Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: heimerazer ที่ สิงหาคม 24, 2020, 08:47:05
-
กำลังมองๆ จะซื้อรถคันแรกครับ แต่ก็ชั่งใจเรื่องเครื่องยนต์ เพราะตัวเองก็ไม่ค่อยมีความรู้ตรงนี้ แต่ก็ตั้งใจว่ารถคันแรก อยากจะใช้งานยาวๆ แล้วทีนี้ตัวเลือกระหว่างรถเครื่อง 1.0 Turbo (Nissan) กับ เครื่อง 1.5 ปกติ (Suzuki) ตัวไหนจะโอเคกว่ากัน ทั้งเรื่องค่าใช้จ่าย เรื่องการดูแลรักษา ขอบคุณครับ
-
ถ้าเน้นใช้ยาวๆ อยากให้พิจารณา 2 ด้านครับ
1.) ด้านตัวรถ ทั่วไปแล้วเครื่องยนต์ที่ระบบน้อยกว่า อุปกรณ์น้อยชิ้นกว่า
มันก็น่อมมีภาระการดูแล และค่าใช้จ่ายน้อยกว่า เป็นเรื่องธรรมชาติเลยครับ
2.) รถคันนั้นๆ ผลิตที่ใด ฐานผลิตที่ใด ถ้ารถผลิตในประเทศไทย ชิ้นส่วนต่างๆ
ผลิตจาก supplier ในไทย โอกาสที่จะมีอะไหล่ให้ใช้ยาวๆ มีมากกว่ากันมาก
แต่ถ้าเป็นรถนำเข้า ฐานผลิตอยู่ต่างประเทศ และถ้ายิ่งจำนวนรถที่ขายออกไป
อยู่บนถนนบ้านเราไม่มาก มันก็ไม่ค่อยจูงใจให้ห้างร้านเก็บสต๊อกอะไหล่สีกเท่าไหร่
ทีนี้ก็ต้องไปดูที่บริษัทเจ้าของแบรนด์ด้วยว่าเขามีนโยบายดูแลลูกค้าหลังจากรถ
หมดรุ่นไปแล้วอีกกี่ปีครับ
-
ถ้าเน้นใช้ยาวๆ อยากให้พิจารณา 2 ด้านครับ
1.) ด้านตัวรถ ทั่วไปแล้วเครื่องยนต์ที่ระบบน้อยกว่า อุปกรณ์น้อยชิ้นกว่า
มันก็น่อมมีภาระการดูแล และค่าใช้จ่ายน้อยกว่า เป็นเรื่องธรรมชาติเลยครับ
2.) รถคันนั้นๆ ผลิตที่ใด ฐานผลิตที่ใด ถ้ารถผลิตในประเทศไทย ชิ้นส่วนต่างๆ
ผลิตจาก supplier ในไทย โอกาสที่จะมีอะไหล่ให้ใช้ยาวๆ มีมากกว่ากันมาก
แต่ถ้าเป็นรถนำเข้า ฐานผลิตอยู่ต่างประเทศ และถ้ายิ่งจำนวนรถที่ขายออกไป
อยู่บนถนนบ้านเราไม่มาก มันก็ไม่ค่อยจูงใจให้ห้างร้านเก็บสต๊อกอะไหล่สีกเท่าไหร่
ทีนี้ก็ต้องไปดูที่บริษัทเจ้าของแบรนด์ด้วยว่าเขามีนโยบายดูแลลูกค้าหลังจากรถ
หมดรุ่นไปแล้วอีกกี่ปีครับ
ตัว 1.5 เป็นรถนำเข้าจากอินโด ครับ เพิ่งเปิดตัวไม่นาน เลยยังไม่แน่ใจสภาพว่าจะมีใช้กันกี่มากน้อย
-
เครื่อง turbo ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษามากกว่าแน่นอนครับ แต่มันก็ใช่ว่าจะเสียง่ายๆนะครับถ้าบำรุงรักษาตามมาตรฐานที่เขากำหนด แต่ก็แลกมาด้วยสมรรถนะที่ดีกว่า และอัตราสิ้นเปลืองที่น่าจะต่ำกว่าเครื่องธรรมดา ไหนๆจะซื้อทั้งทีผมว่าเราซื้ออนาคตกับเครื่อง turbo ดีกว่าครับ เพราะอนาคตต่อไปก็รถโมเดลใหม่ๆคงมีแต่เครื่อง turbo กัน
-
Almera กับ ertigaซินะครับ
ในระยะยาว เครื่องไม่มีเทอร์โบจะบำรุงรักษาง่ายกว่ามากครับ
อะไหล่ในระยะยาวไม่แน่ใจว่าsuzukiจะซัพพอร์ตได้นานแค่ไหน
-
เครื่องเทอร์โบค่าใช้จ่ายเยอะกว่าแน่นอนอยู่แล้วครับ
ทั้งเรื่องการเช็คระยะการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องที่สั้นกว่า
เปลี่ยนกรองน้ำมันเครื่อง 1.0 เทอร์โบลูกละ 600 บาท (ราคาศูนย์นิสสัน ขนาดของนาวาร่ายังแค่ลูกละ 200)
ไหนจะการดูแลอุปกรณ์ส่วนควบเกี่ยวกับเทอร์โบอีกเยอะ
ถ้าแคร์เรื่องนี้มาก ก็ควรห่างจากรถเทอร์โบครับ
แต่เป็นผมก็ยังเลือกเครื่องเทอร์โบมากกว่า เพราะเน้นสมรรถนะมากกว่าครับ
เรื่องค่าใช้จ่ายการดูแลผมรับได้ในอนาคต..
-
ถ้าโจทย์คือใช้รถยาวๆ และกังวลเรื่องค่าบำรุงรักษา กังวลเรื่องอะไหล่ แนะนำให้ไปโตโยต้า
-
Almera กับ ertigaซินะครับ
ในระยะยาว เครื่องไม่มีเทอร์โบจะบำรุงรักษาง่ายกว่ามากครับ
อะไหล่ในระยะยาวไม่แน่ใจว่าsuzukiจะซัพพอร์ตได้นานแค่ไหน
ห่วงเรื่องอะไหล่เหมือนกันคัรบ เพราะได้ข่าวว่าเป็นรถนำเข้าจากอินโดฯ กลัวอยู่เหมือนกัน
-
ใช้ยาวแล้ววิ่งเยอะไหมอะ .....
แบบใช้รถ 10 ปี แต่เลขไมล์ไปแค่ 8หมื่น อะไรงี้ป่าว ....
ถ้ายาวปี แต่วิ่งไม่เยอะ ก็เลือกตามชอบเถอะครับ มันทนพอกันแหละ อยู่ที่เราดูแลรักษา
แต่ถ้าวิ่งหนัก กะว่าปีละ 8หมื่นโลอะไรงี้ ค่อยมาเลือกเครื่อง..
-
Almera กับ ertigaซินะครับ
ในระยะยาว เครื่องไม่มีเทอร์โบจะบำรุงรักษาง่ายกว่ามากครับ
อะไหล่ในระยะยาวไม่แน่ใจว่าsuzukiจะซัพพอร์ตได้นานแค่ไหน
ห่วงเรื่องอะไหล่เหมือนกันคัรบ เพราะได้ข่าวว่าเป็นรถนำเข้าจากอินโดฯ กลัวอยู่เหมือนกัน
อย่าไปกังวลเรื่องอะไหล่เลยครับ .... เมื่อ 10ปีก่อน มีแค่ตนพูดเรื่องอะไหล่มาสด้า 3 BK ที่ประกอบอินโดฯ แต่ตอนนี้สิ อะไหล่เพียบ ล้นมือไปหมดไม่แพงด้วย ปั๊ม ABS ลูกนึงขาย 3 พัน โตต้าลูกเกือบหมื่นครับ
-
เครื่อง Turbo ไม่ได้น่ากลัวอะไร
ลองหันมามองกระบะรอบตัวสิครับ ย้อนหลังไป 10 ปี เครื่องเทอร์โบหมด พวกนี้วิ่งทะลุล้านกันเยอะแล้วครับ รถตลาด isuzu / toyota ผ่านฉลุย ถ้ามันรวน มันมีปัญหาคงมีคนโวยละ จะมีแค่ ค่ายที่ไม่ตลาดบางค่าย ที่ประเด็นเยอะ ราคาแพง ครับ
-
เครื่อง Turbo น่าจะ mass กว่านะครับ เดี๋ยวอะไหล่+ช่างยังไงก็มีใช้ มีซ่อมได้
-
นาทีนี้ ต้อง 1.0T แล้วครับ ยาวๆ เลย
-
เครื่องโบดีกว่านะ ใช้งานเร่งสนุกกว่า
อะไหล่มีอยู่แล้ว ทั้งแท้ห้าง แท้ถอด ธุรกิจเชียงกงบ้านเราไม่ล้มง่ายๆ
-
ถ้าดูแลดีๆขับปกติทั่วไปไม่ได้ไปแต่งเครื่องยนต์
เข้า 0 ตลอดไม่น่ามีปัญหาอไรนะครับ
-
Suzuki ขึ้นชื่อว่าถูกและจุกจิกน้อยสุดอยู่แล้วครับ
แต่ด้วยประสิทธิภาพของ 1.0 Turbo Nissan มันก็น่าจ่ายค่าบำรุงเพิ่มอยู่ แลกกับสมมรถนะและอัตราการใช้น้ำมันที่ได้มา
แต่
ก่อนจะเลือกเครื่อง เลือกประเภทรถก่อนดีกว่าครับ
-
เครื่องเทอร์โบมีอุปกรณ์ส่วนควบมากกว่า ดังนั้นการดูแลรักษาก็ย่อมมากกว่า แต่มันก็ไม่ได้น่ากลัวอะไร เป็นผม ผมเลือกซื้ออนาคตตามความเห็นหลายๆท่านครับ ส่วน 1.0 turbo จะเลือกค่ายไหนแล้วแต่ความพึงพอใจ มีดี (และมีด้อย) ทั้งคู่
-
N/A สบายใจ สบายกระเป๋า
Turbo อาจจะถูกใจ แต่ไม่ถูกกะตังในกระเป๋า
-
Suzuki ขึ้นชื่อว่าถูกและจุกจิกน้อยสุดอยู่แล้วครับ
แต่ด้วยประสิทธิภาพของ 1.0 Turbo Nissan มันก็น่าจ่ายค่าบำรุงเพิ่มอยู่ แลกกับสมมรถนะและอัตราการใช้น้ำมันที่ได้มา
แต่
ก่อนจะเลือกเครื่อง เลือกประเภทรถก่อนดีกว่าครับ
คือที่เอา รถ 2 ประเภทนี้ มาเทียบกัน เพราะใจผมอยากได้แค่รถ 1.0 T นี่แหละครับ แต่ถ้าผมเลือก 1.5 ที่เป็นรถครอบครัว ก็จะมีคนช่วยซัพค่าใช้จ่ายครับ ไม่ใช่ว่าเลือกรถไม่ได้หรอก 5555
-
ระบบเทอร์โบฉีดตรงมีปัญหา carbon build up หลังวาล์วกันถ้วนหน้าต้องล้างกันบ่อยๆทุกๆ50000-70000กิโลไม่งั้นเครื่องสั่นกินน้ำมัน :-\ ใช้ยาวนานแล้ววัดกันที่การดูแลรักษาเทอร์โบแพ้ครับให้เทอณ์โบไม่พังพอสิบปีขึ้นไปก็เริ่มท่อต่างๆเสื่อมต้องเปลี่ยนให้ไม่ไม่งั้นรั่วอีก :'(
-
ถ้ากังวลเรื่องอะไหล่ เครื่อง 1.5 เลือก Mobilio หรือ BR-V ดีกว่าครับ ใช้ร่วมกัน ทั้ง City ตัวเก่า Jazz อะไหล่เพียบแน่นอน
-
ยาวแบบไหน ถ้าใช้งานไม่เร็วมาก ขับไม่เร็วมาก ไม่แช่ยาว 1.0 ก็เพียงพอ
แต่ซัดหนักทางยาว ตจว แช่ยาว ก็ไป 1.5 ดีกว่า
-
1.0T ครับ แรง+ประหยัดอยู่ในตัว ภาษีประจำปีถูกกว่า แต่แนะนำว่าถ้าเป็นรถเทอร์โบสตาร์ทรถเสร็จอย่าพึ่งออกรถ ให้อุ่นเครื่องก่อนอย่างน้อย 1 นาที ตอนจอดก็เช่นกัน อย่างน้อยคูลดาวน์ 1 นาทีก่อนดับเครื่องครับ
แต่ถ้าเลือก 1.5 แล้วมีคนช่วยจ่าย ผมไป 1.5 ครับ ฮ่าๆ ;D ;D ;D
-
Almera vs ertiga คู่นี้ผมเชียร์ ertiga ครับ น่าจะทนกว่าแน่นอน
-
1.0T ครับ แรง+ประหยัดอยู่ในตัว ภาษีประจำปีถูกกว่า แต่แนะนำว่าถ้าเป็นรถเทอร์โบสตาร์ทรถเสร็จอย่าพึ่งออกรถ ให้อุ่นเครื่องก่อนอย่างน้อย 1 นาที ตอนจอดก็เช่นกัน อย่างน้อยคูลดาวน์ 1 นาทีก่อนดับเครื่องครับ
แต่ถ้าเลือก 1.5 แล้วมีคนช่วยจ่าย ผมไป 1.5 ครับ ฮ่าๆ ;D ;D ;D
เทคโนโลยีสมัยนี้ไม่ใช่คาบูเรเตอร์ที่ต้องดูดน้ำมัน มันเป็นหัวฉีดที่ควบคุมด้วย ecu หมดแล้ว น้ำมันเครื่องก็พัฒนาจนมีชั้นฟิมล์ปกป้องเครื่องอีกชั้นนึงอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องอุ่นเครื่องยนตร์อะไรทั้งนั้น ในหนังสือคู่มือแนะนำใช้รถก็บอกไว้ว่าไม่ควรจอดอุ่นเครื่องอยู่กับที่ ให้ขับรถด้วยความเร็วและรอบที่เหมาะสมก็พอ การที่จอดอุ่นเครื่องอยู่กับที่ก่อให้เกิดการสิ้นเปลืองและมลภาวะตามมา อย่าแนะนำอะไรคนอื่นในสิ่งที่ผิดและล้าสมัย
-
1.0T ครับ แรง+ประหยัดอยู่ในตัว ภาษีประจำปีถูกกว่า แต่แนะนำว่าถ้าเป็นรถเทอร์โบสตาร์ทรถเสร็จอย่าพึ่งออกรถ ให้อุ่นเครื่องก่อนอย่างน้อย 1 นาที ตอนจอดก็เช่นกัน อย่างน้อยคูลดาวน์ 1 นาทีก่อนดับเครื่องครับ
แต่ถ้าเลือก 1.5 แล้วมีคนช่วยจ่าย ผมไป 1.5 ครับ ฮ่าๆ ;D ;D ;D
เทคโนโลยีสมัยนี้ไม่ใช่คาบูเรเตอร์ที่ต้องดูดน้ำมัน มันเป็นหัวฉีดที่ควบคุมด้วย ecu หมดแล้ว น้ำมันเครื่องก็พัฒนาจนมีชั้นฟิมล์ปกป้องเครื่องอีกชั้นนึงอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องอุ่นเครื่องยนตร์อะไรทั้งนั้น ในหนังสือคู่มือแนะนำใช้รถก็บอกไว้ว่าไม่ควรจอดอุ่นเครื่องอยู่กับที่ ให้ขับรถด้วยความเร็วและรอบที่เหมาะสมก็พอ การที่จอดอุ่นเครื่องอยู่กับที่ก่อให้เกิดการสิ้นเปลืองและมลภาวะตามมา อย่าแนะนำอะไรคนอื่นในสิ่งที่ผิดและล้าสมัย
แล้วถ้าใช้ความเร็วและรอบที่สูงมา มันก็ควรจะคูลดาวน์ก่อนรึเปล่าครับ อย่างในคู่มือของ Almera 2020 หน้า 5-5 หรือ 151 ตรงข้อควรระวังก็ให้ปล่อยเครื่องยนต์ทำงานรอบเดินเบา 2-3 นาทีก่อนดับเครื่องยนต์ หรือคู่มือของอัลเมร่าแนะนำในสิ่งที่ผิดและล้าสมัย ?
อ้างอิง : https://www.nissan.co.th/content/dam/Nissan/th/owners/OwnerManual-170612/Owner-Manual-All-New-Nissan-Almera-TH-01.pdf
-
คูลดาวน์ต้องทำครับ ตามหลักฟิสิกส์มันคือการเปลี่ยนอุณหภูมิแบบกระทันหันยังไงก็มีผลเสียครับ
-
1.0T ครับ แรง+ประหยัดอยู่ในตัว ภาษีประจำปีถูกกว่า แต่แนะนำว่าถ้าเป็นรถเทอร์โบสตาร์ทรถเสร็จอย่าพึ่งออกรถ ให้อุ่นเครื่องก่อนอย่างน้อย 1 นาที ตอนจอดก็เช่นกัน อย่างน้อยคูลดาวน์ 1 นาทีก่อนดับเครื่องครับ
แต่ถ้าเลือก 1.5 แล้วมีคนช่วยจ่าย ผมไป 1.5 ครับ ฮ่าๆ ;D ;D ;D
เทคโนโลยีสมัยนี้ไม่ใช่คาบูเรเตอร์ที่ต้องดูดน้ำมัน มันเป็นหัวฉีดที่ควบคุมด้วย ecu หมดแล้ว น้ำมันเครื่องก็พัฒนาจนมีชั้นฟิมล์ปกป้องเครื่องอีกชั้นนึงอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องอุ่นเครื่องยนตร์อะไรทั้งนั้น ในหนังสือคู่มือแนะนำใช้รถก็บอกไว้ว่าไม่ควรจอดอุ่นเครื่องอยู่กับที่ ให้ขับรถด้วยความเร็วและรอบที่เหมาะสมก็พอ การที่จอดอุ่นเครื่องอยู่กับที่ก่อให้เกิดการสิ้นเปลืองและมลภาวะตามมา อย่าแนะนำอะไรคนอื่นในสิ่งที่ผิดและล้าสมัย
แล้วถ้าใช้ความเร็วและรอบที่สูงมา มันก็ควรจะคูลดาวน์ก่อนรึเปล่าครับ อย่างในคู่มือของ Almera 2020 หน้า 5-5 หรือ 151 ตรงข้อควรระวังก็ให้ปล่อยเครื่องยนต์ทำงานรอบเดินเบา 2-3 นาทีก่อนดับเครื่องยนต์ หรือคู่มือของอัลเมร่าแนะนำในสิ่งที่ผิดและล้าสมัย ?
อ้างอิง : https://www.nissan.co.th/content/dam/Nissan/th/owners/OwnerManual-170612/Owner-Manual-All-New-Nissan-Almera-TH-01.pdf
สุดยอดครับ ยุคนี้ต้องคุยกันแบบมี ref แหละ แต่ถ้าขับมารอบไม่สูงล่ะ? แล้วรอบสูงคือเท่าไหร่? ยังไงรถสองชนิดดูการใช้งานดีกว่า ไม่งั้นก็รอ Ciaz ใหม่
-
ผมไม่แน่ใจว่า จะใช้นานแค่ไหนนะครับ แต่คิดว่าอะไหล่ของ 2 ยี่ห้อนี้ คงไม่หายไปจากบ้านเราภายใน 10 ปีนี้หรอกครับ
-
ถ้าเป็น 1.0 ของ Nissan ผมไป 1.5 Suzuki เลยครับ
แต่ถ้า 1.0 ของ Honda ผมไป Honda
Nissan เป็นรถที่ดี แต่อาจจะรับวัฒนธรรมฝรั่ง (Renault) ไปเยอะ ทำให้ใช้ยาวๆ แล้ว ปีหลังๆ มักจะรวนกว่า Honda, Toyota แบบมีนัยยะสำคัญอยู่ครับ