Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Pan Paitoonpong ที่ มกราคม 30, 2020, 17:25:22
-
สัปดาห์ก่อน ไปขับ City ที่ภาคเหนือ...ต้นสัปดาห์นี้ บินลงภูเก็ต ไปขับ Almera แล้วก็รีบเขียนให้เสร็จ เพราะเชื่อว่าหลายท่านคงอยากทราบว่าเป็นอย่างไร
ผมจะเขียนสั้นๆว่า ถ้าเอาเรื่องแรง City ชนะอย่างขาวสะอาดเลยครับ แต่ Almera นั้น แม้จะมีหลายจุดที่เห็นว่าพยายามลดต้นทุน แต่ด้วยความที่มันถูกกว่า City RS เป็นแสน ความลดต้นทุน กับแรงเครื่องที่น้อยกว่า ก็ดูสมเหตุสมผล ที่สำคัญคือ มันเป็น Almera แบบที่ผมเอ็นจอยจะขับซัดเล่นบนเขาได้ ขับสนุกขึ้น ผมว่าน่าจะเป็นรถที่สร้างโอกาสต่อยอดลมหายใจให้ Nissan ในไทยได้ครับ
ถ้าถามว่าผมเลือกอะไร ระหว่าง City กับ Almera ผมตอบง่ายๆเลยครับว่า City เพราะเรื่องเครื่อง และเรื่องการนั่งขับที่ผมสามารถแหกแข้งขาขยับตัวได้เยอะกว่า ถ้าสมมติว่าผมตัวผอม หรือ Almera แก้คอนโซลสูงเบียดขานั่นได้ ผมอาจจะมี Second thought
เรื่องอื่น ต้องรบกวนขอให้อ่านดู เพราะนี่จามฟึดฟัดแล้ว ไม่รู้ว่าไปได้หวัด Corona Camry Crown มาจากไหนหรือเปล่า อาจจะขอพักแล้วเดี๋ยวจะไปขุดพวกคลิปมาทำต่อให้ดูกันครับ
http://www.headlightmag.com/first-impression-nissan-almera-1-0l-turbo-vl/
-
มาแล้ว ๆ รถดีแน่นอนครับ
น่าจะออกตัว RS แบบ city ให้เบาะ สปอรต อัพเกรดไปอีก
-
โดนซิตตี้
0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง
เกียร์ D 13.5-13.7 วินาที
เกียร์ D + SPORT 12.7-12.8 วินาที
-
มีโชว์รูมหนึ่งลงทุนหุ้มสายไฟห้องเครื่องให้ลูกค้า แบบนี้ควรปรับปรุงมาตรฐานได้แล้ว
-
ก็ไม่เลวนะ สำหรับผมคิดว่าน่าสนใจกว่า Yaris Ativ
แต่ต้องหาเวลาไปขับใหม่ละ เพราะตอนที่ผมขับยังจับอาการอะไรได้ไม่ค่อยมาก แต่เครื่องยนต์นี่พอๆ กับ รถ 1.5 เดิมๆ
แต่ตอนนี้ให้ผมเลือก Eco car ผมเลือก City อยู่ดีครับ ถึงแม้ผมจะไม่ใช่สายแง้น แต่รถ Eco car ที่แรงเท่ารถ 1.8 ก็หาได้ง่ายๆ ซะที่ไหน
จริงๆ เสียดายที่เครื่อง Di 117 ม้าไม่มา ถ้ามาจริงคงต้องทำเยอะ เพื่อให้เป็น Eco car ซึ่งส่วนนี้ต้นทุนพัฒนาก็ไม่น้อยเลยนะ แล้วถ้ามาราคาเท่า City จะรับได้ไหมละ?
แต่พรายกระซิบมาว่า จะมีตัวท๊อปที่ราคา 6 แสนปลายๆ ตามมาด้วย ไม่รู้จริงป่ะ
-
ก็ไม่เลวนะ สำหรับผมคิดว่าน่าสนใจกว่า Yaris Ativ
แต่ต้องหาเวลาไปขับใหม่ละ เพราะตอนที่ผมขับยังจับอาการอะไรได้ไม่ค่อยมาก แต่เครื่องยนต์นี่พอๆ กับ รถ 1.5 เดิมๆ
แต่ตอนนี้ให้ผมเลือก Eco car ผมเลือก City อยู่ดีครับ ถึงแม้ผมจะไม่ใช่สายแง้น แต่รถ Eco car ที่แรงเท่ารถ 1.8 ก็หาได้ง่ายๆ ซะที่ไหน
จริงๆ เสียดายที่เครื่อง Di 117 ม้าไม่มา ถ้ามาจริงคงต้องทำเยอะ เพื่อให้เป็น Eco car ซึ่งส่วนนี้ต้นทุนพัฒนาก็ไม่น้อยเลยนะ แล้วถ้ามาราคาเท่า City จะรับได้ไหมละ?
แต่พรายกระซิบมาว่า จะมีตัวท๊อปที่ราคา 6 แสนปลายๆ ตามมาด้วย ไม่รู้จริงป่ะ
รุ่นที่มี เบาะหนังแน่ๆ แต่เครื่องน่าจะคงเดิม ผมคิดถูกแล้วที่ไป City
city มันไม่ใช่แค่แรงเท่า 1.8 แต่ในย่านการใช้งาน รอบ 2000-4000 มัน เหนือกว่า 2.0 ด้วยซ้ำไป
-
ต้องยอมรับว่ารุ่นนี้ทำให้หันกลับมามองค่ายนี้อีกครั้ง หลังจากตอนวัยรุ่นเคยรับช่วง cefiro ที่บ้านมาใช้อยู่พักนึง
-
อ่านจบมาถึงสรุปสุดท้าย
ชอบขับรถแบบสุด เล่นทุกโค้ง ไต่ทุกดอย สอยทุกทางตรง มีความสุขกับการตกแต่งภายใน -- มาสด้า2 D
ชอบขับสนุก มีพื้นที่กว้างขวาง เอาไปแต่งต่อเองได้กลบจุดอ่อนด้วยตัวเองwfh -- City
เน้นคุ้มค่า เครื่องพอมีแรง -- Almera
เน้นกว้างขวาง มีแอร์หลัง ส่วนลดเหยียบแสน แต่ยังอืด -- Ciaz
คาร์แรคเตอร์ 4 ค่ายนี้ชัด
-
ตลกตรงต้องปิด DRL เพื่อให้ผ่านมาตรฐานไอเสียนี่ล่ะครับ แสดงว่าใช้งานจริงอาจจะกินมากกว่า City นะ แต่ถ้านับเรื่องความคุ้มค่าแล้ว ดีกว่ารุ่นก่อนมากทีเดียวครับ
-
ตอนแรกกำลังจะพิมพ์ว่า DRL จะกินน้ำมันเท่าไหร่กันเชียว แต่ลองเชิจ wiki โอโห กินได้ upto 0.5mpg (0.2km/L)
https://en.m.wikipedia.org/wiki/Daytime_running_lamp
ถ้าปีนึงวิ่ง 20k กินน้ำมันสมมติ 20km/L =1000L = วิ่งเพิ่มได้ 200km ต่อปี
-
ผมว่า ที่อัดลมยาง 38 ปอนด์ ทุกล้อ ก็เพื่อให้ผ่านมาตรฐานมลภาวะ ด้วยเนี่ย ลดลงมาเหลือสัก 32 - 34 น่าจะกำลังดี
จริงๆ เครื่อง Almera ตัวนี้ ก็ไม่ขี้เหร่ ถือว่า ดีกว่าคู่แข่งด้วย แต่พอดี ดันเปิดตัวไล่กับ City และ City ดันเด่นเรื่องเครื่อง คนเลยมองว่า ด้อยไปเลย
-
เรื่องช่วงล่างสะเทือนแข็งและเบาะหลังนั่งไม่สบาย
นี่เป็นข้อที่แย่ลงมาก สำหรับ Almera ใหม่นะครับ
จุดขายที่เดิมมี มันหายไปหมดเลย :'(
แลกกับขับดีขึ้นแรงขึ้นสวยขึ้น และเตี้ยลง
สำหรับผมที่ไปลองกับครอบครัวมา ผมคงมองข้ามมันไปเลยครับ
ถึงจะมีข้อดี ที่เป็น Turbo ฉีด port ที่น่าจะทนกว่า city
แต่ขับแล้ว แข็งและแคบแบบนี่ ไม่ไหวจริงๆ
ชอบรุ่นเก่า มากกว่าครับ นั่งสบายไม่สะเทือน :)
-
ดีเกินอีโค่คาร์สำหรับผม แต่ถ้าให้เลือกรถเล็กอีกครั้งก็มีเอนเอียงไปทางซิตี้ เพราะเรื่องการบำรุงรักษาล้วนๆ เคยใช้ค่ายรองแล้วลำบากมากเลยสำหรับการบำรุงรักษา :)
-
แข็งกว่ามาสด้าอีกเหรอเนี่ย ผมว่ามาสด้าก็สุดแล้วนะ
-
สรุป 0-100 ยังพอๆ กับ Swift ที่ทำได้ 12.9 อยู่
แต่เบาะหลังก็นั่งสบายกว่าเยอะแหละนะ
-
ขอบคุณที่ช่วยโปรโมตร้านครับ(เครปป้าเฉื่อย)
รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ร้านมีชื่ออยู่่บนเว็บดังครับ
ปล.อย่าลบออกนะครับ 555+
-
สงสัยหาเวลาไปลองทั้ง อัลมีร่าและซิตี้ใหม่เหมือนกันครับ ยังไม่ได้ลองขับซักที
ภายนอกผมชอบอัลมีร่า แต่ผมแปลกที่ภายในผมกลับชอบเรียบๆแบบซิตี้มากกว่าแฮะ
-
เอ แบบนี้ตอนวัดยอดขาย Almera - City มันจะถูกจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกันด้วยเหรอครับ เห็นเอามาเทียบกันตลอด ๆ ทั้งๆ ที่ราคาต่างเป็นแสน
-
เอ แบบนี้ตอนวัดยอดขาย Almera - City มันจะถูกจัดอยู่ในกลุ่มเดียวกันด้วยเหรอครับ เห็นเอามาเทียบกันตลอด ๆ ทั้งๆ ที่ราคาต่างเป็นแสน
ผมว่ายอดขายดูเอาขำๆ พอครับ อย่าง 2ดีเซลเกือบแปดแสน ยังมารวมๆ กับMG3 ห้าแสนต้นๆ ได้เลย
อย่าดูราคา ดูขนาดตัวรถดีกว่าครับ
.......
เห็นผลทดสอบแล้ว รบกวนนิสสัน เอา 1.0ตัวนี้ ไปลง note นะครับ แล้วผมจะซื้อ....พอดีไม่สะดวกจะซื้อ 4ประตู ;)
เรื่องกินน้ำมัน กับตัดไฟ DRL เพื่อผ่านมาตราฐานไอเสียมันเกี่ยวกันนิดหน่อย แต่ไม่ใช่ว่า ไอเสียสูงแล้วจะกินมากนะ
ผมยกตัวอย่าง 2 เบนซิน สเปคยัดลมยาง 36 ตัดไฟหน้า DRL ออก(ตัวแรก) ผ่านมาตราฐานไอเสียแบบเฉียดๆ ... ถามว่ากินไหมก็ 24โลลิตร
รอเทส HLM กันดีกว่านะ
ถ้าให้เลือกซื้อ 2คันนี้ ผมไป อัลเมร่านะ ถ้ามันเทียบเท่าเครื่อง 1.5 จริงๆ มันก็ไปได้ทุกดอยทั่วไทยแล้วละครับ จากที่ขับ 2 มาทั่วไทย แรงไปก็โดนใบสั่งอยู่ดี...
-
รุ่นนี้ดูดีมากครับ ถ้าจะซื้อรถเก๋งเล็กสักคัน หนีไม่พ้น City, Almera แน่นอนครับ
-
เรื่องช่วงล่างสะเทือนแข็งและเบาะหลังนั่งไม่สบาย
นี่เป็นข้อที่แย่ลงมาก สำหรับ Almera ใหม่นะครับ
จุดขายที่เดิมมี มันหายไปหมดเลย :'(
แลกกับขับดีขึ้นแรงขึ้นสวยขึ้น และเตี้ยลง
สำหรับผมที่ไปลองกับครอบครัวมา ผมคงมองข้ามมันไปเลยครับ
ถึงจะมีข้อดี ที่เป็น Turbo ฉีด port ที่น่าจะทนกว่า city
แต่ขับแล้ว แข็งและแคบแบบนี่ ไม่ไหวจริงๆ
ชอบรุ่นเก่า มากกว่าครับ นั่งสบายไม่สะเทือน :)
อัลเมร่ารุ่นเก่านี่ขับแล้วโคลงเคลงอันตรายมากนะครับ ถ้าหากเกิดเหตุการ์ฉุกเฉินที่ต้องเปลี่ยนเลนเร็วหรือหักหลบอย่างนี้
-
สรุป 0-100 ยังพอๆ กับ Swift ที่ทำได้ 12.9 อยู่
แต่เบาะหลังก็นั่งสบายกว่าเยอะแหละนะ
อันนั้นพี่จิมขับครับ ถ้าพี่แพนขับก็จะน่าจะมี 13ปลายถึง 14ต้น ถ้าอัลเมร่า พี่จิมจับน่าจะมี 11วิกลางๆ ถึง12วิกลางๆ
-
เรื่องช่วงล่างสะเทือนแข็งและเบาะหลังนั่งไม่สบาย
นี่เป็นข้อที่แย่ลงมาก สำหรับ Almera ใหม่นะครับ
จุดขายที่เดิมมี มันหายไปหมดเลย :'(
แลกกับขับดีขึ้นแรงขึ้นสวยขึ้น และเตี้ยลง
สำหรับผมที่ไปลองกับครอบครัวมา ผมคงมองข้ามมันไปเลยครับ
ถึงจะมีข้อดี ที่เป็น Turbo ฉีด port ที่น่าจะทนกว่า city
แต่ขับแล้ว แข็งและแคบแบบนี่ ไม่ไหวจริงๆ
ชอบรุ่นเก่า มากกว่าครับ นั่งสบายไม่สะเทือน :)
เพราะพี่ขับมาแต่ ecocar เดิมๆ ก็เลยอาจจะชอบแบบนั้นน่ะครับ almera นั่งแกรัปบ่อยมาก ผมว่า มันเวียนหัวนิดนึง นุ่มแต่โคลงเคลง
-
ตอนแรกกำลังจะพิมพ์ว่า DRL จะกินน้ำมันเท่าไหร่กันเชียว แต่ลองเชิจ wiki โอโห กินได้ upto 0.5mpg (0.2km/L)
https://en.m.wikipedia.org/wiki/Daytime_running_lamp
ถ้าปีนึงวิ่ง 20k กินน้ำมันสมมติ 20km/L =1000L = วิ่งเพิ่มได้ 200km ต่อปี
คิดแบบกลมๆ ก็พอได้ครับ แต่จริงๆ มันทำงานเฉพาะเวลาไม่เปิดไฟหน้า ดังนั้นอาจเพิ่มได้แค่ 100 กม. หรือน้ำมันราวๆ 5-6 ลิตร ตีเป็นเงินร้อยกว่าบาท/ปี แลกกับเซฟตี้ยอมจ่ายครับ
ปล. DRL สว่างมากครับ กลางคินเคยปรับเทียบกับไฟหรี่ สว่างต่างกันสุดๆ แถมฟุ้งมาก ทิศทางกระจายไปทุกทิศทุกทาง กวนการขับรถตนอื่นด้วย
-
ความสวยระหว่าง city กับ almera สวยทั้งสองคัน แล้วแต่ชอบ
เป็นนิสสันที่ออกแบบได้สวยเข้ายุคสมัยครับ ดูไม่เบื่อ
ก็ตัดวัดใจกันครับ ระหว่างราคากับความแรง
แต่เพิ่มเงินอีกแสน ไม่รู้จะได้แรงเท่า city หรือเปล่า
ต่อให้ได้ ก็ไม่รู้ว่า จะหลุดเป็นชิ้นๆ ก่อนเวลาอันควรหรือเปล่า
แต่สำหรับคนใช้ระยะยาว ผมว่า ต้องรอดูก่อน อย่าใจร้อนครับ ดูกันสักพักค่อยซื้อก็ไม่สาย
-
เรื่องช่วงล่างสะเทือนแข็งและเบาะหลังนั่งไม่สบาย
นี่เป็นข้อที่แย่ลงมาก สำหรับ Almera ใหม่นะครับ
จุดขายที่เดิมมี มันหายไปหมดเลย :'(
แลกกับขับดีขึ้นแรงขึ้นสวยขึ้น และเตี้ยลง
สำหรับผมที่ไปลองกับครอบครัวมา ผมคงมองข้ามมันไปเลยครับ
ถึงจะมีข้อดี ที่เป็น Turbo ฉีด port ที่น่าจะทนกว่า city
แต่ขับแล้ว แข็งและแคบแบบนี่ ไม่ไหวจริงๆ
ชอบรุ่นเก่า มากกว่าครับ นั่งสบายไม่สะเทือน :)
เพราะพี่ขับมาแต่ ecocar เดิมๆ ก็เลยอาจจะชอบแบบนั้นน่ะครับ almera นั่งแกรัปบ่อยมาก ผมว่า มันเวียนหัวนิดนึง นุ่มแต่โคลงเคลง
รถที่มองว่ากว้างช่วงล่างใช่ว่าจะนั่งสบายครับ เพราะถ้าใครเคยนั่งหลังมาร์ชกับอัลเมร่าเก่า จะรู้ว่านั่งไม่สบายเลยเบาะรองก้นสั้นมากไม่รับกับสรีระ นี่คือเหตุผผลทำไมจึงเข้าใจว่ามันกว่าง แถมช่วงล่างโค้งย้วยนั่งไม่สบาย จะหลับก็หลับไม่ลง กลับกัน มาสด้าสองที่ว่าห้องโดยสารแคบ แต่เบาะหลังยัวนั่งสบายกว่ามีความสุขต่อการนั่งรถนานๆมากกว่ามาร์ชและอัลเมร่าเก่า รวมไปถึงความแข็งของช่วงล่างก็ยังให้ความรู้สึกว่านั่งสบายกว่ามาร์ชและอัลเมร่าเก่ามากครับ ไม่ดีเด้งโคลงเคลงจนต้องเวียนหัว
-
รอ ไมเนอร์เชนจ์ครัช
ยังขาด เบาะหนัง DRL เบาะหลังพับได้ กับnissan inteligent cruise control (จะเอา pro pilot มาเลยก็โอเคนะ 555)
นอกนั้น เพียงพอกับความต้องการและ
แต่แก้ไขเบาะให้รองรับสรีระ กับความคับแคบที่ทำให้ดันขา ก็จะดี
-
อ่านจบมาถึงสรุปสุดท้าย
ชอบขับรถแบบสุด เล่นทุกโค้ง ไต่ทุกดอย สอยทุกทางตรง มีความสุขกับการตกแต่งภายใน -- มาสด้า2 D
ชอบขับสนุก มีพื้นที่กว้างขวาง เอาไปแต่งต่อเองได้กลบจุดอ่อนด้วยตัวเองwfh -- City
เน้นคุ้มค่า เครื่องพอมีแรง -- Almera
เน้นกว้างขวาง มีแอร์หลัง ส่วนลดเหยียบแสน แต่ยังอืด -- Ciaz
คาร์แรคเตอร์ 4 ค่ายนี้ชัด
สรุปได้ดีเลยครับ
-
เจอคนรู้จักเพิ่งซื้อป้ายแดงมา (หญิง) ผมก็แซวว่าทำไมไม่ซื้อ City เขาก็ตอบว่าสนใจที่ราคาเป็นเหตุผลหลักและเมื่อไปลองขับแล้วมันโอเคเลยตัดสินใจซื้อโดยไม่ได้ไปสนใจคู่แข่งเลย
-
ถ้าผมซื้อ คงได้หาเกียร์ MT จาก Versa มาแปลงใส่แน่ ดูแล้วดีกว่า City อยู่เหมือนกัน
-
เปลี่ยนบุคลิกไปจากเดิมเยอะมาก ชอบคันเดิมตรงนั่งสบายเก็บเสียงดีและนิ่มนวลในความเร็วในเมือง เรียกว่าดีกว่าคู่แข่งในระดับของ segment เดียวกัน มาเจอคันนี้สิ่งที่ชอบหายเรียบ แถมเครื่องสั่นมาอีก คงต้องบอกว่าน่าจะเสียลูกค้าเก่าไปพอสมควรเลยทีเดียว แต่อาจได้ลูกค้ากลุ่มอื่นมาแทน ราคาทำมาถูกขนาดนี้ก็น่าจะเรียกยอดได้ไม่น้อย
-
เติมลมยางแบบปกติช่วงล่างก็นุ่มแล้วครับ ประมาณ 32-34 ปอนด์กำลังเฟิร์ม 38 PSI แข็งเกินไป แบบนี้ไม่ว่าคันไหนก็แข็ง ยังไงก็ต้องลดลมยาง เพราะยางยิ่งเก่ายิ่งแข็ง แถมช่วงล่าง บูชยางต่างๆจะเสื่อมสภาพไวไปด้วย เดี๋ยวพอช่วงล่างพังลูกค้าก็มาด่าว่ารถไม่ทน บางทีนิสสันก็เหมือนหาเรื่องใส่ตัวเอง
-
ไปนั่งเทียบกับ city มา
ชอบ almera มากกว่า ทั้งภายนอก ภายใน และความรู้สึกเเวลาอยู่หลังพวงมาลัย
-
รอดู defect ใครจะมากกว่ากัน
ชอบเครื่อง city แต่ชอบภายนอก almera เลือกยากเหมือนกัน
-
เติมลมยางแบบปกติช่วงล่างก็นุ่มแล้วครับ ประมาณ 32-34 ปอนด์กำลังเฟิร์ม 38 PSI แข็งเกินไป แบบนี้ไม่ว่าคันไหนก็แข็ง ยังไงก็ต้องลดลมยาง เพราะยางยิ่งเก่ายิ่งแข็ง แถมช่วงล่าง บูชยางต่างๆจะเสื่อมสภาพไวไปด้วย เดี๋ยวพอช่วงล่างพังลูกค้าก็มาด่าว่ารถไม่ทน บางทีนิสสันก็เหมือนหาเรื่องใส่ตัวเอง
mazda2 ก็หน้า36 หลัง33
ผมก็ว่าโคตรแข็ง
ผมเคยเหลือ หน้า30 หลัง25 ก็ยังแข็ง ผมว่าลมไม่ใช่ทั้งหมด
อย่างเทียน่า j32 ผมใส่ หน้า 40 หลัง 35 ยังนิ่มกว่าเยอะมากกกกกก
chr ใส่ 37 ทั้งหน้า และหลัง ยังนิ่มมาก
ส่วน almera ไม่รู้ แต่เค้าว่าแข็งกว่า mazda2 ไม่อยากจะนึกเลย ต้องลองๆๆๆ
-
ถ้าให้เลือกก็เอารุ่นนี้แหละ สวยทุกส่วน ลงตัว ออฟชั่นไม่ดูถูกคนซื้อ ความแรงผมไม่สนใจ จะเอามากดแข่งกันทุกไฟแดงรึไง มันก็รถ eco จ่ายกับข้าว ไม่ใช่รถสปอร์ต เอามาแต่งแง้นมากๆก็พังไว ประกันขาดอีก
-
หายไข้ไว ๆ นะครับคุณแพน 8)
จากขนาดรถรวม ๆ ชอบ almera นะ กว้างขวางนั่งสบาย