Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Minister of Joy ที่ กรกฎาคม 03, 2019, 19:49:21
-
วันนี้เดินถนน รถติดๆ และมี fortuner trd หลังคาดำ มาอยู่ข้างๆ เห็นแล้วก็สวยดีเนอะ ปกติจะไม่ได้มอง PPV สักเท่าไหร่ พอเค้าขับเคลื่อนไปข้างหน้าอีกหน่อย ก็เห็นว่าเป็นตัวขับ 2 (เพราะไม่มี logo sigma 4)
พอไปสังเกตุ PPV หลายๆ คัน ก็มักจะเห็นแต่รุ่นขับ 2 ทั้งนั้น
คหสตผม (อาจจะกระแดะไปหน่อยนะ) คิดว่ารถพวกนี้ควรจะเป็น 4wd หมดรึเปล่า เพราะคือว่า it defeats the purpose of having a PPV... or a large SUV in the first place.
หรือว่าส่วนใหญ่คนที่ซื้อชอบความเท่ห์ของรถ (ผมว่ามันก็ดูแมนดีนะ บางรุ่นอย่าง FTN หรือ EVE ก็สวยดี
การขับขีระหว่าง 2wd กับ 4wd ในรถพวกนี้มันต่างกันเยอะมั้ยครับ และในมุมมองของผู้ที่ใช้ 2wd เคยคิดเสียดายที่ไม่ได้เอา 4wd ไปเลยมั้ยครับ
-
ถามตัวเองว่าจะได้ใช้ขับ 4 มั้ย
ถ้าอยู่ในเมืองอย่างเดียว ก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ขับ 4
แต่ถ้าคิดว่าจะได้ใช้ ก็ต้องซื้อขับ 4
-
ใช้ในเมืองเเทบไร้ค่ามากครับ กินนํ้ามันมากขึ้น อืดขึ้นจากการบันทุกหนักขึ้น ส่วนใหญ่ซื้อมาเพราะรถมันสวย เเละดูเป็นผู้ใหญ่
-
ถามตัวเองว่าจะได้ใช้ขับ 4 มั้ย
ถ้าอยู่ในเมืองอย่างเดียว ก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ขับ 4
แต่ถ้าคิดว่าจะได้ใช้ ก็ต้องซื้อขับ 4
ไม่ได้คิดจะใช้เองครับ แค่อยากรู้ว่ามีใครเคย regret of not going 4wd รึป่าว
-
รถมันดูเหมือนลุยๆก็จริง แต่คนส่วนใหญ่ใช้ในเมือง หรือท่องเที่ยว ตจว บนถนนทั่วไป 2wd มันก็ไปได้ทั่วไทยแล้วครับ
ก็ไม่รู้จะเพิ่มเงินอีกหลายหมื่นทำไม กินน้ำมันก็มากกว่า ตอนบำรุงรักษาก็มีค่าน้ำมันเฟืองหน้าเพิ่มมาอีก
คงจะเป็นเหตุผลคล้ายๆกับที่ ทำไมกระบะยกสูงถึงขายดีกว่า 4wd
-
ส่วนใหญ่ ผมว่าไม่ได้เอาไปใช้ลุย แบบจริงจัง แค่ขับ2 มันก็พอครับ ขับ4 ก็ต้องเพิ่มเงินขึ้นอีก ถ้าไม่ได้ใช้ก็ไม่คุ้ม
บางคนที่ไม่ค่อยรู้เรื่องรถ ก็อาจจะซื้อเพราะรถดูคันใหญ่ ดูแพง เป็น Toyota ศูนย์ดี ดูแลง่ายแค่นั้นแหละครับ
ยกตัวอย่างที่บ้านผม คุณแม่ไม่รู้เรื่องรถ ก็จะมองว่า FTN คันใหญ่ ดูแพงดี ขนาด BMW คุณแม่ยังไม่ทราบเลยว่าอยู่ระดับเดียวกับ Benz เขาก็มองว่ารถมันถูก :'(
ก็ไม่แปลกที่ จะเห็นตัวขับ2 มากกว่า ด้วยราคาที่ถูกกว่า บางคนไม่ได้ใช้ขับ4 บางคนซื้อเพราะความเป็น Toyota แค่นั้น
-
ต้องแยกก่อนครับ ระบบขับ 4 มันมีหลายแบบ
ถ้าขับ 4 แบบ Part time ผมไม่เถียงเลยว่ามันไม่ค่อยได้ใช้แน่ๆถ้าไม่ได้เอาไปลุย
แต่ถ้าขับ 4 แบบ Full time แค่โค้งหน้าบ้านเข้าโค้งไปก็แตกต่างกันแล้วครับ
สำหรับผมถ้า suv ppv จะเลือกแต่ ขับ 4 fulltime เท่านั้นครับ
-
Fortuner โฉมปัจจุบัน เป็นขับ 4 แบบ Part Time .. ถ้าคนที่ทั้งปี ทั้งชาติ วิ่งแต่ถนนดำ ถึงชอบเที่ยว ตจว แต่ก็ไปแบบเต็มที่ก็ถนนลูกรัง ไม่ได้ไปติดหล่ม ติดโคลนที่ไหน ก็ไม่รู้จะเอา 4WD มาให้หนักรถ เปลืองค่าบำรุงรักษาทำไมครับ
กลับกัน
ถ้าเป็น ตัวที่แล้ว ที่เป็น Fulltime อันนี้ผมเห็นด้วยนะ เพราะ มันเกาะถนนดีกว่าชัดเจน แม้จะวิ่งในเมือง แต่เจอแอ่งน้ำ เจอโค้งแบบไม่ตั้งใจ ระบบมันได้ทำงานครับ แลกกับค่าน้ำมันที่เพิ่มขึ้นหน่อยนึง
-
ต้องยอมรับว่า คนส่วนใหญ่ ซื้อ PPV เพราะความเท่ ความบึกบึน ความเอนกประสงค์ ความสามารถในการลุยน้ำ และที่สำคัญที่สุดคือ ความทนทานและความมั่นใจในการขับบนสภาพถนนที่คาดเดาได้ยากของเมืองไทย (เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย)
จริงๆ แล้ว คนรู้จักผมจำนวนไม่น้อย ก็ซื้อ PPV ขับ 4 และได้ใช้งานแบบ Offroad อยู่บ่อยๆ เช่น นายหน้าอสังหาฯ ต่างจังหวัด คนทำสวน เหมือง ฯลฯ รถก็เดิมๆ หรือแต่งเล็กน้อย ไม่ได้แต่งเต็มระบบ แต่เมื่อเทียบกันแล้ว คนกลุ่มแรกก็ยังถือว่ามีเยอะกว่ามาก
ในทางกลับกัน ผมก็รู้จักอีกหลายคนที่เลือกรุ่นขับ 4 เพราะ เผื่อได้ใช้ / อยากได้รุ่นท้อป / เงินเหลือ (ประมาณว่า มีเงินซื้อได้ยัน GLC/X3 แต่กลัวรถยุโรป เลยขอจบที่รถญี่ปุ่นเทพๆ แทน)
-
ผมจบที่eve ผมเน้นตัวท้อปขับ4 จบกว่าครับ
ไปลองเลย
-
บางคนเขาอยากมี option 4X4 ไว้ให้อุ่นใจ เกิดวันไหนไปเยี่ยมญาติต่างจังหวัดวันฝนตกแล้วทางเข้าบ้านดันเป็นลูกรังดินโคลนขึ้นมา มันก็อาจจะได้ใช้ครับ
และเรื่องบางเรื่องไม่ต้องนึกถึงความจำเป็นก็ได้ถ้าไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน อยากได้ก็ซื้อเลย
-
คหสต.นะครับ ถ้าเป็นคนที่ขับรถแต่บนถนนดำ ถนนคอนกรีต ถ้าไม่ใช่ขับสี่แบบ AWD หรือ Fulltime (พวกนี้ช่วยยึดเกาะบนถนนลื่น) เอาขับสองก็พอ เปล่าประโยชน์ เป็นภาระรถ แบกน้ำหนัก เปลืองน้ำมัน เปลืองค่าบำรุงรักษา ใช้ไม่เป็นมีพังอีก
ถ้าได้ขึ้นเขาลงห้วยลุยโคลนลุขไซด์ก่อสร้างบ่อย มีไปเถอะขับสี่
-
ต้องแยกก่อนครับ ระบบขับ 4 มันมีหลายแบบ
ถ้าขับ 4 แบบ Part time ผมไม่เถียงเลยว่ามันไม่ค่อยได้ใช้แน่ๆถ้าไม่ได้เอาไปลุย
แต่ถ้าขับ 4 แบบ Full time แค่โค้งหน้าบ้านเข้าโค้งไปก็แตกต่างกันแล้วครับ
สำหรับผมถ้า suv ppv จะเลือกแต่ ขับ 4 fulltime เท่านั้นครับ
ตามนี้ครับ ต่างคน ต่างความคิด ต่างประสบการณ์ วิ่งในกรุงเทพสัก 60 เจอฝนหนักๆ ขับผ่านแอ่งน้ำลึกหน่อยก็เห็นชัดแล้ว
ขับสี่ฟลูจะไปได้นิ่ง ขับสองก็จะได้ใช้ระบบช่วยเหลือต่างๆ ที่รถมีครับ
-
ตัวอื่นนอกจาก Everest กับ Pajero Sport มันเป็น Part time หมดนะครับ ต้องใช้ในสถานการณ์เฉพาะมากกว่าตัว Full time ที่ได้ใช้มากกว่า ซึ่งพอมันใช้ยาก ใช้ได้แค่ตอนลุยจริงๆ ก็ไม่ต้องเอาไปลุย ใช้ขับ 2 ก็พอ
-
เกิดความสับสนกับ 4wd part time vs 4wd full time vs AWD ครับ รบกวนชี้แนะด้วยครับ
-
สำหรับผม ใช้ในเมือง เที่ยวตจวมบ้าง ถนนดำส่วนใหญ่
ถ้าเป็น Pajero Sport หรือ Everest ที่มีรุ่นย่อยที่เป็น 4X4 แบบ Fulltime ที่เน้นการขับขี่ จะเลือกขับสี่ขับ
แต่ถ้าเลือก Fortuner ที่เป็น parttime 4x4 ที่เน้นลุย ผมเลือกแค่ขับสองครับ
-
สำหรับผมซื้อ for ตัว 4wd เพราะได้ภายในสีออกส้มไม่รุ้ว่าเรียกสีอะไร สวยดี ไม่ชอบน้ำตาลดำ 2wd และได้เครื่อง 2.8 แต่เกลียดระบบ istop รำคาญมาก
ซื้อมาใช้แต่ในเมือง 100% ออก ตจว ปีละ 1-2 ครั้ง 2 ปีวิ่ง 3หมื่นโลเองเพราะวิ่งแต่ในเมือง
ชอบความใหญ่ ไม่ค่อยโดนปาดเบียด ขับสบาย ขนาดกำลังดีไม่ยาวขนาดรถกระบะครับ
ถ้างบจำกัด 2wd ดีกว่าสบายกระเป๋ากว่าเป็นแสน คนเราต่างคนต่างความคิดครับ
-
ต้องแยกก่อนครับ ระบบขับ 4 มันมีหลายแบบ
ถ้าขับ 4 แบบ Part time ผมไม่เถียงเลยว่ามันไม่ค่อยได้ใช้แน่ๆถ้าไม่ได้เอาไปลุย
แต่ถ้าขับ 4 แบบ Full time แค่โค้งหน้าบ้านเข้าโค้งไปก็แตกต่างกันแล้วครับ
สำหรับผมถ้า suv ppv จะเลือกแต่ ขับ 4 fulltime เท่านั้นครับ
ผมก็เลือกตามนี้ครับ ได้ev biturbo มา
-
4WD FTเท่านั้นครับ รถพวกนี้มันไม่ได้ประหยัดอะไรมากมายอยู่แล้ว
เน้นการขับขี่มากลบจุดด้อยดีกว่า มีแล้วไม่ได้ใช้ดีกว่าจะใช้แล้วไม่มี
-
ขับ 4 ไปเลยครับ มันต่างกับขับ 2 น้อยมากรถพวกนี้ในความประหยัด
ผมมี Everest สองคัน ขับสองคันนึงกับขับสี่คันนึง แทบไม่ต่างเลยการสิ้นเปลือง ทั้งที่เครื่องขนาดต่างกันเยอะมาก
-
มีไว้เก๋ๆครับ น้อยคนที่จะได้ใช้ มันไม่ใช้ระบบFull Time
คนที่บริษัท เพื่อนยุให้ซื้อขับ 4 บ้านอยู่เชียงราย ขับขึ้นเขาประจำยังไม่ใช้ ทุกวันนี้ยังบ่นไอ้คนยุว่าเสียตังฟรี
ขับ 4 มันทีหลายแบบ ลองศึกษาดูครับ เลือกให้ตรงการใช้งาน
ถ้าขับปรกติวิ่งบนถนนดำอยู่แล้ว ขับ4 ของฟอ 2015 ไม่มีประโยชน์
ต้องลุยดิน ลุยโคลนเท่านั้นถึงจะเห็นผลครับ
-
PPV มีอยู่แค่ 2 ตัวที่ควรเลือก ขับ4 คือ EVE, PJS เพราะมันเป็น Full time 4wd มันเกาะถนนกว่าขับสอง แบบรู้สึกได้
แม้ว่าจะเป็น "มือใหม่" ก็ตาม
คำว่า "4WD Full time" นี้ สามารถใช้ได้ทุกสภาพถนน โดยไม่ทำให้ระบบขับเคลื่อนต่างๆ สึกหรอผิดไปจากปกติ
ส่วนยี่ห้ออื่น ตัวขับสี่ แม้ว่าจะเลือกใส่ "ขับสี่" ได้ แต่ "ขับสี่" เหล่านั้น
ไม่เหมาะที่จะมาวิ่งบนทางดำ ไม่ว่าแห้งหรือเปียก เพราะจะทำให้เกิดการสึกหรอสูง
มันเหมาะกับ "ทางดิน" เท่านั้น
แต่ยังไงก็ตามทางผู้ผลิต ระบุว่าควรใช้ระบบ "ขับสี่" อย่างน้อยเดือนละ 16 กม. เพื่อให้ระบบขับเคลื่อนได้มีการขยับและหล่อลื่น
อันนี้รวมทุกยี่ห้อที่สามารถเลือกเป็น "ขับสี่" ได้
-
ถ้า SUV มีตัวไหน Fulltime บ้างครับนอกจาก Subaru
-
ตอนนี้ผมมีรถขับ4ล้ออยุ่คัน บอกตรงๆว่า รุ้สึกคิดผิดที่ซื้อมา เพราะไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลนในการขับตามท้องถนนในกทม. แมในแง่ภาพลักษณ์ทางสังคมยังไม่ได้ดูเด่น กว่าขับ2อะไรมากมายด้วยซ้ำ
-
ถ้า full time แล้วราคาไม่ต่างมาก็ขยับเอาขับสี่ครับ แต่ที่เคยใช้รถมา เคยใช้ part time คันนึงบอกเลยว่า ได้ใช้ขับ4 แค่ตามคู่มือแค่นั้น คือเดือนละ 5-10 กิโล แค่นั้นเลยจริงๆ หลังจากนั้นมา ตะกระบะหรือ suv เอาแค่ขับ 2 พอ
-
หลายๆบ้าน ซื้อมาใช้แบบรถเก๋ง
-
ไม่จำเป็นต้องขับ 4 หรอกครับ แต่ปัญหาคืออ๊อฟชั่นมักจะไปกองที่ขับ 4 ตัวท๊อป นี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่คนหนีไปเล่นขับ 4 เพราะตัวขับ 2 ชอบกั๊กอ๊อฟชั่นครับ
-
ส่วนตัวแล้วคิดว่าถ้างบประมาณไม่ใช่ปัญหาและรับได้กับค่าบำรุงรักษาที่มากกว่ารถขับเคลือน 2 ล้อ 4wd ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะสามารถเดินทางไปในสถานที่ๆหลากหลายกว่า โดยเฉพาะในสถานที่ๆสภาพเส้นทางทุรกันดาร หรือทำให้สามารถเอาตัวรอดในสถานการณ์คับขันได้ดีกว่ารถที่ไม่ใช่ 4wd เช่น ติดหล่ม เป็นต้น สำหรับระบบ 4wd ที่ติดตั้งมากับรถ PPV ที่เห็นหลักๆจะมีอยู่ 3 แบบคือ
1. 4wd Part-time (fortunerปัจจุบัน muX trailblazer terra) ซึ่งจะมีให้ระบบเลือกใช้ 3 แบบคือ 2H, 4H และ 4L โดยระบบนี้ไม่แนะนำให้ใช้การขับ 4 (4H/4L) บนถนนปกติคือถนนราดยางหรือถนนคอนกรีต เพราะในขณะขับ 4 ชุดส่งกำลังจะกระจายกำลังทั้ง 4 ล้อเท่ากันโดยการล๊อกเพลากลาง ดังนั้น เมื่อขับบบถนนที่แห้งและมีการเลี้ยวหรือเข้าโคงจะมีอาการขืน เนื่องจากในขณะที่เลี้ยวโคงล้อหน้าและล้อหลังมีจะรอบการหมุนที่ต่างกัน
2. 4wd Full-time (Fortunerโฉมก่อน ,everest) ในระบบนี้การขับเคลือนจะทำงานแบบ 4wd ตลอดเวลา โดยมีระบบให้เลือกใช้ 3 แบบคือ 4H(ขับ 4 ไม่ล๊อกเพลากลาง) 4HL(ขับ4 ล๊อกเพลากลาง) และ 4LL (ขับ 4 สโลว์ล็อกเพลากลาง โดยในรถที่เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Full-time (ในขณะไม่ล๊อกเพลากลาง)จะสามารถใช้งานบนถนนปกติคือถนนราดยางหรือถนนคอนกรีตได้โดยไม่มีอาการขืนของล้อหน้าและหลัง เนื่องจากระบบส่งกำลังกลาง(Center-diff)จะมีการกระจากแรงบิดระหว่างล้อหน้าและหลังที่แตกต่างกัน รวมถึงยอมให้มีล้อหน้าและหลังการหมุนที่แตกต่างกันใด้
3. Superselect 4wd (pajero sport) ในระบบนี้จะมีคุณลักษณะของระบบเคลื่อน 4 ล้อทั้ง 2 แบบคือ 4wd part-time และ 4wd Full-time รวมกัน โดยจะมีระบบขับเคลื่อนให้เลือกใช้ 4 รูปแบบ คือ 2H (ขับเคลือนเฉพาะ 2 ล้อหลัง) 4H (ขับเคลื่อน 4 ล้อ ไม่ล๊อกเพลากลาง หรือ 4wd Full-time ซึ่งสามารถใช้งานบนถนนปกติคือถนนราดยางหรือถนนคอนกรีตได้โดยไม่มีอาการขืนของล้อหน้าและหลัง) 4Hlc (ขับเคลื่อน 4 ล้อล๊อกเพลากลาง) และ 4Llc (ขับเคลื่อน 4 ล้อ สโลว์ ล๊อกเพลากลาง)
ส่วนตัวผมตอนแรกก็ดู PPV แต่ด้วยปริมาณของที่ต้องขนในการเดินทางแต่ละรอบ(ลูกเล็กoptionเยอะครับ555)เลยตัดสินใจออกกระบะ 4 ประตู 4wd ซึ่งผมเลือกรถที่มีระบบแบบที่ 3 เพราะมีความยืดหยุ่นและสามารถเลือกใช้ได้ในสถานการณ์ที่หลากหลายตามความต้องการของเราครับ ที่เห็นชัดๆเลยคือเวลาฝนตกใหม่ๆ ขับโดยใช้ 4H(Full-time) ไม่เจออาการที่รถจะลื่นหรือเกือบปัดให้รู้สึกไม่มันใจอีกเลย เมื่อเทียบกับกระบะขับ 2 ล้อหลังที่เคยขับมาครับ รถจะวิ่งนิ่งๆคล้ายกับขับบนถนนที่แห้ง(ขับในความเร็วที่เหมาะสมไม่เร็วเกินไปนะครับ) ซึ่งช่วยให้การเดินทางปลอดภัยขึ้นและลดความเครียดในการขับในเวลาถนนลื่นๆได้เยอะเลยครับ
-
ก็เลือกตามการใช้งานครับ แต่บางที ไอ้ขับ2 ดั๊นนนนไม่มีของบางอย่างที่ต้องการ หรือ....ไม่มีขับ2 ให้เลือก ก็ต้องยอมจ่ายแพงขึ้นครับ
รถที่บ้าน XV ก็ไม่ได้ใช้ประโยชน์ของระบบขับเคลื่อน4 ล้อเลยครับ แค่ "เมียชอบหน้าตา" เท่านั้นจริงๆ ;D
-
ถ้ามีคันเดียวเลือก 4wd ถ้ามีหลายคันและมีคันอื่นที่ 4wd อยู่แล้ว...ผมคงเลือก PPV คันที่จะใช้งานประจำ/ในเมือง/ตจว. (ที่คาดว่าไม่ต้องลุย)เป็น non-4wd เหตุผลก็เรื่องประหยัดเงินและพอเพียงกับ 2wd ครับ
-
ส่วนตัวแล้วคิดว่าถ้างบประมาณไม่ใช่ปัญหาและรับได้กับค่าบำรุงรักษาที่มากกว่ารถขับเคลือน 2 ล้อ 4wd ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเพราะสามารถเดินทางไปในสถานที่ๆหลากหลายกว่า โดยเฉพาะในสถานที่ๆสภาพเส้นทางทุรกันดาร หรือทำให้สามารถเอาตัวรอดในสถานการณ์คับขันได้ดีกว่ารถที่ไม่ใช่ 4wd เช่น ติดหล่ม เป็นต้น สำหรับระบบ 4wd ที่ติดตั้งมากับรถ PPV ที่เห็นหลักๆจะมีอยู่ 3 แบบคือ
1. 4wd Part-time (fortunerปัจจุบัน muX trailblazer terra) ซึ่งจะมีให้ระบบเลือกใช้ 3 แบบคือ 2H, 4H และ 4L โดยระบบนี้ไม่แนะนำให้ใช้การขับ 4 (4H/4L) บนถนนปกติคือถนนราดยางหรือถนนคอนกรีต เพราะในขณะขับ 4 ชุดส่งกำลังจะกระจายกำลังทั้ง 4 ล้อเท่ากันโดยการล๊อกเพลากลาง ดังนั้น เมื่อขับบบถนนที่แห้งและมีการเลี้ยวหรือเข้าโคงจะมีอาการขืน เนื่องจากในขณะที่เลี้ยวโคงล้อหน้าและล้อหลังมีจะรอบการหมุนที่ต่างกัน
2. 4wd Full-time (Fortunerโฉมก่อน ,everest) ในระบบนี้การขับเคลือนจะทำงานแบบ 4wd ตลอดเวลา โดยมีระบบให้เลือกใช้ 3 แบบคือ 4H(ขับ 4 ไม่ล๊อกเพลากลาง) 4HL(ขับ4 ล๊อกเพลากลาง) และ 4LL (ขับ 4 สโลว์ล็อกเพลากลาง โดยในรถที่เป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ Full-time (ในขณะไม่ล๊อกเพลากลาง)จะสามารถใช้งานบนถนนปกติคือถนนราดยางหรือถนนคอนกรีตได้โดยไม่มีอาการขืนของล้อหน้าและหลัง เนื่องจากระบบส่งกำลังกลาง(Center-diff)จะมีการกระจากแรงบิดระหว่างล้อหน้าและหลังที่แตกต่างกัน รวมถึงยอมให้มีล้อหน้าและหลังการหมุนที่แตกต่างกันใด้
3. Superselect 4wd (pajero sport) ในระบบนี้จะมีคุณลักษณะของระบบเคลื่อน 4 ล้อทั้ง 2 แบบคือ 4wd part-time และ 4wd Full-time รวมกัน โดยจะมีระบบขับเคลื่อนให้เลือกใช้ 4 รูปแบบ คือ 2H (ขับเคลือนเฉพาะ 2 ล้อหลัง) 4H (ขับเคลื่อน 4 ล้อ ไม่ล๊อกเพลากลาง หรือ 4wd Full-time ซึ่งสามารถใช้งานบนถนนปกติคือถนนราดยางหรือถนนคอนกรีตได้โดยไม่มีอาการขืนของล้อหน้าและหลัง) 4Hlc (ขับเคลื่อน 4 ล้อล๊อกเพลากลาง) และ 4Llc (ขับเคลื่อน 4 ล้อ สโลว์ ล๊อกเพลากลาง)
ส่วนตัวผมตอนแรกก็ดู PPV แต่ด้วยปริมาณของที่ต้องขนในการเดินทางแต่ละรอบ(ลูกเล็กoptionเยอะครับ555)เลยตัดสินใจออกกระบะ 4 ประตู 4wd ซึ่งผมเลือกรถที่มีระบบแบบที่ 3 เพราะมีความยืดหยุ่นและสามารถเลือกใช้ได้ในสถานการณ์ที่หลากหลายตามความต้องการของเราครับ ที่เห็นชัดๆเลยคือเวลาฝนตกใหม่ๆ ขับโดยใช้ 4H(Full-time) ไม่เจออาการที่รถจะลื่นหรือเกือบปัดให้รู้สึกไม่มันใจอีกเลย เมื่อเทียบกับกระบะขับ 2 ล้อหลังที่เคยขับมาครับ รถจะวิ่งนิ่งๆคล้ายกับขับบนถนนที่แห้ง(ขับในความเร็วที่เหมาะสมไม่เร็วเกินไปนะครับ) ซึ่งช่วยให้การเดินทางปลอดภัยขึ้นและลดความเครียดในการขับในเวลาถนนลื่นๆได้เยอะเลยครับ
ละเอียดยิบเลยครับ
เลยอยากจะรบกวนถามต่ออีกนิด เรื่อง AWD น่ะครับ
ต่างกับระบบทั้ง 3 ข้างต้นอย่างไรบ้างครับ แล้วมีในรถ SUV/PPV รุ่นไหนบ้างหรอครับ
ขอบคุณครับ
-
คนอื่นก็อาจจะมีเหตุผลของแต่ละคน
สำหรับผม ถ้าเป็น 4WD ไม่ว่าจะเป็น All-time/Real-time แบบ Everest, Pajero Sport หรือ Part-Time แบบ Fortuner, Mu-x, Trailbazer, Terra ผมก็ซื้อตัว 4WD ทุกแบบ
เพราะ 4WD ส่วนมากจะอยู่ในตัว Top และผมซื้อตัว Top ซะด้วย เพราะสำหรับผล มี ดีกว่า ไม่มี
ส่วนจะใช้งานยังไง แบบไหน ลุยมาก หรือลุยน้อย จำเป็น ไม่จำเป็น สำหรับผม เป็นเหตุผลรองๆ
-
ซื้อรถคันละล้านครึ่ง ต่างกันแค่7หมื่น
กับซื้อกระบะ คันละ7-8แสน ต่างกัน7หมื่น
ความรู้สึกมันต่างกันมากครับ
-
ถ้า SUV มีตัวไหน Fulltime บ้างครับนอกจาก Subaru
Fortuner โฉมแรก เครื่อง 3.0 ครับ
แล้วก็
BMW X3, X5 ที่เป็นรหัส xdrive
Benz GLC, GLS, GLE ที่เป็น 4matic
Audi Q5,7,8 ลงท้ายว่า Quattro
-
ทุกวันนี้ก็ใช้ 4ประตูขับ4 สลับกับฟอร์จูนเนอร์ขับ4
ถามว่าได้ใช้ขับ4ไหม ทางแห้งปกติ ไม่ได้ใช้
แต่พอฝนลงเม็ด ฝนตกหนัก หลังฝนตก ก็ใส่ 4H ลดความเร็วลง ขับไปเรื่อยๆๆ เจอน้ำขังตามจุดต่างๆๆของถนน
อย่าโค้งวงเลี้ยวแคบมากแล้วเหยียบคันเร่งส่งปู๊ดแค่นั้น
อันนี้พูดตามการใช้งานจริงในต่างจังหวัดภาคเหนือ
-
มีใคร regret having it บ้างมั้ยครับ
ผมล่ะคนนึงตอนนี้ใช้แต่ในเมือง ต้องคอยมาหาทางตรงยาวๆแล้วเปิดเป็น 4H ให้มันได้วิ่งบ้าง คู่มือแจ้งขั้นต่ำที่ 16 กม ต่อเดือน จะเลี้ยวบนทางดำก็ไม่ดีเพราะจะขืน ฝนตกถนนดำก็ใส่วิ่งไม่ได้เนืองจากเป็น 4x4 part time เท่านั้นเอง
แล้วยังต้องมาคอยเปลี่ยนถ่ายเฟืองท้ายหน้าและทรานส์เฟอร์
ส่วนต่างตอนซื้อ แค่หลักหมื่นบาท แต่เอาจริงๆก็เติมน้ำมันได้ปีนึง
รวมๆกับเหตุผลที่ว่าแบกน้ำหนักเพิ่ม ส่งผลให้อัตราเร่งอัตราสิ้นเปลืองลดลงไปกว่าตัวขับสองนิดหน่อย
ทั้งหมดนั่นคิดๆไปชักจะ painful ครับ
ย้อนกลับไปได้คงเอาตัวท๊อปขับ 2
ตอนซื้อไม่รู้เหรอ? รู้ครับ แต่ตอนนั้นจะเอาไง
-
มีใคร regret having it บ้างมั้ยครับ
ผมล่ะคนนึงตอนนี้ใช้แต่ในเมือง ต้องคอยมาหาทางตรงยาวๆแล้วเปิดเป็น 4H ให้มันได้วิ่งบ้าง คู่มือแจ้งขั้นต่ำที่ 16 กม ต่อเดือน จะเลี้ยวบนทางดำก็ไม่ดีเพราะจะขืน ฝนตกถนนดำก็ใส่วิ่งไม่ได้เนืองจากเป็น 4x4 part time เท่านั้นเอง
แล้วยังต้องมาคอยเปลี่ยนถ่ายเฟืองท้ายหน้าและทรานส์เฟอร์
ส่วนต่างตอนซื้อ แค่หลักหมื่นบาท แต่เอาจริงๆก็เติมน้ำมันได้ปีนึง
รวมๆกับเหตุผลที่ว่าแบกน้ำหนักเพิ่ม ส่งผลให้อัตราเร่งอัตราสิ้นเปลืองลดลงไปกว่าตัวขับสองนิดหน่อย
ทั้งหมดนั่นคิดๆไปชักจะ painful ครับ
ย้อนกลับไปได้คงเอาตัวท๊อปขับ 2
ตอนซื้อไม่รู้เหรอ? รู้ครับ แต่ตอนนั้นจะเอาไง
ช่วงนี้ก็ใส่วิ่งได้ครับ เจอฝนตกลงเม็ดก็ใส่วิ่งโลดครับ ขึ้นสะพานเจอแอ่งน้ำที่คอสะพานก็ไปได้ง่าย รถไม่ปัด หรือ เลี้ยวลงสะพานต่างระดับไปยังอีกเส้นทางหนึ่งที่เป็นวงกลมก็ง่ายดาย
-
4x4 part time ถ้าใส่วิ่งอย่างที่ว่าบนถนนดำราดยางหรือคอนกรีตแล้วยังไม่เคยเกิดอุบัติเหตุถือว่าโชคดีมากครับ
แต่ถ้าถนนที่ว่าเป็นลูกรัง หรือกรวดอัดที่ล้อจะหมุนฟรีได้บ้าง อันนี้เห็นด้วย
ส่วนถ้าเป็น 4x4 fulltime จะใส่วิ่งแบบนี้บนถนนแบบไหนก็สบาย
อ้างอิงคู่มือครับ
-
มีใคร regret having it บ้างมั้ยครับ
ผมล่ะคนนึงตอนนี้ใช้แต่ในเมือง ต้องคอยมาหาทางตรงยาวๆแล้วเปิดเป็น 4H ให้มันได้วิ่งบ้าง คู่มือแจ้งขั้นต่ำที่ 16 กม ต่อเดือน จะเลี้ยวบนทางดำก็ไม่ดีเพราะจะขืน ฝนตกถนนดำก็ใส่วิ่งไม่ได้เนืองจากเป็น 4x4 part time เท่านั้นเอง
แล้วยังต้องมาคอยเปลี่ยนถ่ายเฟืองท้ายหน้าและทรานส์เฟอร์
ส่วนต่างตอนซื้อ แค่หลักหมื่นบาท แต่เอาจริงๆก็เติมน้ำมันได้ปีนึง
รวมๆกับเหตุผลที่ว่าแบกน้ำหนักเพิ่ม ส่งผลให้อัตราเร่งอัตราสิ้นเปลืองลดลงไปกว่าตัวขับสองนิดหน่อย
ทั้งหมดนั่นคิดๆไปชักจะ painful ครับ
ย้อนกลับไปได้คงเอาตัวท๊อปขับ 2
ตอนซื้อไม่รู้เหรอ? รู้ครับ แต่ตอนนั้นจะเอาไง
"regret having it" 5555... หักมุม :)