Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: nithinium ที่ กรกฎาคม 03, 2019, 15:59:42
-
พอดีไปเจอโปรฟรีดาวน์ ยั่วยวนใจมาก ตัวดีเซลล่างสุด
เห็นว่าประหยัดมากจะเอามาใช้ในเมือง ใครมีอะไรแนะนำไหมครับ โจทย์คือประหยัดน้ำมันเอามาใช้วันละ 60โล ในสภาพรถติดหนัก
ในใจตอนนี้มี swift mazda2 mg3
ขอบคุณครับ
-
ละอะไรคือน่าเล่นละ อยากได้อะไร รถทุกคันมันน่าเล่นหมดแหละ
-
3 ตัวเลือกนี้ ผมจิ้ม swift ครับ m2d กับ mg ผมไม่กล้ารับความเสี่ยงของตัวรถ
-
ใช้แต่ในเมือง อยู่กับรถติดเยอะๆ อย่าเอาดีเซลเลยครับ
1.ไม่ได้ใช้ข้อได้เปรียบของดีเซลเท่าไหร่เลย ออกเบนซินเก็บส่วนต่างไปกินหนมดีกว่าครับ เดินทางไกลจริงๆ ถ้าไม่ได้ไปขึ้นเขา แทบไม่ได้ใช้พลังดีเซลให้เห็นความต่าง
2.โอกาส DPF มีปัญหากับสภาวะรถติดก็เยอะอยู่นะ ถึงหลังๆ จะเริ่มมีรายการแก้ปัญหา+มีน้ำมันยูโร5 มาให้เติมมากขึ้น
3.จริงๆ เบนซินค่าน้ำมันอาจจะประหยัดกว่าเยอะด้วยซ้ำ ดีเซลควรจะเติมพรีเมียม ยูโร5 ค่าน้ำมันดีดไปอีก
..........
ส่วนตัวใช้ดีเซลมา 4ปีครึ่ง แสนกว่าโล ก็ ok. นะครับ ยังไม่เจอแจ๊คพอด(ไม่อยากเจอด้วย)
แต่ผมใช้งานตรงกันข้ามเลยครับ ออก ตจว.วันหยุด ขึ้นเขาไปเหนือลงใต้ตลอด วันธรรมดาจอดขี่จักรยานไปทำงาน แทบไม่เจอรถติดครับ
สิ่งอื่นๆ
ศูนย์ค่อนข้างแย่ คิวนาน ค่าแรงไม่ได้ถูก ถ้าชน อะไหล่รอนานกว่าเจ้าตลาดทั้งๆที่ตอนนี้ขายดีเทียบเคียงเจ้าตลาด - - "
..........
แต่ตัวเลือกในใจคุณนี่ก็นะ เป็นผมอาจจะไม่เอาเลย(ผมเอา jazz/city ทั้งๆที่ใกล้ตกรุ่น) MG ก็เสี่ยง Swift ก็พอมีเรื่องบ้าง....ก็คง Swift หรือ 2 เบนซินครับ
-
ละอะไรคือน่าเล่นละ อยากได้อะไร รถทุกคันมันน่าเล่นหมดแหละ
หมายถึงน่าเอามาใช้ครับผม
-
ใช้แต่ในเมือง อยู่กับรถติดเยอะๆ อย่าเอาดีเซลเลยครับ
1.ไม่ได้ใช้ข้อได้เปรียบของดีเซลเท่าไหร่เลย ออกเบนซินเก็บส่วนต่างไปกินหนมดีกว่าครับ เดินทางไกลจริงๆ ถ้าไม่ได้ไปขึ้นเขา แทบไม่ได้ใช้พลังดีเซลให้เห็นความต่าง
2.โอกาส DPF มีปัญหากับสภาวะรถติดก็เยอะอยู่นะ ถึงหลังๆ จะเริ่มมีรายการแก้ปัญหา+มีน้ำมันยูโร5 มาให้เติมมากขึ้น
3.จริงๆ เบนซินค่าน้ำมันอาจจะประหยัดกว่าเยอะด้วยซ้ำ ดีเซลควรจะเติมพรีเมียม ยูโร5 ค่าน้ำมันดีดไปอีก
..........
ส่วนตัวใช้ดีเซลมา 4ปีครึ่ง แสนกว่าโล ก็ ok. นะครับ ยังไม่เจอแจ๊คพอด(ไม่อยากเจอด้วย)
แต่ผมใช้งานตรงกันข้ามเลยครับ ออก ตจว.วันหยุด ขึ้นเขาไปเหนือลงใต้ตลอด วันธรรมดาจอดขี่จักรยานไปทำงาน แทบไม่เจอรถติดครับ
สิ่งอื่นๆ
ศูนย์ค่อนข้างแย่ คิวนาน ค่าแรงไม่ได้ถูก ถ้าชน อะไหล่รอนานกว่าเจ้าตลาดทั้งๆที่ตอนนี้ขายดีเทียบเคียงเจ้าตลาด - - "
..........
แต่ตัวเลือกในใจคุณนี่ก็นะ เป็นผมอาจจะไม่เอาเลย(ผมเอา jazz/city ทั้งๆที่ใกล้ตกรุ่น) MG ก็เสี่ยง Swift ก็พอมีเรื่องบ้าง....ก็คง Swift หรือ 2 เบนซินครับ
ขอบคุณครับ เคยลองไปอ่านในกลุ่ม mazda2 มีแต่เชียร์ดีเซลครับเลยชั่งใจอยู่
-
รอได้รอครับ ปลายปีนี้สนุกแน่
ดีเซลน่ากลัวตรงเครื่องสั่น ขับรถติดๆเบนซินน่าใช้กว่าครับ
เวลาซื้อก็เชียร์ๆกัน พอมีปัญหาไม่มีใครมาช่วยซ่อมด้วย แถมเข้าไปบ่นก็เจอคำบาดใจซะอีก
-
Mazda 2 1.5D มันไม่ค่อยถูกกับรถติดเท่าไหร่นะครับ
ว่าแต่ เติม B20 ได้มั้ย :P
-
2ดีเซลต้องไปตัดต่อนิดหน่อยจบแบบยาวๆเลย ขับแบบไม่ประหยัดมันยังประหยัดเลย (ขับของเพื่อนมา)
-
ถ้ายอมรับความเสี่ยงได้ถ้ามันมีปัญหา
ถ้าตัดเรื่องนี้ออกก็ถือว่าเป็นรถที่น่าใช้เลยละ
-
ฟรีดาวน์ แล้วโดนดอกเบี้ยเท่าไหร่ครับ เงื่อไขไฟแนนซ์เป็นไงครับ
-
ละอะไรคือน่าเล่นละ อยากได้อะไร รถทุกคันมันน่าเล่นหมดแหละ
หมายถึงน่าเอามาใช้ครับผม
ก็นั่นแหละ อยากได้อะไรในรถคันที่จะซื้อ ถ้ามันตรงกับที่อยากได้ก็ซื้อ
ถ้ามันไม่ตรงก็หาคันอื่นที่มันตรงกับใจมากที่สุด มันไม่มีรถที่ดีที่สุด คุ้มที่สุด มันไม่มีหรอก
ประเด็นแรกเลย อยากได้ diesel มั้ย ถ้าไม่อยากได้ไปคันอื่น ถ้าอยากได้ diesel มันก็มีตัวเลือกเดียว
เวลาซื้อรถ list มา ว่าอยากได้อะไร เช่น แรง ห้องโดยสารใหญ่ ขายต่อได้ราคา ซ่อมง่าย 0 เยอะ และอื่นๆ
ดูเป็นข้อๆ รถคันในที่มันอยู่ใน list มากที่สุด ก็คันนั้น
-
ฟรีดาวน์ แล้วโดนดอกเบี้ยเท่าไหร่ครับ เงื่อไขไฟแนนซ์เป็นไงครับ
ดอก 3.4 เงื่อนไขต้อง บช. เงินเดือน SCB ครับ
-
ถ้าใช้ในเมือง การจราจรติดขัดเป็นส่วนใหญ่ ไม่แนะนำอย่างยิ่งครับ โอกาสที่รถจะเผาเขม่าได้สมบูรณ์น้อยมาก เกรงว่า DPF จะตัน
-
เอา2Dมาใช้รถติดหนัก ไม่นานก็งานเข้าแน่ครับ
เอา ยาฤทธิ์ ติดlpg แทนครับ
-
ละอะไรคือน่าเล่นละ อยากได้อะไร รถทุกคันมันน่าเล่นหมดแหละ
หมายถึงน่าเอามาใช้ครับผม
ก็นั่นแหละ อยากได้อะไรในรถคันที่จะซื้อ ถ้ามันตรงกับที่อยากได้ก็ซื้อ
ถ้ามันไม่ตรงก็หาคันอื่นที่มันตรงกับใจมากที่สุด มันไม่มีรถที่ดีที่สุด คุ้มที่สุด มันไม่มีหรอก
ประเด็นแรกเลย อยากได้ diesel มั้ย ถ้าไม่อยากได้ไปคันอื่น ถ้าอยากได้ diesel มันก็มีตัวเลือกเดียว
เวลาซื้อรถ list มา ว่าอยากได้อะไร เช่น แรง ห้องโดยสารใหญ่ ขายต่อได้ราคา ซ่อมง่าย 0 เยอะ และอื่นๆ
ดูเป็นข้อๆ รถคันในที่มันอยู่ใน list มากที่สุด ก็คันนั้น
ครับผม พอดีผม list มาเป็น 3 ยี่ห้อนี้แล้วครับ เลยอยากลองสอบถามจากผู้ที่รู้หรือคุ้นเคยจริงๆ ครับ เผื่อพอจะช่วยเหลือหรือแนะนำเพิ่มจากที่ผมคิดได้ครับ
อย่างบางความเห็นก็ตอบได้ ค่อนข้างให้เหตุผลดีแล้วครับ ไอ้บางเหตุผลผมก็ไม่ได้เอามาคิดครับ อย่างขายต่อได้ราคา อันนี้ผมซื้อมาใช้ไม่ได้มาขายต่อเลยไม่รู้จะคิดทำไม
แต่ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นครับผมจะนำมาปรับใช้ครับผม
ขอขอบคุณทุกท่านสำหรับความเห็นครับ เหลืออย่างเดียวคือไม่เคยลองขับ swift เลย
-
ตัวเครื่องมันดี ความประหยัดมันดีนะ
แต่การเซอวิส การดูแลของ 0 ผมว่าไม่โดน
ใช้ในเมือง รถเบนซิน 1.2 นี่แหละ ประหยัดที่สุดละ
-
น้องชายผมใช้ 1.5 XD ตัวกลางครับ แต่ผมเป็นคนดูแลจัดการเรื่อง Maintenance นัดเข้าศูนย์ หาอู่สี ขอเล่าประสบการณ์แล้วกันนะครับ
รถปีครึ่ง ใช้ไปเกือบ 5 หมื่นโล แจ๊กพอตแตกน้ำมันเครื่อง(เกือบ)เกินตอน 37000 เพราะน้องผมใช้ในกรุงเทพเป็นหลัก โชคดีผมเจอก่อนมันจะแตะขีด X นี่ขนาดเติมแต่น้ำมันดีเซลพรีเมียมนะเนี่ย
อ่ะ ขอเล่าจุดเสียเป็นข้อๆ
1. น้ำมันเครื่องตัวนี้ ตามสเปกต้องผ่านมาตรฐาน ACEA C3 สำหรับรถที่มี DPF เพราะมีโอกาสนี้น้ำมันดีเซลจะปนเปื้อนในอ่างน้ำมันเครื่องสูงกว่าดีเซลปกติ จากขั้นตอน DPF regeneration - นมค.ของศูนย์ไม่แพงครับถ้าเทียบกับแบรนด์น้ำมันเครื่องตามตลาดที่มีสเปกนี้ (5ลิตรนิดๆ พันกลางๆ - ราคาวรจักร) แต่ปัญหาคือ ถ้าอยู่ต่างจังหวัดแล้วเจอเคสแบบผม หาตามร้านอะไหล่ยากมากๆ เจอกลางทาง+ศูนย์ปิด งานงอกแน่นอน
2. Coolant หายทีละนิดๆ ตอนนี้ตัดสินใจซื้อ coolant แท้ 1 ลิตรติดไว้ท้ายรถแล้วครับ กลัว :-X
3. จะเข้าศูนย์ก็นัดกันข้ามอาทิตย์ พื้นที่นั่งรอยังต้องปรับปรุงอีกเยอะกว่าจะสู้เจ้าตลาดได้ บางครั้งพนง.รับนัดคิวก็มึนๆ อ๊องๆ ตอนโทรนัดบอกว่าขอถ่ายน้ำมันเกียร์พร้อมเปลี่ยนกรอง ไปถึง กรองเกียร์ไม่มีในสต๊อก อ้าว ไหงงั้น พอจะถ่ายน้ำมันเกียร์ก็บอกว่าไม่แนะนำให้เปลี่ยน ... แหม พวก SA มาสด้าไม่รู้จักตำนาน ZF 6HP ของคนขับบีเอ็มสินะ ... ตัดสินใจไปอู่มาสด้าดีกว่า อ้อ ค่าแรงอัพเดทล่าสุด 780 บาทต่อชั่วโมง (ศูนย์ในจังหวัดติดกับกทม.แห่งหนึ่ง) แต่มีข้อดีอย่างหนึ่งที่ผมรู้สึกดีกว่าเข้าศูนย์ฮอนด้าที่บ้านตจว.คือ รับนัดเป็นนัด ไม่มีการลัดคิว
4. ซ่อมสีที่ดีลเลอร์ นัดยากไม่พอ หาที่ดีๆ ยากอีก - ตัดใจเข้าอู่ไปแล้วครับ รำคาญ
5. แบต 12V หมดไว ปีหน่อยๆ ก็ไปแล้วครับ ขนาดแบตแบบมีจุกเติมน้ำกลั่นที่ว่าทนๆ อ่ะนะ
ข้อดีล่ะ
1. ขับ 80-110 อัตราสิ้นเปลืองดีมาก เคยเลี้ยงได้ 33 กม/ลิตร ตามหน้าจอบนแดชบอร์ด ถ้าวิ่ง 120 บูสต์ติดละ กินหน่อย แต่ก็ประมาณ 23-25 กม/ลิตร (รถเดิมทุกอย่าง DPF ไม่ตัด EGR ไม่ปิด)
2. เทอร์โบติดบูสต์ไว แรงบิดรอบกลางดีมากตามขนาดรถในเซกเมนต์ ใช้ครึ่งคันเร่งเวลาเร่งแซงก็สบายๆ ถ้าคุณเท้าไม่หนักนะ
3. ช่วงล่างติดแข็ง ถ้าสายโยก เล่นโค้ง น่าจะชอบ
ส่วนตัวที่ทำให้คันนี้ไม่น่าซื้อ คือดอกเบี้ย 3.4% นี้แหล่ะ ผมได้ข้อเสนอมา 0.89% ดาวน์เกือบแสนหก
โอเค คุณไม่ต้องดาวน์ตรงนี้ผมเข้าใจได้ ไฟแนนซ์ก็มองว่าความเสี่ยงเยอะขึ้นเป็นธรรมดา
ลองพิจารณาดูครับ แต่ถ้า rate นี้ ผมไม่เอา
-
สำหรับผม ผมว่าน่าใช้ครับ
การหาข้อมูล เข้าศูนย์ maintain มัน ไม่ใช่ปัญหาสำหรับผม
แค่แรงบิดและอัตราสิ้นเปลืองได้แบบนั้น ผมก็ฟินแล้วครับ
-
คนรุ้จักที่ใช้มาสด้า 2 ดีเซล เท่าที่รู้ ขายทิ้งไปแล้วครับ
-
ผมใช้มา 2 ปี ปิด egr dpf แล้วน้ำมันเครื่องไม่เคยเพิ่มลดอีกเลย อัตราเร่งดี ประหยัดสุดๆ
step ต่อไปเปลี่ยนโบอัพ 190ม้า ::)
-
สิ่งที่ในคลับทำเพิ่มนะครับ
1 อุด dpf
2 ปิด epr
3 หาอู่หรือศูนย์เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ตามระยะ
4 ทำใจเรื่องไอเสียที่ดำขึ้น และค่าไอเสียไม่ผ่านมาตรฐาน
-
1. ดีใจที่ได้อ่านกระทู้นี้ ได้รู้มากขึ้น
2. เสียใจ / ผิดหวังที่ Mazda ตัดสินใจผลิตเครื่องรุ่นนี้ มาขายด้วย .. ไม่น่าเล้ยยย
-
0-100 ยังแพ้ jazz vios mt
-
ละอะไรคือน่าเล่นละ อยากได้อะไร รถทุกคันมันน่าเล่นหมดแหละ
ผมว่าเขาก็ระบุไว้ชัดเจนอยู่นะครับ ว่าต้องการรถประหยัดน้ำมัน
-
ขอบคุณความเห็นทุกท่านครับ
-
ถ้าเดาไม่ผิด อยู่นอกเมืองทำงานในเมืองรึเปล่าครับ
ถ้ามีโอกาสให้กดไล่เขม่าได้บ้างก็ดีครับ
ถ้าหมั่นดูแลน้ำมันเครื่องบ่อยๆก็โอเคแล้วครับ
ตัวรถดีครับ ประกอบดี ช่วงล่างโอเค เบรคใช้ได้ที่สำคัญคือขับแล้วมันมีฟิลลิ่งของรถจริงๆ ไม่เหมือนVios
-
มาตอบความเห็นอื่นนะครับ ;)
...มาสด้าไม่น่าทำเครื่องนี้มาเลย...ผมเห็นต่างครับ
เพียงแต่ว่ามันมาผิดเวลา และมาสด้า(ไทย) รีบเอามาขายเร็วไปครับ
ก็รู้ๆกันว่า ประเทศไทยปราบเซียน ทั้งคุณภาพน้ำมัน รถต้องการน้ำมันยูโร5 แต่เอามาขายในยุคที่มีแต่ยูโร4 (ที่หนักไปกว่านั้น ตอนนั้นตัวถูกแทบทุกค่าย ยูโร3ด้วยซ้ำ)
ทั้งสภาพการจราจร เทสไดร์ก็น้อยมาก แทบไม่เห็นมาทดสอบใน กทม. เลย ช่างก็ไม่มีประสบการณ์ รับมือเคสต่างๆไม่ค่อยจะได้
มันก็พังสิครับ แล้วไม่ใช่แค่ 1.5skyD มาสด้าแทบทุกเครื่องในยุคสกายเป็นหมด 2.0G ไฟโชว์ ช่วงแรก ตอนหลังปั้มท์ติก 2.2D น้ำดัน 1.2Gเกียร์(แต่น่าจะเป็นรุ่นที่สเถียรสุดแล้วถ้ามองยอดขายกับเคสปัญหา)
หวังว่า sky X คงได้บทเรียนนะครับ
......
jazz vios m/t 0-100 เร็วกว่า ... ก็ใช่ ....แต่
ผมเคยเอา Jazz GE 1.5vtec ไปขึ้นดอยแม่สลอง และปีต่อมา เอา mz2 skyD ไปขึ้นบ้าง ..... คนละเรื่องครับ รถแรงบิดดีๆเนี่ย ขึ้นเขาสนุกกว่าเห็นๆ
รถบ้าอะไร ขึ้นดอยอินทนนท์ปล่อยไหลไม่ต้องเร่งส่งตรงเนินพระธาตุความชัน 22% ได้หนะ(ใครปั่นจักรยานขึ้นดอยอินน่าจะรู้ว่าตรงนี้ชันขนาดไหนนะ)
อันนี้ไม่นับเรื่องช่วงล่างนะ
......
รถมันดีครับ แต่ไอ้ที่ทำเสียมันเพราะอะไร ก็รู้ๆกันอยู่นิ
......
เรื่อง DPF EGR
จริงๆ ไม่อยากแนะนำให้อุดนะ แต่ถ้าอยากมาก ขอเกิน3ปี หมดประกันแล้วว่ากัน
เพราะถ้ามีปัญหาจุดอื่น แก้ไขตัวเครื่องไปแล้วประกันขาด ...จบกันนะ
เพราะตอนนี้ เหมือนกับว่า ศูนย์จะเริ่มทยอยไล่แก้ ไล่เช็คให้แล้วแต่ที่ไม่ออกสื่อคิดว่า น่าจะมีผลกับเรื่องฟ้องร้อง(ถ้าประกาศ recall เหมือนยอมรับว่าผิด เลยไม่กล้าประกาศ...อันนี้ผมมโนนะ) แต่การไล่แก้ก็ไม่ได้รับประกันว่าปัญหามันจะจบนะครับ ยังต้องดูต่อไป
อีกอย่าง ในคลับ"ม้า"เยอะครับ ผมอยู่ตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่ไม่มีปัญหา
ก็เริ่มจากขายกล่องคันเร่ง พอเริ่มมีปัญหา ช่างอุด EGR ตัด DPF มาเต็มคลับ ....
ก็แล้วแต่ตัดสินใจกันละครับ รถคุณ เงินคุณ ผมไม่เกี่ยว.....
-
ละอะไรคือน่าเล่นละ อยากได้อะไร รถทุกคันมันน่าเล่นหมดแหละ
ผมว่าเขาก็ระบุไว้ชัดเจนอยู่นะครับ ว่าต้องการรถประหยัดน้ำมัน
+1 ผมว่า โจทย์เค้าก็ให้มานะ ว่าประหยัดน้ำมันในกรณีรถติดหนัก ไปกลับ 60 กม.
-
ผมได้มือสองดีเซลตัว top มา บอกเลยโคตรคุ้ม วิ่ง ตจว.กดคันเร่งตะบี้ตะบันยังได้ 20 โลลิตร
ขับหวานเย็นได้ 30 โลลิตร อนาคตอยากจะแรงก็ทำต่อได้อีก
-
ระยะทางที่วิ่งไม่เยอะมาก ใช้เบนซินคุ้มกว่า เก็บเงินส่วนต่างไว้
ถ้าวิ่ง ปีละ 30000-40000 km ค่อยคิดถึงดีเซลครับ
-
น่าใช้ครับ เพื่อนใช้อยุ่ อุด egr ตัด cat ออกใช้ยาวครับ และมันประหยัดมากเมื่อเทียบกับ Jazz ผม
-
แอบสงสัยนิดนึงครับ ถ้ามันตัน เครื่องจะสั่น แล้วรถสามารถวิ่งได้อยู่ไหม หรือมันดับไปดื้อๆ หรือสั่นแล้วฝืนขับต่อจะเสียหายร้ายแรงไหม
แล้วถ้ามีอาการ ต้องแก้ไขยังไงแบบถ้าไม่ดัดแปลงเครื่อง อู่นอกทำได้ไหม
ขอบคุณครับ
-
ละอะไรคือน่าเล่นละ อยากได้อะไร รถทุกคันมันน่าเล่นหมดแหละ
ผมว่าเขาก็ระบุไว้ชัดเจนอยู่นะครับ ว่าต้องการรถประหยัดน้ำมัน
+1 ผมว่า โจทย์เค้าก็ให้มานะ ว่าประหยัดน้ำมันในกรณีรถติดหนัก ไปกลับ 60 กม.
จริงด้วย อ่านแล้วก็ไม่น่าเสียเวลามาตอบเค้าเลย
-
ใช้ในเมือง แนะนำ เบนซินจะดีกว่าครับ
-
ไปกลุ่มไหนก็เชียร์กลุ่มนั้นครับ ผมเห็นทุกกลุ่มทั้งที่รถมีปัญหาหลักแทบทุกคัน ยังว่าไม่ได้เลย ขนาดเรื่องจริง
ฉะนั้น ฟังพี่จิม พูดในรายการบ่อยๆ เรื่องมาสด้าดีเซล จะตัดสินใจได้ทันทีครับ
-
ไม่รู้มาช้าไปรึเปล่า พึ่งว่างมาเล่นในบอร์ด
โจทย์คือต้องการรถประหยัดในการใช้งานในเมือง
โจทย์ต้องการแค่นี้ ตอบโจทย์ได้ครับ ตอบโจทย์ได้ดีด้วยในหัวข้อโจทย์นี้
แต่..................!!
ถ้าพี่กะเอามาแค่ใช้ในเมืองล้วนๆ บอกเลยว่า หนีไปครับ!!!!!
ดีเซล 1.5D ของ 2 มีปัญหาเครื่องสั่นเร่งไม่ขึ้นที่เกิดจากปัญหาในการกำจัดเขม่าที่เกิดขึ้นอยู่ ไม่มีใครรับประกันว่าจะแก้ได้ และ condition การใช้แบบนี้คือไม่ค่อยมีโอกาสได้วิ่งยาว วิ่งความเร็วนอกเมืองแบบนี้ ยิ่งจะทำให้เสี่ยงต่อการเกิดปัญหาเขม่าสูงขึ้นไปอีกครับ!! ยังไม่รวมค่าบำรุงรักษาปกติต่อให้รถไม่เกิดปัญหาโดยเฉลี่ยที่ดีเซลตัวนี้จะแพงกว่าเบนซิน 1.3G ด้วยครับ
ถ้าใช้แค่ในเมือง ไม่คุ้มค่าส่วนต่างราคาที่เพิ่มมาจากเบนซิน 90,000-130,000 บาทในออพชั่นเทียบเคียงเลยครับถ้าคุณไม่ใช่คนหลงใหลและใช้อัตราเร่งที่ดีเซลมีให้เป็นประจำ และไม่ได้ศึกษาด้านเครื่องยนต์กลไกอะไรเป็นกิจจะลักษณะ ไม่เบนซินที่ประหยัดงบมาเติมน้ำมันแทนอัตร่สิ้นเปลืองที่แปรผันตามสภาพการจราจรมากกว่า ก็ Eco car รุ่นอื่นไปเลยดีกว่าครับ
-
เห็นคนที่ทำงานใช้ มาสด้า 2 ดีเซล
1 คนแรกเป็น วิศวกร ผู้หญิง เหยียบกระจาย 120-140 ส อ เที่ยว ตจว ซัดกระจายหายห่วงเช่นกัน รถปกติไม่ได้มีซ่อมอะไรครับ แต่เห็นเธอบ่นว่าค่าเช็คระยะแพงมากกับมาสด้า เข้าศูนย์ไปโดนหลายพันบาททุกครั้ง ครั้งใหญ่ ๆ มี 8 พันขึ้น
2. ส่วนวิศวกรผู้ชายอีกคน ขับแบบนิ่ม ๆ ใน กทม ไม่ได้เที่ยวที่ไหน รถมีอาการมีปัญหาเครื่องสั่นเร่งไม่ขึ้นที่เกิดจากปัญหาในการกำจัดเขม่าที่เกิดขึ้น ปัยหาอื่นเค้าก็บอกมีบ้งนะครับ แต่ศูนย์จัดการให้ได้ แต่ก็ต้องรอคิวรับบริการ
สรุป ถ้าไม่ได้เอาไว้วิ่ง ตจว ใช้ความเร็วสูง ๆ หรือไปวิ่งขึ้นเขาขึ้นดอย ไม่แนะนำให้ซื้อดีเซลเช่นกัน ไปหาตัวเบนซินดีกว่า