Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: The Mechanics of Emotions ที่ ธันวาคม 13, 2019, 15:46:49
-
ผมไปดูรถมาคันนึง ไมล์ 115k km. สภาพโดยรวมสวย ตัวถังไม่มีโดน สังเกตอย่างนึงพวกกระปุกปัดน้ำฝน เหลืองน้อยมาก ยางขอบกระจกก็เริ่มมีเปื่อยเล็กน้อย ท่อยางในห้องเครื่องก็สภาพดีกว่าคันอื่นที่เคยไปดูคันอื่นๆ มีอุปกรณ์พวกพลาสติก โช้คฝากระโปรงท้าย เสื่อมบ้าง แต่โดยรวมสภาพดีมากๆ ครับ เลยทำการจองไป ทีนี้เลยมานึกว่าแล้วจะโดนกรอไมล์ไหมเนี่ย ผมเลยโทรไปดีลเลอร์ของรถคันนี้ เค้าก็ไม่ยอมบอกประวัติเลขไมล์อะไรเลย ผมเลยยอมจ่ายเงิน 600 บาท ให้กับเพจใน FB ที่เค้ารับเช็คประวัติของยี่ห้อนั้น ได้ประวัติมาเป็น PDF ตั้งแต่ออฟชันในรถคันนั้น วันที่และเลขไมล์ที่เข้าศูนย์ การเคลมในระยะ เข้า 0 ตลอดเลย พึ่งเข้าล่าสุดเมื่อเดือน 7 ปี 2562 โดยไมล์จากการเช็คระยะครั้งล่าสุดกับเลขไมล์ปัจจุบัน ต่างกันแค่ 700 กว่าโล กับเวลา 5 เดือน นั่นเท่ากับว่ารถแทบไม่ได้วิ่งเลยช่วงหลังๆ โดยเต๊นท์พึ่งรับเข้ามาเมื่อต้นเดือนธันวาคม
ดูแล้วรถคันนี้ไม่ได้กรอไมล์มา ตกวิ่งปีละ 10,000 km ซึ่งผมว่าวิ่งน้อยมากๆ เลย หรือว่าเป็นปกติของรถยุโรป เจ้าของอาจจะมีรถหลายคัน? เพราะรถส่วนตัวผมก็วิ่งปีละ 20,000 กว่าโลต่อปี ท่านสมาชิกว่ารถคันนี้ประวัติถือว่าดีไหมครับ ประวัติรถผมไม่ค่อยห่วงเท่าไหร่ละ กลัวหลังจากนี้มันอยู่ในมือเราจะเอาอยู่ไหมเนี่ยซิครับ
-
รถที่บ้าน ใช้งานปีละแสนโลแทบทุกคัน
มากน้อยแล้วแต่คนนะ
E46 318 4 แสนกว่าโล
C200 Kompressor w204 6 แสนกว่าโล
MINI R56 5 แสนกว่า
ALTIS 4แสนกว่า
TFR ล้านกว่า
ฯลฯ
ทุกคนในบ้านขับรถกันมากๆทั้งนั้น
-
รถที่บ้าน ใช้งานปีละแสนโลแทบทุกคัน
มากน้อยแล้วแต่คนนะ
E46 318 4 แสนกว่าโล
C200 Kompressor w204 6 แสนกว่าโล
MINI R56 5 แสนกว่า
ALTIS 4แสนกว่า
TFR ล้านกว่า
ฯลฯ
ทุกคนในบ้านขับรถกันมากๆทั้งนั้น
ใช้เยอะมาเลยครับ ค่าซ่อมยุโรปที่วิ่งปีละแสนนี่โดนไปเท่าไหร่มั่งครับท่าน
-
ผมว่า จขกท. ก็หาข้อมูลดีในระดับนึงเลยนะครับ ก็พอมั่นใจได้ในระดับนึง เพราะเรื่องกรอไมล์ มีแน่ ตาดีได้ ตาร้ายเสีย มานักต่อนักละ
ส่วนเรื่องเลขไมล์ บอกยาก เอาแบบทั่วๆ ไปเลยก็ 1-2 หมื่นโล ต่อ ปี ถือว่าปกติ ถ้าเกิน 3 หมื่น ถือว่าใช้เยอะ(ผมใช้ปีละ 5 หมื่นโล) ต่ำกว่าหมื่นถือว่าใช้น้อย
แต่มากน้อย ไม่เกี่ยวกับยุโรป ครับ ผมว่ายุโรปหลายคัน(ดูจากเว๊ปรถมือสองดังๆ ได้เลย) อายุ 5 ปี ไมล์แสนโลเยอะมาก เยอะจนมองดูรู้เลยว่าใช้รถในลักษณะไหน
ซื้อสด ก็จบ รับสภาพเอาครับ ดาวน์แล้วผ่อนมือสองนี่อ้วกแตก
พอได้รถมา ไปเช็คใหม่ทั้งคัน ของเหลว และ ช่วงล่าง เพื่อความมั่นใจ ตั้งต้นใหม่นับ 1 ที่ จขกท. แต่เช็คนะครับ ไม่ใช่เปลี่ยน เพราะไม่พังก็ไม่ต้องเปลี่ยน
-
ค่ายใบพัด ใช่ไหม .. ปกติ ถ้ารถราคาแพง เจ้าของมักจะมีรถหลายคันอยู่แล้ว รถยุโรป มักจะใช้แค่ออกงาน หรือ เดินทางไกล วิ่งในเมือง วิ่งไปทำงาน ก็ใช้อีกคัน ไมล์มันเลยไม่เยอะน่ะครับ
เรื่องกระปุกสารหล่อลื่น ..
CR-V ที่บ้าน 2 คัน อายุ 8 กับ 11 ปี
คัน 11 ปี ทุกอย่างคือเข้าศูนย์ ขับอย่างเดียว ฝากระโปรงยังหาที่เปิดไม่เป็น .. เข้าปีที่ 5 กระปุกน้ำมันเบรค เหลืองอ๋อยเลย
คัน 8 ปี หลายอย่างเปลี่ยนก่อนกำหนด วิ่งยาวๆมา ถึงบ้าน เปิดฝากระโปรงหน้าทุกครั้ง .. ปีที่ 8 ทุกอย่าง ยังใสกิ๊ก
เข้าศูนย์ ก็ ศูนย์เดียวกัน เช็คระยะ เค้าก็ล้างห้องเครื่องให้เหมือนกัน เพียงแต่ สารหล่อลื่น ผมเอาไปเองตลอด ส่วนอีกคัน ใช้ของศูนย์ตลอด เพราะขี้เกียจซื้อข้างนอก
-
รถที่บ้าน ใช้งานปีละแสนโลแทบทุกคัน
มากน้อยแล้วแต่คนนะ
E46 318 4 แสนกว่าโล
C200 Kompressor w204 6 แสนกว่าโล
MINI R56 5 แสนกว่า
ALTIS 4แสนกว่า
TFR ล้านกว่า
ฯลฯ
ทุกคนในบ้านขับรถกันมากๆทั้งนั้น
สุดยอดไปเลยครับพี่ ยิ่ง w204 ผมเล็งๆ ตัวนี้อยู่ ไม่ทราบว่าวิ่งขนาดนี้ซ่อมเยอะมากไหมครับ
-
สอบถามผู้รู้หน่อยครับ ปัจจุบันสามารถเช็คว่ากรอหรือไม่กรอไมล์ยังไงครับ
-
ผมว่า จขกท. ก็หาข้อมูลดีในระดับนึงเลยนะครับ ก็พอมั่นใจได้ในระดับนึง เพราะเรื่องกรอไมล์ มีแน่ ตาดีได้ ตาร้ายเสีย มานักต่อนักละ
ส่วนเรื่องเลขไมล์ บอกยาก เอาแบบทั่วๆ ไปเลยก็ 1-2 หมื่นโล ต่อ ปี ถือว่าปกติ ถ้าเกิน 3 หมื่น ถือว่าใช้เยอะ(ผมใช้ปีละ 5 หมื่นโล) ต่ำกว่าหมื่นถือว่าใช้น้อย
แต่มากน้อย ไม่เกี่ยวกับยุโรป ครับ ผมว่ายุโรปหลายคัน(ดูจากเว๊ปรถมือสองดังๆ ได้เลย) อายุ 5 ปี ไมล์แสนโลเยอะมาก เยอะจนมองดูรู้เลยว่าใช้รถในลักษณะไหน
ซื้อสด ก็จบ รับสภาพเอาครับ ดาวน์แล้วผ่อนมือสองนี่อ้วกแตก
พอได้รถมา ไปเช็คใหม่ทั้งคัน ของเหลว และ ช่วงล่าง เพื่อความมั่นใจ ตั้งต้นใหม่นับ 1 ที่ จขกท. แต่เช็คนะครับ ไม่ใช่เปลี่ยน เพราะไม่พังก็ไม่ต้องเปลี่ยน
ขอบคุณครับ ผมหาอู่และกะว่าจะเปลี่ยนของเหลวทั้งคัน น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ (ไม่มีในประวัติเปลี่ยนเลย) น้ำมันเบรค coolant น้ำมันเฟืองท้าย ประมาณนี้ครับ ของเหลวจะ set 0 ตั้งแต่ผมเลยครับ แล้วก็เช็คสภาพทั่วๆ ไป อันไหนจำเป็นก็เปลี่ยน อันไหนใช้ได้อยู่ก็ไว้ทีหลังครับ
-
รถญี่ปุ่นใช้ทุกวันขับไปทำงาน เที่ยวต่างจังหวัดเดือนละครั้ง 9 ปี อยู่ที่ 130,000 กว่ากิโลเมตร
ไม่สบายใจก็ปล่อยไปครับ ให้คนที่เค้ารับสภาพที่มันสวยได้แบบที่มันเป็น รถ 9 ปียังไงก็ต้องซ่อมครับ
ยิ่ง BMW ระบบไฟฟ้าเยอะและก็จะสนุกแน่นอนครับ หาอู่ที่ไว้ใจไว้ก่อนเลยครับ
จ้างช่างไปดูก็ได้ครับ เดี๋ยวนี้มีรับดูกันเพียบครับ
8) 8) 8)
(https://scontent.fbkk5-6.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/69223105_2421502431230102_8885014169678512128_o.jpg?_nc_cat=102&_nc_ohc=HczqCuKFCP4AQlZamA4iGiD3OMBxPEwwzTuMs0Pth-PfJunybVRfpD6Cw&_nc_pt=1&_nc_ht=scontent.fbkk5-6.fna&oh=71d7bbc4a2f73b5c3e7373e659992866&oe=5E851FAC)
-
ค่ายใบพัด ใช่ไหม .. ปกติ ถ้ารถราคาแพง เจ้าของมักจะมีรถหลายคันอยู่แล้ว รถยุโรป มักจะใช้แค่ออกงาน หรือ เดินทางไกล วิ่งในเมือง วิ่งไปทำงาน ก็ใช้อีกคัน ไมล์มันเลยไม่เยอะน่ะครับ
เรื่องกระปุกสารหล่อลื่น ..
CR-V ที่บ้าน 2 คัน อายุ 8 กับ 11 ปี
คัน 11 ปี ทุกอย่างคือเข้าศูนย์ ขับอย่างเดียว ฝากระโปรงยังหาที่เปิดไม่เป็น .. เข้าปีที่ 5 กระปุกน้ำมันเบรค เหลืองอ๋อยเลย
คัน 8 ปี หลายอย่างเปลี่ยนก่อนกำหนด วิ่งยาวๆมา ถึงบ้าน เปิดฝากระโปรงหน้าทุกครั้ง .. ปีที่ 8 ทุกอย่าง ยังใสกิ๊ก
เข้าศูนย์ ก็ ศูนย์เดียวกัน เช็คระยะ เค้าก็ล้างห้องเครื่องให้เหมือนกัน เพียงแต่ สารหล่อลื่น ผมเอาไปเองตลอด ส่วนอีกคัน ใช้ของศูนย์ตลอด เพราะขี้เกียจซื้อข้างนอก
ขอบคุณครับ รถที่บ้านผมวิ่งเล็กวิ่งน้อยเปิดฝากระโปรงตลอดเลยครับ สังเกตได้อย่างนึงคือพลาสติกยังดำเงา แต่คันที่อยู่ในเว็บรถมือสอง พวกนั้นเริ่มซีดขาวละครับ
ปีก็พอๆ กัน
เป็นค่ายใบพัดครับผม :)
-
ผมว่า จขกท. ก็หาข้อมูลดีในระดับนึงเลยนะครับ ก็พอมั่นใจได้ในระดับนึง เพราะเรื่องกรอไมล์ มีแน่ ตาดีได้ ตาร้ายเสีย มานักต่อนักละ
ส่วนเรื่องเลขไมล์ บอกยาก เอาแบบทั่วๆ ไปเลยก็ 1-2 หมื่นโล ต่อ ปี ถือว่าปกติ ถ้าเกิน 3 หมื่น ถือว่าใช้เยอะ(ผมใช้ปีละ 5 หมื่นโล) ต่ำกว่าหมื่นถือว่าใช้น้อย
แต่มากน้อย ไม่เกี่ยวกับยุโรป ครับ ผมว่ายุโรปหลายคัน(ดูจากเว๊ปรถมือสองดังๆ ได้เลย) อายุ 5 ปี ไมล์แสนโลเยอะมาก เยอะจนมองดูรู้เลยว่าใช้รถในลักษณะไหน
ซื้อสด ก็จบ รับสภาพเอาครับ ดาวน์แล้วผ่อนมือสองนี่อ้วกแตก
พอได้รถมา ไปเช็คใหม่ทั้งคัน ของเหลว และ ช่วงล่าง เพื่อความมั่นใจ ตั้งต้นใหม่นับ 1 ที่ จขกท. แต่เช็คนะครับ ไม่ใช่เปลี่ยน เพราะไม่พังก็ไม่ต้องเปลี่ยน
ขอบคุณครับ ผมหาอู่และกะว่าจะเปลี่ยนของเหลวทั้งคัน น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ (ไม่มีในประวัติเปลี่ยนเลย) น้ำมันเบรค coolant น้ำมันเฟืองท้าย ประมาณนี้ครับ ของเหลวจะ set 0 ตั้งแต่ผมเลยครับ แล้วก็เช็คสภาพทั่วๆ ไป อันไหนจำเป็นก็เปลี่ยน อันไหนใช้ได้อยู่ก็ไว้ทีหลังครับ
ดีแล้วครับ เป็นผมก็จะทำประมาณนี้ ครับ
-
สอบถามผู้รู้หน่อยครับ ปัจจุบันสามารถเช็คว่ากรอหรือไม่กรอไมล์ยังไงครับ
ผมอาศัยดูเลขไมล์ปัจจุบันกับที่เช็คระยะล่าสุดมาลบกันครับ ถ้าเลขไมล์ในเล่มเยอะกว่าที่รถก็กรอไมล์มา แต่วิธีนี้จะใช้ไม่ได้ถ้ารถไม่ได้เข้า 0 นานแล้ว แต่เรื่องวิธีการผมไม่ทราบเลยครับ เห็นว่าเดี๋ยวนี้ง่ายมากเสียบคอมเปลี่ยนเลขได้เลย น่าจะเช็คยาก อาศัยดูประวัติเล่มเอาครับ
-
รถญี่ปุ่นใช้ทุกวันขับไปทำงาน เที่ยวต่างจังหวัดเดือนละครั้ง 9 ปี อยู่ที่ 130,000 กว่ากิโลเมตร
ไม่สบายใจก็ปล่อยไปครับ ให้คนที่เค้ารับสภาพที่มันสวยได้แบบที่มันเป็น รถ 9 ปียังไงก็ต้องซ่อมครับ
ยิ่ง BMW ระบบไฟฟ้าเยอะและก็จะสนุกแน่นอนครับ หาอู่ที่ไว้ใจไว้ก่อนเลยครับ
จ้างช่างไปดูก็ได้ครับ เดี๋ยวนี้ให้มีรับกันเพียบครับ
8) 8) 8)
(https://scontent.fbkk5-6.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/69223105_2421502431230102_8885014169678512128_o.jpg?_nc_cat=102&_nc_ohc=HczqCuKFCP4AQlZamA4iGiD3OMBxPEwwzTuMs0Pth-PfJunybVRfpD6Cw&_nc_pt=1&_nc_ht=scontent.fbkk5-6.fna&oh=71d7bbc4a2f73b5c3e7373e659992866&oe=5E851FAC)
ขอบคุณครับ เตรียมไว้หมดละครับ แต่กลัวมันจะมี surprise เนี่ยแหละครับ ไม่ได้มีเงินถุงเงินถังกะเค้าด้วย 555 ;D ;D ;D
ปล EX สวยนะครับ
-
รถที่บ้านผม altis 2017 จะครบ 3 ปี เดือน ม.ค. ไมล์รวม 12,000 กม เข้าเช็คทุกๆ 6 เดือน ถึงแม้รอบ6 เดือนจะวิ่งไปแค่ 7-800 โลก็ตาม
หิ้วน้ำมันสังเคราะห์แท้ไปเองทุกครั้ง ใบเสร็จผมมีครบ ทั้งเข้าศูนย์ ซื้อน้ำมันเครื่อง หรือแม้แต่ใบเสร็จวันที่ซื้อตัวรถ 989,000 บาท
อีกคันรถคุณแม่ ซิตี้ V 2015 จะครบ 5 ปี เดือน มีค 63 ไมล์รวม 55,000 กม เข้าศูนย์ทุกๆ 6-7 เดือน เหมือนกันครับ
ผมว่าคนใช้รถน้อยมีอยู่จริงๆครับ แต่ขึ้นอยู่กับว่าเก็บใบเสร็จหรือมีประวัติเข้าศูนย์หรือไม่ บางคนไมล์น้อย สภาพรถไม่ค่อยสัมพันธ์กับไมล์
แถมบุ๊คเซอร์วิสหาย ไม่มีเอกสารเข้าเช็คทั้งอู่ในหรืออู่นอก แบบนี้น่ากลัว
-
บ้านผมก็ใช้รถน้อยทั้งบ้านนะครับ 6คัน เฉลี่ยปีนึง 7-8000 โลเท่านั้นเอง
-
คนที่ขับรถยุโรป ที่บ้านอยู่ใน กทม ส่วนมากผมเห็นใช้น้อยกันครับ เพราะจากบ้านไปทำงาน ไปห้าง ระยะทางไปกลับมันไม่เกิน 40 กิโล อย่างผมชีวิตประจำวัน ไปกลับที่ทำงานวันละ 20 กิโล บ้านไปห้างกลางเมืองก็ไปกลับ 25 กิโล สรุป 1 ปี วิ่งไป 6 พันโลครับ
-
จะรถยุโรป หรือ ญี่ปุ่นที่บ้าน
วิ่งไม่ถึงหมื่น เพราะเฉลี่ยๆกัน
รถผม ยุโรปทุกคันที่เกินแสนโล มีเจอ surprise ได้เสมอ ส่วนญี่ปุ่นไม่ค่อยเจอครับ
-
รถญี่ปุ่นใช้ทุกวันขับไปทำงาน เที่ยวต่างจังหวัดเดือนละครั้ง 9 ปี อยู่ที่ 130,000 กว่ากิโลเมตร
ไม่สบายใจก็ปล่อยไปครับ ให้คนที่เค้ารับสภาพที่มันสวยได้แบบที่มันเป็น รถ 9 ปียังไงก็ต้องซ่อมครับ
ยิ่ง BMW ระบบไฟฟ้าเยอะและก็จะสนุกแน่นอนครับ หาอู่ที่ไว้ใจไว้ก่อนเลยครับ
จ้างช่างไปดูก็ได้ครับ เดี๋ยวนี้ให้มีรับกันเพียบครับ
8) 8) 8)
(https://scontent.fbkk5-6.fna.fbcdn.net/v/t1.0-9/69223105_2421502431230102_8885014169678512128_o.jpg?_nc_cat=102&_nc_ohc=HczqCuKFCP4AQlZamA4iGiD3OMBxPEwwzTuMs0Pth-PfJunybVRfpD6Cw&_nc_pt=1&_nc_ht=scontent.fbkk5-6.fna&oh=71d7bbc4a2f73b5c3e7373e659992866&oe=5E851FAC)
ขอบคุณครับ เตรียมไว้หมดละครับ แต่กลัวมันจะมี surprise เนี่ยแหละครับ ไม่ได้มีเงินถุงเงินถังกะเค้าด้วย 555 ;D ;D ;D
ปล EX สวยนะครับ
ขอบคุณครับ ขอให้ไม่เจอครับอะไรประหลาดใจครับ
ผมก็นั่งดูอะไหล่เหมือนกันครับ จับใส่ตะกร้าในเวปไว้ครับ รอถึงระยะหรือมีอาการก็สั่งมาเปลี่ยน เพลืืนดีเหมือนกันครับ
ส่วนพวกอะไหล่ตัวแพงๆที่หายากหน่อยก็ดูๆเพจร้านที่เค้าเอามาขายหรือรับสั้งไว้ครับ เสียมาจะได้ไม่ค่อยวุ่นเท่าไหร่ครับ
เรื่องอู่นี่ ค่าซ่อมเคยเจออู่นึง เปลี่ยนลูกปืนล้อ คิดค่าแรง 2200 บาท อีกอู่ 600 บาท
ลูกปืนไม่ดัง ก็ไม่รู้ว่าอู่หน้าตาดีๆก็ฟันหัวแตกได้ครับ 555+
อ้อ อย่าลืมมุดใต้ท้องดูด้วยนะครับ บางคันที่ใหม่ทุกอย่าง อะไหล่ดีไปหมด เจอช่วงล่าง สนินกินหมด รถลุยน้ำ โดนเฉพาะรถกรุงเทพต้องดูให้มากครับ
ลุยน้ำท่วมกันเยอะมากครับ
-
รถที่บ้าน ใช้งานปีละแสนโลแทบทุกคัน
มากน้อยแล้วแต่คนนะ
E46 318 4 แสนกว่าโล
C200 Kompressor w204 6 แสนกว่าโล
MINI R56 5 แสนกว่า
ALTIS 4แสนกว่า
TFR ล้านกว่า
ฯลฯ
ทุกคนในบ้านขับรถกันมากๆทั้งนั้น
ใช้เยอะมาเลยครับ ค่าซ่อมยุโรปที่วิ่งปีละแสนนี่โดนไปเท่าไหร่มั่งครับท่าน
คันที่บอกมาทั้งหมดค่าซ่อมไม่เกิน8หมื่น
รถที่บ้าน ใช้งานปีละแสนโลแทบทุกคัน
มากน้อยแล้วแต่คนนะ
E46 318 4 แสนกว่าโล
C200 Kompressor w204 6 แสนกว่าโล
MINI R56 5 แสนกว่า
ALTIS 4แสนกว่า
TFR ล้านกว่า
ฯลฯ
ทุกคนในบ้านขับรถกันมากๆทั้งนั้น
สุดยอดไปเลยครับพี่ ยิ่ง w204 ผมเล็งๆ ตัวนี้อยู่ ไม่ทราบว่าวิ่งขนาดนี้ซ่อมเยอะมากไหมครับ
W204 ใช้มาสองรุ่น คันนึ่งKompressor อีกคัน CGI
CGI ซ่อมไปสองแสน วิ่งแค่สองแสนโลขายดีกว่า
คันKom ซ่อม ไดสตาร์ท คอมแอร์ ล็อกคอ ท่อน้ำพลาสติก แค่นั้น ไม่ถึง8หมื่นจำไม่ได้แน่ๆเท่าไหร่แต่ไม่หนักเท่า CGI
-
ผมไปดูรถมาคันนึง ไมล์ 115k km. สภาพโดยรวมสวย ตัวถังไม่มีโดน สังเกตอย่างนึงพวกกระปุกปัดน้ำฝน เหลืองน้อยมาก ยางขอบกระจกก็เริ่มมีเปื่อยเล็กน้อย ท่อยางในห้องเครื่องก็สภาพดีกว่าคันอื่นที่เคยไปดูคันอื่นๆ มีอุปกรณ์พวกพลาสติก โช้คฝากระโปรงท้าย เสื่อมบ้าง แต่โดยรวมสภาพดีมากๆ ครับ เลยทำการจองไป ทีนี้เลยมานึกว่าแล้วจะโดนกรอไมล์ไหมเนี่ย ผมเลยโทรไปดีลเลอร์ของรถคันนี้ เค้าก็ไม่ยอมบอกประวัติเลขไมล์อะไรเลย ผมเลยยอมจ่ายเงิน 600 บาท ให้กับเพจใน FB ที่เค้ารับเช็คประวัติของยี่ห้อนั้น ได้ประวัติมาเป็น PDF ตั้งแต่ออฟชันในรถคันนั้น วันที่และเลขไมล์ที่เข้าศูนย์ การเคลมในระยะ เข้า 0 ตลอดเลย พึ่งเข้าล่าสุดเมื่อเดือน 7 ปี 2562 โดยไมล์จากการเช็คระยะครั้งล่าสุดกับเลขไมล์ปัจจุบัน ต่างกันแค่ 700 กว่าโล กับเวลา 5 เดือน นั่นเท่ากับว่ารถแทบไม่ได้วิ่งเลยช่วงหลังๆ โดยเต๊นท์พึ่งรับเข้ามาเมื่อต้นเดือนธันวาคม
ดูแล้วรถคันนี้ไม่ได้กรอไมล์มา ตกวิ่งปีละ 10,000 km ซึ่งผมว่าวิ่งน้อยมากๆ เลย หรือว่าเป็นปกติของรถยุโรป เจ้าของอาจจะมีรถหลายคัน? เพราะรถส่วนตัวผมก็วิ่งปีละ 20,000 กว่าโลต่อปี ท่านสมาชิกว่ารถคันนี้ประวัติถือว่าดีไหมครับ ประวัติรถผมไม่ค่อยห่วงเท่าไหร่ละ กลัวหลังจากนี้มันอยู่ในมือเราจะเอาอยู่ไหมเนี่ยซิครับ
รถยี่ห้ออะไรครับ ถ้าเบนซ์เขายอมบอกนะ
-
พูดยากครับ เรื่องไมล์
คันเก่าผม serie 5 ปี 11 ขายไปกลางปี วิ่งไป 110000 โล (avg. 13000 โล)
แต่เห็นรถเพื่อนคันนึง e coupe ปี 12 วิ่งแค่ 30000 กว่าโล ส่วนอีกคนนึง Audi R8 ปี 13-14 วิ่งปาไป 170000 แล้ว
ขึ้นอยู่กับการใช้งานจริงๆ
-
ของผม w212 8 ปี 55000 โล ครับ ;D ;D ;D
-
เคยขายรถให้เต๊นท์ เต๊นท์จะถามว่าเคยเข้าศูนย์ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่
คาดว่าเต๊นท์น่าจะกรอกลับไปประมาณที่เคยเข้าศูนย์ครั้งสุดท้ายนะครับ
ถ้าเรากลับไปเช็คศุนย์ สมมุติว่า เคยเข้าศูนย์ครั้งสุดท้ายแสนกิโลเมื่อตอนรถอายุ 5 ปี แล้วตอนรถอายุ10ไมล์ก็ยังแสนต้นๆอยู่นี่
ถ้าไม่จอดเต้นท์ตั้งแต่5ปีที่แล้วก็น่าจะกรอไมล์มามั้งครับ
-
นี่แหละ รถผมแบรนด์ญี่ปุ่น 9 ปีวิ่ง 102,xxx ผมทำใจไม่ได้เลยถ้าจะขายกันถูกๆ
-
แล้วแต่คนครับ รถผม ก็ใช้น้อย ส่วนใหญ่ก็ปีละหมื่นโล/คัน
และเห็นคันหนึ่ง ยี่สิบปี สองหมื่นหกพันโลแท้ ๆ ทุกอย่างเดิม ๆ หมด เจ้าของไม่ค่อยใช้ คลัชหนัก ลูกชายนำมาปรับสภาพ สวยสุด ๆ..
-
ของผมนะครับ
คันนึง 5 ปี 11x,xxx กิโล
อีกคันนึง 6 ปี 6x,xxx กิโล
ไม่ได้เกี่ยวเลยว่ารถยุโรปต้องวิ่งเยอะ/น้อย เท่าไร
ไม่งั้น BMW ไม่ออก BSI 10 ปี แสนโลหรอก คนที่วิ่งปีละไม่ถึง 1 หมื่นโล มีเยอะครับ โดยเฉพาะตัวแพงๆ
-
ไม่แน่ใจว่ามีค่ามาตรฐานหรือไม่นะครับ น่าจะขึ้นกับการใช้งานมากกว่า ถ้าเปรียบเทียบของที่บ้านผมนะ
ที่ผมใช้เอง XJ คันเก่า 14 ปี - 3 แสนกม./ XJ คันใหม่ 6 ปี - 5 หมื่นกม./ C220d อายุจะ 1 ปี - 7 พันกม.
เปรียบกับรถคุณแม่ผม RX อายุราว 2 ปี วิ่งไป 6 หมื่นกม.แล้วครับ
เลขระยะวิ่งอาจมีกรอแน่ ผมว่าที่ชัวร์ที่สุดดูรายการที่ซ่อมบำรุงทั้งหมดไปแล้วก็ดีครับ จะได้ทราบรายละเอียดอย่างดีไปเลย
-
ที่บ้านผมมีรถยุโรป 4 คัน รถญี่ปุ่น 2 คัน
ในวันที่ไปทำงานปกติ เจอรถติด เจอแดดออก ที่บ้านใช้รถญี่ปุ่นตลอด (ถ้าไม่นับออกงานที่เจอลูกค้า) ขนาดคุณแม่ไปจ่ายตลาด ไปโรงพยาบาล มีคนขับรถ ก็เอารถญี่ปุ่นออก เพราะมองว่าในวันทำงานรถติดๆร้อนๆ ขอรถแอร์เย็น สมรรถนะไม่ต้องดี ค่าดูแลต่ำๆมันเหมาะสุด
ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ที่การจราจรดีขึ้นบ้าง ก็จะสลับรถยุโรปอีก 4 คันออกไปวิ่ง ไปกินข้าว ไปบ้านเพื่อน ไปปั่นจักรยานที่ sky lane
อีกอย่างคือโดยเฉพาะหน้าฝน จะใช้รถญี่ปุ่นแทบจะ 6 วันต่ออาทิตย์ ฝนตก น้ำท่วม ช่างมัน ค่าซ่อมถูกกว่าเยอะครับ
-
ของแบบนี้มันตาดีได้ ตาร้ายเสียจริงๆ เอาใจช่วยครับ
ของผมรถที่บ้าน Ford Everest 2.5 LTD 5ปีแรกใช้วิ่งแค่เสาร์-อาทิตย์ 5ปีให้หลัง ใช้ทุกวัน วิ่งในเมืองวันละ 40 กิโล อายุเข้าปีที่10 เลขไมล์พึ่งครบแสนโลเองครับ
ตลอด10ปีเข้าเช็คศูนย์ตามระยะตลอด รถไม่เคยมีปัญหาเลย พอวิ่งครบแสนกิโลปุ๊ป แอร์ไม่เย็นทันที สาเหตุคือตู้แอร์ลาโลกไปแล้ว 1จาก2ตู้(เลขไมล์หนึ่งแสนกิโลเป๊ะๆ เหมือนตั้งเวลาไว้)
ส่วน BMW 330e คันนี้ใช้แค่ขับในเมือง เสาร์-อาทิตย์ ครบ 2 ปีแล้วไมล์ยังวิ่งไป 12,000 กิโลอยู่เลยครับ ซึ่งถ้าครบ 10 ปีคันนี้น่าจะยังวิ่งไม่ถึง 80,000 กิโลแน่ๆ
ที่จะสื่อก็คือมีคนที่เป็นประเภทใช้รถแบบนี้อยู่เหมือนกัน ยังไงก็ขอให้โชคดี ได้รถที่ถูกใจครับ :-X
-
เป็นกำลังใจให้ครับ ขอให้ได้รถที่ดีครับ
ผมว่าระยะวิ่งคันนี้ไม่แปลกครับ
Civic fkที่บ้านรองปีครึ่งผมยังแค่23000เองครับ โดยเฉพาะหกเกือนหลังวุดวิ่งไปถึง500kmโดยมี่ไม่ไ้ด้มีปัญหาอะไรเลยครับ แค่ไม่ค่่่่่่อยได้ใช้เพราะเส้นทางที่ใช้ไม่อำนวยเท่าไรครับอิอิ
-
เลขไมล์ไม่มาก ไม่น้อยครับ กำลังดี ถ้าเช็คประวัติแล้วเชื่อได้ก็ดีเลย บางท่านใช้สลับกันไปเรื่อยๆ บางท่านชอบนั่งคันไหนคันนั้นจะใช้เยอะกว่า ก็เป็นเคสๆไป ถ้ารถยุโรปอายุมากกว่า 9ปีควรเตรียมค่าซ่อมใหญ่ไว้สักครั้งนึง แล้วก็ maintenance ประจำปี แสดงว่าได้ราคาดีมากๆเลยนะครับเนี่ย ขอให้โชคดีได้รถดีนะครับ
-
Benz BMW เช็คไมล์จริงกับศูนย์ได้เลยครับ ยกเว้นรถเกรย์ที่ไม่ได้เข้าศูนย์อาจจะมีลูกเล่นได้ ไมล์นี่ไม่แน่นอนครับ รถน้องสาวผม7ปีแสนต้นถึงแสนกลาง ส่วนรถผบ.ผมจ่ายกับข้าวใกล้บ้าน8ปียังไม่5หมื่นโลตามรูปครับ
-
W203 ที่บ้าน ออกมาเดือนก.ค 2007 ปัจจุบันไมล์อยู่ที่ 133k ค่ะ (ใช้ทุกวัน)
W169 ที่บ้าน ออกมาเดือนต.ค 2007 ปัจจุบันไมล์อยู่ที่ 139k ค่ะ (ตอนนี้ใช้แค่เสาร์-อาทิตย์)
-
ขอบคุณครับ ตอนนี้จัดไฟแนนซ์รอผลอย่างเดียวแล้วครับ คงได้มารีวิวกันบ้างครับ :D
-
แล้วแต่เลยครับบอกยากเลย ecoupe ปี 11 ผมวิ่ง 140k เพราะใช้ไปกลับ กทม.ขอนแก่น/อุบล ตลอด e90 ปี 05 ผมวิ่ง 165k เพราะวิ่งซิ่งกับเพื่อนแค่ใน กทม.วันเสาร์อาทิตย์
ส่วนเรื่องแจคพอตต้องซ่อมนี่แล้วแต่ดวงครับ อย่าง e90 พึ่งขายไป ผม service อย่างดีตลอด 2ปี ใช้มา service เกิน 100,000 บาทแล้ว พอขายไปปุ๊บนี่ท่อน้ำไปรั่วในจุดที่ไม่เคยมีอาการมาก่อนเฉย
จากประสบการณ์ส่วนตัวนะครับ รถใช้งานในเมืองตลอด รถติด ร้อนๆ จะเสื่อมไวกว่ารถที่ใช้ต่างจังหวัดครับ แม้ว่าเลขไมล์จะน้อยกว่าก็ตาม
-
รถผม saab อายุ 15 ปี
วิ่งมาแสนห้าครับ
สองปีที่ผ่านมาวิ่งปีละ 5 พัน กม.ครับ
ต้องพยายามเอามาขับบ้างครับ นานๆขับทีเห็นบิลค่าน้ำมันเต็มถังแล้วสะดุ้งเลยครับ
-
รถผม w211 ใช้มา 13 ปี เลขไมล์ประมาณ 120000 ฝากเพื่อนขายมีคนมาดูบอกทำไมไมล์น้อยจัง
อ้าวงงเลย จะไม่น้อยได้ไงทีทำงานกับบ้านไปกลับ 10 กมเอง