Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: YenChar ที่ ตุลาคม 20, 2019, 20:14:44
-
ขอเป็นกระทู้แนวสนทนาล่ะกันนะครับ
ส่วนตัวผม เรียกได้ว่า เป็นลูกค้าประจำ ใช้ Hilux ในกิจการค่อนข้างบ่อย
ติดอกติดใจกระบะโตโยต้าตั้งแต่วีโก้รุ่นแรกๆ (ต้นกำเนิดกระบะบ้าพลังหัวใจ KD)
หัวใจหลักที่ชอบเลยคือ"แรงบิดรอบต่ำ" แตะๆคันเร่งนิดหน่อยรถก็วิ่งฉิว
และ"ความทน" ตั้งแต่รุ่นเครื่อง KD รุ่นแรก ทุกวันนี้ก็ยังวิ่งได้อยู่
สมัยแรกๆ วีโก้สี่ประตูยกสูงนี่เป็นอะไรที่เท่มาก ดูบึกบึน
แต่!!
ในวันที่กระบะยุคใหม่ๆเข้ามา หลายๆค่ายเริ่มพัฒนา
- Isuzu เปิดตัวใหม่ หน้าหล่อมากกก เครื่องแรง จัดเต็ม
- Triton เกียรใหม่ แก้ปัญหาออกตัวแล้วห้อยแล้ว ตีนต้นดีขึ้นมาก
- Ranger ยังไงก็หล่อไม่ตกยุค รุ่นใหม่ก็คงหล่อบึ๊กกว่านี้อีกมาก
- Chev & Navara : ขายไม่ดีก็จริง แต่แรงสุดติ่ง เกาะสุดๆตั้งแต่ยุคเก่าจนถึงยุคใหมา
- MG ที่ถ้าพี่แกเปิดสงคราม Dump ราคา คงได้ส่วนแบ่งไปไม่มากก็น้อย
"ที่สำคัญคือ ทุกค่าย เฉลี่ยแล้วมี Option ที่มากกว่า และราคาขายปลีกถูกกว่าโตโยต้าเล็กน้อย"
คือ ดูๆแล้ว เสน่ห์ของกระบะ Hilux มันกำลังจะหมดไปมั้ยครับ?
ความทนทาน ผมว่ากระบะมันก็ทนเหมือนๆกัน
กระบะนิสสัน มิตซู บางบ้านใช้งานจนขาย ก็ไม่ได้มีอะไรพัง
อิสุๆแกก็ขึ้นชื่อเรื่องทน อะไหล่ถูก ดูแลลูกค้าดีมานาน
เมื่อก่อน 4x4 หรือจะขึ้นดอย ขนของ ต้องโตโยต้าเท่านั้น!!
แต่สมัยนี้ ไม่ว่าจะ Difflock ไม่ว่าจะแรงบิด แรงม้า ออฟชั่น เกียร์ มันคือสิ่งที่ใครๆก็มีกันหมด
ถ้า Ford & Mitsu คือหล่อเท่ Isuzu คือแรงพลิกโลก
ทุกท่านคิดว่าจุดขายของ Hilux ต่อไปคืออะไรครับ?
-
จุดขายของ Hilux คือ ใช่ง่าย ซ่อมง่าย ไม่จุกจิก ไปได้ทั่วไทย ไปทั่วโลกครับ
-
ผมมีทั้งเก๋ง , กระบะ โตโยต้า
สิ่งที่ประทับใจคือการบริการหลังการขายครับ
-
เสน่ห์ของกระบะ Toyota (รวมถึง Isuzu ด้วย) คือใช้แล้วสบายใจครับ..... นี่คือสิ่งทีค่ายอื่นยังให้ได้ไม่เท่า
ปกติผมชอบเดินทางท่องเที่ยวไปตามภาคเหนือ และอีสานตอนบนๆ
ในที่ห่างไกลตัวเมือง ตามอำเภอเล็กๆ หมู่บ้านตามยอดเขายอดดอย จะพบเจอแต่กระบะ 2 เจ้าเป็นส่วนใหญ่ มียี่ห้ออื่นบ้างก็แค่ประปราย
เคยคุยกับคนท้องถื่นบ้าง ส่วนใหญ่ก็พูดคล้ายๆกันว่าใช้แล้วทนทาน ดูแลง่าย ลูกเล่น option ต่างๆก็เพียงพอต่อความต้องการ
บังเอิญผมขับรถเครื่องสูบนอน ขับสี่ fulltime ใครพบใครเจอก็มักจะมาชวนคุยเรื่องรถเสมอ
ที่คนในเวปนี้ชอบกล่าวว่ากระบะเจ้าตลาดออฟชั่นน้อย ขับไม่ดี แต่คนไทยก็ยังจะซื้อ
คนที่เขาอยู่ห่างไกล ขับรถโค้งไปโค้งมาขึ้นลงเขาตลอด............เขาไม่ได้คิดกันแบบนั้นน่ะ
คือมันก็ไม่ได้ขับดีอะไรมากหรอก แต่ไม่ได้แย่ขนาดใช้งานไม่ได้
-
ศูนย์เยอะ. ซ่อมง่ายกว่า. ส่งผลเรื่องขายต่อ หลากหลาย
พุดไปพุดมาก้อข้อดีเดิม. มี่ไม่ใช่ตัวรถ
หากผมเป็ยผู้บริหารโตต้า. ต่อให้ยังเปนที่1-2อยู้ แต่ผมคิดว่า กะบะโตต้าต้องรีบ แล้ว
-
1.เครื่องแรงดี
2.ทนทาน
3.ค่าซ่อมบำรุงไม่แพง
-
ผมมีทั้งเก๋ง , กระบะ โตโยต้า
สิ่งที่ประทับใจคือการบริการหลังการขายครับ
ปมว่าบริการหลังการขายของโตโยต้านี่ยังไม่ถือว่าดีนะถ้าเทียบกับยี่ห้ออื่นๆและเมื่อเทียบกับอีซูสุแล้ว บริการได้งั้นๆ อีซูสุบริการดีกว่า แค่ได้เปรียบตรงศูนย์เยอะ และที่สำคัญคือเซลล์โคตรหยิ่ง แต่ที่ลูกค้าเยอะเพราะว่าไม่ค่อยจุกจิกและซื้อง่ายขายคล่องได้ราคาดี อะไหล่เทียบเยอะ
-
ผมขอพูดรวมๆ กับยี่ห้อ toyota และ isuzu ว่า การขับขี่ หน้าตา และ option อาจจะไม่ใช่ที่ 1 แต่ซื้อมามั่นใจได้ว่า โอกาสเจอ jackpot น้อยมากๆ สามารถวิ่งงานได้ทุกวัน (ยกเว้นวันเข้าเช็คระยะ) เหมือนสโลแกนที่ว่า ห้ามเจ็บ ห้ามลา ห้ามตาย มันจึงเหาะกับ commercial มากกว่ายี่ห้ออื่นๆ
-
เอาจาก ประสบการณ์ของผมมาบอกเล่า ไม่มโน และไม่เอนเอียงครับ
จริงอยู่ครับ ที่ค่ายอื่น ออปชั่น ดี ราคา น่าสนใจ แต่รถกระบะ ต่างจาก รถยนต์นั่งครับ
ความเป็นรถ ไม่ได้อยู่ที่แค่ออปชั่น คนไทย เลือกรถ ไว้ใช้งานครับ (นอกจากเงินเหลือ มีรถหลายคัน ซื้อไว้สำรอง)
หัวใจอยู่ที่ เครื่องกับเกียร์ การบำรุงรักษา
ผมเคยใช้วีโก้ 3.0 อายุ 12 ปี 4แสนโล ก็ยังไปได้ ทุกดอยครับ อินทนนท์ ภูทับเบิก สบายๆ
ปัจจุบันใช้ REVO 2.4 AT มา 2ปี แสนกว่ากิโล
พาผมและครอบครัว พ่อแม่ ไปเที่ยว ทุกที่ อุ่นใจ ครับ
ความสบายใจ เป็นสิ่งที่ หาซื้อไม่ได้ง่ายๆ ครับ
เก็บเสียงดี เข้าศูนย์บ้าง เปลี่ยนถ่ายของเหลวด้านนอกบ้าง
กดคันเร่ง 30-40 % ไม่ต้องลุ้น ซึ่งคนส่วนใหญ่ เราคงไม่กดคันเร่งเต็มเท้ากันบ่อยๆ
ประหยัดน้ำมัน หัวแถวของตาราง บลาๆ
แต่หาก จะหาข้อเสีย ก็ต้องบอกว่า ช่วงล่าง ครับ
แต่ถ้าให้ แก้ช่วงล่าง กับ แก้เครื่องยนต์ ของรถเดิมจาก โรงงาน
แน่นอน ครับ เปลี่ยนโช็คกันใหม่ งบไม่เท่าไหร่ ง่ายกว่า
จึงเป็นเหตุผลที่ คนส่วนใหญ่ ยังวางใจ hilux
สำหรับผม คู่แข่งจริงๆ มีแค่ Isuzu ครับ
ใกล้เคียง สูสี ทั้งความทนทาน และ การดูแลรักษา
คาดว่า ปีหน้า Revo คงปรับออปชั่นมาสู้ครับ
ที่เหลือ แล้วแต่ ความชอบของสาวก แต่ละ แบรนด์
ไม่โจมตีใครครับ 8)
-
Toyota คือเบสิคชอยด์ครับ รถไม่ได้แย่เลยแค่มีอะไรที่กั๊กๆไปบ้าง และมันทนทานเอาการอยู่กว่าเพื่อนๆยี่ห้ออื่น
ผมเคยใช้อยู่ทั้งเรโว่ ทั้งฟอร์ฯ มันเป็นรถที่ดีคันนึงนะ แค่มันอาจจะมีอะไรที่ไม่สุดแค่นั้นเอง
-
รถคันนึงสำหรับคนทั่วไปแค่ขับดี ออกชั่นเยอะ ไม่ใช่คำตอบสุดท้ายครับ
โดยรวมต้องดี ทนทาน หลังการขายต้องดี ขายต่อไม่แย่
คนรอบตัวผมและผมเองเคยซื้อรถเพราะขับดี ขับมันอย่างเดียว
สุดท้ายช้ำกันมาหลายแล้ว
-
ส่วนลดเฉียดแสน คือเสน่ห์ที่คู่แข่งที่มีจุดแข็งด้านความทนทาน ไม่จุกจิก ศูนย์ดี ราคาขายต่อดี เหมือนๆกัน ไม่มีให้ครับ
-
ต้องบอกว่า มันคือรถคนทำมาหากิน
พอบอกว่า รถคนทำมาหากิน ขนของ วิ่งงาน .. รถมันก็ต้องทน ต้องถึก มีอะไรขึ้นมา อะไหล่ต้องไม่แพง ต้องหาได้ง่าย ช่างที่ไหนก็ซ่อมได้ วันเดียวจบ ครึ่งวันจบ ต้องไม่มีว่า รออะไหล่ หรือ อะไหล่แพง เพราะกลุ่มนี้ ถ้าล้อหยุดหมุน เงินเค้าก็หายครับ
นี่แหละเสน่ห์ ที่ยี่ห้ออื่น ทำไม่ได้
.........
อย่างผมซ่อมรถใช้งานบริษัท
ยี่ห้อนึงเข้ามา ยกคลัชท์ ถามร้านอะไหล่ละแวกนี้ ส่ายหน้า บอกต้องเบิกศูนย์ แล้วเบิกศูนย์ใช่ว่ามีของนะ ก็รอไปสิ บางทีอาทิตย์นึง / เทอร์โบพัง เจอไป 3 หมื่น
ในขณะที่ รถตลาดๆ isuzu เข้ามายกคลัชท์ เข้าเช้า เย็นเสร็จ ร้านอะไหล่ละแวกนี้ มีของทุกร้าน ทุกเกรด
..........
ล่าสุด มีส่ง mail มาขอ comment ให้ผมฟันธงเลือกรถใช้งาน กระบะ 4WD ตอนเดียว แน่นอน ผมเลือก revo / d-max เพราะ รถใช้ในแปลง บรรทุกหนัก อะไหล่ต้องหาง่าย รถต้องทน ขืนเอาพวกรถเทพ พังขึ้นมา รออะไหล่นาน หรือ จุกจิก คนโดนด่าก็ผมนี่แหละ
-
โฉมนี้ก็ไม่ได้แย่นะครับ แต่อีกเดี๋ยวก็โมเดลเชนจ์แล้วคงไม่ยอมค่ายอื่นหรอกครับ
-
ปัจจุบัน บริษัทที่ผมทำงานอยู่ มี วีโก้ตอนเดียวอยู่ 4 คันครับ
คันแรกจนถึงคันสุดท้าย ห่างกันราวๆคันละปีกว่าถึง 2 ปี ผมไม่ขอพูดถึงคันที่ 2 3 และ 4 นะครับ
แต่เจ้าคันแรกนี่ ตอนแรกๆก็ไว้ส่งแบตเตอรี่ปกติ ประมาณ 1-2ตันต่อเที่ยว มีเสริมแหนบมาครับ
หลังจากมีคันใหม่เข้ามาประจำการ(เพราะขายฟรอนเทียร์คันเก่าไป) เจ้าคันแรกก็ถูกใช้งานหนักขึ้นครับ ถูกเอาไปใช้ขนแบตที่มาจากโกดังครั้งละ 3 ตันบ้าง
จนพอคันที่ 3 มา คันแรกมีแอบขนแบตเก่าไปขาย เคยทุกสูงสุด เกือบ 5 ตัน
จะออกรีโว่ตั้งหลายทีแล้ว แต่คันแรก มันยังไม่ยอมพังเลย วิ่งไปร่วมๆ 4 แสนแล้ว แต่แรงยังดี ช่วงล่างดี ไม่จุกจิกเลยจริงๆครับ ไม่เคยซ่อมอะไรร้ายแรงเลย
เหมือนกระบะโบราณเปี๊ยบ เสียก็เปลี่ยนตามอาการ
ถ้าของเก่าที่ใช้ มันดีอยู่แล้ว ก็คงจะใช้ต่อไปแหล่ครับ
จริงอยู่ ที่ผมเล่ามา อาจจะไม่ตรงประเด็นของจขกท.เท่าไหร่นัก เพราะของผมเป็นตอนเดียว
จริงๆแล้ว บ้านผมเองก็มีไททันโฉมแรกเบนซิลติดแก๊สจากโรงงานคันนึงใช้คู่กับวีโก้เหมือนกัน ช่วงนั้นซื้อเพราะน้ำมันแพง ก็ไม่จุกจิกอะไรเลยเช่นกันครับ แต่ สภาพวัสดุภายใน มันโทรมเร็วมาก กระบะหลังก็แคบกว่า ใส่พาเลทเต็มๆไม่ได้
โตต้าเลยเป็นตัวเลือกที่ดี่สุดไปโดยปริยาย
ปล.1.บริษัทผมอยู่ละแวกยานนาวาพระราม3 ไม่มี 0 อีซูสุอยู่ใกล้เลย
2.ช่วงที่เป็นคู่แข่งวีโก้ กระบะหลังของอีซูสุมันแคบกว่าเล็กน้อยตรงซุ้มล้อทำให้วางพาเลทไม่ได้แนวครับ
... ใจจริงก็อยากลองอีซูสุดูบ้า
-
ความเป็น User Friendly ในการใข้งาน
- ขับง่าย แรงบิดดี รถเงียบ
- แอร์เย็น
- ตำแหนการจัดวาง เกียร์ พวงมาลัย ปุ่มต่างๆ ใข้งานง่าย
- ช่องเก็บของอะไรออกแบบมาดี ทั้งกล่องแว่น กล่องเก็บของคอนโซลหน้า ตะขอแขวนของหลังเบาะ ที่แขวนเสื้อเบาะหลัง ชอบสุดคือที่วางแก้วด้านข้างทีมีแอร์เป่า
- บำรุงรักษาง่าย
- การจัดรุ่นย่อย ที่ตรงกับตลาด ผมว่าอันนี้สำคัญมาก
แม้ Option กับขับขี่ไม่เป็นผู้นำ แต่การวางรุ่นย่อยที่ตอบโจทย์ต่อตลาด ผมว่าสำคัญที่สุด รุ่นย่อยนี้ เหมาะกับกลุ่มผู้ใช้งานแบบไหน ex.เซลล์ วัยรุ่นสร้างตัว รถครอบครัว รถส่งของ รถโรงงาน/บริษัท หลายคนซื้อรถมาใช้จริงๆ เราไม่ได้ขับซิ่ง เอาสรรถนะดีสุดๆทุกวัน แลองนึกดู
-
ผมมีทั้งเก๋ง , กระบะ โตโยต้า
สิ่งที่ประทับใจคือการบริการหลังการขายครับ
ปมว่าบริการหลังการขายของโตโยต้านี่ยังไม่ถือว่าดีนะถ้าเทียบกับยี่ห้ออื่นๆและเมื่อเทียบกับอีซูสุแล้ว บริการได้งั้นๆ อีซูสุบริการดีกว่า แค่ได้เปรียบตรงศูนย์เยอะ และที่สำคัญคือเซลล์โคตรหยิ่ง แต่ที่ลูกค้าเยอะเพราะว่าไม่ค่อยจุกจิกและซื้อง่ายขายคล่องได้ราคาดี อะไหล่เทียบเยอะ
จากประสบการณ์ส่วนตัว ผมไม่เห็นว่าศูนย์อีซูซุ มันจะดีเลิศอะไรขนาดนั้นนะ ผมให้โตโยต้าดีกว่าอีก งานซ่อมอะดีโอเค แต่โตโยต้าก็ดีพอกัน มีแค่ค่าเช็คระยะถูกกว่าแค่นั้น ที่เหลือผมว่าโตโยต้าดีกว่า น้ำก็ไม่เคยมาเสริฟ แถมน้ำอัดลมในตู้เย็นถ้าหยิบมากินคิดตังด้วยนะไม่ได้ให้กินฟรี ไม่เคยโทรมาตามงานหลังซ่อมเสร็จสักครั้ง แต่โตโยต้าโทรมาตามตลอด ผมเข้าศูนย์อีซูซุมาเกือยบ3ปีละ ไปมา3-4ศูนย์แล้วด้วยเป็นเหมือนกันหมดเลย ศูนย์โตโยต้าผมก็ไปมาหลายที่แล้วเหมือนกัน
ถ้าผมให้คะแนนศูนย์อีซูซุ ผมให้เท่าศูนย์เชฟโรเล็ตแถวบ้านผมเลย บริการแบบเดียวกันเลย ก็ไม่แย่นะแต่ก็ยังไม่ดีมาก
แล้วที่ผมมาออกโตโยจ้าก็เพราะเซล อีซูซุนั้นแหละทั้งที่ตอนแรกไม่เคยอยู่ในช้อยด้วยซ้ำ
-
ศูนย์มีทั้งดีและไม่ดีครับ แต่ค่ายที่สามารถสร้างมาตรฐานได้เคียงกันที่สุดคือ Toyota
-
ภาพพจน์ที่ได้มา
มาจากการสั่งสมบารมีจากการบริการ
และคุณภาพตัวรถ
ถ้ารักษาระดับไว้ได้ ยังไงก็ขายได้ครับ
ออฟชั่นนี่ บางที คนซื้อไม่บ่น คนบ่นไม่ซื้อก็เยอะครับ
ส่วนใหญ่จะสนใจแต่ความไม่จุกจิกมากกว่า
แต่อย่างไรก็ตาม ผมว่าภาพพจน์นี่ สำคัญสุดสำหรับบ้านเราครับ
ดู MB/BMW ปะไร งอแงแค่ไหน ก็ยังมีคนอยากได้ ทั้งในและนอกฝันเสมอ
-
ปัจจุบัน บริษัทที่ผมทำงานอยู่ มี วีโก้ตอนเดียวอยู่ 4 คันครับ
คันแรกจนถึงคันสุดท้าย ห่างกันราวๆคันละปีกว่าถึง 2 ปี ผมไม่ขอพูดถึงคันที่ 2 3 และ 4 นะครับ
แต่เจ้าคันแรกนี่ ตอนแรกๆก็ไว้ส่งแบตเตอรี่ปกติ ประมาณ 1-2ตันต่อเที่ยว มีเสริมแหนบมาครับ
หลังจากมีคันใหม่เข้ามาประจำการ(เพราะขายฟรอนเทียร์คันเก่าไป) เจ้าคันแรกก็ถูกใช้งานหนักขึ้นครับ ถูกเอาไปใช้ขนแบตที่มาจากโกดังครั้งละ 3 ตันบ้าง
จนพอคันที่ 3 มา คันแรกมีแอบขนแบตเก่าไปขาย เคยทุกสูงสุด เกือบ 5 ตัน
จะออกรีโว่ตั้งหลายทีแล้ว แต่คันแรก มันยังไม่ยอมพังเลย วิ่งไปร่วมๆ 4 แสนแล้ว แต่แรงยังดี ช่วงล่างดี ไม่จุกจิกเลยจริงๆครับ ไม่เคยซ่อมอะไรร้ายแรงเลย
เหมือนกระบะโบราณเปี๊ยบ เสียก็เปลี่ยนตามอาการ
ถ้าของเก่าที่ใช้ มันดีอยู่แล้ว ก็คงจะใช้ต่อไปแหล่ครับ
จริงอยู่ ที่ผมเล่ามา อาจจะไม่ตรงประเด็นของจขกท.เท่าไหร่นัก เพราะของผมเป็นตอนเดียว
จริงๆแล้ว บ้านผมเองก็มีไททันโฉมแรกเบนซิลติดแก๊สจากโรงงานคันนึงใช้คู่กับวีโก้เหมือนกัน ช่วงนั้นซื้อเพราะน้ำมันแพง ก็ไม่จุกจิกอะไรเลยเช่นกันครับ แต่ สภาพวัสดุภายใน มันโทรมเร็วมาก กระบะหลังก็แคบกว่า ใส่พาเลทเต็มๆไม่ได้
โตต้าเลยเป็นตัวเลือกที่ดี่สุดไปโดยปริยาย
ปล.1.บริษัทผมอยู่ละแวกยานนาวาพระราม3 ไม่มี 0 อีซูสุอยู่ใกล้เลย
2.ช่วงที่เป็นคู่แข่งวีโก้ กระบะหลังของอีซูสุมันแคบกว่าเล็กน้อยตรงซุ้มล้อทำให้วางพาเลทไม่ได้แนวครับ
... ใจจริงก็อยากลองอีซูสุดูบ้า
เมื่อปี 2552 = เคยเอาอีปุปุ 4 ประตูไปเข้าศูนย์อีปุปุสาธร อยู่ตรงข้าม Autobac สาธร บริการได้ไม่ประทับใจเลย :'(
-
เสน่ห์ แรงบิดรอบต่ำ
คาดหวัง ทรงตัวดี ไม่ลงข้างทางหลังฝนตก
ไฟท้ายเสถียร ไม่ดับขณะเบรคครับ
-
เพราะคนที่ใช้รถออพชั่นน้อยๆไม่เคยใช้ออพชั่นจัดเต็ม เลยไม่รู้ว่าสะดวกกว่าแค่ไหน เมื่อไม่เห็นคุณค่าก็คิดว่าไม่จำเป็นและกังวลว่าเสียแล้วจะซ่อมแพง ก็เลยจะใช้แบบเดิมๆ เน้นถูกๆ มีรุ่นให้เลือกเยอะ หรือซื้อมาให้ลูกน้องใช้ก็ไม่เน้นความสบาย ช่วงล่างจะเด้งเค้าก็ไม่ใส่ใจ ขอแค่ประหยัดน้ำมัน อะไหล่หาง่าย ขายต่อได้ง่าย
ผมว่าน่าจะแยกยอดขายแต่ละรุ่นให้ดูจะยิ่งชัดว่าที่โตขายดีคือกระบะรุ่นไหน เพราะถ้าเป็นรุ่นท็อปผมว่าสู้เจ้าอื่นไม่ได้อ่ะ แต่พอดูยอดรวมทุกรุ่นยังเป็นที่หนึ่ง
ส่วนศูนย์แบบที่มีพนักงานมาเสิร์ฟน้ำ มาถามว่าจะรับข้าวอะไร ซึ่งฟรีไม่เสียเงิน โทรมาถามความคิดเห็นหลังเข้าบริการก็ไม่ได้มีแค่โตกับอิซูซุ ผมว่ามันคงไม่ใช่ประเด็นหลักนะ ผมคนนึงที่ซื้อรถไม่คิดแค่ว่าจะได้กินข้าวกล่องฟรี
-
แน่นอนว่าเสน่ห์ของโตโยต้าคือคุณภาพตัวรถทนทาน ไว้ใจได้ บำรุงรักษาต่ำ ไม่จุกจิก
ศูนย์บริการแก้ปัญหาได้ดี ที่สำคัญมีความรับผิดชอบ ไม่ใช่บางยี่ห้อเหมือนหลอกขาย
เอาออฟชันมาเหมือนเยอะๆ แต่ไม่มีความรับผิดชอบ เจอปัญหาก็โทษลูกค้า ลอยแพ
เป็นเหมือนกันทั้งศูนย์และ ดีลเลอ แถมเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย
เช่น เครื่องยนต์ เกียร์ แม้แต่ระบบเบรค ไม่เคยยอมรับผิด คือกะเน้นขายอย่างเดียว ขายได้คือจบกัน
ผิดกับโตโยต้า มีปัญหาก็แก้ไข รีบเคลม พยายามไม่ปล่อยปัญหาให้เรื้อน
ถ้าให้เลือกรถที่ออฟชันดูเยอะ แต่ปัญหาเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยเยอะแถมไม่รับผิดชอบอีก
กับรถที่ออฟชันพอใช้งาน ทนทาน ไม่จุกจิก บ.มีความรับผิดชอบมากกว่า พยายามแก้ปัญหาให้ลูกค้า
เป็นคุณจะเลือกแบบไหน???
-
แน่นอนว่าเสน่ห์ของโตโยต้าคือคุณภาพตัวรถทนทาน ไว้ใจได้ บำรุงรักษาต่ำ ไม่จุกจิก
ศูนย์บริการแก้ปัญหาได้ดี ที่สำคัญมีความรับผิดชอบ ไม่ใช่บางยี่ห้อเหมือนหลอกขาย
เอาออฟชันมาเหมือนเยอะๆ แต่ไม่มีความรับผิดชอบ เจอปัญหาก็โทษลูกค้า ลอยแพ
เป็นเหมือนกันทั้งศูนย์และ ดีลเลอ แถมเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย
เช่น เครื่องยนต์ เกียร์ แม้แต่ระบบเบรค ไม่เคยยอมรับผิด คือกะเน้นขายอย่างเดียว ขายได้คือจบกัน
ผิดกับโตโยต้า มีปัญหาก็แก้ไข รีบเคลม พยายามไม่ปล่อยปัญหาให้เรื้อน
ถ้าให้เลือกรถที่ออฟชันดูเยอะ แต่ปัญหาเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยเยอะแถมไม่รับผิดชอบอีก
กับรถที่ออฟชันพอใช้งาน ทนทาน ไม่จุกจิก บ.มีความรับผิดชอบมากกว่า พยายามแก้ปัญหาให้ลูกค้า
เป็นคุณจะเลือกแบบไหน???
งั้นคุณก็ยังไม่รู้ว่ายังมีรถค่ายอื่นที่ออพชั่นเยอะและไม่จุกจิก ยังมีค่ายอื่นที่เค้ารับผิดชอบต่อลูกค้าไม่ลอยแพ แสดงว่าเป็นเพราะชื่อเสียงของโตที่สั่งสมมานานจนลูกค้าไว้ใจ ต่างกับค่ายอื่นที่ยังไม่มีบารมีมากพอ ถึงปรับปรุงบริการแต่คนไทยส่วนใหญ่ก็ยังไม่รู้
-
แน่นอนว่าเสน่ห์ของโตโยต้าคือคุณภาพตัวรถทนทาน ไว้ใจได้ บำรุงรักษาต่ำ ไม่จุกจิก
ศูนย์บริการแก้ปัญหาได้ดี ที่สำคัญมีความรับผิดชอบ ไม่ใช่บางยี่ห้อเหมือนหลอกขาย
เอาออฟชันมาเหมือนเยอะๆ แต่ไม่มีความรับผิดชอบ เจอปัญหาก็โทษลูกค้า ลอยแพ
เป็นเหมือนกันทั้งศูนย์และ ดีลเลอ แถมเป็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัย
เช่น เครื่องยนต์ เกียร์ แม้แต่ระบบเบรค ไม่เคยยอมรับผิด คือกะเน้นขายอย่างเดียว ขายได้คือจบกัน
ผิดกับโตโยต้า มีปัญหาก็แก้ไข รีบเคลม พยายามไม่ปล่อยปัญหาให้เรื้อน
ถ้าให้เลือกรถที่ออฟชันดูเยอะ แต่ปัญหาเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยเยอะแถมไม่รับผิดชอบอีก
กับรถที่ออฟชันพอใช้งาน ทนทาน ไม่จุกจิก บ.มีความรับผิดชอบมากกว่า พยายามแก้ปัญหาให้ลูกค้า
เป็นคุณจะเลือกแบบไหน???
งั้นคุณก็ยังไม่รู้ว่ายังมีรถค่ายอื่นที่ออพชั่นเยอะและไม่จุกจิก ยังมีค่ายอื่นที่เค้ารับผิดชอบต่อลูกค้าไม่ลอยแพ แสดงว่าเป็นเพราะชื่อเสียงของโตที่สั่งสมมานานจนลูกค้าไว้ใจ ต่างกับค่ายอื่นที่ยังไม่มีบารมีมากพอ ถึงปรับปรุงบริการแต่คนไทยส่วนใหญ่ก็ยังไม่รู้
ค่ายอื่นอาจจะมีบ้างอย่างใดอย่างหนึ่ง ใน2ข้อนี้ครับ หรือมีทั้ง2ข้อ แต่ยังไม่เท่ากับโตโยต้า
และก็ยังมีหัวข้ออื่นที่พิจารณาร่วมด้วยในการเลือกซื้อ เช่น ราคาอะไหล่ การหาอะไหล่ได้ง่าย
ซึ่งระบบการจัดการ มีนต้องใช้เวลาสั่งสม และแสดงให้ลูกค้าเห็นครับ
-
เถียงกันไม่จบหรอก
อย่าเอาความคิดตัวเองแทนความคิดของคนอื่น
คำว่า "ดี" ของแต่ละคนมันไม่เหมือนกัน
ตราบใดที่ยอดขายยังดี ย่อมมีคนเห็นความ "ดี" ของมัน
-
รถที่ซื้อใช้ส่วนตัว มันก็ต้องมี "อารมณ์" เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจเป็นธรรมดา แต่ถ้าซื้อเเพื่อใช้ทำมาหากิน มันจะมีอะไรสำคัญไปกว่า ความคุ้มค่าในตัวเงินและเวลา ความเสี่ยงที่น้อยกว่า ประสิทธิภาพที่เหมาะสมกับการใช้งานล่ะครับ
-
พ่อผมลูกค้าประจำ ทุกวันนี้ยังไม่หวั่นไหวเลย
พ่อแฟนผมก็ลูกค้าประจำเวลาซื้อกระบะถามหาแต่โตโยต้า
ทั้งๆที่ไปขับมาหมดแล้ว มาจบที่นี่ไม่ไปไหนจริงๆ
เหมือนเขาไม่สนใจครับว่าจะออพชันน้อยยังไงแค่บรรทุกไปให้ถึงปลายทาง ส่งงานให้ลูกค้าจบขับกลับปกติไม่เคยขับเร็วด้วย
-
มองรถเป็นของเล่น รักสนุก รถแบบนี้มันไม่มีเสน่ห์หรอกครับ
มองรถเป็นของใช้ ขอให้ใช้ดี ไม่งอแง ก็ไม่ต้องเสน่หากับมันก็ได้
มันเป็นกระบะ ต้องบรรทุก แต่เราไปเล่นมันตอนวิ่งตัวเปล่าว่าไม่ดี
แต่ไม่ได้มองว่าตอนบรรทุก มันทำหน้าที่ได้ดีสมกับเกิดมาเป็นกระบะมั้ย
บางทีรถมันก็อาจจะหยาบกร้านเกินไป ไม่เหมาะกับ บาง life style นะครับ
-
บ้านผมใช้ Hilux Tiger 4x4 ปี 2000 วิ่งปุเลงๆ ปัจจุบันก็ยังใช้งานได้ดีอยู่ แต่กรอบพลาสติกตามคอนโซลและมือจับเริ่มกรอบหมดแล้ว
กับอีกคัน Ranger 4x2 ปี 2012 ใช้ออกต่างจังหวัดอยู่เรื่อยๆ แต่ตอนนี้จอดอยู่เฉยๆ เพราะเกียร์มีปัญหา เข้า safe mode ล็อคความเร็ว 120
และความ Surprise อีกคันคือ BigM 4x2 ปี 1992 ที่ปู่ใช้ มันยังวิ่งได้อ๊ะ!!! แต่ระบบหม้อน้ำ พัดลมหม้อน้ำ และปั๊มน้ำ เสียบ่อยฉิบ เหมือนเป็นเอกลักษณ์ของ Nissan ตั้งแต่อดีตยันปัจจุบัน
กระบะคันต่อไปคง Toyota เหมือนเดิม ไม่ก็ Isuzu
-
กะบะเพื่อผู้ประกอบการ ยังไง TOYOTA ยังดีที่สุด ไว้ใจได้ ทนทาน ค่าดูแลโดยรวมต่ำกว่า
-
มีทั้ง Revo และ Ranger อยู่ที่บ้านไว้ใช้งานครับ
Revo รถค่อนข้างดีในภาพรวม ใช้งานง่ายไม่จุกจิก ซ่อมง่ายตามสไตล์ ศูนย์บริการไม่แย่ ค่อนมาทางดีบางด้าน บางด้านก็เฉยๆ (เช่นการติดต่อประสานงานของศูนย์ที่ผมว่ายังงงๆอยู่)
Ranger รถดีในด้านสมรรถนะการขับขี่ และรูปลักษณ์ที่เวลาขับแล้วคนจะมองเราดีกว่า(วัดจากคนที่มาคุยกับเราไม่ใช่จากความรู้สึก) เช่นถ้าผมขับ Ranger ไปติดต่องานซื้อของ เขาจะเรียกเฮีย เพราะเค้าคิดว่าเราเป็นเจ้าของกิจการมากกว่า แต่ถ้าแต่งตัวเหมือนกันแล้วขับ Revo ไปเค้าจะเรียกไม่พี่ก็น้อง คิดว่าเราเป็นลูกน้องขับรถมาซื้อของประมาณนี้ครับ เรื่องการซ่อมการเช็คระยะ จากประสบการณ์โตโยต้าดีกว่ามากนัก ทุกวันนี้ผมเลยเอา Ranger มาถ่ายน้ำมันเครื่องข้างนอกแทนแล้ว อะไรเสียค่อยซ่อม เข้าศูนย์ทีโดนฟันหัวแบะ (เช็คระยะไม่ถี่เท่าโตโยต้าแต่โดนที 4-5 พัน)
-
ในเรื่องความเห็น : ผมว่ากระบะทุกค่ายมันไม่ได้มีคันไหนที่ดีไปกว่ากันครับ แค่คนซื้ออยากได้ "ดี" แบบไหน บางคนให้ความสำคัญกับช่วงล่าง บางคนให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ การตกแต่งหรูหรา บางคนที่หารถทำเงินก็อยากได้รถที่ไว้ใจได้ไม่เสี่ยงดวงจอดกินข้าวลิง หรือบางคนอยากได้ยี่ห้อที่ศูนย์เยอะๆ อะไหล่เกลื่อนถนน ซึ่งผมว่าเราต้องเลือกตามเงื่อนไขการใช้ชีวิตของแต่ละคน
ในเรื่องรถที่ใช้ส่วนตัว : ผมเลือกโตโยต้า(ซื้อ 4 ปีก่อน)โดยไม่มีเรื่องศูนย์บริการเข้ามาเกี่ยวข้อง ผมดูอยู่ 4 รุ่น renger triton isuzu ที่เลือก revo เพราะ 1.แรงบิดรอบต่ำ 2.ช่องเก็บของ ช่องวางแก้วในห้องโดยสารเยอะดี 3.ส่วนลดเยอะ ดอกเบี้ยผมหาได้ในเรทปกติ เรื่องนี้มันทำให้พอคำนวนแล้วค่าใช้จ่ายไม่ได้ต่างจากค่ายอื่นๆ 4.ถุงลม 3 ใบ ค่ายอื่นแค่สอง 5.ชื่อเสียงเรื่องความทนทานของเครื่องยนต์ค่ายนี้ กับเกียร์ aisin 6.มันมีมือจับเสา B คร่าวๆประมาณนี้ครับ
อ้อ กระบะคันเก่าที่บ้านเป็น mighty-x ของพ่อ และมี ranger แค็บเปิดได้ของพี่สาวนะ พอรถเก่างานคุณภาพมันก็พอจะเห็นความแตกต่างอยู่บ้างครับ เดี๋ยวจะหาว่ายึดติดยี่ห้อ แต่ถ้าถามว่าให้ซื้อกระบะตอนนี้จะเอาค่ายไหน ก็จะไม่ตอบว่า revo ในทันที เพราะการจัดออฟชั่น+ปัญหาดีเฟคของแต่ละค่ายก็ไม่เหมือน 4 ปีที่แล้ว เรื่องงบก็สำคัญ อย่างถ้ามีงบ 8แสน 9แสน 1.2ล้าน ผมว่าคำตอบสำหรับผมต่างกันแน่นอนครับว่าจะจิ้มรุ่นไหน
-
ขนาดไฟหน้า ฮาโรเจน คนยังซื้อเลย
ค่ายที่มี daylight คนยังไม่สน เลย
คนไทยชอบพื้นๆ ง่ายๆไม่ยุ่งยาก
แต่งเองได้
เด่นคือ ศูนย มีเกลื่อนทั่วประเทศ 😆😆😆😎😃😃😃
-
"Revo ..ในกรณีที่ไม่ใช่ Rocco ..ก็เป็นชายอุตสาหจิต ชีวิตอยู่กับการค้าขาย ชอบมานั่งคุยข้างท่านผู้กำกับ หน้าตาออกเด๋อด๋านิดๆ ตัวผอมโย่งแต่สู้ชีวิต" ผมขอยกข้อเขียนเปรียบเทียบของคุณ Pan มาใช้ เพราะเห็นภาพชัดดี ผมชอบมาก ถ้า toyota คือคนแบบนี้ ผมว่าแค่นี้ก็เป็นเสน่ห์แล้วครับ เพราะคนแบบนี้เป็นคนที่อ่อนน้อม คุยง่าย เข้าถึงง่าย และขยัน ซึ่งต่อไปเขาต้องเจริญรุ่งเรื่องแน่ๆ คนแบบนี้คุณไม่อยากจะคบเป็นเพื่อนหรือครับ นั้นแหละเสน่ห์ของ toyota ( แต่ตอนนี้ผมใช้ isuzu อยู่ สักวันอาจเปลี่ยนมาเป็นเพื่อนชายคนนี้ก็ได้)
-
ผมกำลังจะออก 2.4E Plus ตัวแค็ป ราคา8แสนถ้วน
ดูมาหมดทุกยี่ห้อแล้วครับ จบที่ตัวนี้เพราะ
- หน้าตาหล่อเหลา ภายในดูดี
- เครื่อง2.4แรงกำลังดี ผมเอามาขนของมองว่า1.9ของอีสุเล็กไปนิด
- คันเก่าเป็นVigo3.0วิ่งมาจะ4แสนโล ยังใช้งานได้ดีปกติ มีอืดบ้างตามความเสื่อมของเกียร์ พูดง่ายๆคือมันทน
- อันนี้สำคัญ ตัวรถได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่าไม่มีปัญหาอะไรจุกจิก กับรถที่ต้องวิ่งทุกวันผมต้องการความสบายใจ Rangerได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่ามีปัญหา Triton Navara ก็ยังไม่น่าไว้วางใจๅ MGขอผ่านก่อน Mazdaกำลังจะเปลี่ยนโฉมคงรอไม่ไหว
สรุปคือ Revo ใช้ยาวๆ จบ
-
Hilux Revo มันก็มีจุดขายของมัน อาจไม่ดีที่สุดแต่ไม่แย่ที่สุดแน่นอน
รอแค่แต่งหน้า แต่ตา ออกมาให้หล่อก็ขายได้ ช่วงนี้ปล่อย D-max โกยยอดขายไปก่อน ไม่นานหรอก
-
ผมขอพูดรวมๆ กับยี่ห้อ toyota และ isuzu ว่า การขับขี่ หน้าตา และ option อาจจะไม่ใช่ที่ 1 แต่ซื้อมามั่นใจได้ว่า โอกาสเจอ jackpot น้อยมากๆ สามารถวิ่งงานได้ทุกวัน (ยกเว้นวันเข้าเช็คระยะ) เหมือนสโลแกนที่ว่า ห้ามเจ็บ ห้ามลา ห้ามตาย มันจึงเหาะกับ commercial มากกว่ายี่ห้ออื่นๆ
+1
-
Toyota มีรุ่นตัวเตี้ย เกียร์ Auto
Zedition ทำโป่งล้อ ใส่กระทะสำหรับบรรทุกแล้วล้อไม่ยื่น
รุ่น Smartcab ความยาวกระบะ มากกว่า 180 ซม. ใส่ของได้พอดี
-
รถช่างเครื่องบินที่ทำงานใช้ Hiace ช่วงสั้นหลังคาเตี้ย ปี 12 กับ Vigo Champ 4 ประตู 2.5G เกียร์ธรรมดา
ช่างเข้างานสองกะ 24 ชั่วโมงเพื่อดูแลเครื่องบิน มือห่างเท้าห่าง ใช้รถกันสุดติ่ง ภายในไอ้นู้นหักไอ้นั้นพัง
แต่เครื่องกับเกียร์และแอร์ยังใช้งานได้ดี แค่ดูแลเข้าศูนย์ตามระยะเท่านั้น
ตอนนี้แอดมินทำเรื่องจัดซี้อรีโว่ตัวเตี้ย 4 ประตูอีกสองคันอยู่ คันนึงไว้แผนกกราวน์ ส่วนคันนึงให้ช่าง
ก็ดีครับ ฝั่งกราวน์อย่างผมจะได้มีรถขับไปทำงานในลานจอด
ถ้าเครื่องจอดเบย์ไกลๆถ้าใช้ยี่ห้ออื่นแล้วเกิดรถเสีย มันไม่สนุกหรอกครับ
ดูในสนามบินได้ ส่วนใหญ่ก็มีแต่โตโยต้าไม่ก็อีผุผุทั้งนั้น น้อยมากจะเป็นยี่ห้ออื่น
-
เอาจริงๆนะ รถโตโยต้า ทั้งเก๋ง ทั้งกระบะ มันก็ใช่ว่าจะขับดีอยู่แล้ว ขับสู้ค่ายอื่นไม่ได้ เพียงแต่ขับแล้วมั่นใจว่ามันทนทาน ซ่อมง่าย ซื้อง่ายขายคล่อง
-
สิ่งนึงที่คนใช้รถปิคอัพเขาให้ความสำคัญ คือ ความเชื่อมั่นในสินค้า ซึ่งจะไม่ได้เปลี่ยนใจกันง่ายๆ ครับ
ลูกค้ากลุ่มอีโค่คาร์ กลุ่ม B-SUV อาจจะให้ความสำคัญกับออฟชั่นหรืออะไรที่แปลกใหม่
แต่กลุ่มปิคอัพนั้น มองต่างกันแน่นอน ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ D MAX ยอดขายดีกว่าไตรตั้น แต่ MU X ขายสู้ปาเจโร่ไม่ได้
เพราะลูกค้าปิคอัพเขาเหนียวแน่นกับแบรนด์มากกว่าลูกค้า PPV ครับ
ตลาดอีโค่ มาสด้า 2 เจาะตลาดได้ แต่ปิคอัพก็เจาะไม่เข้า
-
- เทคนิคการผลิตที่ให้ความทนทาน
- ศูนย์บริการที่มีเยอะและมีความเป็นมืออาชีพ
รถบางยี่ห้อผลิตภัณฑ์ดี แต่ศูนย์บริการเหมือนเด็กเล่นขายของ หลาบ!!!
-
ต้องยอมรับว่า Hilux มันเป็นรถที่ใช้ทำมาหากินจริงๆ ครับ
คุณจะมีรถ Porsche, Benz, Ferrari, Mazda หรืออะไรก็ตามที่คุณชอบแล้ว แต่ถ้าคุณยังมีภาระหน้าที่ ครอบครัวมีกันหลายคน ต้องมีรถสำรองไว้ยามฉุกเฉิน หรือรถที่ต้องใช้ได้ สตาร์ทต้องติด ขับไปแล้วไม่ตายกลางทาง น้ำท่วมก็พร้อมจะขับมันไปแบบไม่ต้องประคบประหงม
Hilux (หรือแม้กระทั่ง Fortuner) นี่แหละคือเพื่อนแท้ที่สุดแล้วครับ ที่ไม่แท้ก็คือราคาตอนซื้อ ;D
-
รถกระบะ 90% เป็นรถทำมาหากิน รถส่งของ รถลูกจ้างขับ วิ่งสวน นา เขา ลุย ปีนึงหลักแสนโล เขาไม่มองกล้องรอบคัน Carplay ซันรูฟหรอกครับ เขามองความถึก ทน ซ่อมง่าย ไม่เข้า ศ. ก็หาอะหลั่ยง่าย ของแท้ ของเทียบ เพียบ สุดจะสรรหาคำบรรยาย มันจะมีสักกี่ยี่ห้อล่ะครับ คำตอบ ก็พี่โตเนี่ยแหล่ะ
-
อืมมม คงเป็นจ้าวตลาดมั้งครับ ของเล่นเยอะ 8) อะไหล่เทียบ แท้เทียม
-
รถกระบะ 90% เป็นรถทำมาหากิน รถส่งของ รถลูกจ้างขับ วิ่งสวน นา เขา ลุย ปีนึงหลักแสนโล เขาไม่มองกล้องรอบคัน Carplay ซันรูฟหรอกครับ เขามองความถึก ทน ซ่อมง่าย ไม่เข้า ศ. ก็หาอะหลั่ยง่าย ของแท้ ของเทียบ เพียบ สุดจะสรรหาคำบรรยาย มันจะมีสักกี่ยี่ห้อล่ะครับ คำตอบ ก็พี่โตเนี่ยแหล่ะ
สาบานได้ว่า ถ้าไม่อ่านประโยคสุดท้าย ผมคิดว่า isuzu
555
-
ผมก็ใช้มาหมด ทั้งโตต้า อีสุ มิตซู นิสสัน เชฟ เหลือ ฟอร์ดยังคับ
สำหรับผมจะเลือกอะไรแล้วแต่จังหวะ ทั้งรูปทรง ออพชั่น ส่วนลด
แต่สำหรับผม แค่จังหวะตอนเปลี่ยนรถ ถ้าโตต้าให้พอๆกับยี่ห้ออื่น ผมก็เลือกโตต้าแล้วคับ
-
เอาเครื่องยนต์ก่อน
เครื่องยนต์ตัว Hi Power ไม่ว่าจะเป็น 3.0 หรือ 2.8 ใครเคยขับ จะรู้ว่า เครื่องยนต์ แรงมาก(ในกลุ่มกระบะ) แรงบิดมาไว บูสท์ติดเร็ว ส่วนตัว 2.5 หรือ 2.4 ผมว่ามันพอใช้งานแล้ว รถทำมาขับง่าย ขับสนุก และแถมมาด้วยความจุกจิกน้อยมาก ทนมือทนเท้า ใช้งานยาวๆ ไป
ตัวรถ ซ่อมง่าย อะไหล่เยอะ อู่ซ่อมเยอะแยะ หรือ จะเข้าศูนย์ราคาก็รับได้
ศูนย์บริการ เยอะแยะ ซ่อมจบ คุยได้ ราคาไม่แพงเวอร์ แม้กระทั้งอะไหล่ศูนย์ก็ไม่ได้แพงเป็นเพชรเป็นทองคำ เหมือนบางยี่ห้อ
ขายต่อ ราคาดี มีคนต้องการ ขายง่าย
......แค่นี้ผมก็ว่ามันขายตัวมันเองทั้งรถและแบรนด์แล้วครับ