Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: mamaman ที่ ธันวาคม 31, 2019, 00:51:34
-
ผมมองว่า รุ่น RS ของ City มันแทบไม่มี Option ความจำเป็น อะไรต่างไป จาก SV เลย
แต่ก่อนมันอยู่คนละ กลุ่ม ลูกค้า แต่มาวันนี้ ก็อดเปรียบเทียบไม่ได้
ดังนั้น หากจะ วัดกัน ให้ดีๆ คือ เอา รุ่นที่มี Side Airbag มา เพราะ สำหรับผม ผมยอมจ่าย 50,000 + เพื่อมีมัน ดังนั้น
City SV ราคา 665,000 บาท ไฟหน้า Projector ภายในเฉยๆ เครื่องแรงๆ เบาะหนัง เหมือนจะแพง แต่ กั่ก ฟังชั่นความปลดภัย ( แค่ใส่ อปก อิเล็กทรอนิก ไม่กี่บาท )
กับ Almera VL 639,000 บาท รูปร่าง cool มาก ไฟหน้า LED ภายในดูล้ำสมัยสุด เครื่องไม่อืด ดีกว่าเดิมเยอะ เบาะผ้าดูธรรมดา แต่ได้ ฟังชั่นความปลอดภัย โครตจัดเต็ม
แน่นอน Almera ชนะขาด ในเรื่องความคุ้มค่า และ option จัดเต็ม
แต่หากใคร ยังลังเล อย่าเอา Almera รุ่น Top ไปเทียบ กับ City RS เป็นเด็ดขาด
เพราะ City RS ตัวนี้ ตั้งใจ ใส่ของให้ดูเหมือนแพง ครับ คือ เบาะหนังผ้า alcantara มาซึ่งปกติ จะอยู่ในรถ รุ่นแพงๆ
คือ เอาง่าย ๆ ตั้งใจะฟันกำไร ว่าเถอะ เพราะภาษี ได้ลดไป 10 % แต่พี่อยากขาย ราคาเดิม ก็ให้ เบาะเหมือนแพง รถจะได้แพงๆกำไรบาน ๆ
ดูแล้ว กะยังคงตลาด เดิมไว้ ไม่ลงมา แย่งตลาดกลุ่ม Ecology car.
New Almera มาแทน Almera แน่นอน แถมมาด้วย ราคาถูกกว่าเดิม เล่นเอา งง ตามๆ กัน
แต่ ยังใส่ อุปกรณ์ ให้เป็นเกรด เดิม ยังคง ไม่มี เบาะหนัง และ ขอบอกว่า หากมี Airbag ที่เบาะคุณไม่สามารถไปเปลี่ยนเป็น เบาะหนังที่ร้านแต่งรถทั่วไปได้เพราะ มีผลเรื่องความปลอดภัย
แล้วก็มี แค่รุ่น TOP ของ Almera เท่านั้นที่ Option จัดเต็ม รุ่นอื่น ลดราคาแบบไม่สนความปลอดภัยเลย อิอิ
ถ้าผมอยากประหยัด
ผมเลือก Almera 509,000 ซึ่งมันไม่มี Side Airbag
แล้ว เอา ทำเบาะหนัง กับ ติดเครื่องเสียง น่าจะ คุ้มสุดๆ แล้ว
ปล แต่ผมไม่ได้อยากประหยัดครับ ซื้อรถ สมัยนี้ อย่างน้อย Airbag 4 ลูกครับ
ที่เห็น ๆ เลย Almera ไม่ยอมใส่ Side Airbag มาในรุ่นอื่นเลย นอกจาก รุ่น ToP ดังนั้นที่บอก Option ความปลอดภัยจัดเต็ม จึงแค่รุ่น TOP เท่านั้น ในราคา 639,000 แต่ คนไทยเราไม่สนใจครับ ผมก็พึ่ง สังเกต
-
อเมร่าดูออฟชั่นดีคุ้มราคากว่า โดยรวมคือน่าซื้อกว่า แต่ติดแค่กลัวอะไหล่เปราะเหมื่อนกับรุ่นที่ผ่านๆมาของแบรนดฺนี้ ถ้าอะไหล่ทนพอกะฮอนด้า ผมซื้ออเมร่าแน่นอน
-
ครับ จากที่ไปดูตอนงานmotor expo ผมจะซื้อรถให้ญาติคันนึงก้ไม่ต้องคิดนานครับ ทั้งตัวผม ทั้งคนใช้
เอาcity ครับมีไม่ชอบที่ภายในอย่างเดียวนอกนั้นโอเคหมด คนที่ใช้เป็นแฟนคลับ nissan แต่ตอนนี้รอ
City rs แล้วครับ เอาเป็นว่าทั้งหมดลงตัวดี และวัสดุดูดีกว่า และทั้งผมทั้งคนที่ใช้เป็นหลักไม่ได้สนใจระบบ
เบรคอัตโนมัติทั้งหลายครับ almera ก้เลยเฉยๆไป ส่วนเรื่องอื่นๆก้แล้วแต่คนคิดครับ ส่วนตัวผมคิดว่าดีทั้งคู่
ขึ้นอยู่กับใครชอบคันไหนครับ
-
city ก็คือ city ทุกวันนี้แทบผลิตไม่พอความต้องการ
-
มีคนจำนวนมากๆๆๆ ที่อัพเกรดจากมอเตอร์ไซค์ หรือจากรถคันเก่าที่ซ่อมบ่อยๆ
มาสู่ป้ายแดงราคาประหยัดคันแรก ดังนั้นพวกรูปลักษณ์ที่มองเห็น กับราคาเป็น
ตัวเงินที่ต้องจ่าย เป็นสิ่งที่เห็นได้เลยในวันนี้ นาทีนี้ เป็นสิ่งที่มีผลต่อการตัดสินใจ
ครับ บริษัทรถยนต์ที่เน้นขายรถออกไปก่อน เขาคิดตรงนี้ครับ
ส่วนเรื่องความทนทาน การซ่อมบำรุง การขับขี่ ออปชั่นประเภทตัวช่วยเรื่องการขับขี่
มันมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า เล่าให้ฟังก็ไม่เข้าใจ จินตนาการไม่ออก รถแบบนั้นจะขาย
ได้กับคนที่มีประสบการณ์การขับขี่ การใช้งานรถอื่นมาแล้ว และส่วนใหญ่ลูกค้ากลุ่มนี้
มักจะอัพเกรดเป็นรถที่ใหญ่ขึ้น ไม่ใช่กลุ่ม eco car หรือถ้าเจาะจงซื้อ eco car จริง
ก็มีกจะเป็นรถคันที่ 2-3... ของบ้าน ไม่ใช่รถคันแรกและคันเดียวของบ้านครับ
-
Almera. มีออยเกียร์ city. ไม่มี ไม่รู้ว่าคันไหนเกียร์จะทนกว่ากันแต่แนวโน้มน่าจะของalmara นะ (ผมแค่เดานะ) อัตราเร่ง almera ไม่ขี้เหล่เลยแรงเลยละ ช้ากว่าcity แค่ประมาณ1วิ
-
อยู่ที่ศูนย์บริการด้วยครับ city เหนือกว่า ความทนทานดูกันยาวๆ
-
2 รุ่นนี้แทบไม่ได้แข่งกันเลยมากกว่า คือคนจะตั้งใจซื้อ city เหมือนเดิม city ขายดีอยู่แล้วในชื่อ city ได้ส่วนลดภาษีก็ไม่ได้เพิ่มอะไรมาให้นอกจากเครื่องยนต์ใหม่ที่ดีกว่าเดิม ใหญ่กว่าเดิม Almera คือปรับปรุงให้เข้าเฟส2ด้วย รุ่นใหม่ก็ดีขึ้น ขายในเรทราคาเดิมขายคนกลุ่มเดิม
-
อยู่ที่ศูนย์บริการด้วยครับ city เหนือกว่า ความทนทานดูกันยาวๆ
เหนืือกว่านี่เขาดูแลเรื่องสนิมยังไงครับ ผมไม่รู้เพราะไม่เคยใช้ยี่ห้อนี้
-
ผมว่าคนเลือก City จะเลือก City ต่อไปนะ
เหมือนคนที่เลือก VIOS / Yaris มา ถ้าไม่ต่อ Ativ ก็ไป Yaris ต่อ
มันคือ Default Choice
-
แต่ละคนก็มีเหตุผลเฉพาะตัวเลยครับ
บางคนเลือกเพราะรุ่นนี้มีแค่เบาะหนังก็เอาแล้ว 555
บางคนเอาแบบขับได้จากaไปbก็พอแล้ว ขอถูกสุด
บางคนเลือกความปลอดภัยสุด(แน่นอนว่าตัวtopเท่านั้น)
บางคนเลือกoptionเยอะๆ (รองtop,top)
บางคนเอาเครื่องแรงสุด
บางคนเลือกที่bodyใหญ่สุด
คือรถแต่ละรุ่นอต่ละแบบจึงต้องทำมาต่างกันเพื่อตอบสนองความต้องการครับ เพราะความปลอดภัยก็เป็นส่วนนึง แต่คนอีกส่วนนึงก็ไม่ได้ต้องการก็มี
-
ขึ้นชื่อว่า honda ยังไงก็ขายได้ครับ ถึงออฟชั่นจะน้อยดีไซน์ภายในไม่ถูกใจอย่างแรง แต่คนก็แค่บ่นครับ
นี่แหล่ะครับ Brand royalty ของแท้ ::) ::) ::) คู่แข่งคงได้แค่แบ่งลูกค้าได้บางส่วนครับ
-
ชอบซิตี้ตรงที่ให้ ไฟหน้าโปรเจคเตอร์ มาตั้งแต่รุ่นล่างสุด แต่เลือกอัลเมล่าเพราะราคาดีกว่า....และขับสนุกกว่า(ความรู้สึกส่วนตัว)
-
อยู่ที่ศูนย์บริการด้วยครับ city เหนือกว่า ความทนทานดูกันยาวๆ
เหนืือกว่านี่เขาดูแลเรื่องสนิมยังไงครับ ผมไม่รู้เพราะไม่เคยใช้ยี่ห้อนี้
นั่นสิครับไม่รู้ว่าดูแลยังไงนะ ศูนย์ผมว่า nissan หน้าตาก้โอนะครับแต่ก้ไม่เคยใช้และไม่ได้มีความ
คิดจะได้ใช้เร็วๆนี้ Altima สวยแต่ก้คงไม่มาซะละ เรื่องสนิมของ honda ผมเห็นในเน็ตนะคงมีไม่น้อย แต่รถ
ผม G10 2 คันตอนนี้ไม่มีครับ(เพราะยังใหม่รึป่าวนะ) รถเพื่อนๆรวมถึงของผม&บ้านผมเอง G9, FC, FK,
city ตัวที่แล้วกับตัวก่อนหน้านั้น รวมๆ 40-50คัน ผมพยายามไปถามก้ไม่มีใครเป็นครับและพยายามดูเอง
ยังไม่เจอเลยตอบไม่ได้ว่าศูนย์ honda ดูแลลูกค้ายังไงครับ ญาติกำลังจะได้ city rs อีก 2-3 เดือน ถ้าเป็น
สนิมไว้จะมารีวิวให้คนในweb ฟังครับ ว่าศูนย์เค้าทำยังไง
-
ถ้างบจำกัดอยู่แค่ City SV ผมไป Almera VL อย่างไม่ลังเลเลยครับ
City SV ไม่มีม่านถุงลม มีเฉพาะถุงลมด้านข้าง แถมยังแพงกว่า Almera VL เสียอีก
ผมไม่เห็นเหตุผลใดๆ ที่จะเลือกเบาะหนัง หรือศูนย์บริการ แทนที่จะเป็นถุงลมนิรภัยที่ศีรษะ ที่อาจเปลี่ยนเหตุการณ์จากตายเป็นไม่ตายได้ในอนาคต
บางคนมักพูดว่า "ถุงลม ตั้งแต่มีมายังไม่เคยใช้" ก็แน่นอนครับ เพราะ "ชีวิตเรา ตั้งแต่เกิดมาก็ยังไม่เคยตาย"
คนที่เคยเกือบสูญเสียสมาชิกจากอุบัติเหตุด้านข้างรถ ยังไงอุปกรณ์ Safety และการรับแรงของตัวถัง ก็มาเป็นอันดับแรกครับ เบาะผ้าช่างมัน
แต่ถ้ามีเงินพอ ผมกลับโอเคกับ City RS มากกว่า Almera VL นะ เครื่องแรง 22 แรงม้า โดยกินน้ำมันเท่าเดิม มีม่านถุงลม ผมโอเคกับแสนนึงนะครับ
.
แต่ผมเห็นด้วยที่ว่า Almera VL เป็นมวยที่ไม่ถูกคู่กับ City RS เพราะมันมีกลุ่มเป้าหมายต่างกันเกินไป เทียบกับ SV จะถูกคู่กว่า
-
อยู่ที่ศูนย์บริการด้วยครับ city เหนือกว่า ความทนทานดูกันยาวๆ
เหนืือกว่านี่เขาดูแลเรื่องสนิมยังไงครับ ผมไม่รู้เพราะไม่เคยใช้ยี่ห้อนี้
เท่าที่เคยใช้ honda มา1ปีกว่า รถผมไม่เจอสนิมครับ
-
อยู่ที่ศูนย์บริการด้วยครับ city เหนือกว่า ความทนทานดูกันยาวๆ
เหนืือกว่านี่เขาดูแลเรื่องสนิมยังไงครับ ผมไม่รู้เพราะไม่เคยใช้ยี่ห้อนี้
เท่าที่เคยใช้ honda มา1ปีกว่า รถผมไม่เจอสนิมครับ
ผมใช้ hrv มา 2 -3 ปียืนยันว่ามีสนิม กับปัญหางานประกอบ กระจกไฟฟ้าปิดดังมาก กันชนหน้าตก
-
ตัด CITY RS ออกก่อนเช่นกัน
ส่วน CITY SV กับ Almera VL นี่คือมวยถูกคู่ ติดตรงที่ Almera ไม่มีเบาะหนังเท่านั้นเลยลังเล แต่ถ้าใส่เบาะหนังมาให้ ล้อปัดเงาสักหน่อย(จุดนี้ต้นทุนไม่มาก) ใจจะไป Almera แบบ 100%
เรื่องเบาะหนัง ด้วยการที่ใช้รถค่อนข้างนาน และแพ้ฝุ่น เบาะหนังเลยมีผลต่อการตัดสินใจมาก รถที่ถุงลมด้านข้างไม่สามารถหุ้มเบาะเองตามร้านข้างนอกได้ เลยเป็นจุดที่ลังเล
-
ตัด CITY RS ออกก่อนเช่นกัน
ส่วน CITY SV กับ Almera VL นี่คือมวยถูกคู่ ติดตรงที่ Almera ไม่มีเบาะหนังเท่านั้นเลยลังเล แต่ถ้าใส่เบาะหนังมาให้ ล้อปัดเงาสักหน่อย(จุดนี้ต้นทุนไม่มาก) ใจจะไป Almera แบบ 100%
เรื่องเบาะหนัง ด้วยการที่ใช้รถค่อนข้างนาน และแพ้ฝุ่น เบาะหนังเลยมีผลต่อการตัดสินใจมาก รถที่ถุงลมด้านข้างไม่สามารถหุ้มเบาะเองตามร้านข้างนอกได้ เลยเป็นจุดที่ลังเล
ขออนุญาตนอกประเด็นนิดครับ
ส่วนตัวเบาะผ้า หรือ กำมะหยี่ ไม่ได้มีผลต่อการใช้งาน ผมใช้ AE101 25 ปี เบาะกำมะหยี่ ยังสวย
ถ้าต้องเพิ่มเงินซื้อเบาะหนังดีสัก 2 หมื่นบาท ส่วนตัวเอา 2 หมื่น ไปซื้อ เครื่องดูดฝุ่น Dyson ดีๆสักชุด ดูดไรฝุ่น ฝุ่นธรรมดา ได้ทั่วคัน ยังแถมไปดูดที่นอน หมอน ได้สารพัด ทั่วทั้งบ้าน แรงดูดแรงเหลือเฟือ กี่บ้านก็ขนไปได้เพราะเป็นแบบมือถือ ไม่ต้องเสียบไฟฟ้า คุ้มเกินคุ้มแถมโครตทนอีกด้วย
อีกมุมมองกับเบาะผ้า และ เงิน 2 หมื่นบาทครับ
-
อยู่ที่ศูนย์บริการด้วยครับ city เหนือกว่า ความทนทานดูกันยาวๆ
เหนืือกว่านี่เขาดูแลเรื่องสนิมยังไงครับ ผมไม่รู้เพราะไม่เคยใช้ยี่ห้อนี้
เท่าที่เคยใช้ honda มา1ปีกว่า รถผมไม่เจอสนิมครับ
ผมใช้ hrv มา 2 -3 ปียืนยันว่ามีสนิม กับปัญหางานประกอบ กระจกไฟฟ้าปิดดังมาก กันชนหน้าตก
คุณได้ของแท้ครับ ผมใช้ city สีบาง มีสนิมบางจุด กันชนหน้าตกอย่างแรง มีเสียงกุกกักที่คอนโซล นอกนั้นก็ใช้ดีไม่มีปัญหาไร บำรุงรักษาก็แสนถูก ปัญหาเล็กๆน้อยๆพอมี แต่ก็ถือว่าพอใจครับ
-
ไปลองขับก่อนครับ ออพชั่นใยกระดาษสวยหรูจริงๆ
แต่จอดรอยูเทิน เครื่องสั่นจริงๆ ขอให้ลอง
แล้วเซนเซอร์ ช่วยต่างๆ มันดันไม่ได้ว้าว เพราะเซลล์ดันไม่ขายของ
แล้วเอาเข้าจริงๆ ดูอย่าง note มีพวกนี้มาให้ตั้งนานละคนไม่เห็นสนใจ
แล้วเบาะผ้าดันคุณภาพผ้าจริงๆ ได้รถมาต้องเปลี่ยนอ่ะ
ผมชอบครูซคอนโทรลมากกว่า แต่ดันไม่มีให้(เลย)
กล้อง 360 เอาจริงๆมันมองยาก
ไบลสปอร์ทอันนี้ ซิตี้ควรมี แต่จากการใช้มาสด้าสอง เออมันก็ไม่ได้จำเป็นจริงๆน่ะ
สุดท้ายๆๆ ไปลองก่อน อย่าเพิ่งตีโพยตีพาย
-
ตัด CITY RS ออกก่อนเช่นกัน
ส่วน CITY SV กับ Almera VL นี่คือมวยถูกคู่ ติดตรงที่ Almera ไม่มีเบาะหนังเท่านั้นเลยลังเล แต่ถ้าใส่เบาะหนังมาให้ ล้อปัดเงาสักหน่อย(จุดนี้ต้นทุนไม่มาก) ใจจะไป Almera แบบ 100%
เรื่องเบาะหนัง ด้วยการที่ใช้รถค่อนข้างนาน และแพ้ฝุ่น เบาะหนังเลยมีผลต่อการตัดสินใจมาก รถที่ถุงลมด้านข้างไม่สามารถหุ้มเบาะเองตามร้านข้างนอกได้ เลยเป็นจุดที่ลังเล
ขออนุญาตนอกประเด็นนิดครับ
ส่วนตัวเบาะผ้า หรือ กำมะหยี่ ไม่ได้มีผลต่อการใช้งาน ผมใช้ AE101 25 ปี เบาะกำมะหยี่ ยังสวย
ถ้าต้องเพิ่มเงินซื้อเบาะหนังดีสัก 2 หมื่นบาท ส่วนตัวเอา 2 หมื่น ไปซื้อ เครื่องดูดฝุ่น Dyson ดีๆสักชุด ดูดไรฝุ่น ฝุ่นธรรมดา ได้ทั่วคัน ยังแถมไปดูดที่นอน หมอน ได้สารพัด ทั่วทั้งบ้าน แรงดูดแรงเหลือเฟือ กี่บ้านก็ขนไปได้เพราะเป็นแบบมือถือ ไม่ต้องเสียบไฟฟ้า คุ้มเกินคุ้มแถมโครตทนอีกด้วย
อีกมุมมองกับเบาะผ้า และ เงิน 2 หมื่นบาทครับ
ผมว่าเบาะกำมะหยี่ ในรถสมัยนั้น กับเบาะผ้าในรถสมัยนี้ ต่างกันนะครับ
พิจารณาดีๆ รถสมัยนั้น รุ่นท็อปกำมะหยี่นะครับ แต่รถสมัยนี้รุ่นถูกเบาะผ้า คุณภาพวัสดุคนละเกรดกันนะผมว่า
-
จากที่ใช้พวกฟังชั่นเยอะ ๆ ใน mazda มานะ ผมว่าถ้าเลือกได้ก็ควรเอา Almera ตัว top ไปเลย กับสิ่งที่ได้คุ้มมากกับรถราคา 6 แสนกว่า คือ option พวกนี้ไม่มีก็ไม่เป็นไร แต่มีอ่ะดี แต่ภายในเบาะหลัง Almera แย่จริง ๆ คือในหัวมีแต่คำว่าก็รถ ECO Car ราคาเท่านี้อ่เนาะ ผมเองเคยใช้รถนิสสันมาก่อน (Tiida) ศูนย์นิสสันใช้ได้นะ อาจจะไม่มีของกินอะไรเยอะเท่าพวก mazda แต่เขาก็ดูแลเราใช้ได้ อะไหล่ก็ราคาทั่ว ๆ ไป บางศูนย์นิสสัน มีทำแคมเปญหุ้มเบาะหนัง เลือกสีได้ด้วย เปิด DRL ให้อีก (เส้น ๆ นั้นนิสสันปิดฟังชั่นเอาไว้ให้เป็นได้แค่ไฟหรี่ งง เด้)
City เป็นรถเป็นวัยรุ่นเริ่มทำงาน หรือทำมาไม่นาน คิดไรไม่ออกก็เลือก City เหมือนที่คนเงินเยอะขึ้นมาหน่อยก็เลือก Civic นั่นแหละ ผมก็เคยผ่านนั้นมา ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน อาจจะเพราะรอบตัวใช้ Honda กันทั้งนั้นก็ได้ เราได้สัมผัส ได้นั่งรถพวกนี้ เหมือนเป็นความประทับใจแรก คนพวกนี้บางทีก็ไม่ได้ไปเทสรถยี่ห้ออื่นหรอก มีธงในใจมา honda เลย ส่วนตัว city รถมัน wow แค่เครื่องจริง ๆ นอกนั้นก็ so so อ่ะ เฉย ๆ
-
ครับ จากที่ไปดูตอนงานmotor expo ผมจะซื้อรถให้ญาติคันนึงก้ไม่ต้องคิดนานครับ ทั้งตัวผม ทั้งคนใช้
เอาcity ครับมีไม่ชอบที่ภายในอย่างเดียวนอกนั้นโอเคหมด คนที่ใช้เป็นแฟนคลับ nissan แต่ตอนนี้รอ
City rs แล้วครับ เอาเป็นว่าทั้งหมดลงตัวดี และวัสดุดูดีกว่า และทั้งผมทั้งคนที่ใช้เป็นหลักไม่ได้สนใจระบบ
เบรคอัตโนมัติทั้งหลายครับ almera ก้เลยเฉยๆไป ส่วนเรื่องอื่นๆก้แล้วแต่คนคิดครับ ส่วนตัวผมคิดว่าดีทั้งคู่
ขึ้นอยู่กับใครชอบคันไหนครับ
ผมว่าวัสดุcity. ดูแย่กว่านะโดยเฉพาะภายในที่ไม่สวย. แถมยังขี้งกไม่มีออยล์เกียร์มาให้ทั้งที่ประเทศไทยอากาศร้อนตับแตกจนแบอบไก่ได้ ซึ่งมีผลต่อการทำให้น้ำมันเกียร์เสื่อมสภาพเร็ว
-
ครับ จากที่ไปดูตอนงานmotor expo ผมจะซื้อรถให้ญาติคันนึงก้ไม่ต้องคิดนานครับ ทั้งตัวผม ทั้งคนใช้
เอาcity ครับมีไม่ชอบที่ภายในอย่างเดียวนอกนั้นโอเคหมด คนที่ใช้เป็นแฟนคลับ nissan แต่ตอนนี้รอ
City rs แล้วครับ เอาเป็นว่าทั้งหมดลงตัวดี และวัสดุดูดีกว่า และทั้งผมทั้งคนที่ใช้เป็นหลักไม่ได้สนใจระบบ
เบรคอัตโนมัติทั้งหลายครับ almera ก้เลยเฉยๆไป ส่วนเรื่องอื่นๆก้แล้วแต่คนคิดครับ ส่วนตัวผมคิดว่าดีทั้งคู่
ขึ้นอยู่กับใครชอบคันไหนครับ
ผมว่าวัสดุcity. ดูแย่กว่านะโดยเฉพาะภายในที่ไม่สวย. แถมยังขี้งกไม่มีออยล์เกียร์มาให้ทั้งที่ประเทศไทยอากาศร้อนตับแตกจนแบอบไก่ได้ ซึ่งมีผลต่อการทำให้น้ำมันเกียร์เสื่อมสภาพเร็ว
แนวคิดนี้เป็นสาเหตุที่ฮอนด้าเลือกใช้อินเตอร์คูลลิ่งแบบน้ำไงครับ ประเภทนี้ส่วนใหญ่วิ่งในเมือง อากาศร้อนรถติด มันระบายความร้อนได้ดีกว่าอินเตอร์คูลลิ่งแบบอากาศไงครับ เรื่องออยเกียร์ หากกลัวน้ำมันเกียร์เสื่อมสภาพเร็ว แนะนำให้เปลี่ยนเร็วขึ้นเป็นทุก 2 หมื่นโล ค่าน้ำมันเกียร์ฮอนด้าไม่แพง ค่าน้ำมัน 6xx บาท ค่าแรง 1xx รวมๆไม่ถึงพันครับ
-
ครับ จากที่ไปดูตอนงานmotor expo ผมจะซื้อรถให้ญาติคันนึงก้ไม่ต้องคิดนานครับ ทั้งตัวผม ทั้งคนใช้
เอาcity ครับมีไม่ชอบที่ภายในอย่างเดียวนอกนั้นโอเคหมด คนที่ใช้เป็นแฟนคลับ nissan แต่ตอนนี้รอ
City rs แล้วครับ เอาเป็นว่าทั้งหมดลงตัวดี และวัสดุดูดีกว่า และทั้งผมทั้งคนที่ใช้เป็นหลักไม่ได้สนใจระบบ
เบรคอัตโนมัติทั้งหลายครับ almera ก้เลยเฉยๆไป ส่วนเรื่องอื่นๆก้แล้วแต่คนคิดครับ ส่วนตัวผมคิดว่าดีทั้งคู่
ขึ้นอยู่กับใครชอบคันไหนครับ
ผมว่าวัสดุcity. ดูแย่กว่านะโดยเฉพาะภายในที่ไม่สวย. แถมยังขี้งกไม่มีออยล์เกียร์มาให้ทั้งที่ประเทศไทยอากาศร้อนตับแตกจนแบอบไก่ได้ ซึ่งมีผลต่อการทำให้น้ำมันเกียร์เสื่อมสภาพเร็ว
ครับแล้วแต่คนมอง ผมก้มองว่าไม่สวยแต่วัสดุผมมองว่า Almera ไม่สามารถรับได้ครับ ส่วนเรื่องทนไม่รู้ครับรอดู
-
นอกจาก
ร้องหา MT
แล้วยังมี ร้องหา Oil Gear CVT อีก
รถ CVT หลายๆค่าย เค้าก็ไม่มี ออยเกียร์แยกนะครับ ทำไม เกียร์เค้าทนละ
ส่วน ที่ นิสสันมี ปัญหา เรื่องเกียร์ เพราะ ความไม่รู้ ของฝ่ายออกแบบที่กำหนดให้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ หรือ ใช้ นมก ที่ไม่ทนมากกว่า
ใส่ออยคือปลายเหตุ เพราะออยแยกแบบไม่มี มันไม่ได้ช่วยอะไรเลยตอนที่รถขับช้าๆในเมือง มันช่วยแค่ตอนซัดหนักๆเท่านั้น
เคสเดียวกับ Hoda ให้ Inter น้ำนั่น ที่เค้าบอกเหมาะสมกับการใช้งานมากกว่า inter ทั่วไป
-
almera ผ้าที่ใช้หุ้มเบาะดูไม่ค่อยโอเลย จริงๆตัวท๊อปสุดถ้าให้เป็นเบาะหนังมาเลยรับรองว่าจบ
-
almera ผ้าที่ใช้หุ้มเบาะดูไม่ค่อยโอเลย จริงๆตัวท๊อปสุดถ้าให้เป็นเบาะหนังมาเลยรับรองว่าจบ
นั่นละครับ นิสสัน พยายามทำราคาให้อยู่เท่า Almera เดิม ทั้งที่จริงคันนี้เป้น Global car แค่จับลงเครื่องเล็ก
ทำให้ พยายามคุม ราคา และ กำหนด พิกัดให้ตัวเอง อยู่ในราคา เรท เดิมกับ Almera เก่า จึงยังไม่มีเบาะหนัง
หากมีเบาะหนัง ราคา กระโดดไปที่ 660,000 + เท่ากับ หรือ มากกว่า City SV ทีนี้ละครับ ผมเข้าใจนิสสันนะ คือไม่อยากไปแข่งกับ City ในเรื่องราคาที่เท่ากัน
-
นอกจาก
ร้องหา MT
แล้วยังมี ร้องหา Oil Gear CVT อีก
รถ CVT หลายๆค่าย เค้าก็ไม่มี ออยเกียร์แยกนะครับ ทำไม เกียร์เค้าทนละ
ส่วน ที่ นิสสันมี ปัญหา เรื่องเกียร์ เพราะ ความไม่รู้ ของฝ่ายออกแบบที่กำหนดให้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ หรือ ใช้ นมก ที่ไม่ทนมากกว่า
ใส่ออยคือปลายเหตุ เพราะออยแยกแบบไม่มี มันไม่ได้ช่วยอะไรเลยตอนที่รถขับช้าๆในเมือง มันช่วยแค่ตอนซัดหนักๆเท่านั้น
เคสเดียวกับ Hoda ให้ Inter น้ำนั่น ที่เค้าบอกเหมาะสมกับการใช้งานมากกว่า inter ทั่วไป
Cvt. หลายค่ายก็มีเกียร์พังครับ ไม่ใช่มีแต่jacto ซึ่งน้ำมันเกียร์ก็แค่ส่วนนึง. แต่ที่สำคัญคือมีแต่น้ำร้อนๆ มาระบายความร้อนน้ำมันเกียร์ แล้วน้ำมันเกียร์จะคุมอุณหภูมิให้เหมาะสมได้ยังไง ยิ่งประเทศไทยเมืองร้อนตับแตกแทบอบไก่ในรถได้ น้ำมันเกียร์คงต้องเดือดหรือไหม้ได้ง่ายกว่าประเทศที่อากาศหนาวครับ. พอถึงระยะที่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทำไมถึงดำเป็นโคลน. เพราะอุณหภูมิที่สูงทำให้น้ำมันเกียร์ร้อนจนไหม้และหมดคุณสมบัติการปกป้องชิ้นส่วนใน cvt
-
นอกจาก
ร้องหา MT
แล้วยังมี ร้องหา Oil Gear CVT อีก
รถ CVT หลายๆค่าย เค้าก็ไม่มี ออยเกียร์แยกนะครับ ทำไม เกียร์เค้าทนละ
ส่วน ที่ นิสสันมี ปัญหา เรื่องเกียร์ เพราะ ความไม่รู้ ของฝ่ายออกแบบที่กำหนดให้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ หรือ ใช้ นมก ที่ไม่ทนมากกว่า
ใส่ออยคือปลายเหตุ เพราะออยแยกแบบไม่มี มันไม่ได้ช่วยอะไรเลยตอนที่รถขับช้าๆในเมือง มันช่วยแค่ตอนซัดหนักๆเท่านั้น
เคสเดียวกับ Hoda ให้ Inter น้ำนั่น ที่เค้าบอกเหมาะสมกับการใช้งานมากกว่า inter ทั่วไป
Cvt. หลายค่ายก็มีเกียร์พังครับ ไม่ใช่มีแต่jacto ซึ่งน้ำมันเกียร์ก็แค่ส่วนนึง. แต่ที่สำคัญคือมีแต่น้ำร้อนๆ มาระบายความร้อนน้ำมันเกียร์ แล้วน้ำมันเกียร์จะคุมอุณหภูมิให้เหมาะสมได้ยังไง ยิ่งประเทศไทยเมืองร้อนตับแตกแทบอบไก่ในรถได้ น้ำมันเกียร์คงต้องเดือดหรือไหม้ได้ง่ายกว่าประเทศที่อากาศหนาวครับ. พอถึงระยะที่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทำไมถึงดำเป็นโคลน. เพราะอุณหภูมิที่สูงทำให้น้ำมันเกียร์ร้อนจนไหม้และหมดคุณสมบัติการปกป้องชิ้นส่วนใน cvt
ถูกครับ ติดออยเกียร์ ช่วยลดอุณหภูมิได้
แล้ว CVT ที่มี ออยเกียร์ คุณ คิดว่า เกียร์ไม่พังเหรอครับ
เกียร์ที่พัง ก็มีหลาย สาเหตุ ครับ น้ำมันเกียร์ก็แค่ส่วนนึงเช่นกัน
การที่น้ำมันเกียร์ทำไมถึงดำเป็นโคลน มันก็มีหลายสาเหตุนะ
ลองไปค้นๆ ดู สาเหตุหลักๆครับ ใน ยุค เริ่มแรก ของ Jazz CVT พัง
ที่พังคือ นมก ไม่ทน อันนี้ ไม่แน่ใจ ว่า กำหนด ระยะ ถ่าย ช้าไป หรือ ไม่ได้ คุณภาพ หลัง มีการปรับ สูตร
Nissan Teana ก็เหมือนจะกรณีเดียวกัน คือ กำหนดระยะถ่ายน้ำมันเกียร ผิดพลาด ให้เปลี่ยน 80,000 โล ผมถึงบอกปลายเหตุไง
มีหลายเคส ที CVT พังเพราะ เก่งกว่า ศูนย์ไปเติมน้ำมันเกียร์ อู่นอก ที่ ไม่เหมาะสม จนพังก็เยอะ
แล้วก็อีกหลายเคส ที่ อัดหนักๆ จนพัง อันนี้ส่วนน้อย ซึ่งเคสนี้ แก้ได้ โดยติดออยเกียร์เพิ่ม แต่ถ้า OEM ยังให้ถ่าย นมก ที่ 80,000 หรือ 100,000 ก็พังอยู่ดี
แล้วก็ อีกหลายเคส ที่พังตามการเวลา ของมัน
รถผมไม่มี ออยเกียร์ครับ แต่ศูนย์ ให้เปลี่ยน ทุก 40,000 โล แถม รถ ยังฉลาด มีวัดอุณภูมิ นมก พอมันร้อน
แล้วก็จะบอกให้ ว่า ที่มัน ร้อน เพราะ เราขับ จนหม้อน้ำมันร้อน จน น้ำ ซึ่ง สำหรับ คนที่ ขับหนักหน่วง จริงๆ ถึงจะ จำเป็น ต้อง ติดออเกียร์
ส่ว นิสสัน ในเวลา ผมค่อนข้าง มั่นใจ ความผิดพลาดในครั้งแรกที่ให้เปลี่ยน นมก ที่ 80,000 โล นั่น คือ หายนะ อย่างแท้จริง
แล้ว ไปโทษ นมก ไม่ได้ คุณภาพ เลยไป ติด ออยเกียร์ ซึ่ง มันไม่ใช่ทั้งหมดของ ปัญหา
ผมค่อนข้างเชื่อว่า หากนิสสัน ให้เปลี่ยน นมก ที่ 40,000 หรือ 20,000 กิโล รถหลายคัน จะเกียร์ไม่พัง
พอสุดท้าย ก็ กลาย เป็น วัวสันหลังหวะ ติดออยเกียร์ มาในทุกรุ่น แต่ก็ดีครับ ผู้ บริโภคได้ประโยนช์
สำหรับ คนขับรถปกติ อุณภูณ น้ำหม้อ น้ำที่เข้ามาผ่าน ออยเกียร์ มันจะอยู่ที่ไม่เกิน ซึ่งเท่านี้ ก็เพียงพอ ไปหล่อลื่นเกียรได้ครับ
แต่เมื่อได ที่ เราอัดหนัก จน น้ำหม้อน้ำ แทบจะเดือด นั่นละ มันมีผล แต่การระบายความร้อน ของ นมก แน่นอน
โดย ส่วนตัว รถผม CVT เครื่อง 1.8 ไม่มีออยเกียร์ ขับปกติ มีอัดหนักบาง เปลี่ยน นมก ของ ศูนย์ ตามระยะเท่านั้น
ตอนนี 300,000 โลแล้วครับ ถ่าย นมก ไม่เคยออกมาดำสักครั้ง
-
นอกจาก
ร้องหา MT
แล้วยังมี ร้องหา Oil Gear CVT อีก
รถ CVT หลายๆค่าย เค้าก็ไม่มี ออยเกียร์แยกนะครับ ทำไม เกียร์เค้าทนละ
ส่วน ที่ นิสสันมี ปัญหา เรื่องเกียร์ เพราะ ความไม่รู้ ของฝ่ายออกแบบที่กำหนดให้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ หรือ ใช้ นมก ที่ไม่ทนมากกว่า
ใส่ออยคือปลายเหตุ เพราะออยแยกแบบไม่มี มันไม่ได้ช่วยอะไรเลยตอนที่รถขับช้าๆในเมือง มันช่วยแค่ตอนซัดหนักๆเท่านั้น
เคสเดียวกับ Hoda ให้ Inter น้ำนั่น ที่เค้าบอกเหมาะสมกับการใช้งานมากกว่า inter ทั่วไป
Cvt. หลายค่ายก็มีเกียร์พังครับ ไม่ใช่มีแต่jacto ซึ่งน้ำมันเกียร์ก็แค่ส่วนนึง. แต่ที่สำคัญคือมีแต่น้ำร้อนๆ มาระบายความร้อนน้ำมันเกียร์ แล้วน้ำมันเกียร์จะคุมอุณหภูมิให้เหมาะสมได้ยังไง ยิ่งประเทศไทยเมืองร้อนตับแตกแทบอบไก่ในรถได้ น้ำมันเกียร์คงต้องเดือดหรือไหม้ได้ง่ายกว่าประเทศที่อากาศหนาวครับ. พอถึงระยะที่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเกียร์ทำไมถึงดำเป็นโคลน. เพราะอุณหภูมิที่สูงทำให้น้ำมันเกียร์ร้อนจนไหม้และหมดคุณสมบัติการปกป้องชิ้นส่วนใน cvt
ถูกครับ ติดออยเกียร์ ช่วยลดอุณหภูมิได้
แล้ว CVT ที่มี ออยเกียร์ คุณ คิดว่า เกียร์ไม่พังเหรอครับ
เกียร์ที่พัง ก็มีหลาย สาเหตุ ครับ น้ำมันเกียร์ก็แค่ส่วนนึงเช่นกัน
การที่น้ำมันเกียร์ทำไมถึงดำเป็นโคลน มันก็มีหลายสาเหตุนะ
ลองไปค้นๆ ดู สาเหตุหลักๆครับ ใน ยุค เริ่มแรก ของ Jazz CVT พัง
ที่พังคือ นมก ไม่ทน อันนี้ ไม่แน่ใจ ว่า กำหนด ระยะ ถ่าย ช้าไป หรือ ไม่ได้ คุณภาพ หลัง มีการปรับ สูตร
Nissan Teana ก็เหมือนจะกรณีเดียวกัน คือ กำหนดระยะถ่ายน้ำมันเกียร ผิดพลาด ให้เปลี่ยน 80,000 โล ผมถึงบอกปลายเหตุไง
มีหลายเคส ที CVT พังเพราะ เก่งกว่า ศูนย์ไปเติมน้ำมันเกียร์ อู่นอก ที่ ไม่เหมาะสม จนพังก็เยอะ
แล้วก็อีกหลายเคส ที่ อัดหนักๆ จนพัง อันนี้ส่วนน้อย ซึ่งเคสนี้ แก้ได้ โดยติดออยเกียร์เพิ่ม แต่ถ้า OEM ยังให้ถ่าย นมก ที่ 80,000 หรือ 100,000 ก็พังอยู่ดี
แล้วก็ อีกหลายเคส ที่พังตามการเวลา ของมัน
รถผมไม่มี ออยเกียร์ครับ แต่ศูนย์ ให้เปลี่ยน ทุก 40,000 โล แถม รถ ยังฉลาด มีวัดอุณภูมิ นมก พอมันร้อน
แล้วก็จะบอกให้ ว่า ที่มัน ร้อน เพราะ เราขับ จนหม้อน้ำมันร้อน จน น้ำ ซึ่ง สำหรับ คนที่ ขับหนักหน่วง จริงๆ ถึงจะ จำเป็น ต้อง ติดออเกียร์
ส่ว นิสสัน ในเวลา ผมค่อนข้าง มั่นใจ ความผิดพลาดในครั้งแรกที่ให้เปลี่ยน นมก ที่ 80,000 โล นั่น คือ หายนะ อย่างแท้จริง
แล้ว ไปโทษ นมก ไม่ได้ คุณภาพ เลยไป ติด ออยเกียร์ ซึ่ง มันไม่ใช่ทั้งหมดของ ปัญหา
ผมค่อนข้างเชื่อว่า หากนิสสัน ให้เปลี่ยน นมก ที่ 40,000 หรือ 20,000 กิโล รถหลายคัน จะเกียร์ไม่พัง
พอสุดท้าย ก็ กลาย เป็น วัวสันหลังหวะ ติดออยเกียร์ มาในทุกรุ่น แต่ก็ดีครับ ผู้ บริโภคได้ประโยนช์
สำหรับ คนขับรถปกติ อุณภูณ น้ำหม้อ น้ำที่เข้ามาผ่าน ออยเกียร์ มันจะอยู่ที่ไม่เกิน ซึ่งเท่านี้ ก็เพียงพอ ไปหล่อลื่นเกียรได้ครับ
แต่เมื่อได ที่ เราอัดหนัก จน น้ำหม้อน้ำ แทบจะเดือด นั่นละ มันมีผล แต่การระบายความร้อน ของ นมก แน่นอน
โดย ส่วนตัว รถผม CVT เครื่อง 1.8 ไม่มีออยเกียร์ ขับปกติ มีอัดหนักบาง เปลี่ยน นมก ของ ศูนย์ ตามระยะเท่านั้น
ตอนนี 300,000 โลแล้วครับ ถ่าย นมก ไม่เคยออกมาดำสักครั้ง
ผมเห็นด้วยกับกลุ่มคนที่เท้าหนักเกินมุนษย์ ไม่ว่าเกียร์อะไรก็พังครับ ส่วนอู่นอกที่เอาน้ำมันเกียร์ปลอมมาใส่ให้นี่เห็นในเว็ปม่วงพูดถึงกันอยู่ครับ
-
ไม่ต้องหา เหตุผล 108 ทำให้ดูดี
โตต้า งกๆ ยังทำได้ ถ้าไม่ทำแสดงว่า รู้ว่ายังไงก็ขายได้ กำไรบานสบาย
คนซื้อก็มาเรื่อง ฮอนด้า นิสสัน มาก่อนเลย ไม่มีในกอไผ่ เพราะรถคันละแพงยังไงก็ต้องซื้อยี่ห้อที่เคยใช้และไว้ใจก่อนจะลองเล่นๆยาก
ส่วนผมก็ไปอัลเมร่า คันเก่า 7 ปี ก็ไม่เห็นมีอะไรเปราะ ถ้าไปใช้กระหนำ่แบบที่เคยใช้กับวีออส ก็เปราะหมดแล้ว ต้องยอมรับ ออสมันทนมือจริงๆ ของเพื่อนโหดกว่า ซื้อรุ่นแรกโดยไม่เกรงกลัวดีเฟค ป่านนี้ 8 ปีแล้ว ไม่เห็นมันจะเปลี่ยนอะไรกระทั่งสายพาน ก็ยังไม่แตกไม่ดัง ฉะนั้นจะว่าเปราะเลยก็คงไม่ใช่ แต่ถ้าจะให้บอกทนถึกแบบวีออสมันก็จะอวยเกินไป มันไม่จริงเรื่องอะไรก็ต้องพูดกันตามตรง อย่าเอาแต่เพราะมันเป็นยี่ห้อนั่นนี่มันต้องดีทุกอย่าง
อิจฉาตัวใหม่จัง ระบบมาครบหมด ตัวเก่าราคาเท่ากันมองตาปริบๆ ซิตี้รถเพื่อนซื้อทีหลังครึ่งปีก็เก่าพอกัน แต่ยังต้องผ้อนอีกเยอะ ผมผ่อนหมดตั้งแต่ 6 ปี ไม่ต้องกลัวเศรษฐกิจแบบนี้
ถ้าซื้อก็ใช้เกิน 5 ปีแน่นอน ฉะนั้น จบเร็ว สวยงาม ระบบเฉียบ ก็ไม่น่าเกลียดอะไร เบาะไม่ชอบเบาะหนังอยู่แล้วเลยไม่ติเลย
อันนี้ระบบมาครบแล้วนะ ถุงลมก็มีแล้วนะ ไม่ต้องค่อนแคะกันแล้วนะ แต่ก็ยังไม่วายโดนอยู่ดี
อันนี้ใช้จริงใช้เองตามที่บอก ฉะนั้นพูดตามที่ใช้ ไม่จริงขอให้ตาย ฉะนั้นผมงบไม่มาก คงเอาอัลเมร่ารุ่นนี้ไม่ขี้เหร่เลย บอกตรงๆ มีไฟปิ๊บเตือนกับเค้าด้วย เฉียบมากสำหรับรถราคานี้ ใครไม่เอาไม่ห้ามครับ ใจเขาใจเรา ห่วยแค่ไหนก็ซื้อได้ถ้าจะเอา เพราะไม่งั้นรุ่นเก่าอัลเมร่าจะขายได้ไงจนถึงปัจจุบันทั้งๆที่ก็ไม่ได้สวยเลย หรือมีระบบเท่าปัจจุบันเลยแม้แต่ปลายก้อย
-
ผมเห็นด้วยกับกลุ่มคนที่เท้าหนักเกินมุนษย์ ไม่ว่าเกียร์อะไรก็พังครับ ส่วนอู่นอกที่เอาน้ำมันเกียร์ปลอมมาใส่ให้นี่เห็นในเว็ปม่วงพูดถึงกันอยู่ครับ
ข้อควรระวังของ CVT อันดับ 1 คือ ระวังเรื่อง นมก นี่ละครับ
ใน คาร์คลับ เทสมาเยอะแล้ว ขนาด แบรนดังๆ แพงกว่า ศูนย์ เค้าทดลองแล้ว ว่า ไม่มีคุณภาพ ฟองฟ๊อดๆ กันหลายตัว
-
ราคาที่ซิตี้แพงกว่าส่วนหนึ่งก็มาจากเครื่องยนต์ เพราะถึงแม้ซีซีจะเท่ากัน แต่แรงม้า แรงบิด ต่างกันแบบเทียบไม่ได้
ถ้าไม่ให้ราคากับเครื่องยนต์แบบนี้ ไม่ต้องเทียบกันเลยดีกว่า เพราะออฟชั้น อัลเมร่า ดีกว่าในทุกราคา
ปล. เลือกรถ ให้ดูจากแแฟชั่นที่จำเป้นก่อนครับ ที่บ้านเทียบสองรุ่นเหมือนกัน แต่รีเควสจอ+กล้องหลัง
ดังนั้น เหลือแค่รุ่นรองท๊อปทั้ง 2 ยี่ห้อ ซึ่ง ซิตี้ ราคาสูงกว่าเล็กน้อย เลยชนะไป เพราะ ทั้งสเปคเครื่อง เครดิตยี่ห้อ คุ้มกับส่วนต่างที่จ่ายไป
-
ถ้าจะซื้อซิตี้ผมเอาตัว RS นะ
ถ้าไม่เอา RS ผมไปเอาอัลเมร่าดีกว่า
จริงๆถ้า Jazz ใหม่ออกมา
ผมไม่มอง City เลยล่ะ
-
ผมยังมองว่ารถคนละ seg กันอยู่ดี ไม่ควรมาเทียบกันเลย
-
ถ้าจะซื้อซิตี้ผมเอาตัว RS นะ
ถ้าไม่เอา RS ผมไปเอาอัลเมร่าดีกว่า
จริงๆถ้า Jazz ใหม่ออกมา
ผมไม่มอง City เลยล่ะ
รอ City 5 door มีตัว RS ด้วยครับ รับรอง ว้าววววววว
-
ผมยังมองว่ารถคนละ seg กันอยู่ดี ไม่ควรมาเทียบกันเลย
น่าจะพูดว่า คนละเกรด มากกว่าครับ
เพราะมัน คือ รถ ขนาด B-segment เหมือนกันครับ
แต่ Almera มาทดแทน กลุ่มเดิม ที่ รถเกรด ราคาถูก เลยไม่ยอม ให้ วัสดุเกรดสูงมาในภายใน แต่ดันให้ ระบบ Assis ช่วยเหลือขับขี่มาเต็ม ซะงั้น
ใน ขณะที่ City มัน อยู่ ระดับเกรด เดิม แต่ ลดราคา ลงมาไม่เยอะ คนเลยบ่น
ถ้า ไม่มี Almera มา นี่ คงชิลยาวๆ
น่าห่วง คือ พี่ TOYOTA ครับ อยากรู็ คนไทย ยังจะชอบโดนเอาเปรียบไหม