Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: paulmoderndog ที่ ธันวาคม 27, 2019, 08:28:01
-
ถ้ามี Battery ที่ทำให้รถไปได้ไกลเป็นพันกิโลเมตร
แถมยังบอกว่าใช้เวลา90วิ ในการเปลี่ยนBattery เพราะไม่ต้องรอCharge
ปล. ไม่แน่ใจว่าจริงไหมครับ
https://www.thaiquote.org/content/228158 (https://www.thaiquote.org/content/228158)
https://www.dailymail.co.uk/news/article-7592485/Father-eight-invents-electric-car-battery-drivers-1-500-miles-without-charging-it.html (https://www.dailymail.co.uk/news/article-7592485/Father-eight-invents-electric-car-battery-drivers-1-500-miles-without-charging-it.html)
-
ยังเป็นโครงการในห้องทดลอง ยากที่จะได้เห็นแบบนี้จริงๆ ในรถ commercial car อย่างน้อย อีก 10 ปี นับจากนี้
-
แบต หลายโครงการสำเร็จในห้องแลปมาตั้งแต่ปี 2012
ดูปัจจุบันก็ยังไม่มีออกมาสู่ตลาด
ห้องแลปสามารถควบคุมปัจจัยการทำงานของแบตได้
ออกมาใช้งานจริง มีทั้งร้อน เย็น แข็ง ชื้น สารพัด
-
...........ปลอดภัยถึงขนาดกินได้ เราพิสูจน์ให้นักลงทุนเห็น ซึ่งก็ได้ผลจริง ๆ เพราะได้รับสัญญามูลค่าหลายล้านเพื่อผลิตแบตเตอรี่ในระดับอุตสาหกรรมได้ทันที โดยแบตเตอรี่เหล่านี้จะถูกนำไปใช้ประกอบเป็นรถยนต์ไฟฟ้าให้กับบริษัท อัสตินอิเล็กทริก (Austin Electric) ภายในปี 2020 แจ็กสัน กล่าว..........
ผมว่าเชื่อยากอยู่นะครับ
-
น่าจะโม้อะครับ ถึงใน lab ก็ไม่ได้ตัวเลขเยอะขนาดนี้
ผมเห็นข่าวประมาณนี้เยอะมาก ทำได้จริงนี่โนเบลเห็นๆ
-
.............โดยภายใน 2 ปีนับจากนี้ ผศ.ดร.มนตรี มีความมุ่งมั่นที่จะผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมซัลเฟอร์ ที่สามารถกักเก็บพลังงานไฟฟ้าได้มากกว่าแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนที่ใช้ในปัจจุบันสูงถึง 3 5 เท่า ซึ่งจะทำให้แบตเตอรี่สำหรับยานยนต์ไฟฟ้ามีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น จากปัจจุบัน 5-6 ปี เป็น 10 ปี และจะพัฒนาแบตเตอรี่ลิเทียมซัลเฟอร์ ที่ทำให้ยานยนต์ไฟฟ้าวิ่งได้ระยะไกลขึ้นถึง 1,000 กิโลเมตร
ขณะที่แบตเตอรี่ลิเทียมไอออน วิ่งได้ระยะ 400-500 กิโลเมตร และมีต้นทุนที่ต่ำกว่าถึง 5 เท่า โดยคาดว่าภายใน 5 ปีจากนี้ แบตเตอรี่ลิเทียมซัลเฟอร์ จะเข้ามาแทนที่แบตเตอรี่ลิเทียมไอออน และหากเทคโนโลยีพัฒนาจนทำให้ต้นทุนต่ำลง จะมีผลทำให้ราคายานยนต์ไฟฟ้าถูกลง สามารถต่อยอดสู่การผลิตยานยนต์พลังงานไฟฟ้าของไทยได้เอง ลดการนำเข้าจากต่างประเทศปีละนับแสนล้านบาท..............
โดยราคาแบตเตอรี่ในประเทศไทยจากในตอนนี้อยู่ที่ 20,000 บาทต่อกิโลวัตต์ อาจจะลดลงเหลือ 5,000 บาทต่อกิโลวัตต์ เพราะซัลเฟอร์เป็นวัตถุดิบที่สามารถหาได้ทั่วไปและมีราคาถูก
ผศ.ดร.มนตรี กล่าวว่า นอกจากนี้ผมได้หาข้อมูลเชิงวิชาการ พบว่าตอนนี้ยังมีปัญหาด้านการปล่อยประจุ แต่ดูแล้วมีความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาต่อยอดได้จริง ไม่เหมือนรถเติมน้ำเปล่าวิ่งได้ 1,000 กม.แน่นอน........
แบตเตอรี่ลิเทียมซัลเฟอร์นี้ ไม่ได้ทำเฉพาะรถยนต์เท่านั้น แต่ยังทำใช้สำหรับพาวเวอร์แบงค์ ให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น ราคาถูกลง ที่สำคัญผลิตในประเทศไทย
ซึ่งเทคโนโลยีนี้มี Potential ที่จะแซงหน้าแบตเตอรี่ของทั้งจีนและญี่ปุ่น ที่เป็น Solid State Battery แต่ทั้งนี้ก็ต้องดูว่าจะสามารถต่อยอดไปได้ไกลแค่ไหนและนำมาใช้จริงได้เร็วแค่ไหนเช่นกัน
อย่างไรก็ดี โครงการนี้ ปตท.กำลังเตรียมที่จะซื้อลิขสิทธิ์จากทาง Vistec (ซึ่งปตท.เป็นผู้ก่อตั้ง Vistec) ทำให้คิดว่าดูแล้วมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นจริงในอีก 5-10 ปีข้างหน้านี้......
ข่าวพวกนี้ อ่านแล้วรู้สึกดีนะครับ........ :) :)
.....
-
1.13 ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ( Disease caused sulphur dioxide or sulphuric acid )
SO2 เป็นก๊าซไม่มีสี มีกลิ่นฉุน ระคายเคือง สามารถละลายน้ำได้ดี เมื่อละลายน้ำมีฤทธิ์เป็นกรด ไอของสารมีฤทธิ์กัดกร่อนอย่างรุนแรง เป็นสารที่ใช้ดับไฟได้ เมื่อผสมกับน้ำหรือไอน้ำในอากาศจะเกิดกรดซัลฟุรัส
อันตรายต่อระบบอวัยวะที่สำคัญของร่างกาย
การเข้าสู่ร่างกายของก๊าซสามารถเข้าสู่ร่างกายได้โดยการสูดดมก๊าซ ก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ มีคุณสมบัติสามารถละลายน้ำได้ดี เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะอยู่ในรูปสารซัลไฟด์ (sulfite ion) ไปซัลไฟท์ (bisulfite) และไฮโครเจน ( hydrogen) ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อ เกิดสภาะวะเป็นกรดในเลือด
อาการแบบเฉียบพลัน การสัมผัสผิวหนังทำให้เกิดระคายเคือง กัดกร่อนผิวหนัง ผิวหนังไหม้ การสัมผัสตา ทำให้เกิดระคายเคืองตา อาจกัดกร่อนเยื่อบุตาจนทำให้เกิดแผลและเป็นผลให้การมองเห็นผิดปกติได้ การหายใจ เนื่องจากก๊าซละลายน้ำได้ดี จะทำให้ถูกดูดซึมที่ระบบทางเดินหายใจส่วนบน ส่งผลให้เกิดกระตุ้นให้หลอดลมหดตัวและมีการหลั่งน้ำเมือก เกิดการระคายเคืองต่อจมูกและคอ ไอ หายใจลำบาก หลอดลมตีบแคบ ระดับของออกซิเจนในเลือดต่ำจนเกิดการขาดออกซิเจนในเลือด อาจเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจได้
ลิเทียม-ซัลเฟอร์ ... จะเกิดหรอ ...อันตรายขนาดนี้ ... ผลิตออกมามากๆ ทำลายอย่างไร กำจัดอย่างไร ...
-
ยังไม่เกิดหรอก และในเมืองไทยอีก 10 ปี รถไฟฟ้าก็ไม่น่าจะโตกว่านี้เท่าไหร่ ลองดูรถไฟฟ้าในประเทศอื่น ๆ ได้ส่วนใหญ่ก็ไม่โตไปมากกว่าที่เห็นแล้ว ยกเว้นจีนก็อีกเรื่องนึง อันนั้นต้องยกให้เขาไป
-
อันนี้เข้าข่ายโม้ออกสื่อ เหมือนพวกสินค้า Kickstarter ที่ล่มไปหลายตัวเพราะกล่าวอ้างเกินจริง และผลิตออกมาให้ผู้ลงทุนไม่ได้ แถมขัดกับกฎ Thermodynamics อีก ลองหาพวกวีดีโอนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญจริงๆ ที่วิจารณ์และวิเคราห์ข่าวพวกนี้ดีกว่าครับ เช่น Thunderf00t แต่เป็นภาษาอังกฤษนะ
-
ถ้าเป็นเรื่องจริงถือว่ายอดเยี่ยมครับ เป็นการก้าวกระโดดของแบตรถไฟฟ้า วิ่งได้ไกลมากๆแถมเปลี่ยนได้เร็วมากไม่เสียเวลารอคอยกันอีกต่อไป ต้องดูว่าจะได้ใช้แพร่หลายกันเมื่อไหร่ ผมเคยคิดไว้แล้วว่าต้องมีคนเก่งๆ ที่คิดค้นแบตเทพๆแบบนี้เข้าสักวัน!
-
มีความเป็นไปได้สูงครับ
ผมว่าเขาทำได้แต่ บ.รถ ยังไม่เอา
เปลี่ยนทันทีตายกันทั้งตลาด
-
ผมไม่คิดว่ามันจะมาเร็วๆนี้เลย ไม่ใช่แค่ตัวสินค้าดี แล้วจะขายได้แพร่หลายนะครับ
คนที่ได้ประโยชน์ และเสียประโยชน์ มีมาก ต้องรอดูกันต่อไป
-
ถึงแบตแบบนี้จะไม่มา รถไฟฟ้ายังไงก็เป็นเทรนด์ของโลก
แต่ไม่ใช่ของประเทศไทย
เพราะเราจะเป็นประเทศท้ายๆของโลกที่ใช้รถน้ำมันครับ :(
-
ถ้ามันเป็นนวัตกรรมที่ดีจริง บริษัทใหญ่ๆ นักลงทุน
ก็พร้อมที่จะทุ่มทุนร่วมลงทุน หรือซื้อสิทธิบัตรอยู่แล้วล่ะครับ
ขอให้มันดีจริง หรือมีแววต่อยอดได้จริงนะ...
-
ถึงแบตแบบนี้จะไม่มา รถไฟฟ้ายังไงก็เป็นเทรนด์ของโลก
แต่ไม่ใช่ของประเทศไทย
เพราะเราจะเป็นประเทศท้ายๆของโลกที่ใช้รถน้ำมันครับ :(
ไม่เกี่ยวหรอกครับว่ารถไฟฟ้ามาแรงแล้วประเทศไทยจะได้ใช้ทีหลัง เอาจริงๆ รถไฟฟ้ามันชาร์จได้ช้า วิ่งไม่ได้ไกลมากในราคาที่เอื้อมถึง เอาแบบที่500กม. แท้ๆนี้ราคามันเลย3ล้านขึ้นไปแบบไม่รวมภาษี แถมสภาพภูมิอากาศทำให้ประจุแบตเตอรี่ลดลงครับ หลายประเทศก็ยังไม่ได้ใช้แพร่หลายจนไม่มีรถเติมน้ำมัน
-
มีความเป็นไปได้สูงครับ
ผมว่าเขาทำได้แต่ บ.รถ ยังไม่เอา
เปลี่ยนทันทีตายกันทั้งตลาด
จะบอกให้ว่า ไม่ได้มีแค่รถที่อยากได้แบตประสิทธิภาพสูง
วงการพลังงานก็ต้องการเป้นอย่างมาก เพราะต้นทุนโรงไฟฟ้าขึ้นกับขนาดโหลดที่ใช้
ถ้ามีแบต ก้สามารถเก็บไฟตอนที่ใช้ไฟน้อย แล้วจ่ายกลับตอนใช้ไฟเยอะ ไม่ต้องสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่ม
มูลค่ามันมากหรือน้อยครับ...............คิดดู
-
ถ้าเป็นจริงเอามาใส่ โดรนดีกว่านะ เบื่อรถติด 8)