Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: picky.yaya ที่ กันยายน 21, 2020, 14:42:45
-
พอดีกำลังต้องการเปลี่ยนรถเป็น SUV หรือ Sub-SUV ครับ และเห็นทาง Subaru มีโปรส่วนลดสำหรับ Forester IS-ES เกือบ 3 แสนบาท (ถ้าไม่นับเรื่องอัตราเร่ง 55 ปกติเป็นคนขับรถไม่เร็วมาก) ไม่ทราบว่าน่าเล่นไหมครับ บริการหลังการขายและค่าใช้จ่ายเป็นอย่างไรบ้างครับ
-
ถ้าชอบรถที่ เข้าไปนั่ง แล้วรู้สึก โล่งๆ โปร่งๆ กระจกบานโตๆ ช่วงล่างนุ่มสบาย แต่ไม่ย้วย แถมเกาะเหลือเชื่อ แลกกับ อัตราเร่งตอนออกตัวที่อืดอาดหน่อย ก็โอเคนะ
ศูนย์บริการปานกลาง ค่าดูแลแพงกว่าญี่ปุ่นด้วยกันสักหน่อย แต่ไม่แพงกว่า Mazda
ความทนทานก็กลางๆ สักแสนกม. ก็มีพวกบู๊ชปีกนก / ตู้แอร์ / หม้อน้ำ ให้ไล่เปลี่ยนไล่ซ่อม แต่ซ่อมแล้วก็จบ ก็อยู่ไปได้อีกแสนกม.ครับ (ถือว่า อายุอะไหล่สั้นกว่า Toyota / Honda สักหน่อย แต่ไม่ได้เลวร้ายแบบบางค่าย)
-
ถ้ารับได้กับบริการหลังการขายที่ไม่ดีเท่าค่ายใหญ่ๆ กับอัตราเร่งช่วงออกตัวที่ไม่ได้เร็วแรงเท่ารุ่นอื่นๆในคลาสเดียวกัน ผมว่าเล่นได้ครับ
ยิ่งได้ราคาลดกระหน่ำ แปลว่าระดับราคาสูสีกับพวก B-Suv crossover เลยแต่ได้รถไซส์ใหญ่กว่า
เรื่องอัตราเร่งช่วงลอยตัวสำหรับการขับก็ปกติของรถทั่วไป เพียงแต่การตอบสนองจะไม่ดีเท่าพวกเครื่อง 2.4-2.5 ค่ายอื่นๆ
ซึ่งต้องอาศัยความคุ้นในการกะจังหวะขับสักระยะนึงคับ
ส่วนค่าบำรุงรักษา เชคตามระยะ ค่าใช้จ่ายจะสูงสักหน่อยประมาณรอบละ 5000+ (ถ้าถึงรอบถ่ายน้ำมันเกียร์ก็อาจจะถึงหลักหมื่น)
เนื่องจากมันมีเรื่องระบบน้ำมันเกียร์ น้ำมันเฟืองท้าย ที่ต้องเปลี่ยนถ่ายเพิ่มบ่อยต่างจากรถขับสองทั่วไป
-
โหหห ลดจน B-SUV มีมองอ่ะ
ว่าแต่
ศูนย์แบรนด์นี้ค่าแรงในเขต กทม. ปริมณฑล เฉลี่ยตกกี่บาทครับ และมีคูปองฟรีค่าแรงให้ถึงระยะไหนครับ
-
เอาตรงๆเลย ผมตัดสินใจออก Forester ทั้งๆที่ไม่ชอบเท่าไหร่เพราะมันอืดมาก แต่ราคาที่ผมได้มาคือลดไป 250,000 แล้วผมเล็งตัวรองท๊อปเพราะลองแล้วไม่ชอบ ES ทำให้ราคาลงมาพอๆกับ Civic Mazda3 กลายเป็นรถที่คุ้มค่าที่สุดในตลาดเลยครับ ทุกวันนี้ใช้เป็นหลักเลยไปเรื่อยๆ นุ่มๆ แต่โค้งยัดหายไม่ต้องเบรคครับ เก็บเสียงก็ดีกว่า C-Seg ในราคาพอๆกันครับ สรุปคือถ้ามองครบๆทุกด้านอาจจะไม่ใช้คันที่ดีที่สุด แต่ถ้าเอาราคามาจับแล้วผมว่ามันคุ้มค่าที่สุดแล้วครับ
-
เข้ามาเชียร์ ว่าน่าเล่นครับ ถ้าไม่สนราคาขายต่อนะครับ ตกน่าใจหายจริงๆ
ใช้มา2ปี ยังไม่เจอปัญหาอะไร นอกจากพวงมาลัยลอก กับกระจกหินดีดแตก (บานใหญ่เกิ้น) ขับดีแม้อืด ช่วงล่างมั่นใจ เบรคมั่นใจ และหักหลบฉุกเฉินอันนี้คือปลื้มเลยครับ
ส่วนเรื่องศูนย์บริการ (พัทยา) ถือว่าเยี่ยมครับ ค่อนข้างประทับใจกับพนักงาน เคลมไปก็ติดตามและอัพเดทตลอด
จองคิว เซอร์วิส ก็ดีและรวดเร็ว (เพราะรถน้อย)
โดยรวมเรื่องศูนย์ประทับใจกว่าฮอนที่ใช้อยู่อีกคัน แม้ค่าเซอร์วิสจะแพงกว่าเยอะก็ตามทีครับ
แบตลูกละ 3500 :'( :'(
-
อัตราเร่งช่วงออกตัวอืดหน่อยแต่ช่วงเร่งแซงก็พอใช้ได้ครับ
เป็น SUV ที่รู้สึกว่าวงเลี้ยวแคบ ตอนเลี้ยวเปลี่ยนเลนหรือถอยจอดรู้สึกคล่องตัวกว่า Altis โฉมก่อนซะอีก
ช่วงล่างนุ่มแต่ไม่ย้วย พอสาดโค้งแรงๆแล้วรู้สึกเอาอยู่แบบสบายๆไม่ต้องแก้อาการ แต่ที่ชอบมากคือเบรค ระยะเหยียบมันกระชับมั่นใจดี
บริการหลังการขายส่วนตัวผมประทับใจกว่า Honda (เทียบกับศูนย์แถวบ้านผมนะ)
แต่ค่าเช็คระยะแพงกว่ารถญี่ปุ่นค่ายอื่น ปกติรอบนึงมีอย่างต่ำ 4,xxx บาท หรือถ้าถ่ายของเหลวรอบใหญ่ก็หลักมีหมื่นนิดๆ ค่าแรง 650 บาท/ชม.
เรื่องความทนทาน ปกติ Subaru ก็ไม่ค่อยมีปัญหาอะไรใหญ่ๆนะ ผมยังเชื่อมั่นมากกว่า Honda/Nissan ด้วยซ้ำ
ถ้าใกล้บ้านมีศูนย์ที่สะดวกก็ลองดูครับ ลองเข้าไปดูในคลับเฟสบุ๊ค Forester เพิ่มเติมก็ได้
แต่ถ้าต้องวิ่งข้ามจังหวัดไกลๆเพื่อมาเข้าศูนย์ ผมว่าอาจจะไม่เหมาะ
ปล. ได้ส่วนลด 3แสน เห็นแล้วอิจฉา :-X
-
ราคารถ 1,130,000
บวกออพชั่น 320,000
มีส่วนลด 300,000
ราคาจะเท่ากับ 1,150,000 ??
-
พอดีกำลังต้องการเปลี่ยนรถเป็น SUV หรือ Sub-SUV ครับ และเห็นทาง Subaru มีโปรส่วนลดสำหรับ Forester IS-ES เกือบ 3 แสนบาท (ถ้าไม่นับเรื่องอัตราเร่ง 55 ปกติเป็นคนขับรถไม่เร็วมาก) ไม่ทราบว่าน่าเล่นไหมครับ บริการหลังการขายและค่าใช้จ่ายเป็นอย่างไรบ้างครับ
ส่วนลดดีมากเลยนะคะ ส่วนตัวไปดูมาตอนเดือน พ.ค ส่วนลดตอนนั้นแค่ 50,000 บาทเอง
ตอนไปทดลองขับมา ตัวเราชอบในช่วงล่างมากเลยนะคะ แต่ไม่ค่อยชอบวัสดุภายในเท่าไหร่ แถมตอนนั้นไม่ประทับใจเซลล์ที่ดูแลเลย
แต่พอได้ยินว่าส่วนลดหลักแสนแบบนี้ เริ่มหวั่นไหวอีกแล้วสิ ::)
-
ขับไม่เร็วมาก .... แล้วทำไมถึงมี Subaru ใน list ละคับ ?
เห็นส่วนมาก เอาไปอัดโค้ง ซิ่งผ่าฝนกัน
ถ้าไม่ได้ใช้ความเป็น AWD ผมยังนึกไม่ออก ว่าจะมี Forester ในตัวเลือกทำไมหว่า ?? จะ CRV, HRV, Cross, CHR, CX5 หรือ Xtrail ค้างสต๊อกก็ยังได้
แต่ถ้ามีฟิลอยากได้ 'Subaru' เป็นหลัก ... ก็จัดเลยคับ จะได้ไม่ค้างคา
-
รถดี จัดได้เลยครับ
ฝากพิจารณาเรื่องศูนย์บริการน้อย ด้วยนะครับ
ศูนย์ ซูบารุ น้อยจริงๆ
-
ขับไม่เร็วมาก .... แล้วทำไมถึงมี Subaru ใน list ละคับ ?
เห็นส่วนมาก เอาไปอัดโค้ง ซิ่งผ่าฝนกัน
ถ้าไม่ได้ใช้ความเป็น AWD ผมยังนึกไม่ออก ว่าจะมี Forester ในตัวเลือกทำไมหว่า ?? จะ CRV, HRV, Cross, CHR, CX5 หรือ Xtrail ค้างสต๊อกก็ยังได้
แต่ถ้ามีฟิลอยากได้ 'Subaru' เป็นหลัก ... ก็จัดเลยคับ จะได้ไม่ค้างคา
ขอบคุณสำหรับความเห็นนะครับ เดิมทีก็ไม่ได้อยู่ใน list ครับ แต่พอมีส่วนลดมาเป็นอีกปัจจัยเลยลังเลกับ B-SUV น่ะครับ
แต่ผมว่านอกจากจะเอาไปอัดโค้ง ซิ่งผ่าฝนกัน ก็น่าจะมองเรื่องความปลอดภัยอีกด้วยมั้งครับ แหะๆ
-
รถดี จัดได้เลยครับ
ฝากพิจารณาเรื่องศูนย์บริการน้อย ด้วยนะครับ
ศูนย์ ซูบารุ น้อยจริงๆ
นี่เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ลังเลเลยครับ เนื่องจากบ้านที่ ตจว. ไม่มีศูนย์เลย TT
-
ขับไม่เร็วมาก .... แล้วทำไมถึงมี Subaru ใน list ละคับ ?
เห็นส่วนมาก เอาไปอัดโค้ง ซิ่งผ่าฝนกัน
ถ้าไม่ได้ใช้ความเป็น AWD ผมยังนึกไม่ออก ว่าจะมี Forester ในตัวเลือกทำไมหว่า ?? จะ CRV, HRV, Cross, CHR, CX5 หรือ Xtrail ค้างสต๊อกก็ยังได้
แต่ถ้ามีฟิลอยากได้ 'Subaru' เป็นหลัก ... ก็จัดเลยคับ จะได้ไม่ค้างคา
ผมก็ขับรถไม่เร็วครับ ทั่วไปไม่เกิน120 ทางไกลไม่เกิน140 แต่ที่ตั้งใจเลือกเพราะจะเอาเป็นรถครอบครัว ใว้ภรรยารับส่งลูกไปรร.ใกล้บ้าน กับพาครอบครัวไปเที่ยวกับกลับต่างจังหวัด
เลยอยากได้รถที่รู้สึกปลอดภัย แข็งแรง ตอนแรกเล็ง CRV กับ CX5ใว้ครับ แต่บังเอิญเซลชวนไปเทสไดรฟ์ จองแบบงงๆเลยครับ
เท่าที่ใช้มา มีจังหวะฉุกเฉินหลายเคสแล้วที่รอดมาได้ ทั้งหักหลบกระทันหัน ทั้งตกแอ่งน้ำ อีกอย่างเดินทางไกลไม่ล้า ( ชลบุรี-สงขลา รวดเดียวจบ) เลยแฮปปี้กับคันนี้ครับ
แต่ขับใช้ทำงานทุกวันไม่ไหวจริงๆครับ มันไม่ปรู้ดปร้าดเพียงพอสำหรับผม
-
ถ้าชอบรถที่ เข้าไปนั่ง แล้วรู้สึก โล่งๆ โปร่งๆ กระจกบานโตๆ ช่วงล่างนุ่มสบาย แต่ไม่ย้วย แถมเกาะเหลือเชื่อ แลกกับ อัตราเร่งตอนออกตัวที่อืดอาดหน่อย ก็โอเคนะ
ศูนย์บริการปานกลาง ค่าดูแลแพงกว่าญี่ปุ่นด้วยกันสักหน่อย แต่ไม่แพงกว่า Mazda
ความทนทานก็กลางๆ สักแสนกม. ก็มีพวกบู๊ชปีกนก / ตู้แอร์ / หม้อน้ำ ให้ไล่เปลี่ยนไล่ซ่อม แต่ซ่อมแล้วก็จบ ก็อยู่ไปได้อีกแสนกม.ครับ (ถือว่า อายุอะไหล่สั้นกว่า Toyota / Honda สักหน่อย แต่ไม่ได้เลวร้ายแบบบางค่าย)
แน่ใจนะว่าไม่แพงกว่า Mazda .
ผมเอาของ XV มาให้ดูละกัน เช็คเริ่มต้น 1000- 5000 -10,000 โล รวมจ่ายไปเกือบหมื่นแล้ว แต่มาสด้าเช็คที่ 1 หมื่นเลย จ่ายไม่เกิน 2พัน ... ส่วน Forester คงไม่ถูกไปกว่าตารางนี้มั้งครับ
ตามตารางนี้ subaru แพงกว่ามาสด้าเกือบ 2 เท่า ทุกรายการครับ
(https://www.img.in.th/images/f0c59beb9c358a308e7b1dcd0d0434f3.jpg)
(https://www.img.in.th/images/a1eeba2cd82cd73adf32aed557aed0de.jpg)
-
ไม่ได้ อคติ แต่เอา FACT มาคุยครับ
Mazda ค่าแรง / ช.ม. เท่าไหร่ครับ 750 บาท ใช่ไหม ?
Subaru ค่าแรง / ช.ม. เท่าไหร่ครับ ตารางที่คุณอามาลง 500 บาท ใช่ไหม ?
แล้วจะเรียกว่า Mazda แพงกว่า ได้ไหมครับ ?
ถ้าชอบรถที่ เข้าไปนั่ง แล้วรู้สึก โล่งๆ โปร่งๆ กระจกบานโตๆ ช่วงล่างนุ่มสบาย แต่ไม่ย้วย แถมเกาะเหลือเชื่อ แลกกับ อัตราเร่งตอนออกตัวที่อืดอาดหน่อย ก็โอเคนะ
ศูนย์บริการปานกลาง ค่าดูแลแพงกว่าญี่ปุ่นด้วยกันสักหน่อย แต่ไม่แพงกว่า Mazda
ความทนทานก็กลางๆ สักแสนกม. ก็มีพวกบู๊ชปีกนก / ตู้แอร์ / หม้อน้ำ ให้ไล่เปลี่ยนไล่ซ่อม แต่ซ่อมแล้วก็จบ ก็อยู่ไปได้อีกแสนกม.ครับ (ถือว่า อายุอะไหล่สั้นกว่า Toyota / Honda สักหน่อย แต่ไม่ได้เลวร้ายแบบบางค่าย)
แน่ใจนะว่าไม่แพงกว่า Mazda .
ผมเอาของ XV มาให้ดูละกัน เช็คเริ่มต้น 1000- 5000 -10,000 โล รวมจ่ายไปเกือบหมื่นแล้ว แต่มาสด้าเช็คที่ 1 หมื่นเลย จ่ายไม่เกิน 2พัน ... ส่วน Forester คงไม่ถูกไปกว่าตารางนี้มั้งครับ
อคติกับมาสด้าไปนิดนึงนะผมว่า ... ตามตารางนี้ subaru แพงกว่ามาสด้าเกือบ 2 เท่า ทุกรายการครับ
(https://www.img.in.th/images/f0c59beb9c358a308e7b1dcd0d0434f3.jpg)
(https://www.img.in.th/images/a1eeba2cd82cd73adf32aed557aed0de.jpg)
-
ไม่ได้ อคติ แต่เอา FACT มาคุยครับ
Mazda ค่าแรง / ช.ม. เท่าไหร่ครับ 750 บาท ใช่ไหม ?
Subaru ค่าแรง / ช.ม. เท่าไหร่ครับ ตารางที่คุณอามาลง 500 บาท ใช่ไหม ?
แล้วจะเรียกว่า Mazda แพงกว่า ได้ไหมครับ ?
ถ้าชอบรถที่ เข้าไปนั่ง แล้วรู้สึก โล่งๆ โปร่งๆ กระจกบานโตๆ ช่วงล่างนุ่มสบาย แต่ไม่ย้วย แถมเกาะเหลือเชื่อ แลกกับ อัตราเร่งตอนออกตัวที่อืดอาดหน่อย ก็โอเคนะ
ศูนย์บริการปานกลาง ค่าดูแลแพงกว่าญี่ปุ่นด้วยกันสักหน่อย แต่ไม่แพงกว่า Mazda
ความทนทานก็กลางๆ สักแสนกม. ก็มีพวกบู๊ชปีกนก / ตู้แอร์ / หม้อน้ำ ให้ไล่เปลี่ยนไล่ซ่อม แต่ซ่อมแล้วก็จบ ก็อยู่ไปได้อีกแสนกม.ครับ (ถือว่า อายุอะไหล่สั้นกว่า Toyota / Honda สักหน่อย แต่ไม่ได้เลวร้ายแบบบางค่าย)
แน่ใจนะว่าไม่แพงกว่า Mazda .
ผมเอาของ XV มาให้ดูละกัน เช็คเริ่มต้น 1000- 5000 -10,000 โล รวมจ่ายไปเกือบหมื่นแล้ว แต่มาสด้าเช็คที่ 1 หมื่นเลย จ่ายไม่เกิน 2พัน ... ส่วน Forester คงไม่ถูกไปกว่าตารางนี้มั้งครับ
อคติกับมาสด้าไปนิดนึงนะผมว่า ... ตามตารางนี้ subaru แพงกว่ามาสด้าเกือบ 2 เท่า ทุกรายการครับ
(https://www.img.in.th/images/f0c59beb9c358a308e7b1dcd0d0434f3.jpg)
(https://www.img.in.th/images/a1eeba2cd82cd73adf32aed557aed0de.jpg)
ผมว่า ถ้าจะคุยด้วย FACT งั้นมาว่ากันครับ
subaru เช็คที่ 1000 โล =ค่าแรง 500 บาท
5000 โล = 500 บาท
10,000 โล 750 บาท
รวมกว่าจะถึง 10,000 โล โดนค่าแรงไป 1,750 บาทแล้ว
และหลังจากนั้นเช็คอีกที 20,000 โล = 750 บาท 30,000 โล= 750 บาทและที่ 40,000 โล ค่าแรง ขึ้นไป 2,000 บาท
แต่มาสด้า เช็คที่ 10,000 โลแรก 750 บาท และเข้าที่ 1หมื่นโลเลย ไม่ต้องไปเข้า 1000-5000 โล ให้โดนค่าแรงทีละ 500 บาทนะ (ปรกติเค้าฟรีค่าแรง ถึง 30,000 โลด้วย )
และก็จริงๆแล้ว ค่าแรงมาสด้า ช.ม.ละ 550 บาทนะครับ ไม่ใช่ 750 บาท ค่าแรงถูกกว่า 50บาท/ช.ม. นี่คือถูกกว่า ... แต่มองไม่เห็นราคาน้ำมันเครื่อง แพงกว่าเป็นพัน ..ไม่พูดถึงล่ะครับ ...
(https://www.img.in.th/images/ad55c63ed356a1ed74699bdc09b3d119.jpg)
-
ไม่ได้ อคติ แต่เอา FACT มาคุยครับ
Mazda ค่าแรง / ช.ม. เท่าไหร่ครับ 750 บาท ใช่ไหม ?
Subaru ค่าแรง / ช.ม. เท่าไหร่ครับ ตารางที่คุณอามาลง 500 บาท ใช่ไหม ?
แล้วจะเรียกว่า Mazda แพงกว่า ได้ไหมครับ ?
ถ้าชอบรถที่ เข้าไปนั่ง แล้วรู้สึก โล่งๆ โปร่งๆ กระจกบานโตๆ ช่วงล่างนุ่มสบาย แต่ไม่ย้วย แถมเกาะเหลือเชื่อ แลกกับ อัตราเร่งตอนออกตัวที่อืดอาดหน่อย ก็โอเคนะ
ศูนย์บริการปานกลาง ค่าดูแลแพงกว่าญี่ปุ่นด้วยกันสักหน่อย แต่ไม่แพงกว่า Mazda
ความทนทานก็กลางๆ สักแสนกม. ก็มีพวกบู๊ชปีกนก / ตู้แอร์ / หม้อน้ำ ให้ไล่เปลี่ยนไล่ซ่อม แต่ซ่อมแล้วก็จบ ก็อยู่ไปได้อีกแสนกม.ครับ (ถือว่า อายุอะไหล่สั้นกว่า Toyota / Honda สักหน่อย แต่ไม่ได้เลวร้ายแบบบางค่าย)
แน่ใจนะว่าไม่แพงกว่า Mazda .
ผมเอาของ XV มาให้ดูละกัน เช็คเริ่มต้น 1000- 5000 -10,000 โล รวมจ่ายไปเกือบหมื่นแล้ว แต่มาสด้าเช็คที่ 1 หมื่นเลย จ่ายไม่เกิน 2พัน ... ส่วน Forester คงไม่ถูกไปกว่าตารางนี้มั้งครับ
อคติกับมาสด้าไปนิดนึงนะผมว่า ... ตามตารางนี้ subaru แพงกว่ามาสด้าเกือบ 2 เท่า ทุกรายการครับ
(https://www.img.in.th/images/f0c59beb9c358a308e7b1dcd0d0434f3.jpg)
(https://www.img.in.th/images/a1eeba2cd82cd73adf32aed557aed0de.jpg)
ผมว่า ถ้าจะคุยด้วย FACT งั้นมาว่ากันครับ
subaru เช็คที่ 1000 โล =ค่าแรง 500 บาท
5000 โล = 500 บาท
10,000 โล 750 บาท
รวมกว่าจะถึง 10,000 โล โดนค่าแรงไป 1,750 บาทแล้ว
และหลังจากนั้นเช็คอีกที 20,000 โล = 750 บาท 30,000 โล= 750 บาทและที่ 40,000 โล ค่าแรง ขึ้นไป 2,000 บาท
แต่มาสด้า เช็คที่ 10,000 โลแรก 750 บาท และเข้าที่ 1หมื่นโลเลย ไม่ต้องไปเข้า 1000-5000 โล ให้โดนค่าแรงทีละ 500 บาทนะ (ปรกติเค้าฟรีค่าแรง ถึง 30,000 โลด้วย )
และก็จริงๆแล้ว ค่าแรงมาสด้า ช.ม.ละ 550 บาทนะครับ ไม่ใช่ 750 บาท ค่าแรงถูกกว่า 50บาท/ช.ม. นี่คือถูกกว่า ... แต่มองไม่เห็นราคาน้ำมันเครื่อง แพงกว่าเป็นพัน ..ไม่พูดถึงล่ะครับ ...
(https://www.img.in.th/images/ad55c63ed356a1ed74699bdc09b3d119.jpg)
คั่นรายการแปปครับ
เรื่องอะไหล่ no comment แต่เรื่องค่าแรง Mazda 550 บาท/ชม. นี่พอจะระบุศูนย์หน่อยได้มั้ยครับว่าแถวไหนใน กทม./ปริมณฑล ที่ยังราคานี้อยู่
เพราะผมเจอมา ถูกสุด 700 บาท แพงสุด 960 บาทครับ
-
ไม่ได้ อคติ แต่เอา FACT มาคุยครับ
Mazda ค่าแรง / ช.ม. เท่าไหร่ครับ 750 บาท ใช่ไหม ?
Subaru ค่าแรง / ช.ม. เท่าไหร่ครับ ตารางที่คุณอามาลง 500 บาท ใช่ไหม ?
แล้วจะเรียกว่า Mazda แพงกว่า ได้ไหมครับ ?
ผมใช้ทั้ง2ยี่ห้อนะ ศูนย์เท่าที่ผมไปมา
Subaru ค่าแรง 650 บาท/ชม.
Mazda ค่าแรงศุนย์นึง 650 บาท/ชม. อีกศูนย์นึง 700 บาท/ชม.
แล้วถ้าคิดรวมพวกของเหลวที่เปลี่ยนถ่ายตามระยะด้วย Mazda ถูกกว่าเยอะครับ
-
ถ้าไม่นับเรื่องอัตราเร่งแล้ว ก็มีหน้าตานี่แหละครับที่ทำให้ลังเลหนักมาก ปีนี้มีบวกชุดแต่ง GT เพิ่มขึ้นมาก็ช่วยเรื่องหน้าตาให้ดูดีขึ้นมาบ้าง แต่สำหรับผมก็ยังไม่พอ
ผมเองก็แอบๆ เล็งรถค่ายนี้อยู่ ใจยังคิดอยู่ว่าถ้ามี Subaru XV ตัวทอป ที่ได้ออปชั่นเบาะหนัง + Eyesight จะไม่ต้องลังเลมากเลย
-
ถ้าผมมีกำลังมากพอ จะออกทีเดียว 2 คัน ให้คนละบ้านใช้กัน ชอบที่ es เป็นกล้องนี่แหละ
-
เอ....ตาราง Subaru แปลกครับ ผมเพิ่งรู้มี Service 5,000 โลด้วย ทั้ง XV Forester SJ และ SK ผมไม่เคยเข้า 5,000 โลเลย เข้าแค่ 1,000 โลแรกแล้วไป 10,000 เลยครับ ศูนย์ก็บอกไป 10,000 โลเลย
-
คนที่ซื้อ subaru รุ่นเริ่มต้นอย่าง XV , Forester ไม่จำเป็นจะต้องเป็นคนขับเร็วหรือบ้าพลังชอบวิ่งฝ่าสายฝนนะคับ
ระบบ AWD ไม่ว่าจะของยี่ห้อนี้หรือยี่ห้อไหนๆ จุดประสงค์หลักคือช่วยเพิ่มการเกาะถนนเพื่อให้ขับได้ปลอดภัยมากขึ้น
โดยเฉพาะพวกรถทรงยกสูงที่มีโอกาสเสียการทรงตัวง่ายกว่ารถเก๋งปกติ
-
ไม่ได้ อคติ แต่เอา FACT มาคุยครับ
Mazda ค่าแรง / ช.ม. เท่าไหร่ครับ 750 บาท ใช่ไหม ?
Subaru ค่าแรง / ช.ม. เท่าไหร่ครับ ตารางที่คุณอามาลง 500 บาท ใช่ไหม ?
แล้วจะเรียกว่า Mazda แพงกว่า ได้ไหมครับ ?
ผมใช้ทั้ง2ยี่ห้อนะ ศูนย์เท่าที่ผมไปมา
Subaru ค่าแรง 650 บาท/ชม.
Mazda ค่าแรงศุนย์นึง 650 บาท/ชม. อีกศูนย์นึง 700 บาท/ชม.
แล้วถ้าคิดรวมพวกของเหลวที่เปลี่ยนถ่ายตามระยะด้วย Mazda ถูกกว่าเยอะครับ
ผมใช้ทั้งสองยี่ห้อเช่นกันครับ ค่าแรงต่างกัน +-ไม่เกิน 200บาท
แต่ซูบารุค่าน้ำมันเครื่องสังเคราะห์ 2,800บาท และต้องเปลี่ยนน้ำมันเฟืองท้ายทุกๆ 1หมื่นกิโล 425บาท
ในคู่มือระบุเปลี่ยนน้ำมันเฟืองท้ายที่ 6หมื่นกิโล ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องเปลี่ยนบ่อยขนาดนี้ครับ
-
เคยเกือบจะซื้อ แต่ฟังในคลับแล้วเห็นเกียร์พัง ค่าบำรุงรักษาแพงเอาเรื่อง การขับขี่ที่ว่าเทพ แต่ไป test แล้วก็ธรรมดา สรุปสำหรับผมว่าไม่น่าซื้อครับ
-
ถ้าผมมีกำลังมากพอ จะออกทีเดียว 2 คัน ให้คนละบ้านใช้กัน ชอบที่ es เป็นกล้องนี่แหละ
ใจเย็นนะครับ แต่ถ้างวดนี้ได้ 60 ล้านก็ไม่แน่ครับ แหะๆ
-
ได้ลดเกือบ 3 แสน คือ blank car หรือเปล่าครับ
คือประกันตัวรถแค่ 6 เดือน 1 หมื่นกิโล หรือเปล่าครับ และตัดออฟชั่นบางอย่างออก ???
-
ถ้าไม่สนใจเรื่องค่าซ่อมบำรุงที่แพงกว่ารถตลาด(ก็แพงกว่าจริงๆแหละ เชิญรับชมข้อมูลที่Facebook Subaru Forester Community Thailand)
ส่วนตัวผมชอบForesterเช่นกันครับ มีระบบขับเคลื่อน4ล้อจริงๆ มั่นใจกว่ารถขับ2ล้อ(เกินดีกว่าขาด)
เคยขับเก๋งติดหล่มไหล่ทางดินโคลนทุ่งนาที่บ้านสะปัน บ่อเกลือ น่าน จนมึดค่ำโชคดีชาวบ้านสะปันใจดีใช้กะบะลากเชือกมาดึงออกจากหล่ม
แล้วได้เปลี่ยนมาใช้CRVขับ4Part time แม้ไม่Full TimeแบบForester แต่ทำให้การเดินทางไปในทางดิน ทางโคลน ลุยแบบเบาๆผ่านได้สบายครับ
คันต่อไป ถ้าพอซื้อไหว ผมก็เลือกForesterมือ2 เรื่องซ่อมบำรุงอู่เฉพาะSubaruในคลัปมีให้พิจารณาครับ
ส่วนของเหลวก็ใช้ยี่ห้อตลาดทั่วไปราคาปกติ ไม่ได้แพงแบบศูนย์Subaru
ผมเข้าใจว่าของเหลวของศูนย์Subaruที่จริงก็คือของยี่ห้อตลาด หรือOEMจากแหล่งต่างๆ เพียงแต่ว่าทางศูนย์บวกราคาไปเพื่อความอยู่รอดของศูนย์บริการ
-
ได้ลดเกือบ 3 แสน คือ blank car หรือเปล่าครับ
คือประกันตัวรถแค่ 6 เดือน 1 หมื่นกิโล หรือเปล่าครับ และตัดออฟชั่นบางอย่างออก ???
ไม่ใช่ครับ ประกันเต็มครับ ผมยืนยันผมซื้อมาแล้ว ตอนนี้ Blank Car ไม่คุ้มแล้วครับ
-
ส่วนลดเยอะจริงแฮะ
เจ้าป่าสำหรับผม มันไม่สวยเลยจริงๆ คงไม่ถูกจริตผม
เรื่องค่าดูแล ตอบในส่วนของ CX5 เจอตั้งแต่ สองพันกว่าบาท ไปจนแตะๆ เจ็ดพัน(วิ่งไปละ 92K)
สำหรับผม มาสด้า แพงกว่าเจ้าตลาดแน่ๆ แต่เชื่อว่าถูกกว่าซูบี้ครับ
-
ถ้าไม่นับเรื่องอัตราเร่งแล้ว ก็มีหน้าตานี่แหละครับที่ทำให้ลังเลหนักมาก ปีนี้มีบวกชุดแต่ง GT เพิ่มขึ้นมาก็ช่วยเรื่องหน้าตาให้ดูดีขึ้นมาบ้าง แต่สำหรับผมก็ยังไม่พอ
ผมเองก็แอบๆ เล็งรถค่ายนี้อยู่ ใจยังคิดอยู่ว่าถ้ามี Subaru XV ตัวทอป ที่ได้ออปชั่นเบาะหนัง + Eyesight จะไม่ต้องลังเลมากเลย
XV Eyesight อย่างเร็วก็ปลายปีนี้ อย่างช้าก็ปีหน้าครับ
-
ได้ลดเกือบ 3 แสน คือ blank car หรือเปล่าครับ
คือประกันตัวรถแค่ 6 เดือน 1 หมื่นกิโล หรือเปล่าครับ และตัดออฟชั่นบางอย่างออก ???
ไม่ใช่ครับ ประกันเต็มครับ ผมยืนยันผมซื้อมาแล้ว ตอนนี้ Blank Car ไม่คุ้มแล้วครับ
ส่วนลดดีมากเลยครับ ผมออกรถมาต้นเดือนที่แล้ว avm2 ส่วนลดยังไม่ถึง 2 แสนเลย .....เห็นแล้วเศร้า ถ้าออกรถช้าลงเดือนนึง ประหยัดได้อีกแสนกว่าบาท :'(
-
ได้ลดเกือบ 3 แสน คือ blank car หรือเปล่าครับ
คือประกันตัวรถแค่ 6 เดือน 1 หมื่นกิโล หรือเปล่าครับ และตัดออฟชั่นบางอย่างออก ???
ไม่ใช่ครับ ประกันเต็มครับ ผมยืนยันผมซื้อมาแล้ว ตอนนี้ Blank Car ไม่คุ้มแล้วครับ
หลังไมค์ชื่อศูนย์ให้หน่อยได้มั้ยครับ ขอบคุณครับ
-
ส่วนลดแรงแบบนี้ ลูกค้าเก่า ชีช้ำกะหล่ำปลีหมด
ปลายปี ไม่รู้จะลดไปถึงหลัก4แสนไหม หรือ ถ้าลดแล้วตัดรับประกันไม่คุ้มนะ
ซูบารุ เค้าบอกรถดี แต่ศูนย์บริการ รักแล้วรอนาน
แค่พี่บึ้ง แวะมาทักทาย เล่นสะเทือนวงการSUVเลยทีเดียว
-
เอาเข้าอู่นอกสิครับ
จะได้ไม่ปวดหัวเรื่องศูนย์ :)
-
เข้ามาเชียร์ ว่าน่าเล่นครับ ถ้าไม่สนราคาขายต่อนะครับ ตกน่าใจหายจริงๆ
ใช้มา2ปี ยังไม่เจอปัญหาอะไร นอกจากพวงมาลัยลอก กับกระจกหินดีดแตก (บานใหญ่เกิ้น) ขับดีแม้อืด ช่วงล่างมั่นใจ เบรคมั่นใจ และหักหลบฉุกเฉินอันนี้คือปลื้มเลยครับ
ส่วนเรื่องศูนย์บริการ (พัทยา) ถือว่าเยี่ยมครับ ค่อนข้างประทับใจกับพนักงาน เคลมไปก็ติดตามและอัพเดทตลอด
จองคิว เซอร์วิส ก็ดีและรวดเร็ว (เพราะรถน้อย)
โดยรวมเรื่องศูนย์ประทับใจกว่าฮอนที่ใช้อยู่อีกคัน แม้ค่าเซอร์วิสจะแพงกว่าเยอะก็ตามทีครับ
แบตลูกละ 3500 :'( :'(
ผมแอลส่องๆ ดู เจอแต่รถเต็นท์ ราคาไม่ค่อยต่ำเท่าไร
ถ้าได้รถบ้าน ราคาน่าจะดี(สำหรับคนซื้อ) แต่ยังหาไม่เจอเลยครับ
-
ผมว่าน่าจะ OK กับ จขกท นะครับ ถ้าไม่ใช่คนขับรถเร็ว
-
ขอบคุณทุกความเห็นมากๆเลยครับ
เห็นภาพชัดขึ้นมาเยอะเลย :-*
-
1. ที่ลดไประดับนั้นน่าจะเป็น Forester Eyesight AVM1 ที่เป็นรถรุ่นปี 2019 และส่วนใหญ่ผลิตปี 2019 (ดูที่ Belt) เป็นการเคลียร์สินค้าปี 2019 หล่ะมั้งครับ
2. Forester 2020 มีปรับเล็กน้อยคือ Forester Eyesight + AVM2 , Forester Eyesight GT Edition + AVM1 , Forester Eyesight GT Edition + AVM2 อะไรที่เป็นกลุ่มนี้จะลดประมาณ 150,000 - 200,000+ ไม่น่าจะแตะถึง 300,000 บาท
3. ตัวรถไม่มีปัญหาในการใช้งานแต่อย่างใด และกว้างขวาง ขับสบาย นั่งสบายไม่ว่าจะแถว 1 หรือ แถว 2 แต่งานประกอบไม่ค่อยดี มีเสียงก็อกแก็กแถว Console และ บานประตูอยู่บ้าง
4. ก่อนจะออกให้ดุด้วยว่าเป็นรับประกัน 3 ปี หรือรับประกัน 5 ปี 100000 กิโล
5. ส่วนค่า Maintenance ไม่รู้พี่คนนั้นเอาตาราง XV ตัวเก่า มาลงทำแป๊ะอะไร ทั้งๆที่กระทู้เป็นของ Forester
ถามว่าแพงไหม ตอบว่าแพงครับ แต่มันแพงเพราะระบบ 4WD แท้ๆ ที่ต้องดูแลรักษามากกว่า เปลี่ยนอะหลั่ยมากกว่า
ค่า Maintenance ตามตาราง ที่ยังไม่ได้ลดส่วนลดอะหลั่ย 20%
Forester มี 1,000 กิโล + ค่าแรง + VAT รวมๆประมาณ 3000 บาท (หากลดค่าอะหลั่ยจะเป็นประมาณ 2600 บาท)
Forester ไม่มี 5,000 กิโล
Forester 10,000 / 30,000, 50,000 , 70,000 กิโล + ค่าแรง + VAT รวมๆประมาณ 4000-4500 บาท
Forester 20,000 / 60,000 + ค่าแรง + VAT รวมๆประมาณ 5,000-5,500 บาท
Forester 40,000 / 80,000 + ค่าแรง + VAT รวมๆประมาณ 9,500-10,000 บาท
-
1. ที่ลดไประดับนั้นน่าจะเป็น Forester Eyesight AVM1 ที่เป็นรถรุ่นปี 2019 และส่วนใหญ่ผลิตปี 2019 (ดูที่ Belt) เป็นการเคลียร์สินค้าปี 2019 หล่ะมั้งครับ
2. Forester 2020 มีปรับเล็กน้อยคือ Forester Eyesight + AVM2 , Forester Eyesight GT Edition + AVM1 , Forester Eyesight GT Edition + AVM2 อะไรที่เป็นกลุ่มนี้จะลดประมาณ 150,000 - 200,000+ ไม่น่าจะแตะถึง 300,000 บาท
3. ตัวรถไม่มีปัญหาในการใช้งานแต่อย่างใด และกว้างขวาง ขับสบาย นั่งสบายไม่ว่าจะแถว 1 หรือ แถว 2 แต่งานประกอบไม่ค่อยดี มีเสียงก็อกแก็กแถว Console และ บานประตูอยู่บ้าง
4. ก่อนจะออกให้ดุด้วยว่าเป็นรับประกัน 3 ปี หรือรับประกัน 5 ปี 100000 กิโล
5. ส่วนค่า Maintenance ไม่รู้พี่คนนั้นเอาตาราง XV ตัวเก่า มาลงทำแป๊ะอะไร ทั้งๆที่กระทู้เป็นของ Forester
ถามว่าแพงไหม ตอบว่าแพงครับ แต่มันแพงเพราะระบบ 4WD แท้ๆ ที่ต้องดูแลรักษามากกว่า เปลี่ยนอะหลั่ยมากกว่า
ค่า Maintenance ตามตาราง ที่ยังไม่ได้ลดส่วนลดอะหลั่ย 20%
Forester มี 1,000 กิโล + ค่าแรง + VAT รวมๆประมาณ 3000 บาท (หากลดค่าอะหลั่ยจะเป็นประมาณ 2600 บาท)
Forester ไม่มี 5,000 กิโล
Forester 10,000 / 30,000, 50,000 , 70,000 กิโล + ค่าแรง + VAT รวมๆประมาณ 4000-4500 บาท
Forester 20,000 / 60,000 + ค่าแรง + VAT รวมๆประมาณ 5,000-5,500 บาท
Forester 40,000 / 80,000 + ค่าแรง + VAT รวมๆประมาณ 9,500-10,000 บาท
ขอบคุณครับครับ ลงให้ละเอียดมาก
ขอเสริมหน่อยแล้วกัน ถ้าใครยังหา forester avm1 ได้ แล้วได้ลด 3 แสน แนะนำให้รีบจองไว้เลยครับ เพราะต่างกันแค่หน้าจอกันกล้องรอบคันของ avm2 ..... เอาส่วนต่าง 1 แสนไปติดเครื่องเสียงเทพๆเองได้เลยครับ เครื่อเงสียงติดรถ avm2 ก็ระดับปานกลางครับ ไม่ดีมากไม่แย่มาก ถ้าไม่ซีเรียสเรื่องฟังเพลงมาก ใช้ต่อได้เลยครับ
ตอนเดือนที่แล้วที่ผมออกรถ(เดือน8) ส่วนต่างของส่วนลด avm1 กับ avm2 มันแค่ 2-3 หมื่น ผมเลยเลือก avm2 แต่ถ้าส่วนต่าง 1 แสน ผมเลือก avm1 แน่นอนครับ
-
1. ที่ลดไประดับนั้นน่าจะเป็น Forester Eyesight AVM1 ที่เป็นรถรุ่นปี 2019 และส่วนใหญ่ผลิตปี 2019 (ดูที่ Belt) เป็นการเคลียร์สินค้าปี 2019 หล่ะมั้งครับ
2. Forester 2020 มีปรับเล็กน้อยคือ Forester Eyesight + AVM2 , Forester Eyesight GT Edition + AVM1 , Forester Eyesight GT Edition + AVM2 อะไรที่เป็นกลุ่มนี้จะลดประมาณ 150,000 - 200,000+ ไม่น่าจะแตะถึง 300,000 บาท
3. ตัวรถไม่มีปัญหาในการใช้งานแต่อย่างใด และกว้างขวาง ขับสบาย นั่งสบายไม่ว่าจะแถว 1 หรือ แถว 2 แต่งานประกอบไม่ค่อยดี มีเสียงก็อกแก็กแถว Console และ บานประตูอยู่บ้าง
4. ก่อนจะออกให้ดุด้วยว่าเป็นรับประกัน 3 ปี หรือรับประกัน 5 ปี 100000 กิโล
5. ส่วนค่า Maintenance ไม่รู้พี่คนนั้นเอาตาราง XV ตัวเก่า มาลงทำแป๊ะอะไร ทั้งๆที่กระทู้เป็นของ Forester
ถามว่าแพงไหม ตอบว่าแพงครับ แต่มันแพงเพราะระบบ 4WD แท้ๆ ที่ต้องดูแลรักษามากกว่า เปลี่ยนอะหลั่ยมากกว่า
ค่า Maintenance ตามตาราง ที่ยังไม่ได้ลดส่วนลดอะหลั่ย 20%
Forester มี 1,000 กิโล + ค่าแรง + VAT รวมๆประมาณ 3000 บาท (หากลดค่าอะหลั่ยจะเป็นประมาณ 2600 บาท)
Forester ไม่มี 5,000 กิโล
Forester 10,000 / 30,000, 50,000 , 70,000 กิโล + ค่าแรง + VAT รวมๆประมาณ 4000-4500 บาท
Forester 20,000 / 60,000 + ค่าแรง + VAT รวมๆประมาณ 5,000-5,500 บาท
Forester 40,000 / 80,000 + ค่าแรง + VAT รวมๆประมาณ 9,500-10,000 บาท
ขอบคุณครับครับ ลงให้ละเอียดมาก
ขอเสริมหน่อยแล้วกัน ถ้าใครยังหา forester avm1 ได้ แล้วได้ลด 3 แสน แนะนำให้รีบจองไว้เลยครับ เพราะต่างกันแค่หน้าจอกันกล้องรอบคันของ avm2 ..... เอาส่วนต่าง 1 แสนไปติดเครื่องเสียงเทพๆเองได้เลยครับ เครื่อเงสียงติดรถ avm2 ก็ระดับปานกลางครับ ไม่ดีมากไม่แย่มาก ถ้าไม่ซีเรียสเรื่องฟังเพลงมาก ใช้ต่อได้เลยครับ
ตอนเดือนที่แล้วที่ผมออกรถ(เดือน8) ส่วนต่างของส่วนลด avm1 กับ avm2 มันแค่ 2-3 หมื่น ผมเลยเลือก avm2 แต่ถ้าส่วนต่าง 1 แสน ผมเลือก avm1 แน่นอนครับ
ใช่ครับ ของผม AVM1 แต่ผลิตปี 2020 ต่างกันแค่ระบบที่ Front วิทยุนิดหน่อยเองครับ ซึ่ง AVM2 ก็ไม่ได้ดีอะไรเลย แถมปลดล๊อคแล้วระบบกล้อง 360 ใช้งานไม่ได้ ไฟเบรคมือค้างด้วย
ผมจับเปลี่ยน Pioneer 5250bt ทีเดียว ได้ทั้ง Apple carplay และเสียงก็ดีขึ้นแบบฟ้ากับเหวเลย หลายคยลนมาฟังนึกว่าผมแด้มป์ กับเปลี่ยนลำโพง ทั้งๆที่ผมเปลี่ยนแค่ Front อย่างเดียว
-
8) 8) 8)....ถ้าเหตุผลคุณซื้อรถเพื่อ เอาสมรรถนะ และระบบเบรดปลอดภัยสูงสุด ซื้อเลยครับ ไม่ผิดหวัง เพียงแต่โฉมเขาไม่เฉี่ยวเหมือนบรรดารถกระป๋องที่รักอู่ทั้งหลาย :-X
-
ลด 300,000 บาท
ใช่อันที่ไม่รับประกันอะไรเลยใช่ไหมคับบบบบบบบบบบบบบ
-
ลด 300,000 บาท
ใช่อันที่ไม่รับประกันอะไรเลยใช่ไหมคับบบบบบบบบบบบบบ
blank car มีประกัน 6 เดือน 10000 โลนะครับ.... แต่ส่วนลดก็ไม่น่าถึง 3 แสนอยู่ดีครับ ไม่น่าจะคุ้มแล้วครับ ต่างกันไม่กี่หมื่น
เอาประกัน 5 ปี แสนโลสบายใจกว่าครับ
-
เพิ่งถอยมาเดือนที่แล้วครับ Forester GT จริงๆไม่ชอบGT แต่ได้ส่วนลดเยอะ และสีที่ชอบ
อยากได้ ACC stop and go แค่นั้นแหละ สุดท้ายได้ใช้ตลอดเวลาเลย
ตอนฝนตกหนัก เกาะดีมากกกกก ปกติขับBRZ อีกคัน ฝนตกได้คลานไป
ก่อนซื้อเทียบสามคัน Camry Cross Forester
หวั่นแค่เรื่องรออะไหล่นานอย่างเดียว แต่BRZ จะเข้าปีที่4แล้วยังไม่มีอะไรให้เสียเลย มีแค่เคลมกระจกหินดีด
เอาว่ะ เลยจัดForester ต่อ
สรุป น่าซื้อครับ ราคาตัวรถกับอ๊อฟชั่นที่ให้มาถูกกว่าชาวบ้านเค้า