Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: mister_prem ที่ กรกฎาคม 24, 2019, 14:20:12
-
สวัสดีครับ จะรบกวนขอคำแนะนำ
Mazda2 ระหว่าง2คันนี้ (เพราะราคามันเท่ากันครับ) เลือกคันไหนดีครับ
ใช้งานในเมือง เสาร์อาทิตย์สะส่วนมาก มีเดินทางไปเที่ยวตจว.เรื่อยๆทุกเดือนครับ
- 1.5diesel top มือ2 2017 5x,xxx กม
- 1.3Standard มือ1
ขอบคุณล่วงหน้าครับ :)
-
มือ 1 1.3 STD ก็พอครับ ได้รถใหม่ป้ายแดง
-
ส่วนลดป้ายแดงเยอะนะครับ เผลอๆขยับไปรุ่นสูงกว่าได้
-
ดีเซลมือ 2 ต้องดูเล่มหนักๆ เลยครับว่าเคยทำอะไรไปบ้าง
2017 ก็ใช่ว่าจะไม่เคยเกิดปัญหาอะไร บางคันเครื่องสั่น DPF ตันแล้วก็มีครับ วิ่งมา 5x,xxx km ก็อยู่ในช่วงเสี่ยง
เว้นแต่ว่า
- อยากได้ออพชั่นในงบจำกัด ออพชั่นในท็อปดีเซล 2017 ดีกว่า 1.3 Standard ตัวล่าง 2018 ทุกอย่างครับ ยังไม่มี Rain Sensor , ปัดน้ำฝน Auto มาให้เช่นกัน
- ชอบอัตราเร่งดีเซลที่ดีกว่าเบนซินจริง handling การควบคุมก็ดีกว่านิดๆ จากน้ำหนักและชิ้นส่วนช่วงล่างบางจุดต่างกัน
- ไม่สนใจประกัน เพราะมือ 2 ก็เหลือประกันปีเดียว กับค่าแรงเช็คระยะเฉลี่ย 700 บาท/ชม. อนาคตมีแผนอยากจะดัดแปลงรถอย่างตัด DPF จูนปิด EGR ไปเพื่อลดความเสี่ยงเรื่องเขม่าอยู่แล้ว (หรือถ้าไม่ดัดแปลงก็เน้นใช้รถนอกเมืองเป็นหลัก หรือใช้ในเมืองนอกเมืองบ้าง จากความต้องการถ้าได้ขับนอกเมืองเกือบทุก ส-อา ก็โอเค)
อันนี้ค่อยจัดดีเซลครับ ย้ำที่การดูสภาพและประวัติให้ดี
แต่... เดี๋ยวตัว minor change ก็จะมาแล้ว บางทีเดือนหน้าข้อเสนออาจมีการปรับไปในทางที่ดีขึ้นครับ ถ้าต้องการอัตราเร่งแต่ไม่ได้เน้นออพชั่น (เพราะไม่งั้นคงไม่มอง 1.3 Standard) ลองดูเป็นดีเซลตัวล่างช่วงใกล้สิ้นปีดูอีกทีครับ โปรอาจจะดีเพื่อเตรียมรอรุ่นใหม่มา
แนะนำว่า ไปลองขับ ศึกษาเรื่อง DPF เพิ่มเติม ดูมือ 2 คันจริง แล้วตัดสินใจครับ
-
ส่วนตัวคิดว่า 2 Diesel น่าจะหาราคาได้ถูกกว่า 530,xxx บาทอยู่นะคะ เราเพิ่งขายรุ่นนี้ไปเมื่อเดือน เม.ย ที่ผ่านมา (ปี 2016 วิ่งไป 31,xxx กิโลเมตร) เราขายได้ที่ 460,xxx บาท เลยไม่คิดว่าปี 2017 จะต่างกันขนาดนั้นค่ะ
แต่ถ้าระหว่าง 2 ตัวนี้ เรามองว่า Mazda 2 รุ่นนี้ น่าสนใจเพราะเครื่องดีเซล แต่ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ ไม่กล้าแนะนำให้ใครซื้อเลยค่ะ ^^"
-
คหสต.นะครับ
ยี่ห้อไม่แนะนะครับ ทีบ้านเคยใช้มา2รุ่น และขายไปแล้วครับ (2-1.3, CX3-2.0)
ถ้าจะหารถใช้งาน ไม่ค่อยมีปัญหาอะไร งบประมาณนี้ ไปยาริสวีออส แจ๊สซิตี้เถอะครับ มือ1หรือมือ2ปีใหม่ๆก็ได้
*มาสด้าขับสนุกจริง*
-
แนะนำให้ไปลองทั้ง 2 แบบดูก่อนครับ
จากที่ขับใช้งาน + เกาะดูดข้อมูลกลุ่ม Mazda 2 มา
เครื่องดีเซลดึงไวกว่า และดึงหนักกว่าเครื่องเบนซิล
ทั้ง 2 รุ่นเกียร์ตอบสนองไว แต่ไม่เคยทำงานถวายชีวิตนอกจากเล่นโยกเกียร์เอง
เครื่องดีเซลประหยัดกว่าอย่างมีนัยสำคัญ สามารถวิ่งทางไกลได้ที่ 25 กม./ลิตรขึ้นได้ ถ้าขับเนียนๆเกิน 30 กม./ลิตร ส่วนเบนซิล วิ่งทางไกลดีสุดอยู่ที่ 23 กม./ลิตร ไม้เกินจากนี้ วิ่งในเมืองตัวเลขหายไปประมาณสัก 10 กม. ทั้งคู่
การบำรุงรักษา ดีเซลมีจุดให้ปวดหัวกับความจุกจิกเยอะกว่า ทั้งต้องเติมน้ำมันเชื้อเพลิงระดับ Premiem ที่มีปริมาณเขม่าต่ำ รวมถึงต้องมีเวลาว่างเอารถไปวิ่งทางไกลสัปดาห์ละครั้งเพื่อเผาไล่เขม่าที่ค้างจากการดักกรองของ DPF
ถ้าทำการตัด DPF อุด EGR เหมือนกับที่ทำในรถกระบะแต่งซิ่งแล้ว ปัญหาทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเขม่าจะหมดไป (เครื่องร้อน,น้ำดัน,น้ำมันเครื่องเกิน,น้ำมันดีเซลผสมกับน้ำมันเครื่อง) เพราะไม่มี DPF ที่สะสมเขม่าแล้วเผาทิ้งทีหลัง แต่ต้องแลกกับการที่ประกันขาด
เครื่องเบนซิลไม่มีปัญหาเรื่องเขม่าและคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิง (เติมได้ทุกอย่างยกเว้นโซฮอล 91 และ E85) ตั้งแต่ต้น แต่ต้องแลกกับการที่รถไม่ Zoom Zoom เท่าเครื่องดีเซล
เรื่องเกียร์ คู่มือรับประกันไม่ได้ระบุระยะเวลาถ่ายน้ำมันเกียร์เอาไว้ ซึ่งก็ล่อเกียร์พังมาหลายคันแล้ว เกินครึ่งพังหลังหมดประกัน ถ้าต้องการเลี่ยงปัญหานี้ แนะนำให้ถ่ายตามระยะดีกว่า (ปีละครั้ง หรือทุก 3 - 4 หมื่น กม. สุดแล้วแต่) แต่ต้องแลกกับโอกาสที่ประกันขาดด้วย (ขึ้นกับศูนย์แต่ละที่ด้วยว่าจะเปลี่ยนน้ำมันให้หรือไม่)
สรุป ถ้าไม่สนใจเรื่องประกัน 100% คิดที่จะแต่งเครื่องเพิ่ม และรับได้ในกรณีที่เจอปัญหาเครื่องทุกรูปแบบ 2 ดีเซลโลด
ถ้าต้องการรถใหม่ ขับสนุก ไม่คิดที่จะซิ่งมาก และงบจำกัด 2 เบนซิล (ผมเลือกข้อนี้)
ถ้าต้องการรถที่ไว้ใจได้ Yaris , March , Almera และอื่นๆ
และถ้ารอถึงมอเตอร์โชว์ครั้งหน้าได้ คาดการณ์ว่าค่ายรถหลายค่ายจะมีการอัพเดท ECO Car ใหม่หมด
-
ดีเซลถ้าจะเอามากรณีเดียวครับะเอา remap ครับตัด cat dpf ไรงี้ถ้าเอาเดิมๆ เบนซิลครับ
-
เล่น เบนซิน 1.3 std อาจจะขยับไปตัวรองท๊อปได้
1.5 Diesel. ปัญหาจุกจิกเยอะครับ
-
คหสต.นะครับ
ยี่ห้อไม่แนะนะครับ ทีบ้านเคยใช้มา2รุ่น และขายไปแล้วครับ (2-1.3, CX3-2.0)
ถ้าจะหารถใช้งาน ไม่ค่อยมีปัญหาอะไร งบประมาณนี้ ไปยาริสวีออส แจ๊สซิตี้เถอะครับ มือ1หรือมือ2ปีใหม่ๆก็ได้
*มาสด้าขับสนุกจริง*
Jazz GE 2013-14 ชม.นี้ยังน่าใช้มั้ยครับ? พอจะมีท่านใดแนะนำบ้างครับ ?
-
คหสต.นะครับ
ยี่ห้อไม่แนะนะครับ ทีบ้านเคยใช้มา2รุ่น และขายไปแล้วครับ (2-1.3, CX3-2.0)
ถ้าจะหารถใช้งาน ไม่ค่อยมีปัญหาอะไร งบประมาณนี้ ไปยาริสวีออส แจ๊สซิตี้เถอะครับ มือ1หรือมือ2ปีใหม่ๆก็ได้
*มาสด้าขับสนุกจริง*
เป็นผมพอแล้วกับ CVT ที่ต้องขับเอาใจมัน ตีนหนักไม่ได้เพราะกลัวมันพังเร็ว แถมเมืองไทยเมืองร้อนแต่ไม่ยอมติดออยล์เกียร์ให้อีกขนาดเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ที่ 30,000 กม.ยังดำปี๋ ลงเขาที เอนจิ้นเบรคที่มีน้อยนิดไปครับ ไปมาสด้าสองดีแล้วครับ ตัวเบนซิลก็ประหยัดน้ำมันมากครับ
-
ไม่ว่ารถใหม่ มือ2 อย่าลืมเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ด้วยนะครับ
40,000-60,000/ครั้ง สั่งให้ทางSA Mazdaระบุรายการไปเลยครับ
ทางศูนย์ได้เงินเรา เค้าไม่ปฏิเสธครับ
-
2 ดีเซล แล้วเอาไประเบิด dpf ทิ้ง
-
ถ้าชอบซิ่งต้อง diesel + remap (แก้ปัญหาเครื่องสั่น) ครับ เบนซินช่วงล่างดี เบรคดี แต่ยังขาดคง่ทแรงผมว่า
แต่ถ้าเน้นใช้งานทั่วๆไป เชียร์เบนซินครับ ทำใจเรื่องเกียร์ไว้หน่อย หวยอาจจะถถูกที่เราถึงโอกาสจะน้อยก็ตามครับ
-
แนะนำ 1.3 high (ขยับขึ้นมา 1 รุ่น) รุ่น Standard นี่โล้นเกินครับ
-
m2 1.3 พอละ
ดีเซลไม่น่าเล่นอยู่ละ มือสองอีก น่ากลัวเลย
-
ถ้าใช้ยาวไป มือหนึ่งครับ แต่ถ้า ไม่เกินห้าปีเปลี่ยนจัดมือสองครับ ปัญหามีไว้ให้แก้ครับ
-
รถใหม่ไปเถอะครับ
-
แนะนำรถที่มีการรับประกันดีกว่า ไม่ต้องลุ้นเหมือนดีเซล