Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ซิ่งเข้าส้วม ที่ กันยายน 18, 2019, 08:21:40
-
การเปิดแอร์ใช้พลังงานประมาณ 20% ของระยะวิ่ง เช่นถ้าเปิดแอร์ที่ 100% จะขึ้นระยะวิ่งที่ประมาณ 280 km แต่ถ้าปิดแอร์จะขึ้นระยะวิ่งประมาณ 340 km
การเปิดแอร์ใช้พลังงานประมาณ 4% ต่อชั่วโมง ดังนั้นแบต 100% เปิดแอร์ได้ประมาณ 25 ชั่วโมง ทำให้สามารถนอนในรถได้ (ไม่สามารถชาร์จไฟพร้อมกับติดเครื่องได้)
อัตราการใช้พลังงานขับในเมืองเฉลี่ย รถติดๆ จะอยู่ที่ 0.13-0.14 kWh/km หากคิดค่าไฟ Progressive ที่ 4.25 บาทจะอยู่ที่ 0.55 - 0.6 บาท/กม หากคิด Off peak จะอยู่ที่ 2.18 ต่อ unit หรือ 0.28 - 0.31 บาท/กม
อัตราการใช้พลังงานเดินทางไกลที่ความเร็วไม่เกิน 90 km/h จะอยู่ที่ประมาณ 0.12-0.14 kWh/km หรือ Progressive ประมาณ 0.51 - 0.6 บาท/กม Off peak อยู่ที่ 0.26 - 0.31 บาท/กม
อัตราการเดินทางไกลที่ความเร็ว 100-120 km/h จะใช้ไฟอยู่ที่ประมาณ 0.16-0.18 kWh/km หรือ Progressive ประมาณ 0.68 - 0.77 บาท/กม. Off peak อยู่ที่ 0.35 - 0.39 บาท/กม
ทั้งหมดนี้รวบรวมจากอัตราสิ้นเปลืองจากการใช้งานจริงของผู้ใช้หลายๆ ท่านครับ แน่นอนว่าค่าไฟกับความหนักของเท้าแต่ละท่านไม่เท่ากัน แต่ก็คิดว่าคงพอทำให้เห็นได้ว่าถ้าใช้รถยนต์ไฟฟ้า ค่าพลังงานที่ใช้จะราวๆ นี้ครับ
แถมให้นิดนึง ดีเฟ็คที่เจอกันตอนนี้คือแอร์ความเย็นไม่สม่ำเสมอ กับคอมเพรสเซอร์แอร์ดังผิดปกติ เรื่องอื่นยังไม่เจอ
ปัญหาที่ผู้ใช้เจอส่วนมากคือตู้ไฟฟรี EA Anywhere ชาร์จได้แค่ 2.4 kW/h ทำให้ตอนนี้การชาร์จนอกบ้านมันไม่สมเหตุสมผล มีไม่กี่ที่เท่านั้นที่สามารถเข้าไปชาร์จด่วนหรือชาร์จ 7 kW/h เหมือน Wall box
ทั้งนี้สาเหตุที่ยังชาร์จเร็วไม่ได้เพราะกฏหมายยังไม่รองรับเรื่องการขายพลังงานครับ
-
ขอบคุณครับ
งง กฏหมายอะไร ทำไมถ่ึงไม่รองรับการชาร์จเร็ว ???
ที่เคยอ่านมาซื้อรถก็แถม สายชาร์จขนาด 7.2 kWh อยู่แล้วนิครับ ( พกไปไหนก็ได้นิ )
-
ขอบคุณครับ
งง กฏหมายอะไร ทำไมถ่ึงไม่รองรับการชาร์จเร็ว ???
ที่เคยอ่านมาซื้อรถก็แถม สายชาร์จขนาด 7.2 kWh อยู่แล้วนิครับ ( พกไปไหนก็ได้นิ )
กฏหมายเรื่องการขายพลังงานครับ คือตู้อัดประจุมีศักยภาพที่จะปล่อยไฟ DC ได้ แต่ตามกฏหมายยังห้ามขายครับ เขาเลยปล่อยไฟให้ชาร์จฟรีแค่ 2.4
ส่วนสายชาร์จ ถ้าจำไม่ผิดก็ราวๆ 2 kWh นะครับ ชาร์จ 21 ชั่วโมงเต็ม
7.2 kWh จะเป็น Wall box ครับ
-
สอบถามเพิ่มเติมครับ
การใช้งานปรกติ เปิดแอร์แล้วขึ้นระยะทาง 230 กม. วิ่งจริงถึงไหมครับ แล้วภาวะรถติดในเมืองเช่นช่วงเช้า เปิดแอร์มาตรวัดขึ้นกี่กิโล และสามารถวิ่งได้จริงๆกี่กิโล ...
และเมื่อหมดแล้วการชาร์จกลับใช้เวลา กี่ช.ม. โดยเฉลี่ยครับ
และแอร์ที่เปิด เปิดเบาสุด หรือแรงสุดครับ อุณหภูมิที่เปิด 25องศา หรือเท่าไรครับ
-
ถ้าใช้โหทด eco จะเพิ่มระยะวิ่งได้แค่ไหนครับ
ปล. ทำไมกฎหมายยังล้าหลัง แล้วจะแก้กันได้เมื่อไหร่เนี่ย
-
ปิดแอร์แล้วไปได้อีกไกลแฮะ
แต่ติดที่บ้านเรามันร้อน :'(
-
สอบถามเพิ่มเติมครับ
การใช้งานปรกติ เปิดแอร์แล้วขึ้นระยะทาง 230 กม. วิ่งจริงถึงไหมครับ แล้วภาวะรถติดในเมืองเช่นช่วงเช้า เปิดแอร์มาตรวัดขึ้นกี่กิโล และสามารถวิ่งได้จริงๆกี่กิโล ...
และเมื่อหมดแล้วการชาร์จกลับใช้เวลา กี่ช.ม. โดยเฉลี่ยครับ
และแอร์ที่เปิด เปิดเบาสุด หรือแรงสุดครับ อุณหภูมิที่เปิด 25องศา หรือเท่าไรครับ
ถ้าในเมืองเปิด KERS3 เกินแน่นอนครับ จริงๆ ขับในเมืองไม่น่ากังวลเลยครับ ใช้ไฟน้อยมาก
รถ EV ไม่กลัวรถติด แต่กลัวคนเท้าหนักครับ ถ้าขับ Top speed น่าจะวิ่งได้แค่ราวๆ 150 กม. เท่านั้นเอง
ชาร์จกลับใช้เวลาเท่าไรก็อยู่ที่ใช้ไฟไปเท่าไรครับ เพราะมันชาร์จ 7.2 ความจุ 44 ครับ
ส่วนแอร์มันไม่ออโต้ครับ บอกได้แค่ว่าถ้าขับแล้วเย็นก็ได้ประมาณนี้ครับ
-
ขอบคุณครับ
งง กฏหมายอะไร ทำไมถ่ึงไม่รองรับการชาร์จเร็ว ???
ที่เคยอ่านมาซื้อรถก็แถม สายชาร์จขนาด 7.2 kWh อยู่แล้วนิครับ ( พกไปไหนก็ได้นิ )
สายนี้ตามสายตาที่มอง ใช้ไฟได้ไม่เกิน 5 แอมป์ คงไม่ใช่ 7.2 หรอกครับ ถ้าใช้สายนี้เสียบ เกิน 12 ชั่วโมง/ถึงจะเต็มแน่นอนครับ
-
ใช้ก่อน ก็แบบนี้แหละ สิ่งอำนวยความสะดวกยังมีน้อย ลำบากกันหน่อย เวลาชาร์จ ก่อนจะมองเรื่อง 2.4kW/h หรือ 7.2 kW/h ให้มองว่า ตู้ชาร์จจ่ายไฟได้สูงสุดเท่าไหร่
มาตรฐานปลั๊กไฟทั่วไป กระแสสูงสุดไม่เกิน 16/32 A ดังนั้น ถ้าชาร์จปกติ ต้องดูว่าที่ชาร์จจ่ายได้สูงสุดเท่าไหร่
16*230= 3.68 kW, 32*230=7.36kW ตัวเลขจริงก้จะลดลงตามหลักพลังงาน เนื่องจากมีความสูญเสียในขั้นตอนการชาร์จ
ถ้าต้องการสูงกว่านั้น ต้องตู้ชาร์จแบบด่วน ที่ใช้หัวชาร์จเฉพาะ ที่ชาร์จเข้าไปที่แบตตรงๆ ด้วยระบบไฟ DC อย่าง CCS หรือ CHAdeMO
ปล. อยากให้หลีกเลี่ยงการชาร์จด่วนบ่อยๆ เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพการเก้บประจุแบตลดลง เนื่องจากชาร์จกระแสสูง เซลแบตภายในจะร้อนสูง
-
ตัวเลขความสิ้นเปลืองในการใช้งานน่าสนใจคับ
ใช้เดินทางไกลอาจจะยังไม่ค่อย work แต่ขับไปในมาไหนในเมือง วิ่งเที่ยวรอบๆเมืองที่ไม่ไกลมากไปเช้าเย็นกลับ ผมว่าได้เลย......
นอกเรื่องนิด ผมว่า ZS ตัว EV ดูแล้วปัญหาน่าจะน้อยกว่าตัวเครื่องยนต์น้ำมัน
เพราะปัญหาที่เจอกันเกี่ยวกับระบบเครื่อง-เกียร์ พอเป็นไฟฟ้าแล้วมันตัดส่วนที่เคยเป็นปัญหาออกไปเยอะ
ก็รอดูกันสักระยะว่าคุณภาพของระบบไฟฟ้าจะเป็นยังไงต่อในระยะยาวคับ
-
แปลว่าที่ชาร์จไฟมือถือหยอดเหรียญตามห้างก็เข้าข่ายผิดกฏหมายด้วยสิ
ขอบคุณมากครับสำหรับข้อมูล
-
รอปตท.เอารถ ev มา ถึงตอนนั้นคงไม่มีปัญหาที่ชาร์จ
-
สอบถามอนาคตถ้าเเบตเสื่อม มีสัก40%จะดับไปดื้อๆเหมือนมือถือไหมครับ
-
dc quick charge ที่ mg บอกว่าจะชาร์จแค่ 30 นาที 80%
ณ ปัจจุบัน มีที่ไหนบ้างแล้วครับ จะหาข้มูลได้จากตงไหนครับ
ปอลิง เดาว่า
1. ที่ 0 mg ทั่วประเทศ มีอย่างน้อย 1 จุด ใช่ไหมครับ
2.การไฟฟ้า น่าจะมี
มีแค่นั้น ป่ะรับ
แล้ว เมื่อไหร่จะมีครอบคลุม แล้วจะหาข้อมูลได้จากไหนหนอ หายากจริงๆ
-
ใช้ก่อน ก็แบบนี้แหละ สิ่งอำนวยความสะดวกยังมีน้อย ลำบากกันหน่อย เวลาชาร์จ ก่อนจะมองเรื่อง 2.4kW/h หรือ 7.2 kW/h ให้มองว่า ตู้ชาร์จจ่ายไฟได้สูงสุดเท่าไหร่
มาตรฐานปลั๊กไฟทั่วไป กระแสสูงสุดไม่เกิน 16/32 A ดังนั้น ถ้าชาร์จปกติ ต้องดูว่าที่ชาร์จจ่ายได้สูงสุดเท่าไหร่
16*230= 3.68 kW, 32*230=7.36kW ตัวเลขจริงก้จะลดลงตามหลักพลังงาน เนื่องจากมีความสูญเสียในขั้นตอนการชาร์จ
ถ้าต้องการสูงกว่านั้น ต้องตู้ชาร์จแบบด่วน ที่ใช้หัวชาร์จเฉพาะ ที่ชาร์จเข้าไปที่แบตตรงๆ ด้วยระบบไฟ DC อย่าง CCS หรือ CHAdeMO
ปล. อยากให้หลีกเลี่ยงการชาร์จด่วนบ่อยๆ เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพการเก้บประจุแบตลดลง เนื่องจากชาร์จกระแสสูง เซลแบตภายในจะร้อนสูง
mg ออกคำแนะนำมาว่า สามารถชาร์จเร็ว ได้เลย เท่าที่ต้องการ เพราะระบบจะตัดกาชาร์จที่ 80% อยู่แล้ว
แต่แนะนำว่าควรจะชาร์จกลับจนแบตเต็ม100% อย่างน้อย เดือนละครั้ง
เรื่องหลีกเลี่ยงการชาร์จเร็ว น่าจะ ล้าสมัยแล้วรึป่าวครับ
-
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ
ผมเห็นที่เขาแชร์กัน คชจ ของรถไฟฟ้า leaf, ioniq, kona 0-100,000 กิโล ประมาณ 1 หมื่นต้นๆ เอง
-
รู้สึกคาใจอยู่อย่าง เวลาเห็น ZS EV คือ มันควรเอา DRL ออก เพื่อประหยัดไฟเวลาขับรึเปล่า
-
กด Mode Sport 0-100 เหลือลงมากี่วิครับ
-
ประหยัดมากนะ
-
ใช้ก่อน ก็แบบนี้แหละ สิ่งอำนวยความสะดวกยังมีน้อย ลำบากกันหน่อย เวลาชาร์จ ก่อนจะมองเรื่อง 2.4kW/h หรือ 7.2 kW/h ให้มองว่า ตู้ชาร์จจ่ายไฟได้สูงสุดเท่าไหร่
มาตรฐานปลั๊กไฟทั่วไป กระแสสูงสุดไม่เกิน 16/32 A ดังนั้น ถ้าชาร์จปกติ ต้องดูว่าที่ชาร์จจ่ายได้สูงสุดเท่าไหร่
16*230= 3.68 kW, 32*230=7.36kW ตัวเลขจริงก้จะลดลงตามหลักพลังงาน เนื่องจากมีความสูญเสียในขั้นตอนการชาร์จ
ถ้าต้องการสูงกว่านั้น ต้องตู้ชาร์จแบบด่วน ที่ใช้หัวชาร์จเฉพาะ ที่ชาร์จเข้าไปที่แบตตรงๆ ด้วยระบบไฟ DC อย่าง CCS หรือ CHAdeMO
ปล. อยากให้หลีกเลี่ยงการชาร์จด่วนบ่อยๆ เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพการเก้บประจุแบตลดลง เนื่องจากชาร์จกระแสสูง เซลแบตภายในจะร้อนสูง
mg ออกคำแนะนำมาว่า สามารถชาร์จเร็ว ได้เลย เท่าที่ต้องการ เพราะระบบจะตัดกาชาร์จที่ 80% อยู่แล้ว
แต่แนะนำว่าควรจะชาร์จกลับจนแบตเต็ม100% อย่างน้อย เดือนละครั้ง
เรื่องหลีกเลี่ยงการชาร์จเร็ว น่าจะ ล้าสมัยแล้วรึป่าวครับ
คำแนะนำว่าชาร์จเร็วแล้วแบ็ตจะเสื่อมไว เป็นของวิศวกร Nissan ครับ เจ้าอื่นเขาบอกอยากชาร์จก็ชาร์จเลยมีระบบป้องกันอยู่แล้ว
รู้สึกคาใจอยู่อย่าง เวลาเห็น ZS EV คือ มันควรเอา DRL ออก เพื่อประหยัดไฟเวลาขับรึเปล่า
ไฟเล็กใช้แบ็ตลูกเล็กครับ ใช้ไฟน้อยมากเมื่อเทียบกับมอเตอร์และแอร์ครับ ความสวยงามต้องมาก่อนครับ
กด Mode Sport 0-100 เหลือลงมากี่วิครับ
ไม่ได้เทสเองนะครับ แต่มีคนเทสให้ดู นั่งคนเดียว Sport mode 7.9 วินาทีครับ
-
ตัวเลขใช้งานจริงถือว่าได้ตามเกณฑ์ ดีทีเดียวครับ ตอนนี้ EV คงเหมาะกับวิ่งในเมืองมากกว่า รถติด ๆ พอเบรคปุ๊บได้ไฟ Regen กลับเข้าแบตด้วย เหลือแต่เรื่องราคา+อายุแบต กับอุปกรณ์ไฟฟ้าทั้งหลาย ต้องรอดูต่อไปครับ
-
ตัวเลขน่าสนใจมากครับ รอผู้ใช้สักพักถ้าไม่มีปัญหาอะไรคงขายได้มากขึ้นแน่ๆ
-
ผมว่า เริ่มต้นนี้ คล้ายยุคเริ่ม สมาร์ทโฟน ครับ คิดมากก็ใฃ้ทีหลังเขา รู้ว่าถึงเวลาเฃาแล้ว เมื่อทำตัวเราพร้อม ก็ไปเลย
รถไฟฟ้า ต้องมาแน่ เราพร้อมระดับหนึ่ง ก็ไป ที่แน่ๆ อย่าเพิ่งทิ้งรถ น้ำมัน ใว้เดินทาง ที่เกินระยะ 150 ก.ม.
หรือถ้า อยากวิ่งเกินระยะ 150 ก.ม. (ที่เหลือ เผื่อใว้กลับบ้าน) ก็ต้องมีเวลาเพียงพอ อย่างน้อย รอเติมไฟ เพื่อไปต่อ
เสพติดแน่ รถไฟฟ้านะ ก็คล้าย สมาร์ทโฟน ไง ... อย่าลืม ระบบของรถ ใส่ฃิมการ์ดใว้นะ มันเชื่อมต่อกับ โลกปัจจุบันแล้ว
เวลาเดินทาง ข้ามจังหวัด ส่วนใหญ่ ปลายทางคือจุดหมาย หาความสุขเล็กๆน้อยๆระหว่างทางเท่านั้น ใจอยู่โน้น ปลายทาง
ควบรถอย่างเดียว คนขับมีความสุขตรงนั้น คำตอบ..ของการข้ามระยะ 150 ก.ม. คือ รถน้ำมันเท่านั้น ครับ
แต่แค่การใช้งาน ในชีวิตประจำวัน เราวิ่งวนอยู่ในวงกลมครับ หมดวัน เรากลับที่เดิม พรุ่งนี้ เริ่มแบบเดิม
..... รถไฟฟ้า เป็นคำตอบ .....
-
เสพติดรถไฟฟ้า? เอาไปเทียบสมาร์ทโฟน?
มันก็แค่รถที่ขับเคลื่อนโดยใช้ไฟฟ้าแทนน้ำมันป่ะคับ จะอวย ก็อย่าไปไกลนักเลย
อันไหนที่มันดี ง่าย สะดวก ธรรมชาติก็คัดสรรเองล่ะครับ ผมไม่ปฏิเสธรถไฟฟ้า ตรงข้ามด้วยซ้ำ แต่ขอมาแบบ Resonable ทั้งตัวรถและตัวการชาร์จ ผมคงไปรถไฟฟ้าแน่ๆในสักวัน รอต่อไป
-
ทั้งประหยัด ทั้งแรง
-
ผมว่า เริ่มต้นนี้ คล้ายยุคเริ่ม สมาร์ทโฟน ครับ คิดมากก็ใฃ้ทีหลังเขา รู้ว่าถึงเวลาเฃาแล้ว เมื่อทำตัวเราพร้อม ก็ไปเลย
รถไฟฟ้า ต้องมาแน่ เราพร้อมระดับหนึ่ง ก็ไป ที่แน่ๆ อย่าเพิ่งทิ้งรถ น้ำมัน ใว้เดินทาง ที่เกินระยะ 150 ก.ม.
หรือถ้า อยากวิ่งเกินระยะ 150 ก.ม. (ที่เหลือ เผื่อใว้กลับบ้าน) ก็ต้องมีเวลาเพียงพอ อย่างน้อย รอเติมไฟ เพื่อไปต่อ
เสพติดแน่ รถไฟฟ้านะ ก็คล้าย สมาร์ทโฟน ไง ... อย่าลืม ระบบของรถ ใส่ฃิมการ์ดใว้นะ มันเชื่อมต่อกับ โลกปัจจุบันแล้ว
เวลาเดินทาง ข้ามจังหวัด ส่วนใหญ่ ปลายทางคือจุดหมาย หาความสุขเล็กๆน้อยๆระหว่างทางเท่านั้น ใจอยู่โน้น ปลายทาง
ควบรถอย่างเดียว คนขับมีความสุขตรงนั้น คำตอบ..ของการข้ามระยะ 150 ก.ม. คือ รถน้ำมันเท่านั้น ครับ
แต่แค่การใช้งาน ในชีวิตประจำวัน เราวิ่งวนอยู่ในวงกลมครับ หมดวัน เรากลับที่เดิม พรุ่งนี้ เริ่มแบบเดิม
..... รถไฟฟ้า เป็นคำตอบ .....
รถมันก็เหมาะกับคนเมืองนะ ทำงานกลับบ้านมาชาร์จ
ไม่เหมาะกับการเดินทางระยะไกลบ่อย ๆ
แต่ด้วยราคา คนทั่วไป อาจซื้อรถสัก 6-7 แสน ส่วนต่างเติมน้ำมัน ฯ ยังคุ้มกว่า
รออีกสัก 4-5 ปี +- ค่อยใช้ก็ไม่ได้ถือว่าล้าหลังอะไรนะครับ 8)
-
ขอบคุณครับ
งง กฏหมายอะไร ทำไมถ่ึงไม่รองรับการชาร์จเร็ว ???
ที่เคยอ่านมาซื้อรถก็แถม สายชาร์จขนาด 7.2 kWh อยู่แล้วนิครับ ( พกไปไหนก็ได้นิ )
ตัวนี้ 2.3kwhครับ
-
การเปิดแอร์ใช้พลังงานประมาณ 20% ของระยะวิ่ง เช่นถ้าเปิดแอร์ที่ 100% จะขึ้นระยะวิ่งที่ประมาณ 280 km แต่ถ้าปิดแอร์จะขึ้นระยะวิ่งประมาณ 340 km
การเปิดแอร์ใช้พลังงานประมาณ 4% ต่อชั่วโมง ดังนั้นแบต 100% เปิดแอร์ได้ประมาณ 25 ชั่วโมง ทำให้สามารถนอนในรถได้ (ไม่สามารถชาร์จไฟพร้อมกับติดเครื่องได้)
อัตราการใช้พลังงานขับในเมืองเฉลี่ย รถติดๆ จะอยู่ที่ 0.13-0.14 kWh/km หากคิดค่าไฟ Progressive ที่ 4.25 บาทจะอยู่ที่ 0.55 - 0.6 บาท/กม หากคิด Off peak จะอยู่ที่ 2.18 ต่อ unit หรือ 0.28 - 0.31 บาท/กม
อัตราการใช้พลังงานเดินทางไกลที่ความเร็วไม่เกิน 90 km/h จะอยู่ที่ประมาณ 0.12-0.14 kWh/km หรือ Progressive ประมาณ 0.51 - 0.6 บาท/กม Off peak อยู่ที่ 0.26 - 0.31 บาท/กม
อัตราการเดินทางไกลที่ความเร็ว 100-120 km/h จะใช้ไฟอยู่ที่ประมาณ 0.16-0.18 kWh/km หรือ Progressive ประมาณ 0.68 - 0.77 บาท/กม. Off peak อยู่ที่ 0.35 - 0.39 บาท/กม
ทั้งหมดนี้รวบรวมจากอัตราสิ้นเปลืองจากการใช้งานจริงของผู้ใช้หลายๆ ท่านครับ แน่นอนว่าค่าไฟกับความหนักของเท้าแต่ละท่านไม่เท่ากัน แต่ก็คิดว่าคงพอทำให้เห็นได้ว่าถ้าใช้รถยนต์ไฟฟ้า ค่าพลังงานที่ใช้จะราวๆ นี้ครับ
แถมให้นิดนึง ดีเฟ็คที่เจอกันตอนนี้คือแอร์ความเย็นไม่สม่ำเสมอ กับคอมเพรสเซอร์แอร์ดังผิดปกติ เรื่องอื่นยังไม่เจอ
ปัญหาที่ผู้ใช้เจอส่วนมากคือตู้ไฟฟรี EA Anywhere ชาร์จได้แค่ 2.4 kW/h ทำให้ตอนนี้การชาร์จนอกบ้านมันไม่สมเหตุสมผล มีไม่กี่ที่เท่านั้นที่สามารถเข้าไปชาร์จด่วนหรือชาร์จ 7 kW/h เหมือน Wall box
ทั้งนี้สาเหตุที่ยังชาร์จเร็วไม่ได้เพราะกฏหมายยังไม่รองรับเรื่องการขายพลังงานครับ
เครื่องชาร์จ ไปด้วยเปิด แอร์ไปด้วย เห็นมี2-3ท่านที่ใช้อยู่ ลองทำแล้วทำได้นะครับ
-
ใช้ก่อน ก็แบบนี้แหละ สิ่งอำนวยความสะดวกยังมีน้อย ลำบากกันหน่อย เวลาชาร์จ ก่อนจะมองเรื่อง 2.4kW/h หรือ 7.2 kW/h ให้มองว่า ตู้ชาร์จจ่ายไฟได้สูงสุดเท่าไหร่
มาตรฐานปลั๊กไฟทั่วไป กระแสสูงสุดไม่เกิน 16/32 A ดังนั้น ถ้าชาร์จปกติ ต้องดูว่าที่ชาร์จจ่ายได้สูงสุดเท่าไหร่
16*230= 3.68 kW, 32*230=7.36kW ตัวเลขจริงก้จะลดลงตามหลักพลังงาน เนื่องจากมีความสูญเสียในขั้นตอนการชาร์จ
ถ้าต้องการสูงกว่านั้น ต้องตู้ชาร์จแบบด่วน ที่ใช้หัวชาร์จเฉพาะ ที่ชาร์จเข้าไปที่แบตตรงๆ ด้วยระบบไฟ DC อย่าง CCS หรือ CHAdeMO
ปล. อยากให้หลีกเลี่ยงการชาร์จด่วนบ่อยๆ เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพการเก้บประจุแบตลดลง เนื่องจากชาร์จกระแสสูง เซลแบตภายในจะร้อนสูง
mg ออกคำแนะนำมาว่า สามารถชาร์จเร็ว ได้เลย เท่าที่ต้องการ เพราะระบบจะตัดกาชาร์จที่ 80% อยู่แล้ว
แต่แนะนำว่าควรจะชาร์จกลับจนแบตเต็ม100% อย่างน้อย เดือนละครั้ง
เรื่องหลีกเลี่ยงการชาร์จเร็ว น่าจะ ล้าสมัยแล้วรึป่าวครับ
คำแนะนำว่าชาร์จเร็วแล้วแบ็ตจะเสื่อมไว เป็นของวิศวกร Nissan ครับ เจ้าอื่นเขาบอกอยากชาร์จก็ชาร์จเลยมีระบบป้องกันอยู่แล้ว
เดาว่าอาจจะเป็นเพราะแบตของนิสสันไม่มีระบบหล่อเย็น
และเท่าที่ได้ยินมา แบตนิสสันเป็น สิเทียมแบบเก่า แบบ chademo อะไรสักอย่าง
ที่ไม่รองรับการชาร์จเร็ว แบบ DC Quick charge ป่ะครับ
-
อัตราการใช้พลังงานขับในเมืองเฉลี่ย รถติดๆ จะอยู่ที่ 0.13-0.14 kWh/km หากคิดค่าไฟ Progressive ที่ 4.25 บาทจะอยู่ที่ 0.55 - 0.6 บาท/กม หากคิด Off peak จะอยู่ที่ 2.18 ต่อ unit หรือ 0.28 - 0.31 บาท/กม
อัตราการใช้พลังงานเดินทางไกลที่ความเร็วไม่เกิน 90 km/h จะอยู่ที่ประมาณ 0.12-0.14 kWh/km หรือ Progressive ประมาณ 0.51 - 0.6 บาท/กม Off peak อยู่ที่ 0.26 - 0.31 บาท/กม
อัตราการเดินทางไกลที่ความเร็ว 100-120 km/h จะใช้ไฟอยู่ที่ประมาณ 0.16-0.18 kWh/km หรือ Progressive ประมาณ 0.68 - 0.77 บาท/กม. Off peak อยู่ที่ 0.35 - 0.39 บาท/กม
น่าสนใจมาก ช่วยลดค่าใช้จ่ายและควันพิษ ถ้าการใช้งานทุกวันลงตัวกับระยะการใช้งาน ที่ชาร์จ ก็ใช่เลย
ถ้าวิ่งวันละ 200 กม ที่ 2.0บาทประหยัดต่อกม ปีละ 250 วัน ก้ได้คืนค่าเสื่อมรถที่ 100,000 /ปี แต่ราคาขายต่อ?? ต้องคิดดู