Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: wiriya1144 ที่ กรกฎาคม 23, 2019, 23:06:04
-
เจ้าของบริษัทที่นั่งแคมรี่หรือแอคคอร์ด (ปีล่าสุด) ในด้านภาพลักษณ์คนทั่วไปมองอย่างไรครับ และในสมัยนี้ความน่าเชื่อถือจะถูกตัดสินว่าด้อยกว่าคนขับเบนซ์หรือ bmw ไหมครับ
ในมุมผมเองคิดว่าในยุคนี้ที่ทุกอย่างผ่อนได้ง่าย ผ่อนสบาย ผ่อนหลายปี แถมมีดาวน์น้อย เราดูจากของภายนอกมันบอกได้เพียงระดับหนึ่ง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด เลยเฉยๆกับเรื่องรถ แต่สงสัยในมุมของคนทั่วไป จะยังมองว่า ผู้บริหารที่นั่งรถญี่ปุ่น ความน่าเชื่อถือจะน้อยกว่าคนที่นั่ง bmw benz ไหมครับ
-
เฉยๆแฮะ
camry / accord ภาพลักษณ์มันก็โอเคนะ กับ ตำแหน่งผู้บริหาร หรือ เจ้าของบริษัท ขนาดกลาง ก็โอเคครับ หลายบริษัทที่เคยติดต่อด้วย เจ้าของขับ Fortuner หรือ กลุ่ม PPV ก็เยอะครับ
หรือไม่ต้องอะไร เจ้าของบริษัทที่ผมทำงานอยู่ น่าจะระดับหมื่นล้าน (เพราะแค่บริษัทที่ผมดูแล ก็หลักร้อยล้านละ) ยังนั่ง TOYOTA ALPHARD รุ่นแรกอยู่เลยครับ ติดต่อธุรกิจ รับแขก ออกงาน ก็เห็นใช้คันนี้ตลอดครับ
แต่ถ้าไปไกลๆก็มี เครื่องบิน Jet ส่วนตัว / มีเฮลิคอปเตอร์ ส่วนตัว นะ
-
สำหรับคนส่วนใหญ่ยังไง mercedes & bmw ก้จะช่วยเรื่องภาพลักษณ์ได้ดีพอสมควร (ยี่ห้อที่สูงขึ้นไปอีกก้มีเยอะแยะ) ก้แล้วแต่มุมมองของคนแหละครับ camry & Accord เจ้าของธุรกิจเล็กถึงใหญ่ใช้กันเยอะแยะครับ ไม่นับรถประจำตำแหน่งบ. ต่างๆที่ยังมีอีกเยอะมาก ก้ขึ้นอยู่ว่าจะแคร์สายตาคนรอบๆขนาดไหนถ้าแคร์มากก้ซื้อ bmw & mercedes ไปก้จบๆครับ ดูดีอยู่แต่ถ้ามองว่ามันเปลืองไปหรือไม่ได้แคร์สายตาคนอื่นมาก d seg jpn ก้เป็นตัวเลือกที่ดีครับ ส่วนตัวผมๆ ชอบหมดนะ c seg jpn & eu กับ d seg jpn & eu น่าใช้แทบทุกรุ่น
-
ตอบในฐานะเป็น start up SME ทั้งตัวเอง และของเพื่อนนะครับ
ส่วนตัวผมรู้สึกว่า Camry , Accord รุ่นใหม่พียงพอกับภาพลักษณ์แล้ว ในใจผมตอนแรกก็จะเลือก camry แต่พอคิดจะใช้งานจะมีลูก และสุนัข ตามไปเที่ยวด้วย ผมวางแผน PPV แทน
ส่วนเพื่อนอีกคน เดิมใช้ camry รุ่นที่แล้ว ภาพลักษณ์ผ่าน แต่เขาไปสอย E90 ปี 2008 ผมก็มองว่ามันโอเคมากๆ กว่า camry ตัวเก่าของเขา
ส่วนเพื่อนอีกกลุ่มธุรกิจขนาดกลาง พนักงานไม่เกิน 50 คน
มี ALPHARD รุ่นเก่าคันนึง PPV คันนึง ลูก 2
คนนี้รวย มีธุรกิจบนดิน และใต้ดิน
อีกคนก็ใช้ Kia grand carnival และ BM รุ่นเก่าอีกคัน
ผมว่าภาพลักษณ์ ในธุรกิจขนาดกลาง ถึงเล็ก Camry Accord อยู่ได้สบายๆ เพิ่มเติมคือบุคลิกภาพผู้บริหารให้ดูแพงแค่นั้นพอ
ในกรณี Benz BMW ถ้ารุ่นใหม่ๆ มันดูโอเค กว่าอยู่แล้ว แต่แค่ว้าวครับ คือ ไม่ได้ให้คะแนนในส่วนนี้เท่าไหร่ในเรื่องงาน
แต่มีกรณีศึกษาของน้องเพื่อน ปลดหนี้สินใกล้หมด ธุรกิจค้าขายสินค้าเกษตรแบบพื้นที่ทำกินไม่ถึง 3 ไร่ ซึ่งเป็นกงสี รายได้หลักแสนต้น ยังไม่หักค่าใช้จ่าย ถอย serie3 เฉยเลย
ผมมองว่าแต่ละธุรกิจบางชนิดและบางอย่าง มันก็จำเป็นต้องเลือกรถให้เข้ากับธุรกิจตัวเองด้วย
ซึ่งในโจทย์ จขกท. ผมให้ camry,Accord ผ่านสบายๆ
-
เหลือเฟือครับ ขนาดเจ้าของ Huawei ยังใช้รถ ecocar
-
ใช้ได้ครับ พอเพียง อย่าไปแคร์สายตาคนอื่นมากไป
-
คนรู้จัก เจ้าของกิจการ ใช้ camry มา 4 คันต่อๆกัน เขาไม่ซื้อยุโรปเลยเพราะมองว่าแพงตอนซื้อ ซ่อมก็แพง ขายก็ตก เขาซื้อ camry ทุก 6 ปีตั้งเวลาแบบนั้นเป๊ะๆตลอด แล้วเขาก็เล่าว่ามันไม่เคยจุกจิกกวนใจเลย ใช้ได้ทุกวันจนวันขาย
เขาเอาเงินไปลงกับครอบครัวเยอะกว่า ส่งลูกเรียน ซื้ออุปกรณ์การศึกษา ซื้อกล้องแพงๆให้ลูกแบบแรกๆญาติตกใจ ทุกวันนี้เด็กคนนั้นเป็นช่างภาพอาชีพรับงานสื่อนอก
ผมว่าเขาไม่สนว่าใครจะมองไง เขาสนแค่ว่าเงินที่มีเอาไปทำอะไรให้ชีวิตและครอบครัว
ในทางตรงกันข้าม เพื่อนผมบางคนมีความสุขมากที่ซื้อยุโปป้ายแดงเป็นของขวัญให้ตัวเองและภรรยา
ต่างคนต่างทำไปในทางที่ไม่เกินกำลังและมีความสุข ไม่เห็นต้องแคร์สายตาคนภายนอกเลยครับ
-
Camry / Accord ถือว่าเป็นรถผู้บริหารได้สบายทั้งคู่ครับ แค่ MB/BMW ดูแล้วมีความมั่นคงและมั่งคั่งมากกว่า ส่วนท่านอื่นที่ใช้ PPV น่าจะเป็นลักษณะของงานที่ต้องใช้รถประเภทนี้ บางคนใช้ Alphard/velfire แทน PPV แต่เวลาใช้งานทั่วไปอาจใช้ D seg อีกคัน
-
แล้วแต่มุมมองครับ ขับอะไรก็ได้นะ ผมยังเคยเห็นเจ้าของ บ. มีลูกน้องเป็นร้อยใช้รถ ญ๊่ปุ่นอายุ 20 ปีเลย เห็นแล้วก็เปลี่ยนมุมมองการใช้รถเพื่อหน้าตาทางสังคมไปเหมือนกันครับ
-
แคมรี่ออกแนวใช้รถบริษัทครับ เพราะมีหลายที่ซื้อเป็นโหลๆให้ผู้บริหารใช้ 8)
-
อยู่ที่คุณให้ความสำคัญมากแค่ไหน ต่างหากครับ
สำหรับผมเฉยๆ เจ้าของบริษัท เจ้าของธุรกิจ มีเงินเหลือๆ เขาก็ใช้ accord กับ camry กันเยอะครับ
แต่บางคนเงินแค่พอมีใช้ ขับ BMW , BENZ ก็มีเช่นกัน
มันอยู่ที่ตัวบุคคลครับ มันไม่ใช่ trend ที่จะบอกว่า "เจ้าของธุรกิจ ควรจะขับ....."
-
ภาพลักษณ์มันมาจากคุณภาพในการทำงานครับไม่ใช่รถที่ใช้งาน ให้ใช้โรลซ์รอยแต่ทำงานห่วยนัดแล้วไม่ตรงเวลาเก่งแต่พูดก็ไม่มีใครอยากทำธุรกิจด้วย กลับกันคนที่ทำงานดีเป็นไปตามตกลงในสัญญาไม่ผิดคำพูดติดค้างเงินให้ขี่มอเตอไซมาคุยด้วยจบงานไปก็มีแต่คนอยากร่วมงานกันต่อในอนาคต มีคนมาขอเช่าที่บ้านผมหลักสิบล้านผมยังไมาสนใจเลยว่าจะเอารถอะไรมา ผมดูที่คนๆนั้นให้เกียรติผมแค่ไหนในการทำธุรกิจร่วมกัน สัญญาที่เอามาเสนอได้ประโยชน์ร่วมกันไหมหรืออีกฝ่ายเอาแต่ได้ฝ่ายเดียว ถ้าไม่ยุติธรรมให้ขึ้นเฮลิคอเตอมาลงจอดให้ดูผมก็ไม่เอามันไม่ใช่ของเราเลย ยังก็สรุปว่าเอาเปรียบแบบนี้ไม่ทำธุรกิจด้วยหรอก :-X
-
ส่วนตัวไม่ค่อยสนภาพลักษณ์เท่าไหร่
-
ส่วนตัวผมว่าแค่ Camry accord ก็โอเคแล้ว
BMW Benz พวก 1,3,Cla,gla ถ้าไม่ใช่ 5 หรือ E ขึ้นไปผมว่าก็ไม่ต่างจากค่ายญี่ปุ่นนะ
-
Camry หรือ Accord ก็โอเคนะครับ ถ้าไม่คาใจ
แต่ Series 5 กับ E-Class เหมาะสมกว่า
-
กก. ผจก.ใหญ่ธนาคารรัฐวิสาหกิจแบงค์สีฟ้าแถวแยกนานา เค้ายังนั่ง Caravell ตัวเก่ามาทำงานเลยครับ
เค้าไม่เห็นต้องแคร์ภาพลักษณ์อะไร เป็นถึง MD ใหญ่แบงค์ของรัฐด้วยซ้ำ เงินเดือนหลักล้าน
รถก็แค่เปลือกนอก เค้าไม่สนใจหรอกครับ
-
ยุคนี้ถ้าคุณไม่ได้เป็นเจ้าของธุรกิจแบบไฮเอนด์เลย
แทบบไม่มีใครสนใจแล้วครับว่าคุณนั่งอะไร
รึเพื่อนผมดีลงานกับบริษัทที่จีน เวลาเจ้าของเอารถมารับก็ใช้แค่ S Class ซึ่งเป็นของโรงงาน
ตัวเจ้าของโรงงานเองยังใช้ E เองครับ
ส่วนตัวถ้าในปัจจุบันยังมองภาพลักษณ์รถเป็นหลัก ถ้าไม่ใชุ่รกิจไฮเอนด์ การดำเนินงาน และมุมมองของคุณมันโบราณมากครับ
-
ใช้รถยิ่งแพง ภาพลักษณ์มันออกไปทำนองว่า กำไรเยอะ จ้องจะฟันเราตลอดเวลา
-
Benz / BM มันก็ดีกว่าอยู่แล้ว หรูหราสมฐานะ
แต่ถ้ามันฝืนซื้อมาเกินตัว ไม่สบายใจ มันก็ยิ่งไม่เหมาะกับเรา
เลือกที่เหมาะสมครับ
-
ยุคนี้ภาพลักษณ์สำคัญมากครับ
ใคร ๆ ก็อยากดูดี
แต่ให้เริ่มกับหน้าตา ทรงผม
รูปร่าง บุคคลิก การยืนการเดิน ท่านั่ง
การพูดจา
เหล่านี้ให้มาก่อนเป็นอันดับแรกครับ
อันดับต่อมาเป็นการแต่งตัว
พอทำสำเร็จแล้ว ความคิดจะเปลี่ยนไป
ว่า "เฮ้ย ผมขับแค่ altis ก็พอแระ"
เพราะบุคคลิกจะทำให้มีโอกาศทางสังคมมากกว่าคนอื่น
แล้วสิ่งนี้จะพาไปหารายได้ ทำให้ซื้อรถในฝันดั่งใจครับ
สุดท้ายคุณก็จะหล่อทั้งนอกรถและในรถครับ
-
ยุคนี้ภาพลักษณ์สำคัญมากครับ
ใคร ๆ ก็อยากดูดี
แต่ให้เริ่มกับหน้าตา ทรงผม
รูปร่าง บุคคลิก การยืนการเดิน ท่านั่ง
การพูดจา
เหล่านี้ให้มาก่อนเป็นอันดับแรกครับ
อันดับต่อมาเป็นการแต่งตัว
พอทำสำเร็จแล้ว ความคิดจะเปลี่ยนไป
ว่า "เฮ้ย ผมขับแค่ altis ก็พอแระ"
เพราะบุคคลิกจะทำให้มีโอกาศทางสังคมมากกว่าคนอื่น
แล้วสิ่งนี้จะพาไปหารายได้ ทำให้ซื้อรถในฝันดั่งใจครับ
สุดท้ายคุณก็จะหล่อทั้งนอกรถและในรถครับ
เห็นด้วยนะครับ
สำหรับผม บุคลิค วิสัยทัศ และการใช้คำพูดสำคัญกว่า เพราะเราเองก็ไม่ได้ไปรับ/ส่งลูกค้า ถึงรถเขาอยุ่แล้ว
ความคิดเห็นส่วนตัว จากการใช้บริการสองร้านขายอุปกรก่อสร้างสองร้าน
ร้านแรก ร้านใหญ่โตอยุ่มานาน เถ้าแก่ใส่กางเกงขาสั้นเสื้อยืด พูดจาห้วนๆ "เอาไรอีกไหม"
กับอีกร้านขนาดกลาง เปิดใหม่ไม่เกิน สามปี เจ้าของร้านใส่กางเกงยีนส์ เข็มขัด เสื้อโปโล "รับอะไรเพิ่มไหม... อันนี้มียัง อันนั้นมียัง"
หลังจากเจอร้านสอง ร้านแรกผมก็ไม่เข้าอีกเลย
บางคนวางตัวดีๆ บุคลิคดี ขับ eco-car เราก็ดูว่าประสบความสำเร็จแต่เลือกที่จะไม่ใช้เงินลงกับรถ
อีกคนพูดจาไม่น่าฟัง อวยตัวเอง ดูถูกคนอื่น ถึงนั้งมา s-class ก็ดูไม่น่าไว้ใจ ไม่อยากสนับสนุน
-
ถ้าเป็นฉะโจ้บริษัทญึ่ปุ่นมันก็ไม่แปลกอะไร เห็นบ่อยๆ ก็ใช้รถระดับนี้
แต่ถ้าเป็นคนไทย ภาพลักษณ์ร่ำรวย แต่ใช้ camry ผมว่าแปลก อินดี้มาก
เพราะคนต้องมีสังคม จะทนความรู้สึกแปลกแยกของตัวเองได้แค่ไหน
จริงแล้วคำว่าเจ้าของบริษัทยังไม่ได้บ่งบอกถึงความร่ำรวยอะไรเล้ย
ต้องดูฐานะการเงินก่อนนะ 555 โดยทั่วไปก็ใช้ camry ได้ไม่น่าเกลียด
-
คนดูรวย นั่งรถเก่าๆ ก็ยังดูเป็นคนรวย
คนดูจน นั่งรถแพงๆ ก็เหมือนไปยืมเค้ามา
ผมว่าอยู่ที่องค์ประกอบ ภาพลักษณ์โดยรวม ของตัวคุณด้วย
และที่สำคัญคือเงินคุณเอง คุณให้ค่ากับรถยนต์แค่ไหน
ใช้แค่เป็นพาหนะ หรือแสดงออกถึงฐานะด้วย
บางคนก็ไม่ได้สนใจว่าจะต้องนั่งรถแพงมากมาย
แต่ไปแสดงออกถึงฐานะด้วยนาฬิกา เครื่องแต่งกาย
-
ยุคนี้ภาพลักษณ์สำคัญมากครับ
ใคร ๆ ก็อยากดูดี
แต่ให้เริ่มกับหน้าตา ทรงผม
รูปร่าง บุคคลิก การยืนการเดิน ท่านั่ง
การพูดจา
เหล่านี้ให้มาก่อนเป็นอันดับแรกครับ
อันดับต่อมาเป็นการแต่งตัว
พอทำสำเร็จแล้ว ความคิดจะเปลี่ยนไป
ว่า "เฮ้ย ผมขับแค่ altis ก็พอแระ"
เพราะบุคคลิกจะทำให้มีโอกาศทางสังคมมากกว่าคนอื่น
แล้วสิ่งนี้จะพาไปหารายได้ ทำให้ซื้อรถในฝันดั่งใจครับ
สุดท้ายคุณก็จะหล่อทั้งนอกรถและในรถครับ
เห็นด้วยนะครับ
สำหรับผม บุคลิค วิสัยทัศ และการใช้คำพูดสำคัญกว่า เพราะเราเองก็ไม่ได้ไปรับ/ส่งลูกค้า ถึงรถเขาอยุ่แล้ว
ความคิดเห็นส่วนตัว จากการใช้บริการสองร้านขายอุปกรก่อสร้างสองร้าน
ร้านแรก ร้านใหญ่โตอยุ่มานาน เถ้าแก่ใส่กางเกงขาสั้นเสื้อยืด พูดจาห้วนๆ "เอาไรอีกไหม"
กับอีกร้านขนาดกลาง เปิดใหม่ไม่เกิน สามปี เจ้าของร้านใส่กางเกงยีนส์ เข็มขัด เสื้อโปโล "รับอะไรเพิ่มไหม... อันนี้มียัง อันนั้นมียัง"
หลังจากเจอร้านสอง ร้านแรกผมก็ไม่เข้าอีกเลย
บางคนวางตัวดีๆ บุคลิคดี ขับ eco-car เราก็ดูว่าประสบความสำเร็จแต่เลือกที่จะไม่ใช้เงินลงกับรถ
อีกคนพูดจาไม่น่าฟัง อวยตัวเอง ดูถูกคนอื่น ถึงนั้งมา s-class ก็ดูไม่น่าไว้ใจ ไม่อยากสนับสนุน
+10 ครับ
บุคลิกภาพเจ้าของสำคัญกว่าครับ
-
หากจะทำอะไรในฐานะผู้บริหารของบริษัทก้อควรให้เหมาะสม
แต่หากหมดเวลางาน. เวลาส่วนตัวจะแต่งตัว ขับรถอะไรก้อทำไปนะ
กลับมาคำถามว่า. Camry, Accord ในภาพลักษณ์เจ้าของบริษัท?
สำหรับผมกลับมองว่า เหมาะสมที่จะเป็นรถใช้งานในการงานได้
แต่เทียบกับbmw mb (ป้ายแดง รุ่นไหม่) ไม่ได่นะครับ
ราคา1.8ล้าน. D seg japanป่ายแดง vs. Europe มือสอง. ลองคิดดู
-
S-Class หรือไม่ก็ Series 7 จบสวยกว่าครับผม
-
เดี๋ยวนี้ คนอาจจะดูละคร หรือเสพ FB มากไป คิดว่าคนรวยต้องใช้รถยุโรปเท่านั้น แต่ในชีวิตจริงผมเห็นคนที่รวยหรือมีอำนาจมาก ๆ ก็ใช้ชีวิตแบบธรรมดา ใช้รถธรรมดา เยอะกว่า พวกอวยรวยหลายเท่า (เอาพวกที่ทำอาชีพสุจริตนะครับ)
อย่างเพื่อนพ่อที่เป็นอดีต กตร. (มีอำนาจโยกย้ายตำรวจ) ก็ขับแค่ Altis เก่า ๆ เท่านั้นเอง