Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Ken_version ที่ มิถุนายน 18, 2019, 13:36:19
-
เครื่องยนต์ดีเซล N47 กับ B47บล็อคใหม่ ที่อยู่ใน F10
เครื่อง 2 รุ่นนี้ ประสิทธิภาพในการใช้งาน กับ ความทนทาน ต่างกันเยอะมั้ยครับ
-
ขอตอบสั้นๆง่ายๆว่าเครื่องตระกูล B เป็นเครื่องที่ผลิตออกมาแทนแล้วแก้ไขข้อเสียของตระกูล N เกือบทั้งหมดครับ
-
ที่เม้นต์บนว่ามาก็ไม่ผิดครับ
แต่ส่วนตัวผมชอบเครื่องรุ่นสุดท้ายของ gen มันมากกว่า เพราะจะเก็บปัญหาของตัวมันเองหมดแล้ว .. เครื่อง gen ใหม่ มันจะแก้ข้อจำกัดของ gen เก่าก็จริง ปต่มันก็อาจจะมีปัญหาใหม่ๆโผล่มาได้อีก
อย่างตอนเปลี่ยนจากเครื่องบล๊อค M มาบล๊อค N ใหม่ๆ (สมัย 318 E46 เปลี่ยนไมเนอร์เชนจ์) คนใช้เครื่องบล๊อค N ก็บ่นกันเยอะว่าปัญหาเยอะกว่าบล๊อค M
-
ขอตอบสั้นๆง่ายๆว่าเครื่องตระกูล B เป็นเครื่องที่ผลิตออกมาแทนแล้วแก้ไขข้อเสียของตระกูล N เกือบทั้งหมดครับ
เข้าใจเลย ขอบคุณครับ ;D ;D
-
ถ้าจะตอบเรื่องความทนทาน ตอบยากมากกกกกครับ เพราะ B47 อายุยังน้อย
N47 นี่ รู้ๆกันแล้วว่าถ้าวิ่งได้ถึงสามแสนโลแล้วไม่ต้องซ่อมอะไรเลย ก็เรียกว่าถูกหวยครับ เพราะอย่างแรก ๆ ที่จะโดนก็มูเล่หน้าเครื่อง ท่อร่วมไอดีตัน ปั๊มแรงดันสุง เทอร์โบ(Garrett Honeywell ที่ Misubishi Heavy Industry ทำ Variable Control ให้) พัง อาการข้างเคียงจุก ๆ จิกๆ ตั้งแต่ท่อน้ำรั่ว ท่ออากาศรั่ว ท่อร่วมลิ้นท่อร่วม..... เยอะอะครับ ปิดท้ายด้วย โซ่ราวลิ้นดังเป็นรถตัดหญ้า ก็เรียกว่ามันไม่ได้ทนทานอะไรเลยแล้วครับ
รอดู B47 ครับ
-
ถ้าจะตอบเรื่องความทนทาน ตอบยากมากกกกกครับ เพราะ B47 อายุยังน้อย
N47 นี่ รู้ๆกันแล้วว่าถ้าวิ่งได้ถึงสามแสนโลแล้วไม่ต้องซ่อมอะไรเลย ก็เรียกว่าถูกหวยครับ เพราะอย่างแรก ๆ ที่จะโดนก็มูเล่หน้าเครื่อง ท่อร่วมไอดีตัน ปั๊มแรงดันสุง เทอร์โบ(Garrett Honeywell ที่ Misubishi Heavy Industry ทำ Variable Control ให้) พัง อาการข้างเคียงจุก ๆ จิกๆ ตั้งแต่ท่อน้ำรั่ว ท่ออากาศรั่ว ท่อร่วมลิ้นท่อร่วม..... เยอะอะครับ ปิดท้ายด้วย โซ่ราวลิ้นดังเป็นรถตัดหญ้า ก็เรียกว่ามันไม่ได้ทนทานอะไรเลยแล้วครับ
รอดู B47 ครับ
ต้องใช้กี่โลโดยที่ไม่มีเสียอะครับ ถึงเรียกว่าทนทานหายห่วง
-
ถ้าจะตอบเรื่องความทนทาน ตอบยากมากกกกกครับ เพราะ B47 อายุยังน้อย
เสียชื่อผู้ผลิตเครื่องยนต์แห่งบาวาเรียหมด
N47 นี่ รู้ๆกันแล้วว่าถ้าวิ่งได้ถึงสามแสนโลแล้วไม่ต้องซ่อมอะไรเลย ก็เรียกว่าถูกหวยครับ เพราะอย่างแรก ๆ ที่จะโดนก็มูเล่หน้าเครื่อง ท่อร่วมไอดีตัน ปั๊มแรงดันสุง เทอร์โบ(Garrett Honeywell ที่ Misubishi Heavy Industry ทำ Variable Control ให้) พัง อาการข้างเคียงจุก ๆ จิกๆ ตั้งแต่ท่อน้ำรั่ว ท่ออากาศรั่ว ท่อร่วมลิ้นท่อร่วม..... เยอะอะครับ ปิดท้ายด้วย โซ่ราวลิ้นดังเป็นรถตัดหญ้า ก็เรียกว่ามันไม่ได้ทนทานอะไรเลยแล้วครับ
รอดู B47 ครับ
-
Bmw 525d f10 lci ปี2016
นี่เป็นเครื่องb47 แล้วใช่ไหมครับ
-
Bmw 525d f10 lci ปี2016
นี่เป็นเครื่องb47 แล้วใช่ไหมครับ
ยังเป็นNครับ แต่520d lci เป็นBแล้ว
-
Bmw 525d f10 lci ปี2016
นี่เป็นเครื่องb47 แล้วใช่ไหมครับ
ยังเป็นNครับ แต่520d lci เป็นBแล้ว
เสียดายไม่ได้เครื่องบล็อค B
-
ผมใช้มาแล้วทั้งสองเครื่อง
เครื่อง n47 พูเล่หน้าเครื่องผมเปลี่ยนตอน 1.8 แสนโล ล้างท่อร่วมไอดีที่ 1 แสนโล นอกนั้นไม่เคยเสีย ขายไปตอน 2 แสนโล
เครื่อง b 47 ยังต้องรออีกสักพัก เพิ่งใช้งานได้ไม่นาน
ถ้าพูดถึงเรื่องประสิทธิภาพ ผมมองว่าไม่ต่างเลยครับ แต่เรื่องเสียงเครื่อง b47 เงียบกว่าเล็กน้อย อัตราเร่ง การกินน้ำมันพอๆกันทั้งสองรุ่นครับ
-
:-[
B47 ใน 520d F10 กินนำ้มันน้อยครับ
ตั้งต้นที่ 21กิโลเมตร/ลิตร ซึ่งประหยัดมากสำหรับรถพิกัดนี้
-
ส่วนตัวใช้เครื่อง N47 อยู่ เป็นยุคท้ายของ N47 ด้วย เพราะซื้อมาตอนปี 2014 ที่ B47 ก็เข้าไทยปลายปี 2014
N47 ผมว่ามา 1 แสนกิโลแล้ว ยังไม่มีอะไรเสียครับ ยังเร่งดีเหมือนเดิม เข้า0 ปกติ ไม่ได้ซ่อมอะไรเพิ่มเติมนอกเหนือ BSI ครับ