Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: tyo00 ที่ ตุลาคม 01, 2020, 12:13:31
-
ดูจาก kicks ที่ใช้ในเมืองก็ประหยัดเหมือนไฮบริดระบบอื่นๆ แต่พอใช้ความเร็วเดินทางกลับไม่ค่อยประหยัดเท่า
เป็นเพราะมอเตอร์ตัวนี้กินไฟเยอะตอนวิ่งเร็วๆ หรือว่าแบตเตอรี่ที่ให้มาเล็กเกินไปทำให้เครื่องยนต์ปั่นไฟทำงานหนัก
ถ้าเปลี่ยนเครื่องเป็น Atkinson cycle แบบไฮบริดระบบอื่นๆคิดว่าจะทำให้ประหยัดกว่านี้ไหมครับ หรือว่าnissan ออกแบบระบบมายังไม่ดีพอ
เพื่อนคิดว่ายังไงกันบ้างครับ
-
ข้อจำกัดหลายๆอย่างครับ
รถที่ 0-100 12 วิ
กับ 0-100 9 วิ
การใช้พลังงานขับเคลื่อนมันคงยากที่จะเท่ากันขนาดนั้น
ถ้า CHr จูนให้อัตราเร่งดีกว่านี้ ผมก็คิดว่าการบริโภคน้ำมันคงกินกว่านี้เหมือนกัน
ส่วนนิสันถ้าอยากให้ประหยัดกว่านี้ คงต้องไปจูนการจ่ายไฟให้ลดลงกว่านี้
ซึ่งมันอาจจะทำให้รถไม่มีจุดเด่นจำกำลังมอเตอร์หรือเปล่า
-
ผมว่าความจุแบตมันน้อยมากๆๆๆๆ ถ้าแบตใหญ่ระดับพวกรถยนต์ Plug-in จะดีกว่านี้แน่ เจ้านี่รถวิ่งไปแอร์ยังไม่ทันเย็นเลยมั้งเครื่องยนต์ก็ต้องมาทำงานปั่นไฟแล้ว
-
ส่วนตัวผมไม่ได้มองว่าดจ้า kick มันจะประหยัดกว่า hybrid ปกติเลยครับ เพราะคิดว่าเป้าหมายหลักๆมันคืออัตราเร่งที่ขึ่นไปขี่รถ 2.0-2.5 ได้ทั้งที่ใช้เครื่องแค่ 1.2
ถ้าเปิด e-power มากับเครื่องที่ใหญ่ขึ้นหน่อย หรือแบตลูกใหญ่ที่เก็บไฟได้มากกว่านี้ ผมคาดว่าจะแรงและประหยัดได้มากกว่านี้แน่นอน
-
อาจต้องเพิ่มขนาดเครื่องยนต์กับแบตเตอรี่มั้งครับ เครื่องยนต์จะได้ปั่นไฟไม่นานแล้วหยุดพอแบตใกล้หมดค่อยปั่นต่อ เห็นว่าตอนนี้ถ้าวิ่งทางไกลเครื่องยนต์ทำงานตลอดเวลาเลย
-
cross ผมว่ามันสวยเลยนะ จะขายดีแบบนี้ก็ไม่แปลกครับ ที่ลำบากแน่ๆคือ klick เอาตรงๆคงต้องสร้างความเชื่อมั่นให้แบรนมากกว่านี้ เลิกขายหลายรุ่นเกิน คนจะลงทุนก็เสียวๆไป
-
หลังความเร็ว 60-65 Km/H ขึ้นไป เครื่องยนต์ติดตลอดเวลา ดังนั้นวิ่งทางไกลก็กินน้ำมันเรทอีโคคาร์เครื่องยนต์ 1.2
ถ้าจะให้ประหยัดกว่านี้ ผมว่าต้องเพิ่มขนาดแบตครับ
-
kick มันเป็น series hybrid
เวลาไม่มีโหลด มันก็ประหยัดดี
แต่พอมีโหลดเยอะๆ เครื่องต้องปั่นไฟตลอดเวลาให้พอเพียงกับความต้องการ
ตามทฎษีเรื่องพลังงาน การแปลงพลังงาน ย่อมมีการสูญเสียพลังงานเสมอ
kick ต้องแปลงพลังงาน 2 รอบ เสมอ น้ำมัน->ไฟฟ้า->กล
ทำให้มีการสูญเสียพลังงานในระบบ 2 รอบ ตลอดเวลา
แต่ hybrid ของ toyota ถ้ามีโหลดเยอะ
ก็ขับเคลื่อนเครื่องยนต์ น้ำมัน->กล ได้เลย สูญเสียพลังงานรอบเดียว
จุดเด่นคือ สามารถสลับโหมดได้หลากหลายมากกว่า
น้ำมัน+ไฟฟ้า->กล(เร่งแซง)
น้ำมัน->ไฟฟ้า->กล (โหมด EV)
น้ำมัน->กล (โหมด Criuser ความเร็วคงที่)
-
อัตราวิ่งจริงๆนอกเมืองที่16-17กม/ลิตร..ความเร็วร้อยอับตลอดนี่ผมพอใจครับถือว่าเยี่ยม
-
จากที่เก็บข้อมูลมาและลองขับเอง
ในเมือง + One Pedal น่าจะเป็นที่สุดของความประหยัดในรถคันนี้แล้วครับ วิ่งช้ามอเตอร์หมุนต่ำ แถมมีชาร์จไฟกลับอีก การขึ้นไปตัวเลข 20+ km/l ช่วงขับนี้ฃเป็นเรื่องง่ายเลย
พอมาเป็นนอกเมือง วิ่งเร็วมอเตอร์หมุนเร็ว ต่อให้เราวิ่งความเร็วคงที่ก็ยังหมุนเร็ว แถมแบตลูกเท่า Hybrid บ้านๆ อีก จบเลยครับ
กลายเป็นใช้ไฟมากต้องคอยปั่นไฟป้อนแบตป้อนมอเตอร์ตลอด แถมไม่มีการชาร์จกลับอีกถ้าไม่ถอนคันเร่งหนักๆ ความประหยัดมันก็เลยทำได้เท่าๆ กับ HR12DE ในสภาวะทำงานปกติ
ผมขับได้ช่วงนึงก็ได้แค่ 17 km/l ตามที่พี่จิมเทสเท่ากัน
ถ้าจะบอกว่าแลกกับอัตราเร่งที่ดี ต่อให้เราขับเท้านิ่งๆ แต่ขับเร็ว ความประหยัดก็ไม่ได้ดีไปกว่านี้แล้วครับ ลองมาหลายรอบแล้วจริงๆ
อย่างที่พี่จิมบอกเลย มันคือรถในเมืองโดยแท้ทรู อัตราเร่งเป็นผลพลอยได้ที่ได้จากขับผ่านมอเตอร์ครับ
-
ดูจาก kicks ที่ใช้ในเมืองก็ประหยัดเหมือนไฮบริดระบบอื่นๆ แต่พอใช้ความเร็วเดินทางกลับไม่ค่อยประหยัดเท่า
เป็นเพราะมอเตอร์ตัวนี้กินไฟเยอะตอนวิ่งเร็วๆ หรือว่าแบตเตอรี่ที่ให้มาเล็กเกินไปทำให้เครื่องยนต์ปั่นไฟทำงานหนัก
ถ้าเปลี่ยนเครื่องเป็น Atkinson cycle แบบไฮบริดระบบอื่นๆคิดว่าจะทำให้ประหยัดกว่านี้ไหมครับ หรือว่าnissan ออกแบบระบบมายังไม่ดีพอ
เพื่อนคิดว่ายังไงกันบ้างครับ
เพราะมันเป็นธรรมชาติ ของ serie hybrid
เพราะ ถ้าเอาเครื่องยนต์มาปั่นไฟวิ่งนิ่งๆ นวลๆ
loss เยอะแยะ ดูโง่ๆ ไม่คุ้มค่า
Hb แบบอื่นถึงให้ใช้เครื่องยนต์ทำงานแทน ตอนวิ่งลอยๆ เพราะ เอาเครื่องไปปั่นไฟ มันไม่คุ้ม คนออกแบบ เขารู้ข้อจำกัดตรงนี้ เหมือนกันทุกเจ้า
แต่
ถ้าเร่ง เบรค หยุด จอด ไป แบบขับในเมือง
บางจังหวะ มันมีการเรียกไฟคืน จากแรงเฉื่อย ดึงแรง เพราะ มอเตอร์ใหญ่ คืนไฟได้มากกว่าเพื่อนที่ใส่มอเตอร์เล็กกว่า
จอดก็เครื่องดับ ไม่ต้องใช้เครื่องยนต์ ออกตัวก็ทอร์คมากมาย แต่ ใช้ไฟน้อย ตามแบบฉบับมอเตอร์ใหญ่
เลยมีแนวโน้มประหยัดกว่าเพื่อน ที่มอเตอร์เล็กกว่าในรถ hb ของเพื่อน ที่ออกตัวก็ต้องพึ่งเครื่องยนต์บ่อยกว่า
ใช้ในเมือง ได้เปรียบแน่นอน ตรงมอเตอร์ใหญ่
ใช้งานผสม ทางไกล ยังไง ประหยัด ก็ไม่เท่าของเพื่อน
ถ้ามอเตอร์เพื่อนขนาดพอๆกัน เพื่อนยิ่งนำห่าง เรื่องความประหยัด
-
แบตเล็กเครื่องเล็ก กลายเป็นเครื่องติดเกือบตลอด
-
เห็นบางท่านเทียบกับ chr หรือ cross ที่มอเตอร์เล็กกว่าและแรงน้อยกว่า
แต่ว่าอย่าลืม accord กับ camry นะครับ
น้ำหนักรถเยอะกว่า เครื่องยนต์ใหญ่กว่า มอเตอร์ก็แรงเยอะกว่า แต่ก็ยังประหยัดกว่า kicks
-
ผมก็ไม่รู้ว่า ไฮบริดทั่วไป วิ่งในเมืองรถติด ๆได้กี่โลลิตร แต่ผมใช้ kick ขี้เหร่ๆ ก็ 19 +-
แต่นอกเมือง ก็ตามนั้น 17.
คิดว่า เหมาะสำหรับวิ่งในเมือง... ผมก็ออกมาวิ่งในเมืองเป็นหลัก....
-
ไม่ได้คาดหวังว่าจะประหยัดมากมายขนาดนั้น แต่ชอบระบบที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า เหมือนรถ EV แต่ต่างกันที่ไม่ต้องจอดรถรอชาร์จแบตเตอรี่หลายๆชั่วโมง
+1
-
ถ้าเพิ่มขนาดแบตกับปรับปรุงเครื่องยนต์ให้ปั่นไฟเข้าแบตเร็วขึ้น แล้วสามารถขับได้ 20 กม. ขึ้นไป ด้วยแบตอย่างเดียวก่อนติดเครื่องชาร์จ ที่ไม่ใช่แค่ 2-3 กม. ก็น่าจะช่วยประหยัดมากขึ้นนะ
หรือถ้ากล้าหน่อยก็ทำเป็นรถไฟฟ้าเพียวไปเลย ใช้มอเตอร์ขนาดเล็กลงแต่แรงและระบายความร้อนได้ดี แลกกับมีพื้นที่ให้แบตและระบบทำความเย็นมากขึ้น พ่วงกับทำให้กันน้ำได้ด้วย ยังจะดีกว่าเครื่อง Hybrid นะ
-
ไม่ได้คาดหวังว่าจะประหยัดมากมายขนาดนั้น แต่ชอบระบบที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า เหมือนรถ EV แต่ต่างกันที่ไม่ต้องจอดรถรอชาร์จแบตเตอรี่หลายๆชั่วโมง
ตามนั้นครับ
ส่วนตัวชอบการตอบสนองของระบบ e-power ไม่ได้คาดหวังกับการประหยัดนำ้มันมาก และการที่ได้อัตราสิ้นเปลืองขนาดนี้ ถือว่าเป็นของแถมแล้ว
-
kick มันเป็น series hybrid
เวลาไม่มีโหลด มันก็ประหยัดดี
แต่พอมีโหลดเยอะๆ เครื่องต้องปั่นไฟตลอดเวลาให้พอเพียงกับความต้องการ
ตามทฎษีเรื่องพลังงาน การแปลงพลังงาน ย่อมมีการสูญเสียพลังงานเสมอ
kick ต้องแปลงพลังงาน 2 รอบ เสมอ น้ำมัน->ไฟฟ้า->กล
ทำให้มีการสูญเสียพลังงานในระบบ 2 รอบ ตลอดเวลา
แต่ hybrid ของ toyota ถ้ามีโหลดเยอะ
ก็ขับเคลื่อนเครื่องยนต์ น้ำมัน->กล ได้เลย สูญเสียพลังงานรอบเดียว
จุดเด่นคือ สามารถสลับโหมดได้หลากหลายมากกว่า
น้ำมัน+ไฟฟ้า->กล(เร่งแซง)
น้ำมัน->ไฟฟ้า->กล (โหมด EV)
น้ำมัน->กล (โหมด Criuser ความเร็วคงที่)
ถ้าเครื่อง 1,200 ซีซี เร่ง+เร็วเท่ารถ 2,500 และประหยัดเท่ารถ 1,000 รับรองว่าทุกยี่ห้อคงได้ทำตามๆ กัน ก็คงเป็นเหตุผลของการสูญเสียเมื่อเปลี่ยนพลังงานแบบที่ท่านว่าไว้ครับ
-
ผมไม่แน่ว่ามันเกี่ยวกับ one paddle ของเจ้า kick ด้วยรึเปล่านะคับ
ปกติพวกรถ Hybrid เวลาถอนคันเร่งมันจะส่งพลังงานส่วนหนึ่งกลับไปหามอเตอร์ปั่นไฟกลับเข้าแบตฯ ทำให้เวียนพลังงานส่วนเกินกลับมาใช้ได้
แต่ kick ผมไม่แน่ใจว่ามันมีระบบนี้ พอถอนคันเร่งแล้วรถมันหน่วงความเร็วลงเอง (แทนที่จะปล่อยไหลได้แบบรถ hybrid) พอจะใช้ความเร็วก็ต้องเร่งกลับขึ้นไปใหม่
มันก็เลยกินไฟมากกว่า
-
ถ้าขับแบบรถติดๆ ใน กทม. มันก็ประหยัดนะ แต่พอออกทางไกลถนนโล่งดันกินพอๆกับรถ 1200 na
-
nissan ไม่เคยทำรถประหยัดน้ำมันกว่าคู่แข่งได้เลยเท่าที่จำความได้ครับ
-
คุณก็ต้องไปดูรอบเครื่องยนต์ที่เขาไว้ใช้ปั่นไฟครับ
ตอนผมไปทดลองขับ เท่าที่ได้ยินเสียงกะคราวๆ คงราวๆ 3000-4000 รตน. แบบนี้ก็ไม่แปลกใจครับที่ว่าทำไมไม่ประหยัดน้ำมันเท่าที่ควร
-
kick มันเป็น series hybrid
เวลาไม่มีโหลด มันก็ประหยัดดี
แต่พอมีโหลดเยอะๆ เครื่องต้องปั่นไฟตลอดเวลาให้พอเพียงกับความต้องการ
ตามทฎษีเรื่องพลังงาน การแปลงพลังงาน ย่อมมีการสูญเสียพลังงานเสมอ
kick ต้องแปลงพลังงาน 2 รอบ เสมอ น้ำมัน->ไฟฟ้า->กล
ทำให้มีการสูญเสียพลังงานในระบบ 2 รอบ ตลอดเวลา
แต่ hybrid ของ toyota ถ้ามีโหลดเยอะ
ก็ขับเคลื่อนเครื่องยนต์ น้ำมัน->กล ได้เลย สูญเสียพลังงานรอบเดียว
จุดเด่นคือ สามารถสลับโหมดได้หลากหลายมากกว่า
น้ำมัน+ไฟฟ้า->กล(เร่งแซง)
น้ำมัน->ไฟฟ้า->กล (โหมด EV)
น้ำมัน->กล (โหมด Criuser ความเร็วคงที่)
ตามพี่ท่านนี้ว่าไว้เลยครับ
มันเป็นไปตามหลักวิศวกรรม และวิทยาศาสตร์
รถยนต์มันมีน้ำหนัก และนั่นคือที่มาของการกินพลังงาน
การทำให้รถวิ่ง ต้องใช้แรง (f=ma)
แรงนั้น เป็นได้ทั้งคนเข็น ม้าลาก ใช้เครื่องยนต์ หรือใช้มอเตอร์
ไม่ว่าจะใช้อะไร ถ้าทำให้รถวิ่งไปได้ที่ความเร็วเท่ากัน นั่นคือใช้แรงเท่ากันหมดแหละครับ
เพียงแต่การวิ่งในเมืองมันประหยัดกว่า จริง ๆ คือ ถ้าเป็นเมืองแบบวิ่งๆ หยุด ๆ
e-power จะประหยัดชัดเจน ก็ตรง ตอนหยุดมันไม่กินไฟ ยกเว้นแอร์
และตอนออกวิ่ง มันใช้แรงบิดจากมอเตอร์ซึ่งกินไฟสม่ำเสมอกว่าเครื่องยนต์ที่กินน้ำมัน
ช่วงดึงแรงบิดมากกว่า
แต่ถ้าในเมืองแต่วิ่งแบบไหล ๆ เรื่อย ๆ ผมก็ว่าไม่ได้ต่างจาก Hybrid แบบ Toyota
Honda หรือแม้แต่ เครื่องยนต์ล้วน ๆ ชัดเจนนักครับ
-
ปัจจัยหลัก ๆ เลย ก็เครื่องยนต์กับขนาดแบต ครับ kicks ใช้เครื่องเดียวกับ Almera กำลังแค่ 79 แรงม้า ขับทางไกลต้องปั่นไฟตลอดเวลา แถมยกสูง แรงต้านเยอะกว่าจะให้ ประหยัดกว่า Almera ก็คงยาก แต่นี่ได้สูสีกันก็โอเคแล้ว แต่ถ้าอยากให้ประหยัดมากกว่านี้ก็ต้องใช้เครื่องที่ดีกว่านี้เช่น ของ Suzuki Swift หรือ Mazda 2 หรือจะใช้เป็น Atkinson Cycle ก็ได้ครับ ส่วนขนาดแบตที่ใหญ่ขึ้นก็จะช่วยให้เก็บไฟคืนตอนเบรค หรือลงเนินได้เยอะขึ้นด้วย
ส่วนมอเตอร์ไฟฟ้านี่ การสูญเสียพลังงานน้อยกว่าเครื่องยนต์เยอะมากนะครับ ที่กำลังเต็มพิกัดก็ราว ๆ 5-6 % โดยประมาณ ส่วนเครื่องยนต์นี่ 30-40% สูญเสียไปกับไอเสียครับ
-
โดยหลักการรวมๆแล้วสิ่งที่ทำให้ประหยัดแตกต่างคือประสิทธิภาพรวมของระบบครับ ::)
เนื่องจาก CHR จะใช้ทั้งเครื่องและมอเตอร์ขับเคลื่อนทำให้ต้องใช้เครื่องใหญ่หน่อย
ข้อดีที่ได้คือ แรงบิดเพื่อปั่นไฟที่รอบต่ำมีเพียงพอ
และเมื่อถึงจุดที่มอเตอร์รับประทานกระแสอย่างมูมมามเข้าขั้นตะกละ
ระบบก็จะตัดมันทิ้งใช้เครื่องยนต์รับช่วงแทน
ส่วน e-power จะใช้ข้อดีได้แค่ของมอเตอร์อย่างเดียว
และเครื่องเล็กต้องใช้รอบสูงเมื่อผลิตกระแสเยอะๆตอนวิ่งความเร็วสูง
แต่ถ้าวิ่งเฉพาะความเร็วต่ำๆหรือรถติด เครื่องเล็กก็จะได้เปรียบเต็มที่
ของ To มันเลยเป็นการคำนวนเพื่อหาจุดร่วมความประหยัด
เพราะใช้ 2 อย่างชดเชยกัน
เครื่องยนต์ กินหนักๆตอนออกตัวและความเร็วต่ำ
และกินน้อยลงเมื่อความเร็วเดินทางคงที่ใต้กฎหมายกำหนด
มอเตอร์ กินหนักๆตอนความเร็วสูงเป็นกราฟเอกซ์โพเนนเชียล
(รูปแบบกราฟราบๆช่วงแรกแล้วก็ชันขึ้นภูเขา)
แต่ตอนออกตัวและความเร็วต่ำจะกินน้อยเมื่อเทียบกับเครื่องยนต์สันดาป
ถ้าใช้งานทั้งในเมืองนอกเมือง ระบบ To ก็จะประหยัดกว่า
แต่ถ้าวัดกันเฉพาะที่รถติดๆความเร็วต่ำในเมือง ระบบของ Nis ก็มีโอกาสเหนือกว่า
ทั้ง kick และ chr แบตลูกใกล้ๆกัน ของ kick ใหญ่กว่านิดหน่อยด้วยครับ
-
ก็อัตราเร่งงัยครับ
CHR กับ Cross คือ อัตราเร่ง ถือว่าอืดพอสมควร จะไม่ประหยัดได้ยังไง แต่คนชอบก็บอกว่ารับได้
ส่วน Kicks อัตราเร่งดีมากๆ วิ่งเกือบเท่ารถ EV เท่าๆรถเครื่องเบนซิน 2300 cc ==> ดังนั้นปริมาณเชื้อเพลิงที่ใช้ไปไม่มีทางประหยัดเท่ารถที่จูนอัตราเร่งมาอืดขนาดนั้นได้
พอมอง CHR Cross แล้วทำให้รู้สึกว่า ใช้เชื้อเพลิงไม่มีประสิทธิภาพเท่า Kicks เสียด้วยซ้ำ
-
ก็อัตราเร่งงัยครับ
CHR กับ Cross คือ อัตราเร่ง ถือว่าอืดพอสมควร จะไม่ประหยัดได้ยังไง แต่คนชอบก็บอกว่ารับได้
ส่วน Kicks อัตราเร่งดีมากๆ วิ่งเกือบเท่ารถ EV เท่าๆรถเครื่องเบนซิน 2300 cc ==> ดังนั้นปริมาณเชื้อเพลิงที่ใช้ไปไม่มีทางประหยัดเท่ารถที่จูนอัตราเร่งมาอืดขนาดนั้นได้
พอมอง CHR Cross แล้วทำให้รู้สึกว่า ใช้เชื้อเพลิงไม่มีประสิทธิภาพเท่า Kicks เสียด้วยซ้ำ
อันนี้ผมลองดูจากข้อมูล ผมมองว่ามันเป็นลักษณะเฉพาะของ motor
ในการกินพลังงานต่อประสิทธิภาพ ณ ความเร็วหนึ่งครับ
อย่าง CHR ตัว 2.0 hybrid 0-100 8.2 sec
Kicks 0-100 9.3 sec
แต่ CHR ก็ยังกินเฉลี่ยใน/นอกเมือง 4-4.3 l/100km ประมาณ 23.25 km/l
(ตัว 1.8 hybrid จะเฉลี่ย 3.8 l/100km ในเว็บเดียวกัน)
เครื่องใหญ่ขึ้น motor แรงขึ้น ทุกอย่างเพิ่มหมด
ก็ยังจูนออกมากินมากกว่านิดหน่อยใกล้ๆตัวที่เครื่องเล็กมอเตอร์เล็กที่รวมออกมาว่าอืด
ผมเลยมองว่ามันเป็น characteristic ของระบบที่อิงจุด yield point เฉพาะของ To ครับ
-
ตรงไปตรงมาแบบที่หลายคนวิเคราะห์ ความเร็วสูงเครื่องยนต์ประหยัดกว่าระบบไฟฟ้าอยู่แล้ว ต่อให้เพิ่มแบตก็แค่ช่วยตัวเลขประหยัดน้ำมันในเมือง แต่ทางไกลก็เหมือนเดิม ถ้าเปลี่ยนเป็น Atkinson น่าจะช่วยได้ หรือพัฒนาเครื่องยนต์ที่ประหยัดน้ำมัน ไม่ต้องเน้นแรงบิด หรือถ้าพัฒนาให้ความเร็วต่ำแบตปั่นล้อหน้า พอความเร็วสูงเครื่องยนต์ปั่นล้อหลังได้เองตัดระบบไฟไป ก็จะประหยัดทางไกล
-
รอดูการใช้งานจริงในเมืองไทยของ honda 1.5 hybrid ที่การวิ่งส่วนใหญ่มอเตอร์ลงล้อเพียว เครื่องมีไว้ปั่นไฟเท่านั้นเหมือน e-power แต่ในความเร็วสูงวิ่งยาวๆคันเร่งนิ่งๆ(แบบพี่จิมทดสอบรถวิ่ง 110 แล้วเป็นจุดอ่อนของ e-power) เครื่องยนต์ 1.5 Atkinson Cycle จะลงล้อเพียวๆแบบรถน้ำมัน มอเตอร์ไม่สามารถลงล้อพร้อมกับเครื่องยนต์ได้แบบ toyota
-
kicks ไหน ๆ ก็ไหน ๆ แล้ว ถอดเครื่องยนต์ออก เพิ่มแบต เป็นแบบ EV ไปเลย แบบนิสสัน leaf
แค่นึกก็สนุก
-
คุณเอาอะไรเทียบล่ะครับ
ส่วนตัวผม ถ้าเทียบกับ ตัวเลข 0-100 และ 80-120
ก็ยังไม่มี hybrid ตัวไหนที่มาเทียบกับ kick ในภาพรวมได้นะครับ
อาจมีที่ใกล้เคียงในตัวเลขนี้หรือดีกว่าหน่อยเช่นพวก d seg
แต่พอกลุ่มนั้นเจอรถติดๆ ก็แพ้ kick อยู่ดี
-
ก็อัตราเร่งงัยครับ
CHR กับ Cross คือ อัตราเร่ง ถือว่าอืดพอสมควร จะไม่ประหยัดได้ยังไง แต่คนชอบก็บอกว่ารับได้
ส่วน Kicks อัตราเร่งดีมากๆ วิ่งเกือบเท่ารถ EV เท่าๆรถเครื่องเบนซิน 2300 cc ==> ดังนั้นปริมาณเชื้อเพลิงที่ใช้ไปไม่มีทางประหยัดเท่ารถที่จูนอัตราเร่งมาอืดขนาดนั้นได้
พอมอง CHR Cross แล้วทำให้รู้สึกว่า ใช้เชื้อเพลิงไม่มีประสิทธิภาพเท่า Kicks เสียด้วยซ้ำ
ยังห่างเยอะคับ Leaf กับ ZS EV อัตราเร่งได้ประมาณ 7.5-8 วิ
-
รถไม่สวย แพง แถมซดเปลืองอีกไม่แปลกหรอกที่ขายไม่ออกครับ
-
ถ้าลดขนาดเครื่องยนต์เหลือซัก 600-1,000 ซีซี มันจะประหยัดขึ้นไหมครับ
กำลังไฟที่ได้จะน้อยลงมากไหม เพราะการปั่นไฟอาจไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องใหญ่มาก
ถ้าจำไม่ผิดที่นิสสันเลือกใช้เครื่อง HR12 เพราะมีอะไหล่สำหรับบำรุงรักษาเยอะมากในเมืองไทย
เพราะเป็นเครื่องเดียวกันกับ March และ Almera ตัวเก่า
-
ถ้าลดขนาดเครื่องยนต์เหลือซัก 600-1,000 ซีซี มันจะประหยัดขึ้นไหมครับ
กำลังไฟที่ได้จะน้อยลงมากไหม เพราะการปั่นไฟอาจไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องใหญ่มาก
ถ้าจำไม่ผิดที่นิสสันเลือกใช้เครื่อง HR12 เพราะมีอะไหล่สำหรับบำรุงรักษาเยอะมากในเมืองไทย
เพราะเป็นเครื่องเดียวกันกับ March และ Almera ตัวเก่า
ผมคิดว่าเครื่องเล็กไปแฮะ สัก1.5 atkinson cycleน่าจะประหยัดได้มากกว่านี้
ตอนมอเตอร์ใช้ความเร็วมันต้องมีกำลังเครื่องยนต์ที่สามารถปั่นไฟให้พอ จะประหยัดหรือไม่ก็ตรงนี้ ถ้าใช้เครื่องที่เหมาะก็ไม่ต้องเค้นเครื่องมากน่าจะประหยัดขึ้น
-
ถ้าใส่แบตจุเยอะกว่านี้และยัดเกียร์ให้มีหลายเกียร์แบบ porche taycan จะช่วยให้ประหยัดขึ้นและมีตีนปลายที่ดีกว่านี้แน่ๆครับ
-
ไปลองมาละครับ ผมว่ามันขับดีนะครับ แรงดึงดีมาก ขับสนุก E-pedal ก็ใช้งานได้
แต่ผมว่าขับทางยาวๆ ไม่น่าจะประหยัดครับเพราะต้องใช้เครื่องปั่นตลอด
ส่วนตัวผมมองว่า ถึง ระบบของ toyota จะอืดและช้ากว่า แต่มันยึดหยุ่นกว่าครับ
-
ไปลองมาละครับ ผมว่ามันขับดีนะครับ แรงดึงดีมาก ขับสนุก E-pedal ก็ใช้งานได้
แต่ผมว่าขับทางยาวๆ ไม่น่าจะประหยัดครับเพราะต้องใช้เครื่องปั่นตลอด
ส่วนตัวผมมองว่า ถึง ระบบของ toyota จะอืดและช้ากว่า แต่มันยึดหยุ่นกว่าครับ
จริงๆระบบของโตโยต้า สามารถทำให้การออกตัวแรงได้ แค่เพิ่มขนาดมอเตอร์เข้าไป
เพราะมันเป็นระบบไฮบริดแบบ อนุกรมขนาน ซึ่งต่างจาก นิสสันเป็นแค่ไฮบริดอนุกรม