Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: DiKiBoyZ ที่ กรกฎาคม 15, 2020, 12:56:53
-
เพื่อนๆ พี่ๆ สมช. คิดไหมว่า ทำไมค่ายรองๆ อย่าง Nissan, Mitsubishi , Mazda , Ford
ที่มักจะถูกมองว่า มีอะไรยังเป็นจุดด้อย ต้องแก้ไขหรือปรับปรุง ไม่ว่าจะเป็นจากตัวรถ ศูนย์ หรือ บริการ ที่ สู้ค่ายหลักๆ อย่าง Toyota Honda Isuzu ไม่ได้
สัก 2-3 ข้อ ที่เอ่ยมา แบบว่า เห้ย มันใช่เลย แบบนี้เลย
สำหรับผมนะ
Nissan -> เจ้าพ่อตลาดวาย คำนี้ใช้ได้เสมอ ออฟชั่นมาไม่สุด มาก็ช้า แถมหน้าตาทั้งภายนอก ภายในก็ยังขัดใจ ไม่ค่อยร่วมสมัยเท่าไหร่ แถมการตลาดไม่ดีอีก
Mitsubishi -> เรื่องการตกแต่ง ภายใน เหมือนลด cost มากไปหน่อย ตอน Pajero ออกมา รู้สึกได้เลยว่าภายในมันดูๆ แห้งๆ ท่อๆ ง่ายๆ ชัดมาก
Mazda -> หลักๆ เลย คือ ปัญหาตัวรถ การวิเคราะห์และแก้ไขจากศูนย์บริการ และค่าอะไหล่แพง
Ford -> คล้ายๆ Mazda แต่ปัญหาตัวรถผมว่าหนักกว่า Mazda กี่ gen ต่อกี่ gen หลายรุ่นปัญหาคาราคาซัง ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน
ใน สายตา สมช. คิดว่ายังไงบ้างครับ
ปล.ตัวผมเอง คนรายรอบตัว และ คนในครอบครัว มีใช้ 4 ยี่ห้อนี้ (ผมถึรถยี่ห้อตลาดด้วย พอให้เปรียบเทียบได้อยู่)
-
ผมไม่ระบุค่ายละกันครับ
1.บริการหลังการขาย
2.การดูแล เมื่อสินค้ามีปัญหา
3.รูปทรงการออกแบบ
4.การวิเคราะห์ตลาด ทัศนะคติของผู้บริหารระดับสูง
จริงๆรถไม่ได้แย่นะ อยู่ที่การแก้ปัญหา ถ้าวิเคราะห์ตรงจุด แก้ปัญหาขาด
สินค้าล็อตก่อนมีการเรียกไปปรับปรุง ลูกค้ามีหรือจะไม่รัก
-
ขอพูดถึงจุดดีของรถ 3 ค่ายใหญ่ที่เคยเจอมาแทนก็แล้วกันครับ
Toyota เนี่ยที่บ้านผมใช้มา 2-3 คันล่ะส่วนใหญ่ก็กระบะ 4X4 กับ Fortuner ใช้มาคันละไม่ต่ำกว่า 2 แสนกิโลไม่เคยเจอปัญหาแปลกๆกวนใจเลย
เต็มที่ก็แค่สายพานดังที่แสนกว่ากิโลเพราะลืมเปลี่ยน
Isuzu ผมพึ่งเข้าใจที่คนชอบล้อกันว่าอีผุผุ .... คือ ใช้รถกันยันตัวถังผุก็ยังวิ่งได้
ที่บ้านผมเคยใช้แวน Wanderer II มาหลายปีแล้วขายให้ลุงไปใช้ต่อ ทุกวันนี้นัดรวมญาติต่างจังหวัดก็ยังเห็นลุงขับคันนี้มา น่าจะเกือบ 25 ปีได้แล้วมั้ง
(แต่ตรงหลังคาเริ่มผุบ้างแล้วเหมือนกัน ฝนตกหนักๆแล้วมีน้ำเข้า)
Honda รถออกแบบดี ถูกใจคนทั่วไป การใช้งานก็ดี
แต่อะไหล่เปราะบางไปหน่อย เอะอะก็เดียวเสีย เดี๋ยวก็มีเสียงกวนใจ
แต่ข้อได้เปรียบคือซ่อมง่าย ไม่แพงมาก ซ่อมแล้วจบ หรือถ้าไม่จบก็หาข้อมูลตามกลุ่มตามเวปไปหาที่ซ่อมจนจบได้
ของแต่งเยอะถึงเยอะมาก พูดแล้วก็นึกสมัย Civic FD ของแต่งเพียบเลย
ค่ายรองๆแค่ทำให้ได้เหมือนพวกค่ายใหญ่ๆ ผมว่าได้ใจคนไทยไม่ยากคับ
-
ในมิติตลาดในไทยผมมองว่า
Nissan ไม่สวย ใช้งานไปมันโทรม ขับขี่ไม่ค่อยดี
- ควรรื้องานออกแบบ วัสดุที่ใช้
Mazda ปันหาเยอะ แก้ปันหาช้า
- ควรเน้นพื้นที่ใช้สอย. กับแก้ปัญหาคุณภาพ ขอให้ปรับเรื่องเครื่องยนตร์ การขับขี่แบบฟอร์ด ผมว่ามาสด้ารุ่งแน่
Ford
- ควรขายเก๋ง เอารุ่นสวยๆมาขาย พวกinnovation ไม่ต้องใส่มา
ลองเอาbasic ใส่มาก็พอ
-
กระทู้นี้ขอปักหมุดเก็บไว้ครับ เนื้อหามีประโยชน์มาก
-
มิตซูบิชิ ผมเห็นด้วยนะ ยิ่งได้รื้อแงะแกะดู ลดต้นทุนในส่วนที่ซ่อนจริงๆ รวมถึงการออกแบบทางวิศวกรรม คือเปรียบเทียบก็เห็นว่ามาสด้าปราณีตกว่า
ส่วนฮอนด้า ใช้ระยะยาวจริงๆ ผมว่าโคตรจุกจิก cityzx เคสเหมือนคุณ lonely เลย , FD นี่ปวดหัวจะเก็บงานให้เนี๊ยบ อะไหล่เปราะด้วย
ฟอร์ดกับมาสด้า อออกแบบหลายอย่างมาเนี๊ยบเกินไป ซ่อมยากรื้อเยอะ อะไหล่บางตัวเปราะจริงๆ
รถขับดีขับเนี๊ยบ
ผมว่าคลับเค้าเหนียวแน่นดีครับ
ใครเจออะไรที่แก้ปัญหาได้เจออู่แก้ไขได้ diy ได้ก็ช่วยกัน
-
จริงๆ mazda เริ่มมาถูกทางนะ ความสวยงาม ออฟชั่น ค่อนข้างถูกใจคนไทย สามารถดึงลูกค้าจากค่ายเจ้าตลาดได้
แต่ด้วยบริการหลังการขายและปัญหาที่พบระหว่างใช้งานจึงไม่สามารถรักษาลูกค้าให้ซื้อคันที่ 2 และ 3 ได้ น่าเสียดาย... :-X
-
อย่างน้อย subaru ก็ไม่ใช่ตลาดรอง 555
แต่จัดเป็นตลาดทางเลือกเลย :'( :'( :'(
-
ผมใช้มาครบทุกค่ายที่พูดถึงแล้ว บอกสั้นๆได้เลยว่า ค่ายรองไม่ใช่ได้มาเพราะโชคช่วย หรือเพราะคนซื้ออคติ
-
ผมมองเรื่อง Reliability กับ Durability มาเป็นหลักนะครับ ถ้าทำให้รถใช้ได้นานถึง 20 ปีโดยยังไว้ใจได้ ปัญหาน้อยๆ ซ่อมถูกๆ จะเรียกใช้ตอนไหนก็ไม่กลัวปัญหาจุกจิกหรือไปตายกลางทาง ถ้ายี่ห้อรองทำได้ ผมว่าจะแข่งกับยี่ห้อหลักได้มากเลย อย่างอีผุๆที่ทนมากก็ครองใจคนใช้กระบะมายาวนาน โตโยต้าที่เก่งเรื่องนี้อย่างเดียว ทั้งๆที่ดีไซน์ห่วย กั๊กออพชั่น สมรรถนะด้อยกว่าเพื่อน ก็ยังอยู่ในกลุ่มผู้นำเบอร์ 1-2 ของตลาดมาตลอด
-
ไอเรื่องอย่าง บ.หลังการขาย QC ค่า maintenance แนวๆนี้หลายค่ายคงรู้และมีคนพูดเยอะแล้ว
ที่อยากเพิ่มคือ มองให้ออกว่าปัญหาจริงๆคืออะไร และอย่าป๊อดครับ
- Nissan แม่มเห็น C-Seg ขายไม่ดี SUV ขายไม่ดี เลิกขายเลยทั้ง Juke ทั้ง Sylphy ทั้ง X-Trail
มาดู Toyota ไหน Ch-r กับ Altis ขายไม่ดีหรอ กรูทำรุ่นใหม่มาขายแม่มเลย เปิดตัวมาไม่ถึงอาทิตย์เผลอๆยอดจองแซงบางค่ายทั้งปีแล้วมั้ง
ความมั่นใจมันสร้างกันเป็นสิบๆปี แต่ Nissan Thai ทำลายมันลงภายในเวลา 6 เดือน ทั้งดั๊มพ์ราคา เปิดตัวรถแล้วไม่มีรถขาย ข่าวยกเลิกการทำตลาดหลายๆ Segment
ถามว่าตอนนี้มีใครกล้ายืนยันบ้างว่า Nissan จะยังอยู่ในไทยไปอีก 10 ปี++ วันดีคืนดีถ้ามีจีนมาซื้อโรงงานแบบ Chev อาจจะไปเลยก็ได้
- Suzuki รถน่าใช้หลายตัวนะ แต่ป๊อด เอารถอินโดมาอัพราคาซัก 30% ขายคนไทยไปวันๆ
- Mazda นี่ตัวรถโอเคแล้ว มาไทยเกือบทุกรุ่นที่มี ปัญหาคือ QC และหลังการขายอย่างที่รู้กัน
- Mitsu นี่ก็เหมือนเอา Nissan กะ Suzuki มาผสมกัน แต่พอเข้าใจได้เพราะในระดับโลกโมเดลก็ไม่ได้เยอะมากอยู่แล้ว แต่จริงๆ ASX หรือ Eclipse X ควรมาซักรุ่นนึง(ตั้งนานแล้ว)นะ
- Ford อันนี้เรียกว่าฆ่าตัวตายทั้ง C ทั้ง B-Seg ช่วยไม่ได้ แต่ถ้า Bronco มาผลิตนะ เกิดแน่ อย่างที่บอก อย่าป๊อด
อยากขายแต่กระบะกับ SUV ก็มาให้มันเต็มๆ เห็นปัญหา Ranger กับ Everest ก็นิ่งๆแล้วนะตั้งแต่ได้เครื่องใหม่ สาธุขอให้พี่ออสฯงอแงอยากได้เถอะ เผื่อจะได้อานิสงค์มาผลิตบ้านเรา
- MG ลื้อจะหยุดแค่ HS กับ ZS ไม่ได้นะ ช่วงหลังๆนี่เงียบไปหน่อย แต่รถยังขายได้ก็ตามสบาย
-
สำหรับผมนะ
Nissan- วัสดุภายในไม่ได้ดูแย่แต่ในอดีตที่ผ่านมากลับลอกและทนแดดได้ไม่ดีเท่าหลายยี่ห้อ ดีไซน์ภายใน
โบราณตลอดแต่อันนี้รถของnissan ที่ออกหลังปี 2018 มาดีขึ้นพอสมควร เมื่อปีใหม่ผมเห็น altima&sentra ใหม่ที่อเมริกาภายในสวยขึ้นเยอะ เรื่องเจ้าพ่อตลาดวายผมเฉยๆเพราะถ้าตัวproduct น่าสนใจจริงๆมันก็ยังน่าสนใจดีอยู่ดี ศูนย์บริการโอเคนะไม่ใช่ปัญหาของค่ายนี้มากมาย
Mitsubishi- วัสดุพลาสติกแข็งเยอะมากๆคือสิ่งที่ผมเห็นยี่ห้อนี้ทำเสมอสำหรับภายใน ดูราคาถูกพอสมควรเลย รถภายนอกหน้าตาโอเคหลายรุ่นแต่มันดูไม่ค่อยมีราคา เครื่องยนต์เป็นสิ่งที่ยี่ห้อนี้พอได้ ช่วงล่างผมไม่ชอบไม่ใช่แย่แต่มันโดดแปลกๆ คือเกาะแต่อาการแปลกๆ และ 1 ในรถไม่กี่คันที่ผมใช้หรือเคยขับแล้วผมไม่ชอบมากๆ 1 ในนั้นคือ pjs 2.5 vgt ตัวเก่า เสียงเครื่องดังสนั่นมากยังดีที่อัตราเร่งไม่เลว พวงมาลัยผมเกลียดสุดๆ หนักและทดโคดเยอะ หมุนจนเมื่อย (ผมไม่ชอบรถที่พวงมาลัยทดเยอะอยู่แล้ว) ช่วงล่างพอจะเกาะอยู่แต่อาการจั้มก้แปลกๆ แต่โดยรวมผมไม่ได้ไม่ชอบยี่ห้อนี้ครับ หลายรุ่นก้สวยน่าใช้อยู่ ศูนย์บริการก้ใช้ได้ครับ
Mazda- ยี่ห้อนี้ไม่มีอะไรมาก ความทนทานของตัวรถที่ยังเป็นรองและศูนย์บริการที่ไว้ใจได้ยากมาก และนโยบายบริษัทแม่แปลกๆ ที่เหลือโอเคหมดละนะ ในบรรดาไม่ใช่เจ้าตลาดผมมองว่ายี่ห้อนี้ทำรถมาได้น่าสนใจที่สุด
Ford- ผมว่า ranger & everest พอได้นะ สมรรถนะดี ออปชั่นดี ปัญหางอแงจุกจิก ไม่ได้เยอะมากมายแต่แน่ล่ะ คงไม่ถึงขั้น dmax revo แต่ถ้ารถเก๋งลืมไปได้เลยในไทย ซึ่งเค้าก้ไม่ได้ขายเท่าไหร่แล้วอะเนอะ 555 มีศูนย์บริการที่ดีบ้างแย่บ้าง ไม่สามารถสบายใจเวลาเข้าศูนย์เท่าไหร่ ประมาณนี้ครับ
-
Mazda นี่ถ้าบริการหลังการขาย QC ดีนี่น่ากลัวมากนะ มีโอกาส ท็อป 3ได้เลย คือภายนอก ภายในดี จัดออปชั่นก็ดี ราคาถามว่าแพงไหม แพงนะ แต่เทียบกะสิ่งที่ได้ถือว่าโอเค อยากให้มาสด้ามาอ่านเยอะๆ คุณต้องใส่ใจผู้บริโภคมากกว่านี้ ค่าแรง คิดตามจริง อะไหล่ บางทีก็ลดๆราคาลงหน่อย เรื่องเซลล์ เรื่องหลังการขาย คุณต้องดูแลให้ทั่วถึง
Ford นี่ ต้องไปปรับตั้งแต่ที่เมกาเลย เพราะที่เมกาก็ใช่ย่อย ต้องปรับทัศนคติ ปรับการตลาด กลยุทธ์ คุณภาพการผลิต ไรพวกนี้ เพราะถ้ายังเป็นแบบนี้อยู่ได้ตามเชฟไปแน่นอน ที่อยู่ได้เพราะ Ranger กะ Everest นะ ไม่มีสองคันนี้ ไม่น่ารอด
Nissan มัวแต่มรเกมการเมืองในองค์กร แต่ไม่สนใจที่จะพัฒนาตัวเอง พัฒนากลยุทธ์การตลาด เจ้าพ่อตลาดวาย คิดไรก็ทำช้าๆ ข้อดี คือออปชั่นเค้าจัดมาดี แต่การสื่อสารการตลาดห่วยแตก พัฒนา qc อีกสักหน่อย น่าจะดีกว่านี้
Mitsu โดยรวมก็ดีนะ แต่การออกแบบขออีกนิดหน่อยเหอะ ภายในทำให้มันดูมีราคามากกว่านี้ นอกนั้น การบริการก็กลางๆ อะไรก็อยู่กลางๆก็โอเคอยู่แล้ว
Suzuki มาดีนะ แต่ยังไม่สุด พยายามต่อไป
MG นี่สิมาแรง เป็นเบอร์รองที่น่ากลัว แต่ต้องพัฒนาการบริการ และ qcต่อไปนะ เอาใจช่วยเลย เป็นค่ายที่พัฒนาไวมาก
Subaru จะเอาไงกะประเทศไทยก็ทำให้มันชัดเจนมากขึ้นไปเลยครับ ไหนๆก็ตั้งโรงงานที่ไทยแล้ว คิดแล้วก็พัฒนาสิ่งใหม่ๆหน่อยเหอะครับ หน้าตานี่ โตต้าจ๋ามาก คือปรับการออกแบบอีกหน่อยก็โอเค
-
ประสบการณ์ส่วนตัวเลยนะครับ
Mazda : เกียร์พังที่ 46,000 ศูนย์รับไว้แต่ผลสุดท้ายไม่จบ ต้องยก ราคาสูงมาก เลยขายทิ้งไป เข้าอู่นอกซ่อมได้แป๊ปเดียวประมาณ 1 หมื่นโลก็ลาโลกอีก เลยเลิกใช้
Ford : นี่หมาดๆเลย รถที่ไร่ เรนเจอร์ เกียร์พังตอนลงเขา คนเฝ้าไร่เกือบตาย ซ่อม 80,000 ขายไปแล้ว ฟอร์ดตีมาแพงมากหลายแสน
-
อารีย์มิตรมาสด้า ศูนย์บริการไม่แพ้ค่ายใหญ่นะขอบอก (สมแล้วที่ Mazda ปักหลักในไทยก่อนค่ายใหญ่บ้างยี่ห้อซะอีก)
-
Mazda... จริงแล้วควรจะมายืนหนึ่งได้ในกลุ่มรถนั่ง ทุกอย่างดูดี
ดึงกลุ่มลูกค้าจาก เจ้าใหญ่ได้จาก Skyactiv
ปัญหา
-บริการหลังการขาย
-ยอดขายที่มาก ศูนย์ไม่รองรับการเข้าบริการ
-ทุกอย่างแพงไปหมด อะไรก็เป็นเงินเป็นทอง ชูธง
-เมื่อรถมีปัญหา มันคือปัญหาจริงๆ ต้องรอคิว หมดประกันจะไม่มีใยดีกัน ดีตอนใหม่ๆ
-พนักงานหลายๆ ศูนย์ยังไม่มืออาชีพ (เหมือนพร้อมจะออกหางานใหม่)
คันที่ 2 จึงไม่ตามมา
-
Toyota Honda ไม่เคยให้ออฟชั่นจัดเต็ม และวัสดุภายในสวยๆ ฉันท์ใด
Ford Mazda ก็ไม่เคยทำรถให้มีความทนทาน และปรับปรุงการบริการ ฉันท์นั้น
-
ถ้าวิเคราะห์กันดีๆแล้ว คนที่มาตีได้ ทำผลงานได้ยอดเยี่ยม คือมาสด้า
ต้องยกความดีความชอบให้กับคนออกแบบ รูปทรง รวมถึงวัสดุภายใน ทำได้ดีมาก ขนาดว่าตัวรถแคบกว่าชาวบ้านยังสามารถทำยอดขายได้น่าพอใจ
แต่........ดันมาตกม้าตายในเรื่อง ของการออกแบบเครื่องยนต์ ความทนทาน อะไรที่ไม่ควรเสียดันเสีย รวมถึงค่าซ่อมที่ ค่อนข้างสูงเกินเลเวลของรถ
ในขณะเดียวกับ ระบบ 0 ควบรวมถึงการดูแล ความสะดวก ยังสู้เจ้าตลาดไม่ได้
ทำให้ คันที่ 2 สำหรับฐานลูกค้าเก่านี่รักษาตัวเลขได้ไม่มาก เป็นจุดที่น่าเสียดายมาก
เท่าที่เห็น คือคนยอมรับการออกแบบของแบรนด์รอง ได้ไม่ได้ ซึ่งเหนือกว่าเจ้าตลาดซะอีก แต่............ท้ายที่สุด
สิ่งที่คนต้องการ (สำหรับคนเน้นใช้งาน) คือ ความทนทาน การบำรุงรักษาที่ง่าย ราคาไม่โหดร้าย ประหยัด ไม่มีปัญหาให้กวนใจ
สามารถใช้งานได้อย่างสบาย ให้รถเกิดมาเพื่อรับใช้ ไม่ใช่ไปรับใช้รถ
ซึ่งอันนี้คือหัวใจหลักว่าทำไม คนยังคงรักเจ้าตลาด อยู่ ;)
-
ขอแสดงความเห็นในส่วนของยี่ห้อที่เคยใช้มานะครับ
1. มิตซู ใช้เยอะที่สุด 6 คัน : จริงๆแล้วรถยนต์มิตซูทนนะครับ บ้านผมใช้มาตั้งแต่ Lancer ตากลม ท้ายL , Colt, strada(2คัน) , Pajero sport 3.2 และล่าสุด Pajero sport Elite edition หลักๆด้านสมรรถนะ เครื่องยนต์ ช่วงล่าง ความแกร่ง ผมว่าไม่แพ้เจ้าตลาด เผลอๆอาจจะดีกว่าบางมุม โดยเฉพาะช่วงล่าง
ทั้ง4คัน(ยกเว้น strada) ยังใช้งานได้ดี ตัว Lancer ตากลมท้าย L นี่ยังเครื่องเดิมๆเลยครับ แค่ทำสี ทำเบาะ เครื่องเสียงใหม่ , Colt ก็เช่นกัน
2คันนี้ ให้ญาติผู้ใหญ่ ใช้ไปไร่ ไปทุ่ง ตากแดดตากฝน ทนครับ
ปัญหามิตซู ผมว่าอยู่ที่ อะไหล่บางพาร์ท ไม่ทน ยิ่งพวกอิเล็กทรอนิกส์ ผมว่าเขาเลือกใช้ซัพพลายเออร์ที่ลดต้นทุนไปหน่อย อย่าง Pajero sport 3.2 ของผม จอนี่คุณภาพแย่มาก สายแพร์หลวม ซ่อมแล้วซ่อมอีกไม่หาย จนหมดประกัน ก็เลยไม่ซ่อมละ เปลี่ยนของใหม่ไปเลย เสียงเครื่องเสียงก็คุณภาพไม่ดี , ช็อกแอ๊พไม่ดี แตกบ่อย เปลี่ยนแล้วก็ยังแตก , แกนพวงมาลัยคลอนสั่น , การประกอบไม่ดี มีเสียงดังก๊อกๆแก๊กๆ ตามเสาบี คอนโซล เป็นต้น
รวมถึงค่าอะไหล่ต่างๆ แพงครับ เมื่อเทียบกับเจ้าตลาด ตัวรองโช๊คคู่นึง5000กว่าของศูนย์ เป็นต้น
อีกอย่างคือศูนย์บริการไม่ได้มาตรฐาน คำว่ามาตรฐาน คือมันต้องเหมือนๆกันในทุกสาขา แต่นี่บางศูนย์ซ่อมบางอย่างไม่ได้ บางศูนย์ห้องรับรองแทบไม่มีอะไรให้ลูกค้าเลย จำนวนศูนย์ก็น้อย + การดูแลหลังการขายก็เช่นกัน รถไม่ค่อยมีการเรียกไปแก้ไขพาร์ทต่างๆที่มีปัญหา ต้องโทรไปถามเพราะได้ข่าวมาจากแหล่งอื่น จนท.ต้องปรึกษากันอีกว่าจริงรึเปล่า (ขนาดจนท.ศูนย์ ยังไม่ทราบข้อมูล) แล้วก็หนังสือแจ้งเตือนให้ไปเปลี่ยนก็ช้า SMS หรือ email แจ้งก็ไม่มี ระบบฐานข้อมูลลูกค้าก็แย่ ไม่เชื่อมโยงกันทุกสาขาทั่วประเทศ
+ ช่างก็ไม่ชำนาญ ต้องวัดใจกันว่า จะเจอช่างดีๆเก่งๆรึเปล่า ไม่งั้นไม่จบ ต้องกลับไปใหม่อีก
อะไรประมาณนี้
สรุปคือราคาถูกกว่าเขา เพราะเอาเงินไปพัฒนาผลิตภัณฑ์มากกว่าไปพัฒนาศูนย์ บริการหลังการขาย และทีมช่างให้มีประสบการณ์
เรื่องเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง ผมไม่กลัวเลย ใช้มิตซู ไม่เคยมีปัญหาเรื่องดับกลางทาง หรือรถยก อะไรแบบนั้น ห่วงอย่างอื่นมากกว่า
ตอนนี้ Elite ตัวใหม่ ก็ล้ำ option ก็ล้ำกว่าคู่แข่งหลายอย่าง แต่ปัญหาอื่นๆ ยังเหมือนเดิม เฮ้อ
2. ฮอนด้า ใช้มาทั้งหมด 3 คัน คือ accord, Jazz, HRV ตัวแอคคอร์ด มีปัญหาเรื่องเครื่องยนต์และหม้อน้ำ แก้หลายครั้งอยู่ ส่วน Jazz + HRV ตอนนี้ไม่มีปัญหาอะไร นอกจากตัววัสดุและการประกอบ ที่ขล่อกแขล่กๆ ตลอด อย่าง HRV ของแท้ ต้องได้กันชนตก ตกตั้งแต่ออกมา1เดือน แล้วเสียงจุกๆจิกๆดังรอบคัน อะไรมันจะเป็นทุกคันขนาดนั้น 3 คัน เป็นหมดทั้ง3คัน
ศูนย์บริการดีครับ ไม่น่าเป็นห่วงอะไรเลย ห้องรับรองในทุกๆสาขา ใกล้เคียงกันหมด ไม่ได้แตกต่างอย่างมิตซู ที่มีทั้งดีเลิศกับย่ำแย่
การบริการหลังการขายดีมาก มี SMS แจ้งโปรโมชั่นตลอด รวมถึง Honda Loyalty ต่างๆ ( You are the one) โทรติดตาม สอบถามความพึงพอใจ
แจ้งเตือนเข้าเช็คระยะ
๋Jazz + HRV 2 คันนี้ ใช้ยาวๆ เลยครับ ไม่ได้กังวลอะไรเลย Jazz2009 ใช้มา 11-12ปี 2แสนกว่าโลละ ตอนนี้ก็ยังใช้อยู่ ไม่เคยมีปัญหาเรื่องเครื่องยนต์อะไร แต่มีปัญหาเรื่องช่วงล่างบ้าง ตามระยะเวลามัน เช่น บูชฉีดขาด ส่วน accord ปัญหาเยอะ ขายทิ้งไปแล้ว
HRV ยังใช้ได้ดี ไม่เจอปัญหาอะไร แต่รถเพิ่ง3ปี ต้องดูกันยาวๆ เพราะตัวนี้ใช้ CVT คันของญาติ ซื้อมาพร้อมกัน เกียร์ไปละครับ
3. Mazda ใช้ 1 คัน คือ Mazda2 2011 ตัวก่อน skyactive ใช้ดีเช่นกัน เรื่องเครื่องไม่เคยจุกจิก แอร์เย็นฉ่ำ เกียร์ก็ไม่เคยมีปัญหา แต่ปัญหาจะอยู่ตรงศูนย์บริการ ที่ค่าบริการแพงไป อะไหล่มิตซูว่าแพงแล้ว มาสด้าคันเล็กๆแบบนี้ ผมว่าแพงกว่า
แล้วราคาไม่ได้มาตรฐานนะครับ ไปเปลี่ยนถ่านรีโมท ครั้งแรกศูนย์นึงฟันไป500 อีกศูนย์ 200 คืองงเลย
เสาอากาศก็เช่นกัน เปลี่ยนมา2รอบแล้ว เพราะกรอบแตก 2 รอบ ห่างกันไม่ถึง3ปี (อาจเพราะคันนี้จอดตากแดดตลอด) ราคาไม่เท่ากันเช่นเคย ต่างกันแบบน่าเกลียดเลยล่ะ จนบางครั้งรู้สึกว่าราคาอะไหล่มาสด้าศูนย์เค้ากำหนดเองรึเปล่า?
แล้วค่าแรงก็แพง ไปศูนย์ทีต้องกินให้คุ้มค่าแรงที่ศูนย์คิด (ฮาๆๆ)
ส่วนบริการหลังการขาย ผมว่าแย่กว่ามิตซูอีก ไม่เคยมีหนังสือ หรือ sms แจ้งอะไรทั้งสิ้น มิตซูยังมีหนังสือเตือนให้ไปแก้ไขนู่นนี่นั่น แม้จะช้าไปแต่ก็มีมา แต่มาสด้าสำคัญๆอย่างถุงลมที่มีปัญหาก็ไม่แจ้งมา รอนานแสนนาน จนคิดว่าตกสำรวจแน่ๆ จึงเอารถเข้าไปเองเลย ตอนนี้รถอายุ 9 ปีแล้ว ก็ยังใช้ดีนะ สำหรับตัวเครื่องเดิมๆตัวนี้ มีปัญหาเรื่องพวงมาลัยคลอนๆสั่นๆบ้าง แต่ไม่ใช่เรื่องใหญ่
4. นิสสัน ใช้แค่ 1 คัน และช่วงสั้นๆ แล้วขายทิ้ง เพราะกินน้ำมันมาก Cefiro A33 ใช้อยู่แค่1ปีกว่า เรื่องศูนย์ผมว่าค่อนไปทางมิตซู แต่ผมให้มิตซูดีกว่า บริการหลังการขาย ผมว่าดีกว่ามิตซู แต่มันนานละ จำไม่ค่อยได้แล้วครับ แล้วก็สมัยนั้นศูนย์ก็ไม่เหมือนตอนนี้ ตอนนี้อาจจะพัฒนาแล้ว
โดยสรุปคือ
ที่บ้านเลือกใช้ Mitsubishi มากที่สุด ไม่ใช่เพราะดีสุด แต่ว่าคุ้มค่าที่สุด คือไม่ได้แพงไป ออปชั่นมีมาให้สมเหตุสมผล รถใช้ทน ปัญหาใหญ่ๆพวกการขับขี่ เครื่องยนต์ ช่วงล่างมันเสถียรมาก
โตโยต้า ก็ใช้นะครับ แต่ใช้น้อย คือ Vios (รุ่น sporty) แค่คันเดียว เทียบกับมิตซูแล้ว ผมว่าบางจุดโตโยต้าก็แอบลดต้นทุน อย่างใช้ฟิวเจอร์บอร์ดแปะด้านหลังเบาะ อะไรแบบนั้น แล้วในยุคสมัยเดียวกัน ผมว่าเค้าแพงและกั๊กออปชั่นมากกว่าชาวบ้าน
เพิ่งมามี 3-4 ปีนี้ล่ะครับ ที่โตโยต้าเน้นความปลอดภัยและให้ออปชั่นมากขึ้น
นี่กำลังพิจารณา Camry hybrid อยู่ ผมว่ามันคุ้มค่ามากๆ
-
Ford นี่แทบต้องรีแบรนด์ใหม่เลย ต้องสร้างความเชื่อมั่นใหม่ก่อนที่จะเอาโมเดลอื่นๆเข้ามา
Mazda นี่ต้องเลิกอินดี้เรื่อง Service ได้แล้ว ตัวรถเรื่องความแคบยังไงก็มีคนรับได้
Nissan นี่อาการหนักอยู่นะ ตัวที่แบกอยู่ก็ดันทำออกมาซะแย่เลย ไม่รวมนโยบายแปลกๆอีก ต้องเปลี่ยนแปลงอีกเยอะ
-
โอ้ว ไม่นึกว่าจะได้ฟังความจริงจากใจ หรืออาจจะเรียกได้ว่า "ความรู้สึก" มากแบบนี้
ทึแรกคิดว่าแค่อยากฟัง ฐานะคนใช้รถ คนสนใจเรื่องรถ ในหลากหลายยี่ห้อ ที่อาจจะทำให้ค่ายรองมาฟัง เอาไปปรัแก้ไข ให้ปลายเป็นเจ้าตลาดในสักวัน
ผมอ่านทุกเม้นท์เลย ต้องขอบคุณเลย ที่แชร์ความรู้สึกกัน ครับ :)
-
ที่เคยใช้นะครับ
Suzuki : swift eco 1.2
ตัวรถ : มีจุดแอบลดต้นทุนบ้าง ตามราคา
ปัญหาที่เจอ : แร็คพวงมาลัย สลักเบรก มี recall ไปใส่ part ที่แก้ไข ปัญหาจบ แม้บางอันจะแก้ไขหลายรอบ (แร็ค)
อะไหล่ : ไม่แพง เช่น แท่นเครื่อง แท่นเกียร์ ช่วงล่างต่างๆ
ค่าบริการ : ไม่แพง ชั่วโมงละ 400 กว่าบาท
ศูนย์ : เข้ามา 4-5 ที่ บริการดีแทบทุกที่ ของกินก็พอมีครับ 555
รวมๆ ถือว่าใช้ได้ครับ แม้เป็นแบรนด์รอง แต่อยากให้กล้าทำตลาดหลายรุ่นกว่านี้ เช่น jimny
-
Mazda คุณภาพแก้ได้ช้ามาก CX-30 แบตหมด รุ่น SP ปัจจุบันยังแก้ไม่ได้ ผมรอซื้ออยู่ ยังไม่กล้าซื้อเพราะปัญหาที่ยังแก้ไม่ได้
เรื่องการออกแบบ ตอนนี้ Mazda แซงคู่แข่งนำทุกค่าย ดันมาตายเรื่องคุณภาพที่สำคัญมาก สำหรับผู้บริโภค ยอดขายไม่โต ย่อมมีลูกค้าเทไป cross กันเยอะ ทำตัวเองแท้ๆ
NISSAN การออกแบบ ยังไม่เหนือกว่าคู่แข่ง คุณภาพ คนเริ่มบ่นหลังได้ใช้ และขยับช้ามาก
็HONDA ยังไม่มีรุ่นในเป้าหมาย
-
1. HONDA
- การเก็บเสียง ไม่เคยดีสักรุ่น รถราคาเป็นล้าน แต่เก็บเสียงสู้รถคันไม่กี่แสนไม่ได้
- งานประกอบ เดี๋ยวก๊อก เดี๋ยวแก๊ก เอาให้มันแน่นหนาหน่อยสิ อันนี้ ต้องไปว่าที่การดีไซน์ จุดยึดจุดล็อค ชิ้นส่วนต่างๆ ถอดประกอบง่ายจริง แต่หลวมง่ายเช่นกัน
2. NISSAN
- ความรับผิดชอบต่อสินค้าตัวเอง .. ขายไปแล้ว มีปัญหาจากตัวรถเอง ก็รับผิดชอบหน่อย ต่อให้หมดประกันแล้ว เค้าก็ไม่ได้แกะตรานิสสันออกนะ .. ไม่ต้องกลัวว่า recall แล้วจะเสียชื่อ เพราะ HONDA / SUBARU บ้านเรา RECALL เป็นเรื่องปกติ ลูกค้ากลับชอบว่า บริษัทรับผิดชอบ .. เปลี่ยนความคิดซะนะ
- ฟังค์ชั่นการใช้งาน ช่องใส่ของจุกจิก การวางตำแหน่งอุปกรณ์ ไม่รู้รับอิทธิพลจากรถฝรั่งเศจ หรือป่าว ? เทียบ HONDA แล้ว สู้ไม่ได้เลย
- Ergonomics ท้าวแขนคอนโซลกลางแบบเลื่อนได้ ใน pulsar / sylphy ให้มาทำไม ต่ำมาก (ถ้าจะให้ ก็เอาแบบ Civic FD สิ) / ช่องวางแก้ว กับ เบรคมือ สลับข้างพวงมาลัย ก็ลงทุนสลับข้างเบรคมือหน่อย ไม่งั้น ขับไป หลอดแทงแขนตลอด แถมเลื่อนท้าวแขนออกมา ก็วางแก้วได้ช่องเดียว
- ชิ้นส่วนช่วงล่าง บู๊ชยางต่างๆ ดีไซน์ให้มันใหญ่ ให้มันทน แบบค่ายอื่นได้ไหม ? แล้วขอแยกขายเป็นชิ้นๆด้วย ไม่ใช่ปีกนกพังที ก็ยกปีก
เอา 2 ค่ายที่ขับอยู่ ใช้ประจำแค่นี้ละกัน
-
ถ้าตอบให้สั้นที่สุด ผมคิดว่า คือ ปัญหาหลังการขายและการแก้ไข ครับ มันจะทำให้เกิดความประทับใจ จนกลายเป็นความเชื่อมั่นและการบอกต่อของผู้บริโภคเอง ต่อมา คือ ตัวรถ การตลาดและศูนย์บริการ ที่ต้องไปควบคู่กันจึงจะสามารถช่วงชิงส่วนแบ่งจากเจ้าตลาดได้ ที่ดูจะทำได้ดี คือ Suzuki, Mitsubishi และ MG เสียแค่ ยังชิงได้แค่บาง Segment ครับ
ส่วน Mazda นี่ ตัวรถ ยังขาดเรื่องความสะดวกสบาย ของผู้โดยสารอีกนิดเดียว แต่โจทย์ใหญ่ก็คือ การแก้ปัญกาหลังการขายที่ทำเอาหลายคนเข็ด
สำหรับ Nissan เสียที่การตลาดกับความทนทานของวัสดุครับ ยอดขายน่าจะเยอะกว่านี้ พอยอดไม่เยอะ ศูนย์ฯ ก็ฝ่อไปด้วย
-
Mazda
ผมอ่านจากหลายเสียงคนใช้ บวกกับประสบการณ์การใช้รถของตัวเองที่เจอมา
สิ่งที่ต้องแก้ไขเป็นอันดับแรกเลยครับ
ทัศนคติผู้บริหารด้านหลังการขาย
เอาแค่นี้ก่อนเลยครับ ระดับศูนย์หน้างานที่รับหน้าด่านยังไม่ต้องไปปรับอะไร
ปัจจุบันผู้บริหาร "เลือก" ฟังแต่เฉพาะด้านดี มันก็มีทั้งผู้ใช้รถที่ใช้ดีไม่เจออะไรเลยก็ชมก็อวย และผู้ใช้ที่เจอแต่อะไรห่วยๆ เช่นผม แต่ผู้บริหารออกแต่ละนโยบายและตอบรับการบริการหรือการแก้ไขปัญหาในระดับที่เกินกว่าขอบเขตศูนย์จะทำได้นั้น เห็นได้ชัดเลยว่าเค้าเลือกที่จะทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อตัวบริษัทเอง "ล้วนๆ"
- ค่าแรงแพง แพงแล้วช่างบริการดุจ VIP หรือชำนาญด้านตัวรถ มีความรับผิดชอบ แพงแค่ไหนไม่เคยว่าเลยครับ แต่ดันเจอตรงข้าม ได้รับบริการที่ไม่มีมาตรฐาน ไม่ชำนาญในตัวรถ และไม่พยายามอยากจะหาสาเหตุการแก้ไขให้ และที่น่าเจ็บใจคือ การปรับค่าแรงนั้นไม่มีการควบคุมใดๆ ขับรถเปลี่ยนไปที่ไหนก็มีโอกาสเจอต่างราคาและราคาสูงได้หมด
- ไม่ให้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ ไม่ว่ากันครับไม่เปลี่ยนก็ไม่เปลี่ยน แต่มันเคยเป็นสิ่งที่ทำกันมา อยากเปลี่ยนความเชื่อคนพี่ท่านก็ไม่คิดจะลงทุนด้วยการขยายการรับประกันให้ซักหน่อยหรอ ลูกค้าจะเปลี่ยนขู่แต่จะตัดประกัน พอลูกค้าเชื่อฟังดันไม่ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ในระยะยาวเลย ไม่ลงทุนไรเลย
- Recall รอจดหมายวนไปสิกว่าจะรับรู้ข้อมูลว่ารถตัวเองมีเรียกกลับไปแก้ไขอะไร ถ้าไม่มีข่าวคนอื่นมาบอกหรือเอารถเข้า 0 เองก็ไม่ทราบหรอก ช่องทางการติดต่อสื่อสารลูกค้่เยอะแยะพี่ไม่คิดจะแจ้งกันหน่อยหรอ โทรมาซักครั้งก็ยังดี
- รถมีปัญหา แก้ได้ แก้ไม่ได้ ช่วยบอก ช่วยทำให้หายข้องใจ ไม่ใช่มาบอกไม่ได้เกิดจากผลิตภัณฑ์แล้วก็ย่องเคลมเงียบๆ และไม่ใช่ทุกเคสด้วย บางเคสก็พยายามทำให้ปกติเพื่อปิดเคสโดยไม่ได้เคลมอะไรมา ก็มี
เหนื่อยครับ พูดไปก็ไม่มีใครฟัง ไม่หวังให้ผู้บริหารมาอ่านเลยบอกตามตรง ให้ทำกันแบบนี้นี่แหละต่อไป ให้ซื้อมาใช้มาเจอเอง ใครซื้อไปใช้ดีก็ดีไป ใครซื้อใช้เจอไม่ดีก็ขอให้จำไว้ครับ
-
มิตซูบิชิ ผมเห็นด้วยนะ ยิ่งได้รื้อแงะแกะดู ลดต้นทุนในส่วนที่ซ่อนจริงๆ รวมถึงการออกแบบทางวิศวกรรม คือเปรียบเทียบก็เห็นว่ามาสด้าปราณีตกว่า
ส่วนฮอนด้า ใช้ระยะยาวจริงๆ ผมว่าโคตรจุกจิก City Zx เคสเหมือนคุณ lonely เลย , FD นี่ปวดหัวจะเก็บงานให้เนี๊ยบ อะไหล่เปราะด้วย
ฟอร์ดกับมาสด้า อออกแบบหลายอย่างมาเนี๊ยบเกินไป ซ่อมยากรื้อเยอะ อะไหล่บางตัวเปราะจริงๆ
รถขับดีขับเนี๊ยบ
ผมว่าคลับเค้าเหนียวแน่นดีครับ
ใครเจออะไรที่แก้ปัญหาได้เจออู่แก้ไขได้ diy ได้ก็ช่วยกัน
Honda City Zx ของผม ปัญหาเริ่มมาในปีที่ 8 คือ ถอยหลังมีเสียงดัง "แกร๊กๆ" = Fly Wheel เกียร์เสีย
ส่วนปีที่ 10 = เข้าเกียร์ D แล้วรอบเครื่องตก+รถสั่น & สะท้านไปทั้งคัน ซึ่งตอนแรกเข้าอู่ซ่อม Honda โดยตรง ทิ้งรถไว้ 1 อาทิตย์
แต่ช่างหาสาเหตุที่แท้จริงไม่เจอ ผมเอารถไปเข้าอีกอู่นึง หาสาเหตุเจอ คือ คอยล์จุดระเบิดมีไฟรั่ว 3 ตัว, O2 Sensor ตัวที่ 2 เสีย
มอเตอร์เดินเบาเสื่อมสภาพ (ความเห็นจากสมาชิกคุณ TaraHLM )
ส่วนอาการเหยียบเบรครอบเครื่องตก ที่ยังแก้ไม่หายขาดจนบัดนี้ = เกิดจากยังหาสาเหตุที่แท้จริงไม่พบ + ไม่มีอู่ไหนยอมไล่ระบบเครื่องยนต์ให้อย่างแท้จริง
ทำให้ผมต้องซ๋อมแบบคาดเดาความน่าจะเป็นของสาเหตุที่น่าจะเกี่ยวข้อ
สรุป ผมว่า Honda มันก็ทนในระดับนึง อาการเสียของรถเกิดจากการเสื่อมสภาพตามการใช้งาน
เพียงแต่โชคร้ายที่ผมหาอู่ที่ยอมไล่ระบบเครื่องยนต์ให้ไม่ได้ :'( :'(
และผมก็คาดหวังให้รถอยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมที่สุด (ใกล้เคียงป้ายแดง) ทำให้หมดเงินไปการซ่อมรถมากมายกว่าคนทั่วไปครับ ;) ;)
-
Mazda
ผมอ่านจากหลายเสียงคนใช้ บวกกับประสบการณ์การใช้รถของตัวเองที่เจอมา
สิ่งที่ต้องแก้ไขเป็นอันดับแรกเลยครับ
ทัศนคติผู้บริหารด้านหลังการขาย
เอาแค่นี้ก่อนเลยครับ ระดับศูนย์หน้างานที่รับหน้าด่านยังไม่ต้องไปปรับอะไร
ปัจจุบันผู้บริหาร "เลือก" ฟังแต่เฉพาะด้านดี มันก็มีทั้งผู้ใช้รถที่ใช้ดีไม่เจออะไรเลยก็ชมก็อวย และผู้ใช้ที่เจอแต่อะไรห่วยๆ เช่นผม แต่ผู้บริหารออกแต่ละนโยบายและตอบรับการบริการหรือการแก้ไขปัญหาในระดับที่เกินกว่าขอบเขตศูนย์จะทำได้นั้น เห็นได้ชัดเลยว่าเค้าเลือกที่จะทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อตัวบริษัทเอง "ล้วนๆ"
- ค่าแรงแพง แพงแล้วช่างบริการดุจ VIP หรือชำนาญด้านตัวรถ มีความรับผิดชอบ แพงแค่ไหนไม่เคยว่าเลยครับ แต่ดันเจอตรงข้าม ได้รับบริการที่ไม่มีมาตรฐาน ไม่ชำนาญในตัวรถ และไม่พยายามอยากจะหาสาเหตุการแก้ไขให้ และที่น่าเจ็บใจคือ การปรับค่าแรงนั้นไม่มีการควบคุมใดๆ ขับรถเปลี่ยนไปที่ไหนก็มีโอกาสเจอต่างราคาและราคาสูงได้หมด
- ไม่ให้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ ไม่ว่ากันครับไม่เปลี่ยนก็ไม่เปลี่ยน แต่มันเคยเป็นสิ่งที่ทำกันมา อยากเปลี่ยนความเชื่อคนพี่ท่านก็ไม่คิดจะลงทุนด้วยการขยายการรับประกันให้ซักหน่อยหรอ ลูกค้าจะเปลี่ยนขู่แต่จะตัดประกัน พอลูกค้าเชื่อฟังดันไม่ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ในระยะยาวเลย ไม่ลงทุนไรเลย
- Recall รอจดหมายวนไปสิกว่าจะรับรู้ข้อมูลว่ารถตัวเองมีเรียกกลับไปแก้ไขอะไร ถ้าไม่มีข่าวคนอื่นมาบอกหรือเอารถเข้า 0 เองก็ไม่ทราบหรอก ช่องทางการติดต่อสื่อสารลูกค้่เยอะแยะพี่ไม่คิดจะแจ้งกันหน่อยหรอ โทรมาซักครั้งก็ยังดี
- รถมีปัญหา แก้ได้ แก้ไม่ได้ ช่วยบอก ช่วยทำให้หายข้องใจ ไม่ใช่มาบอกไม่ได้เกิดจากผลิตภัณฑ์แล้วก็ย่องเคลมเงียบๆ และไม่ใช่ทุกเคสด้วย บางเคสก็พยายามทำให้ปกติเพื่อปิดเคสโดยไม่ได้เคลมอะไรมา ก็มี
เหนื่อยครับ พูดไปก็ไม่มีใครฟัง ไม่หวังให้ผู้บริหารมาอ่านเลยบอกตามตรง ให้ทำกันแบบนี้นี่แหละต่อไป ให้ซื้อมาใช้มาเจอเอง ใครซื้อไปใช้ดีก็ดีไป ใครซื้อใช้เจอไม่ดีก็ขอให้จำไว้ครับ
องค์กรใด ที่ผู้บริหารมี "ทัศนคติ" หรือ "นโยบาย" ที่ไม่รับฟังปัญหาจากลูกค้าแล้วไซร้
ในระยะยาวแล้ว องค์กรนั้น มีแวว "เจ๊ง" ครับ ตัวอย่าง ก็มีให้เห็น พี่เชฟก็เผ่นกลับบ้านล่ะ
ผมซื้อสินค้าใดๆ ก็ตาม ผมมองบริการหลังการขายเป็นสำคัญครับ เพราะตัวสินค้าในปัจจุบัน คุณภาพมันไม่หนีกันมากนัก
แต่ศูนย์บริการหรือความรับผิดชอบของบริษัทผู้ผลิต = สำคัญกว่าครับ
-
ถ้าตอบให้สั้นที่สุด ผมคิดว่า คือ ปัญหาหลังการขายและการแก้ไข ครับ มันจะทำให้เกิดความประทับใจ จนกลายเป็นความเชื่อมั่นและการบอกต่อของผู้บริโภคเอง ต่อมา คือ ตัวรถ การตลาดและศูนย์บริการ ที่ต้องไปควบคู่กันจึงจะสามารถช่วงชิงส่วนแบ่งจากเจ้าตลาดได้ ที่ดูจะทำได้ดี คือ Suzuki, Mitsubishi และ MG เสียแค่ ยังชิงได้แค่บาง Segment ครับ
ส่วน Mazda นี่ ตัวรถ ยังขาดเรื่องความสะดวกสบาย ของผู้โดยสารอีกนิดเดียว แต่โจทย์ใหญ่ก็คือ การแก้ปัญกาหลังการขายที่ทำเอาหลายคนเข็ด
สำหรับ Nissan เสียที่การตลาดกับความทนทานของวัสดุครับ ยอดขายน่าจะเยอะกว่านี้ พอยอดไม่เยอะ ศูนย์ฯ ก็ฝ่อไปด้วย
ผมซื้อสินค้าใดๆ ก็ตาม ผมมองบริการหลังการขายเป็นสำคัญครับ เพราะตัวสินค้าในปัจจุบัน คุณภาพมันไม่หนีกันมากนัก
แต่ศูนย์บริการหรือความรับผิดชอบของบริษัทผู้ผลิต = สำคัญกว่าครับ
-
Mazda คุณภาพแก้ได้ช้ามาก CX-30 แบตหมด รุ่น SP ปัจจุบันยังแก้ไม่ได้ ผมรอซื้ออยู่ ยังไม่กล้าซื้อเพราะปัญหาที่ยังแก้ไม่ได้
เรื่องการออกแบบ ตอนนี้ Mazda แซงคู่แข่งนำทุกค่าย ดันมาตายเรื่องคุณภาพที่สำคัญมาก สำหรับผู้บริโภค ยอดขายไม่โต ย่อมมีลูกค้าเทไป cross กันเยอะ ทำตัวเองแท้ๆ
NISSAN การออกแบบ ยังไม่เหนือกว่าคู่แข่ง คุณภาพ คนเริ่มบ่นหลังได้ใช้ และขยับช้ามาก
็HONDA ยังไม่มีรุ่นในเป้าหมาย
อย่าใช้เลยครับ ศูนย์เหมือน สส วันก่อนซื้อยกมือไหว้มีปัญหา กราบตีนกัน
-
อยากจะบอกว่า ไม่ว่าจะ ญี่ปุ่น หรือ ฝรั่ง ผู้บริหารที่ไม่ใช่คนไทย มักจะคิดอะไรที่ไม่เข้ากับคนไทย เหมือนไม่เข้าใจคนไทยนั่นเอง และแม้ลูกน้องที่เป็นคนไทยจะพยายามอธิบายอย่างไร ก็ไม่เป็นผล ทำให้สิ่งที่ออกมา มันไม่ถูกจริตของคนไทย
-
อยากจะบอกว่า ไม่ว่าจะ ญี่ปุ่น หรือ ฝรั่ง ผู้บริหารที่ไม่ใช่คนไทย มักจะคิดอะไรที่ไม่เข้ากับคนไทย เหมือนไม่เข้าใจคนไทยนั่นเอง และแม้ลูกน้องที่เป็นคนไทยจะพยายามอธิบายอย่างไร ก็ไม่เป็นผล ทำให้สิ่งที่ออกมา มันไม่ถูกจริตของคนไทย
บริษัทแม่สมควรเอาตัวผู้บริหารเหล่านี้ ไป "ประหาร" ครับ แล้วส่งคนที่เข้าใจวัฒนธรรมไทยมาแทนครับ ;) ;) ;)
-
จะค่ายหลัก ค่ายรอง = อยากให้ทำตามหลัก 4 P ดังนี้
1. Product ตัวผลิตภัณฑ์ = มีคุณภาพที่ดี ทั้งโครงสร้างรถ การออกแบบการใช้สอยภายใน
ออฟชั่นด้านความปลอดภัยขั้นพื้นฐาน ใส่มาทุกรุ่นย่อย ตั้งแต่รุ่นถูกสุด
ความมีเสถียรภาพของตัวรถ ไม่ใช่ไปตายกลางทางตั้งแต่ป้ายแดง เป็นต้น
2. Price ราคา = เป็นราคาที่สมเหตุสมผล ไม่ใช่กั๊กออฟชั่น แต่ยังขายแพง แล้วค่อยมาให้ส่วนลดเงินสดหลายหมื่นทีหลัง
อยากให้บริษัทผู้ผลิตเอาส่วนลดเงินสดนั้น ไปใส่ในตัวรถดีกว่า คือ ใช้ Part อะไหล่ที่มีคุณภาพ ไม่ใช่เอาแต่ "ลดต้นทุน"
3. Place สถานที่จัดจำหน่าย = ในที่นี้คงหมายถึงศูนย์บริการของรถยี่ห้อนั้นๆ ทำให้ลูกค้าประทับใจ ทั้งงานขาย งานซ่อมบำรุง งานซ่อมสีและตัวถัง
ภายใต้หลักง่ายๆ คือ "ซื่อสัตย์ & จริงใจ"
4. Promotion = โปรโมชั่น & กิจกรรมการตลาดต่างๆ เชิญลูกค้าทั่วๆ ไปบ้าง นอกจากเชิญแต่ดารา & คนดัง
หรือโปรโมชั่น แบบซื้อรถแถมบ้านบ้างก็จะดีไม่น้อย ;) ;)
ความรู้ & ความเห็นส่วนตัวอันน้อยนิด = ผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วย
-
เพื่อนๆ พี่ๆ สมช. คิดไหมว่า ทำไมค่ายรองๆ อย่าง Nissan, Mitsubishi , Mazda , Ford
ที่มักจะถูกมองว่า มีอะไรยังเป็นจุดด้อย ต้องแก้ไขหรือปรับปรุง ไม่ว่าจะเป็นจากตัวรถ ศูนย์ หรือ บริการ ที่ สู้ค่ายหลักๆ อย่าง Toyota Honda Isuzu ไม่ได้
สัก 2-3 ข้อ ที่เอ่ยมา แบบว่า เห้ย มันใช่เลย แบบนี้เลย
สำหรับผมนะ
Nissan -> เจ้าพ่อตลาดวาย คำนี้ใช้ได้เสมอ ออฟชั่นมาไม่สุด มาก็ช้า แถมหน้าตาทั้งภายนอก ภายในก็ยังขัดใจ ไม่ค่อยร่วมสมัยเท่าไหร่ แถมการตลาดไม่ดีอีก
Mitsubishi -> เรื่องการตกแต่ง ภายใน เหมือนลด cost มากไปหน่อย ตอน Pajero ออกมา รู้สึกได้เลยว่าภายในมันดูๆ แห้งๆ ท่อๆ ง่ายๆ ชัดมาก
Mazda -> หลักๆ เลย คือ ปัญหาตัวรถ การวิเคราะห์และแก้ไขจากศูนย์บริการ และค่าอะไหล่แพง
Ford -> คล้ายๆ Mazda แต่ปัญหาตัวรถผมว่าหนักกว่า Mazda กี่ gen ต่อกี่ gen หลายรุ่นปัญหาคาราคาซัง ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน
ใน สายตา สมช. คิดว่ายังไงบ้างครับ
ปล.ตัวผมเอง คนรายรอบตัว และ คนในครอบครัว มีใช้ 4 ยี่ห้อนี้ (ผมถึรถยี่ห้อตลาดด้วย พอให้เปรียบเทียบได้อยู่)
ที่คุณถามเนี่ย คุณหมายถึง ตลาดไทย หรือ ตลาดโลก ???
ถ้าตลาดโลก Nissan และ Mitsu มันจะเจ๊งครับ มันเลยต้องให้ Renault มากู้วิกฤต แล้วก็โดนภาวะตลาดรถยนต์ทั่วโลก กดดันจนต้องเอาตัวรอดได้แค่นี้
ดูได้เลย Nissan ต้องปรับตัวในตลาดโลกใหม่หมด ไปเน้นแค่ในตลาดใหม่ๆ เช่น ในตลาดจีน แม้แต่ Asean ก็ต้องเน้นเฉพาแค่บางรุ่น
ส่วนถ้าในไทย Nissan และ Mitsu มันแพ้เจ้าตลาดอย่าง To , Hon มาเป็นสิบๆ ปีแล้วครับ ตอนสิบปีที่แล้ว ที่มี ECOCAR ออกมา ตอนแรกผมยังคิดว่า
เป็นโอกาสที่ทั้ง 2 ยี่ห้อจะได้กลับมาได้ แต่ก็ได้แค่รุ่นตัวถังเดียว .. เพราะจนปัจจุบัน ทั้ง Nissan ก็ยังขาย March ตัวถังเดิม ส่วน Mitsu ก็ยังขาย Mirage และ Attrage ตัวถังเดิม
มีแค่ Almera ที่ออกตัวถังใหม่ แต่ก็ออกช้ามากกกกกกกกกกก ขายมา 8-9 ปี ไม่เข้าใจเหมือนกันว่า ทำไมไม่ออกรุ่นใหม่มาให้เร็วกว่านี้
Mazda เค้าก็พยายามทำนะ แต่ดันมางี่เง่ากับเรื่องโง่ๆ ... ไม่รู้คิดมาได้ไงว่า .. ถ้ารุ่นสูงกว่า แคบแค่ไหน รุ่นถูกกว่าต้องแคบลงด้วย !!!
มันคิดมาได้ไงว่า มนุษย์ที่มีกำลังซื้อน้อยลง เค้าจะมีขนาดร่างกายที่ตัวเล็กลง เตี้ยกว่า ผอมกว่า ไม่ว่าจะชายหรือหญิง ...
แทนที่จะใช้วิธี ขนาดห้องโดยสารยังใหญ่ได้พอกัน แต่ไปลด Option ไปลดคุณภาพวัสดุภายใน ไปลดขนาดเครื่องแทน
Ford ถ้าเป็นตลาดในไทย มันเน่าด้วยตัวของมันเอง เพราะว่าเทคโนโลยี่ เกียร์ Dual Clutch ที่ทำให้ลูกค้าที่ให้ความไว้วางใจล็อตแรก จากที่เคยให้โอกาส กลายมาเป็น "สาปส่ง"
แล้วทำให้ ตลาดรถเก๋งยี่ห้อนี้ในไทย ไม่เหลือโอกาสอีกเลย ทุกรุ่นไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ไม่ว่าจะเก๋ง หรือ SUV >> "เน่าสนิท"
-
อยากเป็นเจ้าตลาดไม่ยากเลย ปรับปรุงบริการหลังการขายสิครับ
สังเกตเจ้าตลาดศูนย์บริการดีทั้งนั้น toyota isuzu honda ส่วนค่ายรองเท่าที่สังเกตมีปัญหาบริการหลังการขายทั้งหมด
ความทนทานอะไรยังเป็นเรื่องรอง ดู honda วัสดุแย่ๆ งานประกอบกรอบแกรบยังขายดี
แต่เค้าพร้อมแก้และจบปัญหาได้ด้วยบริการหลังการขาย
-
เท่าที่อ่านๆ ดู เหมือนจะเห็นตรงกัน ชัดมาก
แต่เหมือนมันเป็นที่อะไรดูง่าย แต่ทำยาก และทำให้เขาไม่อยากทำหรือป่าวไม่รู้นะ มันก็น่าคิดนะครับ
ขอบคุณทุกความเห็นเลยครับ