Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: pthiti ที่ มิถุนายน 06, 2020, 20:43:00
-
ผมกำลังจะซื้อรถ suv ครับ เลยสงสัยว่าฟิล์มยี่ห้อไหนดี และเคลือบสีกับเคลือบแก้วต่างกันยังไง แบ้วแนะนำอันนั้นรบกวนเพื่อนๆ แนะนำหน่อยครับ
-
ฟิลม์ติดรถดี ต่างกันแบบรู้สึกได้แน่นอน
-
ฟิล์มติดรถ จำเป็นแน่นอน
ถ้าชอบใส ก็ต้องไป 3m crystaline / v-kool
ถ้ามืดหน่อยได้ ก็ตัวเลือกเยอะหน่อย เย็นพอกับข้างบน ในราคาเบากว่า
เคลือบแก้วไม่มีควานเห็นครับ ปรกติก็ไม่ค่อยได้ล้างอยู่แล้ว
-
เรื่องฟิล์ม ส่วนตัวผมแนะนำฟิล์ม Ceramic. ครับ ใช้งานสะดวกดี เรื่องยี่ห้อก็แล้วแต่งบและแล้วแต่ชอบเลยครับ พยายามดูแบรนด์ที่มีมาตรฐานเข้าไว้ครับ
ส่วนเคลือบแก้ว อันนี้แล้วแต่ชอบครับ ถ้าชอบรถเงาๆ เคลือบไว้ก็ดีครับ เรื่องความเงามันได้แน่นอน เรื่องกันรอย มันก็ได้นิดๆหน่อยๆ แต่เปลี่ยนจากเป็นรอยที่ชั้นเล็คเกอร์หรือชั้นสี มาเป็นรอยบนชั้นเคลือบแก้วแทน (เอาจริงๆถ้าโดนลึกๆมากมันก็เอาไม่อยู่) ถ้าจะเคลือบจริงๆ นอกจากเลือกแบรนด์ เลือกร้านแล้ว แนะนำให้ดูเรื่อง After Service. ให้ดีๆครับ ว่าให้อะไรบ้าง เช่น เข้า Service กี่ครั้งต่อปี และครอบคลุมกี่ปี / ทำอะไรบ้างตอน Service / เคลมได้กี่ชิ้นหากรถเกิดอุบัติเหตุ เป็นต้น เพราะเราอาจจะถูกจูงใจด้วยราคาจนมองข้ามสิ่งเหล่านี้ไป แล้วพอเกิดเหตุขึ้นมาจริงๆ มันจะไม่ได้ตามที่เราคิดและเข้าใจในตอนแรก
-
ฟิลม์จำเป็นต้องติดแน่ๆครับ แดดเมืองไทยร้อนมากๆ ส่วนตัวผมใช้ 3M จริงๆยี่ห้ออื่นก็ได้ครับ บางคันติดแถมมาตอนออกรถผมยังแยกไม่ค่อยออกเลยว่าคันไหนร้อนกว่ากัน
ถ้า SUV มี sunroof อยากแนะนำให้ติดด้วยครับ หากหลังคาเป็นผ้าใบเปิด-ปิด มันกันแดดไม่ดีพอ
เรื่องเคลือบรถผมเคลือบทุกคันครับ เพราะผมล้างรถเอง การเคลือบรถทำให้ล้างง่ายมากๆ บางทีแค่ใช้เครื่องฉีดน้ำรอบคันก็เกือบสะอาดแล้ว เคลือบแก้วครั้งแรกลองหาร้านที่คุยได้ครับ มีตั้งแต่ราคา ×,000- ×0,000 ขึ้นกับน้ำยา เซอร์วิซ ฯลฯ ลองถามดูหลายๆเจ้าครับ
-
ขอบคุณทุกคำตอบครับ
-
เรื่องฟิล์ม ส่วนตัวผมแนะนำฟิล์ม Ceramic. ครับ ใช้งานสะดวกดี เรื่องยี่ห้อก็แล้วแต่งบและแล้วแต่ชอบเลยครับ พยายามดูแบรนด์ที่มีมาตรฐานเข้าไว้ครับ
ส่วนเคลือบแก้ว อันนี้แล้วแต่ชอบครับ ถ้าชอบรถเงาๆ เคลือบไว้ก็ดีครับ เรื่องความเงามันได้แน่นอน เรื่องกันรอย มันก็ได้นิดๆหน่อยๆ แต่เปลี่ยนจากเป็นรอยที่ชั้นเล็คเกอร์หรือชั้นสี มาเป็นรอยบนชั้นเคลือบแก้วแทน (เอาจริงๆถ้าโดนลึกๆมากมันก็เอาไม่อยู่) ถ้าจะเคลือบจริงๆ นอกจากเลือกแบรนด์ เลือกร้านแล้ว แนะนำให้ดูเรื่อง After Service. ให้ดีๆครับ ว่าให้อะไรบ้าง เช่น เข้า Service กี่ครั้งต่อปี และครอบคลุมกี่ปี / ทำอะไรบ้างตอน Service / เคลมได้กี่ชิ้นหากรถเกิดอุบัติเหตุ เป็นต้น เพราะเราอาจจะถูกจูงใจด้วยราคาจนมองข้ามสิ่งเหล่านี้ไป แล้วพอเกิดเหตุขึ้นมาจริงๆ มันจะไม่ได้ตามที่เราคิดและเข้าใจในตอนแรก
แล้วเคลือบแก้วที่ไหนดีครับ อันแพงจะดีต่อรถมากกว่าไหม แล้ว after sales ควรจะมีกี่ครั้งต่อปี
-
ฟิลม์จำเป็นต้องติดแน่ๆครับ แดดเมืองไทยร้อนมากๆ ส่วนตัวผมใช้ 3M จริงๆยี่ห้ออื่นก็ได้ครับ บางคันติดแถมมาตอนออกรถผมยังแยกไม่ค่อยออกเลยว่าคันไหนร้อนกว่ากัน
ถ้า SUV มี sunroof อยากแนะนำให้ติดด้วยครับ หากหลังคาเป็นผ้าใบเปิด-ปิด มันกันแดดไม่ดีพอ
เรื่องเคลือบรถผมเคลือบทุกคันครับ เพราะผมล้างรถเอง การเคลือบรถทำให้ล้างง่ายมากๆ บางทีแค่ใช้เครื่องฉีดน้ำรอบคันก็เกือบสะอาดแล้ว เคลือบแก้วครั้งแรกลองหาร้านที่คุยได้ครับ มีตั้งแต่ราคา ×,000- ×0,000 ขึ้นกับน้ำยา เซอร์วิซ ฯลฯ ลองถามดูหลายๆเจ้าครับ
ถ้า 15000 เอาอยู่ไหมครับ อย่าง g2c กับ cts ถือว่าไหม
-
ฟิล์มเป็นสิ่งจำเป็น เคลือบแก้วเป็นของสิ้นเปลืองครับ
ลองดูดีๆว่าร้านจะอยู่นานมั้ย ของผมทำไปได้ปีนึงจาก service 3 ปี ร้านเจ๊งปิดไปซะงั้น เลยไม่ได้ทำต่อ
-
เอาประสบการณ์มาแชร์แล้วกันนะครับ
ฟิล์ม ผมติดของ vkool มาสองคัน คันนึง vk70 รอบคัน อีกคัน vk 70 บานหน้า รอบคัน vk40 ใช้งานมา สิบกว่าปี ทั้งคู่ ยังกันร้อนดีอยู่ครับ
เคลือบแก้ว มีอยู่คันผมเคลือบที่ cts สมัยยังเป็น starwash อยู่ ทำมาก็คงจะสิบปีแล้วเหมือนกัน ก็ยังสวยดีอยู่ครับ แต่คันนี้ไม่ค่อยได้วิ่งไปไหนมากนะครับ จะวิ่งแค่ใกล้ๆเองครับ
-
เรื่องฟิล์ม ส่วนตัวผมแนะนำฟิล์ม Ceramic. ครับ ใช้งานสะดวกดี เรื่องยี่ห้อก็แล้วแต่งบและแล้วแต่ชอบเลยครับ พยายามดูแบรนด์ที่มีมาตรฐานเข้าไว้ครับ
ส่วนเคลือบแก้ว อันนี้แล้วแต่ชอบครับ ถ้าชอบรถเงาๆ เคลือบไว้ก็ดีครับ เรื่องความเงามันได้แน่นอน เรื่องกันรอย มันก็ได้นิดๆหน่อยๆ แต่เปลี่ยนจากเป็นรอยที่ชั้นเล็คเกอร์หรือชั้นสี มาเป็นรอยบนชั้นเคลือบแก้วแทน (เอาจริงๆถ้าโดนลึกๆมากมันก็เอาไม่อยู่) ถ้าจะเคลือบจริงๆ นอกจากเลือกแบรนด์ เลือกร้านแล้ว แนะนำให้ดูเรื่อง After Service. ให้ดีๆครับ ว่าให้อะไรบ้าง เช่น เข้า Service กี่ครั้งต่อปี และครอบคลุมกี่ปี / ทำอะไรบ้างตอน Service / เคลมได้กี่ชิ้นหากรถเกิดอุบัติเหตุ เป็นต้น เพราะเราอาจจะถูกจูงใจด้วยราคาจนมองข้ามสิ่งเหล่านี้ไป แล้วพอเกิดเหตุขึ้นมาจริงๆ มันจะไม่ได้ตามที่เราคิดและเข้าใจในตอนแรก
แล้วเคลือบแก้วที่ไหนดีครับ อันแพงจะดีต่อรถมากกว่าไหม แล้ว after sales ควรจะมีกี่ครั้งต่อปี
เรื่อง Service ที่เคยหาข้อมูลตอนทำรถตัวเอง มันจะมีอยู่ 2 แบบครับ คือ
1. Service = ขัดลบรอย ที่ชั้น Top Coat ของตัวเคลือบ พร้อมลงน้ำยาใหม่ ใช้เวลาอย่างต่ำๆ 3-4 ชั่วโมง ผลที่ได้คือ เงาเหมือนตอนทำใหม่แล้วรอยขนแมวต่างๆก็หายไป แต่จะเข้า Service. แค่ปีละ 1-# ครั้งครับ
2. Service = ล้างรถ ลงน้ำยา Treatment หรือ Wax ธรรมดา ใช้เวลาไม่นาน อันนี้อาจจะยังคงเงาอยู่ แต่รอยขนแมวจะไม่หาย ถ้าเป็นแบบนี้ ตัว Package มักจะให้เข้าบ่อยๆ
แนะนำว่รควรจะเลือกร้านที่ทำแบบที่ 1 ครับ Packagesที่ผมเลือก ก็ต้องเอารถ Service แบบนี้ปีละ 2 ครั้ง
เรื่องร้าน ส่วนผมแนะนำให้เลือกร้านที่มีความมั่นคงหน่อย เพราะการซื้อพวกนี้มันเป็นระยะยาว ซึ่งอาจจะมีโอกาสที่ร้านมันปิดตัวก่อนจะครบ Package ก็ได้ครับ
-
เรื่องฟิล์ม ผมว่าต้องดูงบก่อน
แบบถูก หลาย 5-6 พัน รอบคัน
แบบกลางๆ หมื่นกว่า รอบคัน
แบบแพง 2 พันกว่า รอบคัน
เพราะถ้ารู้งบ มันก็จะมาสู่ตัวเลือกครับ ผมติดรอบคัน ยันหลังหากระจก panoramic เลย
ส่วนการเคลือบแก้ว รถผมก็เคลือบแก้ว ผมว่าบางที มันก็รู้สึกว่าดี บางทีก็เฉยๆ นะ
ถ้ารถล้างบ่อย ผมว่าเอาเงินที่เคลือบเกือบไปเป็นค่าล้างรถลงแว็กซ์ ดีกว่า ได้เงา ใส ฉ่ำ กว่า ไม่จำเป็นต้องเคลือกแก้วเลยนะ
เคลือบแกัวมันเหมือนช่วยในการรักษาผิวสี พวกที่ไม่ค่อยได้ล้างรถ หรือ ป้องกันคราบสกปรกมากกว่า
ราคาเคลือบแก้วแบบไหน แล้วแต่แพ็คเกจ ราคา แล้ว การบำรุงรักษา ถ้าพวกแพงๆ หน่อย ก็จะมีแบบมาลงแก้วเคลือบแก้วตลอดอายุ 3-5 ปี ไรงี้
แต่ปัญหาของเคลือบแก้ว บางทีเจอน้ำที่เป็นด่างกัด หรือ มีคราบขนแมว หรือ คราบน้ำแห้งติด(ดูตัวอย่างกระจกหน้ารถเป็นต้น) ซึ่งจะทำให้ดูและยาก ต้องไปขัดออก ลงแก้วใหม่ หลังคานี่ตัวดีเลย ชอบเจอปัญหากัน
-
ฟิล์ม กับ เคลือบแก้ว
เคลือบแก้ว ผมมองว่า สิ้นเปลืองนะ .. ถ้าจะจ่ายค่าเคลือบแก้ว หมื่นห้า .. ผมเอา หมื่นห้า มาลงกับฟิล์มเกรดดีๆตัว Top 2 - 3 หมื่นบาท แล้วไปเคลือบสีธรรมดา กับ เจ้าดีๆ ได้ผลไม่ต่างกันครับ
ฟิล์มดีๆ ขับกลางวันแดดจัดๆ ขับที่มืดสนิท มีผลมากมายครับ
-
ขอตอบเรื่องเคลือบแก้วนะคะ จำเป็นไหม คงแล้วแต่เจ้าของรถ แต่ถ้าทำแล้วดีไหม ตอบว่าดีแน่ๆ ล้างรถง่ายขึ้นมาก เวลาเปื้นฝุ่นหรือคราบมันจะไม่เกาะแน่น ล้างออกง่าย รถก็ดูเงา เห็นชัดเวลาจอดข้างๆรถที่ไม่ได้ทำ ฮาาา
CTS ราคาค่อนข้างสูงแต่คุณภาพก็ตามนั้นค่ะ เซอร์วิส 6เดือนครั้ง เสียค่าล้างรถต่างหาก ที่บ้านทำกับเจ้านี้ทุกคัน แต่ในขณะเดียวกันก็มีเจ้าอื่นๆที่ราคาย่อมเยาว์งมาหน่อย ต่างกันที่ชั้นหนาของตัวเคลือบมั้งคะ
-
ถ้างบถึง จัด ฟิล์ม เซรามิค ไปเลยครับ ต่างจากตัวธรรมดาแน่นอน ไอร้อนต่างกันแบบรู้สึกได้
นอกนั้นอยากให้ดู ฝีมือช่าง ด้วยนะครับ เพราะฟิล์มดี แต่ช่างติดไม่ดี ก็ต้องกลับไปแก้ครับ