Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: lexus ที่ มกราคม 02, 2020, 19:34:46
-
อัตราเร่ง : ไม่แรงอย่างที่คิด เมื่อเทียบกับพวก1.5ค่อนข้างธรรมดา ออกตัวดีลื่นไหล แต่มีความรู้สึกพวก1.5เวลาเร่งแซงไวกว่านิดๆ ตอนคิกดาวน์เร่งแซงไม่มีแรงดึงใดๆ แต่ไม่ได้จับเวลานะครับ ความรู้สึกล้วนๆ มันไวกว่าพวก1.2แน่ๆ แต่รู้สึกด้อยกว่า1.5นิดนึง ขับเรื่อยๆได้แต่จะหาความขัับสนุกคันนี้ไม่น่าจะเป็นคำตอบ
ช่วงล่าง- ไม่ก้องแก้งกระโหลกกระลา ไม่แข็งไม่ย้วย ซับแรงสะเทือนพอได้อยู่ แต่เข้าโค้งเร็วๆก็โยนตัวนิดนึง โอเคสำหรับมนุษย์ทั่วไป แต่สายซิ่งยังไม่เฟี้ยวพอ
พวงมาลัย- เบามากขับในเมืองคล่องตัวสุด(อันนี้ผมชอบนะ) ขับเร็วก็หน่วงขึ้นแต่ผมตอนลองก็ไม่ได้อัดแช่เร็วนานๆเลยไม่แน่ใจว่าความเร็วสูงจะหน่วงมากพอไหม แต่เท่าที่ลองมันได้อยู่นะ
เบาะนั่ง- เบาะหน้ายังไม่โอเคกับผมสักเท่าไหร่ รู้สึกsupportแผ่นหลังยังไม่ดี ช่วงดันหลังน้อยไป //เบาะหลัง กว้างสบายหายห่วง174cmนั่งหลังตรงหัวเฉี่ยวๆเพดาน แต่ถ้านั่งแบบปกติเอนนิดๆหัวก็ไม่ติด พื้นที่leg roomเหลือเฟือ คิดว่าพื้นที่วางขาพอๆกับnew altisได้เลย
ความสวยงาม-ภายใน ผมว่าคอลโซลหุ้มหนังเทียมสีเบจขาวรวมถึงมาตรวัดมันสวยสุดๆไปเลย ยิ่งมาตรวัดแบบผสมจอTFTยิ่งถูกใจมาก แต่ก็อยากให้มันแสดงผลinformationในหน้าเดียวให้มากว่านี้ ให้รวมfuel consumption ไว้ที่จอกลางเลย อันนี้ต้องคอยกดเลื่อนๆดู ไม่สะดวกเท่าไหร่แต่ก็ให้อภัยได้ในความสวย
ข้อดี
-ราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับสิ่งที่ได้ ถือว่าคุ้ม
-มันไม่กระโหลกกระลาอย่างที่คิดผมกลับรู้สึกว่ามันคือb segmentเต็มตัวแล้ว
-เครื่องเสียงเสียงดีกว่าที่คิดมาก ดีอันดับต้นๆของรถเล็กเลย
ข้อเสีย
-เดินเบายังสั่นให้รู้สึก
-สำหรับผมมันยังแรงไม่พอ แต่ถ้าคนขับเรื่อยๆก็น่าจะชอบ
-air autoแต่ไม่มีheaterปรับสุดได้28ไม่มีลมอุ่นใดๆ
FYI
-เชคระยะที่ทุก7000km
-cvtลูกเดิม ลูกเดียวกับnote มีออยเกียร์มาให้ ถ่ายน้ำมันเกียร์ทุก50000km
-ไม่มีDRL ที่เห็นเป็นเส้นๆนั่นคือไฟหรี่ เห้ออ
-
เทียบกับ 1.0 ค่ายอื่นเป็นอย่างไร ครับ
(City,fiesta)
-
เท่าที่ผมลองขับ ความเห็นส่วนตัว ถ้าไม่นับเวลาไปแข่งกับเจ้า city ดีกว่า 1.2 เดิมเยอะอยู่นะ แต่จะเอาแรงดึงผมว่า cvtตัวนี้มันไม่ดึง ผมจับคร่าวๆได้ประมาณ 12 โหมดปกติ ถือว่าพอๆกับ ซิลฟี่ 1.6 เลย แต่ประหยัดกว่าเยอะ เบาะผ้าดูธรรมดาไปหน่อย อนาคตผมว่ามีเบาะหนังมาขายแน่ อาจเป็นสปอร์ตเทค ถ้าไม่เอาตัวท็อปไปเปลี่ยนเองก็น่าจะได้ ระบบเตือนเยอะอยู่ จับเปลี่ยนล้อดีๆเบาๆวิ่งสบายๆ เรือนไมล์สวยสุดของ Nissan ในไทยสวยกว่า Altis hybrid
City ยังไม่ได้ลองนะ แต่น้องไปลองบอกออกตัวช้านิดๆแต่มีแรงดึงชัดเจนแบบเรื่อยๆ บอกพอๆกับ 1.8
-
FYI
-เชคระยะที่ทุก7000km
-cvtลูกเดิม ลูกเดียวกับnote มีออยเกียร์มาให้ ถ่ายน้ำมันเกียร์ทุก50000km
-ไม่มีDRL ที่เห็นเป็นเส้นๆนั่นคือไฟหรี่ เห้ออ
FYI ในที่นี้หมายถึงอะไรครับ ขอบคุณครับ
-
เทียบกับ 1.0 ค่ายอื่นเป็นอย่างไร ครับ
(City,fiesta)
Cityไม่เคยขับ แต่almeraยังเทียบไม่ได้เลยกับ1.0ecoboostครับ รายนั้นกดเป็นมาๆ พุ่งมากๆ
-
FYI
-เชคระยะที่ทุก7000km
-cvtลูกเดิม ลูกเดียวกับnote มีออยเกียร์มาให้ ถ่ายน้ำมันเกียร์ทุก50000km
-ไม่มีDRL ที่เห็นเป็นเส้นๆนั่นคือไฟหรี่ เห้ออ
FYI ในที่นี้หมายถึงอะไรครับ ขอบคุณครับ
FYI : for your informationครับ
-
เทียบกับ 1.0 ค่ายอื่นเป็นอย่างไร ครับ
(City,fiesta)
Cityไม่เคยขับ แต่almeraมันเทียบไม่ได้เลยกับ1.0ecoboostครับ รายนั้นกดเป็นมาๆ พุ่งมากๆ
eco boost เจ้านี้ไม่ขายความเป็น eco car แรงดึงดี แต่เกียร์ลาโลกไปเยอะเลย ประหยัดไม่เท่า Almera กับ city
-
น่าจะเซ็ตมาแบบถนอมเกียร์หรือเปล่าครับ
-
City ก็บอกว่า เกียร์รับทอร์คได้สุดแค่นี้ อย่า remap นะ
Almera ก็เกียร์ลูกเดิม ต่อให้มี oil cooler มา ก็ไม่ได้หมายความว่า จะรับทอร์คได้มากกว่านี้มากมาย
ดังนั้น ใครคิดจะเอาสองตัวนี้ไป remap นี่ เลิกคิดนะครับ ไม่งั้นพังแน่นอน
.........
พูดถึงจอแสดงผล .. ผมขับ pulsar ผมก็หงุดหงิด เหมือนกัน ยิ่งเทียบกับ CRV G3 ด้วย .. คือ เพ่ จะรวมมาหน้าเดียวแบบ CRV ไม่ได้เหรอ ไม่ต้องคอยกดไป กดมา เวลาจะดูค่าต่างๆเนี่ย
-
ถ้าเกียร์ตัวเดิม เอามาโมใส่ mt ของ มาร์ช/อัลเมร่าตัวเก่าได้มั๊ยครับ
นี่คิดไปถึงมือ 2 ซื้อเอามาทำขับเล่น เห็นมันกว้างโปร่งดี
-
ผมไปลองมาไม่รู้คันอื่นเป็นมั้ย มันจะกระตุกหน่อยๆ เวลาเปลี่ยนจากเกียร์ D ไป R
โดยรวมก็น่าใช้อยู่ สำหรับขับเรื่อยๆ ในเมืองอะไรแบบไม่ต้องซิ่งมาก
ดีกว่า 1.2 เดิมพอควร แต่ไม่ได้ดีกว่า 1.5 ยี่ห้ออื่นๆ ที่ยังมีขายอยู่นะครับ
อยากให้ Sportech หรือ Nismo มาพร้อม Adaptive Cruise Control จัง ปุ่มขวาพวงมาลัยมันโล่งๆ มีแต่รับสาย/วางสาย
-
FYI
-เชคระยะที่ทุก7000km
-cvtลูกเดิม ลูกเดียวกับnote มีออยเกียร์มาให้ ถ่ายน้ำมันเกียร์ทุก50000km
-ไม่มีDRL ที่เห็นเป็นเส้นๆนั่นคือไฟหรี่ เห้ออ
FYI ในที่นี้หมายถึงอะไรครับ ขอบคุณครับ
FYI : for your informationครับ
ปามานว่า เป็นข้อมูลที่คุณควรรู้ เผื่อคุณจะยังไม่ทราบ อะไรปามานนี้
-
FYI
-เชคระยะที่ทุก7000km
-cvtลูกเดิม ลูกเดียวกับnote มีออยเกียร์มาให้ ถ่ายน้ำมันเกียร์ทุก50000km
-ไม่มีDRL ที่เห็นเป็นเส้นๆนั่นคือไฟหรี่ เห้ออ
FYI ในที่นี้หมายถึงอะไรครับ ขอบคุณครับ
FYI : for your informationครับ
ปามานว่า เป็นข้อมูลที่คุณควรรู้ เผื่อคุณจะยังไม่ทราบ อะไรปามานนี้
ง่ายๆ มันก็คือ ปล. นั่นเอง
-
รุ่น top ไม่มี Cruise control ผมว่า ไม่OK ผมว่าของมันต้องมีนะ
-
FYI
-เชคระยะที่ทุก7000km
-cvtลูกเดิม ลูกเดียวกับnote มีออยเกียร์มาให้ ถ่ายน้ำมันเกียร์ทุก50000km
-ไม่มีDRL ที่เห็นเป็นเส้นๆนั่นคือไฟหรี่ เห้ออ
FYI ในที่นี้หมายถึงอะไรครับ ขอบคุณครับ
FYI : for your informationครับ
ปามานว่า เป็นข้อมูลที่คุณควรรู้ เผื่อคุณจะยังไม่ทราบ อะไรปามานนี้
ง่ายๆ มันก็คือ ปล. นั่นเอง
ไม่เหมือนนะครับ ปล. จะใช้ PS. (Postscript)
ส่วน FYI ปกติผมใช้ในกรณีที่มีคนขอเอกสาร ข้อมูล หรือไฟล์จากเรา แล้วเราส่งให้ทางเมลล์ครับ
-
ผมว่ามันดีขึ้นมาก จากตัวเก่านะครับ ไม่ได้ไปเทียบกับใคร
-
แม่เจ้า เช็คระยะทุก 7 พันโล รถสมัยนี้น่าจะเช็คทุกหมื่นโลนะครับ
ปล.น้ำมันเกียร์ สำหรับเกียร์รุ่นนี้ เปลี่ยนทุก 20,000 โลเถอะครับ (หรือปีละครั้ง)
-
เช็คทุก 7000 กิโล ระยะยาวค่าบำรุงรักษาน่าจะเยอะแถมเข้าศูนย์บ่อยๆ เป็นผมผมเบื่อแย่
-
เช็คระยะที่ 7000 นี่ ต้องเป็นรถที่ใช้ในเมืองจริงๆ
-
DRL ใช้โปรแกรม Consult-3 เปิดได้ครับ
ที่ปิดไว้เพราะเรื่องประหยัดพลังงาน
หลายๆศูนย์ทราบแล้ว และกำลังทำให้ลูกค้าอยู่ครับ
-
DRL ใช้โปรแกรม Consult-3 เปิดได้ครับ
ที่ปิดไว้เพราะเรื่องประหยัดพลังงาน
หลายๆศูนย์ทราบแล้ว และกำลังทำให้ลูกค้าอยู่ครับ
งงๆครับแล้วจะทำมาทำไมครับ แล้วถ้าให้ศูนย์ถามความต้องการลูกค้าก่อนว่าจะเปิดใช้มั๊ยก็ไม่บอกศูนย์แต่แรกละเนี่ยต้องรอให้ศูนย์ทราบกันเองรึนี่ ไม่งั้นก็ทำสวิชท์ให้ผู้ใช้เปิดปิดได้
-
DRL ใช้โปรแกรม Consult-3 เปิดได้ครับ
ที่ปิดไว้เพราะเรื่องประหยัดพลังงาน
หลายๆศูนย์ทราบแล้ว และกำลังทำให้ลูกค้าอยู่ครับ
ถ้าผมซื้อก็ไม่ต้องการที่จะเปิดมันนะ เปลืองไฟกับทำให้อายุหลอดมันสั้นลง และเมืองไทยแดดแรงอยู่แล้วไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ครับ อีกทั้งยังแยงตาคนขับรถสวนอีก
-
ผมว่าDRLมีดีกว่าไม่มีนะครับ เมืองไทยไม่ได้แดดจ้าตลอดเวลา
ช่วงเช้า ช่วงหัวค่ำ ช่วงเมฆครึ้ม ช่วงฝนตก มันทำให้อีกฝ่ายมองเห็นรถเราชัดขึ้น
-
ผมว่าDRLมีดีกว่าไม่มีนะครับ เมืองไทยไม่ได้แดดจ้าตลอดเวลา
ช่วงเช้า ช่วงหัวค่ำ ช่วงเมฆครึ้ม ช่วงฝนตก มันทำให้อีกฝ่ายมองเห็นรถเราชัดขึ้น
ช่วงเช้า ช่วงหัวค่ำ ช่วงเมฆครึ้ม หรือฝนตกผมเลือกเปิดไฟหน้าครับ เพราะเมื่อช่วงมืดๆนี่ ไฟหน้าโอเคกว่า แต่ปัจจุบันหลายคนไม่ยอมเปิดไฟหน้าเวลากลางคืนเลย จะเปิดแต่ตัดหมอกหรือเดย์ไลท์วิ่งตลอดครับ ขนาดกระพริบไฟให้สัญญาณว่าไฟหน้าไม่เปิดก็ไม่สนใจที่จะเปิดไฟหน้ากันครับ