Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: TY ที่ มิถุนายน 26, 2020, 09:16:24

หัวข้อ: สิ่งที่ต้องคำนึง ถ้ารับช่วงต่อ BMW F10 528i M Sport (LCI)
เริ่มหัวข้อโดย: TY ที่ มิถุนายน 26, 2020, 09:16:24
ตอนนี้ใช้ Accord Hybrid G9 กำลังหาวิธีเติมฝันและกิเลสของตนครับ

เลยกำลังมองหา BMW 5-Series (F10) 528i M Sport (ปี 2015-2016) ด้วยราคาตลาดมือสองที่ค่อนข้างสวยงาม
และรถยังดูดี  เลยคิดว่าน่าจะยังสามารถใช้ได้ยาวๆ 7-10 ปีต่อจากนี้ โดยที่ยังคงแลดูภูมิฐานตามอายุของผมที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

หาข้อมูลมาจากหลายๆแหล่ง ก็ยังไม่ได้พบปัญหาหนักมาก (มีหนักบางเคส แต่น้อยมากๆที่ว่าต้องซ่อมทีหลักแสน)

ตอนนี้สิ่งที่กังวลจากการรับช่วงต่อมีประมาณนี้ครับ (เพราะว่ารถหมด BSI แล้ว)

1. ปัญหายอดฮิตประจำรุ่น
2. รับมาแล้ว ควรจะเปลี่ยนอะไรบ้างครับ เช่น ของเหลว ช่วงล่าง บลาๆ (กรณีที่เจ้าของเดิมไม่ได้ทำมาให้ หรือ สุ่มเสี่ยง)
3. น้ำมันเกียร์ เห็นหลายๆที่เคยแจ้งว่า ใน BSI จะเป็น lifetime เลย ซึ่งตรงนี้ผมคิดว่า ควรเปลี่ยนทิ้งไป ดีกว่าใช่ไหมครับ
4. ราคาอะไหล่ ถ้าเบิกศูนย์ของใหม่เลย น่าจะค่อนข้างแพงตามตัวรถป้ายแดง แล้วถ้าหาทางเลือกเช่น ของมือสอง หรือ import สภาพดีๆหน่อย สามารถนำมาใช้ทดแทนกันได้ใช่ไหมครับ

ขอบคุณสำหรับคำตอบของทุกๆท่านไว้ล่วงหน้าครับผม
หัวข้อ: Re: สิ่งที่ต้องคำนึง ถ้ารับช่วงต่อ BMW F10 528i M Sport (LCI)
เริ่มหัวข้อโดย: NavaneS ที่ มิถุนายน 26, 2020, 10:31:10
ผมเปลี่ยนจาก G9 มา F10 จะครบ5ปีอาทิตย์หน้า
ตั้งแต่ใช้มา5ปี ก้อใช้งานได้ดีมากๆ

สิ่งที่ควรคำนึงถึง ยอดฮิตในรถผม  ยางรองแท่นเครื่องเปลี่ยนไป2รอบ อาการคือสตาร์ทแล้วเครื่องสั่น แต่เปลี่ยนก้อหายสนิทนะครับ อย่างเดียวเลยครับ
หัวข้อ: Re: สิ่งที่ต้องคำนึง ถ้ารับช่วงต่อ BMW F10 528i M Sport (LCI)
เริ่มหัวข้อโดย: Nui ที่ มิถุนายน 26, 2020, 12:34:25
3. น้ำมันเกียร์เปลี่ยนได้เปลี่ยนเลยครับ ใน BSI เค้าไม่เปลี่ยนให้ครับ เว้นแต่เจ้าของจะแจ้งให้เค้าเปลี่ยนซึ่งมีค่าใช้จ่าย อย่าไปเชื่อคำว่า lifetime ครับ
4. หาอู่นอกที่ไว้ใจได้ครับ อะไหล่แท้ถูกกว่าศูนย์แน่นอน
หัวข้อ: Re: สิ่งที่ต้องคำนึง ถ้ารับช่วงต่อ BMW F10 528i M Sport (LCI)
เริ่มหัวข้อโดย: neung23 ที่ มิถุนายน 26, 2020, 13:05:36
ปั้มแรงดันสูง ร่างโซ่ เทอโบ

หัวข้อ: Re: สิ่งที่ต้องคำนึง ถ้ารับช่วงต่อ BMW F10 528i M Sport (LCI)
เริ่มหัวข้อโดย: E.P.W ที่ มิถุนายน 27, 2020, 01:43:02
เคสคุณคล้ายๆผมเลยต่างกันที่ผมมาจาก Teana J32

ผมเองก็เพิ่งเปลี่ยนมาใช้ F10 528i msport ได้ราวๆ 1 ปีพอดีครับรถเป็นตัว LCI แล้วปี เดียวกันกับที่คุณกำลังจะหาเลย
ขอบอกว่ารถขับดีมากๆครับแรง หนึบ นุ่ม รู้ใจคนขับถ้าคุณชอบขับรถได้รถสภาพดีๆมาน่าจะมีความสุขมากๆครับ
ผมขอตอบตามที่ถามตามนี้นะครับ

1. ปัญหายอดฮิตประจำรุ่น
>>>>> เท่าที่ผมหาข้อมูลมาไม่เจอเหมือนกันครับงงเลยเจอแต่พวกมือจับประตูลอกซึ่งเปลี่ยนทีเดียวก็จบ แต่ประเด็นที่ผมว่าน่าห่วงแต่คนไม่ค่อยพูดคือเรื่อง Auto brake Hold ครับมันมีโอกาสที่จะ fail ได้โดยที่เราไม่มีทางรู้ถ้า fail ขึ้นมาเบรคมันจะล็อคล้อไว้ต้องขึ้นรถสไลด์ หรือไม่ก็ถอดล้อมาปลดสายไฟมอเตอร์อย่างเดียวครับ ผมแก้ปัญหาโดยการไม่ใช้มันแทนละกัน เพราะไหนๆมันก็ทำงานไม่ค่อยถูกจริตเวลารถติดอยู่แล้ว อีกปัญหานึงน่าจะเป็นเรื่องแอร์ครับ คอมแอร์พังหรือตู้แอร์รั่ว หนักหน่วงครับครึ่งแสนแต่พวกนี้เปลี่ยนแล้วก็ใช้ได้นานครับ

2. รับมาแล้ว ควรจะเปลี่ยนอะไรบ้างครับ เช่น ของเหลว ช่วงล่าง บลาๆ (กรณีที่เจ้าของเดิมไม่ได้ทำมาให้ หรือ สุ่มเสี่ยง)
>>>>> เอากุญแจเข้า 0 ไปเช็คเลยครับว่าที่ผ่านมารถเปลี่ยนอะไรไปแล้วบ้างอะไรที่ยังไม่เปลี่ยนก็ทำใจว่าคงใกล้ได้เวลาเปลี่ยนครับส่วนใหญ่ก็เป้นพวกช่วงล่างครับเช่นปีกนก ยางแท่นเครื่อง/เกียร์ ยกเว้นว่ารถมี BSI เหลืออยู่หรือเจ้าของเก่ายกชุดมาให้แล้วก็สบายไปครับเซฟไปเยอะส่วนพวกของเหลวอย่างน้ำมันเครื่องก็เปลี่ยนตามระยะครับเปลี่ยน 0 ก็ได้ครับราวๆ 4000 +- รวมกรองแล้ว น้ำมันเบรคก็ควรเปลี่ยนครับเปลี่ยน 0 ราวๆ 2-3000 รวมไล่ลม

3. น้ำมันเกียร์ เห็นหลายๆที่เคยแจ้งว่า ใน BSI จะเป็น lifetime เลย ซึ่งตรงนี้ผมคิดว่า ควรเปลี่ยนทิ้งไป ดีกว่าใช่ไหมครับ
>>>>> คำถามเดียวกับผมเลยครับแล้วสุดท้ายก็มาคิดได้ว่าคำว่า lifetime ของ bmw มันคือกี่ปีละ? เราคาดหวังว่ารถเราจะใช้ 10 แต่ขอโทษครับ bmw บอกว่า lifetime คือเท่าไหร่? ไม่มีใครบอกได้ ผมเลยใช้วิถีหาข้อมูลจากผู้ผลิตเกียร์ให้ bmw ซึ่งก็คือ ZF ในเว็ปเค้าโชว์หราเลยครับว่าเกียร์ของเค้าควรได้รับการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันทุกๆ 100,000 กิโล หรือ 8 ปี เพราะงั้นเปลี่ยนไปเถอะครับนอกจากนี้น้ำมันเฟืองท้ายก็เปลี่ยนๆไปพร้อมๆกันเลยครับ
ค่าเปลี่ยนน้ำมันเกียร์กับ 0 bmw อยู่ที่ราวๆ 25000 (แบบมีส่วนลดบ้างแล้ว) จริงๆแพงที่อ่างน้ำมันเกียร์ครับมันต้องเปลี่ยนด้วยตัวนี้ราวๆ 15000 ส่วนน้ำมันเฟืองท้ายไม่กี่พันครับ


4. ราคาอะไหล่ ถ้าเบิกศูนย์ของใหม่เลย น่าจะค่อนข้างแพงตามตัวรถป้ายแดง แล้วถ้าหาทางเลือกเช่น ของมือสอง หรือ import สภาพดีๆหน่อย สามารถนำมาใช้ทดแทนกันได้ใช่ไหมครับ
>>>>> จากที่ผมสัมผัสมาจริงๆผมว่าอะไหล่ 0 bmw ไม่ได้แพงเวอร์นะครับส่วนที่แพงคือจะเป็นค่าแรงในการทำซะมากว่า อย่างล่าสุดผมเจอรอยคราบน้ำมันในเครื่องยนต์ (ผมชอบเปิดกระโปรงรถเช็คเป็นครั้งคราว) คิดว่ายังรั่วไม่เยอะก็เอาเข้า 0 ไปเปลี่ยนประเก็นสรุปโดนเปลี่ยนประเก็นไป 4 ตัว ฝาครอบวาวล์, อ่างน้ำมัน, ฐานกรอง, ประเก็นท้ายเครื่อง ค่าประเก็นราวๆ 5-6000 จิปาทะราวๆ 5000 แต่รวมค่าแรงแล้วจบที่ราวๆ 26k

ส่วนพวกอะไหล่ช่วงล่างที่เป็น mechanic พวกปีกนก จานเบรค หรืออะไรที่เกี่ยวกับช่วงล่างลองหาอู่ข้างนอกดูครับของเทียบ OEM ราคาไม่เวอร์ ยกเว้นผ้าเบรคผมแนะนำหาร้านที่สามารถหาผ้าเบรค bmw แท้ๆได้ดีกว่าครับแพงกว่าหน่อยแต่ดีกว่าจริงๆ ส่วนโช้คถ้าพังถือโอกาสหาพวก Bilstine KW มาใส่เลยครับ

กรองอากาศในรถถ้าของ 0 ก็แพงเอาเรื่องครับส่วนของข้างนอกถูกกว่าเยอะผมเพิ่งลองใช้ของ 0 ดูยังบอกความต่างไม่ได้แต่ของเทียบรู้สึกมีกลิ่นเข้านิดๆครับ (ซึ่งคนใช้มือ 1ก็บอกว่ามีกลิ่นเข้าจากระบบ air circulation auto)

แบตเตอรี่ที่มากับรถเป้นตัวที่ทนมากของผมติดรถมา 6 ปีแล้วยังไม่เคยมีประวัติเปลี่ยนเลยแต่เร็วๆนี้กำลังจะเปลี่ยนแล้วละครับกำลังหาข้อมูลอยู่แต่คิดว่าน่าจะจบที่ Vatar เพราะแบตติดรถมาก็ยี่ห้อนี้ ราคาเอาเรื่องครับตัว 105 amp AGM ผมคาดหวังให้มันใช้ได้นานๆเท่าของติดรถจากที่โทรถามที่ต่างๆบางที่บอก 5 ปี บางที่บอกได้แค่ 2 ปี บางที่บอกใช้แบตธรรมดาก็พอแล้วใช้ได้เหมือนกัน แต่ผมห่วงเรื่องความเสถียรในการจ่ายไฟและความเร็วในการชาร์จแบตกลับจากระบบ regenerative brake เลยคิดว่ายอมเจ็บแต่จบดีกว่า ระบบไฟฟ้าของรถยุโรปมันมีอะไรเยอะครับที่เราไม่รู้แต่มันมีกลัวระบบรวนแล้วแก้ไม่จบ ถ้าใครมีคำแนะนำชี้แนะได้เลยนะครับ

สุดท้ายนี้อยากให้ระวังคือรถมันกลัวน้ำนะครับเจอน้ำท่วมอย่าลุย เพราะ rack ของรุ่นนี้ไฟฟ้าล้วนแล้วมันวางตำแหน่งให้อยู่ต่ำมากๆเพื่อดึง CG ให้ต่ำ ถ้าเจอน้ำเข้าไปก็ 2 แสนกว่าครับเท่าที่ผมทราบข้อมูลมานะหาของเทียบไม่มีของเซียงกงก็ได้ยินว่าครึ่งแสน

สรุปนะครับได้รถแล้วเตรียมเงินไว้ซัก 150,000 เพื่อเก็บงานนะครับอย่าเพิ่งไปแต่งรถยกเว้นงบเหลือๆจริงๆ อาจจะไม่ถึงตามนี้หรอกพูดเผื่อไว้ เพียงแต่รถถ้ามันถึงแสนโลแล้วอะไรต้องเปลี่ยนตามระยะเพื่อให้มันกลับมาฟิตเกือบเท่าเดิมมันก็มีครับอย่างต่ำๆถ้ารถมาแสนโลจริงยางก็ต้องเปลี่ยนละครับ
หัวข้อ: Re: สิ่งที่ต้องคำนึง ถ้ารับช่วงต่อ BMW F10 528i M Sport (LCI)
เริ่มหัวข้อโดย: secrecyguy ที่ มิถุนายน 27, 2020, 13:03:54
ยางเเท่นเครื่อง ประเก็นวาล์ว ยางเบ้าโช้ค ผ้าเบรค เตรียมใจไว้รอเตรียมเงินไว้เปลี่ยนครับ
หัวข้อ: Re: สิ่งที่ต้องคำนึง ถ้ารับช่วงต่อ BMW F10 528i M Sport (LCI)
เริ่มหัวข้อโดย: TY ที่ มิถุนายน 27, 2020, 15:03:48
ขอบคุณพี่ๆทุกๆท่านมากๆเลยครับ

ดูแล้วไม่น่ากังวลอย่างที่คิด
แถมยังดูยิ่งน่าใช้ด้วยซ้ำ

ติดตรงหายากมากๆเลยครับตัวนี้ เจอแต่สีขาว ไม่ก็เป็นเครื่องดีเซล  ;D
หัวข้อ: Re: สิ่งที่ต้องคำนึง ถ้ารับช่วงต่อ BMW F10 528i M Sport (LCI)
เริ่มหัวข้อโดย: Mmoshimoshii ที่ มิถุนายน 27, 2020, 21:54:56
มาแชร์ข้อมูล แต่เป็น 528i Luxury ครับ

ที่เคยเปลี่ยนตอนยังไม่หมด BSI ก็มี แบต ยางแท่นเครื่อง ซีลเกียร์ ซีลท้ายเครื่อง คอมแอร์ วาร์วน้ำ ยางรองเบ้าโชค

นอกจากนี้ก็ ซ่อมบำรุงตามระยะทางครับ

สำหรับการใช้งานไม่จุกจิก แต่ช่วงล่างยวบไปหน่อย ขับเร็วๆแล้วไม่ค่อยมั่นใจ

และรู้สึกว่า เครื่องไม่ค่อยแรงครับ
หัวข้อ: Re: สิ่งที่ต้องคำนึง ถ้ารับช่วงต่อ BMW F10 528i M Sport (LCI)
เริ่มหัวข้อโดย: TY ที่ มิถุนายน 28, 2020, 16:17:54
มาแชร์ข้อมูล แต่เป็น 528i Luxury ครับ

ที่เคยเปลี่ยนตอนยังไม่หมด BSI ก็มี แบต ยางแท่นเครื่อง ซีลเกียร์ ซีลท้ายเครื่อง คอมแอร์ วาร์วน้ำ ยางรองเบ้าโชค

นอกจากนี้ก็ ซ่อมบำรุงตามระยะทางครับ

สำหรับการใช้งานไม่จุกจิก แต่ช่วงล่างยวบไปหน่อย ขับเร็วๆแล้วไม่ค่อยมั่นใจ

และรู้สึกว่า เครื่องไม่ค่อยแรงครับ


ขอบคุณมากครับผม

งั้นเดี๋ยวต้องไปเช็คประวัติว่าเค้าเคลม BSI อะไรไปบ้างแล้ว

ส่วนโช้ค รอหมดสภาพ เดี๋ยวหาพวก Bilstein, Koni มาสวมแทน น่าจะเฟิร์มขึ้น (แต่เดี๋ยวรอเทส original ก่อนครับ)

ส่วนเรื่องความแรง ของพี่น่าจะต้องไปปลดแรงม้าละคร้าบบบ  ;D