Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: lay ที่ กันยายน 07, 2020, 19:04:18

หัวข้อ: รถยี่ห้อใหม่เมืองไทยเกิดยาก
เริ่มหัวข้อโดย: lay ที่ กันยายน 07, 2020, 19:04:18
ผมมาลองคิดดู   รถยนต์ในเมืองไทย  นอกจาก โตต้า ฮอนด้า  นิสสัน อีซูซุ บีเอ็ม เบ้นซ์...หลักๆ6-7ยี่ห้อนี้แล้ว แบรด์นใหม่ๆ  มาช่วงแรกก็ดู เหมือนจะดี  ไปๆมาๆหลายๆปี ก็มักจะเหี่ยวหาย  ใจจริงผมก็อยากให้ทุกแบรด์   ได้เกิดอยู่ยั้งยืนนาน  หลายๆแบรด์นนะครับ  ...คิดแล้วก็ใจหาย เพราะผมเป็นคน1ที่ตั้งความหวังเอาไว้   กับรถยี่ห้อใหม่ๆ  เกรงว่าจะซ้ำรอยเดิม  ไม่ทราบว่า สมช.ท่านอื่นคิดอย่างไรครับ
หัวข้อ: Re: รถยี่ห้อใหม่เมืองไทยเกิดยาก
เริ่มหัวข้อโดย: lay ที่ กันยายน 07, 2020, 19:09:03
กลัวว่าจะเหมือนมอไซ อะครับ  อีกคำถาม1 คือ  ประเทศอื่นๆเขามีรถขาย   หลากหลายแบรด์นไหมครับ
หัวข้อ: Re: รถยี่ห้อใหม่เมืองไทยเกิดยาก
เริ่มหัวข้อโดย: akewizard ที่ กันยายน 07, 2020, 19:12:14
ทำมาตรฐานให้เท่ากับ Toyota เดี๋ยวก็อยู่ได้เองครับ อันนี้ไม่ได้กวนนะพูดจริงๆ

ผมใช้รถยี่ห้อเล็กอย่าง Subaru ขับดีนะ แต่ซ่อมบำรุงรักษาก็ถือว่าจุกจิกในระดับนึงเลย ดีว่าอาศัยหาของหาอู่ซ่อมเองเลยไม่ได้เดือดร้อนอะไรมาก
แต่ถ้าเป็นคนทั่วไปผมว่าคงลำบาก.... ไปใช้ยี่ห้อเจ้าตลาดบริการดีๆ สบายใจกว่าน่ะ
หัวข้อ: Re: รถยี่ห้อใหม่เมืองไทยเกิดยาก
เริ่มหัวข้อโดย: รถจักรไอน้ำ ที่ กันยายน 07, 2020, 19:16:03
ผมเห็นด้วยครับ ตอนนี้เอาใจช่วยเปอโย 3008 ตัวใหม่อยู่ คอยเชียร์ให้คนรอบตัวรอจัดตัวนี้อยู่ครับ
หัวข้อ: Re: รถยี่ห้อใหม่เมืองไทยเกิดยาก
เริ่มหัวข้อโดย: ikky ที่ กันยายน 07, 2020, 19:19:35
ลองไปดูยี่ห้อที่ว่าไม่เกิดก่อนครับ ว่าเขาทำวีรกรรมอะไรไว้
หัวข้อ: Re: รถยี่ห้อใหม่เมืองไทยเกิดยาก
เริ่มหัวข้อโดย: Fly to dream ที่ กันยายน 07, 2020, 19:51:32
อีกหน่อยโรงงานในไทยจะเริ่มซวยเพราะประเทศเพื่อนบ้านเริ่มผลิตรถได้มากขึ้นครับ ช่วงนั้นคงจะเริ่มมีการส่งรถเข้ามาขายและทำให้โรงงานในไทยเริ่มเจ็บตัวกันบ้างเพราะค่าแรงสูงกว่าเค้า และภาษีนั่นนี่จนบิดเบือนราคาไปหมด
หัวข้อ: Re: รถยี่ห้อใหม่เมืองไทยเกิดยาก
เริ่มหัวข้อโดย: Symphonic ที่ กันยายน 07, 2020, 20:01:07
MG ไงครับ ขึ้นที่ 1 ในชาร์ทละ

ที่สำคัญ อย่าแค่อยากให้มีอย่างเดียว
ต้องช่วยซื้อด้วยครับ ซื้อกันเยอะๆ เลย
บริษัทต้องการยอดขายครับ ไม่ใช่ยอดไลค์
หัวข้อ: Re: รถยี่ห้อใหม่เมืองไทยเกิดยาก
เริ่มหัวข้อโดย: Newhang ที่ กันยายน 07, 2020, 20:13:17
ลองไปดูยี่ห้อที่ว่าไม่เกิดก่อนครับ ว่าเขาทำวีรกรรมอะไรไว้
+++++1
หัวข้อ: Re: รถยี่ห้อใหม่เมืองไทยเกิดยาก
เริ่มหัวข้อโดย: Tien.W ที่ กันยายน 07, 2020, 20:46:39
ยี่ห้อที่ดับ เค้าดับเพราะคนไทยไม่ยอมรับ แต่คนไทย ไม่ใช่คนที่ไม่เปิดใจรับสิ่งใหม่ๆนะ เพียงแต่ เค้าเปิดแล้ว เค้าเจอสิ่งที่เค้ารับไม่ได้ ก็เลยปากต่อปาก จนเจ๊งไปน่ะครับ

Volk / Seat / Skoda / Citrone / Audi .. ยนตรกิจทำอะไรไว้มั่งครับ

Alfa / Proton .. พระนคร ทำอะไรไว้มั่งครับ

มีพอจะกลับมาได้ก็ Hyundai ก็ถือว่า โอเคอยู่นะ กับ ยอดรถตู้ หรือ Audi ก็ต้องมานั่งสร้างชื่อใหม่หมด

ถ้า Volk / Alfa .. กลับมา แบบอะไหล่ไม่แพง เคลมง่าย บริการดี รถไม่จุกจิก จนเกินไปนัก ก็มีคนซื้อครับ ขนาด MG ยังไปได้เลยครับ
หัวข้อ: Re: รถยี่ห้อใหม่เมืองไทยเกิดยาก
เริ่มหัวข้อโดย: I-PULSE ที่ กันยายน 07, 2020, 21:28:30
เจ้าตลาดนี่ไม่ได้จับฉลากมานะครับ ทีมวิจัยเขาทำงานหนักมากในการออกแบบให้ชิ้นส่วนทำงานได้ดีและทนทานการผลิตก็มีQC ที่เข้มงวด
การผลิตรถเครื่องยนต์สันดาบไม่ใช่ของง่ายเลย เจ้าใหม่ๆที่เข้ามาถ้าทำตรงนี้ได้ดีพอกับเจ้าตลาดขายสักสิบปี สุดท้ายคนไทยก็ยอมรับในคุณภาพแน่นอน
หัวข้อ: Re: รถยี่ห้อใหม่เมืองไทยเกิดยาก
เริ่มหัวข้อโดย: kiwiwi ที่ กันยายน 07, 2020, 22:00:27
เพราะญี่ปุ่นสร้างกำแพงขึ้นมาอันนึงครับ เป็นวัฏจักรที่ทำให้คนในภูมิภาคเราติดงอมแงมเลย

รถใหม่ = ดาวน์ -​> ผ่อน -​> ขายต่อ -​> ดาวน์ใหม่ -​> ผ่อน  เป็นวงกลมไปเรื่อยๆ

สาเหตุที่สามารถเป็นวงกลมนี้ขึ้นมาได้เพราะตัวแปรนึงคือ รถมือสอง ราคาขายต่อพอทำให้ไปอยู่ในวัฏจักร​นั้นได้ และอะไรที่ทำให้รถมือสองมีราคาสูงได้ เพราะญี่ปุ่นทำให้รถคันนั้นๆใช้ต่อได้อีก 5-7ปี

โดยตัวรถมือสองบางรุ่น ยังสามารถเข้าวัฏจักร​ ดาวน์ -​> ผ่อน -​> ขาย -​> ดาวน์...... ได้อีก

มองภาพง่ายๆครับ ตอน Hyundai H1 มาทำตลาดได้ระยะหนึ่ง เค้ามี 2 ช้อยส์คือ ไปต่อ หรือจบลงเหมือนกับรุ่นอื่นๆในค่าย แต่ Hyundai​เลือกให้ H1 อยู่ต่อโดยการลงทุนทำระบบจัดเก็บอะไหล่อีก 4.5พันล้าน

4.5พันล้านนี่คือรุ่นเดียวนะครับ  ถ้า Hyundai ต้องทำ Sonata Santafe Tuscon หรือ Elanta สงสัย ต้ิวต้องมีหมื่นล้าน Up เพราะรุ่นที่ว่ามาแทบแชร์อะไหล่กันไม่ได้เลย

ตลาดบ้านเราไม่ใช่แบบบางประเทศที่ใช้รถ 5 ปีทิ้ง

ถ้าย้อนกลับไปตอนผมวัยรุ่น เบ๊นซ์เองหรือบีเอ็มก็เคยอยู่ในวงจรนี้

ถ้าผมเป็นบริษัทรถญี่ปุ่น ผมจะเฉยๆกับฝั่งจีนมากๆครับ ก็เหมือนแฟชั่นแหละ ที่จีนเองไม่สามารถยึดตลาดนี้ได้ งานโหล งานถูก เราอาจสู้จีนไม่ได้ แต่การ์เม้นท์เมืองไทยไม่ตายเพราะแฟชั่นเปลี่ยนเร็วมาก ใครมันจะกล้าเย็บชุดนอนลายฮิตเดียวกันออกมาเยอะๆในเมื่อเดี๋ยวอีกไม่นานเค้าก็เลิกใช้

เอาแค่รถยนต์จีนออกมาไม่ถึง 3 ปี อะไหล่เก่าบางชิ้นก็แทบหาไม่ได้แล้วเมื่อถัดไปอีก 6 ปี ไม่ใช่ตลาดไทยแน่นอน

สำหรับ MG ต้องรอดูยาวกว่านี้ครับ คนขาดประสบการณ์ในการเล่นรถและเลือกซื้อรถยังอีกเยอะมาก รอ zs วนเข้าไปในวัฏจักรได้ มันก็จะโต แต่ถ้าวนไม่ได้ เดี๋ยวมันก็จะพาลดับยกค่าย

ส่วนที่มาใหม่ เค้าคงคิดหนัก หรือไม่ก็รอขายแต่คนใจรัก หรือคนมีรายได้พอสมควรที่ไม่ต้องพึ่งวัฏจักร​ที่ผมว่า
หัวข้อ: Re: รถยี่ห้อใหม่เมืองไทยเกิดยาก
เริ่มหัวข้อโดย: Altima ที่ กันยายน 08, 2020, 00:06:32
1. กำแพงภาษีนำเข้า

ไปประเทศเพื่อนบ้านมีตัวเลื่อกหลากหลายมากเพราะค่ายเอารถคันไหนมาขายก็ได้จากต่างประเทศ

2. ตลาดเล็ก
อีกสาเหตุก็คือ คนไทยไม่ได้ซื้อรถเยอะ จำนวนรถเทียบกับ population ยังน้อยมากๆ เอาตัวเลข car ownership per capita ไปเทียบกับ USA ดูแล้วจะรู้ครับว่าตลาดไทยมันเล็กขนาดไหน

ประเทศ Australia ยังซื้อรถเยอะกว่าเราทั้งๆที่ population น้อยกว่า 3 เท่า และอีกอย่าง ขนาดตลาดเล็กขนาดนี้ แต่ตลาด mid-size pickup truck ที่ใหญ่ที่สุดในโลกคือประเทศไทย!

เจ้าไหนเอารถเก๋งมาทำตลาด พ้นกำแพงภาษีอย่าง Peugeot ได้ยังไม่พอ ยังต้องสู้กับรถที่เป็นคนละประเภทเพราะคนซื้อรถกระบะส่วนใหญ่เค้า cross-shop กับรถเก๋งด้วย

3. พวงมาลัยขวา
มีหลายค่ายมากๆครับที่เคยคิดจะตั้งโรงงานผลิตในไทยแต่ถอนเพราะตลาดรถพวงมาลัยขวามันน้อยเกินไป
หัวข้อ: Re: รถยี่ห้อใหม่เมืองไทยเกิดยาก
เริ่มหัวข้อโดย: MyName ที่ กันยายน 08, 2020, 00:24:38
Ford Fiesta , Ranger , Chevrolet Colorado , Captiva นี่แสดงให้เห็นชัดเลยนะครับว่าคนไทยเปิดรับแบรนด์​รองมากขนาดไหน ถ้าทำรถมาดี คนพูดถึงแต่ในแง่ประสิทธิภาพ​รถดี

แต่สุดท้ายที่มันพังไปเพราะสิ่งที่คนทำเค้าทำตัวเองทั้งนั้นครับ ทั้งคุณภาพ , การจัดการปัญหา , การบริการ ฯลฯ
หัวข้อ: Re: รถยี่ห้อใหม่เมืองไทยเกิดยาก
เริ่มหัวข้อโดย: Firzen ที่ กันยายน 08, 2020, 06:41:02
ผมว่าต้องดูเป็นรุ่นๆไปครับ แต่การจะยืนระยะยาวต้องดูความทนทานของตัวรถ ปัญหาจุกจิก รวมไปถึงศูนย์บริการ การแก้ไขปัญหาต่างๆ ความจริงใจและนโยบายของบริษัทแม่
หัวข้อ: Re: รถยี่ห้อใหม่เมืองไทยเกิดยาก
เริ่มหัวข้อโดย: Devil13 ที่ กันยายน 08, 2020, 07:10:16
ส่วนตัวนะครับ
สมัยเด็กเห็นรถโฟล์คเต่ามาตลอด ตอนนี้แทบไม่เห็นแล้ว แต่ช่วง 10-15 ปีมานี้มินิคูเปอร์กระแสดีมาก
มองว่าบางยี่ห้อก็มีตลาดกลุ่มเฉพาะของเค้าอยู่ครับ เพียงแต่ไม่Mass เหมือนรถตลาดเท่านั้นเอง
หัวข้อ: Re: รถยี่ห้อใหม่เมืองไทยเกิดยาก
เริ่มหัวข้อโดย: toffyearn ที่ กันยายน 08, 2020, 08:21:00
ก็จริงคับ รถบ้านเราค่อนข้างแพง และการใช้รถคนส่วนใหญ่บ้านเราไม่ใช่แค่ไม่กี่หมื่นโล เหมือนบางประเทศ แถมทั้งใช้แบบสารพัดประโยชน์เลย ทั้งจับจ่ายใช้สอย ซื้อของ กินข้าว กินเหล้า โชว์สาว เที่ยวใกล้ เที่ยวไกล กลับต่างจังหวัด นอกจาก สมรรถนะ ราคา option เลยมีคำว่า ทนทาน น่าเชื่อถือเข้ามาด้วย เรื่องการผลิตรถ มีหลายๆอย่างที่เป็นเรื่องการสั่งสมประสบการ์ณ ลองผิดลองถูก ที่บางรายก็มีเทคนิคเฉพาะตัวที่เลียนแบบได้ยาก แถมบางคนยังคำนึงถึงการขายต่ออีกด้วย แล้วที่ผ่านมาเจ้าตลาดบ้านเราก็ลงทุนไปเยอะ แถมทำได้ดีมากๆด้วย
หัวข้อ: Re: รถยี่ห้อใหม่เมืองไทยเกิดยาก
เริ่มหัวข้อโดย: Floppy-T ที่ กันยายน 08, 2020, 08:32:45
ผมมองว่า ทุกคนชอบรถที่มันไม่จุกจิก หรือจุกจิกแล้วแก้ไขปัญหาจบและรวดเร็ว
ซึ่งรถญี่ปุ่นตอบโจทย์นั้น Toyota ทนทาน Isuzu แก้ไขปัญหารวดเร็ว ฯลฯ
ผมว่าถ้าทุกๆแบรนด์ของรถที่อยากจะเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยนั้น
Product นั้นต้องตอบโจทย์เรื่องทนทาน ไม่จุกจิกก่อนเป็นอันดับแรก
ไม่ใช่รถแบรนด์อื่นๆไม่ดีนะครับ แต่ถนนบ้านเรา + สภาพอากาศร้อน บางทีมันก็เกินที่รถจะทน
หัวข้อ: Re: รถยี่ห้อใหม่เมืองไทยเกิดยาก
เริ่มหัวข้อโดย: dht_tubes ที่ กันยายน 08, 2020, 08:35:34
เพราะญี่ปุ่นสร้างกำแพงขึ้นมาอันนึงครับ เป็นวัฏจักรที่ทำให้คนในภูมิภาคเราติดงอมแงมเลย

รถใหม่ = ดาวน์ -> ผ่อน -> ขายต่อ -> ดาวน์ใหม่ -> ผ่อน  เป็นวงกลมไปเรื่อยๆ

สาเหตุที่สามารถเป็นวงกลมนี้ขึ้นมาได้เพราะตัวแปรนึงคือ รถมือสอง ราคาขายต่อพอทำให้ไปอยู่ในวัฏจักรนั้นได้ และอะไรที่ทำให้รถมือสองมีราคาสูงได้ เพราะญี่ปุ่นทำให้รถคันนั้นๆใช้ต่อได้อีก 5-7ปี

โดยตัวรถมือสองบางรุ่น ยังสามารถเข้าวัฏจักร ดาวน์ -> ผ่อน -> ขาย -> ดาวน์...... ได้อีก

มองภาพง่ายๆครับ ตอน Hyundai H1 มาทำตลาดได้ระยะหนึ่ง เค้ามี 2 ช้อยส์คือ ไปต่อ หรือจบลงเหมือนกับรุ่นอื่นๆในค่าย แต่ Hyundaiเลือกให้ H1 อยู่ต่อโดยการลงทุนทำระบบจัดเก็บอะไหล่อีก 4.5พันล้าน

4.5พันล้านนี่คือรุ่นเดียวนะครับ  ถ้า Hyundai ต้องทำ Sonata Santafe Tuscon หรือ Elanta สงสัย ต้ิวต้องมีหมื่นล้าน Up เพราะรุ่นที่ว่ามาแทบแชร์อะไหล่กันไม่ได้เลย

ตลาดบ้านเราไม่ใช่แบบบางประเทศที่ใช้รถ 5 ปีทิ้ง

ถ้าย้อนกลับไปตอนผมวัยรุ่น เบ๊นซ์เองหรือบีเอ็มก็เคยอยู่ในวงจรนี้

ถ้าผมเป็นบริษัทรถญี่ปุ่น ผมจะเฉยๆกับฝั่งจีนมากๆครับ ก็เหมือนแฟชั่นแหละ ที่จีนเองไม่สามารถยึดตลาดนี้ได้ งานโหล งานถูก เราอาจสู้จีนไม่ได้ แต่การ์เม้นท์เมืองไทยไม่ตายเพราะแฟชั่นเปลี่ยนเร็วมาก ใครมันจะกล้าเย็บชุดนอนลายฮิตเดียวกันออกมาเยอะๆในเมื่อเดี๋ยวอีกไม่นานเค้าก็เลิกใช้

เอาแค่รถยนต์จีนออกมาไม่ถึง 3 ปี อะไหล่เก่าบางชิ้นก็แทบหาไม่ได้แล้วเมื่อถัดไปอีก 6 ปี ไม่ใช่ตลาดไทยแน่นอน

สำหรับ MG ต้องรอดูยาวกว่านี้ครับ คนขาดประสบการณ์ในการเล่นรถและเลือกซื้อรถยังอีกเยอะมาก รอ zs วนเข้าไปในวัฏจักรได้ มันก็จะโต แต่ถ้าวนไม่ได้ เดี๋ยวมันก็จะพาลดับยกค่าย

ส่วนที่มาใหม่ เค้าคงคิดหนัก หรือไม่ก็รอขายแต่คนใจรัก หรือคนมีรายได้พอสมควรที่ไม่ต้องพึ่งวัฏจักรที่ผมว่า

เม้นท์คุณ kiwiwi เยี่ยมมาก ชัดเจนเลย
หัวข้อ: Re: รถยี่ห้อใหม่เมืองไทยเกิดยาก
เริ่มหัวข้อโดย: PaPaMan ที่ กันยายน 08, 2020, 09:30:13
ผมอยากให้ศึกษาการเข้าสู่ตลาดเมืองไทยของแบรนด์ Honda (รถยนต์นะครับ ไม่นับ MC) เมื่อประมาณ 30+ปีก่อนครับ


ตอนนั้นต้องเรียกว่าเริ่มต้นจากศูนย์เพราะยังไม่เคยทำตลาดรถยนต์ในประเทศไทยเลย ต้องเรียกว่าตามหลัง โตโยต้า นิสสัน หรือแม้แต่มาสด้า แล้วเค้าบุกตลาดด้วยรถยนต์แค่ 2 รุ่น คือ Civic + Accord จำได้ว่าเค้าวาง position รถให้เหนือกว่าโตโยต้าไว้นิดๆอีกด้วย


แล้วดูตอนนี้ ...
นี่ขนาดไม่มีรถกระบะนะครับ
หัวข้อ: Re: รถยี่ห้อใหม่เมืองไทยเกิดยาก
เริ่มหัวข้อโดย: O_o" ที่ กันยายน 08, 2020, 10:03:54
อย่าว่าแต่ค่ายใหม่เลยครับ ตอนนี้ค่ายเก่าๆ เอารถบางรุ่นมาขายก็ยังไม่เกิดเลยก็ยังมีเยอะแยะไปครับ

ในยุคที่ผู้คนเข้าถึงสื่อออนไลน์ได้ง่ายแบบนี้ ทั้งรีวิว ทั้งรูป ทั้งข้อมูล ข้อดี ข้อเสีย หาเสพกันง่ายมาก ตัวเลือกเยอะกว่าสมัยก่อนมากๆ

ไม่เหมือนสมัยก่อนที่ผู้ซื้อ แทบไม่มีข้อมูลอะไรเลย เต็มที่ก็สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อวิทยุ นอกจากเดินถือเงินสดเข้าโชว์รูมไปซื้อรถกันเลย

ตอนนี้หลายๆค่าย ที่เข้ามาทำตลาดในไทย ก็ใช้วิธีจัดออปชั่นและราคาที่ดูคุ้มค่าเข้าสู้กับค่ายเจ้าตลาด ตรงใจบ้าง ไม่ตรงใจบ้าง
หัวข้อ: Re: รถยี่ห้อใหม่เมืองไทยเกิดยาก
เริ่มหัวข้อโดย: Sympho ที่ กันยายน 08, 2020, 10:15:08
MG ขายดีมากกว่าที่คิดนะครับ

แต่ยี่ห้อที่ตายไปก็ทำตัวเองทั้งนั้น

ที่บ้าน คนรอบตัว Honda , Mazda 2 คัน , Subaru ผมเองใช้ Toyota

ซึ่งผมต้องดูแลรถเหล่านี้ ไม่มากก็น้อย

รู้เลยว่าทำไม บางเบรนอยู่ได้ บางเบรนอาจจะอยู่ไม่ได้ ถ้าไม่ปรับตัว
หัวข้อ: Re: รถยี่ห้อใหม่เมืองไทยเกิดยาก
เริ่มหัวข้อโดย: samaklen ที่ กันยายน 08, 2020, 10:23:48
ก็อยากให้ยุโรปแบรนด์รองเกิดนะครับ
อย่าง Volk ที่ อยากให้มามาก Golf ขายดีในเยอรมันร่วมกว่า 20 ปี
รถคุณภาพขนาดนี้ มาบ้านเรา ตัวแทนสามารถทำให้เดี้ยงได้....
ลำพังจะให้รถขายตัวเองอย่างเดียว มันก็ไม่ไหวเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: รถยี่ห้อใหม่เมืองไทยเกิดยาก
เริ่มหัวข้อโดย: KTN88 ที่ กันยายน 08, 2020, 10:27:14
ต้องบอกว่าจริงมากๆครับ เนื่องจากความต้องการหลักๆคือรถต้องดีและถูกกว่าเจ้าตลาดซึ่งเป็นไปไม่ได้

- ต้องการได้รถคุณภาพเทียบเท่าหรือดีกว่าเจ้าตลาด พอราคาออกมาเท่าหรือแพงกว่าก็ไม่ซิ้อ ไปซื้อเจ้าตลาดกันหมด
- พอคนซื้อน้อย บริษัทก็ไม่มีทุนไปสต๊อคอะไหล่และค่อยๆเจ๊งไป
- ซึ่งความเป็นจริงคือคนในประเทศต้องคอยอุดหนุนครับให้บริษัทมีสภาพคล่อง สามารถทำกำไรได้และรัฐต้องส่งเสริมอย่างจริงจัง(แต่คงไม่ได้เพราะมีบริษัทรถญี่ปุ่นค้ำคออยู่)พอสถานะการเงินดีและยอดซื้อรถเยอะ สิ่งที่ตามมาคือความสามารถในการสต๊อคอะไหล่และการบริการหลังการขาย
- ส่วนเรื่องราคา ช่วงแรกจะเสียเปรียบเจ้าตลาดอยู่แล้ว เพราะเจ้าตลาดต้นทุนต่อคันต่ำกว่าจากปริมาณที่ผลิตได้ ยกดว้นว่าจะลดต้นทุนบางส่วนเพื่อกดราคา แต่ความเชื่อมั่นก็ลดลงด้วย

เรื่องแบรนด์ไทยที่เกิดได้ต้องดูอย่างแบรนด์รถมอเตอร์ไซค์อย่าง gpx ครับ จากช่วงแรกเป็นการเอาซื้อเครื่องยนต์สหกรณ์จากจีนแล้วมาเข้ากับรูปลักษณ์ภายนอกที่ไปยำยี่ห้อนู้นยี่ห้อนี้มา กดราคาต่ำกว่าเจ้าตลาด คุณภาพก็งั้นๆ ขายดิบขายดี แต่ดูจากผลิตภัณฑ์ก็คิดว่าไม่น่าจะอยู่ได้นาน แต่สิ่งที่เป็นจุดที่ทำให้ gpx แตกต่างจากแบรนด์ไทยอื่นๆคือบริการหลังการขาย ทั้งเรื่องสต๊อคอะไหล่และการเคลมทำได้อย่างดี ทำให้ความเชื่อมั่นของลูกค้ามีมากขึ้น จนปัจจุบันทางแบรนด์สามารถออกแบบรถเองและมีส่วนร่วมในการพัฒนาเครื่องยนต์กับผู้ผลิตในจีน รถน่าใช้กว่าเดิมมากๆ แถมศูนย์บริการก็มีเพิ่มขึ้นมากเช่นกัน ซึ่งคล้ายกับสิ่งที่ mg ทำในช่วงแรกๆ
หัวข้อ: Re: รถยี่ห้อใหม่เมืองไทยเกิดยาก
เริ่มหัวข้อโดย: jeeper ที่ กันยายน 08, 2020, 10:27:59
เร็วๆนี้จะมีเจ้าใหม่เกิดเยอะแน่ๆในตลาดรถไฟฟ้าโดยเฉพาะจากจีน เราจะสามารถจัดสเปคได้เหมือนประกอบคอมพิวเตอร์เลยว่าเอามอเตอร์กี่แรง จอแสดงผลกี่นิ้ว แบตความจุเท่าไหร ซึ่งมอเตอร์นั้นมีชิ้นส่วนน้อยชิ้นกว่าเครื่องยนต์เยอะและไม่มีเกียร์ ไม่ต้องการการดูแลรักษามาก อุปกรณ์ส่วนใหญ่ทำงานเป็นเอกเทศ เช่นแอร์ พวงมาลัยไฟฟ้า พัดลมไฟฟ้า อู่ข้างทางสามารถสั่งอะไหล่มายกเปลี่ยนให้ได้เลย
หัวข้อ: Re: รถยี่ห้อใหม่เมืองไทยเกิดยาก
เริ่มหัวข้อโดย: huiimanoid ที่ กันยายน 08, 2020, 10:36:41
ลองไปดูยี่ห้อที่ว่าไม่เกิดก่อนครับ ว่าเขาทำวีรกรรมอะไรไว้

ยี่ห้อรถไม่ได้เลวร้ายอะไร มันเป็นที่ตัวแทน-ศูนย์บริการทั้งนั้น อย่าง Hyundai, Kia, Daihatsu, Peugeot, Fiat, Citroen ฯลฯ ก็ไม่ได้ขี้เหร่อะไร
ทั้งๆ ที่ศูนย์โคตรดี แต่ก็อะไหล่และค่าบริการก็แพงหูฉี่เหมือนกัน ยิ่ง Mazda สมัยก่อน กมลสุโกศล ก็ทำตลาดไม่ค่อยได้ มาดีเอาช่วงเปลี่ยนมือ
แต่ก็กว่าจะตั้งตัวได้ สมัยนี้ยอดจึงค่อนข้างดีกว่าเมื่อก่อนเยอะ เจ้าตลาดเองสมัยก่อนใหม่ๆ ก็ไม่ได้โดดเด่นอะไร ต้องใช้เวลานานกว่าจะมายืนตรงนี้ได้
เวลาจึงเป็นเครื่องพิสูจน์สายป่านยาวแค่ไหน นับแต่ โตโยเป็ด ดัทสัน มิตซู และเชื่อว่า รถรุ่นใหม่ๆ ที่เข้ามาทำตลาดในไทยเองก็ต้องใช้ระยะเวลาและการปรับปรุง
ด้าานการบริการเป็นเครื่องพิสูจน์ Toyota มาได้ตอนที่เอามาทำ Taxi จึงเริ่มบูม โดยเฉพาะ Crown-Corona ไปตามโรงแรม-สนามบิน ป้ายดำวิ่งตจว.
อย่าง MG ใหม่ๆ เข้ามาก็ยี้กันแทบทุกคน ตอนนี้เริ่มติดตลาดละ Greatwall ก็คิดว่าแนวทางเดียวกัน แต่คิดว่าสายป่านน่าจะยาว
เพราะทุนเยอะ
หัวข้อ: Re: รถยี่ห้อใหม่เมืองไทยเกิดยาก
เริ่มหัวข้อโดย: SETTHASART ที่ กันยายน 08, 2020, 10:50:09
ผมว่าในภาพรวมผู้บริดภคบ้านเราเปิดโอกาสให้ค่ายรถใหม่ๆพอสมควรนะครับ อย่าง MG ตามตัวเมืองขับกันเต็มไปหมด แต่จะมีปัจจัยอื่นๆตามมาที่อาจส่งผลให้ค่ายรถใหม่ๆหรือค่ายรองๆยืนระยะในบ้านเราได้แค่ไหน เช่น
1. ขึ้นอยู่กับบริษัทด้วยว่าจะจริงจังกับการทำตลาดในบ้านเราแค่ไหน
2. ความน่าเชื่อถือ ความเสถียรของผลิตภัณฑ์ ซึ่งอันนี้ต้องใช้เวลาพิสูจน์พอสมควร
หัวข้อ: Re: รถยี่ห้อใหม่เมืองไทยเกิดยาก
เริ่มหัวข้อโดย: ไทบ้าน ที่ กันยายน 08, 2020, 11:18:01
ถ้าตัวสินค้าแกร่งอยู่แล้วขอเพียงบริการหลังขายให้เพียบพร้อมก็สามารถอยู่ในตลาดบ้านเราได้ครับ (แต่อย่าหาทำเหมือน Crysler เอารถมาขาย 2 รุ่น..เลิก)
หัวข้อ: Re: รถยี่ห้อใหม่เมืองไทยเกิดยาก
เริ่มหัวข้อโดย: lay ที่ กันยายน 08, 2020, 11:46:27
ขอบคุณทุกท่านที่แชร์ ข้อมูลความคิดเห็น  เป้นข้อมูลที่ มีประโยชน์มากๆเลยครัย
หัวข้อ: Re: รถยี่ห้อใหม่เมืองไทยเกิดยาก
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ กันยายน 08, 2020, 11:48:15
ผมเห็นด้วยครับ ตอนนี้เอาใจช่วยเปอโย 3008 ตัวใหม่อยู่ คอยเชียร์ให้คนรอบตัวรอจัดตัวนี้อยู่ครับ

เป็นอีกคนนึงครับที่คิดว่า ค่ายนี้จะอยู่ไม่นาน เห็นความตั้งใจ ลงทุนไปเยอะ เลยต้องเอาใจช่วยหน่อย
หัวข้อ: Re: รถยี่ห้อใหม่เมืองไทยเกิดยาก
เริ่มหัวข้อโดย: lay ที่ กันยายน 08, 2020, 11:51:17
เพราะญี่ปุ่นสร้างกำแพงขึ้นมาอันนึงครับ เป็นวัฏจักรที่ทำให้คนในภูมิภาคเราติดงอมแงมเลย

รถใหม่ = ดาวน์ -> ผ่อน -> ขายต่อ -> ดาวน์ใหม่ -> ผ่อน  เป็นวงกลมไปเรื่อยๆ

สาเหตุที่สามารถเป็นวงกลมนี้ขึ้นมาได้เพราะตัวแปรนึงคือ รถมือสอง ราคาขายต่อพอทำให้ไปอยู่ในวัฏจักรนั้นได้ และอะไรที่ทำให้รถมือสองมีราคาสูงได้ เพราะญี่ปุ่นทำให้รถคันนั้นๆใช้ต่อได้อีก 5-7ปี

โดยตัวรถมือสองบางรุ่น ยังสามารถเข้าวัฏจักร ดาวน์ -> ผ่อน -> ขาย -> ดาวน์...... ได้อีก

มองภาพง่ายๆครับ ตอน Hyundai H1 มาทำตลาดได้ระยะหนึ่ง เค้ามี 2 ช้อยส์คือ ไปต่อ หรือจบลงเหมือนกับรุ่นอื่นๆในค่าย แต่ Hyundaiเลือกให้ H1 อยู่ต่อโดยการลงทุนทำระบบจัดเก็บอะไหล่อีก 4.5พันล้าน

4.5พันล้านนี่คือรุ่นเดียวนะครับ  ถ้า Hyundai ต้องทำ Sonata Santafe Tuscon หรือ Elanta สงสัย ต้ิวต้องมีหมื่นล้าน Up เพราะรุ่นที่ว่ามาแทบแชร์อะไหล่กันไม่ได้เลย

ตลาดบ้านเราไม่ใช่แบบบางประเทศที่ใช้รถ 5 ปีทิ้ง

ถ้าย้อนกลับไปตอนผมวัยรุ่น เบ๊นซ์เองหรือบีเอ็มก็เคยอยู่ในวงจรนี้

ถ้าผมเป็นบริษัทรถญี่ปุ่น ผมจะเฉยๆกับฝั่งจีนมากๆครับ ก็เหมือนแฟชั่นแหละ ที่จีนเองไม่สามารถยึดตลาดนี้ได้ งานโหล งานถูก เราอาจสู้จีนไม่ได้ แต่การ์เม้นท์เมืองไทยไม่ตายเพราะแฟชั่นเปลี่ยนเร็วมาก ใครมันจะกล้าเย็บชุดนอนลายฮิตเดียวกันออกมาเยอะๆในเมื่อเดี๋ยวอีกไม่นานเค้าก็เลิกใช้

เอาแค่รถยนต์จีนออกมาไม่ถึง 3 ปี อะไหล่เก่าบางชิ้นก็แทบหาไม่ได้แล้วเมื่อถัดไปอีก 6 ปี ไม่ใช่ตลาดไทยแน่นอน

สำหรับ MG ต้องรอดูยาวกว่านี้ครับ คนขาดประสบการณ์ในการเล่นรถและเลือกซื้อรถยังอีกเยอะมาก รอ zs วนเข้าไปในวัฏจักรได้ มันก็จะโต แต่ถ้าวนไม่ได้ เดี๋ยวมันก็จะพาลดับยกค่าย

ส่วนที่มาใหม่ เค้าคงคิดหนัก หรือไม่ก็รอขายแต่คนใจรัก หรือคนมีรายได้พอสมควรที่ไม่ต้องพึ่งวัฏจักรที่ผมว่า

เม้นท์คุณ kiwiwi เยี่ยมมาก ชัดเจนเลย
 
+1ครับ
หัวข้อ: Re: รถยี่ห้อใหม่เมืองไทยเกิดยาก
เริ่มหัวข้อโดย: iLLuSion ที่ กันยายน 08, 2020, 12:18:41
เมื่อถึงยุคที่รถไฟฟ้าในบ้านเราเริ่มเติบโตเมื่อไหร่ เมื่อนั้นโอกาสของรถแบรนด์ไทยจะมาครับ
หัวข้อ: Re: รถยี่ห้อใหม่เมืองไทยเกิดยาก
เริ่มหัวข้อโดย: lexus ที่ กันยายน 08, 2020, 12:40:08
รูปร่างหน้าตา
เครื่องยนต์ การขับขี่
ความทนทาน ศูนย์บริการดี
ราคาที่เป็นธรรม

ผมว่ามี4ข้อนี้ก็แจ้งเกิดได้ครับ แต่ส่วนใหญ่มาไม่ครบ ก็ปลิวไปตามกาลเวลา
หัวข้อ: Re: รถยี่ห้อใหม่เมืองไทยเกิดยาก
เริ่มหัวข้อโดย: DiKiBoyZ ที่ กันยายน 08, 2020, 14:50:56
แบรนด์ใหม่ ที่จะเกิดได้ ไม่ว่าจะโด่งดังมาจากโลกไหน ถ้าจะเกิดที่ไทยได้ ต้องมีจุดเด่น ชัดเจน ย้ำว่า ชัดเจนจริงๆ ที่จับต้องได้ เช่น

ถ้าเป็นรถบ้าน
1. ราคา เป็นไง แพงไหม หรือ ถูกกว่า ชาวบ้านเขา
2. หน้าตา รูปร่าง ดีไซน์ เป็นไง เด่นกว่าแบบชัดเจน หรือว่า ดาดๆ (มาก็ตาย)
3. แบรนด์ต้องเป็นรู้จักพอสมควร
4. บริการหลังการขายต้องแข็งแรงมากๆ

ถ้ารถแพง รถเฉพาะกลุ่ม รถแรง รถหรู
1. ต้องมีความน่าเชื้อถือพอสมควร หรือ เรียกว่ามาก ก็ได้
2. มีสตอรี่ มาความเป็นมา เพื่อจะเป็นจุดขาย
3. สมรรถณะ ต้องได้ ความแรงต้องมี บางคนชอบไม่เหมือนใครก็มี ถ้าสมรรถณะเจ๋งจริง
4. การตกแต่ง ต้องมีเอกลักษณ์ จะหรู จะสปอร์ต ก็ว่าไป
หัวข้อ: Re: รถยี่ห้อใหม่เมืองไทยเกิดยาก
เริ่มหัวข้อโดย: Pegasus7700 ที่ กันยายน 08, 2020, 15:03:51
อ่านข้อหัวอาจจะ งงๆ. รถยี่ห้อใหม่เมืองไทย...

หากหมายถึง ยี่ห้อที่มีในโลก แต่จะมาเกิดในไทย ยากนั้น

ผมคิดว่า. ไม่ยาก. หากมีทุนสูง สายป่านยาว

ลองคิดเล่นๆครับ หาก MG ใส่option เต็มๆ. ปรับเครื่องยนตร์เกียร์
และราคาถูกลงกว่านี้.  ไม่กี่ปีก็เกิด
หัวข้อ: Re: รถยี่ห้อใหม่เมืองไทยเกิดยาก
เริ่มหัวข้อโดย: TCP ที่ กันยายน 08, 2020, 15:27:12
1. กำแพงภาษีนำเข้า (ในอดีต - มันบีบบังคับให้ต้องมาลงทุนตั้งโรงงานในไทย แล้วทีนี้ ไทยอยู่อาเซียน
>>> รถญี่ปุ่นเกิดง่ายกว่า  รถยุโรป+รถอเมริกาเกิดยากกว่า

2. ขนาดตลาด บางส่วนก็ใหญ่พอ แต่ตลาดรถเก๋งค่อนข้างเล็ก
>>> ตลาดที่คุ้มค่า น่าผลิตคือ รถกระบะ และ PPV เป็นหลัก  ส่วนรถเก๋ง, SUV พื้นฐานเก๋ง เป็นตลาดส่วนน้อย ยังไม่ถึง 1 ใน 3 เลย

3. ต่อจากข้อ 2 ขนาดตลาดก็ไม่ได้ใหญ่มากมาย แล้วยังมาโดนเจ้าตลาดที่เป็นเจ้าตลาดระดับโลกของแท้ๆ มาครองตลาดอีก
>>>  Toyota  ครองตลาดทั้งเก๋ง กระบะ PPV รถตู้ ฯลฯ ครบทุกกลุ่ม 
>>>  Honda  ครองตลาดเฉพาะรถเก๋ง และ CUV (SUV พื้นฐานเก๋ง)
>>>  Isuzu  ครองตลาดเฉพาะรถกระบะ และ PPV (SUV พื้นฐานกระบะ)
แค่ 3 ยี่ห้อนี้ ก็ครองส่วนแบ่งตลาดรถยนต์ 4 ล้อ รวมกัน เกือบ 70% เหลือแค่ 30% ให้แย่งกันระหว่างอีก 10 กว่ายี่ห้อ !!!

>>>  ทำไม ?? ??

   ทั้งๆ ที่สมัยราว 30 ปีที่แล้ว (2531 เป็นต้นมา-รัฐบาลยุค พล.อ.เปรม ปีสุดท้าย หรือ รัฐบาล พล.อ.ชาติชาย จำไม่ได้)
   รัฐบาลเพิ่งจะเริ่มต้นโครงการ Product Champion ตัวแรก คือ "รถกระบะ 1 ตัน"  หลังจากนั้นมา บริษัทรถยนต์ญี่ปุ่น
   ก็ทยอยมาตั้งโรงงานผลิตรถกระบะ 1 ตัน ขายแข่งกันในไทย แล้วส่งออกทั่วโลก พอๆ กันหมด แม้แต่ Ford, GM (Chev) ยังมา

ก็เพราะสุดท้ายแล้ว "คุณภาพสินค้า และบริการหลังการขาย" ที่ ... " เป็นหัวใจหลักที่สำคัญที่สุดของการได้รับความนิยมจากผู้บริโภค "

ยี่ห้อพวกนั้น มันทำให้เกิดขึ้นจริงไม่ได้ / มันแข่งกับ 3 ยี่ห้อหลักไม่ได้ / แม้แต่สร้างภาพให้ดูว่า ดีจริง ทนจริง .. มันยังทำไม่ได้เลยครับ

แล้ว...มันก็เลยกลายมาเป็นผลพวงว่า ... รถทุกกลุ่ม แต่นอก 3 ยี่ห้อนั้น " ราคาขายต่อ "  >> สู้ไม่ได้ !!??

มันก็เลยมีผลให้ ยี่ห้อพวกนั้น มันจะขายให้กับลูกค้าเฉพาะรายใหม่ ที่ไม่เคยซื้อรถเท่านั้น ... แต่ถ้าเคยซื้อคันแรกมาแล้ว
แล้วถึงเวลาจะซื้อคันใหม่ ขายคันเก่า เทิร์นเป็นเงินดาวน์ มันเห็นความแตกต่างกันได้เลย ...

ครับ


ปล.  ผมขอยกตัวอย่างให้เห็นกันชัดๆ เลยนะ ... ถ้าใครอายุซัก 35 ขึ้นมาแล้ว น่าจะพอจำได้บ้าง

สมัยมีปฏิวัติ รสช. 2 กุมภา 2534 แล้วแต่งตั้ง นายกฯ อานันท์ ปันยารชุน ขึ้นมาบริหารประเทศไม่เกิน 2 ปี
(ช่วงนั้น ที่มีเหตุการณ์ พฤษภาทมิฬ 35) แล้วค่อยมีเลือกตั้งปลายปี 35 ได้ นายกฯ ชวน-ประชาธิปัตย์ สมัยแรก

รัฐบาลแก้กฎหมายข้อนึง => ให้ยกเลิกโควต้าแท๊กซี่แบบเดิม เปลี่ยนมาเป็นให้ขอมีได้อย่างเสรี

แต่..ต้องเป็น Taxi Meter เท่านั้น  โดยมีข้อกำหนดสำคัญคือ
เครื่องยนต์ ต้องมีขนาดความจุ 1,500cc ขึ้นไป  (พวกแค่ 1,4xx cc ขอไม่ได้)

ช่วงนั้น นอกจาก Corolla ซึ่งจะมีเป็นปกติอยู่แล้ว (แค่ออกคันใหม่ไปแทนคันเก่าที่หมดสภาพ แต่ย้ายเอาป้ายทะเบียนมาใส่แทน
แล้วไม่ต้องมี Meter) .. นอกนั้น รถเก๋งญี่ปุ่น 1,600cc แทบทุกยี่ห้อ แห่กันมาออก Taxi Meter กันครบทุกรุ่น แม้แต่ Honda

ต่อมา Honda กลัวเสียชื่อ เสียภาพพจน์ เลยออกกฎเหล็กมาข้อนึง ว่า ใครออก Civic ไปเป็น Taxi Meter ล่ะก็  เค้ามีนโยบาย
จะไม่รับรถเข้าให้บริการซ่อมบำรุงทุกกรณี  เจ้าของรถต้องไปหาอู่ซ่อมบริการกันเอาเอง เลยทำให้ Civic เลิกเป็น Taxi Meter ตั้งแต่นั้นมา

และแล้ว .. หลังจากที่มีผู้คนแห่ออกรถเก๋งญี่ปุ่น 1,600cc ครบแทบจะทุกยี่ห้อ (Honda ก็มี แต่น้อยมาก) .. ต่อมาไม่นาน พอรถเริ่มใช้มากขึ้นๆ
(Taxi ปีๆ นึง ขับใช้งานกันเกือบๆ แสนโล เพราะมันให้เช่าทั้งกะกลางวัน และกลางคืน) สภาพรถทั้งเครื่อง ทั้งเกียร์ ช่วงล่าง ฯลฯ
จึงทรุดโทรมเร็วมาก ... แล้วมันก็เริ่มทยอยพิสูจน์ได้ทีละนิดๆ ๆ ว่า ... ยี่ห้อไหน ทนกับการใช้งานแบบนี้ มากที่สุด

คำตอบ = " Toyota " ครับ  แม้แต่ รถบริษัท รถเซลส์ รถตู้รับ-ส่งพนักงาน (สมัยที่ยังมี Isuzu ขายแข่งด้วย) + ฯลฯ ที่ไม่ใช่รถ Taxi

Toyota กวาดเรียบบบบบบ

คิดง่ายๆ ...  ถ้า Toyota เค้าไม่ทนมือทนเท้ากันจริงๆ  ยี่ห้อนี้ คงไม่เคยได้ขึ้นเป็นอันดับ 1 ของโลกทั้งในแง่ยอดขาย ในแง่ความพึงพอใจ
มานานร่วม 10 กว่าปี ตั้งแต่ปี 200x มาก่อนแล้วล่ะครับ  เพิ่งจะเสียตำแหน่งไป ตอน Renault ไป takeover Mitsu มาอีกยี่ห้อ
ยอดขายรวมของ Toyota เลยแพ้เค้าไป เมื่อไม่เกิน 5 ปีหลังสุดนี่  ...  (หลังจากนั้น ผมก็ไม่ได้ตามต่อแล้ว และขี้เกียจหาข้อมูลมาตอบต่อนะ)
หัวข้อ: Re: รถยี่ห้อใหม่เมืองไทยเกิดยาก
เริ่มหัวข้อโดย: TCP ที่ กันยายน 08, 2020, 15:35:57
ตอบคำถามของคุณ เป็นคำตอบแรกไปแล้ว  ผมขอเพิ่มคำถามที่น่าสนใจด้วยตัวผมเอง พร้อมคำตอบมาตอบไว้ตรงนี้ด้วยเลยนะ

" แล้วถ้าจะให้ รถยนต์ยี่ห้อใหม่ๆ มันเกิดและอยู่รอดในไทยต่อไปได้นานๆ มันต้องทำยังไง ?? "

ไอเดียผมนะ ..

1. อย่างแรกเลย ทุนต้องหนามาก .. ถ้าไม่มาก ทำไปก็รังแต่จะขาดทุน หรือแค่เท่าทุน / เสียเวลาเปล่าครับ

2. เทคโนโลยี่ อย่างน้อยๆ ถึงจะไม่ล้ำหน้ากว่าคู่แข่งส่วนใหญ่ ก็ต้องไม่เป็นรองคนอื่นเค้ามากมาย
    ก็ขนาด GM/Chev ที่ว่าทุนหนามากๆ แล้ว ยังไปไม่รอด เพราะไม่ได้มีเทคโนโลยี่อะไรเลย ที่จะแสดงให้ดูว่า ของๆ เค้า มีดีตรงไหน
    แล้วลูกค้าที่ไหน จะไปซื้อ รถเค้ามาใช้  ?? ??

3. คุณภาพการผลิต ต้องดีมากระดับนึง ไม่ได้ห่วยๆ ไม่ใช่ วันนึงดีมาก แต่วันถัดมาห่วยแตก (สูงสุดกู่ ไปหาต่ำสุด เกิดขึ้นให้เห็นได้เป็นปกติ XXX )

4. ต้องวิเคราะห์ตลาดให้ขาด .. เห็นทุกอย่างในประเทศนี้แล้ว ต้องสรุปได้ว่า ยังมีตลาดรถยนต์ 4 ล้อส่วนไหนที่ยังมีช่องว่างอยู่
    แล้วช่องว่างในตลาดตรงนั้น เค้าเองก็มีสินค้าที่โดดเด่น คุณสมบัติเหนือคู่แข่งรุ่นอื่นๆ อีกด้วย  เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าได้ในระยะยาว แล้ว...
    ยี่ห้อนั้นจะมีอนาคตในตัวของเค้าเอง

และจาก 4 ข้อข้างบนนี้ ... ณ ปัจจุบันในไทยที่ผมมองเห็นรถยี่ห้อใหม่ๆ ที่มีอนาคต ... ผมเห็นแค่ 2 ยี่ห้อ คือ Suzuki และ MG ครับ

ไว้คอยติดตามดูละกัน ว่า ในไทย 2 ยี่ห้อนี้ ต่อไปจะเป็นยังไง
หัวข้อ: Re: รถยี่ห้อใหม่เมืองไทยเกิดยาก
เริ่มหัวข้อโดย: rtong ที่ กันยายน 08, 2020, 17:21:37
ไม่ยากหรอก   

สังเกตุดู  ตอนเปิดตัวใหม่ๆกระแสดี   ขายดี  จากนั้นกราฟตัวเลขยอดขายจะดิ่งลง   เพราะการบริการหลังการขายทำตัวเองล้วนๆ
Hyundai  Daewoo Chevrolet  Proton  มาแรกๆคนรุ่นใหม่ซื้อทั้งนั้น
      ตอนนี้กลัวแค่ Ford  Mazda  MG ขอให้บริการหลังการขายดีๆ  ต่อเนื่องยาวนานเท่านั้นเอง   กลัวแต่จะเน้นเอากำไร  ขายอะไหล่แพงๆ  เข้าศูนย์แพง   สุดท้ายลูกค้าเข็ดไม่กล้าซื้อซ้ำ  ตัวเลือกในตลาดจะหายไป
หัวข้อ: Re: รถยี่ห้อใหม่เมืองไทยเกิดยาก
เริ่มหัวข้อโดย: Odd_yim ที่ กันยายน 08, 2020, 20:44:05
มีกระทู้นึงที่ถามว่า คุณใช้รถเลขไมล์เยอะที่สุดเท่าไหร่ ที่เห็นเกิน สามแสนโล ก็จะมีแต่ยี่ห้อตามรายชื่อ จขกท ทั้งนั้นเลยครับ ฉะนั้น ยี่ห้อใหม่ ๆ ที่จะเกิดต้องท่องไว้เลยว่า "ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์รถ" จึงจะเกิดได้ครับ

แต่ผมเชื่อว่า เมื่อถึงยุค EV แล้ว แบรนด์ จะเกิดขึ้นมากมาย อาจจะไม่มีเจ้าไหนได้ครองตลาดแบบนี้ได้นานครับ