Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: champchamp ที่ พฤษภาคม 18, 2020, 08:40:17
-
-เป็นคนใช้รถไปทำงานทางไกลบ่อย ขับ300กิโลอาทิตย์ละครั้ง จะมี1สัปดาห์ของเดือน ที่ใช้รถประมาณ1500โล ที่เหลือบ้านออฟฟิสอยู่ในซอยเดียว
-ใช้รถ3-5ปีเปลี่ยน เลยมองเป็นมือสอง
-ขับรถไม่เร็วมาก100-120 แต่เจอเลนสวนบ่อยจึงอยากได้2.5
-คิดว่าหลังจากนี้น้ำมันไม่น่าจะแพงมาก คิดว่าทางไกล 13.6 กิโลเมตร/ลิตร รับได้
-ขับคนเดียว เบาะหลังแทบไม่ได้ใช้
ขอข้อแนะนำจากเพื่อนๆสมาชิกว่า
1 500,000บาท ราคานี้เหมาะสมมั้ย
2 มีอะไรที่น่งกังวลสำหรับรถรุ่นนี้
3 มีตัวเลือกที่น่าสนใจกว่านี้มั้ย
-
ราคาดี ขับดี นั่งสบาย. อะไหล่แพงกว่า toyota เล็กน้อย
น่าเล่นมาก
-
นิสสันเป็นรถที่ดีครับ แต่ถ้าจะใช้ต้องซ่อมให้ถึงมันถึงจะจบใช้ยาวๆ
-
ผมเคยทดลองขับช่วงสั้นๆ 2.5 เครื่องเร่งได้ดั่งใจ แต่ไม่ถึงกับแรงมาก ทัศนวิสัยดี ช่วงล่างเมื่อเจอถนนขรุขระเก็บอาการได้ดีมาก ห้องโดยสารเงียบต่อเสียงภายนอก
สำหรับผมเหมาะสำหรับขับทางไกล ยาวๆ อาจจะมีซิ่งบ้าง น่าจะตอบโจทย์เลยครับ
-
ถ้าโอเคกับ interior ผมว่ารถรุ่นนี้ใช้ได้ครับ ราคามือสองถูกด้วย สมรรถนะหายห่วงอาจจะกินน้ำมันกว่าเพื่อน
ร่วมกลุ่มไปนิดแต่ไม่ได้ถือว่าเลวร้าย สำหรับผมเป็น teana ที่สวยสุดนะ สำหรับภายนอกแต่ภายในไม่ผ่าน
สำหรับผม ถ้าชอบก้หาคันดีๆ ดูดีๆ ผมว่าใช้ได้อีก 3-4 ปีไม่น่ามีปัญหา
-
ราคาดี แต่ซื้อมือ 2 ต้องดูดีๆๆครับ เช็คไมล์ก่อนวิ่งไปกี่กิโล
-
Camry 2.5 Hybrid ไหมครับ
ใช้รถเยอะ ประหยัดกว่าแน่นอนทางไกล
ราคาอยู่ในงบ เรื่องเร่งแซงไม่ต้องเป็นกังวลแน่นอน
-
Camry 2.5 Hybrid ไหมครับ
ใช้รถเยอะ ประหยัดกว่าแน่นอนทางไกล
ราคาอยู่ในงบ เรื่องเร่งแซงไม่ต้องเป็นกังวลแน่นอน
บอดี้ไหนครับ
-
ถ้าใช้ทางไกลตัวนี้เหมาะที่สุดแล้วครับ ช่วงล่างดีสุด ปลอดภัยสุด แคมรี่ถ้าไม่ใช้ ACV70 อย่าไปมองเลยครับ สมรรถนะช่วงล่าง โครงสร้างตัวถัง ระบบความปลอดภัยต่างกันมาก อย่างน้อยเทียน่าให้ถุงลม 6 ใบ มี Blindspot มีเซ็นเซอร์หน้าหลัง มีระบบ Lane departure คอยเตือนขณะขับทางไกลแล้วเผลอหลับใน
ราคารถต้องดูที่สภาพ ระยะทางที่ผ่านการใช้งานและปีของรถ ที่สำคัญต้องดูว่ารถเคยชนมารึเปล่าต้องดูดีๆครับ เพราะราคา 500,000 ถือว่าถูกมาก น่าจะได้เป็นรถ ปี13-14 ถ้าปีใหม่กว่านี้ต้องดูดีๆว่าไม่ใช่รถเกิดอุบัติเหตุหนักมา
รถรุ่นนี้ค่าดูแลรักษาไม่เยอะครับ รถเป็น Global model อะไหล่มีเยอะราคาไม่ได้สูงอะไรครับ ตามคลาสของรถ
-
ผมว่าถ้าเทียบกับ accord camry ช่วง gen เดียวกัน teana ขับดีกว่าครับ ช่วงล่างนิ่ง เงียบขับสบาย
ค่าบำรุงรักษาก็รับได้ครับปัญหาอย่างเดียวของรุ่นนี้คือบุชเกียร์แตกครับ และกนน้ำมันกว่าคู่แข่งหน่อย
ถ้าเอามือสอมาแนะนำเข้าศูนย์เปลี่ยนบุชเกียร์พร้อมของเหลวต่างๆครับ
ราคามือ 2 ตอนนี้ถือว่าคุ้มมากครับยิ่งถ้าหา 2.5 ที่มี bose ได้
-
ตระกุลเทียน่าขับทางไกลฟินสุดละครับรถเงียบเบาะนั่งนานๆไม่ล้า ช่วงล่างดี ตัวนี้ไม่ค่อยมีอะไรจุกจิกด้วยมีแค่บุชเกีย300กว่าบาท
ติดอีกอย่างคืองานิอกแบบภายในดูหลงยุคไปบ้างถ้ารับได้เป็นรถที่ดีมากๆคันนึง
-
ผมใช้L33 2.5XV NAVIมาห้าปี
วิ่งไปแสนหก
มีปัญหาฟิวส์พาวเวอร์พวงมาลัยขาดไปทีนึง
นอกนั้นไม่เจออะไรนอกเหนือจากเช็คระยะ
ในกทม 10โล/ล
นอกเมือง13-14 สบายๆ
ถ้าจับมาได้ห้าหกแสน
ไมล์แสนต้นๆ
คว้าไว้เลยครับ
-
เคยใช้ตัวปี 2011 (J32 น่าจะพื้นฐานเดียวกัน) โอเคทุกอย่างไม่เคยเสีย (ขายไปตอนแสนโลพอดี) โดยรวมที่ครอบครองมา 3-4 ปีไม่ติดปัญหาอะไร นั่งสบายขับดีครับ หากหาสภาพดีๆราคาดีๆได้และชอบรูปลักษณ์อยู่แล้วก็น่าจะโอเค
-
รถ ธค 14 วิ่งแค่ 84,000
รถดี นั่งสบาย เงียบนิ่ง ตัวรถเหมาะกับขับทางไกล ให้ความมั่นใจได้ดี ตัวรถแสดงให้เห็นว่าเอาอยู่แม้ในยามคับขัน เป็นรถที่ขับแล้วจะรู้สึกมั่นใจและผ่อนคลายได้ดีครับ
อาการประจำรุ่น ไม่มีเสียหนัก มีแต่เล็กๆน้อยทั่วไป บู๊ชสายเกียร์ ยางลูกปืนหัวโช้ค เล็กๆน้อย เกียร์ดี มีคันที่วิ่งเกือบ 4 แสนโลแล้วด้วยเกียร์เดิมๆ
ผมเติม E20 ขับเรื่อยๆ ทางไกล 85% ใน กทม. อโศก-เพชรบุรี 15% ของระยะทาง 84,000 กม. เติมแล้วจด หารเฉลี่ยตั้งแต่ถังแรกป้ายแดง เลขออกมาได้ 15.25 กม/ลิตร ครับ ขับเรื่อยๆ 95-105 กม/ชม. นั่ง 2 คน แอร์ 26-27 ลมยาง 35 บรรทุกราว 20 กก.
กินมากกว่า Sienta ที่วิ่งเหมือนๆกันนิดเดียว(15.8 กม/ลิตร ในตารางเหลือ 15.5 เพราะช่วง covid วิ่งแต่ในเมืองครับ) ประหยัดกว่า Sylphy DIG ที่ขับเหมือนๆกันอีก(14.65 กม/ลิตร จาก 77777 กม) ทั้งที่ผลทดสอบ Sylphy DIG ประหยัดกว่า !!!! เอาจริง L33 ไม่ได้กินแบบที่คิด
ยืนยันถ้าใช้วิ่งทางไกล 100-110 กม/ชม ขับดี ไม่เท้าหนัก เน้นประหยัด มีเห็น 15-17 กม-ลิตร
ภาพสรุปจากตาราง excel ครับ ทั้งหมด 3 คันรวมกัน ที่ 210,000 กม ใน 5 ปี เฉลี่ยทั้ง ตจว.และในเมือง กทม. จดทุกตัวเลข เลยมีคำตอบให้ตัวเองถึง การสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ใช้ครับ
L33 เติม E10 แค่ช่วง 4-5000 กม แรกเท่านั้น ที่เหลือ E20 ล้วนๆ
ในเมืองกิน 7-9 กม/ลิตรนะครับ นอกเมือง 17-19 กม/ลิตร(สำหรบผมขับ) จึงได้เฉลี่ยทั้งหมดออกมาที่ 15.25 กม/ลิตร
-
รถ ธค 14 วิ่งแค่ 84,000
รถดี นั่งสบาย เงียบนิ่ง ตัวรถเหมาะกับขับทางไกล ให้ความมั่นใจได้ดี ตัวรถแสดงให้เห็นว่าเอาอยู่แม้ในยามคับขัน เป็นรถที่ขับแล้วจะรู้สึกมั่นใจและผ่อนคลายได้ดีครับ
อาการประจำรุ่น ไม่มีเสียหนัก มีแต่เล็กๆน้อยทั่วไป บู๊ชสายเกียร์ ยางลูกปืนหัวโช้ค เล็กๆน้อย เกียร์ดี มีคันที่วิ่งเกือบ 4 แสนโลแล้วด้วยเกียร์เดิมๆ
ผมเติม E20 ขับเรื่อยๆ ทางไกล 85% ใน กทม. อโศก-เพชรบุรี 15% ของระยะทาง 84,000 กม. เติมแล้วจด หารเฉลี่ยตั้งแต่ถังแรกป้ายแดง เลขออกมาได้ 15.25 กม/ลิตร ครับ ขับเรื่อยๆ 95-105 กม/ชม. นั่ง 2 คน แอร์ 26-27 ลมยาง 35 บรรทุกราว 20 กก.
กินมากกว่า Sienta ที่วิ่งเหมือนๆกันนิดเดียว(15.8 กม/ลิตร ในตารางเหลือ 15.5 เพราะช่วง covid วิ่งแต่ในเมืองครับ) ประหยัดกว่า Sylphy DIG ที่ขับเหมือนๆกันอีก(14.65 กม/ลิตร จาก 77777 กม) ทั้งที่ผลทดสอบ Sylphy DIG ประหยัดกว่า !!!! เอาจริง L33 ไม่ได้กินแบบที่คิด
ยืนยันถ้าใช้วิ่งทางไกล 100-110 กม/ชม ขับดี ไม่เท้าหนัก เน้นประหยัด มีเห็น 15-17 กม-ลิตร
ภาพสรุปจากตาราง excel ครับ ทั้งหมด 3 คันรวมกัน ที่ 210,000 กม ใน 5 ปี เฉลี่ยทั้ง ตจว.และในเมือง กทม. จดทุกตัวเลข เลยมีคำตอบให้ตัวเองถึง การสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ใช้ครับ
L33 เติม E10 แค่ช่วง 4-5000 กม แรกเท่านั้น ที่เหลือ E20 ล้วนๆ
ในเมืองกิน 7-9 กม/ลิตรนะครับ นอกเมือง 17-19 กม/ลิตร(สำหรบผมขับ) จึงได้เฉลี่ยทั้งหมดออกมาที่ 15.25 กม/ลิตร
ละเอียดมากเลยครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูลมากครับผม
ผมชอบภายนอกของรุ่นนี้มากเลย แต่ภายในดูด้อยไปเลย แต่ยังไงมีทีเด็ดที่ลำโพงทำให้กลบข้อเสียภายในไปสำหรับผม
-
รถ ธค 14 วิ่งแค่ 84,000
รถดี นั่งสบาย เงียบนิ่ง ตัวรถเหมาะกับขับทางไกล ให้ความมั่นใจได้ดี ตัวรถแสดงให้เห็นว่าเอาอยู่แม้ในยามคับขัน เป็นรถที่ขับแล้วจะรู้สึกมั่นใจและผ่อนคลายได้ดีครับ
อาการประจำรุ่น ไม่มีเสียหนัก มีแต่เล็กๆน้อยทั่วไป บู๊ชสายเกียร์ ยางลูกปืนหัวโช้ค เล็กๆน้อย เกียร์ดี มีคันที่วิ่งเกือบ 4 แสนโลแล้วด้วยเกียร์เดิมๆ
ผมเติม E20 ขับเรื่อยๆ ทางไกล 85% ใน กทม. อโศก-เพชรบุรี 15% ของระยะทาง 84,000 กม. เติมแล้วจด หารเฉลี่ยตั้งแต่ถังแรกป้ายแดง เลขออกมาได้ 15.25 กม/ลิตร ครับ ขับเรื่อยๆ 95-105 กม/ชม. นั่ง 2 คน แอร์ 26-27 ลมยาง 35 บรรทุกราว 20 กก.
กินมากกว่า Sienta ที่วิ่งเหมือนๆกันนิดเดียว(15.8 กม/ลิตร ในตารางเหลือ 15.5 เพราะช่วง covid วิ่งแต่ในเมืองครับ) ประหยัดกว่า Sylphy DIG ที่ขับเหมือนๆกันอีก(14.65 กม/ลิตร จาก 77777 กม) ทั้งที่ผลทดสอบ Sylphy DIG ประหยัดกว่า !!!! เอาจริง L33 ไม่ได้กินแบบที่คิด
ยืนยันถ้าใช้วิ่งทางไกล 100-110 กม/ชม ขับดี ไม่เท้าหนัก เน้นประหยัด มีเห็น 15-17 กม-ลิตร
ภาพสรุปจากตาราง excel ครับ ทั้งหมด 3 คันรวมกัน ที่ 210,000 กม ใน 5 ปี เฉลี่ยทั้ง ตจว.และในเมือง กทม. จดทุกตัวเลข เลยมีคำตอบให้ตัวเองถึง การสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ใช้ครับ
L33 เติม E10 แค่ช่วง 4-5000 กม แรกเท่านั้น ที่เหลือ E20 ล้วนๆ
ในเมืองกิน 7-9 กม/ลิตรนะครับ นอกเมือง 17-19 กม/ลิตร(สำหรบผมขับ) จึงได้เฉลี่ยทั้งหมดออกมาที่ 15.25 กม/ลิตร
ละเอียดมากเลยครับ ขอบคุณสำหรับข้อมูลมากครับผม
ผมชอบภายนอกของรุ่นนี้มากเลย แต่ภายในดูด้อยไปเลย แต่ยังไงมีทีเด็ดที่ลำโพงทำให้กลบข้อเสียภายในไปสำหรับผม
ตอนจะซื้อรถ มีโจทย์ว่า เลือก D-segment เบนซิน หรือ hybrid ดี
เมื่อพิจารณาจากเส้นทางที่ใช้ขับทางหลวง ตจว. 85-90% (ขับแบบรถประจำทางเลยครับ จากจุด A>B แล้วกลับ เช้า-เย็น) ทำให้คิดว่าด้วยระยะทางและความเร็วคงที่ที่ทำได้ รถน้ำมันน่าจะไม่สิ้นเปลืองมากนัก ซึ่งก็เป็นตามนั้น
เช้า 110 กม เย็น 110 กม. สัปดาห์ละ 6 วัน รถเงียบ นิ่ง ขับแล้วมั่นคงผ่อนคลาย ทำให้ระยะขับ 110 กม.เป็นเรื่องสบายกว่าติดๆใน กทม. 10-20 กม.มากมายครับ ขับตั้ง cruise เปิดแอร์ ฟัง Bose ไปเรื่อยๆ ทางไกลก็เป็นใกล้ครับ
ส่วนต่างค่าตัวราว 2-3 แสนบาทจากรถ hybrid เก็บมาเติมน้ำมันและไม่ต้องกังวลถึงการดูและระบบ hybrid ที่เพิ่มขึ้นมาอีกด้วย คิดว่าตัดสินใจไม่ผิดครับ