Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: e:smart Hybrid ที่ สิงหาคม 14, 2020, 19:02:30
-
จากกระแสรถ B-car Hybrid คือ City ที่น่าจะเปิดตัว Hybrid ช่วงปลายปีนี้
อยากถามทุกท่านว่า รถ Hybrid ขนาดเล็ก ทั้ง Hatchback Sedan และ Crossover (ถ้ามี)
ราคาขายเริ่มต้นและตัวแพงสุด ควรอยู่ที่เท่าไหร่ครับ
ส่วนตัวผม อยากให้รุ่นเริ่มต้น ราคาสัก 5 แสนปลายๆ ตัว top option (Pre safe จัดเต็ม) เต็มไม่เกิน 8 แสนครับ
-
ไม่ควรเกินราคาตัวท็อปเดิม
-
เดี่ยวๆๆๆ ก่อนครับ
เอา Honda ละกัน
Hybrid นี่ ต้นทุนมันสูงกว่า 1.5 NA เดิมและ 1.0T เลยนะครับ
จะให้เค้ามาขาย 500 K เท่ารุ่นปกติ มันใช่เหรอครับ
ตอนนี้ Eco car เสียภาษี สรรพสามิต 14 % ในรุ่น 1.0T หรือ 1.3 NA
Hybrid ผมไม่แน่ใจว่า City คันนี้ ได้ภาษีกี่ % แต่ถ้าลงทุน ตาม BOI ใหม่ จะเสีย สรรพสามิต แค่ 4 % หรือ 8 % ไม่แน่ใจ
แต่ที่นี้ Hybrid ต้นทุนจะสูงกว่า รถปกติ 20 % แต่ Option จะโดนยัดให้เต้มที่
ถ้าตาม Spec เครื่อง Hybrid ที่แรงม้าสูงๆมากแบบ Honda มันคือ รุ่น TOP ที่สูงกว่า 1.0T RS
การประหยัดน่าจะมากกว่า แรงกว่า Option สูงกว่า 1.0T RS
แต่ ได้ภาษีมาชดเชย ต้นทุนที่สูงกว่า แต่ก้ยังต้องแพงกว่าอยู่ดี
ผมเดา ว่า มี แตะ ตัวล่าง Civic ครับ
ขอเดาราคา 830K ครับผม
-
ถ้าราคาสูงไปก็ขายยากครับ คนไทยชอบรถบำรุงรักษาง่าย ไม่จุกจิกไม่ซับซ้อน บำรุงรักษาถูก ขายต่อราคาไม่ตกมาก
แล้วไฮบริดมันตอบโจทย์ตรงนี้บ้างไหม ไม่ตอบเลยครับ ถ้าทำราคามาไม่ดีไม่มียอดแน่ๆ
-
จำได้ว่า ตอน Jazz GE Hybrid เข้ามาขาย ราคาแพงกว่าตัว SV (Top) และ Jazz JP อยู่หลักหมื่น ถ้าจำไใ่ผิดคือ 763,000 บาท ซึ่งตอนนั้นเป็น Option อิงจากตัว V (ตัวกลาง
ผมเลยเดาว่า City Hybrid ถ้ามาคงเป็นตัว SV แล้วตั้งราคาที่ 7แสนปลายครับ
-
7.6แสนไม่เกินนี้ แต่มีsensingเต็มระบบครับ
-
รุ่นอื่นผมยังไมรู้ครับ เพราะเดาทางยากอยู่อ่ะ
แต่ City HV ผมคิดว่าราคาจะอยู่ในระดับเดียวกับ Mazda2 ดีเซลครับ คือเริ่ม 6 แสนปลายๆ ท๊อป 799k (ผมได้ยินว่าจะพยายามกดราคาไม่ให้ทะลุ 800k ขึ้นไปชนกับ Civic)
ส่วนออพชั่นตัวท๊อป ผมคิดว่าคือรุ่น RS+Sensing+Lanewatch+เรือนไมล์ TFT+เบรกมือไฟฟ้า+Brake hold
Sensing ผมว่ามาไม่เต็มเหมือนพวก Civic/CRV/Accord นะ น่าจะราวๆ Almera นั่นแหละ
คงดันกันสุดฤทธิ์ เพื่อให้รถ HV เกิดในไทยได้อ่ะครับ แต่ถ้าราคาและออพชั่นมาตามนี้จริง คนก็เปรียบเทียบกับ Almera อยู่ดี ว่าขายแพงกว่าเขาตั้งเยอะ ทำไมระบบ Safety พอๆ กันเลย
-
แพงเกินขายยาก
นึกถึง freed เยอะๆเข้าไว้ ไอ้ที่ว่าขายไม่ได้ กับขายแพงเกินไป มันก็ต้องคิดแหละว่าทำไม xpander ขายดีได้
ส่วนตัวผมให้ 7.5-7.9แสน เกินนั้นผมว่าออกแนวเกินขนาดตัวรถไป ต้องเอาไว้ขายคนเงินเหลือๆ
-
Hybrid
ถ้าทะลุ 8 ลูกค้าไม่ซื้อครับ ต่อให้แรงและประหยัดพร้อมประเคนของมาเท่าอินเดียหรือมาเลย์ก็ตาม
ผมอยากให้บ้านเราได้ SV + ออพชั่น RS อย่างไฟหน้า LED , ล้อ 16" , Cruise Control , วางแขนเบาะหลัง ฯลฯ
และอาจจะเพิ่มไมล์จอสีอินเดียมาเพราะต้องแสดงข้อมูลระบบ Hybrid
และคงจะยังไม่ได้ LaneWatch มาหรอก
ขอราคาประมาณ 775,000-789,000 บาท
Hatchback
ขอให้ล้อ Sedan มาเลย และของห้ามน้อยไปกว่านี้ และห้ามแพงไปกว่า Sedan รุ่นเทียบเคียงเกิน 10,000 บาท
-
ไม่น่าเกิน799 เกินกว่านี้ขายยากแน่นอน
-
ทำไมถึงคิดว่า Hybrid จะแรงกว่า 1.0T อ่ะครับ
ขนาดโตโยต้า 1.8 ธรรมดายังแรงกว่า 1.8 hybrid เลย
-
ทำไมถึงคิดว่า Hybrid จะแรงกว่า 1.0T อ่ะครับ
ขนาดโตโยต้า 1.8 ธรรมดายังแรงกว่า 1.8 hybrid เลย
มันอยุ่ที่ตอนออกแบบครับ ว่าใช้ระบบไหน เน้น สมรรถนะ หรือประหยัด
Hybrid แบบ Honda คล้าย E-power คือจะใช้มอเตอร์ล้วนๆ ตอนออกตัวและความเร้วต่ำ มันจึงได้ แรงบิดสูง มา
-
รถกลุ่มนี้เขาเน้นซื้อง่ายขายคล่อง ซ่อมสะดวก ไฮบริดเกิดยากครับ
-
ถ้าแบต Hybrid ของ honda หมดหรือพัง จะต้องขึ้น ยานแม่ ไหมครับ
เพราะเห็นว่า เครื่องจะทำงานเฉพาะที่คว่าเร็วสูง ต่างกับ toyota ที่ทำงานร่วมกัน ทุกความเร็ว
-
ก็เอาราคาที่เมืองนอกมาเทียบดูนะ
ส่วนตัวควรแพงกว่าเมืองนอกสัก 10 % ก็พอ 8)
-
City 1.5 Hybrid ถ้าจำไม่ผิดเหมือนพี่จิมเคยพูดในรายการวิทยุว่าจะมาปลายปีนี้(ตามแพลนเดิม) พร้อมกับ City Hatchback 1.0T
เดาราคาตัวท็อป คาดว่า 799,000 ครับ
-
คงประหยัดน้ำมันมากๆเลยนะครับ เครื่องเล็กแถมไฮบริดด้วยอีก..ใครเอามาใช้ในเมืองนี่ คุ้มสุดๆ
-
อยากให้เป็น PHEV ไปเลยดีกว่า
-
City Hybrid = น่าจะเริ่มต้นที่ 750,000 บาท เต็มที่ไม่ควรเกิน 800,000 บาท
-
เกรงว่า ฮอนด้า จะกั๊ก immd ไฮบริด ยังไม่ยอมเปิดตัวปลายปีนี้
แต่เลือกที่จะเปิดตัว immd ไฮบริด กับ HRV ใหม่ ที่จะต้องรับศึกหนักจาก corolla cross nissan kick รึป่าว
แล้วเลือกที่จะไม่ขาย city immd แต่เลือกจะขายใน hrv แทน
เพราะมองว่าคู่แข่งในตลาดมีแค่ 1.0 โบ ก็เพียงพอแล้ว แต่ hrv ถ้ายังใชเครื่อง 1.8 เหมือนเดิม สู้ครอสไม่ได้แน่ๆ
แล้ว รอ minorchange ค่อยเอา immd มา รึป่าว
-
คิดว่ามาเป็นรุ่น topสุด มีรุ่นเดียว ราคา8ต้น และ options ครบๆเพื่อเป็นทางเลือกเฉยๆครับ
-
เกรงว่า ฮอนด้า จะกั๊ก immd ไฮบริด ยังไม่ยอมเปิดตัวปลายปีนี้
แต่เลือกที่จะเปิดตัว immd ไฮบริด กับ HRV ใหม่ ที่จะต้องรับศึกหนักจาก corolla cross nissan kick รึป่าว
แล้วเลือกที่จะไม่ขาย city immd แต่เลือกจะขายใน hrv แทน
เพราะมองว่าคู่แข่งในตลาดมีแค่ 1.0 โบ ก็เพียงพอแล้ว แต่ hrv ถ้ายังใชเครื่อง 1.8 เหมือนเดิม สู้ครอสไม่ได้แน่ๆ
แล้ว รอ minorchange ค่อยเอา immd มา รึป่าว
วิเคราะห์เยี่ยมมากครับ
-
ทำไมถึงคิดว่า Hybrid จะแรงกว่า 1.0T อ่ะครับ
ขนาดโตโยต้า 1.8 ธรรมดายังแรงกว่า 1.8 hybrid เลย
แรงบิด 253 นิวตันเมตรอ่ะครับเท่ารถ 2.5 N/A แต่รถหนัก 1.2 ตัน คิดว่าจะแรงไหมละครับ
ผมเห็นอัตราเร่งของ Fit JDM มาแล้ว แล้ว City HV มาเลเซียก็ใช้เครื่องเดียวกับ Fit JDM
อ้อ เครื่อง HV ตัวนี้เครื่อง 1.5 นะครับ ไม่ใช่ 1.0
-
เลิกหวังกับรถไฮบริดหรือไฟฟ้าขนาดเล็ก ราคาย่อมเยาได้เลย ต่อให้ทำมาได้ สเปคกับคุณภาพก็ไม่คุ้มราคาที่ออกมาขาย ต่อให้สรรพสามิตร 0% เลย ก็ต้องแบกต้นทุนไว้อีก ทำราคาออกมา 4-5แสนไม่ได้ ทำได้ก็คุณภาพแบบ fomm กล้าใช้มั้ยล่ะ
จุดคุ้มทุนคือรถพรีเมียมราคา 2ล้าน+ อย่าง volvo t8 c300e หรือ 330e ที่ต่อให้ต้นทุนสูงแต่+ ภาษีแค่ประมาณ 4% ในขณะที่ eco car เฟส2 ต้องเสีย 12%
ฟังดูมันไม่ยุติธรรมใช่มั้ย แต่มันเป็นกลไกของประเทศนี้ ถ้าอยากจูงใจให้คนใช้ไฟฟ้าแยอะขึ้น นอกจากไม่เก็บภาษี ยังต้องแบกราคารถยนตร์ไว้อีกแบบประเทศจีนหรือนอร์เวย์ ซึ่งถ้ารัฐบาลไทยทำแบบนั้นผลกระทบมันจะกว้างมาก ต้องมองในภาพรวมไม่ใช่แค่ในมุมของตัวเองแค่นั้น
-
เลิกหวังกับรถไฮบริดหรือไฟฟ้าขนาดเล็ก ราคาย่อมเยาได้เลย ต่อให้ทำมาได้ สเปคกับคุณภาพก็ไม่คุ้มราคาที่ออกมาขาย ต่อให้สรรพสามิตร 0% เลย ก็ต้องแบกต้นทุนไว้อีก ทำราคาออกมา 4-5แสนไม่ได้ ทำได้ก็คุณภาพแบบ fomm กล้าใช้มั้ยล่ะ
จุดคุ้มทุนคือรถพรีเมียมราคา 2ล้าน+ อย่าง volvo t8 c300e หรือ 330e ที่ต่อให้ต้นทุนสูงแต่+ ภาษีแค่ประมาณ 4% ในขณะที่ eco car เฟส2 ต้องเสีย 12%
ฟังดูมันไม่ยุติธรรมใช่มั้ย แต่มันเป็นกลไกของประเทศนี้ ถ้าอยากจูงใจให้คนใช้ไฟฟ้าแยอะขึ้น นอกจากไม่เก็บภาษี ยังต้องแบกราคารถยนตร์ไว้อีกแบบประเทศจีนหรือนอร์เวย์ ซึ่งถ้ารัฐบาลไทยทำแบบนั้นผลกระทบมันจะกว้างมาก ต้องมองในภาพรวมไม่ใช่แค่ในมุมของตัวเองแค่นั้น
รถ EV ล้วนๆ (ไฟฟ้า 100%) โดยตัวรถมีขนาดประมาณ Honda City Gen 5 ในราคาประมาณ 7 แสนหน่อยๆ = พอเป็นไปได้ไหมครับ ??
-
ผมให้6.5แสนสำหรับตัวเริ่มต้น
-
เลิกหวังกับรถไฮบริดหรือไฟฟ้าขนาดเล็ก ราคาย่อมเยาได้เลย ต่อให้ทำมาได้ สเปคกับคุณภาพก็ไม่คุ้มราคาที่ออกมาขาย ต่อให้สรรพสามิตร 0% เลย ก็ต้องแบกต้นทุนไว้อีก ทำราคาออกมา 4-5แสนไม่ได้ ทำได้ก็คุณภาพแบบ fomm กล้าใช้มั้ยล่ะ
จุดคุ้มทุนคือรถพรีเมียมราคา 2ล้าน+ อย่าง volvo t8 c300e หรือ 330e ที่ต่อให้ต้นทุนสูงแต่+ ภาษีแค่ประมาณ 4% ในขณะที่ eco car เฟส2 ต้องเสีย 12%
ฟังดูมันไม่ยุติธรรมใช่มั้ย แต่มันเป็นกลไกของประเทศนี้ ถ้าอยากจูงใจให้คนใช้ไฟฟ้าแยอะขึ้น นอกจากไม่เก็บภาษี ยังต้องแบกราคารถยนตร์ไว้อีกแบบประเทศจีนหรือนอร์เวย์ ซึ่งถ้ารัฐบาลไทยทำแบบนั้นผลกระทบมันจะกว้างมาก ต้องมองในภาพรวมไม่ใช่แค่ในมุมของตัวเองแค่นั้น
รถ EV ล้วนๆ (ไฟฟ้า 100%) โดยตัวรถมีขนาดประมาณ Honda City Gen 5 ในราคาประมาณ 7 แสนหน่อยๆ = พอเป็นไปได้ไหมครับ ??
ยกตัวอย่างง่ายๆ Mg zs ตัวธรรมดา ราคาประมาณ 6แสน พอๆกับ ซิตี้ พอเป็น Ev ราคาขึ้นเป็นประมาณ 1.2 ล้าน ขึ้นมา 6 แสน นั่นขนาดได้สิทธิพิเศษภาษีนำเข้าจากจีนแล้ว ผลิตที่จีน ค่าแรง วัสดุถูกกว่าไทย ยังทำราคาได้แบบนี้ คิดว่า city ต่อให้ผลิตไทยไม่นำเข้าจากญี่ปุ่น จะทำราคาบวกมาอีกแค่ 1แสนบาท ต่อให้รัฐบาลสนับสนุน อุ้มคันละแสน ยังเป็นไปไม่ได้เลย อย่างที่บอกถ้าอยากได้ ev งบ 7แสน ก็จะได้รถคุณภาพเท่า fomm และในโลกของความเป็นจริงรถ ev หรือ ไฮบริดได้เรทภาษีพิเศษ ค่ายรถย่อมฉลาดพอที่จะยัดออปชั่นมาให้เต็ม ดูโตโยต้าเป็นตัวอย่าง สมมุติ ออปชั่น a ในเครื่องปกติ มีมูลค่า 1000 บาท โดนภาษี 25% เท่ากับว่าราคารถต้องบวกไปอีก 1250บาท แต่ถ้าใส่ในไฮบริด โดนแค่ 4% เท่ากับบวกราคารถไปอีกแค่ 1040 บาทเท่านั้น ส่วนต่างออปชั่นทั้งคันที่มูลค่าประมาณ 2แสน กับ 20% มีมูลค่ามากขนาดไหน ยังไม่รวมตัวรถอีกประมาณ8แสน-1ล้านอีก ยิ่งอยู่ในรถยุโรปมูลค่าอาจสูงถึง 6-8แสนเลยด้วยซ้ำเฉพาะออปชั่น นี่เป็นสาเหตุว่าทำไมรถยุโรปทำราคาลงได้ ทำไมเน้นไฮบริด ทำไมโตโยต้า ฮอนด้าโยนออปชั่นเต็มไว้ในเฉพาะไฮบริด เพราะถ้าใส่เต็มรวมภาษี แคมรี่ 2.5 ออปชั่นเท่าไฮบริด ราคา 2ล้าน คุณซื้อกันมั้ย
-
ไม่ให้เกินแจ๊สไฮบริดเดิมครับ simple as that.
-
เลิกหวังกับรถไฮบริดหรือไฟฟ้าขนาดเล็ก ราคาย่อมเยาได้เลย ต่อให้ทำมาได้ สเปคกับคุณภาพก็ไม่คุ้มราคาที่ออกมาขาย ต่อให้สรรพสามิตร 0% เลย ก็ต้องแบกต้นทุนไว้อีก ทำราคาออกมา 4-5แสนไม่ได้ ทำได้ก็คุณภาพแบบ fomm กล้าใช้มั้ยล่ะ
จุดคุ้มทุนคือรถพรีเมียมราคา 2ล้าน+ อย่าง volvo t8 c300e หรือ 330e ที่ต่อให้ต้นทุนสูงแต่+ ภาษีแค่ประมาณ 4% ในขณะที่ eco car เฟส2 ต้องเสีย 12%
ฟังดูมันไม่ยุติธรรมใช่มั้ย แต่มันเป็นกลไกของประเทศนี้ ถ้าอยากจูงใจให้คนใช้ไฟฟ้าแยอะขึ้น นอกจากไม่เก็บภาษี ยังต้องแบกราคารถยนตร์ไว้อีกแบบประเทศจีนหรือนอร์เวย์ ซึ่งถ้ารัฐบาลไทยทำแบบนั้นผลกระทบมันจะกว้างมาก ต้องมองในภาพรวมไม่ใช่แค่ในมุมของตัวเองแค่นั้น
รถ EV ล้วนๆ (ไฟฟ้า 100%) โดยตัวรถมีขนาดประมาณ Honda City Gen 5 ในราคาประมาณ 7 แสนหน่อยๆ = พอเป็นไปได้ไหมครับ ??
ยกตัวอย่างง่ายๆ Mg zs ตัวธรรมดา ราคาประมาณ 6แสน พอๆกับ ซิตี้ พอเป็น Ev ราคาขึ้นเป็นประมาณ 1.2 ล้าน ขึ้นมา 6 แสน นั่นขนาดได้สิทธิพิเศษภาษีนำเข้าจากจีนแล้ว ผลิตที่จีน ค่าแรง วัสดุถูกกว่าไทย ยังทำราคาได้แบบนี้ คิดว่า city ต่อให้ผลิตไทยไม่นำเข้าจากญี่ปุ่น จะทำราคาบวกมาอีกแค่ 1แสนบาท ต่อให้รัฐบาลสนับสนุน อุ้มคันละแสน ยังเป็นไปไม่ได้เลย อย่างที่บอกถ้าอยากได้ ev งบ 7แสน ก็จะได้รถคุณภาพเท่า fomm และในโลกของความเป็นจริงรถ ev หรือ ไฮบริดได้เรทภาษีพิเศษ ค่ายรถย่อมฉลาดพอที่จะยัดออปชั่นมาให้เต็ม ดูโตโยต้าเป็นตัวอย่าง สมมุติ ออปชั่น a ในเครื่องปกติ มีมูลค่า 1000 บาท โดนภาษี 25% เท่ากับว่าราคารถต้องบวกไปอีก 1250บาท แต่ถ้าใส่ในไฮบริด โดนแค่ 4% เท่ากับบวกราคารถไปอีกแค่ 1040 บาทเท่านั้น ส่วนต่างออปชั่นทั้งคันที่มูลค่าประมาณ 2แสน กับ 20% มีมูลค่ามากขนาดไหน ยังไม่รวมตัวรถอีกประมาณ8แสน-1ล้านอีก ยิ่งอยู่ในรถยุโรปมูลค่าอาจสูงถึง 6-8แสนเลยด้วยซ้ำเฉพาะออปชั่น นี่เป็นสาเหตุว่าทำไมรถยุโรปทำราคาลงได้ ทำไมเน้นไฮบริด ทำไมโตโยต้า ฮอนด้าโยนออปชั่นเต็มไว้ในเฉพาะไฮบริด เพราะถ้าใส่เต็มรวมภาษี แคมรี่ 2.5 ออปชั่นเท่าไฮบริด ราคา 2ล้าน คุณซื้อกันมั้ย
ขอบคุณครับ ข้อมูลแน่น ชัดเจนตามนี้
ที่มาที่ไป ไฮบริด คือ ลูกเมียหลวง
ขอตั้งข้อสังเกตุว่า ถ้าวันหนึ่งข้างหน้า
Great Wall motor ประกอบรถไฟฟ้าตระกูล Oraในไทย
ราคาต่ำกว่า ล้าน เพราะแข่งขันกับ MG ezs
เมื่อพริตตี้จีน เปิดซิ่งแล้วขายดี คิดว่า ซามูไรญี่ปุ่น จะลงมาฟันไหม
เมื่อตลาดเปิด ท้องฟ้าสดใส รถญี่ปุ่นกดราคาลงแข่งขัน
รอ ยุคเปลี่ยนผ่าน
จากไฮบริด แบบบ้านๆ ไป Phev ตามกระแสประเทศกำลังพัฒนาไม่มีสถานนีชาร์จ
รอ ตลาดเปิดรถไฟฟ้าEv ในประเทศไทย5ปีข้างหน้า
คงได้เห็น รถญี่ปุ่นEvออฟชั่นไส้ทะลัก ราคาต่ำกว่าล้าน
ส่วนตัว ผมไม่เล่นรถไฮบริด เข็ดE300/e330 ขายต่อยาก
รอ5-8ปี ค่อยซื้อ Ev แบตตารีรุ่นใหม่ ซื้อมาใช้และ ใข้ให้มันพังคาเท้า
-
ปัญหาโลกแตก
ผมว่าออกมายังไง คนไทยก็บ่น หาความพอดีไม่ได้หรอกครับ ต่างคนต่างคิดกันไปต่างๆนานา
รอให้ออกมาก่อน แล้วค่อยว่ากันทีเดียวดีกว่าครับ