Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: raknajupjup ที่ ธันวาคม 18, 2020, 21:53:43
-
เมื่ออาทิตย์ที่แล้วผมเอารถเข้าไปเช็คระยะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องที่ศูนย์ แล้วขอแกลอนน้ำมันกลับมา พึ่งมาสังเกตุเห็นว่าที่ข้างหลังแกลอนเป็นน้ำมันได้รับมาตรฐาน ACEA 2-12 เขียนไว้ตัวเล็กๆๆหน่อย แล้วผมพึ่งมาทราบว่าในคู่มือรถเขียนแนะนำเป็น Mazda Genuine Oil SUPRA DPF 0W-30
(ACEA C2-12) แต่คุณภาพสำหรับนํ้ามันเครื่องทางเลือกเป็น ACEA C3
แบบนี้คือ น้ำมันของฉันmazda มาจากชั้นฟ้าใช่ไหมครับ
-
ถามว่า C2 มันใช้ได้กับรถที่มี DPF มั้ย มันก็ใช้ได้แหละครับ
แต่ก็ยังยากจะบอกว่าน้ำมันดีแค่ไหน เพราะแกลลอนใหม่นี้ที่ Total ผลิตมา 5.1 ลิตร ก็พึ่งมาใช้กันตอน 2018 นี่เอง
-
ถามว่า C2 มันใช้ได้กับรถที่มี DPF มั้ย มันก็ใช้ได้แหละครับ
แต่ก็ยังยากจะบอกว่าน้ำมันดีแค่ไหน เพราะแกลลอนใหม่นี้ที่ Total ผลิตมา 5.1 ลิตร ก็พึ่งมาใช้กันตอน 2018 นี่เอง
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นครับ
ผมมาอ่านผมก็งงสงสัยไม่ได้ว่า ทำไมในคู่มือไม่ระบุไปว่าสามารถใช้คุณภาพน้ำมันมาตราฐาน เดียวกันในส่วนทั้งคุณภาพแนะนำและคุณภาพทางเลือก แสดงว่าต้องมีอะไรต่างกันแน่ๆๆ เลย
-
คาดว่าเค้าต้องการ ZDDP เยอะๆเพื่อประหยัดน้ำมันและป้องกันการสึกหรอ มันจึงไม่ผ่าน C3 ที่เป็น Low SAPs
ส่วนเป็นอันตรายต่อ DPF และ Cat ไหมก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ แต่เหมือนผู้ผลิตรถจะรีบแก้ไขเรื่องเครื่องสึกหรอจนน้ำมันเครื่องลด/เพิ่มก่อน ส่วนเรื่องที่จะทำให้อุปกรณ์กรองเสียอายุสั้นลงก็ไว้แก้ที่หลัง
แบบเดียวกับ ford ดีเซลที่มาตราฐานน้ำมันเครื่องตัวใหม่ล่าสุดเน้น ZDDP เยอะมาก จนไม่ผ่านมาตรฐานตัวใหม่อื่นๆที่โลกเค้าใช้กัน นอกจากเพื่อประโยชน์เรื่องการประหยัดเชื้อเพลิงแล้วยังไปแก้โจทย์เรื่องการสึกหรอเร็วกว่ากำหนดจนทำให้น้ำมันเครื่องหายที่เป็นปัญหาใหญ่ไปก่อนหน้านี้
-
คาดว่าเค้าต้องการ ZDDP เยอะๆเพื่อประหยัดน้ำมันและป้องกันการสึกหรอ มันจึงไม่ผ่าน C3 ที่เป็น Low SAPs
ส่วนเป็นอันตรายต่อ DPF และ Cat ไหมก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ แต่เหมือนผู้ผลิตรถจะรีบแก้ไขเรื่องเครื่องสึกหรอจนน้ำมันเครื่องลด/เพิ่มก่อน ส่วนเรื่องที่จะทำให้อุปกรณ์กรองเสียอายุสั้นลงก็ไว้แก้ที่หลัง
แบบเดียวกับ ford ดีเซลที่มาตราฐานน้ำมันเครื่องตัวใหม่ล่าสุดเน้น ZDDP เยอะมาก จนไม่ผ่านมาตรฐานตัวใหม่อื่นๆที่โลกเค้าใช้กัน นอกจากเพื่อประโยชน์เรื่องการประหยัดเชื้อเพลิงแล้วยังไปแก้โจทย์เรื่องการสึกหรอเร็วกว่ากำหนดจนทำให้น้ำมันเครื่องหายที่เป็นปัญหาใหญ่ไปก่อนหน้านี้
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นครับ
เป็นแบบนี้เองผมเข้าใจแล้วล่ะครับว่าเน้นการประหยัดเชื้อเพลิงควบคู่กับป้องกันน้ำมันเครื่องขาด/เกิน
มันน่าจะทำนองน้ำมันเครื่องเบอร์ 0w-20 สำหรับรุ่นใหม่ๆที่เน้นประหยัดเชื้อเพลิง แต่มันจะทนทานความสึกหรอไม่เท่าพวก 0w-40 ผู้ใช้คงต้องเลือกกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง
-
ได้รับความรู้เพิ่มเลยกระทู้นี้ ขอบคุณครับ :)