Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: รักเธอเสมอ ที่ กรกฎาคม 21, 2019, 16:58:52

หัวข้อ: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: รักเธอเสมอ ที่ กรกฎาคม 21, 2019, 16:58:52
พนักงานน่าจะหลายหมื่นคนในเขตชลบุรี ระยอง ถ้าปรับตัวทันก็ไม่น่าเป็นห่วง
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: DriveOnly ที่ กรกฎาคม 21, 2019, 17:44:15
ผมมองว่ายังไงก็ไม่รอดครับ ปรับตัวก็แทบจะเป็นไปไม่ได้เพราะสิ้นส่วนแต่ละชิ้นมี supplier ที่ครองตลาดนั้นๆ อยู่ดีไม่ดีเมื่อตลาดเล็กลง พวกญี่ปุ่นอาจจะเรียกพรรคพวกตัวเองมาลงทุนแทนก็ได้ครับ
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: Sacrifice ที่ กรกฎาคม 21, 2019, 17:45:59
ยังมีเวลาให้ปรับตัวอีกนานครับ

infra ภายในประเทศ รเรายัง ไม่พอรองรับ รถไฟฟ้า ราคายัง mass แข่งกับรถเครื่องยนต์ไม่ได้

คงเป็นของเล่นคนรวยไปอีก 20 ปีได้ รถที่ใช้เชิงพาณิชย์ยังต้องใช้ดีเซล ไปอีก 30 ปีได้
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: TeslaX ที่ กรกฎาคม 21, 2019, 17:49:39
ทุกวันนี้ภาคใต้ยังไฟดับ ไฟไม่พออยู่เลย เรื่องรถไฟฟ้ายังอีกนานนนนน 20 ปี บางทียังไม่พอ
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: ๑ ๒ ๓ ที่ กรกฎาคม 21, 2019, 18:20:00
ผมว่าอย่างน้อยๆก็มี 10ปีครับ
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: deertesla ที่ กรกฎาคม 21, 2019, 18:23:07
อยากให้มีมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่มีความเร็วสูงุดไม่เกิน80กม./ชั่วโมงนะครับ  ปัจจุบันบันนี้มอเตอร์ไซค์ขับกันหวาดเสียวมาก  และแบนมอเตอร์ไซค์ย้ำมันไปเลย  รวมไปถึง bigbikeทั้งหลายด้วยครับ
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: arte ที่ กรกฎาคม 21, 2019, 18:31:11
รถไฟฟ้า หลักๆมันก็แค่เพิ่ม มอเตอร์และแบต ส่วนตัวถัง ล้อ เบาะ ยาง และอื่นๆ ก็น่าจะยังคงมีอยู่หมือนเดิม โรงงานออโต้พาร์ทก็น่าจะไม่มีผลกระทบอะไรมาก
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: Amnaj ที่ กรกฎาคม 21, 2019, 18:42:56
ชิ้นส่วน โครงสร้าง ช่างล่าง ตัวถัง ไฟ กระจก ล้อ และอีกหลายอย่าง ยังอยู่ได้
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: youngbear ที่ กรกฎาคม 21, 2019, 18:47:06
 8) 8) 8).... รอด แน่นอน  :-X
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: top3245 ที่ กรกฎาคม 21, 2019, 19:33:59
อยากให้มีมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่มีความเร็วสูงุดไม่เกิน80กม./ชั่วโมงนะครับ  ปัจจุบันบันนี้มอเตอร์ไซค์ขับกันหวาดเสียวมาก  และแบนมอเตอร์ไซค์ย้ำมันไปเลย  รวมไปถึง bigbikeทั้งหลายด้วยครับ
ผมค้านครับ
คุณเอาอำนาจอะไรมาห้ามคนอื่นครับ
คนขับแบบดีๆ ก็มีเยอะแยะ
คนตายจากอุบัติเหตุมาจากรถทุกชนิดนะครับ

ถามว่าประเทศเรามีการบังคับใช้กฎหมายจราจรได้อย่างมีประสิทธิภาพไหม  ถ้าไม่ นั่นแหละคือสิ่งที่ต้องแก้  ไม่ใช่ไปห้ามรถวิ่ง
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: Symphonic ที่ กรกฎาคม 21, 2019, 19:36:45
ทำไมถามงั้นล่ะพี่   ต่อให้ EV มาวันนี้เลยโรงงานออโต้พาร์ททั้งหมดก็ยังสุขสบายดี

ลองดูง่าย ๆ ว่า EV มันมีตัวถังมั้ย, มีล้อ มียาง มีเบาะ มีกระจก มีหน้าปัด มีพวงมาลัย มีกันชน มีไฟหน้า ไฟท้าย
มีช่วงล่าง มีบลา ๆ ๆ มั้ย   คำตอบคือมีหมดทู๊กกกก อย่าง --> โรงงานเดิมก็ยังต้องทำหน้าที่เดิมต่อไป

พวกที่หายไปคือ ท่อไอเสีย, ถังน้ำมัน --> พื้นฐานโรงงานพวกนี้คือ ปั๊มเหล็ก, ม้วนเหล็ก + งานตัด งานเชื่อม = ก็ไปรับพาร์ทอื่นแทน

ส่วนพวกเครื่องยนต์ เกียร์ ส่วนใหญ่ เป็นงานจากบริษัทแม่เอง  Process หลัก ๆ คืองาน หล่อ กลึง ประกอบ ซึ่งบริษัทแม่เขาปรับไป
หล่อ กลึง งานมอเตอร์ ได้ครับ  เพิ่มเติมคือ ลงทุนโรงงาน พันมอเตอร์เพิ่ม ทำแบตเตอรี่  รีไซเคิล แบตเตอรี่ เพิ่ม เท่านั้นเอง

ในแง่ production ไม่น่าเป็นห่วง 

เพียงแต่ แบรนด์รถยนต์ ผู้เล่นในตลาดมันมีโอกาสเปลี่ยนยี่ห้อเท่านั้นเองครับ
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: Nonlamer ที่ กรกฎาคม 21, 2019, 19:38:05
เชื่อว่ารอดครับ แต่ก็ต้องปรับตัว
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: Weetting ที่ กรกฎาคม 21, 2019, 19:43:47
เครื่องยนต์หลายตัวที่ขายรุ่นรถในไทย


นับรหัสที่เราผลิตดีกว่าครับ  มีไม่เยอะขนาดนั้น ผลกระทบค่อนข้างน้อยเลยละ  :-\ :-\ :-\
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: mochalatte ที่ กรกฎาคม 21, 2019, 19:50:52
รถไฟฟ้าเป็น technology ใหม่ที่เป็นขั้นที่สามของ commercial  automobile
ขั้นแรกคือสันดาป
ขั้นสองคือ hybrid

hybrid คือ ก้ำกึ่งว่าถ้าระบบไฟฟ้าไม่พอ ยังมีเครื่องสันดาปทดแทน หรือ vice versa
มันมีความสึกหรอจากสันดาปควบไปกับระบบไฟฟ้า และ inverters จะสร้างปัญหาในการซ่อมบำรุง
มันเป็นช่วงคาบเกี่ยว จะเสียบหรือไม่เสียบปลั๊ก

ขั้นที่สามจะตัดปัญหาความสึกหรอของ mechanisms ได้ในส่วนขับเคลื่อน ส่วนควบก่อเหมือนทุกขั้น
เราคิดว่าเสียบปลั๊กจะมีปัญหา bmw ตระกูล e แสดงให้เห็นว่าก้ออยู่กันไปได้ แค่ต้องเสียบนานหน่อยสำหรับ ขั้นสาม
หรือออกจากบ้านแล้วมีที่เสียบให้เพียงพอกับ quick charge ก้อน่าจะ ok ในกรุงเทพและปริมณฑล
ส่วนตัวคิดว่าจะมาทดแทน hybrid เร็วฯนี้ครับ ไม่น่าเกิน 4-5 ปี

หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: Smith686 ที่ กรกฎาคม 21, 2019, 19:54:59
ทุกวันนี้ภาคใต้ยังไฟดับ ไฟไม่พออยู่เลย เรื่องรถไฟฟ้ายังอีกนานนนนน 20 ปี บางทียังไม่พอ

    ตอนนี้ลาวจะเป็นแบตเตอรี่ของเอเซียแล้วครับ  กำลังผลิตกระแสไฟฟ้าเหลือเฟือ  ตอนนี้ก็ส่งขายให้ไทยอยู่  อยากซื้อเพิ่มก็สั่งได้  ไม่มีปัญหา
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: Smith686 ที่ กรกฎาคม 21, 2019, 19:58:29
ยังมีเวลาให้ปรับตัวอีกนานครับ

infra ภายในประเทศ รเรายัง ไม่พอรองรับ รถไฟฟ้า ราคายัง mass แข่งกับรถเครื่องยนต์ไม่ได้

คงเป็นของเล่นคนรวยไปอีก 20 ปีได้ รถที่ใช้เชิงพาณิชย์ยังต้องใช้ดีเซล ไปอีก 30 ปีได้

     ดูราคา MG EV แล้วหรือยัง
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: locomotive ที่ กรกฎาคม 21, 2019, 20:19:25
อยากให้มีมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่มีความเร็วสูงุดไม่เกิน80กม./ชั่วโมงนะครับ  ปัจจุบันบันนี้มอเตอร์ไซค์ขับกันหวาดเสียวมาก  และแบนมอเตอร์ไซค์ย้ำมันไปเลย  รวมไปถึง bigbikeทั้งหลายด้วยครับ

คุณคิดว่า ปริมาณรถมอไซค์ รวมๆ ทั้งประเทศ มีกันเท่าไหร่ ถ้าเม้นนี้คุณไปโผล่ ในคลับ ในเพจ ในสังคม มอไซค์ ชาวไบค์เกอร์ หัวใจสองล้อ คุณรับแรงทานกระแสไหวปล่าว คุณโดนอะไรผมไม่เดาได้นะ แน่จริงไปโพสในเฟสดิ ใช้โปรไฟล์จริงๆด้วยถ้ากล้าเม้นแบบนีจริง คิดแบบคุณมันคือ อคติที่รุนแรงมากๆ คุณจะบอกว่าคนขับรถยนต์ขับแล้ว ดี มีวินัย พอขับมอไซค์ คือระยำ????  ทุกวันนี้ผมเห็นกระบะแต่ท่อดังๆ พ่นควันดำ เบิ้ลเครื่องกลางถนน ไม่พูดมั้งวะ
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: รักเธอเสมอ ที่ กรกฎาคม 21, 2019, 20:26:29
เมื่อไม่กี่ปี ก่อนที่  สมาร์ทโฟน , ไอแพด จะเข้ามา มีใครคิดบ้างไหมว่า หนังสือ นิตยสาร ดังๆ หลายๆเจ้าจะต้องมาปิดกิจการเพราะแพ้สื่ออิเลคทรอนิคส์ ผมยังไม่เคยคิดเลยว่ามันจะเจ้งได้ อย่างร้าน se-ed ทุกวันนี้ กำไรหดหายไปเยอะมาก ต้องเอาขนม ของเล่นมาขายเพื่อเพิ่มรายได้แทน
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: mochalatte ที่ กรกฎาคม 21, 2019, 20:32:39
เมื่อไม่กี่ปี ก่อนที่  สมาร์ทโฟน , ไอแพด จะเข้ามา มีใครคิดบ้างไหมว่า หนังสือ นิตยสาร ดังๆ หลายๆเจ้าจะต้องมาปิดกิจการเพราะแพ้สื่ออิเลคทรอนิคส์ ผมยังไม่เคยคิดเลยว่ามันจะเจ้งได้ อย่างร้าน se-ed ทุกวันนี้ กำไรหดหายไปเยอะมาก ต้องเอาขนม ของเล่นมาขายเพื่อเพิ่มรายได้แทน
ยังดีที่มี kinokuniya ที่ยังอยากไปบ่อยฯ
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: Mp4_007 ที่ กรกฎาคม 21, 2019, 20:59:05
เมื่อไม่กี่ปี ก่อนที่  สมาร์ทโฟน , ไอแพด จะเข้ามา มีใครคิดบ้างไหมว่า หนังสือ นิตยสาร ดังๆ หลายๆเจ้าจะต้องมาปิดกิจการเพราะแพ้สื่ออิเลคทรอนิคส์ ผมยังไม่เคยคิดเลยว่ามันจะเจ้งได้ อย่างร้าน se-ed ทุกวันนี้ กำไรหดหายไปเยอะมาก ต้องเอาขนม ของเล่นมาขายเพื่อเพิ่มรายได้แทน
เอ่อ   รถยนต์ไม่มีคันไหนราคาหลักหมื่นนะครับ หลักแสนต้นๆก็ไม่มี  เริ่มต้นกันก็ครึ่งล้านค่อนล้านแล้ว รถราคา1ล้านทุกวันนี้ยังได้แค่รุ่นกลางๆ ไม่ได้ตัวท็อปด้วย
แนวโน้มราคาขยับขึ้นทุกปี ตามเงินเฟ้ออีก
ลองเทียบแบบนี้ก็ได้ คุณซื้อโทรศัพท์ใหม่ทุกกี่ปี  แล้วซื้อรถยนต์ใหม่ทุกกี่ปี  แล้วคุณเปลี่ยนโทรศัพท์หรือรถยนต์บ่อยกว่ากัน(หมายถึงคนทั่วไปด้วย)แค่นี้ก็เห็นภาพแล้ว
ยังไงมันก็ไม่มาเร็วแบบ3-5ปีหรอก ฟันธงเลย เซฟคอมเม้นผมไว้ได้เลย แล้วรอดูได้เลย
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: Symphonic ที่ กรกฎาคม 21, 2019, 21:21:27
เมื่อไม่กี่ปี ก่อนที่  สมาร์ทโฟน , ไอแพด จะเข้ามา มีใครคิดบ้างไหมว่า หนังสือ นิตยสาร ดังๆ หลายๆเจ้าจะต้องมาปิดกิจการเพราะแพ้สื่ออิเลคทรอนิคส์ ผมยังไม่เคยคิดเลยว่ามันจะเจ้งได้ อย่างร้าน se-ed ทุกวันนี้ กำไรหดหายไปเยอะมาก ต้องเอาขนม ของเล่นมาขายเพื่อเพิ่มรายได้แทน

พี่เทียบผิดแล้วล่ะครับ  ในแง่ สมาร์ทโฟน, ไอแพด กับ หนังสือ สิ่งที่เปลี่ยนคือ media แต่สิ่งที่คงอยู่คือ Content หรือสาระ
ดังนั้น นักคิด นักเขียน งานอาร์ทเวิร์ค ยังคงอยู่ แต่ย้ายไปในรูปดิจิตอล ดังนั้นพวก chain ของ media เก่า เช่น โรงผลิตกระดาษ
โรงพิมพ์ กับร้านขายสิ่งพิมพ์จะปิดตัวลงครับ

แต่เคส รถน้ำมัน กับ EV ตัวรถจะยังคงอยู่ ตราบเท่าที่คนยังเดินทางด้วยรถ แค่ Engine ในรูปแบบเหล็กที่ขึ้นรูปเป็นชิ้นส่วนเครื่องยนต์
มันเปลี่ยนไปเป็นเหล็กที่ขึ้นรูปเป็นชิ้นส่วนมอเตอร์แทน   แต่สิ่งที่จะค่อย ๆ ลดลง คือ chain ที่ขายน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์น้ำมัน
กลุ่มที่เปลี่ยนไปเป็น EV เท่านั้น  แต่ก็ยังคงขายน้ำมันสำหรับรถบางประเภทที่ไม่ได้เปลี่ยนเป็น EV ครับ

ในแวดวงอุตสาหกรรมรถยนต์ เขากังวลพวก MaaS  มากกว่าครับ เพราะมันจะเปลี่ยนพฤติกรรมคนจากการซื้อรถเป็นของตนเอง
ไปเป็นใช้รถที่แชร์กันในสังคม  มันจะทำให้อัตราการถือครองรถยนต์ลดลง ซึ่งนั่นก็คือความต้องการตัวรถยนต์มันลดลงครับ

หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: TCP ที่ กรกฎาคม 21, 2019, 21:52:38
สำหรับประเทศไทย .. ไม่ต้องห่วง ..

มันไม่เกิดง่ายๆ แบบที่ถามๆ กันมาหรอก

เอาง่ายๆ แค่ ถ้าประเทศไทย จะต้องสร้างโรงไฟฟ้าอีก 2 โรง เพื่อรองรับการใช้งานของรถเก๋งไฟฟ้า 1 ล้านคัน ...

โรงไฟฟ้า 2 โรงนั้น จะไปสร้างได้ที่ไหน และใช้อะไรเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า ?? ?? ??
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: mochalatte ที่ กรกฎาคม 21, 2019, 21:54:23
ยุค 80’s คุณแม่ผม chargeแบตมือถือนานมาก กว่าจะใช้ได้ เครื่องใหญ่โตมโหรฬาร จะเอาไปไหนก้อต้องมีคนช่วยหิ้ว เหมือนต้องพกฐานใหญ่ฯไปด้วยเสมอ สัญญาณ มีนี่ก้อ ต้องขอบคุณพระเจ้า
ยุคนี้ หลานฯผม ขอบคุณ ตา apple ,ยาย samsung และ น้า huewei
สำหรับพื้นฐานที่จะรองรับจินตนาการ ด้วย 5g
ทุก devices สามารถ charge แบตได้ทุก starbucks แม้กระทั่ง amazon
technology แบบก้าวกระโดดแบบนี้ ค่ายรถยนต์คงเตรียมพร้อม
อย่างน้อย pm 2.5 จะได้น้อยลง ลูกของหลานจะได้มีโอกาสหายใจ
ควรต้องส่งเสริมกันนะครับ🙏
 

หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: Smith686 ที่ กรกฎาคม 21, 2019, 22:04:19
สำหรับประเทศไทย .. ไม่ต้องห่วง ..

มันไม่เกิดง่ายๆ แบบที่ถามๆ กันมาหรอก

เอาง่ายๆ แค่ ถ้าประเทศไทย จะต้องสร้างโรงไฟฟ้าอีก 2 โรง เพื่อรองรับการใช้งานของรถเก๋งไฟฟ้า 1 ล้านคัน ...

โรงไฟฟ้า 2 โรงนั้น จะไปสร้างได้ที่ไหน และใช้อะไรเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า ?? ?? ??

ปัจจุบันยังมีโครงการก่อสร้างเขื่อนผลิตไฟฟ้า และ มีกำหนดปั่นไฟเข้าสู่ระบบในช่วงปี 2019-2020 รวมทั้งหมด 36 โครงการ กำลังปั่นไฟ 4,184.10 เมกะวัตต์ เป็นเขื่อนขนาดกลางขนาดใหญ่อีก 14 แห่ง เขื่อนขนาด 15 เมกะวัตต์ลงมาอีก 22 แห่ง -- นั่นคือ ไม่เกิน 2 ปีข้างหน้านี้ ในลาวจะมีเขื่อนผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็นทั้งหมด 89 แห่ง ปั่นไฟรวมกันได้ 58,259.65 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี

ถึงปัจจุบันมีการก่อสร้างระบบสายส่งไฟฟ้าแรงดันต่ำ 0.4 ขึ้นไป จนถึงแรงดันสูง 115, 230 และ 500 กิโลโวลต์ รวมเป็นระยะทาง 61,918.5 กม. ทั่วประเทศมีสถานีจ่ายไฟฟ้า 68 สถานี ทุกแขวงรวมทั้งเมืองหลวง มีไฟฟ้าใช้ครบถ้วนจนถึงระดับตัวเมือง (อำเภอ) -- ยังคงมีระดับหมู่บ้านที่ยังเข้าไม่ถึงไฟฟ้า แต่ก็มีอัตราต่ำคือ ราว 6% ของจำนวนทั้งหมด และ 6% ของครัวเรือนต่างๆ ทั่วประเทศ

สปป.ลาวมีสัญญาจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ประเทศเพื่อนบ้านในขณะนี้ คือ จำหน่ายให้ไทย 9,000 เมกะวัตต์ ปัจจุบันส่งให้ได้ 4,000 เมกะวัตต์ จะเพิ่มขึ้นเป็น 7,000 เมกะวัตต์ในปี 2563 และ ครบตามสัญญาในปี 2573

นอกจากนั้นยังมีสัญญาจำหน่ายให้แก่เวียดนามอีก 5,000 เมกะวัตต์ เพิ่งส่งให้ได้เพียง 300 เมกะวัตต์ จะเพิ่มเป็น 1,000 เมกะวัตต์ในปี 2563 และครบจำนวนในปี 2573 ส่วนกัมพูชาปัจจุบันส่งให้ได้ 10 เมกะวัตต์ มีเป้าหมายเป็น 200 เมกะวัตต์ในปี 2563 และ ขายให้พม่าอีก 5 เมกะวัตต์ -- เพิ่มเป็น 100 เมกะวัตต์ในปี 2022 หรือ 4 ปีข้างหน้า

สปป.ลาวได้พยายามมาหลายปี เพื่อจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่มาเลเซีย และ ประสบความสำเร็จเริ่มส่งให้ได้ 100 เมะวัตต์ในปีนี้ โดยส่งผ่านระบบของไทย คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 300 เมกะวัตต์ในอีก 2 ปีข้างหน้า -- เป้าหมายต่อไปคือประเทศสิงคโปร์

https://mgronline.com/indochina/detail/9610000120133 (https://mgronline.com/indochina/detail/9610000120133)
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: Smith686 ที่ กรกฎาคม 21, 2019, 22:07:56
นายศิริ  จิระพงษ์พันธ์  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงนโยบายการรับซื้อไฟฟ้าจาก สปป.ลาว ว่าขณะนี้ ไทยรับซื้อไฟฟ้าจาก สปป.ลาวไปแล้วเกือบ 6,000 เมกะวัตต์ ตามกรอบข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ไทย-สปป.ลาว ที่ได้ลงนามไว้ก่อนหน้านี้ จำนวน 9,000 เมกะวัตต์   โดยไฟฟ้าส่วนที่เหลือก็จะดำเนินการรับซื้ออย่างต่อเนื่อง และสอดคล้องกับแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า ฉบับใหม่หรือ พีดีพี 2018 ที่กำหนดการรับซื้อไฟฟ้าจาก สปป.ลาว อยู่ที่ 3,000-3,500 เมกะวัตต์ ในช่วง 20 ปีข้างหน้า

โดยจะเริ่มรับซื้อไฟฟ้าจาก สปป.ลาว เพิ่มเติมจากสัญญาเดิมอีก1,400 เมกะวัตต์ ในช่วงปี 2568-2569 และเพิ่มอีก 2,100 เมกะวัตต์ ในปี 2573-2578

ทั้งนี้ จะหารือกับ นายคำมะนี อินทิลาด รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานและบ่อแร่ สปป.ลาว ในโอกาสที่เดินทางมาร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระหว่าง กฟผ ของไทย และ รัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว  ในโครงการเขื่อนน้ำงึม 1 และโครงการเขื่อนเซเสด  เกี่ยวกับกรอบการพัฒนาความร่วมมือการรับซื้อไฟฟ้าระหว่างกัน ทั้งในส่วนตามแผนพีดีพี 2018 และเพิ่มเติมเรื่องการเชื่อมโยงเครือข่ายระบบไฟฟ้าทั่วอาเซียน (Asean Power Grid) ในโครงการซื้อขายไฟฟ้า สปป.ลาว-ไทย-มาเลเซีย ซึ่งปัจจุบัน สปป.ลาว ขายไฟฟ้าให้มาเลเซียผ่านระบบสายส่งไฟฟ้าของไทย 100 เมกะวัตต์ และจะเพิ่มเป็น 300 เมกะวัตต์ รวมทั้งอยู่ระหว่างการศึกษาเชื่อมโยงการขายไฟฟ้าให้สิงค์โปร์ และเมียนมา โดยหวังว่าราคาไฟฟ้าที่ขายให้สิงคโปร์ มาเลเซีย และเมียนมา จะมีต้นทุนราคาที่ไม่สูงมากนัก ทำให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาด้านไฟฟ้าร่วมกัน

นอกจากนี้ สปป.ลาว ยังมีแผนจะศึกษาการพัฒนาการผลิตไฟฟ้าในลุ่มแม่น้ำโขง ที่ไม่ใช่การสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ โดยมีลักษณะเป็นฝายน้ำล้น หรือ Run of River อย่างเช่นเขื่อนไซยะบุรีที่หลวงพระบาง ทำให้ลาวจะมีศักยภาพสูงในการผลิตไฟฟ้าจากเขื่อนมากขึ้น ส่งผลให้ไทยอาจจำเป็นต้องปรับแผนการรับซื้อไฟฟ้าให้สอดคล้องกันด้วยเพื่อเพิ่มช่องทางการขายไฟฟ้าให้ สปป.ลาว เพื่อส่งผ่านไปยังประเทศเพื่อนบ้านได้มากขึ้น
http://www.energynewscenter.com/%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%8B%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%B2/ (http://www.energynewscenter.com/%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%8B%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B8%B2/)
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: XyteBlaster ที่ กรกฎาคม 21, 2019, 22:09:30
ตาม คห บนครับ .. เรื่อง รถสาธารณะอัติโนมัติ แบบ share กันได้

อาจเป็นมีรถ 1000 คัน ใครอยากเข้ากลุ่มก็เสียค่าแรกเข้า (หรือฟรี) แล้วเรียกใช้เหมือน taxi จ่ายรายครั้ง

ถ้าเราสามารถเรียกรถแล้วมาได้ทันที ระบบนี้จะดีมาก ๆ สำหรับคนใช้รถน้อย หรือใช้บ้างไม่ใช้บ้าง

ทำให้คนจะมีรถกันน้อยลง ยอดขายรถจะตกลงอย่างจริงจัง ทั้งรถไฟฟ้าและรถน้ำมันเลยล่ะครับ

ปล. ตอนนี้มีแล้วนะครับ แต่ราคาโหดอยู่ จ่ายเดือนละประมาณหมื่นนึงได้ eco car เดือนหน้าไม่ใข้ก็ไม่จ่ายครับ
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: Smith686 ที่ กรกฎาคม 21, 2019, 22:11:31
โรงไฟฟ้าหงสาเป็นโรงไฟฟ้าไทยที่อาศัยทรัพยากรและพื้นที่ของ สปป.ลาว โดยไฟฟ้าที่ผลิตได้ 1,437 เมกะวัตต์ ส่งออกเข้าสู่ระบบของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยใช้ในประเทศลาวเพียง 100 เมกะวัตต์ และส่วนที่เหลือเล็กน้อยใช้ทำงานในสถานที่ตั้งโรงไฟฟ้า

การขายไฟฟ้าดังกล่าวฝ่ายสายไฟแรงสูงเข้าสู่ประเทศไทยด้วยระบบเสาส่งทางไกล 67 กิโลเมตรเข้าสู่อำเภอสองแคว จังหวัดน่านและสู่ตัวเมืองน่าน ทำให้ระบบไฟฟ้าในภาคเหนือของไทยมีเสถียรภาพมากขึ้น ลดสภาพไฟดับและไฟตกในพื้นที่ตัวเมืองใกล้เคียง และส่งกำลังไฟฟ้าเข้าสู่ชนบท และยังทำให้รัฐบาลลาวได้รับส่วนแบ่งทั้งจากสัมปทานและการขายไฟฟ้าปีละกว่า 200 ล้านเหรียญสหรัฐ รวมถึงสร้างงานให้ชุมชนโดยรอบและวิศวกร คนงานชาวไทยที่เข้าไปทำงาน รวมถึงเมื่อหมดสัญญาสัมปทานจะกลายเป็นของลาวเองด้วย
http://www.industrybiznews.com/%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%B3%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%80/ (http://www.industrybiznews.com/%E0%B9%84%E0%B8%9F%E0%B8%9F%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%AD%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%B3%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B9%80/)
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: deertesla ที่ กรกฎาคม 22, 2019, 00:56:44
อยากให้มีมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่มีความเร็วสูงุดไม่เกิน80กม./ชั่วโมงนะครับ  ปัจจุบันบันนี้มอเตอร์ไซค์ขับกันหวาดเสียวมาก  และแบนมอเตอร์ไซค์ย้ำมันไปเลย  รวมไปถึง bigbikeทั้งหลายด้วยครับ

คุณคิดว่า ปริมาณรถมอไซค์ รวมๆ ทั้งประเทศ มีกันเท่าไหร่ ถ้าเม้นนี้คุณไปโผล่ ในคลับ ในเพจ ในสังคม มอไซค์ ชาวไบค์เกอร์ หัวใจสองล้อ คุณรับแรงทานกระแสไหวปล่าว คุณโดนอะไรผมไม่เดาได้นะ แน่จริงไปโพสในเฟสดิ ใช้โปรไฟล์จริงๆด้วยถ้ากล้าเม้นแบบนีจริง คิดแบบคุณมันคือ อคติที่รุนแรงมากๆ คุณจะบอกว่าคนขับรถยนต์ขับแล้ว ดี มีวินัย พอขับมอไซค์ คือระยำ????  ทุกวันนี้ผมเห็นกระบะแต่ท่อดังๆ พ่นควันดำ เบิ้ลเครื่องกลางถนน ไม่พูดมั้งวะ
ทำไมผมถึงกล้าพูดแบบนี้ ยุคปัจจุบันซื้อขายจักรยานยนต์หรือรถยนต์ก็ตามได้ง่ายเหมือนซื้อมาม่า  ยิ่งบางบ้านให้ลูกขับขี่กันตั้งแต่ป.3-ป.4  หรือขาเท้ายังไม่ถึงพื้นเลยสุดท้ายก็เป็นปัญหาบาดเจ็บล้มตาย ไม่ว่าจะจากความเมาหรือกระทั่งโดยเฉพาะความคึกคะนองของเด็กเหล่านั้น  ไอ้ปัญหาเด็กแว้นทั้งหลายที่มันป่วนเมืองก็มาจากการที่มอเตอร์ไซค์น้ำมัน มันจูนปรับแต่งได้ง่าย  เติมน้ำมันแป๊บเดียวก็เต็มถังแล้วครับ  ยิ่งข่าวล่าสุดที่มีพ่อแม่รังแกฉันที่ซื้อ bigbike ขับไปโรงเรียนแะขับคึกคะนองความเร็วสูง ซึ่งโชคดีที่คู่กรณีไม่บาดเจ็บมากครับ  และทั้งนี้เพื่อนและคนรู้จักผมตายเพราะมอเจอร์ไซค์ biggike อันเนื่องมาจากความแรงและความมั่นใจในการเข้าโค้งความเร็วสูง อันเนื่องจากว่าได้ความมั่นใจมาจากการไปอบรมขับbigbike จากนักแข่งมาเลยห้าวและคนองกับความแรงจึงทำให้ต้องจากไปก่อนวัยอันควรครับ
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: Alcatraz ที่ กรกฎาคม 22, 2019, 03:30:39
กลัวอะไรครับรถไฟฟ้าก็ต้องใช้ประตู กระจก ล้อ พรม ....etc ทุกอย่างในสิ่งที่รถต้องมีสิ่งที่เปลี่ยนไปคือแค่ไม่มีเครื่องยนตร์แต่เปลี่ยนไปใช้มอเตอร์แทน ใครทำเครื่องก็ทำมอเตอร์แทน อาจต้องอบรมณ์เรียนรู้ใหม่แค่นั้นเอง ต้องรู้จักปรับตัวให้ทัน ไม่ใช่กลัวโน่นกลัวนี่ อยู่แต่ในเซฟโซน ไม่กล้าทำอะไรใหม่ๆ เป็นแบบนี้สุดท้ายก็ล้าหลังคนอื่นแน่นอน ตัวอย่างก็มีให้เห็นแยอะแยะ กล้องฟิมล์อย่างนี้ หรือแอปเปิลเมื่อก่อนเครื่องเล่น mp3 ipod walkman ฮิตมาก หลายคนทำตาม เซินเจิ้นก็แยอะแยะ สุดท้ายออก iphone มา คนเลิกใช้เครื่องเล่น mp3 กันไปเลย
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: kiwiwi ที่ กรกฎาคม 22, 2019, 07:09:58
อยากให้มีมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่มีความเร็วสูงุดไม่เกิน80กม./ชั่วโมงนะครับ  ปัจจุบันบันนี้มอเตอร์ไซค์ขับกันหวาดเสียวมาก  และแบนมอเตอร์ไซค์ย้ำมันไปเลย  รวมไปถึง bigbikeทั้งหลายด้วยครับ

คุณคิดว่า ปริมาณรถมอไซค์ รวมๆ ทั้งประเทศ มีกันเท่าไหร่ ถ้าเม้นนี้คุณไปโผล่ ในคลับ ในเพจ ในสังคม มอไซค์ ชาวไบค์เกอร์ หัวใจสองล้อ คุณรับแรงทานกระแสไหวปล่าว คุณโดนอะไรผมไม่เดาได้นะ แน่จริงไปโพสในเฟสดิ ใช้โปรไฟล์จริงๆด้วยถ้ากล้าเม้นแบบนีจริง คิดแบบคุณมันคือ อคติที่รุนแรงมากๆ คุณจะบอกว่าคนขับรถยนต์ขับแล้ว ดี มีวินัย พอขับมอไซค์ คือระยำ????  ทุกวันนี้ผมเห็นกระบะแต่ท่อดังๆ พ่นควันดำ เบิ้ลเครื่องกลางถนน ไม่พูดมั้งวะ
ทำไมผมถึงกล้าพูดแบบนี้ ยุคปัจจุบันซื้อขายจักรยานยนต์หรือรถยนต์ก็ตามได้ง่ายเหมือนซื้อมาม่า  ยิ่งบางบ้านให้ลูกขับขี่กันตั้งแต่ป.3-ป.4  หรือขาเท้ายังไม่ถึงพื้นเลยสุดท้ายก็เป็นปัญหาบาดเจ็บล้มตาย ไม่ว่าจะจากความเมาหรือกระทั่งโดยเฉพาะความคึกคะนองของเด็กเหล่านั้น  ไอ้ปัญหาเด็กแว้นทั้งหลายที่มันป่วนเมืองก็มาจากการที่มอเตอร์ไซค์น้ำมัน มันจูนปรับแต่งได้ง่าย  เติมน้ำมันแป๊บเดียวก็เต็มถังแล้วครับ  ยิ่งข่าวล่าสุดที่มีพ่อแม่รังแกฉันที่ซื้อ bigbike ขับไปโรงเรียนแะขับคึกคะนองความเร็วสูง ซึ่งโชคดีที่คู่กรณีไม่บาดเจ็บมากครับ  และทั้งนี้เพื่อนและคนรู้จักผมตายเพราะมอเจอร์ไซค์ biggike อันเนื่องมาจากความแรงและความมั่นใจในการเข้าโค้งความเร็วสูง อันเนื่องจากว่าได้ความมั่นใจมาจากการไปอบรมขับbigbike จากนักแข่งมาเลยห้าวและคนองกับความแรงจึงทำให้ต้องจากไปก่อนวัยอันควรครับ

อ้าว พูดแบบนี้ก็สวยสิ ยุบ bb ยุบมอไซค์น้ำมัน ผมก็ไม่ต้องทำมาหากินกันแล้ว ผมขายแบตเตอรี่ bb แบตเตอรี่สตาร์รถมอไซค์อยู่นะครับ

แต่ก่อนผมจะตาย ผมว่ารัฐบาลตายก่อนแหงๆ 5555

1.8ล้านคันต่อปีสำหรับ honda wave ครับ ^^
ถ้ายุบไป จะมีคนเดือดร้อนแค่ไหน

ผมเองเคยลองเอามอไซค์ไฟฟ้าเข้ามาขายแล้วครับ พฤติกรรมผู้บริโภคตลาดนี้คือ เวลาเปลี่ยนแบตที่ต้องควักเงิน 6-7พัน ต้องถอยหนีกันเลย นี่แค่ตะกั่วนะครับ ถ้าลิเที่ยม??? ตลาดแมสยังไม่รับแน่ๆ

สุดท้าย ประโยคแรก ผมล้อเล่นนะครับ
ผมหากินกับตรงนี้ แต่ผมก็ไม่ชอบบางกลุ่มที่ก่อความรำคาญเช่นกัน
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: locomotive ที่ กรกฎาคม 22, 2019, 07:58:41
อยากให้มีมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่มีความเร็วสูงุดไม่เกิน80กม./ชั่วโมงนะครับ  ปัจจุบันบันนี้มอเตอร์ไซค์ขับกันหวาดเสียวมาก  และแบนมอเตอร์ไซค์ย้ำมันไปเลย  รวมไปถึง bigbikeทั้งหลายด้วยครับ

คุณคิดว่า ปริมาณรถมอไซค์ รวมๆ ทั้งประเทศ มีกันเท่าไหร่ ถ้าเม้นนี้คุณไปโผล่ ในคลับ ในเพจ ในสังคม มอไซค์ ชาวไบค์เกอร์ หัวใจสองล้อ คุณรับแรงทานกระแสไหวปล่าว คุณโดนอะไรผมไม่เดาได้นะ แน่จริงไปโพสในเฟสดิ ใช้โปรไฟล์จริงๆด้วยถ้ากล้าเม้นแบบนีจริง คิดแบบคุณมันคือ อคติที่รุนแรงมากๆ คุณจะบอกว่าคนขับรถยนต์ขับแล้ว ดี มีวินัย พอขับมอไซค์ คือระยำ????  ทุกวันนี้ผมเห็นกระบะแต่ท่อดังๆ พ่นควันดำ เบิ้ลเครื่องกลางถนน ไม่พูดมั้งวะ
ทำไมผมถึงกล้าพูดแบบนี้ ยุคปัจจุบันซื้อขายจักรยานยนต์หรือรถยนต์ก็ตามได้ง่ายเหมือนซื้อมาม่า  ยิ่งบางบ้านให้ลูกขับขี่กันตั้งแต่ป.3-ป.4  หรือขาเท้ายังไม่ถึงพื้นเลยสุดท้ายก็เป็นปัญหาบาดเจ็บล้มตาย ไม่ว่าจะจากความเมาหรือกระทั่งโดยเฉพาะความคึกคะนองของเด็กเหล่านั้น  ไอ้ปัญหาเด็กแว้นทั้งหลายที่มันป่วนเมืองก็มาจากการที่มอเตอร์ไซค์น้ำมัน มันจูนปรับแต่งได้ง่าย  เติมน้ำมันแป๊บเดียวก็เต็มถังแล้วครับ  ยิ่งข่าวล่าสุดที่มีพ่อแม่รังแกฉันที่ซื้อ bigbike ขับไปโรงเรียนแะขับคึกคะนองความเร็วสูง ซึ่งโชคดีที่คู่กรณีไม่บาดเจ็บมากครับ  และทั้งนี้เพื่อนและคนรู้จักผมตายเพราะมอเจอร์ไซค์ biggike อันเนื่องมาจากความแรงและความมั่นใจในการเข้าโค้งความเร็วสูง อันเนื่องจากว่าได้ความมั่นใจมาจากการไปอบรมขับbigbike จากนักแข่งมาเลยห้าวและคนองกับความแรงจึงทำให้ต้องจากไปก่อนวัยอันควรครับ

คุณทำให้กระทู้ เปลี่ยนบรรยากาศกลายเป้นกระทู้ที่ บานปลาย คนละประเด็นไปละ เขาถามเรื่องรถยนต์ไฟฟ้ามามีผลอะไร แต่คุณใช้ความเกลียดชังมอไซค์ยกมาเป้นประเด้น ซึ่งตรงนี้ ผมมองว่ามันเป็น คติที่ร้ายแรงจากการเม้นของคุณ คุณบอกว่าใครๆก้ซื้อแต่มอไซคื เอ๊า!!! ใช่สิ มอไซคืราคาไม่กี่หมื่น ก้ซื้อได้ละ ไม่ได้รวยออกกระบะออกเก๋งหนิ จะให้เหาะไปหรือไง รอรถเมลื เป็นชาติๆหรือ????? ถ้าเปลี่ยนมอไซค์ทุกคันเป้นรถยนต์ คุณคิดดิว่าถนนมันจะเป็นอย่างไร เรื่องซิ่งไม่ซิ่งไม่เกี่ยว ขับสิบล้อจะซิ่งมีปัญหาปล่าว ถ้าคุณแน่ใจในความคิดคุณว่าจะหยุดมอไซค์ 10 ล้าน คันในประเทศนี้ได้ คุณอย่าโพสแต่ในนี้ดิ ไปโพสในคลับมอไซคื ในเฟส เอาดี้ อยากจะรู้ คุณจะหยุดสองล้อเป็นล้านๆคน ไหวปล่าว
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: seeker ที่ กรกฎาคม 22, 2019, 08:18:56
เหมือนกระทู้จะกลายพันธ์


เข้าเรื่องดีกว่า
ระหว่างรถ ev กับ น้ำมัน สิ่งที่แตกต่างคือ powertrain
ผู้ที่ค้องปรับตัวคือคนซัพพลายอะไหล่เครื่องและเกียร์ รวมถึงผู้ให้บริการน้ำมันเชื้อเพลิงที่ต้องปรับตัว
แต่ ช่างซ่อม หรืออู่มีความรู้เพียงพอหรือยัง

แต่พาร์ทอื่นๆเรายังคงต้องใช้เหมือนเดิม ไม่ใช่เหรอครับ อาจจะมีเบรคที่ต้องมีระบบชาร์ทไฟเพิ่มเข้ามาด้วย

แต่ตอนนี้สงสัยครับ ว่ารถ ev 1 คัน ต่องใช้กำลังไฟเท่าไหร่ และถ้ามาแทนรถน้ำมันสัก 1 ล้านคัน โรงไฟฟ้าบ้านเราพอไหม

ปัจจัยที่จะทำให้รถ ev เกิดคือราคา zs เป็นตัวกระตุ้นตลาดที่เห็นชัดมาก ถ้า ev car ขนาดเท่า b segment ราคาแพงกว่ากัน 10-20% ยอดขายจะมหาศาลขนาดไหน

สำหรับผมเองคงไม่ไป hybrid แต่คงข้ามไป ev
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: U9WS ที่ กรกฎาคม 22, 2019, 08:22:23
ผมชอบลองน้ำมันเครื่อง เลือกเชื้อเพลิง เติมสารเติมแต่งadditive หมดสนุกเลยงานนี้
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: 2k ที่ กรกฎาคม 22, 2019, 08:53:48
แค่แสดงความคิดเห็นแตกต่างกันกันแต่กะจะเอากันให้ตายไปข้างกันเลยเหรอครับ? พูดคุยกันให้เข้าใจถึงจุดยืนแต่ละคนว่ามันต่างกันยังไงดีกว่าไหม? ขัดหูนิดๆหน่อยๆก็ทะเลาะกันเอาตายอย่างนี้ไม่ไหวนะ  :'(
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: DiKiBoyZ ที่ กรกฎาคม 22, 2019, 09:13:55
กระทู้ คือ รถไฟฟ้าเกิด แล้วโรงงานหรืออุตสาหกรรม automotive supplier จะเดือดร้อนไหม

คำตอบคือ ถ้า บริษัทไหนปรับตัวได้ไว ก็เดือดร้อนน้อยหน่อย ถ้าปรับตัวช้าก็เดือดร้อนมากหน่อย

แต่ถ้าพนังานจะเดือดร้อนจริง คือ โรงงานที่จะเปลี่ยนแรงงานคนเป็น Robot และ AI ในอนาคตอันไกล้นี้ต่างหากครับ

เพราะแค่เปลี่ยนจาก รถยนต์เครื่องสันดาบ เป็น รถยนต์ไฟฟ้า ตราบใดที่ใช้ชิ้นส่วน หรือ ประกอบด้วย มนุษย์ ก็ยังมีงานทำอยู่ แต่ถ้าเป็น Robot ทั้งหมดละ..? อันนี้ซิผลกระทบเต็มๆ
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: MUK ที่ กรกฎาคม 22, 2019, 09:19:21
ผมว่า ถ้าปรับตัวทันก็ไม่น่าจะเดือดร้อนครับ ธุรกิจใหญ่ๆ น่าจะวางแผนกันระยะยาว
แต่ผมว่า รถไฟฟ้า ที่จะเอามาแทนรถยนต์ ได้ ผมว่า ราคายังไม่เป็นมิตรกับคนทั่วไปเลย
ผมว่า ยังเป็นเหมือนแฟชั่นสำหรับคนที่ต้องการความแตกต่าง มันไปได้ยงไม่สู้ eco car เลย
แต่ หลาย อย่างอาจจะก้าวกระโดดก็ได้ครับ สิ่งที่จีนทำ บางอย่าง หลายอย่าง มันเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
ในเรื่องราคา คุณภาพ เพราะจีนทำได้ทุกระดับ ปัญญาคือ ไทยเรา ใครจะนำพาประเทศปรับตัวครับ
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: VORA ที่ กรกฎาคม 22, 2019, 09:41:36
ยังไงก็ต้องรอด งาน scale ใหญ่ขนาดนั้น
เพียงแต่ต้องปรับตัวครับ และทุกวันนี้จ้าวใหญ่ๆเริ่มแล้วเช่น T....S..it
หา know how จากการไปรับงาน tesla  และ R&D เพิ่มเติมแล้วครับ
โดย focus ไปที่งานเชิง สายไฟ สายวงจรมากขึ้น
พวกงานเหล็ก พลาสติก เน้นงานที่ที่ใช้ know how มากขึ้น แต่ผลิตจำนวนไม่มาก

ระยะเวลา 5 -10 ปีที่รถไฟฟ้าจะมา ถือว่าไม่นาน  ถ้าไม่ปรับตัว
ยังทำแบบชิวๆ คิดว่าคงไม่มา อีกนาน......

กลุ่มนี้จะทำให้ประเทศเราแย่ โดนจีนแซงไปไกลแล้ว คงโดนเพิ่อนบ้านเราแซงไปอีก

หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: deertesla ที่ กรกฎาคม 22, 2019, 10:21:14
อยากให้มีมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่มีความเร็วสูงุดไม่เกิน80กม./ชั่วโมงนะครับ  ปัจจุบันบันนี้มอเตอร์ไซค์ขับกันหวาดเสียวมาก  และแบนมอเตอร์ไซค์ย้ำมันไปเลย  รวมไปถึง bigbikeทั้งหลายด้วยครับ

คุณคิดว่า ปริมาณรถมอไซค์ รวมๆ ทั้งประเทศ มีกันเท่าไหร่ ถ้าเม้นนี้คุณไปโผล่ ในคลับ ในเพจ ในสังคม มอไซค์ ชาวไบค์เกอร์ หัวใจสองล้อ คุณรับแรงทานกระแสไหวปล่าว คุณโดนอะไรผมไม่เดาได้นะ แน่จริงไปโพสในเฟสดิ ใช้โปรไฟล์จริงๆด้วยถ้ากล้าเม้นแบบนีจริง คิดแบบคุณมันคือ อคติที่รุนแรงมากๆ คุณจะบอกว่าคนขับรถยนต์ขับแล้ว ดี มีวินัย พอขับมอไซค์ คือระยำ????  ทุกวันนี้ผมเห็นกระบะแต่ท่อดังๆ พ่นควันดำ เบิ้ลเครื่องกลางถนน ไม่พูดมั้งวะ
ทำไมผมถึงกล้าพูดแบบนี้ ยุคปัจจุบันซื้อขายจักรยานยนต์หรือรถยนต์ก็ตามได้ง่ายเหมือนซื้อมาม่า  ยิ่งบางบ้านให้ลูกขับขี่กันตั้งแต่ป.3-ป.4  หรือขาเท้ายังไม่ถึงพื้นเลยสุดท้ายก็เป็นปัญหาบาดเจ็บล้มตาย ไม่ว่าจะจากความเมาหรือกระทั่งโดยเฉพาะความคึกคะนองของเด็กเหล่านั้น  ไอ้ปัญหาเด็กแว้นทั้งหลายที่มันป่วนเมืองก็มาจากการที่มอเตอร์ไซค์น้ำมัน มันจูนปรับแต่งได้ง่าย  เติมน้ำมันแป๊บเดียวก็เต็มถังแล้วครับ  ยิ่งข่าวล่าสุดที่มีพ่อแม่รังแกฉันที่ซื้อ bigbike ขับไปโรงเรียนแะขับคึกคะนองความเร็วสูง ซึ่งโชคดีที่คู่กรณีไม่บาดเจ็บมากครับ  และทั้งนี้เพื่อนและคนรู้จักผมตายเพราะมอเจอร์ไซค์ biggike อันเนื่องมาจากความแรงและความมั่นใจในการเข้าโค้งความเร็วสูง อันเนื่องจากว่าได้ความมั่นใจมาจากการไปอบรมขับbigbike จากนักแข่งมาเลยห้าวและคนองกับความแรงจึงทำให้ต้องจากไปก่อนวัยอันควรครับ

อ้าว พูดแบบนี้ก็สวยสิ ยุบ bb ยุบมอไซค์น้ำมัน ผมก็ไม่ต้องทำมาหากินกันแล้ว ผมขายแบตเตอรี่ bb แบตเตอรี่สตาร์รถมอไซค์อยู่นะครับ

แต่ก่อนผมจะตาย ผมว่ารัฐบาลตายก่อนแหงๆ 5555

1.8ล้านคันต่อปีสำหรับ honda wave ครับ ^^
ถ้ายุบไป จะมีคนเดือดร้อนแค่ไหน

ผมเองเคยลองเอามอไซค์ไฟฟ้าเข้ามาขายแล้วครับ พฤติกรรมผู้บริโภคตลาดนี้คือ เวลาเปลี่ยนแบตที่ต้องควักเงิน 6-7พัน ต้องถอยหนีกันเลย นี่แค่ตะกั่วนะครับ ถ้าลิเที่ยม??? ตลาดแมสยังไม่รับแน่ๆ

สุดท้าย ประโยคแรก ผมล้อเล่นนะครับ
ผมหากินกับตรงนี้ แต่ผมก็ไม่ชอบบางกลุ่มที่ก่อความรำคาญเช่นกัน
นั่นแหละครับ ปัญหาของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าคือแบตมันเสื่อมง่ายสุดๆ หรืออะไหล่ต่างๆพังง่ายกว่าพวกพี่ฮอน พี่ยาที่เป็นน้ำมัน ทำให้คนที่อยากใช้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเค้าเลยไม่มีทางเลือก  รวมถึงผู้ขายเองก็ต้องมาเจ็บช้ำระกำใจกับคุณภาพของมอเตอร์ไซค์ไฟฟาที่มีปัญหาเหล่านี้ และพฤติกรรมคนไทยอาจจะไม่ถูกจริตมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าด้วยครับ นอกเรื่องนิดนึงครับ ภาษีแบตเตอรี่นี้ ขึ้นภาษีการเก็บนานหรือยังครับ พอดีผมไปซื้อแบตเตอรี่รถยนต์เป็นแบบ DIN รู้สึกตรงใจราคาแพงโหดมากครับ โดยเฉลี่ย 26xx-3000บาทได้ครับ
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: +@ Krishna @+ ที่ กรกฎาคม 22, 2019, 10:47:11
คนไทยมีศักยภาพแน่นอน บริหารดี ๆ ให้การสนับสนุนทุกฝ่าย ก็รอดครับ  8)
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: kiwiwi ที่ กรกฎาคม 22, 2019, 11:05:57
อยากให้มีมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่มีความเร็วสูงุดไม่เกิน80กม./ชั่วโมงนะครับ  ปัจจุบันบันนี้มอเตอร์ไซค์ขับกันหวาดเสียวมาก  และแบนมอเตอร์ไซค์ย้ำมันไปเลย  รวมไปถึง bigbikeทั้งหลายด้วยครับ

คุณคิดว่า ปริมาณรถมอไซค์ รวมๆ ทั้งประเทศ มีกันเท่าไหร่ ถ้าเม้นนี้คุณไปโผล่ ในคลับ ในเพจ ในสังคม มอไซค์ ชาวไบค์เกอร์ หัวใจสองล้อ คุณรับแรงทานกระแสไหวปล่าว คุณโดนอะไรผมไม่เดาได้นะ แน่จริงไปโพสในเฟสดิ ใช้โปรไฟล์จริงๆด้วยถ้ากล้าเม้นแบบนีจริง คิดแบบคุณมันคือ อคติที่รุนแรงมากๆ คุณจะบอกว่าคนขับรถยนต์ขับแล้ว ดี มีวินัย พอขับมอไซค์ คือระยำ????  ทุกวันนี้ผมเห็นกระบะแต่ท่อดังๆ พ่นควันดำ เบิ้ลเครื่องกลางถนน ไม่พูดมั้งวะ
ทำไมผมถึงกล้าพูดแบบนี้ ยุคปัจจุบันซื้อขายจักรยานยนต์หรือรถยนต์ก็ตามได้ง่ายเหมือนซื้อมาม่า  ยิ่งบางบ้านให้ลูกขับขี่กันตั้งแต่ป.3-ป.4  หรือขาเท้ายังไม่ถึงพื้นเลยสุดท้ายก็เป็นปัญหาบาดเจ็บล้มตาย ไม่ว่าจะจากความเมาหรือกระทั่งโดยเฉพาะความคึกคะนองของเด็กเหล่านั้น  ไอ้ปัญหาเด็กแว้นทั้งหลายที่มันป่วนเมืองก็มาจากการที่มอเตอร์ไซค์น้ำมัน มันจูนปรับแต่งได้ง่าย  เติมน้ำมันแป๊บเดียวก็เต็มถังแล้วครับ  ยิ่งข่าวล่าสุดที่มีพ่อแม่รังแกฉันที่ซื้อ bigbike ขับไปโรงเรียนแะขับคึกคะนองความเร็วสูง ซึ่งโชคดีที่คู่กรณีไม่บาดเจ็บมากครับ  และทั้งนี้เพื่อนและคนรู้จักผมตายเพราะมอเจอร์ไซค์ biggike อันเนื่องมาจากความแรงและความมั่นใจในการเข้าโค้งความเร็วสูง อันเนื่องจากว่าได้ความมั่นใจมาจากการไปอบรมขับbigbike จากนักแข่งมาเลยห้าวและคนองกับความแรงจึงทำให้ต้องจากไปก่อนวัยอันควรครับ

อ้าว พูดแบบนี้ก็สวยสิ ยุบ bb ยุบมอไซค์น้ำมัน ผมก็ไม่ต้องทำมาหากินกันแล้ว ผมขายแบตเตอรี่ bb แบตเตอรี่สตาร์รถมอไซค์อยู่นะครับ

แต่ก่อนผมจะตาย ผมว่ารัฐบาลตายก่อนแหงๆ 5555

1.8ล้านคันต่อปีสำหรับ honda wave ครับ ^^
ถ้ายุบไป จะมีคนเดือดร้อนแค่ไหน

ผมเองเคยลองเอามอไซค์ไฟฟ้าเข้ามาขายแล้วครับ พฤติกรรมผู้บริโภคตลาดนี้คือ เวลาเปลี่ยนแบตที่ต้องควักเงิน 6-7พัน ต้องถอยหนีกันเลย นี่แค่ตะกั่วนะครับ ถ้าลิเที่ยม??? ตลาดแมสยังไม่รับแน่ๆ

สุดท้าย ประโยคแรก ผมล้อเล่นนะครับ
ผมหากินกับตรงนี้ แต่ผมก็ไม่ชอบบางกลุ่มที่ก่อความรำคาญเช่นกัน
นั่นแหละครับ ปัญหาของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าคือแบตมันเสื่อมง่ายสุดๆ หรืออะไหล่ต่างๆพังง่ายกว่าพวกพี่ฮอน พี่ยาที่เป็นน้ำมัน ทำให้คนที่อยากใช้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเค้าเลยไม่มีทางเลือก  รวมถึงผู้ขายเองก็ต้องมาเจ็บช้ำระกำใจกับคุณภาพของมอเตอร์ไซค์ไฟฟาที่มีปัญหาเหล่านี้ และพฤติกรรมคนไทยอาจจะไม่ถูกจริตมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าด้วยครับ นอกเรื่องนิดนึงครับ ภาษีแบตเตอรี่นี้ ขึ้นภาษีการเก็บนานหรือยังครับ พอดีผมไปซื้อแบตเตอรี่รถยนต์เป็นแบบ DIN รู้สึกตรงใจราคาแพงโหดมากครับ โดยเฉลี่ย 26xx-3000บาทได้ครับ

แบตเตอรี่ตะกั่วตอนนี้ ถ้านำเข้าจากจีน เสียรวมทั้งหมดประมาณ  22.5 ครับ
ภาษีนำเข้าแค่ 5% เองครับ

แต่มาตรฐาน DIN นี่ ผมว่าแพงกว่าปกติอยู่แล้วครับ
เพราะโครงสร้างภายในและการปล่อยประจุ เหนือกว่า JIS พอสมควรเลยครับ

ราคาที่คุณได้ ก็ประมาณนี้แหละครับ สมมติผมนำเข้ามาจากจีนภายใต้มาตรฐาน DIN ผมก็ขายถูกกว่านี้ไม่ได้เท่าไหร่
แต่ผมไม่กล้าขายแบตรถยนต์ครับ ดุเดือดเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: kiyokuka ที่ กรกฎาคม 22, 2019, 12:00:32
ออโต้พาร์ทมีปิดตัวลงไปแน่นอน เพราะรถไฟฟ้าใช้ชิ้นส่วนน้อยลง
ตกงานก็ย้ายไปอยู่ส่วนอื่นแทนครับ ประเทศไทยแถบภาคตะวันออกถ้าไม่เลือกงาน ความต้องการแรงงานยังสูงมาก

มาพูดถึงเรื่องพร้อมประเทศไทยพร้อมเปลี่ยนมาก และ เปลี่ยนได้เร็วด้วย
โครงสร้างพื้นฐานพร้อมมาก แค่รัฐออกนโยบายให้ปตท เพิ่มจุดชาร์ทในปั๊มไม่เกินปี ครอบคลุมทันที

เรื่องไฟภาคใต้ถ้าไม่ปิดหูปิดตาไป ภาครัฐมีแผนการตั้งโรงไฟฟ้าทางภาคใต้เพื่อป้อนให้ภาคใต้โดยเฉพาะ
แต่โดนคัดค้านโดย NGO ที่นั่งทำงานในห้องแอร์ เปิดคอม เปิด ทีวี ใช้ไฟกันฉุ่มฉ่ำ แต่ค้านการสร้างโรงไฟฟ้า
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: NINENOI ที่ กรกฎาคม 22, 2019, 12:04:53
ทุกการเปลี่ยนแปลงต้องมีคนได้เสียแหละครับ ที่ไม่มีผลก็คงพวกเกี่ยวกับแอร์ ยาง กระจก ที่โดนๆก็เครื่องเกียร์ช่วงล่าง เหล็ก



ที่แน่ๆผมว่าโรงงานจะถือโอกาสนี้เอาเครื่องจักร AI มาใช้ขึ้นเยอะอย่างแน่นอน แรงงานระดับล่างน่าจะตกงานเพียบ ส่วนแรงงานฝีมือจะเป็นที่ต้องการมากขึ้นแต่ก็น้อยกว่าที่ตกงาน
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: Jacob ที่ กรกฎาคม 22, 2019, 12:29:24
ประเทศจีนเค้ามานั่งกังวลแบบเรามั้ยนะ เห็นคนเค้าคิดเองผลิตเอง บริษัทญี่ปุ่นจะแย่หรือไม่ก็ไม่ได้สนใจ ของเก่าไปก็มีของใหม่มามีงานใหม่ๆเกิดขึ้นเป็นธรรมดา
ปล. ถึงรถไฟฟ้าไม่มา ต่อไปเค้าก็ใช้ AI แทนคนอยู่ดีอย่างคห.บนว่า
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: CarameLon ที่ กรกฎาคม 22, 2019, 14:39:41
มันไม่มาเร็วอย่างที่คิดครับ เห็นข่าวรถEVตามสื่อตามเว็บ คนคุยให้ฟัง
อย่าเพิ่งตื่นเต้นเพราะโดนบิ้วอารมณ์ตามไป คนส่วนใหญ่ในไทยยังไม่พร้อมรับ
ปล. ก็จะมีแต่คนในเว็บเท่านั้นที่เสียงมันจะดังๆหน่อย ถ้าเอาคนทั้งประเทศจริงๆ
     เทียบเป็นเปอร์เซ็นนิแทบไม่น่าถึง1%ครับคนที่พร้อมซื้อรถevใช้
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: flat6 ที่ กรกฎาคม 22, 2019, 14:56:23
อยากให้มีมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่มีความเร็วสูงุดไม่เกิน80กม./ชั่วโมงนะครับ  ปัจจุบันบันนี้มอเตอร์ไซค์ขับกันหวาดเสียวมาก  และแบนมอเตอร์ไซค์ย้ำมันไปเลย  รวมไปถึง bigbikeทั้งหลายด้วยครับ

คุณคิดว่า ปริมาณรถมอไซค์ รวมๆ ทั้งประเทศ มีกันเท่าไหร่ ถ้าเม้นนี้คุณไปโผล่ ในคลับ ในเพจ ในสังคม มอไซค์ ชาวไบค์เกอร์ หัวใจสองล้อ คุณรับแรงทานกระแสไหวปล่าว คุณโดนอะไรผมไม่เดาได้นะ แน่จริงไปโพสในเฟสดิ ใช้โปรไฟล์จริงๆด้วยถ้ากล้าเม้นแบบนีจริง คิดแบบคุณมันคือ อคติที่รุนแรงมากๆ คุณจะบอกว่าคนขับรถยนต์ขับแล้ว ดี มีวินัย พอขับมอไซค์ คือระยำ????  ทุกวันนี้ผมเห็นกระบะแต่ท่อดังๆ พ่นควันดำ เบิ้ลเครื่องกลางถนน ไม่พูดมั้งวะ
ทำไมผมถึงกล้าพูดแบบนี้ ยุคปัจจุบันซื้อขายจักรยานยนต์หรือรถยนต์ก็ตามได้ง่ายเหมือนซื้อมาม่า  ยิ่งบางบ้านให้ลูกขับขี่กันตั้งแต่ป.3-ป.4  หรือขาเท้ายังไม่ถึงพื้นเลยสุดท้ายก็เป็นปัญหาบาดเจ็บล้มตาย ไม่ว่าจะจากความเมาหรือกระทั่งโดยเฉพาะความคึกคะนองของเด็กเหล่านั้น  ไอ้ปัญหาเด็กแว้นทั้งหลายที่มันป่วนเมืองก็มาจากการที่มอเตอร์ไซค์น้ำมัน มันจูนปรับแต่งได้ง่าย  เติมน้ำมันแป๊บเดียวก็เต็มถังแล้วครับ  ยิ่งข่าวล่าสุดที่มีพ่อแม่รังแกฉันที่ซื้อ bigbike ขับไปโรงเรียนแะขับคึกคะนองความเร็วสูง ซึ่งโชคดีที่คู่กรณีไม่บาดเจ็บมากครับ  และทั้งนี้เพื่อนและคนรู้จักผมตายเพราะมอเจอร์ไซค์ biggike อันเนื่องมาจากความแรงและความมั่นใจในการเข้าโค้งความเร็วสูง อันเนื่องจากว่าได้ความมั่นใจมาจากการไปอบรมขับbigbike จากนักแข่งมาเลยห้าวและคนองกับความแรงจึงทำให้ต้องจากไปก่อนวัยอันควรครับ

คุณทำให้กระทู้ เปลี่ยนบรรยากาศกลายเป้นกระทู้ที่ บานปลาย คนละประเด็นไปละ เขาถามเรื่องรถยนต์ไฟฟ้ามามีผลอะไร แต่คุณใช้ความเกลียดชังมอไซค์ยกมาเป้นประเด้น ซึ่งตรงนี้ ผมมองว่ามันเป็น คติที่ร้ายแรงจากการเม้นของคุณ คุณบอกว่าใครๆก้ซื้อแต่มอไซคื เอ๊า!!! ใช่สิ มอไซคืราคาไม่กี่หมื่น ก้ซื้อได้ละ ไม่ได้รวยออกกระบะออกเก๋งหนิ จะให้เหาะไปหรือไง รอรถเมลื เป็นชาติๆหรือ????? ถ้าเปลี่ยนมอไซค์ทุกคันเป้นรถยนต์ คุณคิดดิว่าถนนมันจะเป็นอย่างไร เรื่องซิ่งไม่ซิ่งไม่เกี่ยว ขับสิบล้อจะซิ่งมีปัญหาปล่าว ถ้าคุณแน่ใจในความคิดคุณว่าจะหยุดมอไซค์ 10 ล้าน คันในประเทศนี้ได้ คุณอย่าโพสแต่ในนี้ดิ ไปโพสในคลับมอไซคื ในเฟส เอาดี้ อยากจะรู้ คุณจะหยุดสองล้อเป็นล้านๆคน ไหวปล่าว

ทำไมเขาต้องไปโพสในเฟสด้วย? ก็เขาอยากโพสในนี้  ??? ??? ???
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: fernando ที่ กรกฎาคม 22, 2019, 15:02:16
มันยังไม่เปลี่ยนง่ายๆหรอกครับ ถ้ายังไม่ถึงจุดเปลี่ยนของมัน ผมหมายถึงตราบใดที่ความสะดวกสบายในการใช้รถไฟฟ้ายังมีข้อกำจัด รถไฟฟ้ายังไงก็ยังไม่บูมครับ

รถไฟฟ้ามีข้อดีมาก(คงพูดกันมาเยอะแล้ว) แต่สุดท้ายข้อกำจัดจริงๆคือ เทคโนโลยีแบตเตอรี่และระบบการชาร์จไฟ  แค่ทุกวันนี้ รถสันดาบต้องต่อคิวเติมน้ำมันก็เบื่อจะตายแล้วครับ

แล้วถ้ารถไฟฟ้าต้องมาเสียบชาร์จรอกันเป็น 30 - 40 นาที(อย่างเร็วนะ) ผมว่ายังไงก็ไม่เกิด......ไว้ถึงจุดที่สามารถชาร์จประจุได้เร็วเหมือนเติมน้ำมัน และสามารถวิ่งระยะทางเท่ารถสันดาบ ถึงตอนนั้นคือจุดเปลี่ยนของรถยนต์ในอนาคตจริงๆครับ
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: bongo ที่ กรกฎาคม 22, 2019, 16:10:09
ผมว่าผู้ผลิตโดยส่วนใหญ่น่าจะปรับตัวได้นะครับ แต่ต่อไปคนจะตกงานกันส่วนใหญ่น่าจะมาจากการใช้ robot มากขึ้นมากกว่า
แต่ที่แน่ๆ รถไฟฟ้าน่าจะมาเร็วและเริ่มแข่งกันรุ่นแรงมากขึ้นตั้งแต่ปีหน้า(ตลาดยุโรปและอเมริกานะ) ส่วนตลาดไทยอาจะมี BYD เข้ามาทำตลาดเต็มที่ได้แล้วรึเปล่า?
ตอนนี้ก็มีข่าวว่า Toyota จับมือกับ BYD เพื่อพัฒนารถไฟฟ้า และ CATL เพื่อพัฒนาแบตเตอรี่แล้ว
(ต่อไป Toyota อาจจะ import รถ EV เข้ามาขายในไทยจากจีนก็เป็นได้)
ส่วนประเทศอินโดนีเซียก็ตั้งเป้าแล้วว่า 2022 จะเริ่มผลิตรถ EV และปี 2025 จะผลิตรถ EV ให้ได้ 20% ของยอดผลิตทั้งหมด

https://global.toyota/en/newsroom/corporate/28913709.html
https://global.toyota/en/newsroom/corporate/28913488.html
https://www.reuters.com/article/us-indonesia-electric/indonesia-aims-to-start-electric-vehicle-production-in-2022-idUSKCN1UD1OG
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ กรกฎาคม 22, 2019, 16:26:50
ผมว่ามันก็เป็นเรื่องของธุรกิจนะครับ ต้องปรับตัว ถ้าปรับไม่ได้ ก็อยู่ไม่ได้ครับ ไม่ใช่แค่เรื่องรถไฟฟ้านะครับ
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: deertesla ที่ กรกฎาคม 22, 2019, 16:39:41
นั่นแหละครับ ปัญหาของมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าคือแบตมันเสื่อมง่ายสุดๆ หรืออะไหล่ต่างๆพังง่ายกว่าพวกพี่ฮอน พี่ยาที่เป็นน้ำมัน ทำให้คนที่อยากใช้มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าเค้าเลยไม่มีทางเลือก  รวมถึงผู้ขายเองก็ต้องมาเจ็บช้ำระกำใจกับคุณภาพของมอเตอร์ไซค์ไฟฟาที่มีปัญหาเหล่านี้ และพฤติกรรมคนไทยอาจจะไม่ถูกจริตมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าด้วยครับ นอกเรื่องนิดนึงครับ ภาษีแบตเตอรี่นี้ ขึ้นภาษีการเก็บนานหรือยังครับ พอดีผมไปซื้อแบตเตอรี่รถยนต์เป็นแบบ DIN รู้สึกตรงใจราคาแพงโหดมากครับ โดยเฉลี่ย 26xx-3000บาทได้ครับ
[/quote]

แบตเตอรี่ตะกั่วตอนนี้ ถ้านำเข้าจากจีน เสียรวมทั้งหมดประมาณ  22.5 ครับ
ภาษีนำเข้าแค่ 5% เองครับ

แต่มาตรฐาน DIN นี่ ผมว่าแพงกว่าปกติอยู่แล้วครับ
เพราะโครงสร้างภายในและการปล่อยประจุ เหนือกว่า JIS พอสมควรเลยครับ

ราคาที่คุณได้ ก็ประมาณนี้แหละครับ สมมติผมนำเข้ามาจากจีนภายใต้มาตรฐาน DIN ผมก็ขายถูกกว่านี้ไม่ได้เท่าไหร่
แต่ผมไม่กล้าขายแบตรถยนต์ครับ ดุเดือดเหลือเกิน
[/quote]ขอบคุณพี่กีวี่มากครับ
ทำไมเขาต้องไปโพสในเฟสด้วย? ก็เขาอยากโพสในนี้  ??? ??? ???
[/quote]ขอบคุณมากครับที่เข้าใจ มันไม่ใช่อคติ เกลียดชังมอเตอร์ไซค์  ซึ่งผมเองก็ใช้มอเตอร์ไซค์ไปยังสถานที่ใกล้ๆ  แต่สิ่งที่เจอคือปัญหาที่เกิดจากผู้ใช้มอเตอร์ไซค์และตัวมอเตอร์ไซค์เองทั้ง  คนขับยังเป็นเด็กป.3 -ป.4 ขับกันความมคึกคะนอง อยากปาดกระชั้นชิดก็ปาด ชอบจี้ตูดรถยนต์ เวลามีคนข้ามทางม้าลายไม่เคยคิดจะหยุดจอดกัน อยากเบียดก็เบียด ขับกันเร็วสุดๆทั้งที่เป็นสถานที่ในเมือง รวมไปถึงควันพิษและเสียงจากมอเตอร์ไซค์
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: jaesz ที่ กรกฎาคม 22, 2019, 17:59:14
ผมยังนึกไม่ออกว่าโรงงานประกอบจะเปลี่ยนแบบไม่ทันตั้งตัวเป็นไฟฟ้าได้ยังงัยโดยเฉพาะรถกระบะ

คิดแค่เฉพาะในไทยนะครับ สมมติเอาแบบปีหน้ามาเลย รถเก๋งทุุกโรงงาน เลิกผลิตรถเครื่องยนต์สันดาป ก็ยังต้องรู้ล่วงหน้า1ปีกว่าจะตั้งโรงงานรถไฟฟ้า (มันไม่เร็วแบบนั้นแน่ๆ) รถกระบะไฟฟ้า? ไม่มีทางมาพร้อมกันได้ ค่านิยมรถกระบะคันเท่าโลกในไทยมัันเยอะกว่าคนนิยมกระบะเล็ก เอาไฟฟ้ามาใช้คงไม่เกิด

ในแง่ชิ้นส่วน

เอาตัวอย่างลูกสูบ มีโรงงานเฉพาะ อาจจะเตรียมไปทำพวก Forged อย่่่่่างอื่นเช่น ชุดโครงขับเคลื่อนมอเตอร์รถไฟฟ้า หรือเครื่องมือช่าง ลูกสูบรถใหญ่ รถกระบะที่ยังไม่มีทางเอาไฟฟ้ามาแทนได้ในสิบหรือยี่สิบปีนี้หมด


มีเวลาคิดเยอะ ถ้ารวยแล้วก็อาจจะเลิกทำ

ปล่อยพม่ากลับประเทศแค่นั้น เพราะงานเลเบอร์เราไม่ทำกันเท่าไหร่ คนไทยที่เหลือก็หางานใหม่ทำ ครับ
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: pim_cute ที่ กรกฎาคม 22, 2019, 19:21:53
อยากให้มีมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่มีความเร็วสูงุดไม่เกิน80กม./ชั่วโมงนะครับ  ปัจจุบันบันนี้มอเตอร์ไซค์ขับกันหวาดเสียวมาก  และแบนมอเตอร์ไซค์ย้ำมันไปเลย  รวมไปถึง bigbikeทั้งหลายด้วยครับ

คุณคิดว่า ปริมาณรถมอไซค์ รวมๆ ทั้งประเทศ มีกันเท่าไหร่ ถ้าเม้นนี้คุณไปโผล่ ในคลับ ในเพจ ในสังคม มอไซค์ ชาวไบค์เกอร์ หัวใจสองล้อ คุณรับแรงทานกระแสไหวปล่าว คุณโดนอะไรผมไม่เดาได้นะ แน่จริงไปโพสในเฟสดิ ใช้โปรไฟล์จริงๆด้วยถ้ากล้าเม้นแบบนีจริง คิดแบบคุณมันคือ อคติที่รุนแรงมากๆ คุณจะบอกว่าคนขับรถยนต์ขับแล้ว ดี มีวินัย พอขับมอไซค์ คือระยำ????  ทุกวันนี้ผมเห็นกระบะแต่ท่อดังๆ พ่นควันดำ เบิ้ลเครื่องกลางถนน ไม่พูดมั้งวะ
ทำไมผมถึงกล้าพูดแบบนี้ ยุคปัจจุบันซื้อขายจักรยานยนต์หรือรถยนต์ก็ตามได้ง่ายเหมือนซื้อมาม่า  ยิ่งบางบ้านให้ลูกขับขี่กันตั้งแต่ป.3-ป.4  หรือขาเท้ายังไม่ถึงพื้นเลยสุดท้ายก็เป็นปัญหาบาดเจ็บล้มตาย ไม่ว่าจะจากความเมาหรือกระทั่งโดยเฉพาะความคึกคะนองของเด็กเหล่านั้น  ไอ้ปัญหาเด็กแว้นทั้งหลายที่มันป่วนเมืองก็มาจากการที่มอเตอร์ไซค์น้ำมัน มันจูนปรับแต่งได้ง่าย  เติมน้ำมันแป๊บเดียวก็เต็มถังแล้วครับ  ยิ่งข่าวล่าสุดที่มีพ่อแม่รังแกฉันที่ซื้อ bigbike ขับไปโรงเรียนแะขับคึกคะนองความเร็วสูง ซึ่งโชคดีที่คู่กรณีไม่บาดเจ็บมากครับ  และทั้งนี้เพื่อนและคนรู้จักผมตายเพราะมอเจอร์ไซค์ biggike อันเนื่องมาจากความแรงและความมั่นใจในการเข้าโค้งความเร็วสูง อันเนื่องจากว่าได้ความมั่นใจมาจากการไปอบรมขับbigbike จากนักแข่งมาเลยห้าวและคนองกับความแรงจึงทำให้ต้องจากไปก่อนวัยอันควรครับ

คุณทำให้กระทู้ เปลี่ยนบรรยากาศกลายเป้นกระทู้ที่ บานปลาย คนละประเด็นไปละ เขาถามเรื่องรถยนต์ไฟฟ้ามามีผลอะไร แต่คุณใช้ความเกลียดชังมอไซค์ยกมาเป้นประเด้น ซึ่งตรงนี้ ผมมองว่ามันเป็น คติที่ร้ายแรงจากการเม้นของคุณ คุณบอกว่าใครๆก้ซื้อแต่มอไซคื เอ๊า!!! ใช่สิ มอไซคืราคาไม่กี่หมื่น ก้ซื้อได้ละ ไม่ได้รวยออกกระบะออกเก๋งหนิ จะให้เหาะไปหรือไง รอรถเมลื เป็นชาติๆหรือ????? ถ้าเปลี่ยนมอไซค์ทุกคันเป้นรถยนต์ คุณคิดดิว่าถนนมันจะเป็นอย่างไร เรื่องซิ่งไม่ซิ่งไม่เกี่ยว ขับสิบล้อจะซิ่งมีปัญหาปล่าว ถ้าคุณแน่ใจในความคิดคุณว่าจะหยุดมอไซค์ 10 ล้าน คันในประเทศนี้ได้ คุณอย่าโพสแต่ในนี้ดิ ไปโพสในคลับมอไซคื ในเฟส เอาดี้ อยากจะรู้ คุณจะหยุดสองล้อเป็นล้านๆคน ไหวปล่าว

ทำไมเขาต้องไปโพสในเฟสด้วย? ก็เขาอยากโพสในนี้  ??? ??? ???

แต่ผมเห็นด้วยนะ ข่าว bb ชนคนตายเยอะช่วงนี้ บางคนก็ bias เขาแค่แสดงความคิดเห็น ไม่จำเป็นต้องมีอำนาจอะไรหรอกครับแค่พูดออกมาก็เท่านั้น ไม่ได้ละเมิดใครนี่ครับ
ถกเถียงด้วยข้อเท็จจริงดีกว่าครับ ไอ้แบบท้า หรือขู่ว่าจะโดนโน้นนี่ ไม่ค่อยดีเท่าไรนะผมว่า ไม่เห็นด้วยก็พูดด้วยเหตุและผล เคารพสิทธิในการแสดงความเห็นบ้าง

แต่ถ้าถึงขั้นแบนคงไม่มีใครเห็นพ้องเท่าไร ความคิดสุดโต่งเกินไป แค่ต้องควบคุม
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: Odd_yim ที่ กรกฎาคม 22, 2019, 20:34:23
โรงงานที่มีทุน ปรับเปลี่ยนเครื่องจักรได้น่าจะรอดครับ แต่คนงานนี่นับวันมีแต่จะถูกแทนที่ด้วยโรบอท มากขึ้น ถ้าไม่ปรับตัวก็กระทบเยอะอยู่ครับ

ถ้ารถ EV มีใช้สัก 1 ล้าน คัน กำลังผลิตไฟฟ้าจะต้องเพิ่มอีก หมื่น MW เป็นอย่างน้อยครับ ซึ่งดูแผน PDP แล้วน่าจะยังไม่ได้ประเมินเรื่องนี้นะ
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: mochalatte ที่ กรกฎาคม 22, 2019, 23:26:33
ค่อยเป็นค่อยไปครับ เปลี่ยนทีเดียวล้านคันไม่น่าสมเหตุผล
เปลี่ยนเป็นเริ่มต้นหลักหมื่น..คูณสิบกลายเป็นหลักแสน..คูณอีกสิบก้อ..หลักล้าน
ขอให้ผู้บริโภคมีทางเลือกที่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน
แต่ต้องให้ผู้ผลิตมีโอกาสบ้าง เผื่อจะได้ชดเชยกับสิ่งที่เค้าทำกำไรมากมาย
เพื่อมาตอบแทนสังคม

หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: deertesla ที่ กรกฎาคม 23, 2019, 00:52:00
อยากให้มีมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าที่มีความเร็วสูงุดไม่เกิน80กม./ชั่วโมงนะครับ  ปัจจุบันบันนี้มอเตอร์ไซค์ขับกันหวาดเสียวมาก  และแบนมอเตอร์ไซค์ย้ำมันไปเลย  รวมไปถึง bigbikeทั้งหลายด้วยครับ

คุณคิดว่า ปริมาณรถมอไซค์ รวมๆ ทั้งประเทศ มีกันเท่าไหร่ ถ้าเม้นนี้คุณไปโผล่ ในคลับ ในเพจ ในสังคม มอไซค์ ชาวไบค์เกอร์ หัวใจสองล้อ คุณรับแรงทานกระแสไหวปล่าว คุณโดนอะไรผมไม่เดาได้นะ แน่จริงไปโพสในเฟสดิ ใช้โปรไฟล์จริงๆด้วยถ้ากล้าเม้นแบบนีจริง คิดแบบคุณมันคือ อคติที่รุนแรงมากๆ คุณจะบอกว่าคนขับรถยนต์ขับแล้ว ดี มีวินัย พอขับมอไซค์ คือระยำ????  ทุกวันนี้ผมเห็นกระบะแต่ท่อดังๆ พ่นควันดำ เบิ้ลเครื่องกลางถนน ไม่พูดมั้งวะ
ทำไมผมถึงกล้าพูดแบบนี้ ยุคปัจจุบันซื้อขายจักรยานยนต์หรือรถยนต์ก็ตามได้ง่ายเหมือนซื้อมาม่า  ยิ่งบางบ้านให้ลูกขับขี่กันตั้งแต่ป.3-ป.4  หรือขาเท้ายังไม่ถึงพื้นเลยสุดท้ายก็เป็นปัญหาบาดเจ็บล้มตาย ไม่ว่าจะจากความเมาหรือกระทั่งโดยเฉพาะความคึกคะนองของเด็กเหล่านั้น  ไอ้ปัญหาเด็กแว้นทั้งหลายที่มันป่วนเมืองก็มาจากการที่มอเตอร์ไซค์น้ำมัน มันจูนปรับแต่งได้ง่าย  เติมน้ำมันแป๊บเดียวก็เต็มถังแล้วครับ  ยิ่งข่าวล่าสุดที่มีพ่อแม่รังแกฉันที่ซื้อ bigbike ขับไปโรงเรียนแะขับคึกคะนองความเร็วสูง ซึ่งโชคดีที่คู่กรณีไม่บาดเจ็บมากครับ  และทั้งนี้เพื่อนและคนรู้จักผมตายเพราะมอเจอร์ไซค์ biggike อันเนื่องมาจากความแรงและความมั่นใจในการเข้าโค้งความเร็วสูง อันเนื่องจากว่าได้ความมั่นใจมาจากการไปอบรมขับbigbike จากนักแข่งมาเลยห้าวและคนองกับความแรงจึงทำให้ต้องจากไปก่อนวัยอันควรครับ

คุณทำให้กระทู้ เปลี่ยนบรรยากาศกลายเป้นกระทู้ที่ บานปลาย คนละประเด็นไปละ เขาถามเรื่องรถยนต์ไฟฟ้ามามีผลอะไร แต่คุณใช้ความเกลียดชังมอไซค์ยกมาเป้นประเด้น ซึ่งตรงนี้ ผมมองว่ามันเป็น คติที่ร้ายแรงจากการเม้นของคุณ คุณบอกว่าใครๆก้ซื้อแต่มอไซคื เอ๊า!!! ใช่สิ มอไซคืราคาไม่กี่หมื่น ก้ซื้อได้ละ ไม่ได้รวยออกกระบะออกเก๋งหนิ จะให้เหาะไปหรือไง รอรถเมลื เป็นชาติๆหรือ????? ถ้าเปลี่ยนมอไซค์ทุกคันเป้นรถยนต์ คุณคิดดิว่าถนนมันจะเป็นอย่างไร เรื่องซิ่งไม่ซิ่งไม่เกี่ยว ขับสิบล้อจะซิ่งมีปัญหาปล่าว ถ้าคุณแน่ใจในความคิดคุณว่าจะหยุดมอไซค์ 10 ล้าน คันในประเทศนี้ได้ คุณอย่าโพสแต่ในนี้ดิ ไปโพสในคลับมอไซคื ในเฟส เอาดี้ อยากจะรู้ คุณจะหยุดสองล้อเป็นล้านๆคน ไหวปล่าว

ทำไมเขาต้องไปโพสในเฟสด้วย? ก็เขาอยากโพสในนี้  ??? ??? ???

แต่ผมเห็นด้วยนะ ข่าว bb ชนคนตายเยอะช่วงนี้ บางคนก็ bias เขาแค่แสดงความคิดเห็น ไม่จำเป็นต้องมีอำนาจอะไรหรอกครับแค่พูดออกมาก็เท่านั้น ไม่ได้ละเมิดใครนี่ครับ
ถกเถียงด้วยข้อเท็จจริงดีกว่าครับ ไอ้แบบท้า หรือขู่ว่าจะโดนโน้นนี่ ไม่ค่อยดีเท่าไรนะผมว่า ไม่เห็นด้วยก็พูดด้วยเหตุและผล เคารพสิทธิในการแสดงความเห็นบ้าง

แต่ถ้าถึงขั้นแบนคงไม่มีใครเห็นพ้องเท่าไร ความคิดสุดโต่งเกินไป แค่ต้องควบคุม
ขอบคุณมากครับที่เข้าใจ  ตอนนี้อยากให้ควบคุมจริงๆ การซื้อรถเมืองไทยไม่ว่าประเภทไหนควรจะควบคุมนะครับ
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: NINENOI ที่ กรกฎาคม 23, 2019, 08:04:16
โรงงานที่มีทุน ปรับเปลี่ยนเครื่องจักรได้น่าจะรอดครับ แต่คนงานนี่นับวันมีแต่จะถูกแทนที่ด้วยโรบอท มากขึ้น ถ้าไม่ปรับตัวก็กระทบเยอะอยู่ครับ

ถ้ารถ EV มีใช้สัก 1 ล้าน คัน กำลังผลิตไฟฟ้าจะต้องเพิ่มอีก หมื่น MW เป็นอย่างน้อยครับ ซึ่งดูแผน PDP แล้วน่าจะยังไม่ได้ประเมินเรื่องนี้นะ

จังหวะปรับปรุงปรับเปลี่ยนนี่แหละครับที่จะเอาโรบอทมาแทนคน แรงงานไร้ฝีมือก็ต้องพัฒนาตัวเองให้เป็นแรงงานมีฝีมือไม่งั้นอนาคตตกงานหรือหางานยากขึ้น ผมทำงานอยู่นิคมอุตสาหกรรมอิสเทิร์นซีบอร์ดเห็นคนตกงานหางานไม่ได้เพียบเลยโรงงานหลายๆที่ก็รับเป็นซับคอนแทรคคงเผื่ออนาคตเปลียนมาใช้โรบอทด้วยจะได้ลดคนง่ายๆ
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: S6 ที่ กรกฎาคม 23, 2019, 11:16:49
รถทั้งคันไม่ได้มีแค่เครื่องยนต์ มอเตอร์ไฟฟ้ามาแทนเครื่องยนต์เท่านั้นใช่หรือเปล่าครับ
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: Smith686 ที่ กรกฎาคม 23, 2019, 11:51:43
รถทั้งคันไม่ได้มีแค่เครื่องยนต์ มอเตอร์ไฟฟ้ามาแทนเครื่องยนต์เท่านั้นใช่หรือเปล่าครับ

    ไม่ใช่แค่เครื่องนะครับ  รถไฟฟ้าไม่มีเกียร์  ไม่มีเฟืองท้าย  ไม่มีท่อไอเสีย  ไม่มีระบบระบายความร้อน  ชิ้นส่วนที่หายไปคือชิ้นส่วนที่รถที่ใช้เครื่องยนต์ต้องบำรุงรักษาเยอะมาก  รถที่ใช้ไปเกิน 5 ปีจะต้องเสียค่าซ่อมบำรุงชิ้นส่วนพวกนี้เยอะมาก  ค่าใช้จ่ายก็สูง
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: flybigbear ที่ กรกฎาคม 23, 2019, 12:36:39
ถ้าวิ่งในระยะไม่เกิน 100KM ก็น่าสน แต่ถ้าวิ่งไกลๆๆยังไงก็ไม่น่าสน
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: S6 ที่ กรกฎาคม 23, 2019, 12:50:06
รถทั้งคันไม่ได้มีแค่เครื่องยนต์ มอเตอร์ไฟฟ้ามาแทนเครื่องยนต์เท่านั้นใช่หรือเปล่าครับ

    ไม่ใช่แค่เครื่องนะครับ  รถไฟฟ้าไม่มีเกียร์  ไม่มีเฟืองท้าย  ไม่มีท่อไอเสีย  ไม่มีระบบระบายความร้อน  ชิ้นส่วนที่หายไปคือชิ้นส่วนที่รถที่ใช้เครื่องยนต์ต้องบำรุงรักษาเยอะมาก  รถที่ใช้ไปเกิน 5 ปีจะต้องเสียค่าซ่อมบำรุงชิ้นส่วนพวกนี้เยอะมาก  ค่าใช้จ่ายก็สูง

คลัทช์ไม่ต้องเปลี่ยนแล้ว น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันเฟืองท้าย  น้ำยาหล่อเย็น ไม่ต้องใช้แล้ว ดีงาม เหลือแต่ทำเบรคไฟฟ้าด้วย
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: bongo ที่ กรกฎาคม 23, 2019, 14:02:54
น้ำมันเกียร์น้ำยาหล่อเย็นยังมีอยู่นะครับ เพียงแต่มันไม่ได้ร้อนมากเหมือนเครื่องยนต์ น้ำมันเกียร์พวกนี้น่าจะเสื่อมช้ากว่า ระยะการเปลี่ยนถ่ายก็น่าจะนานไปด้วย
หัวข้อ: Re: หากรถไฟฟ้ามาเร็วกว่าที่คิด โรงงานออโต้พาร์ททั้งหลายจะรอดไหม ?
เริ่มหัวข้อโดย: punn ที่ กรกฎาคม 23, 2019, 18:34:34
ไม่รอดครับ  :o

ถ้ามาเร็วแบบทุกค่ายปั๊มที่จีนส่งมาเป็นคันสำเร็จกันเลย
แบบนี้อุสาหกรรมกลัวกันอยู่เรื่อง 0% ช่องโหว่รถ ev ที่จีนได้ไป
รู้สึกจะประเทศดียวด้วย ถ้าข้อมูลผิดขออภัย

โรงงานทั้งหลาย จากที่ผลิตเพื่อประกอบ
ต้องมาเหลือแค่ผลิตเพื่อเป็นอะไหล่ รอดูกันต่อไปครับ