Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Deaw ที่ กุมภาพันธ์ 29, 2020, 10:39:24

หัวข้อ: คิดเล่นๆ เกี่ยวกับ ecocar phase 2
เริ่มหัวข้อโดย: Deaw ที่ กุมภาพันธ์ 29, 2020, 10:39:24
ทุกวันนี้มีแต่ B-segment ที่นำมาทำให้ผ่านมาตรฐาน ecocar phase 2 เพื่อสิทธิประโยชน์ทางภาษี
อย่างล่าสุด honda city ก็ลงทุนพัฒนาเครื่องยนต์ให้ผ่านเกณฑ์ได้
เลยคิดต่อไปว่าทำ honda ทำอีกนิดกับเครื่องยนต์นี้ แล้วจับวางลงใน
Mobilio
BR-V
HR-V
Civic
ซึ่งอาจจะทำยากหน่อยในเรื่องการผ่านมาตรฐานไอเสีย (เชื่อว่าเรื่องอัตราสิ้นเปลืองน่าจะทำให้ผ่านได้ไม่ยากอยู่แล้ว)
ถ้าทำได้ มันก็ใช้สิทธิทางภาษีได้ทั้งหมด เพราะดูจากข้อกำหนด ก็ไม่ได้มีระบุเรื่องขนาดตัวถังใดๆ
ต่อไปเราอาจเห็น eco car คันใหญ่ๆ ในหลายรูปแบบรถ ก็เป็นได้ใช่ไหมครับ
หัวข้อ: Re: คิดเล่นๆ เกี่ยวกับ ecocar phase 2
เริ่มหัวข้อโดย: ๑ ๒ ๓ ที่ กุมภาพันธ์ 29, 2020, 10:40:53
คงเท่านี้ละมั้งครับ  เพราะแต่ละรุ่น มีเอกลักษณ์ อัตตลักษณ์ ของเขาอยู่แล้ว
หัวข้อ: Re: คิดเล่นๆ เกี่ยวกับ ecocar phase 2
เริ่มหัวข้อโดย: Fong ที่ กุมภาพันธ์ 29, 2020, 10:46:35
เหมือนจะมีเงื่อนไข เรื่องจำนวนการผลิตด้วยอะครับ
หัวข้อ: Re: คิดเล่นๆ เกี่ยวกับ ecocar phase 2
เริ่มหัวข้อโดย: akewizard ที่ กุมภาพันธ์ 29, 2020, 12:05:01
ขออนุญาตคิดยาวๆ เลยจาก Eco car phase 2 ไปอีกนะครับ

ผมคิดว่า เรามาถึงช่วงปลายประวัติศาสตร์ของยุคเครื่องยนต์สันดาป ร้อยกว่าปีนี้แล้วครับ
ใน 10 ปีหรือไม่เกิน 20 ปีข้างหน้ามันจะผันตัวเข้าสู่ยุครถยนต์ไฟฟ้ากันหมด ในไทยอาจจะช้าหน่อยแต่ในยุโรปหรือหลายๆประเทศที่เจริญแล้วก็คงเปลี่ยนกันหมด

นิยาม ECO Car คงจะเปลี่ยนไป ไม่ใช่เรื่องของขนาดเครื่องยนต์หรือการผ่านมาตรฐานมลพิษอีกแล้ว
แต่อาจจะหมายถึงรถที่ผลิตโดนใช้ต้นทุนทางอุตสาหกรรมต่ำ ใช้ทรัพยากรไม่มาก รักษาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

ตามคำนิยามของคำว่า ECO จริงๆ ไม่ใช่แค่คำไว้ตีค่าว่าเป็นแค่รถยนต์ราคาถูกตามสังคมในปัจจุบัน
หัวข้อ: Re: คิดเล่นๆ เกี่ยวกับ ecocar phase 2
เริ่มหัวข้อโดย: deertesla ที่ กุมภาพันธ์ 29, 2020, 12:57:16
ผมมองว่าเงื่อนไขของทางภาครัฐในการสนับสนุนการผลิตอีโคคาร์โหดเกินไปและไม่เอื้อต่อการลงทุนของผู้ผลิตรถและผู้บริโภคนะครับ อาทิเช่นการบังคับให้ต้องผลิตขั้นต่ำจำนวนเท่าไหร่  การบังคับว่าเครื่องเบนซิลต้องไม่เกิน1300cc ดีเซลไม่เกิน1500ซีซี ซึ่งเครื่องยนต์บางรุ่นที่มีขนาดใหญ่กว่านี้ มีอัตราสิ้นเปลืองที่ดีกว่าอีโคคาร์หลายๆรุ่นเสียอีกนะครับ ไม่แปลกเลยที่ ณ ปัจจุบันจึงไม่ค่อยคึกคักมีผู้เล่นที่เข็นสินค้ามาวางตลาดกันดุดเดือดแบบช่วงแรกๆ
หัวข้อ: Re: คิดเล่นๆ เกี่ยวกับ ecocar phase 2
เริ่มหัวข้อโดย: GOBBS ที่ กุมภาพันธ์ 29, 2020, 15:15:21
ภาครัฐคิดมาดีแล้วนะ ผมว่า เรื่องระบุขั้นต่ำ เพราะหมายถึงการจ้างงาน จ้าง supplier ด้วย
ลดภาษีไม่ใช่แค่ดีกับคนซื้อ มลภาวะอย่างเดียว มันต้องทุกภาคส่วนด้วยครับ
และมันเหมือนจะบังคับกลายๆ ว่า จะต้องเป็นฐานการผลิตรถรุ่นนี้ส่งออกด้วย(บางรุ่นขายในไทย ยังไงก็ไม่น่าจะพอ) ช่วยเพิ่มดุลการค้าให้ประเทศด้วย
มันถึงจะคุ้มค่ากับการลดภาษีนะครับ
หัวข้อ: Re: คิดเล่นๆ เกี่ยวกับ ecocar phase 2
เริ่มหัวข้อโดย: apinui ที่ กุมภาพันธ์ 29, 2020, 19:32:52
ภาครัฐคิดมาดีแล้วนะ ผมว่า เรื่องระบุขั้นต่ำ เพราะหมายถึงการจ้างงาน จ้าง supplier ด้วย
ลดภาษีไม่ใช่แค่ดีกับคนซื้อ มลภาวะอย่างเดียว มันต้องทุกภาคส่วนด้วยครับ
และมันเหมือนจะบังคับกลายๆ ว่า จะต้องเป็นฐานการผลิตรถรุ่นนี้ส่งออกด้วย(บางรุ่นขายในไทย ยังไงก็ไม่น่าจะพอ) ช่วยเพิ่มดุลการค้าให้ประเทศด้วย
มันถึงจะคุ้มค่ากับการลดภาษีนะครับ

อันนี้ ถูกต้องเลยครับ ...

ที่คุณ deertesla บอกว่าโหด จริงๆไม่โหดเลย เพราะถ้ายึดถือผลประโยชน์ชาติและประชาชนเป็นสำคัญ ...

ต้องผลิตตามจำนวนขั้นต่ำที่กำหนด ถ้ามีการผลิตมาก นั่นหมายถึงการจ้างงาน แรงงานและอุตสาหกรรมอื่นที่เกี่ยวข้องจะเติบโตไปด้วย ..
และรถที่ซีซีใหญ่ อาจจะประหยัดกว่านั่นก็ถูกต้อง แต่การปล่อยไอเสียไม่มีทางน้อยกว่ารถซีซีน้อยๆแน่นอนครับ ... ดังนั้น ถ้ารถประหยัดด้วย ปล่อยมลพิษน้อยด้วยไม่เป็นประโยชน์กับคนหมู่มากมากกว่าหรอ ...

หัวข้อ: Re: คิดเล่นๆ เกี่ยวกับ ecocar phase 2
เริ่มหัวข้อโดย: deertesla ที่ กุมภาพันธ์ 29, 2020, 23:24:50
ภาครัฐคิดมาดีแล้วนะ ผมว่า เรื่องระบุขั้นต่ำ เพราะหมายถึงการจ้างงาน จ้าง supplier ด้วย
ลดภาษีไม่ใช่แค่ดีกับคนซื้อ มลภาวะอย่างเดียว มันต้องทุกภาคส่วนด้วยครับ
และมันเหมือนจะบังคับกลายๆ ว่า จะต้องเป็นฐานการผลิตรถรุ่นนี้ส่งออกด้วย(บางรุ่นขายในไทย ยังไงก็ไม่น่าจะพอ) ช่วยเพิ่มดุลการค้าให้ประเทศด้วย
มันถึงจะคุ้มค่ากับการลดภาษีนะครับ

อันนี้ ถูกต้องเลยครับ ...

ที่คุณ deertesla บอกว่าโหด จริงๆไม่โหดเลย เพราะถ้ายึดถือผลประโยชน์ชาติและประชาชนเป็นสำคัญ ...

ต้องผลิตตามจำนวนขั้นต่ำที่กำหนด ถ้ามีการผลิตมาก นั่นหมายถึงการจ้างงาน แรงงานและอุตสาหกรรมอื่นที่เกี่ยวข้องจะเติบโตไปด้วย ..
และรถที่ซีซีใหญ่ อาจจะประหยัดกว่านั่นก็ถูกต้อง แต่การปล่อยไอเสียไม่มีทางน้อยกว่ารถซีซีน้อยๆแน่นอนครับ ... ดังนั้น ถ้ารถประหยัดด้วย ปล่อยมลพิษน้อยด้วยไม่เป็นประโยชน์กับคนหมู่มากมากกว่าหรอ ...
พอดีเห็นพวกผู้ผลิตโอดครวญเรื่องภาครัฐไม่เอื้ออำนวยส่งเสริมการลงทุนเท่าที่ควรครับ. ส่วนเครื่องยนต์ไท่ควรจำกัดมันว่าต้องห้ามเกินที่1300หรือ1500cc ขอเพียงแค่ผ่านระดับมาตรฐานไอเสียและการสิ้นเปลืองน้ำมันกี่กิโลเมตรต่อลิตรก็พอนะครับ
หัวข้อ: Re: คิดเล่นๆ เกี่ยวกับ ecocar phase 2
เริ่มหัวข้อโดย: Odd_yim ที่ มีนาคม 01, 2020, 13:38:48
โครงการ Eco Car มองในภาพรวม ผมว่า Win-Win กันทุกฝ่ายนะครับ ผู้ผลิตกล้าใส่เทคโนโลยีต้นทุนแพง ในรถที่ขายในราคาที่ผู้บริโภค ยอมรับได้ ประเทศก็ลดการปล่อยมลพิษ การนำเข้าน้ำมัน มีการจ้างงานเพิ่ม ส่วน EV ผมมองว่า อีกสัก 5 ปี น่าจะเริ่มบูมครับ
หัวข้อ: Re: คิดเล่นๆ เกี่ยวกับ ecocar phase 2
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ มีนาคม 02, 2020, 09:51:29
ผมว่า เฟสนี้ น่าจะเฟสสุดท้ายแล้วล่ะครับ  ::) ::) ::) ::)