Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Smith686 ที่ มิถุนายน 30, 2019, 13:42:55

หัวข้อ: แนวโน้มและทิศทางรถไฟฟ้าในมุมมองนักธุรกิจรถยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: Smith686 ที่ มิถุนายน 30, 2019, 13:42:55
https://youtu.be/lutWTqoGbr4 (https://youtu.be/lutWTqoGbr4)
หัวข้อ: Re: แนวโน้มและทิศทางรถไฟฟ้าในมุมมองนักธุรกิจรถยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: bmmac ที่ มิถุนายน 30, 2019, 14:18:45
ผมอยากใช้นะรถไฟฟ้า
แต่ ขอ
1. แบตเตอรี่ ให้มีความเสถียรในแง่ราคาและ ความทนทาน
2. ราคาสำเร็จรูป ไม่ควรแพงมาก
3. การชาร์จไฟ ถ้าผมต้องการใช้ แหล่งพลังงานจากแสงอาทิตย์
    อุปกรณ์ที่จะมา รองรับเงื่อนไขนี้ ไม่ควรมีราคาแพงมาก
4. การชาร์จหนึ่งครั้ง ควรวิ่งได้ อย่างน้อย 300 กิโลเมตร
    โดยความเร็ว กับ ระยะเวลาในการใช้งาน และระยะทางที่ขับได้ ต้องไม่สอดคล้องกัน
     คือ สตารท์รถทิ้งไว้ แน่นอน ใช้แบตฯ แต่แบตต้องไม่หมด มาก ขับเร็ว ใช้พลังงานจากแบตมาก
     แบตไม่สามารถวิ่งได้ระยะทางที่ต้องการ
ที่ผ่านมาก ผมสังเกตุ ถ้ามีรถที่สามารถเสียบปลั๊กได้ ก็สามารถจอดที่ช่องจอดสำหรับชาร์จไฟฟ้าที่ห้างๆ ได้
แต่กว่าเจ้าของจะกลับมา หรือกว่าจะเสร็จธุระ  มีช่องเสียบแค่ สอง ช่อง ไม่ต้องหวังที่จะหาที่เสียบ
หัวข้อ: Re: แนวโน้มและทิศทางรถไฟฟ้าในมุมมองนักธุรกิจรถยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: Smith686 ที่ มิถุนายน 30, 2019, 15:41:08
ประเทศอาร์เจนตินา เป็นประเทศแหล่งแร่ลิเทียมและมีปริมาณการสำรองแร่ลิเทียมติดอันดับต้นๆ ของโลก เช่นเดียวกับ ประเทศโบลิเวีย และ ประเทศชิลี ซึ่งปริมาณการผลิตแร่ลิเทียมของทั้ง 3 ประเทศถือเป็นสัดส่วนการผลิตเกือบครึ่งของการผลิตทั้งโลก

http://www.thansettakij.com/content/193773 (http://www.thansettakij.com/content/193773)
หัวข้อ: Re: แนวโน้มและทิศทางรถไฟฟ้าในมุมมองนักธุรกิจรถยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: lay ที่ มิถุนายน 30, 2019, 17:33:25
ใครฟังจบ กรุณาช่วย เขียนสั้นๆ..(ที่เกี่ยวกับรถไฟฟ้าให้อ่านหน่อยครับ) ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: แนวโน้มและทิศทางรถไฟฟ้าในมุมมองนักธุรกิจรถยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: Smith686 ที่ มิถุนายน 30, 2019, 18:40:20
ใครฟังจบ กรุณาช่วย เขียนสั้นๆ..(ที่เกี่ยวกับรถไฟฟ้าให้อ่านหน่อยครับ) ขอบคุณครับ

       เขาสรุปว่า รถไฟฟ้าคงจะมา  มาเร็วมาช้าขึ้นอยู่กับการสนับสนุนจากรัฐบาล  ปัญหาของรถไฟฟ้าคือวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตแบตเตอรี่รถไฟฟ้าที่ปัจจุบันคือลิเธี่ยม  ถ้ามีการใช้รถไฟฟ้าเยอะลิเธี่ยมจะแพงขึ้น  ประเทศที่มีวัตถุดิบลิเธี่ยมเยอะจะรวย  ราคาน้ำมันจะถูกลง  ประเทศผู้ผลิตน้ำมันจะมีรายได้ลดลง  พอน้ำมันถูกลงก็จะจูงใจให้คนอยากใช้รถน้ำมันต่อไป  น้ำมันคงจะไม่ถูกใช้จนหมดโลก  แต่จะมีสิ่งขับเคลื่อนพลังงานอย่างอื่นแทน   รถไฟฟ้าน่าจะเป็นแค่ทางผ่าน  จุดหมายปลายทางของเชื้อเพลิงรถยนต์น่าจะเป็นไฮโดเจนเพราะเป็นพลังงานสะอาดอย่างแท้จริง  ไม่สร้างมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม 
หัวข้อ: Re: แนวโน้มและทิศทางรถไฟฟ้าในมุมมองนักธุรกิจรถยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: masuoka ที่ มิถุนายน 30, 2019, 19:43:09
ปัญหาอีกอย่าง มันไม่ได้ราคาถูกอย่างที่คิดนี่สิ วัตถุดิบที่จะนำไปใช้ทำแบตเตอรี่ มันมีจำกัด
หัวข้อ: Re: แนวโน้มและทิศทางรถไฟฟ้าในมุมมองนักธุรกิจรถยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: Night_Angel ที่ มิถุนายน 30, 2019, 20:52:43
วัตถุดิบมีจำกัด ความกังวลว่า ขยะแบ๊ตเตอรรี่ จะเป็นมลพิษ ที่เคยกลัว  ตอนนี้กลายเป็นว่า  สามารรถ นำกลับมาใช้ใหม่ได้ทั้งหมด 

ความกลัวว่าแร่หายากเหล่านี้จะราคาสูงขึ้นแน่นอน  ในเมื่อสามารถ นำกลับมาใช้ใหม่ได้หมดจริงแล้ว  แค่ช่วงแรกที่จะพุ่ง หลังจากนั้นก็จะลดลง

เพราะ ลิเที่ยม ที่เคยใช้ในแบ๊ตเก่าสามารถ รีเซล มาใช้ใหม่ได้ทั้งหมด 

แน่นอนมันจะถูกลง
หัวข้อ: Re: แนวโน้มและทิศทางรถไฟฟ้าในมุมมองนักธุรกิจรถยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: MUK ที่ มิถุนายน 30, 2019, 22:26:25
ปัญหาของเราคือทุกอย่างที่ประเทศอื่นเขาไม่มีเพราะเรายืนด้วยขาคนอื่น ตัวรถ แหล่งพลังงาน ทำให้ยังไงก็ไม่ถนัดและยากที่จะควบคุม
หัวข้อ: Re: แนวโน้มและทิศทางรถไฟฟ้าในมุมมองนักธุรกิจรถยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: ต้วมเตี้ยม ที่ กรกฎาคม 01, 2019, 06:53:04
ความหวังใหม่...
ติดตามเทคโนโลยี การพัฒนาแบตเตอรี่พลังงานน้ำเค็มให้ดีครับ....
เติมน้ำเกลือในแบตเตอรี่แล้วจ่ายกระแสไฟฟ้ามาใช้ได้ทันที ไม่ต้องรอเสียบปลั้กชาร์จนาน กำลังวิจัยสำหรับรถไฟฟ้า
หัวข้อ: Re: แนวโน้มและทิศทางรถไฟฟ้าในมุมมองนักธุรกิจรถยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: DiKiBoyZ ที่ กรกฎาคม 01, 2019, 09:20:13
ณ เทตโนโลยี ปัจจุบัน ที่ผมอยากเห็น คือ
- ราคาจับต้องได้ "กว่านี้" และควรจะถูกลงเรื่อยๆ
- การชาร์จควรจะใช้เวลาน้อยกว่านี้(อันนี้เข้าใจข้อจำกัด ปัจจุบันทำดีที่สุดแล้ว)
- ควรมีบริการจัดการเรื่อง charging station ให้ชัดเจนกว่านี้

สมัยก่อน ถ่านตราแพะ ตราแกะ ตราแมว ว่าดีแล้ว พอมาเจอ National สีเขียว สีดำ เข้าไปถึงกับเจ๊งเลยดีเดียว ต่อมาเจอพวก Alkaline มา National ก็แทบไม่มียืนเหมือนกัน ฉันใดก็ฉันนั้น
หัวข้อ: Re: แนวโน้มและทิศทางรถไฟฟ้าในมุมมองนักธุรกิจรถยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: Jacob ที่ กรกฎาคม 01, 2019, 12:35:01
ความหวังใหม่...
ติดตามเทคโนโลยี การพัฒนาแบตเตอรี่พลังงานน้ำเค็มให้ดีครับ....
เติมน้ำเกลือในแบตเตอรี่แล้วจ่ายกระแสไฟฟ้ามาใช้ได้ทันที ไม่ต้องรอเสียบปลั้กชาร์จนาน กำลังวิจัยสำหรับรถไฟฟ้า
น่าสนใจมากครับ นวัตกรรมใหม่ๆของแบตเตอรี่ เค้าพัฒนากันไปไกลจริงๆ แต่ไม่รู้ว่าแบตชนิดนี้ชาร์จนานแค่ไหน อายุการใช้งานนานมั้ย คงต้องรอข้อมูลกัน
https://board.postjung.com/887405
ปล.สำหรับผมมองว่ารถไฟฟ้ายังพัฒนาได้อีกไกล ทั้งเรื่องแบต เรื่องการผลิตไฟฟ้า ต่างกับรถน้ำมันที่เริ่มถึงจุดอิ่มตัว คงไม่ประหยัดไปมากกว่านี้ แล้วก็มีแต่จะหมดไปสร้างทดแทนไม่ได้ ดังนั้นยังไงก็ต้องมีการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานแบบใหม่ ส่วนไฮโดรเจนผมเฉยๆนะ เพราะพลังงานที่ได้ไม่คุ้มกับพลังงานที่เสียไปกับการผลิต ยังไงก็เกิดยาก

หัวข้อ: Re: แนวโน้มและทิศทางรถไฟฟ้าในมุมมองนักธุรกิจรถยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: delete ที่ กรกฎาคม 01, 2019, 16:41:14
ดูคลิปไม่ได้ ที่ทำงานบล็อกยูทูป 555
แต่ขอแปะข่าวพี่โต ว่าเค้าคิดไงกับบ้านเราและรถไฟฟ้าละกัน อิอิ

ออกข่าวภาษาไทย
https://www.marketingoops.com/news/biz-news/toyota-invest-ev-in-indonesia/

ข่าวภาษาอังกฤษจากสำนักข่าวไทย
https://www.bangkokpost.com/auto/1703020/toyota-to-invest-2bn-in-indonesia

ออกข่าวรอยเตอร์
https://www.reuters.com/article/us-toyota-indonesia/toyota-to-invest-2-billion-developing-electric-vehicles-in-indonesia-idUSKCN1TS1SL

ออกข่าวสื่อEV
https://electrek.co/2019/06/27/toyota-2billion-indonesia-evs/

หัวข้อ: Re: แนวโน้มและทิศทางรถไฟฟ้าในมุมมองนักธุรกิจรถยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: huiimanoid ที่ กรกฎาคม 01, 2019, 16:58:41
ช่วงนี้เป็นกระแส แต่พอครบกำหนดที่ต้องเปลี่ยนแบตทั้งชุด เอาง่ายๆ ที่แน่ๆ MG ZS EV เค้ารับประกัน 8 ปี แต่พอหมดอายุครบ สมมุติให้ถึง 10 ปี แล้วต้องเปลี่ยน
ราคาชุดแบต ไม่ใช่น้อยๆ คงไม่เท่ากับแบตน้ำกรดลูกละ 2-3 พัน เปลี่ยนทั้งชุด 45Kw จะรวมทั้งหมดเป็นค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ไม่น่าต่ำกว่า 6-8 หมื่น นั่นคือ ถัวเฉลี่ยค่าแบต/ต่อปี ที่ 10,000.-
ไหนจะค่าชาร์จต่อครั้ง อันนี้เอาไปเฉลี่ยค่าใช้จ่ายต่อกม. มันจึงถูกจริง แม้ว่ารถเครื่องยนต์สันดาปฯ จะมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงแพงกว่า แต่โดยเฉพาะรวมที่ 10 ปี เท่าๆ กัน อาจจะถูกกว่า
ค่าการเปลี่ยนแบตฯ ในรถ EV เสียด้วยซ้ำ (ดูอย่าง Hybrid แบตฯ ชุดหนึ่งเหยียบแสน) แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่มีพลังงานทดแทน อย่างไฮโดรเจน ที่มาจากน้ำแล้วจริงๆ อันนั้นจึงดูแล้วน่าสนใจกว่าครับ
แต่ก็ถือว่า EV ได้ปูแนวทางเอาไว้ให้
หัวข้อ: Re: แนวโน้มและทิศทางรถไฟฟ้าในมุมมองนักธุรกิจรถยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: Symphonic ที่ กรกฎาคม 01, 2019, 17:10:33
ช่วงนี้เป็นกระแส แต่พอครบกำหนดที่ต้องเปลี่ยนแบตทั้งชุด เอาง่ายๆ ที่แน่ๆ MG ZS EV เค้ารับประกัน 8 ปี แต่พอหมดอายุครบ สมมุติให้ถึง 10 ปี แล้วต้องเปลี่ยน
ราคาชุดแบต ไม่ใช่น้อยๆ คงไม่เท่ากับแบตน้ำกรดลูกละ 2-3 พัน เปลี่ยนทั้งชุด 45Kw จะรวมทั้งหมดเป็นค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ไม่น่าต่ำกว่า 6-8 หมื่น นั่นคือ ถัวเฉลี่ยค่าแบต/ต่อปี ที่ 10,000.-
ไหนจะค่าชาร์จต่อครั้ง อันนี้เอาไปเฉลี่ยค่าใช้จ่ายต่อกม. มันจึงถูกจริง แม้ว่ารถเครื่องยนต์สันดาปฯ จะมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงแพงกว่า แต่โดยเฉพาะรวมที่ 10 ปี เท่าๆ กัน อาจจะถูกกว่า
ค่าการเปลี่ยนแบตฯ ในรถ EV เสียด้วยซ้ำ (ดูอย่าง Hybrid แบตฯ ชุดหนึ่งเหยียบแสน) แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่มีพลังงานทดแทน อย่างไฮโดรเจน ที่มาจากน้ำแล้วจริงๆ อันนั้นจึงดูแล้วน่าสนใจกว่าครับ
แต่ก็ถือว่า EV ได้ปูแนวทางเอาไว้ให้

แบตรถ Hybrid ที่พี่ว่าราคาชุดละเหยียบแสน แบตพวกนั้นมีความจุราวๆ 2 kw เองฮะ
เมื่อเทียบกับแบตรถ EV อย่าง MG ZS มี่ 44 kw แล้ว ราคาคงไม่ใช่ 6-8 หมื่นหรอกครับ
แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ ทุกคนเลี่ยงที่จะให้ข้อมูลเรื่องราคาครับ (แต่ผมเดาว่าต้องมี 3-4 แสนฮะ)
หัวข้อ: Re: แนวโน้มและทิศทางรถไฟฟ้าในมุมมองนักธุรกิจรถยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: Jacob ที่ กรกฎาคม 01, 2019, 17:55:57
ช่วงนี้เป็นกระแส แต่พอครบกำหนดที่ต้องเปลี่ยนแบตทั้งชุด เอาง่ายๆ ที่แน่ๆ MG ZS EV เค้ารับประกัน 8 ปี แต่พอหมดอายุครบ สมมุติให้ถึง 10 ปี แล้วต้องเปลี่ยน
ราคาชุดแบต ไม่ใช่น้อยๆ คงไม่เท่ากับแบตน้ำกรดลูกละ 2-3 พัน เปลี่ยนทั้งชุด 45Kw จะรวมทั้งหมดเป็นค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ไม่น่าต่ำกว่า 6-8 หมื่น นั่นคือ ถัวเฉลี่ยค่าแบต/ต่อปี ที่ 10,000.-
ไหนจะค่าชาร์จต่อครั้ง อันนี้เอาไปเฉลี่ยค่าใช้จ่ายต่อกม. มันจึงถูกจริง แม้ว่ารถเครื่องยนต์สันดาปฯ จะมีค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงแพงกว่า แต่โดยเฉพาะรวมที่ 10 ปี เท่าๆ กัน อาจจะถูกกว่า
ค่าการเปลี่ยนแบตฯ ในรถ EV เสียด้วยซ้ำ (ดูอย่าง Hybrid แบตฯ ชุดหนึ่งเหยียบแสน) แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่มีพลังงานทดแทน อย่างไฮโดรเจน ที่มาจากน้ำแล้วจริงๆ อันนั้นจึงดูแล้วน่าสนใจกว่าครับ
แต่ก็ถือว่า EV ได้ปูแนวทางเอาไว้ให้

แบตรถ Hybrid ที่พี่ว่าราคาชุดละเหยียบแสน แบตพวกนั้นมีความจุราวๆ 2 kw เองฮะ
เมื่อเทียบกับแบตรถ EV อย่าง MG ZS มี่ 44 kw แล้ว ราคาคงไม่ใช่ 6-8 หมื่นหรอกครับ
แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ ทุกคนเลี่ยงที่จะให้ข้อมูลเรื่องราคาครับ (แต่ผมเดาว่าต้องมี 3-4 แสนฮะ)
แต่ก็แปลกนะครับ ถ้าราคาแบตแพงมากเพราะความจุต่างกันมาก ทำไมขายได้ในราคาเท่ากัน  8) ถ้าดูแนวโน้มจากอดีตจนปัจจุบัน ค่าแบตเทียบกับประสิทธิภาพมีราคาถูกลงเรื่อยๆ ซึ่งผมว่าก็เป็นแนวโน้มที่ดี ส่วนน้ำมันจะถูกลงเรื่อยๆมั้ย... กี่ปีมาแล้วที่มันไม่เคยถูก (ถ้าวันนึงคนเลิกใช้แล้วมันไม่มีราคา อันนั้นก็ไม่ถือว่าลดนะ)
ปล. พากันชื่นชมพี่โต สุดท้ายไปลงทุนที่อินโดซะงั้น ไม่เคยเห็นหัวไทยเลย
หัวข้อ: Re: แนวโน้มและทิศทางรถไฟฟ้าในมุมมองนักธุรกิจรถยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: Fly to dream ที่ กรกฎาคม 01, 2019, 19:10:16
ความหวังใหม่...
ติดตามเทคโนโลยี การพัฒนาแบตเตอรี่พลังงานน้ำเค็มให้ดีครับ....
เติมน้ำเกลือในแบตเตอรี่แล้วจ่ายกระแสไฟฟ้ามาใช้ได้ทันที ไม่ต้องรอเสียบปลั้กชาร์จนาน กำลังวิจัยสำหรับรถไฟฟ้า

น้ำเค็มเปลี่ยนมาเป็นไฟฟ้า พลังงานเป็นเขื่อนเลยมั้งครับถึงจะเอามาวิ่งรถได้    น้ำกัลเกลือมันไม่ได้มีพลังงานขนาดนั้น
หัวข้อ: Re: แนวโน้มและทิศทางรถไฟฟ้าในมุมมองนักธุรกิจรถยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: lay ที่ กรกฎาคม 01, 2019, 22:45:24
ใครฟังจบ กรุณาช่วย เขียนสั้นๆ..(ที่เกี่ยวกับรถไฟฟ้าให้อ่านหน่อยครับ) ขอบคุณครับ

       เขาสรุปว่า รถไฟฟ้าคงจะมา  มาเร็วมาช้าขึ้นอยู่กับการสนับสนุนจากรัฐบาล  ปัญหาของรถไฟฟ้าคือวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตแบตเตอรี่รถไฟฟ้าที่ปัจจุบันคือลิเธี่ยม  ถ้ามีการใช้รถไฟฟ้าเยอะลิเธี่ยมจะแพงขึ้น  ประเทศที่มีวัตถุดิบลิเธี่ยมเยอะจะรวย  ราคาน้ำมันจะถูกลง  ประเทศผู้ผลิตน้ำมันจะมีรายได้ลดลง  พอน้ำมันถูกลงก็จะจูงใจให้คนอยากใช้รถน้ำมันต่อไป  น้ำมันคงจะไม่ถูกใช้จนหมดโลก  แต่จะมีสิ่งขับเคลื่อนพลังงานอย่างอื่นแทน   รถไฟฟ้าน่าจะเป็นแค่ทางผ่าน  จุดหมายปลายทางของเชื้อเพลิงรถยนต์น่าจะเป็นไฮโดเจนเพราะเป็นพลังงานสะอาดอย่างแท้จริง  ไม่สร้างมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม
..ขอบคุณมากครับ
หัวข้อ: Re: แนวโน้มและทิศทางรถไฟฟ้าในมุมมองนักธุรกิจรถยนต์
เริ่มหัวข้อโดย: Jacob ที่ กรกฎาคม 02, 2019, 08:45:51
ความหวังใหม่...
ติดตามเทคโนโลยี การพัฒนาแบตเตอรี่พลังงานน้ำเค็มให้ดีครับ....
เติมน้ำเกลือในแบตเตอรี่แล้วจ่ายกระแสไฟฟ้ามาใช้ได้ทันที ไม่ต้องรอเสียบปลั้กชาร์จนาน กำลังวิจัยสำหรับรถไฟฟ้า

น้ำเค็มเปลี่ยนมาเป็นไฟฟ้า พลังงานเป็นเขื่อนเลยมั้งครับถึงจะเอามาวิ่งรถได้    น้ำกัลเกลือมันไม่ได้มีพลังงานขนาดนั้น
ถ้าพูดถึงแบตเตอรี่แบบใหม่ก็เป็น silicon ที่ใช้แทน lithium
https://youtu.be/lATQEbd2Yh4

แต่ ionic fluid หรือน้ำเกลือ ก็เป็นเทคโนโลยีใหม่สำหรับ fuel cell เพราะไฮโดรเจนต้องใช้แรงอัดสูงจึงอาจไม่ปลอดภัย
https://youtu.be/jGQiM0kuJ3o
https://youtu.be/F3DfryeUUuU

ซึ่งนวัตกรรมใหม่ๆก็ย่อมราคาสูง คงต้องรอดูว่าจะพัฒนาในเชิงพาณิชย์ได้มั้ย ยุคนี้ก็เลยเป็นยุคแบตลิเธียมก่อน ราคาก็เริ่มลดลงมาเรื่อยๆ ส่วนยุคต่อไปจะเป็นอะไรต้องรอดูกัน