Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: bear286 ที่ ธันวาคม 11, 2019, 09:54:40
-
ความจริงเป็นระบบที่ห่วยและมีผลเสียเยอะในระยะยาวต่อความทนทานเครื่องยนต์ ทำไมเราต้องทนใช้ระบบห่วยๆเช่นนี้กันอยู่อีก พวกโลกสวยก็จะบอกว่ามันดี ใช่มันดีต่อมลพิษ แล้วเครื่องที่ทรุดโทรมลงไปมันเป็นมลภาวะต่อเจ้าของรถไหม แทนที่เครื่องจะทนทาน ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ ก็ต้องมาเสื่อมอย่างไม่ใช่เรื่องไหม ตัวอย่างก็มี ลองเสริจ คอมมอนเรลกินน้ำมันเครื่อง ดูสิ >:(
-
EGR น่าจะเป็นทางเลือกที่ต้นทุนถูกที่สุดของผู้ผลิตรถเพื่อให้ผ่านมาตราฐานไอเสีย
ถัดมาก็คงเป็น start-stop
ถัดอีกมาก็ DPF หรือ adblue
สุดท้ายก็ต้องพึ่งมอเตอร์ hybrid
-
ครบแสนโล ผมแค่เข้าอู่ให้เขาถอดล้างให้ เขม่าก็ไม่ได้เยอะมากมาย
-
รถเสีย ซ่อมได้
อากาศเสีย. ซ่อมไม่ได้
-
EGR ธรรมดาๆ แทบไม่ได้ช่วยลดมลพิษหรอก
ถ้าใส่ DPF + AdBlue มาคุณจะยอมรับมันไหมล่ะ ปัญหาน่าจะอยู่ที่ผุ้ใช้งานมากกว่าระบบนะ
-
ผมว่าAdd blueเป็นทางออกที่เหมาะสม เครื่องยนต์ไม่เสียหายด้วยครับ :-*
-
รักษ์ขึ้น 5% ถ้าอยากอุดก็ผมก็แนะนำว่าให้ต่อท่อไอเสียเข้าห้องโดยสารด้วยด้วยจะได้แฟร์ๆ ฟอกอากาศให้ผมก่อน ;D
-
ต้องแฟร์ๆ กับฝั่งเบนซินด้วยครับ
ไม่งั้นจะเป็นน้ำสะอาดในแก้วสกปรก
-
จากหัวข้อ ตอนแรกผมนึกว่าจะพูดถึงเรื่องกระบวนการ หรือวิธีการทำงานของ EGR
ว่ามันลดจริงหรือไม่จริงอย่างไร
ของแบบนี้มันเป็นสำนึกต่อส่วนรวมครับ ไม่ได้โลกสวยน้ะ
ส่วนรถพังเนี่ย มันก็มีวิธีซ่อมบำรุงก่อนที่รถจะพังนิครับ อันนี้ก็คือความรับผิดชอบของเจ้าของเอง
ลองมองดูรอบๆตัวและลองศึกษาภาวะโลกร้อนดูเยอะๆครับ
ว่าปัจจุบันโลกมันแย่ลงขนาดไหน น่าจะภูมิใจมากกว่าน้ะครับ
ที่มีโอกาสเป็นส่วนนึงที่ช่วยลดมลพิษในอากาศ ;)
ช่วยๆกันครับ
-
ถ้าจะอ้าง มันก็อ้างย้อนไปได้เรื่อย ๆ ละครับ เครื่องพัง ต้องเสียอะไหล่เพิ่ม ต้องถลุงเหล็กเพิ่ม ต้องทำเหมืองเพิ่ม
ง่ายๆ คือไอเสียจากอุด EGR มันเหม็น มลพิษเยอะ แค่นั้นแหละ
ถ้าตอบตามกฎหมายแบบตรง ๆ การดูแลรถให้ใช้ได้ตามมาตรฐานต่างๆ (เหมือนตรวจ ตรอ รถเก่า) เป็นหน้าที่ของเจ้าของรถ ค่าใช้จ่ายเจ้ารถต้องรับผิดชอบ ถ้าทำไม่ได้ ก็ต่อทะเบียนไม่ได้ ก็ไม่ควรซื้อรถมาแต่แรก ถ้าจะดูแลไม่ไหว
-
ถ้าโลกไม่สวยเนี่ย....มันจะอยู่กันไม่ได้น่ะคับ
คุณรู้ไหมว่ามีคนเป็นโรคระบบทางเดินหายใจปีๆนึง เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ......
วันนึงพวกที่ป่วยอาจจะเป็นคนที่เอาแต่พูดว่า ผมโลกไม่สวย ฉันโลกไม่สวย ก็ได้น่ะ
2-3 วันนี้ เตรียมรับมือปัญหาเรื่องฝุ่น PM2.5 ได้เลยคับ เวลาอากาศเย็นๆนิ่งๆมันจะกดฝุ่นในบรรยากาศลงมาแถวระดับพื้น
-------
ระบบ EGR มันเสถียรแค่ไหน อันนี้ผมคิดว่าไม่ใช่ประเด็น
เป็นหน้าที่ของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ ที่ต้องไปหาวิธีลดมลพิษจากไอเสียให้ได้ ถ้า EGR มันทำงานไม่ดีก็ต้องไปหาระบบอื่นแทน
-
ควรยกเลิกEGRแล้วใช้Add blueแทนครับ ผ่านระดับEuro6ได้เลย
-
ความจริงเป็นระบบที่ห่วยและมีผลเสียเยอะในระยะยาวต่อความทนทานเครื่องยนต์ ทำไมเราต้องทนใช้ระบบห่วยๆเช่นนี้กันอยู่อีก พวกโลกสวยก็จะบอกว่ามันดี ใช่มันดีต่อมลพิษ แล้วเครื่องที่ทรุดโทรมลงไปมันเป็นมลภาวะต่อเจ้าของรถไหม แทนที่เครื่องจะทนทาน ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ ก็ต้องมาเสื่อมอย่างไม่ใช่เรื่องไหม ตัวอย่างก็มี ลองเสริจ คอมมอนเรลกินน้ำมันเครื่อง ดูสิ >:(
เท่าที่คุณเอ่ยมา ผลเสียหลักๆ คือ รถ เครื่องยนต์ นะ
แต่ผลลัพธ์ของ EGR คือ มลพิษ ที่ปล่อยออกมา มันมีมาไม่ได้ออกแบบให้ช่วยเรื่องประสิทธิ์ภาพ หรือ สมรรถณะของเครื่องยนต์ นะ ผมว่าคุณสับสนนะ
ส่วนนานไป แล้วมีการอุดตัน หรือ กินน้ำมัน ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการบำรุงรักษา จะล้าง หรือ ทำความสะอาด ก็ว่าไป แล้วมันก็จะกลับมาใช้งานได้เต็มที่เหมือนเดิม
ผมว่าคุณมองในมุมแค่ว่า รถจะเสียหาย ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ลดลง กินน้ำมัน บลาๆๆๆๆๆ
ปล. มองก็มองให้ครบทั้งเบนซิน และ ดีเซล ด้วยนะ
-
มลพิษทางอากาศมันส่งผลกระทบเราทุกคนนะครับ ระบบ egr มันแย่ทำเครื่องสกปรกและเสื่อมก็จริง เราก็ถอดล้างทุกๆแสนโลเอาครับ
คิดถึงส่วนรวมบ้าง บางคนบ้านอยู่ริมถนนนี่หนักเลยคุณเห็นใจเขาบ้างไหมครับ
-
มันไม่พังเยอะขนาดนั้นหรอกครับ
-
เสริมประเด็นให้ ครับกลัวเข้าใจแต่ฝั่งดีเซล
เครื่องเบนซิน ก็มี EGR นะครับ
เพียงแต่ ตัวเบนซินอาจจะเกิดเขม่าสะสมช้ากว่าหน่อย เท่านั้นเองครับ 555+
ดูอย่างเครื่อง ยาริส 3NR-FKE ตัวใหม่ก็ได้ครับ มี EGR มาแล้ว อยู่ติดกับฝาครอบเครื่องเลย 555555+
-
ผมมองเห็นอยู่อย่างเดียวสำหรับเจ้าของกระทู้คือ กลัว"รถพัง"
อิซูซุ มิวเซเว่น เครื่อง 3.0 บ้านผม
เครื่องที่ขึ้นชื่อว่าควันดำ เสียงดัง
ไม่เคยอุด วิ่งมา 300,000 กม. มันก็ยังนิ่ง ไม่เห็นจะพังตรงไหน
เพราะในเมื่อผมหมั่นใส่ใจและดูแลมันซะอย่าง..
ผมว่ามันจะพังเพราะอย่างอื่นก่อนมากกว่า เช่น พวกระบบระบายความร้อนเสื่อมตามอายุ
คุณจะอุดก็อุดไป รถมันใส่มาให้ก็ไปถอดไปอุดมันซะก็แค่นั้น
ถ้าคุณจะมาแซะคนไม่อุดว่าโลกสวย
คุณมันโคตร"เห็นแก่ตัว"เลยครับ..
-
ผมมองว่า egr ทำให้ประสิทธิภาพเครื่องยนต์ลดลงเรื่อยๆเมื่อใช้ไปนานๆ ทำให้เราต้องใช้น้ำมันมากขึ้นในการไปถึงจุดหมาย
-
เพราะสิ่งแวดล้อมนั้นราคาแพง!! แต่มันเป็นราคาที่ผมยอมจ่าย!!
Captain America ไม่ได้กล่าวไว้
-------
อย่างที่หลายๆท่านบอก มันไม่ได้เกิดมาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพเครื่อง
แต่เกิดมาเพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพ ทั้งของ"ตัวคนขับเอง" และคนในสังคม
และมันมีวิธีดูแลของมัน เพื่อให้กระทบต่อประสิทธิภาพเครื่องให้น้อยเท่าที่จำเป็น
หรือแต่ละท่านอยากจะรักษาปอดของตัวเองแทน
เมื่อก่อนผมเคยไม่ชอบเครื่องดีเซลเอามากๆ เนื่องจากมลพิษที่ร้ายกาจ
ตอนซื้อฟอร์จูนเนอร์ผมก็เลือกเบนซินด้วยความตั้งใจแต่แรกจากเรื่องมลพิษเป็นหลัก
แม้จะมีแต่คนบอกว่ากำลังมันน้อย (แต่พ่อแม่ผมคงยิ้มเพราะลิมิตไว้ที่ 160km/h)
โชคดีที่ยุคนี้มี hybrid เพิ่มขึ้นมาเป็นตัวเลือก
และแน่นอนมันมีราคาของมัน แต่มันเป็นราคาที่ผมยอมจ่าย ..
-
เพื่อนผมใช้รถ 10 ปี 2xx,xxx กม. โดยไม่อุด EGR ก็ไม่เห็นว่าจะพังก่อนรถที่อุดนะครับ
-
ลองไปหาอ่านดู เปิดหัวข้อEmissionหาผลเสียของEGRดู
https://www.se-ed.com/product/%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%B2%E0%B8%9B%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%99.aspx?no=9789749007686
-
คนเห็นแก่ตัว ก็จะมีทัศนคติ แบบเห็นแกาตัว ในทุกๆ เรื่องครับ
พ่นควันพิษ ออกสู่อากาศ น่าจะต่อท่อย้อนเข้าห้องโดยสารก่อนปล่อยออกมานะครับ
-
พอจะยืนยันได้ไหมครับว่าไม่มีผลต่อเครื่อง กับ Triton 13 ปี เกือบสามแสนกิโลเมตร ไม่เคยซ่อมเครื่องยนต์เลยแม้แต่ครั้งเดียว เปลี่ยนถ่ายของเหลวก็ที่ศูนย์ตลอดไม่มีข้างนอกใช้ของศูนย์ทั้งหมดครับ มันไม่ได้ดีที่สุด แต่ก็ช่วยได้ไม่มากก็น้อยครับ รถแรงตกไหมไม่เคยมีอาการ จนขายไปครับ แค่แรงม้าที่มีเหลือๆ สำหรับการใช้ในชีวิตประจำวันแล้วครับ
-
ความจริงเป็นระบบที่ห่วยและมีผลเสียเยอะในระยะยาวต่อความทนทานเครื่องยนต์ ทำไมเราต้องทนใช้ระบบห่วยๆเช่นนี้กันอยู่อีก พวกโลกสวยก็จะบอกว่ามันดี ใช่มันดีต่อมลพิษ แล้วเครื่องที่ทรุดโทรมลงไปมันเป็นมลภาวะต่อเจ้าของรถไหม แทนที่เครื่องจะทนทาน ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ ก็ต้องมาเสื่อมอย่างไม่ใช่เรื่องไหม ตัวอย่างก็มี ลองเสริจ คอมมอนเรลกินน้ำมันเครื่อง ดูสิ >:(
ถ้าไม่รักษ์โลกก็ช่วงเอาควันจากท่อไอเสียรถที่ไปอุด EGR ทะลวงแคต ต่อท่อย้อนกลับไปที่ห้องโดยสารด้วยนะครับ มันจะได้ไม่ไปทำร้ายคนอื่น ควันดำๆจะได้ไม่พ่นออกมาสร้างมลพิษบนท้องถนน
-
เห็นทรรศนะคติ ของ จขกท.แล้ว no comment เลยผม
-
8) 8) 8)......Exhaust Gas Recirculation / EGR ก็ช่วยลดมลพิษ ออกจากอากาศที่มนุษย์กับสัตว์ทั้งโลกใช้หายใจสะอาดขั้นโดยรวม อย่าหยุมหยิมกับบางเรื่องไร้สาระครับ :-X
-
ต้องรอให้ซื้ออากาศหายใจแล้วค่อยจริงจังกันละมังครับ
-
ผมอาจจะตกหล่นอะไรไปหน่อย แต่ที่อยากจะสื่อก็คือเราไม่ควรใช้ระบบEGRอีกต่อไป ควรใช้Add blueซึ่งดีทั้งต่อเครื่องยนตร์และสภาพแวดล้อม เป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ สามารถผ่านมลพิษได้ถึงEuro6ต่างหากที่ผมต้องการจะสื่อ จริงๆถ้ามีทางเลือกที่ดีคงไม่มีใครอยากอุดEGRกันหรอกครับ จริงอยู่ครับที่หลายคนใช้มาหลายแสนโล แต่คุณเคยถอดแหวนมาดูสภาพกันไหมว่าจริงๆแล้วแหวนมันหมดสภาพไปเรียบร้อยแล้ว แค่นับเวลาถอยหลังรอวันตายเท่านั้นเอง ว่าแต่ดูกันเป็นรึป่าวเอ่ย?
-
มารับความรู้ ได้เยอะเลยครับ แม้ไม่ได้ใช้รถ diesel
-
ผมอาจจะตกหล่นอะไรไปหน่อย แต่ที่อยากจะสื่อก็คือเราไม่ควรใช้ระบบEGRอีกต่อไป ควรใช้Add blueซึ่งดีทั้งต่อเครื่องยนตร์และสภาพแวดล้อม เป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ สามารถผ่านมลพิษได้ถึงEuro6ต่างหากที่ผมต้องการจะสื่อ จริงๆถ้ามีทางเลือกที่ดีคงไม่มีใครอยากอุดEGRกันหรอกครับ จริงอยู่ครับที่หลายคนใช้มาหลายแสนโล แต่คุณเคยถอดแหวนมาดูสภาพกันไหมว่าจริงๆแล้วแหวนมันหมดสภาพไปเรียบร้อยแล้ว แค่นับเวลาถอยหลังรอวันตายเท่านั้นเอง ว่าแต่ดูกันเป็นรึป่าวเอ่ย?
รถยังถอดมาซ่อมได้ แต่ปอดถอดมาซ่อมไม่ได้ ก็คิดเอาเองนะครับ คุณอาจมองว่ารักษาที 30 บาท แต่ร่างกายเสียแล้วเสียเลย มันไม่ได้รักษาได้ทุกอย่าง ยิ่งถ้าเป็นมะเร็งขึ้นมาคุณจะยอมเสียทุกอย่างเพื่อให้หาย บางคนขายบ้านขายที่ขายรถก็ยังช่วยอะไรไม่ได้
ส่วนเรื่องเครื่องถ้ามี adblue ก็ดี ผมก็สนับสนุน แต่ถ้ายังใช้ egr แล้วกังวลมากก็หมั่นตรวจสอบทุกสิบปี มันคงไม่ยากอะไรใช่มั้ย บางอย่างเราก็ต้องรู้จักเสียสละเพื่อส่วนรวมบ้างครับ ถึงจะเรียกได้ว่าไม่เห็นแก่ตัว
-
รถตัวเองไม่รับมลพิษ ก็เลยปล่อยให้คนอื่นรับมลพิษแทน
-
ผมอาจจะตกหล่นอะไรไปหน่อย แต่ที่อยากจะสื่อก็คือเราไม่ควรใช้ระบบEGRอีกต่อไป ควรใช้Add blueซึ่งดีทั้งต่อเครื่องยนตร์และสภาพแวดล้อม เป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ สามารถผ่านมลพิษได้ถึงEuro6ต่างหากที่ผมต้องการจะสื่อ จริงๆถ้ามีทางเลือกที่ดีคงไม่มีใครอยากอุดEGRกันหรอกครับ จริงอยู่ครับที่หลายคนใช้มาหลายแสนโล แต่คุณเคยถอดแหวนมาดูสภาพกันไหมว่าจริงๆแล้วแหวนมันหมดสภาพไปเรียบร้อยแล้ว แค่นับเวลาถอยหลังรอวันตายเท่านั้นเอง ว่าแต่ดูกันเป็นรึป่าวเอ่ย?
ผมว่าคุณกำลังแถนะ ระวังสีข้างจะไหม้เอา
ถ้าบอกว่า อยากให้เป็น Euro6 เติม Adblue
ถามว่า แล้วรถ Euro6 ไม่มี EGR เหรอ....?? ;D
แล้วถามต่อว่า Euro6 เติม Adblue มันไม่ได้ช่วยให้เครื่องยนต์ สะอาด ทนทาน หรือ สกปรกน้อย หรือ เหตผลทั้งหมดทั้งมวล ตามที่คุณยกมา ที่ว่ากลัวรถพังนั้นละ แม้แต่น้อย
ซึ่ง Adblue ไม่ใช่ น้ำมันเครื่อง ไม่ใช่ออโต้ลูป ไม่ใช่น้ำมันเชื้อเพลิง ที่จะฉีดเข้าในระบบเครื่องยนต์ หรือ ห้องเผาไหม้ นะครับ มันทำงานหลังจากเกิดไอเสียออกมาแล้วต่างหาก กรณีผมว่าคุณไม่รู้ หรือป่าว???
มาบอกว่า Euro6 น่าจะทำให้รถไม่สปรก โอกาศพังน้อย ซึ่งต่อให้ Euro6 มันเป็นมาตรฐานมลพิษจากไอเสีย มีกระบวนการกำจัดหรือกรองมลพิษ ที่ปล่อยออกมาทางไอเสีย ไม่ใช่ช่วยในกระบวนการของเครื่องยนต์ครับ ซึ่งเครื่องยนต์ตัวเดียวกัน มันมีทั้ง Euro4, Euro5, Euro6 ซึ่งเป็นเครื่องยนต์ตัวเดียวกัน รหัสเดียวกัน บล๊อคเดียวกัน แต่เพิ่มเติมอุปกรณ์บางอย่างซึ่งอยู่ภายนอกตัวเครื่องยนต์ ดังนั้น ไม่มีผลทำให้เครื่องยนต์ชำรุด สกปรก มากขึ้น หรือ น้อยลงนะ
:-[ :-[ :-[ :-[ :-[
-
ผมอาจจะตกหล่นอะไรไปหน่อย แต่ที่อยากจะสื่อก็คือเราไม่ควรใช้ระบบEGRอีกต่อไป ควรใช้Add blueซึ่งดีทั้งต่อเครื่องยนตร์และสภาพแวดล้อม เป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ สามารถผ่านมลพิษได้ถึงEuro6ต่างหากที่ผมต้องการจะสื่อ จริงๆถ้ามีทางเลือกที่ดีคงไม่มีใครอยากอุดEGRกันหรอกครับ จริงอยู่ครับที่หลายคนใช้มาหลายแสนโล แต่คุณเคยถอดแหวนมาดูสภาพกันไหมว่าจริงๆแล้วแหวนมันหมดสภาพไปเรียบร้อยแล้ว แค่นับเวลาถอยหลังรอวันตายเท่านั้นเอง ว่าแต่ดูกันเป็นรึป่าวเอ่ย?
ตกหล่นเยอะเลยล่ะครับ ถ้าจะสื่อว่าควรใช้ Add Blue
แต่หัวข้อและเนื้อหากระทู้ไม่มีคำว่า Add Blue แม้แต่คำเดียว
-
EGR (exhaust Gas Recirculation) ใช้เพื่อการลด NOx (nitrous oxides) ซึ่งเป็นแก๊สพิษ.
NOx เกิดจากการที่ ไนโตรเจน กับออกซิเจนในอากาศ มาคลุกเคล้ารวมตัวกันแล้วเกิดการเผาไหม้ในลูกสูบ โดยช่วงของอุณหภูมิการเผาไหม้สูงกว่า 1,800 C(3,300 F)
วิธีการคือ กล่อง ECU จะรับข้อมูลมาจากเซนเซอร์ต่างๆ ทั้ง อุณหภูมิแก๊สไอเสีย ส่วนผสมหนาบาง และอื่นๆอีก แล้วมาประมวลผล ซึ่งถ้า ECU ตรวจพบว่าสภาวะการเผาไหม้อาจก่อให้เกิด NOx ได้ ก็จะส่งสัญญาณไปสั่งให้ EGR วาล์วเปิด เพื่อให้แก๊สไอเสียบางส่วนไหลกลับเข้าไปเผาไหม้ซ้ำอีกครั้ง (คล้ายๆกับการลดประสิทธ์ภาพทางความร้อนจากการเผาไหม้ให้ลดลง) เพื่อไม่ให้อุณหภูมิในการเผาไหม้สูงเกินจุดเปลี่ยน...
ดังนั้นใน บางจังหวะที่วาล์วมีการเปิดมาก หรือ นานเกินไป เพื่อให้แก๊สไอเสียวนกลับไปเผาใหม่อีกครั้งมีมากเกินไป ก็อาจทำให้เกิดควันดำตามออกมาได้...
โดยเฉพาะรถที่วิ่งช้าๆ แต่ใช้รอบเครื่องต่ำ(ลากเกียร์สูง)นานๆ อย่างในกรณีคล้ายๆรถสองแถว จะทำให้อุณหภูมิในการเผาไหม้สูงอย่างต่อเนื่อง วาล์วก็จะเปิดนาน ทำให้เกิดควันดำมากขึ้น แล้วเกิดการสะสมของเขม่า ตามจุดต่างๆในระบบ...
-------------------
อย่าคิดว่า ตัวเองไม่อุด EGR แล้วรักโลกนะครับ เพราะนั่นคือคุณกำลังปล่อยฝุ่น PM2.5 เข้าสู่บรรยากาศ ....
อุด EGR อาจจะปล่อย NOx แต่ก็ไม่ได้ปล่อยควันออกมามากเท่ารถที่ไม่อุด
อยู่ที่คุณจะเลือกเดินครับ ....
รถใครที่ไม่ได้อุด EGR ลองขับๆแล้วคลิ๊กดาวแซงแรงๆแล้วมองกระจกหลังมองควันรถตัวเองดูครับว่ามันเยอะขนาดไหน ...
-
5555 เรื่อง EGR นี่ คุยกันนานเป็นสิบๆปี ก็ยังถกเถียงกันได้ เมื่อ 12 ปี ก่อน ตอนผมออกรถคันแรก ก็เห็นในบอร์ดหนึ่งถกเถียงกัน
ฝ่ายอุด EGR ทั้งคนใช้รถ และช่างเอง มีเหตุผลกระทั่งว่า การไม่อุด EGR ทำให้มีผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าการอุดด้วยซ้ำ ด้วย
เหตุผลต่างๆนาๆ เขาว่ากระทั่งว่า การอุด EGR ดีต่อเครื่อง และดีต่อสิ่งแวดล้อม 5555
ตั้งแต่ใช้รถมา 12 ปี วิ่งไป 150,000 ผมก็ไม่ได้อุดนะ หลังจากหาข้อมูลและดูในบอร์ดนั้น ผมเก็บข้อมูลเกี่ยวกับการใช้รถทุกอย่างตลอด
12 ปี ค่าใช้จ่าย ค่าน้ำมัน อัดราสิ้นเปลือง ระยะทาง ราคาน้ำมัน ฯลฯ ตัวเลข และกราฟเกี่ยวกับรถค่อนข้างคงที่ ยกเว้นราคาน้ำมัน ช่วงหลังๆ อาจจะมีอืดลง
บ้าง ก็เข้าใจได้
เอาเป็นว่า เอาเรื่องระบบและเทคโนโลยีมาพูดคุยกัน ผมจะได้รับความรู้ด้วย 5555 ส่วนใครจะใคร่อุดหรือไม่ ถกเถียงกันไปอีกสิบๆปี คงไม่จบ
-
ผมอาจจะตกหล่นอะไรไปหน่อย แต่ที่อยากจะสื่อก็คือเราไม่ควรใช้ระบบEGRอีกต่อไป ควรใช้Add blueซึ่งดีทั้งต่อเครื่องยนตร์และสภาพแวดล้อม เป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ สามารถผ่านมลพิษได้ถึงEuro6ต่างหากที่ผมต้องการจะสื่อ จริงๆถ้ามีทางเลือกที่ดีคงไม่มีใครอยากอุดEGRกันหรอกครับ จริงอยู่ครับที่หลายคนใช้มาหลายแสนโล แต่คุณเคยถอดแหวนมาดูสภาพกันไหมว่าจริงๆแล้วแหวนมันหมดสภาพไปเรียบร้อยแล้ว แค่นับเวลาถอยหลังรอวันตายเท่านั้นเอง ว่าแต่ดูกันเป็นรึป่าวเอ่ย?
ตกหล่นเยอะเลยล่ะครับ ถ้าจะสื่อว่าควรใช้ Add Blue
แต่หัวข้อและเนื้อหากระทู้ไม่มีคำว่า Add Blue แม้แต่คำเดียว
ถ้าบอกแต่แรกเดี๋ยวdramaกันอีกครับ
-
ถ้าเราจะรักษ์โลก ด้วยการเน้นเรื่องใดเรื่องนึง เป็นไปไม่ได้หรอก ยกเว้น จะทำเท่าที่ทำได้ เช่น
ช่วง PM2.5 มาใหม่ๆ มีคนโทษ รถดีเซล รถเก่า รถเมล์(อันนี้อาจจะใช่นะ อิๆ) แต่พอมีคน เอารถดีเซลใหม่ๆ มาเทียบกันเป็นคลิปๆๆๆ เขาจะบอกว่า รถดีเซลรุ่นใหม่ๆ สร้าง มลพิษที่เป็นพิษสูงกว่า รถดีเซลเก่าๆ (อ้าว อะไรวะ) คือ รถที่ม่ี ระบบเผาไหม้ไอเสีย จะทำให้เกิด ไอเสียที่เล็กกว่าเดิม จาก PM10 กลายเป็น PM2.5 (อะไรทำนองนี้แหละ ) และเข้าปอด ระบบทางเดินหายใจได้ง่ายว่า (ไปโน่น)
ผมก็ฟัง ๆ เอาไว้ คนที่พูดก็ระดับหมอ ระดับคนที่รู้เรื่องรถ มาสัมมนา เรื่อง ฝุ่นกัน แล้วมาบ้าน เจอลูกเปิดคลิปให้ดู บอกว่า ครูที่โรงเรียนสอนมาในวิชาวิทยาศาสตร์ ว่า
1.-สูบบุหรี่ ควันมันมลพิษ สูงกว่า รถดีเซลอีกป๊ะป๋า (อีตาลุงบ้านตรงข้าม คนบ้าน ถัดๆๆ ไป สูบแล้วลอยมาบ้านเราด้วยแหละ )
2.- ธูป กับกระดาษ เงินกระดาษทอง ที่เราเผาตอนตรุษจีน ก็ใช่นะป๊า
3.- เผาไร่ เผานา เผาป่า ยิ่งแล้วใหญ่เลย ตอนแรกๆ PM 10 แต่พอมันตก แล้วแตกออก มาบางส่วน จะกลายเป็น PM ที่เล็กลงกว่าเดิม
และ ............ อี่กเยอะ
สรุป EGR ควรมีครับ แต่ถ้าเรามีแล้ว คนอื่นๆ ไม่ทำ อุด หรือ อื่นๆ มันจะมีผลอะไรล่ะ นอกจาก วันนึง มันตัน แล้วรถมีปัญหา
อาจจะเหมือนรายการ วิทยุฯ บอกว่า ไอ้รถไฟฟ้า มันรักษ์โลก จริงๆ หรือเปล่า เพราะเวลาแบตฯ เสีย เสื่อม ชิ้นส่วนรถเสีย แล้วไม่มีระบบรีไซเคิลที่ดี ก็ทำลายโลกอยู่ดี
บางคนอาจจะบอกว่า ทำได้เท่าที่ทำได้ซิวะ มาเกีย่งโน่นเกี่ยงนี่ ได้ยังไง ผลักภาระให้สังคมนี่หว่า >>> ก็ขอบอกว่า ก็ทำได้เท่าที่ทำได้ บุหรี่ไม่สูบ ตรุษจีนงดของเผาๆไปครึ่งๆ เพิ่มเป็นของกินได้ดีกว่า (อิๆ) ลอยกระทง ก็ช่วยลด ในบ้าน ก็งดหลายอย่าง
ผมว่า ทุกวันนี้ คนช่วยกันเยอะนะครับ ผมว่าในเว็บนี้ คนมีความรู้ มีสำนึกฯ กันทุกคนแหละครับ เพียงแต่ทำกันคนละอย่าง
-
อากาศที่ร้อนขึ้น
และจะร้อนขึ้นทุกปี
อาการแปรปรวน
จากที่ฝนควรตก ก็ไม่ตก
จากที่ไม่ควรตกหนัก ก็ตกหนัก
และอื่น ๆ อีกมาก
ที่ปีต่อๆไปจะยิ่งหนักขึ้นๆ
ร้อนขึ้น หนาวขึ้น เย็นขึ้น
จากสารพัดมลพิษ
ที่พวกโลกไม่สวย ไม่ได้สนใจ
อยากทำไรก็ทำ ไม่แคร์คือไม่แคร์
แต่ไม่ได้คิดว่า
ท้ายที่สุด ก็ไม่ใช่แค่คนอื่นที่รับผล
แม้กระทั้งตัวเองก็โดน
ไม่รุ่นเรา ก็รุ่นลูก
ตัวเอง ไม่ป่วย คนอื่นช่าง,มัน
พ่อ แม่ ลูก หลาน ....ป่วย
ก็แถว่า ไม่เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้หรอก
อ้างไปเรื่อย...
ทั้งที่จริง ๆ สารพัดโรค
สารพัดปัญหาของโลก ณ.ตอนนี้
ก็มาจากเรา ๆ ทั้งนั้น
เราไม่ทำ เราไม่ช่วย
จะรอให้สัตว์ประเสริฐที่ไหนมาทำ
ทำไมถึงงดใช้ถุงพลาสติก
ทำไมต้องกรองไอเสีย
ทำไมต้องรณรงค์หลายๆอย่าง
แบบเหมือนบังคับกัน
ก็เพราะตอนนี้มันแย่หนักแล้วไง
จะทันรึปล่าวยังไม่รู้ด้วยซ้ำ
ที่ทำกันอยู่ตอนนี้
อีกไม่เกิน 10-15 ปีข้างหน้า
พวกโลกไม่สวยจะเข้าใจ
...ว่าอีพวกโลกสวย ตอนนี้จะทำกันทำไม
มันไม่ใช่เรื่องตลกจากหนังฟอร์มยักษ์
แต่มันเป็นเรื่องที่เกิดได้จริง
เมื่อถึงวันที่โลกไม่ไหว
และเริ่มปรับสมดุลตัวเอง
จะเข้าใจว่ามันสายไปแล้ว
-
ทำไมไม่ชอบเหรอ? โลกสวย?
อุด EGR, ตัดแคทฯ, พ่นหมึก การกระทำห่วยๆ และแย่ๆ แบบนี้ ควรเรียกว่าอะไรถึงจะเหมาะ
"ขยะสังคม" หรือ "เศษเดน" หรือ "เห็นแก่ตัว"
ถ้ามีคนที่คิดแบบนี้ ทำแบบนี้เยอะๆ ลูกหลานเราแย่แน่นอน
บอกตรง ผม "โลกสวย"
...อีกไม่ช้าไม่นานเราเองคงต้องไป
แต่มันก็ยังมีโลกใบเก่า
ยังต้องมีอีกหมื่นล้านคน
เข้ามาอยู่ที่นี่แทนเราคือเด็กของเรา
เด็กๆที่เขาไม่เดียงสา
ให้โลกเราสวยพวกเรามาช่วยกัน
รับรู้ด้วยกันแล้วทำให้โลกนี้สดใส
อยากให้โลกน่าอยู่กว่านี้
เป็นโลกที่เราฝันใฝ่
จะสวยอย่างไรเป็นไปได้ด้วยมือของเรา
อยู่ที่มือของเราที่จะทำ
โลกให้เลวร้ายอย่างไร
อยู่ที่มือของเราที่จะทำ
โลกให้สดใส
อยากให้โลกน่าอยู่กว่านี้
เป็นโลกที่เราฝันใฝ่
จะสวยอย่างไรเป็นไปได้ด้วยมือของเรา...
Cr : โลกสวยด้วยมือเรา
ศิลปินแกรมมี่
-
ใจเย็นๆครับ ผมถึงให้ใช้Add blueแทนไงครับ รักรถ รักโลก รักซากุระ
-
ผมอาจจะตกหล่นอะไรไปหน่อย แต่ที่อยากจะสื่อก็คือเราไม่ควรใช้ระบบEGRอีกต่อไป ควรใช้Add blueซึ่งดีทั้งต่อเครื่องยนตร์และสภาพแวดล้อม เป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ สามารถผ่านมลพิษได้ถึงEuro6ต่างหากที่ผมต้องการจะสื่อ จริงๆถ้ามีทางเลือกที่ดีคงไม่มีใครอยากอุดEGRกันหรอกครับ จริงอยู่ครับที่หลายคนใช้มาหลายแสนโล แต่คุณเคยถอดแหวนมาดูสภาพกันไหมว่าจริงๆแล้วแหวนมันหมดสภาพไปเรียบร้อยแล้ว แค่นับเวลาถอยหลังรอวันตายเท่านั้นเอง ว่าแต่ดูกันเป็นรึป่าวเอ่ย?
ในเมื่อเครื่องยนต์ทำงานได้ปกติ กำลังอัดไม่ตก แล้วจะต้องถอดออกมาดูแหวนทำไมล่ะครับ
-
ใจเย็นๆครับ ผมถึงให้ใช้Add blueแทนไงครับ รักรถ รักโลก รักซากุระ
ถ้าใช้ Add blue แล้วไม่จำเป็นต้องมี EGR หรอ อันถามโดยไม่รู่จริงๆครับ
-
ผมอาจจะตกหล่นอะไรไปหน่อย แต่ที่อยากจะสื่อก็คือเราไม่ควรใช้ระบบEGRอีกต่อไป ควรใช้Add blueซึ่งดีทั้งต่อเครื่องยนตร์และสภาพแวดล้อม เป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ สามารถผ่านมลพิษได้ถึงEuro6ต่างหากที่ผมต้องการจะสื่อ จริงๆถ้ามีทางเลือกที่ดีคงไม่มีใครอยากอุดEGRกันหรอกครับ จริงอยู่ครับที่หลายคนใช้มาหลายแสนโล แต่คุณเคยถอดแหวนมาดูสภาพกันไหมว่าจริงๆแล้วแหวนมันหมดสภาพไปเรียบร้อยแล้ว แค่นับเวลาถอยหลังรอวันตายเท่านั้นเอง ว่าแต่ดูกันเป็นรึป่าวเอ่ย?
ในเมื่อเครื่องยนต์ทำงานได้ปกติ กำลังอัดไม่ตก แล้วจะต้องถอดออกมาดูแหวนทำไมล่ะครับ
กำลังอัดตกไม่ตกวัดได้ครับ ทั้งแบบธรรมดาและเรียลไทม์ แหวนที่หมดสภาพกำลังอัดอาจตกไม่เยอะก็จริง แต่น้ำมันเครื่องจะเล็ดรอดเข้าสู่ห้องเผาไหม้ได้ครับ ทำให้กินน้ำมันเครื่อง ลองเสิจ คอมมอนเรลกินน้ำมันเครื่อง ดูสิครับ
-
ใจเย็นๆครับ ผมถึงให้ใช้Add blueแทนไงครับ รักรถ รักโลก รักซากุระ
ถ้าใช้ Add blue แล้วไม่จำเป็นต้องมี EGR หรอ อันถามโดยไม่รู่จริงๆครับ
ทำให้ไม่ใช้เลย หรือใช้น้อยลงได้ครับ ขึ้นอยู่กับคนออกแบบว่าทำได้แค่ไหนในเครื่องแต่ละรุ่น เพราะแต่ละเครื่องข้อจำกัดไม่เท่ากัน
ดีสุดคือไม่ใช้EGRใช้แต่Add blueเพียวๆ
-
ใจเย็นๆครับ ผมถึงให้ใช้Add blueแทนไงครับ รักรถ รักโลก รักซากุระ
ถ้าใช้ Add blue แล้วไม่จำเป็นต้องมี EGR หรอ อันถามโดยไม่รู่จริงๆครับ
สองระบบนี้ไม่เกี่ยวกันครับ
แต่ส่วนใหญ่รถที่ใช้ Adblue จะมี EGR ด้วย
ระบบจัดการ มลพิษ ในเครื่องยนต์ดีเซล มีหลักๆ น่าจะ 3 ตัว EGR/DPF/SRC ผลิตมาเพื่อให้เครื่องยนต์ผ่านมาตรฐาน Euro
มาตรฐาน Diesel EURO 3/4 จะใช้ระบบ EGR ช่วยลด Nox - EGR จะนำไอเสียส่วนหนึ่งไปปรับอุณหภูมิ แล้วส่งเข้าท่อไอดี เพื่อลดอุณภูมิในห้องเผาใหม้ ทำให้ NOx ลดลง
มาตรฐาน Diesel EURO 5 จะเพิ่มตัว DPF เป็นตัวดักจับเขม่า PM พอใกล้เต็ม ก็จะปรับเข้าสู้โหมด Re-Gen เพิ่มอุณภูมิในDPF สูงขึ้นเพื่อเผาเขม่าในDPF
มาตรฐาน Diesel EURO 6 จะเพิ่มระบบ SRC ฉีด AdBlue ใส่ ไอเสียให้ทำปฎิกิริยา เคมี เปลี่ยน NOx ที่เหลือ ให้กลายเป็น N + O2
ระบบ SRC ไม่มีผลเสียอะไรกับเครื่องยนต์ แต่ต้นทุนระบบสูงกว่า EGR ครับ และยังใช้พื้นที่ในการติดตั้งมากกว่า มีถังเก็บ มีหัวฉีด และยังต้องคอยเติม Adblue เพิ่มอีก อาจทำให้ผู้ผลิตใช้ EGR แทน
ส่วนตัวคิดว่า ใช้ Adblue แทน EGR อาจไม่ได้ช่วยอะไรมาก เพราะคนกลุ่มที่อุด EGR ก็คงหาที่ลบ code Adblue แทนเติมเพิ่มอยู่ดี
-
เป็น Dilemma ระดับโลกเลยนะครับ รักษ์โลก รักษ์ชีวิต มักจะไม่รักษ์เงินในกระเป๋าครับ
-
ผลจากไม่อุดEGR https://www.google.com/search?bih=708&biw=1300&rlz=1C1CAFC_enTH821TH821&hl=en&sxsrf=ACYBGNTJbpCCy0xxrCDeOhwm08_HgpGs6Q%3A1576207898723&ei=GgbzXe7cK5LC3LUPmIOOkAs&q=%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%A1%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%A5%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87&oq=%E0%B8%84%E0%B8%AD&gs_l=psy-ab.3.0.35i39j0l9.4715.5485..7364...0.1..0.176.284.0j2......0....1..gws-wiz.......0i71j35i39i19.xcdR_Z7Kj3s
-
ไม่รู้ครับ แต่ผมไม่เคยดัดแปลงเครื่องเกียร์ และก็ไม่เคยพัง มาจากโรงงานยังไงใช้ยังงั้น คันไหนที่มีเรื่องต้องดัดแปลงเพื่อไม่ให้เครื่องพังผมก็แค่ไม่ซื้อมาใช้
ผมไม่เชื่อว่าทุกคันที่มี EGR จะมีปัญหา เพราะงั้นจะไปโทษ EGR อย่างเดียวทำไม
-
มาตรฐานโรงงาน ผ่านการออกแบบ คิดค้น ทดสอบตามเงื่อนไขเวลาที่จำกัด ไม่อาจพูดได้ว่าผลงานที่ออกมาperfect อาจพูดได้ว่าผลงานที่ได้นั้นผ่านมาตรฐาน ที่หลุดออกมาเป็นdesign miss,defectก็เยอะแยะ มากบ้างน้อยบ้าง เห็นๆกันอยู่ อันไหนที่ไม่ดีพอ เราจะไม่อยากปรับปรุง เปลี่ยนแปลงให้มันดีขึ้นกว่าเดิม ไม่ดีกว่าเหรอครับ