super CVTi ตินิดนึง ความเป็น CVT ที่ผมเข้าใจคือออกตัวต้องเรียบไม่สะดุด แต่ทำไม ผมขับ แล้วเวลารถออกตัว รอบพี่ท่าน ปาไป 1500 แล้วสักพักเหมือนพูเลย์ทำงาน รถจึงกระตุกซะอย่างงั้น ผมก็เลยไม่เ้ข้าใจ
เคยลองแต่ 2.0 V Navi ก่อน MC ชอบทุกอย่างครับ พวงมาลัยน่าจะหนักแน่นกว่านี่ ไม่รู้ปัจจุบันดีขึ้นมั้ย
ตัว MC ไม่กล้าไปลองครับ เพราะแค่เห็นก็อยากได้แล้ว กลัวไปลองแล้วอยากได้มากกว่านี้ ;D
แวะมาบอกว่าเกียร์ CVT มันไม่ได้ always smooth นะครับ ในบางจังหวะช่วงบีบ-ถ่างพูลเล่ย์ จะมีกระตุกได้บ้าง จังหวะกระตุกอาจจะไม่คงที่ และอาการกระตุกนี้ อุณหภูมิตัวมันเองก็มีผลครับ
-
ส่วนเกียร์ Super CVTi ตินิดนึง ความเป็น CVT ที่ผมเข้าใจคือออกตัวต้องเรียบไม่สะดุด แต่ทำไม ผมขับ แล้วเวลารถออกตัว รอบพี่ท่าน ปาไป 1500 แล้วสักพักเหมือนพูเลย์ทำงาน รถจึงกระตุกซะอย่างงั้น ผมก็เลยไม่เ้ข้าใจ
เคยลองแต่ 2.0 V Navi ก่อน MC ชอบทุกอย่างครับ พวงมาลัยน่าจะหนักแน่นกว่านี่ ไม่รู้ปัจจุบันดีขึ้นมั้ย
ตัว MC ไม่กล้าไปลองครับ เพราะแค่เห็นก็อยากได้แล้ว กลัวไปลองแล้วอยากได้มากกว่านี้ ;D
แวะมาบอกว่าเกียร์ CVT มันไม่ได้ always smooth นะครับ ในบางจังหวะช่วงบีบ-ถ่างพูลเล่ย์ จะมีกระตุกได้บ้าง จังหวะกระตุกอาจจะไม่คงที่ และอาการกระตุกนี้ อุณหภูมิตัวมันเองก็มีผลครับ
ไปลองได้ครับ คงไม่ถึงขนาดทำให้อยากได้มากขึ้นมากขนาดนั้นครับ เพราะเค้าเซ็ตมาแบบกลางๆ ความรู้สึกที่ได้หลังจากทดลองขับจึงรู้สึกแบบกลางๆ แต่ไม่ใช่ว่าไม่ดีนะครับ
เป็นรถที่ดี แต่เซ็ตมาให้ตลาด/คนวงกว้างมากกว่า แต่อย่าเพิ่งเชื่อผม เพราะที่ทดลองขับมาก็เป็นระยะเวลาสั้นๆ เอง คิดว่าจะไปลองขับที่โชว์รูมอีก ผมก็ชอบภายนอกของรถมากเหมือนกันครับ