Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ซิ่งเข้าส้วม ที่ กันยายน 26, 2019, 13:44:33
-
พอพูดถึงรถยนต์ไฟฟ้า คนก็มักจะพูดว่าไฟฟ้าใช้ธรรมดายังไม่พอ จะเอาที่ไหนมาชาร์จรถ
ทีนี้รัฐบาลจะเริ่มโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเช่นเอาพลังงานจากผลผลิตทางการเกษตรเช่นปาล์ม อ้อย มาทำเชื้อเพลิงปั่นไฟ
เลยสงสัยว่าโครงการนี้มีความเป็นไปได้แค่ไหนครับ
ที่มา https://www.thansettakij.com/content/410397
-
ไฟฟ้าชีวะมวลมีปัญหาคือวัตถุดิบไม่พอและไม่ได้มีตลอด ภาคใต้มีโรงใหญ่เอกชนอยู่หลายที่แต่ใช้ส่งออกมาข้างนอกไม่ได้เพราะไม่พอใช้ขนาดนั้น และที่สำคัญเดี๋ยวก็โดนต่อต้าน ;D ;D
-
เชื้อเพลิงปั่นไฟ มันทำให้เกิดมลพิษ เสียมากกว่าได้
จะสร้างเขื่อนก็ไม่ให้สร้าง โรงไฟฟ้านิวเคลีย ก็ไม่เอา
ซื้อไฟฟ้าใช้ต่อไปน่ะดีแล้ว กลุ่มผู้จำเริญ จำเริญ
-
เชื้อเพลิงปั่นไฟ มันทำให้เกิดมลพิษ เสียมากกว่าได้
จะสร้างเขื่อนก็ไม่ให้สร้าง โรงไฟฟ้านิวเคลีย ก็ไม่เอา
ซื้อไฟฟ้าใช้ต่อไปน่ะดีแล้ว กลุ่มผู้จำเริญ จำเริญ
น่าหดหู่นะครับ เราต้องเสียเงินซื้อไฟฟ้าจากเพื่อนบ้านเป็นส่วนใหญ่ โดยไม่มีความมันคงทางพลังงานเลย ในบ้านเราก็ผลิตไม่พอความต้องการอีก ต่อให้เราเป็นคนลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าในต่างประเทศ แต่สุดท้ายก็ต้องส่งมอบเป็นสมบัติของประเทศเพื่อนบ้านอยู่ดี
ถ้าประเทศเพื่อนบ้านที่เราซื้อไฟฟ้าใช้งาน เกิดข้อพิพาทหรือปัญหาอะไรก็ตามและทำให้ไม่มีไฟฟ้าส่งเข้ามาในประเทศ คนที่เดือดร้อนคือประชาชนอย่างเรานะ คนรวยหาทางแก้ได้อยู่แล้ว ไม่เดือดร้อนอะไรมากนัก
ดังนั้น รัฐบาลควรผลักดันการสร้างโรงไฟฟ้า และอย่าได้ใส่ใจการคัดค้านที่ไร้สาระและไร้เหตุผล ต้องให้ความรู้ความเข้าใจ และลดความกลัวลง ต้องยอมเสียสละเพื่อคนในชาติ อย่าเห็นแก่ตัว อย่าเอาแต่กลัวจนประเทศไปไหนไม่ได้ คนเหล่านั้นก็ไม่ต่างกับคนขอทานและไร้บ้านที่นอกจากไม่สร้างประโยชน์กับประเทศเลย แถมยังสร้างปัญหากลายเป็นมะเร็งของการพัฒนาชาติด้วย (เว้นแต่จะมีโครงการหรือหน่วยงานฟื้นฟูคนจน ขอทาน และคนไร้บ้านกลับเข้าสู่สังคมตามปกติ)
ผมส่งเสริมโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ กังหันลม แสงอาทิตย์ โรงไฟฟ้าก็าซมีเทน และโรงไฟฟ้าขยะ (บ้านเราขยะเยอะมาก รวมที่ฝังกลบจนเกิดแก็สด้วย)
-
ข้อคำนึงหลักใหญ่ๆของไฟฟ้า นอกจากกำลังผลิตแล้ว ยังต้องมี reliability และ stability
ซึ่งโรงไฟฟ้าชุมชน นึกจะเสียเมื่อไรก็ไม่รู้ บางทีไม่มีวัตถุดิบมาผลิตอยู่ดี
สุดท้ายโรงไฟฟ้าใหญ่ๆก็ต้องรับภาระสำรองกำลังผลิต ซึ่งตรงนี้ให้โรงไฟฟ้าใหญ่ผลิตไปเลย ต้นทุนเพิ่มไม่กี่บาท
-
เชื้อเพลิงปั่นไฟ มันทำให้เกิดมลพิษ เสียมากกว่าได้
จะสร้างเขื่อนก็ไม่ให้สร้าง โรงไฟฟ้านิวเคลีย ก็ไม่เอา
ซื้อไฟฟ้าใช้ต่อไปน่ะดีแล้ว กลุ่มผู้จำเริญ จำเริญ
น่าหดหู่นะครับ เราต้องเสียเงินซื้อไฟฟ้าจากเพื่อนบ้านเป็นส่วนใหญ่ โดยไม่มีความมันคงทางพลังงานเลย ในบ้านเราก็ผลิตไม่พอความต้องการอีก ต่อให้เราเป็นคนลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าในต่างประเทศ แต่สุดท้ายก็ต้องส่งมอบเป็นสมบัติของประเทศเพื่อนบ้านอยู่ดี
ถ้าประเทศเพื่อนบ้านที่เราซื้อไฟฟ้าใช้งาน เกิดข้อพิพาทหรือปัญหาอะไรก็ตามและทำให้ไม่มีไฟฟ้าส่งเข้ามาในประเทศ คนที่เดือดร้อนคือประชาชนอย่างเรานะ คนรวยหาทางแก้ได้อยู่แล้ว ไม่เดือดร้อนอะไรมากนัก
ดังนั้น รัฐบาลควรผลักดันการสร้างโรงไฟฟ้า และอย่าได้ใส่ใจการคัดค้านที่ไร้สาระและไร้เหตุผล ต้องให้ความรู้ความเข้าใจ และลดความกลัวลง ต้องยอมเสียสละเพื่อคนในชาติ อย่าเห็นแก่ตัว อย่าเอาแต่กลัวจนประเทศไปไหนไม่ได้ คนเหล่านั้นก็ไม่ต่างกับคนขอทานและไร้บ้านที่นอกจากไม่สร้างประโยชน์กับประเทศเลย แถมยังสร้างปัญหากลายเป็นมะเร็งของการพัฒนาชาติด้วย (เว้นแต่จะมีโครงการหรือหน่วยงานฟื้นฟูคนจน ขอทาน และคนไร้บ้านกลับเข้าสู่สังคมตามปกติ)
ผมส่งเสริมโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ กังหันลม แสงอาทิตย์ โรงไฟฟ้าก็าซมีเทน และโรงไฟฟ้าขยะ (บ้านเราขยะเยอะมาก รวมที่ฝังกลบจนเกิดแก็สด้วย)
ไม่มีใครอยากได้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ไปสร้างอยู่หน้าบ้านหรือข้างบ้านหรอก หรือสวนไร่นากันหรอนะครับ เวลารั่วมาอันตรายมากๆ เค้าถึงต่อต้านกัน แถมขยะนิวเคลียร์กำจัดยากมากๆครับ ที่ต่อต้านกันเค้ามีเหตุผล ดูได้จากประเทศเยอรมันนีหรือญี่ปุ่นที่เลิกใช้โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์กันหมดครับ
-
เชื้อเพลิงปั่นไฟ มันทำให้เกิดมลพิษ เสียมากกว่าได้
จะสร้างเขื่อนก็ไม่ให้สร้าง โรงไฟฟ้านิวเคลีย ก็ไม่เอา
ซื้อไฟฟ้าใช้ต่อไปน่ะดีแล้ว กลุ่มผู้จำเริญ จำเริญ
น่าหดหู่นะครับ เราต้องเสียเงินซื้อไฟฟ้าจากเพื่อนบ้านเป็นส่วนใหญ่ โดยไม่มีความมันคงทางพลังงานเลย ในบ้านเราก็ผลิตไม่พอความต้องการอีก ต่อให้เราเป็นคนลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าในต่างประเทศ แต่สุดท้ายก็ต้องส่งมอบเป็นสมบัติของประเทศเพื่อนบ้านอยู่ดี
ถ้าประเทศเพื่อนบ้านที่เราซื้อไฟฟ้าใช้งาน เกิดข้อพิพาทหรือปัญหาอะไรก็ตามและทำให้ไม่มีไฟฟ้าส่งเข้ามาในประเทศ คนที่เดือดร้อนคือประชาชนอย่างเรานะ คนรวยหาทางแก้ได้อยู่แล้ว ไม่เดือดร้อนอะไรมากนัก
ดังนั้น รัฐบาลควรผลักดันการสร้างโรงไฟฟ้า และอย่าได้ใส่ใจการคัดค้านที่ไร้สาระและไร้เหตุผล ต้องให้ความรู้ความเข้าใจ และลดความกลัวลง ต้องยอมเสียสละเพื่อคนในชาติ อย่าเห็นแก่ตัว อย่าเอาแต่กลัวจนประเทศไปไหนไม่ได้ คนเหล่านั้นก็ไม่ต่างกับคนขอทานและไร้บ้านที่นอกจากไม่สร้างประโยชน์กับประเทศเลย แถมยังสร้างปัญหากลายเป็นมะเร็งของการพัฒนาชาติด้วย (เว้นแต่จะมีโครงการหรือหน่วยงานฟื้นฟูคนจน ขอทาน และคนไร้บ้านกลับเข้าสู่สังคมตามปกติ)
ผมส่งเสริมโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ กังหันลม แสงอาทิตย์ โรงไฟฟ้าก็าซมีเทน และโรงไฟฟ้าขยะ (บ้านเราขยะเยอะมาก รวมที่ฝังกลบจนเกิดแก็สด้วย)
ไม่มีใครอยากได้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ไปสร้างอยู่หน้าบ้านหรือข้างบ้านหรอก หรือสวนไร่นากันหรอนะครับ เวลารั่วมาอันตรายมากๆ เค้าถึงต่อต้านกัน แถมขยะนิวเคลียร์กำจัดยากมากๆครับ ที่ต่อต้านกันเค้ามีเหตุผล ดูได้จากประเทศเยอรมันนีหรือญี่ปุ่นที่เลิกใช้โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์กันหมดครับ
แต่ไปเพิ่มการใช้ถ่านหินแทน
-
เชื้อเพลิงปั่นไฟ มันทำให้เกิดมลพิษ เสียมากกว่าได้
จะสร้างเขื่อนก็ไม่ให้สร้าง โรงไฟฟ้านิวเคลีย ก็ไม่เอา
ซื้อไฟฟ้าใช้ต่อไปน่ะดีแล้ว กลุ่มผู้จำเริญ จำเริญ
น่าหดหู่นะครับ เราต้องเสียเงินซื้อไฟฟ้าจากเพื่อนบ้านเป็นส่วนใหญ่ โดยไม่มีความมันคงทางพลังงานเลย ในบ้านเราก็ผลิตไม่พอความต้องการอีก ต่อให้เราเป็นคนลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าในต่างประเทศ แต่สุดท้ายก็ต้องส่งมอบเป็นสมบัติของประเทศเพื่อนบ้านอยู่ดี
ถ้าประเทศเพื่อนบ้านที่เราซื้อไฟฟ้าใช้งาน เกิดข้อพิพาทหรือปัญหาอะไรก็ตามและทำให้ไม่มีไฟฟ้าส่งเข้ามาในประเทศ คนที่เดือดร้อนคือประชาชนอย่างเรานะ คนรวยหาทางแก้ได้อยู่แล้ว ไม่เดือดร้อนอะไรมากนัก
ดังนั้น รัฐบาลควรผลักดันการสร้างโรงไฟฟ้า และอย่าได้ใส่ใจการคัดค้านที่ไร้สาระและไร้เหตุผล ต้องให้ความรู้ความเข้าใจ และลดความกลัวลง ต้องยอมเสียสละเพื่อคนในชาติ อย่าเห็นแก่ตัว อย่าเอาแต่กลัวจนประเทศไปไหนไม่ได้ คนเหล่านั้นก็ไม่ต่างกับคนขอทานและไร้บ้านที่นอกจากไม่สร้างประโยชน์กับประเทศเลย แถมยังสร้างปัญหากลายเป็นมะเร็งของการพัฒนาชาติด้วย (เว้นแต่จะมีโครงการหรือหน่วยงานฟื้นฟูคนจน ขอทาน และคนไร้บ้านกลับเข้าสู่สังคมตามปกติ)
ผมส่งเสริมโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ กังหันลม แสงอาทิตย์ โรงไฟฟ้าก็าซมีเทน และโรงไฟฟ้าขยะ (บ้านเราขยะเยอะมาก รวมที่ฝังกลบจนเกิดแก็สด้วย)
ไม่มีใครอยากได้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ไปสร้างอยู่หน้าบ้านหรือข้างบ้านหรอก หรือสวนไร่นากันหรอนะครับ เวลารั่วมาอันตรายมากๆ เค้าถึงต่อต้านกัน แถมขยะนิวเคลียร์กำจัดยากมากๆครับ ที่ต่อต้านกันเค้ามีเหตุผล ดูได้จากประเทศเยอรมันนีหรือญี่ปุ่นที่เลิกใช้โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์กันหมดครับ
แต่ไปเพิ่มการใช้ถ่านหินแทน
ผมก็ว่า มันแปลกๆ มีคนอยากขายถ่านหินหรือเปล่านะ
ปล ประเทศที่ว่า โรงไฟฟ้านิวเคลียร์อยู่ข้างถนนเลยอ่ะนะ
http://www.nst.or.th/powerplant/pp06.htm
-
เชื้อเพลิงปั่นไฟ มันทำให้เกิดมลพิษ เสียมากกว่าได้
จะสร้างเขื่อนก็ไม่ให้สร้าง โรงไฟฟ้านิวเคลีย ก็ไม่เอา
ซื้อไฟฟ้าใช้ต่อไปน่ะดีแล้ว กลุ่มผู้จำเริญ จำเริญ
น่าหดหู่นะครับ เราต้องเสียเงินซื้อไฟฟ้าจากเพื่อนบ้านเป็นส่วนใหญ่ โดยไม่มีความมันคงทางพลังงานเลย ในบ้านเราก็ผลิตไม่พอความต้องการอีก ต่อให้เราเป็นคนลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าในต่างประเทศ แต่สุดท้ายก็ต้องส่งมอบเป็นสมบัติของประเทศเพื่อนบ้านอยู่ดี
ถ้าประเทศเพื่อนบ้านที่เราซื้อไฟฟ้าใช้งาน เกิดข้อพิพาทหรือปัญหาอะไรก็ตามและทำให้ไม่มีไฟฟ้าส่งเข้ามาในประเทศ คนที่เดือดร้อนคือประชาชนอย่างเรานะ คนรวยหาทางแก้ได้อยู่แล้ว ไม่เดือดร้อนอะไรมากนัก
ดังนั้น รัฐบาลควรผลักดันการสร้างโรงไฟฟ้า และอย่าได้ใส่ใจการคัดค้านที่ไร้สาระและไร้เหตุผล ต้องให้ความรู้ความเข้าใจ และลดความกลัวลง ต้องยอมเสียสละเพื่อคนในชาติ อย่าเห็นแก่ตัว อย่าเอาแต่กลัวจนประเทศไปไหนไม่ได้ คนเหล่านั้นก็ไม่ต่างกับคนขอทานและไร้บ้านที่นอกจากไม่สร้างประโยชน์กับประเทศเลย แถมยังสร้างปัญหากลายเป็นมะเร็งของการพัฒนาชาติด้วย (เว้นแต่จะมีโครงการหรือหน่วยงานฟื้นฟูคนจน ขอทาน และคนไร้บ้านกลับเข้าสู่สังคมตามปกติ)
ผมส่งเสริมโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ กังหันลม แสงอาทิตย์ โรงไฟฟ้าก็าซมีเทน และโรงไฟฟ้าขยะ (บ้านเราขยะเยอะมาก รวมที่ฝังกลบจนเกิดแก็สด้วย)
ไม่มีใครอยากได้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ไปสร้างอยู่หน้าบ้านหรือข้างบ้านหรอก หรือสวนไร่นากันหรอนะครับ เวลารั่วมาอันตรายมากๆ เค้าถึงต่อต้านกัน แถมขยะนิวเคลียร์กำจัดยากมากๆครับ ที่ต่อต้านกันเค้ามีเหตุผล ดูได้จากประเทศเยอรมันนีหรือญี่ปุ่นที่เลิกใช้โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์กันหมดครับ
ผมไม่ไ้ด้อยาก แต่ถ้าพื้นที่ที่อยู่มันเหมาะสม ผมยินดีครับ .. ขอ incentive นิดๆหน่อยๆแบบใช้ไฟฟรี (พอให้รู้สึกได้ว่าไม่ใช่รัฐอยากทำอะไรก็ทำได้เลยไม่ต้องเห็นหัวชาวบ้านก็พอ)
ถ้ามันจะระเบิดหรือรั่ว ... ระยะ 50 กิโล 100 กิโล ก็ซวยอยู่ดี
-
เชื้อเพลิงปั่นไฟ มันทำให้เกิดมลพิษ เสียมากกว่าได้
จะสร้างเขื่อนก็ไม่ให้สร้าง โรงไฟฟ้านิวเคลีย ก็ไม่เอา
ซื้อไฟฟ้าใช้ต่อไปน่ะดีแล้ว กลุ่มผู้จำเริญ จำเริญ
น่าหดหู่นะครับ เราต้องเสียเงินซื้อไฟฟ้าจากเพื่อนบ้านเป็นส่วนใหญ่ โดยไม่มีความมันคงทางพลังงานเลย ในบ้านเราก็ผลิตไม่พอความต้องการอีก ต่อให้เราเป็นคนลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าในต่างประเทศ แต่สุดท้ายก็ต้องส่งมอบเป็นสมบัติของประเทศเพื่อนบ้านอยู่ดี
ถ้าประเทศเพื่อนบ้านที่เราซื้อไฟฟ้าใช้งาน เกิดข้อพิพาทหรือปัญหาอะไรก็ตามและทำให้ไม่มีไฟฟ้าส่งเข้ามาในประเทศ คนที่เดือดร้อนคือประชาชนอย่างเรานะ คนรวยหาทางแก้ได้อยู่แล้ว ไม่เดือดร้อนอะไรมากนัก
ดังนั้น รัฐบาลควรผลักดันการสร้างโรงไฟฟ้า และอย่าได้ใส่ใจการคัดค้านที่ไร้สาระและไร้เหตุผล ต้องให้ความรู้ความเข้าใจ และลดความกลัวลง ต้องยอมเสียสละเพื่อคนในชาติ อย่าเห็นแก่ตัว อย่าเอาแต่กลัวจนประเทศไปไหนไม่ได้ คนเหล่านั้นก็ไม่ต่างกับคนขอทานและไร้บ้านที่นอกจากไม่สร้างประโยชน์กับประเทศเลย แถมยังสร้างปัญหากลายเป็นมะเร็งของการพัฒนาชาติด้วย (เว้นแต่จะมีโครงการหรือหน่วยงานฟื้นฟูคนจน ขอทาน และคนไร้บ้านกลับเข้าสู่สังคมตามปกติ)
ผมส่งเสริมโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ กังหันลม แสงอาทิตย์ โรงไฟฟ้าก็าซมีเทน และโรงไฟฟ้าขยะ (บ้านเราขยะเยอะมาก รวมที่ฝังกลบจนเกิดแก็สด้วย)
ไม่มีใครอยากได้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ไปสร้างอยู่หน้าบ้านหรือข้างบ้านหรอก หรือสวนไร่นากันหรอนะครับ เวลารั่วมาอันตรายมากๆ เค้าถึงต่อต้านกัน แถมขยะนิวเคลียร์กำจัดยากมากๆครับ ที่ต่อต้านกันเค้ามีเหตุผล ดูได้จากประเทศเยอรมันนีหรือญี่ปุ่นที่เลิกใช้โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์กันหมดครับ
ผมไม่ไ้ด้อยาก แต่ถ้าพื้นที่ที่อยู่มันเหมาะสม ผมยินดีครับ .. ขอ incentive นิดๆหน่อยๆแบบใช้ไฟฟรี (พอให้รู้สึกได้ว่าไม่ใช่รัฐอยากทำอะไรก็ทำได้เลยไม่ต้องเห็นหัวชาวบ้านก็พอ)
ถ้ามันจะระเบิดหรือรั่ว ... ระยะ 50 กิโล 100 กิโล ก็ซวยอยู่ดี
กากนิวเคลียร์กำจัดยาก จากเท่าที่เห็นคือต้องฝังกลบนะครับ หากรั่วก็ซวยอีก ซึ่งไม่คุมค่ากับความเสี่ยงเหล่านี้ครับ แม้ว่าจะมีให้ใช้ฟรียังไงก็ถือว่าได้ไม่คุ้มเสียเลยครับ
-
เชื้อเพลิงปั่นไฟ มันทำให้เกิดมลพิษ เสียมากกว่าได้
จะสร้างเขื่อนก็ไม่ให้สร้าง โรงไฟฟ้านิวเคลีย ก็ไม่เอา
ซื้อไฟฟ้าใช้ต่อไปน่ะดีแล้ว กลุ่มผู้จำเริญ จำเริญ
น่าหดหู่นะครับ เราต้องเสียเงินซื้อไฟฟ้าจากเพื่อนบ้านเป็นส่วนใหญ่ โดยไม่มีความมันคงทางพลังงานเลย ในบ้านเราก็ผลิตไม่พอความต้องการอีก ต่อให้เราเป็นคนลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าในต่างประเทศ แต่สุดท้ายก็ต้องส่งมอบเป็นสมบัติของประเทศเพื่อนบ้านอยู่ดี
ถ้าประเทศเพื่อนบ้านที่เราซื้อไฟฟ้าใช้งาน เกิดข้อพิพาทหรือปัญหาอะไรก็ตามและทำให้ไม่มีไฟฟ้าส่งเข้ามาในประเทศ คนที่เดือดร้อนคือประชาชนอย่างเรานะ คนรวยหาทางแก้ได้อยู่แล้ว ไม่เดือดร้อนอะไรมากนัก
ดังนั้น รัฐบาลควรผลักดันการสร้างโรงไฟฟ้า และอย่าได้ใส่ใจการคัดค้านที่ไร้สาระและไร้เหตุผล ต้องให้ความรู้ความเข้าใจ และลดความกลัวลง ต้องยอมเสียสละเพื่อคนในชาติ อย่าเห็นแก่ตัว อย่าเอาแต่กลัวจนประเทศไปไหนไม่ได้ คนเหล่านั้นก็ไม่ต่างกับคนขอทานและไร้บ้านที่นอกจากไม่สร้างประโยชน์กับประเทศเลย แถมยังสร้างปัญหากลายเป็นมะเร็งของการพัฒนาชาติด้วย (เว้นแต่จะมีโครงการหรือหน่วยงานฟื้นฟูคนจน ขอทาน และคนไร้บ้านกลับเข้าสู่สังคมตามปกติ)
ผมส่งเสริมโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ กังหันลม แสงอาทิตย์ โรงไฟฟ้าก็าซมีเทน และโรงไฟฟ้าขยะ (บ้านเราขยะเยอะมาก รวมที่ฝังกลบจนเกิดแก็สด้วย)
ไม่มีใครอยากได้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ไปสร้างอยู่หน้าบ้านหรือข้างบ้านหรอก หรือสวนไร่นากันหรอนะครับ เวลารั่วมาอันตรายมากๆ เค้าถึงต่อต้านกัน แถมขยะนิวเคลียร์กำจัดยากมากๆครับ ที่ต่อต้านกันเค้ามีเหตุผล ดูได้จากประเทศเยอรมันนีหรือญี่ปุ่นที่เลิกใช้โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์กันหมดครับ
ผมไม่ไ้ด้อยาก แต่ถ้าพื้นที่ที่อยู่มันเหมาะสม ผมยินดีครับ .. ขอ incentive นิดๆหน่อยๆแบบใช้ไฟฟรี (พอให้รู้สึกได้ว่าไม่ใช่รัฐอยากทำอะไรก็ทำได้เลยไม่ต้องเห็นหัวชาวบ้านก็พอ)
ถ้ามันจะระเบิดหรือรั่ว ... ระยะ 50 กิโล 100 กิโล ก็ซวยอยู่ดี
กากนิวเคลียร์กำจัดยาก จากเท่าที่เห็นคือต้องฝังกลบนะครับ หากรั่วก็ซวยอีก ซึ่งไม่คุมค่ากับความเสี่ยงเหล่านี้ครับ แม้ว่าจะมีให้ใช้ฟรียังไงก็ถือว่าได้ไม่คุ้มเสียเลยครับ
กำจัดยากจริงครับ แต่ด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันผมมองไม่เห็นทางเลือกอื่นที่ practical กว่านิวเคลียร์ฟิชชั่น
เรื่องใช้ไฟฟรีผมไม่ได้อยากได้เพื่อ"คุ้ม"เสี่ยงครับ เหตุวิบัติแบบโรงไฟฟ้านิวเคลียร์รั่วไหล เป็นเหตุการณ์ที่โอกาสเกิดน้อยมาก แต่เวลาเกิดแล้วความเสียหายสูง ... ในระดับปัจเจกบริหารความเสี่ยงยังไงก็ไม่คุ้มครับ แต่ผมถือว่า "ทำใจ" เพื่อส่วนรวมให้ได้ใช้ทางเลือกที่ practical ที่สุดในเวลานี้ครับ ... ส่วนค่าไฟฟรีนั่นแค่อยากรู้สึกว่าาัฐ"เกรงใจ"เราบ้างก็เท่านั้นเองครับ
-
เบื้องต้นคงไม่พ้นโรงไฟฟ้าชีวมวล หรือขยะที่แทบทำได้ทันทีถ้าไม่ติดเรื่องที่ตั้ง
นิวเคลียร์ล่าสุดมีเทคโนโลยีรีไซเคิลกากนิวเคลียร์ให้กลับมาใช้ใหม่ได้ แต่อยู่ในระหว่างทดลอง
แถมปัจจุบัน กากที่ทิ้งกันนั้นใช้ประสิทธิภาพไปแค่ไม่กี่ % เอง รอให้เทคโนโลยีเตาปฏิกรณ์ดีกว่านี้ก่อนดีกว่า
-
นโยบายนี้ออกมาสัก 2 ปีแล้วกลุ่มแรกก็จะเริ่มขายไฟปีหน้าแล้ว ส่วนตัวมองว่าดี ควรสนับสนุนนะครับ อย่างน้อยก็มีการสร้างงาน สร้างรายได้ให้ชุมชน และเป็นการกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติมากจนผลิตไม่พอ ต้องนำ LNG เข้ามาใช้ แต่ขึ้นชื่อว่าพลังงานทดแทนยังไงก็มีข้อจำกัดครับ แต่ข้อดีที่สำคัญเลย ก็คือช่วยลด CO2 ได้ วิธีเอาชนะข้อจำกัดก็ต้องใช้ Energy Storage แต่จะรับกันได้มั้ย ถ้าค่าไฟจะแพงขึ้น อย่างน้อย ๆ ก็สักเท่าตัว ส่วนนิวเคลียร์ อย่างญี่ปุ่นที่ใช้มานาน ยังพลาดกันได้เลยครับ
-
นโยบายนี้ออกมาสัก 2 ปีแล้วกลุ่มแรกก็จะเริ่มขายไฟปีหน้าแล้ว ส่วนตัวมองว่าดี ควรสนับสนุนนะครับ อย่างน้อยก็มีการสร้างงาน สร้างรายได้ให้ชุมชน และเป็นการกระจายความเสี่ยงจากการพึ่งพาก๊าซธรรมชาติมากจนผลิตไม่พอ ต้องนำ LNG เข้ามาใช้ แต่ขึ้นชื่อว่าพลังงานทดแทนยังไงก็มีข้อจำกัดครับ แต่ข้อดีที่สำคัญเลย ก็คือช่วยลด CO2 ได้ วิธีเอาชนะข้อจำกัดก็ต้องใช้ Energy Storage แต่จะรับกันได้มั้ย ถ้าค่าไฟจะแพงขึ้น อย่างน้อย ๆ ก็สักเท่าตัว ส่วนนิวเคลียร์ อย่างญี่ปุ่นที่ใช้มานาน ยังพลาดกันได้เลยครับ
มีพระเอกอีกประเภทนึงที่ยังไม่ได้พูดถึงกันนะครับคือโรงไฟฟ้าจากมูลสัตว์ ซึ่งฟาร์มสัตว์ในไทยเยอะมาก อยากให้กระตุ้นกัน แถมค่าก่อสร้างไม่แพงเท่าแบบบอื่นมนปริมาณที่ผลิตkwh ที่เท่ากันครับ
-
เห็นหลายท่านไปกันถึงนิวเคลีย ผมขอกลับไปโรงไฟฟ้าชุมชน
ที่จะทำคือเอาของเหลือมาเผาทำไฟฟ้า โดยให้เอกชนเป็นคนลงทุน เอาวัตถุดิบในชุมชนก่อน เน้นเกษตร ไม่พอให้หาซื้อจากแหล่งอื่นเข้ามาได้
มันก็คือให้เอกชนไปทำโรงไฟฟ้าในชุมชน กระจายตัวกันไป เพราะเดิมที่เคยทำชุมชนต้านหมดทุกที่ ใครจะให้มีที่เผาเตาเผาไปตั้งใกล้บ้าน เพราะเมื่อวันนึงวัตถุดิบไม่พอจะได้เอาขยะมาเผา rdfมาเผา ถึงตอนนั้นชาวบ้านต้านยาก เพราะสร้างแล้วรันแล้ว
ส่วนตัวมองว่าคือการปรับรูปแบบให้ชาวบ้านโอเค แต่เป้าหมายเหมือนเดิม ไฟฟ้าใครๆก็อยากลงทุน ผลิตได้มีคนซื้อคนใช้แน่นนอน ผลิตยังไงก็ไม่พอ ได้กำไรแน่นอน
-
มีหลายประเทศที่ใช้นิวเคลีย มาหลายสิบปี ถ้าเราคิดจะทำไม่ลองเอาเค้ามาเป็นแบบอย่าง ศึกษาดูงานเลยเชียวหรือ ถ้าทำแล้วความปลอดภัย การจัดการไม่ดีเท่าเค้า หรือต้องดีกว่าเค้า ถ้าคิดว่าจะแย่กว่าไม่ต้องทำ
-
ลองแก้ข้อเสนอและเงื่อนไขต่างๆๆดู
เช่น
ตั้งบริษัท 1 บริษัท ให้เอกชนถือหุ้น 49% ที่เหลืออีก51%เป็นของชุมชน โดยใช้ชื่อว่า "กลุ่มโรงไฟฟ้าชุมชนหมู่ที่ xx บ้านyyy ตำบลzzz"
โดยชุมชนเลือกกรรมการของแต่ละหมู่จำนวน 1 คน (มีวาระ 1,2หรือ3ปีก็แล้วแต่จะกำหนด) เพื่อเข้าเป็นคณะกรรมการบริษัทนี้
เป็นต้น
-
จากที่มีข้อมูลนะครับ ตอนนี้กำลังการผลิตกระแสไฟฟ้าของประเทศไทยเกินความต้องการประมาณร้อยละ 20 ครับ เลยไม่ได้ส่งเสริมต่อ และการดำเนินงานโรงไฟฟ้าชีวมวล มันควบคุมการดำเนินงาน และขี้เถ้าที่เกิดจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงยาก ซึ่งโรงไฟฟ้าชีวมวลบางแห่งก็มีปัญหาเรื่องการจัดการเถ้าจากการเผาชีวมวลอยู่ครับ โรงไฟฟ้าชุมชนเลยไม่ได้ไปต่อครับ
-
เห็นหลายท่านไปกันถึงนิวเคลีย ผมขอกลับไปโรงไฟฟ้าชุมชน
ที่จะทำคือเอาของเหลือมาเผาทำไฟฟ้า โดยให้เอกชนเป็นคนลงทุน เอาวัตถุดิบในชุมชนก่อน เน้นเกษตร ไม่พอให้หาซื้อจากแหล่งอื่นเข้ามาได้
มันก็คือให้เอกชนไปทำโรงไฟฟ้าในชุมชน กระจายตัวกันไป เพราะเดิมที่เคยทำชุมชนต้านหมดทุกที่ ใครจะให้มีที่เผาเตาเผาไปตั้งใกล้บ้าน เพราะเมื่อวันนึงวัตถุดิบไม่พอจะได้เอาขยะมาเผา rdfมาเผา ถึงตอนนั้นชาวบ้านต้านยาก เพราะสร้างแล้วรันแล้ว
ส่วนตัวมองว่าคือการปรับรูปแบบให้ชาวบ้านโอเค แต่เป้าหมายเหมือนเดิม ไฟฟ้าใครๆก็อยากลงทุน ผลิตได้มีคนซื้อคนใช้แน่นนอน ผลิตยังไงก็ไม่พอ ได้กำไรแน่นอน
ผมมองว่าโรงไฟฟ้าชุมชนที่ใช้วัตถุดิบจากของเสียชาวบ้าน เป็นเรื่องที่ดี แต่ก็ควรจะทำในขนาดที่ใหญ่กว่าชุมชน ไประดับจังหวัด หรือภูมิภาค เพื่อลดภาระการใช้ไฟฟ้าลงจากแหล่งผลิตใหญ่ๆ นะ
ผมเสนอไปแล้วว่า ถ้าจะทำ เอาโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ + ก็าซมีเทนด้วย เยอะไม่แพ้กับของเสียจากโรงปศุสัตว์เลย หรือทำแบบสะอาดอย่างแผงรับแสงอาทิตย์ พลังงานลม หรือทำเขื่อนชุมชนขนาดเล็กบนลำคลองต่อกับเครื่องปั่นไฟใช้เองเก็บใส่แบตก็ยังได้
-
ตัวผลิตไฟฟ้า มันก็ต้องการ การดูแฃรักษา ผมเชื่อว่าหลายชุมชน หากมีเครื่องพวกนี้ขึ้นมา ก็ไม่มีใครดูแลมันให้อยู่ในสภาพที่ดีได้
แม้แต่โรงงานใหญ่ที่ขายไฟฟ้าให้รัฐ ก็ยังมีปัญหาเรื่องคนดูแลเลยครับ หาคนไม่ได้บ้าง เข้าๆออกๆบ้าง บางที่ ของดีๆกลายเป็นปัญหายุ่งยากในการดูแลไปเลย
-
ตัวผลิตไฟฟ้า มันก็ต้องการ การดูแฃรักษา ผมเชื่อว่าหลายชุมชน หากมีเครื่องพวกนี้ขึ้นมา ก็ไม่มีใครดูแลมันให้อยู่ในสภาพที่ดีได้
แม้แต่โรงงานใหญ่ที่ขายไฟฟ้าให้รัฐ ก็ยังมีปัญหาเรื่องคนดูแลเลยครับ หาคนไม่ได้บ้าง เข้าๆออกๆบ้าง บางที่ ของดีๆกลายเป็นปัญหายุ่งยากในการดูแลไปเลย
ก็คงต้องทำเป็นบริษัทหรือหน่วยงานไปเลย ที่มีคนงานและเจ้าหน้าที่ดูแลถาวร เพื่อลดปัญหา และต้องมีเงินเดือนที่ดึงดูดคนให้ทำงานได้ด้วย ส่วนใหญ่ที่คนไม่ทำก็เพราะเรื่องเงินเนี่ยแหละ
เมื่อทำโรงไฟฟ้าไปแล้ว ก็ต้องมีผู้ดูแลค่าใช้จ่ายและซ่อมบำรุง แน่นอนว่าต้องเก็บตังค์จากผู้ใช้งานมาหล่อเลี้ยงโรงไฟฟ้าพวกนี้ (อาจพ่วงเงินภาษีเข้ามาช่วยบรรเทาอีกด้วยซ้ำ)
ชุมชนดูแลกันเองค่อนข้างยาก เพราะซับซ้อน ไม่มีใครอยากจะทำ แถมไม่มีใครว่างมาจัดการและซ่อมบำรุงได้ตลอด และแน่นอน เรื่องเงินอีกตามเคย
-
ถ้าจากขยะ ผมบอกเลยว่า ไม่นานนี้จะเกิดสงครามแย่งขยะแน่นอน มันมีเทคโนโลยี จัดการขยะบางชนิดที่ดันมีจำนวนมหาศาล ให้้มูลค่าเพิ่มสูงสุดมาแล้ว บอกได้เท่านี้ครับ และมาถึงบ้านเราแล้ว
-
อ่านแล้วก็... เฮ้อ... :P
เป็นความจริงอันแสนเศร้า ประเทศถึงพัฒนาช้า
-
ถ้าจากขยะ ผมบอกเลยว่า ไม่นานนี้จะเกิดสงครามแย่งขยะแน่นอน มันมีเทคโนโลยี จัดการขยะบางชนิดที่ดันมีจำนวนมหาศาล ให้้มูลค่าเพิ่มสูงสุดมาแล้ว บอกได้เท่านี้ครับ และมาถึงบ้านเราแล้ว
ทุกวันนี้ก็แย่งขยะกันอยู่แล้วล่ะครับ