Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: ซิ่งเข้าส้วม ที่ มิถุนายน 04, 2021, 09:03:51
-
พอดีว่า Swift หมดรับประกัน 3 ปีแล้ว จะเข้าอู่แทน ทีนี้อู่ไม่มี 0W-16 ไปหาซื้อแล้วราคาค่อนข้างแรงเลย เลยว่าจะใส่ 0W-20 แทน
แบบนี้จะเกิดผลเสียอย่างไรบ้างมั้ยครับ?
-
ได้ครับ ไม่มีผลเสีย เว้นแต่คุณจะไปใช้รถใน Russia ช่วงต่ำกว่าลบ20องศาเซลเซียส เพราะตรงจุดนั้นเบอร์ 0W-20 เริ่มที่จะไม่ไหลกลายเป็นตังเมสตาร์ทยากแล้วครับ
-
ไป5w30 ดีกว่าครับ 2เบอร์ทีาว่านั่นใสไป การปกป้องในอากาศร้อนย่อมแย่กว่าเบอร์สูงกว่าแน่นอน
-
ขึ้นอยู่กับว่าเครื่องวิ่งไปเท่าไร เปลี่ยนเบอร์ที่ หนึดกว่าเดิม 16->20 ตัวเลขอาจจะแค่ 4 แต่คิดเป็น Percent ก็ประมาณ 20% ที่เพิ่มขึ้นมา
ถ้าไม่ค่อยได้วิ่ง ก็ใช้ 20w ก็ได้ แต่อาจจะกินน้ำมันมากกว่าเดิม แต่ถ้าเป็นผม วิ่งไม่เกิน 120k แล้วไม่ได้รอบจัดมาก ลาก 3,500-4,000 รอบประจำ ผมก็ยังใช้ 16 อยู่นะ ถ้าวิ่งเกินแล้วรอบจัดประจำ ก็ไปที่ 20 ได้เลย
-
ดีกว่าเดิมครับ ถ้าให้ยิ่งดี เบอร์ 30 ครับ ประเทศเราโคดร้อนครับ
-
ขึ้นอยู่กับว่าเครื่องวิ่งไปเท่าไร เปลี่ยนเบอร์ที่ หนึดกว่าเดิม 16->20 ตัวเลขอาจจะแค่ 4 แต่คิดเป็น Percent ก็ประมาณ 20% ที่เพิ่มขึ้นมา
ถ้าไม่ค่อยได้วิ่ง ก็ใช้ 20w ก็ได้ แต่อาจจะกินน้ำมันมากกว่าเดิม แต่ถ้าเป็นผม วิ่งไม่เกิน 120k แล้วไม่ได้รอบจัดมาก ลาก 3,500-4,000 รอบประจำ ผมก็ยังใช้ 16 อยู่นะ ถ้าวิ่งเกินแล้วรอบจัดประจำ ก็ไปที่ 20 ได้เลย
ที่รถบางยี่ห้อใช้ 0w16 เพราะเค้าอ้างอิงเมืองนอกครับ อากาศเค้าเย็นกว่าบ้านเรา ของบ้านเรา 5w30 นี่เหมาะแล้ว อีกอย่างไม่เห็นเปลืองน้ำมันอะไรเลย ที่เค้ายัดเบอร์ 16 นี่เพราะรถจะได้พังเร็วๆจะได้เปลี่ยนรถเร็วๆหรือขายอะไหล่ได้
-
ผมไปเอามาจากเว็ปนึงนะครับ เค้าอธิบายมาดีเลย เข้าใจง่าย.
"ขอเรียนชี้แจงแบบนี้น่ะครับ ค่าที่อยู่ข้างแกลลอนน้ำมันเครื่อง เช่น 0W-20 , 5W-30 เป็นต้น ขอชี้แจงแบบนี้ครับ
ตัวเลขทั้ง2 ตัว คือค่าความข้นหรือใส หรือเบอร์ความหนาของฟิล์มน้ำมันแบบคร่าวๆหรือแบบกลุ่มใหญ่
ตัวเลขทั้ง 2 มีความสำคัญทั้งคู่
ตัวเลขหน้า คือ 0W, 5W, 10W และอื่นๆ จะมีประโยชน์กับเครื่องยนต์ขณะน้ำมันเครื่องเย็น หรือช่วง 20 นาทีแรกของการสตาร์ทเครื่องยนต์ เพราะขณะนั้น น้ำมันเครื่องจะมีอุณหภูมิต่ำ อีกทั้งเครื่องยนต์รุ่นใหม่สมัยใหม่มีดีไซด์ที่มีขนาดเครื่องยนต์เล็กลง ทำให้ชิ้นส่วนต่างๆของเครื่องยนต์ถูกบีบอัดให้เล็กตาม รวมทั้งท่อทางเดินน้ำมันเครื่องที่จะไหลไปหล่อลื่นและปกป้องส่วนต่างๆ ฉะนั้น ขณะสตาร์ทเครื่องยนต์ ชิ้นส่วนทุกส่วนหมุนแล้ว แต่บนเครื่องยนต์ยังไม่มีน้ำมันเครื่อง เนื่องจากแรงดึงดูดของโลกดึงน้ำมันเครื่องลงสู่อ่างน้ำมันเครื่องขณะที่เราดับเครื่องยนต์ค้างคืน จึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องให้น้ำมันเครื่องวิ่งไปหล่อลื่นและป้องกันการเสียดสีของชิ้นส่วนให้เร็วที่สุด โดยเฉพาะชุดบนสุดของเครื่องยนต์ที่ภาษาช่างเรียกว่า ชุดกลไกกดวาล์ว เนื่องจากเป็นชิ้นส่วนที่มีเยอะที่สุด มีการเสียดสีรุนแรงที่สุด และเป็นจุดสุดท้ายที่น้ำมันเครื่องเดินทางมาถึง
ส่วนตัวเลข เช่น 20, 30, 40, 50 เป็นค่าความข้นใสหรือความหนาของฟิล์มน้ำมันที่จะอ้างอิงและมีประโยชน์กับเครื่องยนต์ขณะน้ำมันเครื่องร้อนถึง 100องศาC หรือติดเครื่องยนต์ไปแล้วประมาณ 20นาที หากเปรียบเทียบเปรียบเสมือนกับไซด์เสื้อผ้า แต่ละตัวเลขควรเลือกให้เหมาะสมกับเครื่องยนต์
ตัวเลขทั้ง 2 ค่า มีประโยชน์ในเมืองไทยทั้งคู่
*ขณะน้ำมันเครื่องเย็น ตัวเลขหน้า(0W) จะมีประโยชน์ในแง่การไหลเร็ว เพื่อลดการสึกหรอลดความร้อนจากการเสียดสีของชิ้นส่วน เบอร์น้อยฟิล์มบางไหลเร็ว เบอร์มากฟิล์มหนาไหลช้า
*ขณะน้ำมันเครื่องร้อน ตัวเลขหลัง(20 หรือ 30) จะมีประโยชน์ในแง่ของการลดช่องว่างและการรับแรงเสียดสีและการตัดเฉือนจากการเคลื่อนที่เสียดสีของชิ้นส่วนต่างๆ ควรเลือกจากปัจจัยสำคัญนี้ คือ สภาพความสมบูรณ์ของเครื่องยนต์ และ ลักษณะการใช้งาน เช่น
- เครื่องยนต์ใหม่ มีความฟิต ช่องว่างระหว่างชิ้นส่วนมีน้อย ควรเลือกค่าน้อยๆๆ เพื่อประโยชน์มากมาย เช่น อัตราเร่ง ประหยัดเชื้อเพลิง อายุเปลี่ยนถ่ายยาวกว่า แต่ทุกอย่างต้องมีข้อเสีย คือ น้ำมันใสจะเร็ดรอดผ่านเข้าไปเผาไหม้ออกทางท่อไอเสียง่าย จึงกินน้ำมันเครื่องมากกว่า
- เครื่องยนต์ปานกลางหรือเก่า ช่องว่างระหว่างชิ้นส่วนมีมาก ก็ควรเลือกฟิลฺ์มน้ำมันหนาหรือเบอร์มากๆ เพื่อช่วยลดช่องว่างและลดเสียงดัง ลดการสูญเสียกำลังอัดของเครื่องยนต์ ข้อดีคือ ฟิล์มหนาการสึกหรอต่ำ กินน้ำมันเครื่องน้อย แต่ข้อเสีย วิ่งไม่ออก กินน้ำมันเชื้อเพลิง อายุเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องสั้นกว่า
อีกปัจจัยที่สำคัญคือ ลักษณะการใช้งาน นั้นคือ หากเราเป็นเครื่องยนต์ใหม่ เลือกน้ำมันเครื่องเพื่อลดการประหยัดเชื้อเพลิง ก็ต้องเลือกเบอร์น้ำมันที่มีค่าน้อย เช่น XW-20 เป็นต้น แต่หากนำเครื่องยนต์ใหม่ไปใช้งานรอบเครื่องยนต์สูงเป็นประจำ วิ่งเร็วมากๆ ขึ้นเขาลงเขา ทำให้ความร้อนสะสมในน้ำมันเครื่องสูง อาจทำให้น้ำมันเครื่องเบอร์ 20 อาจจะบางลง จึงควรเลือกเบอร์ 30 มาแก้ปัญหาแทน
สรุปคือ เบอร์น้ำมันเครื่องมีประโยชน์ทั้งคู่ ควรเลือกให้เหมาะสมและแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นของเครื่องยนต์ และตอบโจทย์ลักษณะการใช้งานของเรา เช่น เน้นประหยัดเชื้อเพลิง หรือ เน้นการใช้งานความเร็วหรือขึ้นเขาเป็นประจำ
หมายเหตุ ความร้อนในน้ำมันเครื่อง อยู่ระหว่าง 80-150 องศา C ฉะนั้น อุณหภูมิบรรยากาศภายนอกจะมีผลช่วง 20นาทีแรกเท่านั้น จึงไม่ต้องกังวลกับเบอร์ 20 เมืองไทยจะใช้ได้เหรอ ใช้ได้ครับหากเครื่องยนต์เราฟิตพอ เบอร์น้ำมันเครื่องเปรียบเสมือนการเลือกไซด์เสื้อผ้าให้เหมาะสมกับไซดของเรา
ส่วนชนิดของน้ำมันเครื่องพื้นฐานก็มีผลมาก น้ำมันเครื่องค่าความหนืดต่ำ หรือฟิล์มบางๆส่วนใหญ่จะเป็นน้ำมันพื้นฐานสังเคราะห์ 100% เพียงแต่คุณภาพขึ้นอยู่กับความสามารถของและเทคโนโลยีของน้ำมันยี่ห้อนั้นๆ
ค่าน้ำมันเครื่องที่ศูนย์บริการบริษัทรถยนต์ยี่ห้อต่างๆเลือกใช้เป็นค่าที่เลือกมาเพื่อตอบโจทย์คุณประโยชน์ของเครื่องยนต์ที่โฆษณาขายรถไว้ เช่น รถยนต์สมัยใหม่เน้นตอบโจทย์เรื่องประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ฉะนั้น ต้องเลือกเบอร์ที่ตอบโจทย์นั้น เช่น รถยนต์อีโค้คาร์ กฏหมายกำหนดต้องมีค่าการประหยัดเชื้อเพลิงที่ 20 กิโลเมตร/ลิตร ฉะนั้น เบอร์น้ำมันเครื่องที่ตอบโจทย์นี้ได้มีต่าเดียวเท่านั้นขณะนี้ คือ 0W-20 ทำให้ศูนย์บริการจึงเลือกเบอร์นี้ในการบริการ ทำให้คนให้บริการก็ไม่อยากอธิบายมาก คนซื้อก็ไม่ถามมาก ค่าความหนืด 0W-20 จึงกลายเป็นน้ำมันเครื่องสำหรับอีโค้คาร์ โดยปริยาย แต่จริงๆมันคือค่าความหนืดของน้ำมันเครื่องที่ตอบโจทย์เรื่องประหยัดเชื้อเพลิง แต่ไม่ตอบโจทย์คนขับรถเร็วหรือขึ้นเขา-ลงเขา ดังนั้น หากเครื่องยนต์ของคุณใหม่และฟิต ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ขนาดเล็กหรือใหญ่ต้องการน้ำมันเครื่องที่ช่วประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุด 0W-20 คือค่าที่ควรเลือกใช้ที่สุด"
-
แนะนำใช้ 0W-20 ได้เลยครับ Swift ที่บ้านทั้งตัวใหม่และตัวเก่าและโตโยต้าเครื่องไฮบริด ก็ใช้เบอร์นี้มาตลอดครับ ใช้ยี่ห้อนี้เป็นหลักครับ ได้มาตรฐานใหม่ล่าสุด sp ด้วยครับ
(https://sv1.picz.in.th/images/2021/06/04/PJdIZb.md.png)
ร้านค้าที่สั่งประจำอยู่ครับ
https://shp.ee/kismmri
https://www.lazada.co.th/shop/calxco-energy
-
ถ้ารถวิ่งไม่เกิน 100,000 150,000 กม. แนะนำเป็นเบอร์ 0W-20 ก็ได้ครับ ไม่จำเป็นต้องขยับไปเบอร์30 จนกว่าน้ำมันเครื่องจะเริ่มหาย หรือพร่องครับ
หรือใช้น้ำมันเครื่องของ ปตท. ไปก็ได้ครับ มีสำหรับ eco car อยู่ที่เห็นว่าเน้นเรื่องการตอบสนองอัตราเร่ง และประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นหลักซึ่งน่าจะใช้กับ Swift ได้ครับ
-
ขึ้นอยู่กับว่าเครื่องวิ่งไปเท่าไร เปลี่ยนเบอร์ที่ หนึดกว่าเดิม 16->20 ตัวเลขอาจจะแค่ 4 แต่คิดเป็น Percent ก็ประมาณ 20% ที่เพิ่มขึ้นมา
ถ้าไม่ค่อยได้วิ่ง ก็ใช้ 20w ก็ได้ แต่อาจจะกินน้ำมันมากกว่าเดิม แต่ถ้าเป็นผม วิ่งไม่เกิน 120k แล้วไม่ได้รอบจัดมาก ลาก 3,500-4,000 รอบประจำ ผมก็ยังใช้ 16 อยู่นะ ถ้าวิ่งเกินแล้วรอบจัดประจำ ก็ไปที่ 20 ได้เลย
ที่รถบางยี่ห้อใช้ 0w16 เพราะเค้าอ้างอิงเมืองนอกครับ อากาศเค้าเย็นกว่าบ้านเรา ของบ้านเรา 5w30 นี่เหมาะแล้ว อีกอย่างไม่เห็นเปลืองน้ำมันอะไรเลย ที่เค้ายัดเบอร์ 16 นี่เพราะรถจะได้พังเร็วๆจะได้เปลี่ยนรถเร็วๆหรือขายอะไหล่ได้
เบอร์ 0W16 นั้นมาจากโรงงานในเมืองไทยครับไม่ได้มาจากเมืองนอก แต่ผมว่าจาก 16->30 นี้เยอะไป
ส่วนตัวเทคโนโลยี ถ้าทางผู้ผลิตเค้าบอกว่าเป็น 0w16 ได้ผมก็จะตามนั้นก่อน เพราะว่ากว่าเค้าจะตกลงเอาเบอร์นี้มาใส่เป็นน้ำมันเครื่องประจำรุ่น ต้องเข้า Lab อะไรอีกมากมาย กว่าจะได้เบอร์ที่เหมาะสม ถ้า 0w16 -> ไปใส่ 30 นี้ผมว่าเครื่องพังเร็วกว่าครับ แทนที่จะกดแล้วเร่งไป กลับว่าน้ำมันเครื่องหนิดแล้วทำให้มีการเสียดสีมากกว่าที่ควรจะเป็น
-
น้ำมันเครื่องเรายังเลือกความหนืดกันตามศรัทธาได้
แต่น้ำมันเกียร์ออโต้สิครับ ยุคใหม่ใสๆแทบจะเป็นน้ำปล่าว จะวิ่งเป็นแสนก็เปลี่ยนเบอร์เลือกความหนืดเองไม่ได้
-
เบอร์มัลติเกรด 0W-16 มีใช้แพร่หลาย ครับโดยเฉพาะโซนหนาวเย็น
คู่มือรถไม่ได้ระบุเบอร์น้ำมันเครื่องมัลติเกรดแค่เบอร์เดียวหรอกครับ ดูว่า เบอร์หนาสุด อยู่ที่เบอร์อะไรที่ใช้ได้ครับ
เบอร์บาง เช่น xW-16 หรือ xW-20 ต้องใช้ additive พวก Friction modifier ช่วยไม่ให้น้ำมันที่บางอยู่แล้ว บางลงไปอีก มันจะเกิดการสึกหรอ แบบ metal contact metal เพราะฟิล์มน้ำมันที่เคลือบโลหะหนาไม่เพียงพอ จึงเกิดแรงเสียดทานขึ้น
น้ำมันเครื่องเบอร์หนาขึ้นให้การปกป้องที่ดีกว่าครับ :) :)
-
น้ำมันเครื่องเรายังเลือกความหนืดกันตามศรัทธาได้
แต่น้ำมันเกียร์ออโต้สิครับ ยุคใหม่ใสๆแทบจะเป็นน้ำปล่าว จะวิ่งเป็นแสนก็เปลี่ยนเบอร์เลือกความหนืดเองไม่ได้
จริงเลยครับ แข่งกันทำเบอร์บางๆ เวลาเจออุณหภูมิร้อนๆ ช่วงที่คลัทช์บีบหรือปล่อยมันแทบไม่มีอะไรขวางการสึกหรอตรงกรงคลัทช์เลย แกะเกียร์มาดูพวกบุชตามแกนหมุนสึกหรอเสียหายไหม้ก็มี
-
20 แทน 16 ได้ แต่จะขอซื้อ 16 แทน 20 SA ไม่ให้ครับ
-
20 แทน 16 ได้ แต่จะขอซื้อ 16 แทน 20 SA ไม่ให้ครับ
ลองเข้าไปซื้อที่ ศูนย์บริการโตโยต้า ดูครับ
0W-16 ขนาด 3.5 ลิตร ราคา 1,050 บาท ไม่รวม Vat ครับ
-
อากาศแบบนี้ แป๊บเดียว ก็ร้อนแล้ว
ใครอยากได้เบอร์ใสๆ จัดไปครับ
-
ลองหาคู่มือเครื่องฉบับเต็มดูครับ (ค้นเว็บเอา) ในคู่มือจะมีบอกเบอร์น้ำมันเครื่องที่เหมาะสมกับอุณหภูมิอากาศแต่ละท้องที่ (อิงจากคู่มือ mazda 2 1.3L.)
-
เคยขับSwif1.2 ปี2012 นมค เบอร์หลังw20 ใช้ได้ครับ
ที่ศูนย์บริการรถทั่วไป B QUIK, COCK PIT , FIT
หรือสั่งon line เปลี่ยนอู่ไกล้บ้านครับ
เบอร์หลังw30, w40 ปกป้องเครื่องยนต์ดีกว่า ฟลิ์มน้ำมันแกร่งกว่าครับ
-
ขึ้นอยู่กับว่าเครื่องวิ่งไปเท่าไร เปลี่ยนเบอร์ที่ หนึดกว่าเดิม 16->20 ตัวเลขอาจจะแค่ 4 แต่คิดเป็น Percent ก็ประมาณ 20% ที่เพิ่มขึ้นมา
ถ้าไม่ค่อยได้วิ่ง ก็ใช้ 20w ก็ได้ แต่อาจจะกินน้ำมันมากกว่าเดิม แต่ถ้าเป็นผม วิ่งไม่เกิน 120k แล้วไม่ได้รอบจัดมาก ลาก 3,500-4,000 รอบประจำ ผมก็ยังใช้ 16 อยู่นะ ถ้าวิ่งเกินแล้วรอบจัดประจำ ก็ไปที่ 20 ได้เลย
ที่รถบางยี่ห้อใช้ 0w16 เพราะเค้าอ้างอิงเมืองนอกครับ อากาศเค้าเย็นกว่าบ้านเรา ของบ้านเรา 5w30 นี่เหมาะแล้ว อีกอย่างไม่เห็นเปลืองน้ำมันอะไรเลย ที่เค้ายัดเบอร์ 16 นี่เพราะรถจะได้พังเร็วๆจะได้เปลี่ยนรถเร็วๆหรือขายอะไหล่ได้
เบอร์ 0W16 นั้นมาจากโรงงานในเมืองไทยครับไม่ได้มาจากเมืองนอก แต่ผมว่าจาก 16->30 นี้เยอะไป
ส่วนตัวเทคโนโลยี ถ้าทางผู้ผลิตเค้าบอกว่าเป็น 0w16 ได้ผมก็จะตามนั้นก่อน เพราะว่ากว่าเค้าจะตกลงเอาเบอร์นี้มาใส่เป็นน้ำมันเครื่องประจำรุ่น ต้องเข้า Lab อะไรอีกมากมาย กว่าจะได้เบอร์ที่เหมาะสม ถ้า 0w16 -> ไปใส่ 30 นี้ผมว่าเครื่องพังเร็วกว่าครับ แทนที่จะกดแล้วเร่งไป กลับว่าน้ำมันเครื่องหนิดแล้วทำให้มีการเสียดสีมากกว่าที่ควรจะเป็น
เบอร์ 0w16 นี้มาจากสเปคเมืองหนาวครับ ทางค่ายเหล่านี้ที่เอามาใช้เพราะต้นถูกมันถูก ช่วยให้ลื่นประหยัดน้ำมันปล่อยมลภาสวะน้อยแต่มันไม่ได้ปกป้องเครื่องยนต์ได้ดีนัก ส่วนที่ทดสอบในแลปคือทดสอบโดยที่อยู่ในห้องแอร์มีการควบคุมตัวแปรต่างๆ ไม่มีสภาวะอากาศและความชื้นแปรปรวนแบบสภาวะอากาศจริงในประเทศไทย เหมือนกันกับทดสอบมลพิษและอัตราสิ้นเปลืองของค่ายรถที่ได้อัตราสิ้นเปลืองโอเวอร์แต่เอาเข้าจริงแย่กว่าเดิมตั้งเยอะ เคยมีถอดฝาเครื่องออกมาแล้วสึกหรอเร็วกว่า 05w30หรือ 10w40 ก็เหมือนกับกรณีเดียวกันที่ไม่มีออยเกียร์แยกในรถหลายๆรุ่นแล้วเกิดเกียร์ฮีทเข้าเซฟโหมดแหละครับ บางคันวิ่งไม่ได้ซิ่งอะไรเกียร์ร้อนจี๋แล้วเพราะน้ำในคูลแลนท์มันไม่ช่วยอะไร แค่เอาไปอุ่นเกียร์แค่นั้นครับ ส่วนน้ำมันเกียร์หนามันไม่ได้ทำให้เครื่องสึกหรอพังเร็วแต่แค่ทำให้อาจจะอืดขึ้น ถ้าเติม เบอร์ 10w40 ส่วน 5w30 ที่เติมใส่ในมาร์ชที่ระยะ 5000 กม. นั้นไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรแถมยังเครื่องเดินนิ่ง อัตราเร่งดีเหยียบเป็นมา แถมประหยัดน้ำมันกว่า 0w20 เสียอีก
เคยขับSwif1.2 ปี2012 นมค เบอร์หลังw20 ใช้ได้ครับ
ที่ศูนย์บริการรถทั่วไป B QUIK, COCK PIT , FIT
หรือสั่งon line เปลี่ยนอู่ไกล้บ้านครับ
เบอร์หลังw30, w40 ปกป้องเครื่องยนต์ดีกว่า ฟลิ์มน้ำมันแกร่งกว่าครับ
ใช่ครับ คนที่ใช้รถแค่เข้าศูนย์ ไม่ได้ศึกษาเรื่องรถอะไร ไม่ค่อยเข้าใจตรงนี้หรอกครับ บางครั้งโดนฟันน้ำยาต่างๆจนหัวแบะ
เบอร์มัลติเกรด 0W-16 มีใช้แพร่หลาย ครับโดยเฉพาะโซนหนาวเย็น
คู่มือรถไม่ได้ระบุเบอร์น้ำมันเครื่องมัลติเกรดแค่เบอร์เดียวหรอกครับ ดูว่า เบอร์หนาสุด อยู่ที่เบอร์อะไรที่ใช้ได้ครับ
เบอร์บาง เช่น xW-16 หรือ xW-20 ต้องใช้ additive พวก Friction modifier ช่วยไม่ให้น้ำมันที่บางอยู่แล้ว บางลงไปอีก มันจะเกิดการสึกหรอ แบบ metal contact metal เพราะฟิล์มน้ำมันที่เคลือบโลหะหนาไม่เพียงพอ จึงเกิดแรงเสียดทานขึ้น
น้ำมันเครื่องเบอร์หนาขึ้นให้การปกป้องที่ดีกว่าครับ :) :)
ใช่ครับเบอร์บางไปมันปกป้องต่ำกว่ามาก ถ้าอยากซ่อมเครื่องเร็วก็ต้องเลือกตัวบางครับ
-
ขึ้นอยู่กับว่าเครื่องวิ่งไปเท่าไร เปลี่ยนเบอร์ที่ หนึดกว่าเดิม 16->20 ตัวเลขอาจจะแค่ 4 แต่คิดเป็น Percent ก็ประมาณ 20% ที่เพิ่มขึ้นมา
ถ้าไม่ค่อยได้วิ่ง ก็ใช้ 20w ก็ได้ แต่อาจจะกินน้ำมันมากกว่าเดิม แต่ถ้าเป็นผม วิ่งไม่เกิน 120k แล้วไม่ได้รอบจัดมาก ลาก 3,500-4,000 รอบประจำ ผมก็ยังใช้ 16 อยู่นะ ถ้าวิ่งเกินแล้วรอบจัดประจำ ก็ไปที่ 20 ได้เลย
ที่รถบางยี่ห้อใช้ 0w16 เพราะเค้าอ้างอิงเมืองนอกครับ อากาศเค้าเย็นกว่าบ้านเรา ของบ้านเรา 5w30 นี่เหมาะแล้ว อีกอย่างไม่เห็นเปลืองน้ำมันอะไรเลย ที่เค้ายัดเบอร์ 16 นี่เพราะรถจะได้พังเร็วๆจะได้เปลี่ยนรถเร็วๆหรือขายอะไหล่ได้
เบอร์ 0W16 นั้นมาจากโรงงานในเมืองไทยครับไม่ได้มาจากเมืองนอก แต่ผมว่าจาก 16->30 นี้เยอะไป
ส่วนตัวเทคโนโลยี ถ้าทางผู้ผลิตเค้าบอกว่าเป็น 0w16 ได้ผมก็จะตามนั้นก่อน เพราะว่ากว่าเค้าจะตกลงเอาเบอร์นี้มาใส่เป็นน้ำมันเครื่องประจำรุ่น ต้องเข้า Lab อะไรอีกมากมาย กว่าจะได้เบอร์ที่เหมาะสม ถ้า 0w16 -> ไปใส่ 30 นี้ผมว่าเครื่องพังเร็วกว่าครับ แทนที่จะกดแล้วเร่งไป กลับว่าน้ำมันเครื่องหนิดแล้วทำให้มีการเสียดสีมากกว่าที่ควรจะเป็น
เบอร์ 0w16 นี้มาจากสเปคเมืองหนาวครับ ทางค่ายเหล่านี้ที่เอามาใช้เพราะต้นถูกมันถูก ช่วยให้ลื่นประหยัดน้ำมันปล่อยมลภาสวะน้อยแต่มันไม่ได้ปกป้องเครื่องยนต์ได้ดีนัก ส่วนที่ทดสอบในแลปคือทดสอบโดยที่อยู่ในห้องแอร์มีการควบคุมตัวแปรต่างๆ ไม่มีสภาวะอากาศและความชื้นแปรปรวนแบบสภาวะอากาศจริงในประเทศไทย เหมือนกันกับทดสอบมลพิษและอัตราสิ้นเปลืองของค่ายรถที่ได้อัตราสิ้นเปลืองโอเวอร์แต่เอาเข้าจริงแย่กว่าเดิมตั้งเยอะ เคยมีถอดฝาเครื่องออกมาแล้วสึกหรอเร็วกว่า 05w30หรือ 10w40 ก็เหมือนกับกรณีเดียวกันที่ไม่มีออยเกียร์แยกในรถหลายๆรุ่นแล้วเกิดเกียร์ฮีทเข้าเซฟโหมดแหละครับ บางคันวิ่งไม่ได้ซิ่งอะไรเกียร์ร้อนจี๋แล้วเพราะน้ำในคูลแลนท์มันไม่ช่วยอะไร แค่เอาไปอุ่นเกียร์แค่นั้นครับ ส่วนน้ำมันเกียร์หนามันไม่ได้ทำให้เครื่องสึกหรอพังเร็วแต่แค่ทำให้อาจจะอืดขึ้น ถ้าเติม เบอร์ 10w40 ส่วน 5w30 ที่เติมใส่ในมาร์ชที่ระยะ 5000 กม. นั้นไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรแถมยังเครื่องเดินนิ่ง อัตราเร่งดีเหยียบเป็นมา แถมประหยัดน้ำมันกว่า 0w20 เสียอีก
เคยขับSwif1.2 ปี2012 นมค เบอร์หลังw20 ใช้ได้ครับ
ที่ศูนย์บริการรถทั่วไป B QUIK, COCK PIT , FIT
หรือสั่งon line เปลี่ยนอู่ไกล้บ้านครับ
เบอร์หลังw30, w40 ปกป้องเครื่องยนต์ดีกว่า ฟลิ์มน้ำมันแกร่งกว่าครับ
ใช่ครับ คนที่ใช้รถแค่เข้าศูนย์ ไม่ได้ศึกษาเรื่องรถอะไร ไม่ค่อยเข้าใจตรงนี้หรอกครับ บางครั้งโดนฟันน้ำยาต่างๆจนหัวแบะ
เบอร์มัลติเกรด 0W-16 มีใช้แพร่หลาย ครับโดยเฉพาะโซนหนาวเย็น
คู่มือรถไม่ได้ระบุเบอร์น้ำมันเครื่องมัลติเกรดแค่เบอร์เดียวหรอกครับ ดูว่า เบอร์หนาสุด อยู่ที่เบอร์อะไรที่ใช้ได้ครับ
เบอร์บาง เช่น xW-16 หรือ xW-20 ต้องใช้ additive พวก Friction modifier ช่วยไม่ให้น้ำมันที่บางอยู่แล้ว บางลงไปอีก มันจะเกิดการสึกหรอ แบบ metal contact metal เพราะฟิล์มน้ำมันที่เคลือบโลหะหนาไม่เพียงพอ จึงเกิดแรงเสียดทานขึ้น
น้ำมันเครื่องเบอร์หนาขึ้นให้การปกป้องที่ดีกว่าครับ :) :)
ใช่ครับเบอร์บางไปมันปกป้องต่ำกว่ามาก ถ้าอยากซ่อมเครื่องเร็วก็ต้องเลือกตัวบางครับ
น่าจะสับสน น่าจะไม่เคยเห็นเครื่องยนต์ รุ่นต่างๆที่วางในแลปเทส น่าจะไม่เคยสัมผัส Test Carร ///Test car ก็ใช้เบอร์น้ำมันเครื่องที่โรงงานกำหนดวิ่งทดสอบหนักๆมาทั่วไทยหรือครึ่งโลกก็เยอะ ก่อนออกจำหน่าย วงการสารหล่อลื่นก็พัฒนาไปพร้อมๆและควบคู่กับวงการยายนต์นั่นละ พูดอย่างกับสารหล่อลื่นตามหลังวงการรถยนต์เป็นสิบปีอะไรขนาดนั่น ไหนจะมาตรฐาน API ที่มี ILSAC GF ควบคุมอีกทีสำหรับน้ำมันเครื่องเบอร์ 30 ลงมา
-
ขึ้นอยู่กับว่าเครื่องวิ่งไปเท่าไร เปลี่ยนเบอร์ที่ หนึดกว่าเดิม 16->20 ตัวเลขอาจจะแค่ 4 แต่คิดเป็น Percent ก็ประมาณ 20% ที่เพิ่มขึ้นมา
ถ้าไม่ค่อยได้วิ่ง ก็ใช้ 20w ก็ได้ แต่อาจจะกินน้ำมันมากกว่าเดิม แต่ถ้าเป็นผม วิ่งไม่เกิน 120k แล้วไม่ได้รอบจัดมาก ลาก 3,500-4,000 รอบประจำ ผมก็ยังใช้ 16 อยู่นะ ถ้าวิ่งเกินแล้วรอบจัดประจำ ก็ไปที่ 20 ได้เลย
ที่รถบางยี่ห้อใช้ 0w16 เพราะเค้าอ้างอิงเมืองนอกครับ อากาศเค้าเย็นกว่าบ้านเรา ของบ้านเรา 5w30 นี่เหมาะแล้ว อีกอย่างไม่เห็นเปลืองน้ำมันอะไรเลย ที่เค้ายัดเบอร์ 16 นี่เพราะรถจะได้พังเร็วๆจะได้เปลี่ยนรถเร็วๆหรือขายอะไหล่ได้
เบอร์ 0W16 นั้นมาจากโรงงานในเมืองไทยครับไม่ได้มาจากเมืองนอก แต่ผมว่าจาก 16->30 นี้เยอะไป
ส่วนตัวเทคโนโลยี ถ้าทางผู้ผลิตเค้าบอกว่าเป็น 0w16 ได้ผมก็จะตามนั้นก่อน เพราะว่ากว่าเค้าจะตกลงเอาเบอร์นี้มาใส่เป็นน้ำมันเครื่องประจำรุ่น ต้องเข้า Lab อะไรอีกมากมาย กว่าจะได้เบอร์ที่เหมาะสม ถ้า 0w16 -> ไปใส่ 30 นี้ผมว่าเครื่องพังเร็วกว่าครับ แทนที่จะกดแล้วเร่งไป กลับว่าน้ำมันเครื่องหนิดแล้วทำให้มีการเสียดสีมากกว่าที่ควรจะเป็น
เบอร์ 0w16 นี้มาจากสเปคเมืองหนาวครับ ทางค่ายเหล่านี้ที่เอามาใช้เพราะต้นถูกมันถูก ช่วยให้ลื่นประหยัดน้ำมันปล่อยมลภาสวะน้อยแต่มันไม่ได้ปกป้องเครื่องยนต์ได้ดีนัก ส่วนที่ทดสอบในแลปคือทดสอบโดยที่อยู่ในห้องแอร์มีการควบคุมตัวแปรต่างๆ ไม่มีสภาวะอากาศและความชื้นแปรปรวนแบบสภาวะอากาศจริงในประเทศไทย เหมือนกันกับทดสอบมลพิษและอัตราสิ้นเปลืองของค่ายรถที่ได้อัตราสิ้นเปลืองโอเวอร์แต่เอาเข้าจริงแย่กว่าเดิมตั้งเยอะ เคยมีถอดฝาเครื่องออกมาแล้วสึกหรอเร็วกว่า 05w30หรือ 10w40 ก็เหมือนกับกรณีเดียวกันที่ไม่มีออยเกียร์แยกในรถหลายๆรุ่นแล้วเกิดเกียร์ฮีทเข้าเซฟโหมดแหละครับ บางคันวิ่งไม่ได้ซิ่งอะไรเกียร์ร้อนจี๋แล้วเพราะน้ำในคูลแลนท์มันไม่ช่วยอะไร แค่เอาไปอุ่นเกียร์แค่นั้นครับ ส่วนน้ำมันเกียร์หนามันไม่ได้ทำให้เครื่องสึกหรอพังเร็วแต่แค่ทำให้อาจจะอืดขึ้น ถ้าเติม เบอร์ 10w40 ส่วน 5w30 ที่เติมใส่ในมาร์ชที่ระยะ 5000 กม. นั้นไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรแถมยังเครื่องเดินนิ่ง อัตราเร่งดีเหยียบเป็นมา แถมประหยัดน้ำมันกว่า 0w20 เสียอีก
เคยขับSwif1.2 ปี2012 นมค เบอร์หลังw20 ใช้ได้ครับ
ที่ศูนย์บริการรถทั่วไป B QUIK, COCK PIT , FIT
หรือสั่งon line เปลี่ยนอู่ไกล้บ้านครับ
เบอร์หลังw30, w40 ปกป้องเครื่องยนต์ดีกว่า ฟลิ์มน้ำมันแกร่งกว่าครับ
ใช่ครับ คนที่ใช้รถแค่เข้าศูนย์ ไม่ได้ศึกษาเรื่องรถอะไร ไม่ค่อยเข้าใจตรงนี้หรอกครับ บางครั้งโดนฟันน้ำยาต่างๆจนหัวแบะ
เบอร์มัลติเกรด 0W-16 มีใช้แพร่หลาย ครับโดยเฉพาะโซนหนาวเย็น
คู่มือรถไม่ได้ระบุเบอร์น้ำมันเครื่องมัลติเกรดแค่เบอร์เดียวหรอกครับ ดูว่า เบอร์หนาสุด อยู่ที่เบอร์อะไรที่ใช้ได้ครับ
เบอร์บาง เช่น xW-16 หรือ xW-20 ต้องใช้ additive พวก Friction modifier ช่วยไม่ให้น้ำมันที่บางอยู่แล้ว บางลงไปอีก มันจะเกิดการสึกหรอ แบบ metal contact metal เพราะฟิล์มน้ำมันที่เคลือบโลหะหนาไม่เพียงพอ จึงเกิดแรงเสียดทานขึ้น
น้ำมันเครื่องเบอร์หนาขึ้นให้การปกป้องที่ดีกว่าครับ :) :)
ใช่ครับเบอร์บางไปมันปกป้องต่ำกว่ามาก ถ้าอยากซ่อมเครื่องเร็วก็ต้องเลือกตัวบางครับ
น่าจะสับสน น่าจะไม่เคยเห็นเครื่องยนต์ รุ่นต่างๆที่วางในแลปเทส น่าจะไม่เคยสัมผัส Test Carร ///Test car ก็ใช้เบอร์น้ำมันเครื่องที่โรงงานกำหนดวิ่งทดสอบหนักๆมาทั่วไทยหรือครึ่งโลกก็เยอะ ก่อนออกจำหน่าย วงการสารหล่อลื่นก็พัฒนาไปพร้อมๆและควบคู่กับวงการยายนต์นั่นละ พูดอย่างกับสารหล่อลื่นตามหลังวงการรถยนต์เป็นสิบปีอะไรขนาดนั่น ไหนจะมาตรฐาน API ที่มี ILSAC GF ควบคุมอีกทีสำหรับน้ำมันเครื่องเบอร์ 30 ลงมา
สับสนบ้าบออะไรอย่ามาอวดรู้ เห็นที่คนที่ใช้งานจริงใช้น้ำมันสังเคราะหฺ์สูตรบางๆแบบนี้หลวมเร็วมากหลายคันแล้ว อย่ามาอ้างเรื่องเทสบ้าบออะไร เห็นเทสดีรหนักหนาแต่ใช้งานจริงไม่ได้ดั่งเทส ทดสอบทั้งหลาย เห็นพูดถึงยี่ห้อนี้บ่อยจริง ซันออย ทุกระทู้เลย
-
ขึ้นอยู่กับว่าเครื่องวิ่งไปเท่าไร เปลี่ยนเบอร์ที่ หนึดกว่าเดิม 16->20 ตัวเลขอาจจะแค่ 4 แต่คิดเป็น Percent ก็ประมาณ 20% ที่เพิ่มขึ้นมา
ถ้าไม่ค่อยได้วิ่ง ก็ใช้ 20w ก็ได้ แต่อาจจะกินน้ำมันมากกว่าเดิม แต่ถ้าเป็นผม วิ่งไม่เกิน 120k แล้วไม่ได้รอบจัดมาก ลาก 3,500-4,000 รอบประจำ ผมก็ยังใช้ 16 อยู่นะ ถ้าวิ่งเกินแล้วรอบจัดประจำ ก็ไปที่ 20 ได้เลย
ที่รถบางยี่ห้อใช้ 0w16 เพราะเค้าอ้างอิงเมืองนอกครับ อากาศเค้าเย็นกว่าบ้านเรา ของบ้านเรา 5w30 นี่เหมาะแล้ว อีกอย่างไม่เห็นเปลืองน้ำมันอะไรเลย ที่เค้ายัดเบอร์ 16 นี่เพราะรถจะได้พังเร็วๆจะได้เปลี่ยนรถเร็วๆหรือขายอะไหล่ได้
เบอร์ 0W16 นั้นมาจากโรงงานในเมืองไทยครับไม่ได้มาจากเมืองนอก แต่ผมว่าจาก 16->30 นี้เยอะไป
ส่วนตัวเทคโนโลยี ถ้าทางผู้ผลิตเค้าบอกว่าเป็น 0w16 ได้ผมก็จะตามนั้นก่อน เพราะว่ากว่าเค้าจะตกลงเอาเบอร์นี้มาใส่เป็นน้ำมันเครื่องประจำรุ่น ต้องเข้า Lab อะไรอีกมากมาย กว่าจะได้เบอร์ที่เหมาะสม ถ้า 0w16 -> ไปใส่ 30 นี้ผมว่าเครื่องพังเร็วกว่าครับ แทนที่จะกดแล้วเร่งไป กลับว่าน้ำมันเครื่องหนิดแล้วทำให้มีการเสียดสีมากกว่าที่ควรจะเป็น
เบอร์ 0w16 นี้มาจากสเปคเมืองหนาวครับ ทางค่ายเหล่านี้ที่เอามาใช้เพราะต้นถูกมันถูก ช่วยให้ลื่นประหยัดน้ำมันปล่อยมลภาสวะน้อยแต่มันไม่ได้ปกป้องเครื่องยนต์ได้ดีนัก ส่วนที่ทดสอบในแลปคือทดสอบโดยที่อยู่ในห้องแอร์มีการควบคุมตัวแปรต่างๆ ไม่มีสภาวะอากาศและความชื้นแปรปรวนแบบสภาวะอากาศจริงในประเทศไทย เหมือนกันกับทดสอบมลพิษและอัตราสิ้นเปลืองของค่ายรถที่ได้อัตราสิ้นเปลืองโอเวอร์แต่เอาเข้าจริงแย่กว่าเดิมตั้งเยอะ เคยมีถอดฝาเครื่องออกมาแล้วสึกหรอเร็วกว่า 05w30หรือ 10w40 ก็เหมือนกับกรณีเดียวกันที่ไม่มีออยเกียร์แยกในรถหลายๆรุ่นแล้วเกิดเกียร์ฮีทเข้าเซฟโหมดแหละครับ บางคันวิ่งไม่ได้ซิ่งอะไรเกียร์ร้อนจี๋แล้วเพราะน้ำในคูลแลนท์มันไม่ช่วยอะไร แค่เอาไปอุ่นเกียร์แค่นั้นครับ ส่วนน้ำมันเกียร์หนามันไม่ได้ทำให้เครื่องสึกหรอพังเร็วแต่แค่ทำให้อาจจะอืดขึ้น ถ้าเติม เบอร์ 10w40 ส่วน 5w30 ที่เติมใส่ในมาร์ชที่ระยะ 5000 กม. นั้นไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรแถมยังเครื่องเดินนิ่ง อัตราเร่งดีเหยียบเป็นมา แถมประหยัดน้ำมันกว่า 0w20 เสียอีก
เคยขับSwif1.2 ปี2012 นมค เบอร์หลังw20 ใช้ได้ครับ
ที่ศูนย์บริการรถทั่วไป B QUIK, COCK PIT , FIT
หรือสั่งon line เปลี่ยนอู่ไกล้บ้านครับ
เบอร์หลังw30, w40 ปกป้องเครื่องยนต์ดีกว่า ฟลิ์มน้ำมันแกร่งกว่าครับ
ใช่ครับ คนที่ใช้รถแค่เข้าศูนย์ ไม่ได้ศึกษาเรื่องรถอะไร ไม่ค่อยเข้าใจตรงนี้หรอกครับ บางครั้งโดนฟันน้ำยาต่างๆจนหัวแบะ
เบอร์มัลติเกรด 0W-16 มีใช้แพร่หลาย ครับโดยเฉพาะโซนหนาวเย็น
คู่มือรถไม่ได้ระบุเบอร์น้ำมันเครื่องมัลติเกรดแค่เบอร์เดียวหรอกครับ ดูว่า เบอร์หนาสุด อยู่ที่เบอร์อะไรที่ใช้ได้ครับ
เบอร์บาง เช่น xW-16 หรือ xW-20 ต้องใช้ additive พวก Friction modifier ช่วยไม่ให้น้ำมันที่บางอยู่แล้ว บางลงไปอีก มันจะเกิดการสึกหรอ แบบ metal contact metal เพราะฟิล์มน้ำมันที่เคลือบโลหะหนาไม่เพียงพอ จึงเกิดแรงเสียดทานขึ้น
น้ำมันเครื่องเบอร์หนาขึ้นให้การปกป้องที่ดีกว่าครับ :) :)
ใช่ครับเบอร์บางไปมันปกป้องต่ำกว่ามาก ถ้าอยากซ่อมเครื่องเร็วก็ต้องเลือกตัวบางครับ
น่าจะสับสน น่าจะไม่เคยเห็นเครื่องยนต์ รุ่นต่างๆที่วางในแลปเทส น่าจะไม่เคยสัมผัส Test Carร ///Test car ก็ใช้เบอร์น้ำมันเครื่องที่โรงงานกำหนดวิ่งทดสอบหนักๆมาทั่วไทยหรือครึ่งโลกก็เยอะ ก่อนออกจำหน่าย วงการสารหล่อลื่นก็พัฒนาไปพร้อมๆและควบคู่กับวงการยายนต์นั่นละ พูดอย่างกับสารหล่อลื่นตามหลังวงการรถยนต์เป็นสิบปีอะไรขนาดนั่น ไหนจะมาตรฐาน API ที่มี ILSAC GF ควบคุมอีกทีสำหรับน้ำมันเครื่องเบอร์ 30 ลงมา
สับสนบ้าบออะไรอย่ามาอวดรู้ เห็นที่คนที่ใช้งานจริงใช้น้ำมันสังเคราะหฺ์สูตรบางๆแบบนี้หลวมเร็วมากหลายคันแล้ว อย่ามาอ้างเรื่องเทสบ้าบออะไร เห็นเทสดีรหนักหนาแต่ใช้งานจริงไม่ได้ดั่งเทส ทดสอบทั้งหลาย เห็นพูดถึงยี่ห้อนี้บ่อยจริง ซันออย ทุกระทู้เลย
กะลาบนหัวแข็งจริง คนประเภทนี้ อ้างใช้แบบนั้นแบบนี้ วงการสารหล่อลื่นเขาพัฒนาตลอด ดูที่เม้นมาทั้งหมดฟังมาทั้งนั้น 555 มีอะไรที่มีเหตุผลบ้าง ข้ออ้างตามความคิดแคบๆตัวเองทั้งนั้น 555
-
:) :) :)
https://www.machinerylubrication.com/Read/518/motor-oils
-
ขึ้นอยู่กับว่าเครื่องวิ่งไปเท่าไร เปลี่ยนเบอร์ที่ หนึดกว่าเดิม 16->20 ตัวเลขอาจจะแค่ 4 แต่คิดเป็น Percent ก็ประมาณ 20% ที่เพิ่มขึ้นมา
ถ้าไม่ค่อยได้วิ่ง ก็ใช้ 20w ก็ได้ แต่อาจจะกินน้ำมันมากกว่าเดิม แต่ถ้าเป็นผม วิ่งไม่เกิน 120k แล้วไม่ได้รอบจัดมาก ลาก 3,500-4,000 รอบประจำ ผมก็ยังใช้ 16 อยู่นะ ถ้าวิ่งเกินแล้วรอบจัดประจำ ก็ไปที่ 20 ได้เลย
ที่รถบางยี่ห้อใช้ 0w16 เพราะเค้าอ้างอิงเมืองนอกครับ อากาศเค้าเย็นกว่าบ้านเรา ของบ้านเรา 5w30 นี่เหมาะแล้ว อีกอย่างไม่เห็นเปลืองน้ำมันอะไรเลย ที่เค้ายัดเบอร์ 16 นี่เพราะรถจะได้พังเร็วๆจะได้เปลี่ยนรถเร็วๆหรือขายอะไหล่ได้
เบอร์ 0W16 นั้นมาจากโรงงานในเมืองไทยครับไม่ได้มาจากเมืองนอก แต่ผมว่าจาก 16->30 นี้เยอะไป
ส่วนตัวเทคโนโลยี ถ้าทางผู้ผลิตเค้าบอกว่าเป็น 0w16 ได้ผมก็จะตามนั้นก่อน เพราะว่ากว่าเค้าจะตกลงเอาเบอร์นี้มาใส่เป็นน้ำมันเครื่องประจำรุ่น ต้องเข้า Lab อะไรอีกมากมาย กว่าจะได้เบอร์ที่เหมาะสม ถ้า 0w16 -> ไปใส่ 30 นี้ผมว่าเครื่องพังเร็วกว่าครับ แทนที่จะกดแล้วเร่งไป กลับว่าน้ำมันเครื่องหนิดแล้วทำให้มีการเสียดสีมากกว่าที่ควรจะเป็น
เบอร์ 0w16 นี้มาจากสเปคเมืองหนาวครับ ทางค่ายเหล่านี้ที่เอามาใช้เพราะต้นถูกมันถูก ช่วยให้ลื่นประหยัดน้ำมันปล่อยมลภาสวะน้อยแต่มันไม่ได้ปกป้องเครื่องยนต์ได้ดีนัก ส่วนที่ทดสอบในแลปคือทดสอบโดยที่อยู่ในห้องแอร์มีการควบคุมตัวแปรต่างๆ ไม่มีสภาวะอากาศและความชื้นแปรปรวนแบบสภาวะอากาศจริงในประเทศไทย เหมือนกันกับทดสอบมลพิษและอัตราสิ้นเปลืองของค่ายรถที่ได้อัตราสิ้นเปลืองโอเวอร์แต่เอาเข้าจริงแย่กว่าเดิมตั้งเยอะ เคยมีถอดฝาเครื่องออกมาแล้วสึกหรอเร็วกว่า 05w30หรือ 10w40 ก็เหมือนกับกรณีเดียวกันที่ไม่มีออยเกียร์แยกในรถหลายๆรุ่นแล้วเกิดเกียร์ฮีทเข้าเซฟโหมดแหละครับ บางคันวิ่งไม่ได้ซิ่งอะไรเกียร์ร้อนจี๋แล้วเพราะน้ำในคูลแลนท์มันไม่ช่วยอะไร แค่เอาไปอุ่นเกียร์แค่นั้นครับ ส่วนน้ำมันเกียร์หนามันไม่ได้ทำให้เครื่องสึกหรอพังเร็วแต่แค่ทำให้อาจจะอืดขึ้น ถ้าเติม เบอร์ 10w40 ส่วน 5w30 ที่เติมใส่ในมาร์ชที่ระยะ 5000 กม. นั้นไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรแถมยังเครื่องเดินนิ่ง อัตราเร่งดีเหยียบเป็นมา แถมประหยัดน้ำมันกว่า 0w20 เสียอีก
เคยขับSwif1.2 ปี2012 นมค เบอร์หลังw20 ใช้ได้ครับ
ที่ศูนย์บริการรถทั่วไป B QUIK, COCK PIT , FIT
หรือสั่งon line เปลี่ยนอู่ไกล้บ้านครับ
เบอร์หลังw30, w40 ปกป้องเครื่องยนต์ดีกว่า ฟลิ์มน้ำมันแกร่งกว่าครับ
ใช่ครับ คนที่ใช้รถแค่เข้าศูนย์ ไม่ได้ศึกษาเรื่องรถอะไร ไม่ค่อยเข้าใจตรงนี้หรอกครับ บางครั้งโดนฟันน้ำยาต่างๆจนหัวแบะ
เบอร์มัลติเกรด 0W-16 มีใช้แพร่หลาย ครับโดยเฉพาะโซนหนาวเย็น
คู่มือรถไม่ได้ระบุเบอร์น้ำมันเครื่องมัลติเกรดแค่เบอร์เดียวหรอกครับ ดูว่า เบอร์หนาสุด อยู่ที่เบอร์อะไรที่ใช้ได้ครับ
เบอร์บาง เช่น xW-16 หรือ xW-20 ต้องใช้ additive พวก Friction modifier ช่วยไม่ให้น้ำมันที่บางอยู่แล้ว บางลงไปอีก มันจะเกิดการสึกหรอ แบบ metal contact metal เพราะฟิล์มน้ำมันที่เคลือบโลหะหนาไม่เพียงพอ จึงเกิดแรงเสียดทานขึ้น
น้ำมันเครื่องเบอร์หนาขึ้นให้การปกป้องที่ดีกว่าครับ :) :)
ใช่ครับเบอร์บางไปมันปกป้องต่ำกว่ามาก ถ้าอยากซ่อมเครื่องเร็วก็ต้องเลือกตัวบางครับ
น่าจะสับสน น่าจะไม่เคยเห็นเครื่องยนต์ รุ่นต่างๆที่วางในแลปเทส น่าจะไม่เคยสัมผัส Test Carร ///Test car ก็ใช้เบอร์น้ำมันเครื่องที่โรงงานกำหนดวิ่งทดสอบหนักๆมาทั่วไทยหรือครึ่งโลกก็เยอะ ก่อนออกจำหน่าย วงการสารหล่อลื่นก็พัฒนาไปพร้อมๆและควบคู่กับวงการยายนต์นั่นละ พูดอย่างกับสารหล่อลื่นตามหลังวงการรถยนต์เป็นสิบปีอะไรขนาดนั่น ไหนจะมาตรฐาน API ที่มี ILSAC GF ควบคุมอีกทีสำหรับน้ำมันเครื่องเบอร์ 30 ลงมา
สับสนบ้าบออะไรอย่ามาอวดรู้ เห็นที่คนที่ใช้งานจริงใช้น้ำมันสังเคราะหฺ์สูตรบางๆแบบนี้หลวมเร็วมากหลายคันแล้ว อย่ามาอ้างเรื่องเทสบ้าบออะไร เห็นเทสดีรหนักหนาแต่ใช้งานจริงไม่ได้ดั่งเทส ทดสอบทั้งหลาย เห็นพูดถึงยี่ห้อนี้บ่อยจริง ซันออย ทุกระทู้เลย
กะลาบนหัวแข็งจริง คนประเภทนี้ อ้างใช้แบบนั้นแบบนี้ วงการสารหล่อลื่นเขาพัฒนาตลอด ดูที่เม้นมาทั้งหมดฟังมาทั้งนั้น 555 มีอะไรที่มีเหตุผลบ้าง ข้ออ้างตามความคิดแคบๆตัวเองทั้งนั้น 555
กะลาคุณนะสิ คนอะไรความคิดแคบๆ รู้ว่าพัฒนา แต่อย่ามาโฆษณาของที่ขายอยู่ เห็นโฆษณาตลอด หลายความเห็นเค้าก็พูดอยู่ว่าฟลิ์มน้ำมันเครื่องบางไปแม้จะเติมอะไรมาปกป้อง มันก็ป้องกันการสึกหรอของเครื่องไม่ได้ฟิล์มเบอร์หนา อีกอย่าโฆษณาสินค้าที่ตัวเองบ่อยขนาดนี้ช่วยไปซื้อโฆษณากับเว็ปด้วย อย่ามาเนียนโฆษณาทุกโพสต์
-
:) :) :)
https://www.machinerylubrication.com/Read/518/motor-oils
ขอบคุณมากครับ สำหรับข้อมูล
อธิบายเป็นเหตุผลชัดเจนมากกว่าทดสอบในแลปทั้งหลายที่อ้างของบางคนมากเลยครับ
-
:) :) :)
https://www.machinerylubrication.com/Read/518/motor-oils
บทความนี้ยึดบนมาตรฐาน ILSAC GF-3 ปัจจุบัน มาตรฐาน ILSAC GF-6A แล้ว ลองไปหาบทความที่ฝรั่งเขียนถึง ILSAC GF-6A ดู
-
ขึ้นอยู่กับว่าเครื่องวิ่งไปเท่าไร เปลี่ยนเบอร์ที่ หนึดกว่าเดิม 16->20 ตัวเลขอาจจะแค่ 4 แต่คิดเป็น Percent ก็ประมาณ 20% ที่เพิ่มขึ้นมา
ถ้าไม่ค่อยได้วิ่ง ก็ใช้ 20w ก็ได้ แต่อาจจะกินน้ำมันมากกว่าเดิม แต่ถ้าเป็นผม วิ่งไม่เกิน 120k แล้วไม่ได้รอบจัดมาก ลาก 3,500-4,000 รอบประจำ ผมก็ยังใช้ 16 อยู่นะ ถ้าวิ่งเกินแล้วรอบจัดประจำ ก็ไปที่ 20 ได้เลย
ที่รถบางยี่ห้อใช้ 0w16 เพราะเค้าอ้างอิงเมืองนอกครับ อากาศเค้าเย็นกว่าบ้านเรา ของบ้านเรา 5w30 นี่เหมาะแล้ว อีกอย่างไม่เห็นเปลืองน้ำมันอะไรเลย ที่เค้ายัดเบอร์ 16 นี่เพราะรถจะได้พังเร็วๆจะได้เปลี่ยนรถเร็วๆหรือขายอะไหล่ได้
เบอร์ 0W16 นั้นมาจากโรงงานในเมืองไทยครับไม่ได้มาจากเมืองนอก แต่ผมว่าจาก 16->30 นี้เยอะไป
ส่วนตัวเทคโนโลยี ถ้าทางผู้ผลิตเค้าบอกว่าเป็น 0w16 ได้ผมก็จะตามนั้นก่อน เพราะว่ากว่าเค้าจะตกลงเอาเบอร์นี้มาใส่เป็นน้ำมันเครื่องประจำรุ่น ต้องเข้า Lab อะไรอีกมากมาย กว่าจะได้เบอร์ที่เหมาะสม ถ้า 0w16 -> ไปใส่ 30 นี้ผมว่าเครื่องพังเร็วกว่าครับ แทนที่จะกดแล้วเร่งไป กลับว่าน้ำมันเครื่องหนิดแล้วทำให้มีการเสียดสีมากกว่าที่ควรจะเป็น
เบอร์ 0w16 นี้มาจากสเปคเมืองหนาวครับ ทางค่ายเหล่านี้ที่เอามาใช้เพราะต้นถูกมันถูก ช่วยให้ลื่นประหยัดน้ำมันปล่อยมลภาสวะน้อยแต่มันไม่ได้ปกป้องเครื่องยนต์ได้ดีนัก ส่วนที่ทดสอบในแลปคือทดสอบโดยที่อยู่ในห้องแอร์มีการควบคุมตัวแปรต่างๆ ไม่มีสภาวะอากาศและความชื้นแปรปรวนแบบสภาวะอากาศจริงในประเทศไทย เหมือนกันกับทดสอบมลพิษและอัตราสิ้นเปลืองของค่ายรถที่ได้อัตราสิ้นเปลืองโอเวอร์แต่เอาเข้าจริงแย่กว่าเดิมตั้งเยอะ เคยมีถอดฝาเครื่องออกมาแล้วสึกหรอเร็วกว่า 05w30หรือ 10w40 ก็เหมือนกับกรณีเดียวกันที่ไม่มีออยเกียร์แยกในรถหลายๆรุ่นแล้วเกิดเกียร์ฮีทเข้าเซฟโหมดแหละครับ บางคันวิ่งไม่ได้ซิ่งอะไรเกียร์ร้อนจี๋แล้วเพราะน้ำในคูลแลนท์มันไม่ช่วยอะไร แค่เอาไปอุ่นเกียร์แค่นั้นครับ ส่วนน้ำมันเกียร์หนามันไม่ได้ทำให้เครื่องสึกหรอพังเร็วแต่แค่ทำให้อาจจะอืดขึ้น ถ้าเติม เบอร์ 10w40 ส่วน 5w30 ที่เติมใส่ในมาร์ชที่ระยะ 5000 กม. นั้นไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรแถมยังเครื่องเดินนิ่ง อัตราเร่งดีเหยียบเป็นมา แถมประหยัดน้ำมันกว่า 0w20 เสียอีก
เคยขับSwif1.2 ปี2012 นมค เบอร์หลังw20 ใช้ได้ครับ
ที่ศูนย์บริการรถทั่วไป B QUIK, COCK PIT , FIT
หรือสั่งon line เปลี่ยนอู่ไกล้บ้านครับ
เบอร์หลังw30, w40 ปกป้องเครื่องยนต์ดีกว่า ฟลิ์มน้ำมันแกร่งกว่าครับ
ใช่ครับ คนที่ใช้รถแค่เข้าศูนย์ ไม่ได้ศึกษาเรื่องรถอะไร ไม่ค่อยเข้าใจตรงนี้หรอกครับ บางครั้งโดนฟันน้ำยาต่างๆจนหัวแบะ
เบอร์มัลติเกรด 0W-16 มีใช้แพร่หลาย ครับโดยเฉพาะโซนหนาวเย็น
คู่มือรถไม่ได้ระบุเบอร์น้ำมันเครื่องมัลติเกรดแค่เบอร์เดียวหรอกครับ ดูว่า เบอร์หนาสุด อยู่ที่เบอร์อะไรที่ใช้ได้ครับ
เบอร์บาง เช่น xW-16 หรือ xW-20 ต้องใช้ additive พวก Friction modifier ช่วยไม่ให้น้ำมันที่บางอยู่แล้ว บางลงไปอีก มันจะเกิดการสึกหรอ แบบ metal contact metal เพราะฟิล์มน้ำมันที่เคลือบโลหะหนาไม่เพียงพอ จึงเกิดแรงเสียดทานขึ้น
น้ำมันเครื่องเบอร์หนาขึ้นให้การปกป้องที่ดีกว่าครับ :) :)
ใช่ครับเบอร์บางไปมันปกป้องต่ำกว่ามาก ถ้าอยากซ่อมเครื่องเร็วก็ต้องเลือกตัวบางครับ
น่าจะสับสน น่าจะไม่เคยเห็นเครื่องยนต์ รุ่นต่างๆที่วางในแลปเทส น่าจะไม่เคยสัมผัส Test Carร ///Test car ก็ใช้เบอร์น้ำมันเครื่องที่โรงงานกำหนดวิ่งทดสอบหนักๆมาทั่วไทยหรือครึ่งโลกก็เยอะ ก่อนออกจำหน่าย วงการสารหล่อลื่นก็พัฒนาไปพร้อมๆและควบคู่กับวงการยายนต์นั่นละ พูดอย่างกับสารหล่อลื่นตามหลังวงการรถยนต์เป็นสิบปีอะไรขนาดนั่น ไหนจะมาตรฐาน API ที่มี ILSAC GF ควบคุมอีกทีสำหรับน้ำมันเครื่องเบอร์ 30 ลงมา
สับสนบ้าบออะไรอย่ามาอวดรู้ เห็นที่คนที่ใช้งานจริงใช้น้ำมันสังเคราะหฺ์สูตรบางๆแบบนี้หลวมเร็วมากหลายคันแล้ว อย่ามาอ้างเรื่องเทสบ้าบออะไร เห็นเทสดีรหนักหนาแต่ใช้งานจริงไม่ได้ดั่งเทส ทดสอบทั้งหลาย เห็นพูดถึงยี่ห้อนี้บ่อยจริง ซันออย ทุกระทู้เลย
กะลาบนหัวแข็งจริง คนประเภทนี้ อ้างใช้แบบนั้นแบบนี้ วงการสารหล่อลื่นเขาพัฒนาตลอด ดูที่เม้นมาทั้งหมดฟังมาทั้งนั้น 555 มีอะไรที่มีเหตุผลบ้าง ข้ออ้างตามความคิดแคบๆตัวเองทั้งนั้น 555
กะลาคุณนะสิ คนอะไรความคิดแคบๆ รู้ว่าพัฒนา แต่อย่ามาโฆษณาของที่ขายอยู่ เห็นโฆษณาตลอด หลายความเห็นเค้าก็พูดอยู่ว่าฟลิ์มน้ำมันเครื่องบางไปแม้จะเติมอะไรมาปกป้อง มันก็ป้องกันการสึกหรอของเครื่องไม่ได้ฟิล์มเบอร์หนา อีกอย่าโฆษณาสินค้าที่ตัวเองบ่อยขนาดนี้ช่วยไปซื้อโฆษณากับเว็ปด้วย อย่ามาเนียนโฆษณาทุกโพสต์
กะลาบนกระโหลก เปิดกว้างๆบ้าง จะได้ตามโลกทัน โลกไม่ได้หยุดหมุน เหมือนกะลาบนหัว 5555
-
:) :) :)
https://www.machinerylubrication.com/Read/518/motor-oils
ขอบคุณสำหรับlink บทความนี้ครับ เข้าใจขึ้นเยอะในหลายๆแง่มุมที่มีต่อนมค.หนา-บาง
ส่วนคนที่ยังทะเลาะกันอยู่ คุณอ่านดูนะครับ ทุกอย่างคือ Compromise อยู่ที่เลือกว่าจะเอาอะไรเป็นหลัก.
-
ขึ้นอยู่กับว่าเครื่องวิ่งไปเท่าไร เปลี่ยนเบอร์ที่ หนึดกว่าเดิม 16->20 ตัวเลขอาจจะแค่ 4 แต่คิดเป็น Percent ก็ประมาณ 20% ที่เพิ่มขึ้นมา
ถ้าไม่ค่อยได้วิ่ง ก็ใช้ 20w ก็ได้ แต่อาจจะกินน้ำมันมากกว่าเดิม แต่ถ้าเป็นผม วิ่งไม่เกิน 120k แล้วไม่ได้รอบจัดมาก ลาก 3,500-4,000 รอบประจำ ผมก็ยังใช้ 16 อยู่นะ ถ้าวิ่งเกินแล้วรอบจัดประจำ ก็ไปที่ 20 ได้เลย
ที่รถบางยี่ห้อใช้ 0w16 เพราะเค้าอ้างอิงเมืองนอกครับ อากาศเค้าเย็นกว่าบ้านเรา ของบ้านเรา 5w30 นี่เหมาะแล้ว อีกอย่างไม่เห็นเปลืองน้ำมันอะไรเลย ที่เค้ายัดเบอร์ 16 นี่เพราะรถจะได้พังเร็วๆจะได้เปลี่ยนรถเร็วๆหรือขายอะไหล่ได้
เบอร์ 0W16 นั้นมาจากโรงงานในเมืองไทยครับไม่ได้มาจากเมืองนอก แต่ผมว่าจาก 16->30 นี้เยอะไป
ส่วนตัวเทคโนโลยี ถ้าทางผู้ผลิตเค้าบอกว่าเป็น 0w16 ได้ผมก็จะตามนั้นก่อน เพราะว่ากว่าเค้าจะตกลงเอาเบอร์นี้มาใส่เป็นน้ำมันเครื่องประจำรุ่น ต้องเข้า Lab อะไรอีกมากมาย กว่าจะได้เบอร์ที่เหมาะสม ถ้า 0w16 -> ไปใส่ 30 นี้ผมว่าเครื่องพังเร็วกว่าครับ แทนที่จะกดแล้วเร่งไป กลับว่าน้ำมันเครื่องหนิดแล้วทำให้มีการเสียดสีมากกว่าที่ควรจะเป็น
เบอร์ 0w16 นี้มาจากสเปคเมืองหนาวครับ ทางค่ายเหล่านี้ที่เอามาใช้เพราะต้นถูกมันถูก ช่วยให้ลื่นประหยัดน้ำมันปล่อยมลภาสวะน้อยแต่มันไม่ได้ปกป้องเครื่องยนต์ได้ดีนัก ส่วนที่ทดสอบในแลปคือทดสอบโดยที่อยู่ในห้องแอร์มีการควบคุมตัวแปรต่างๆ ไม่มีสภาวะอากาศและความชื้นแปรปรวนแบบสภาวะอากาศจริงในประเทศไทย เหมือนกันกับทดสอบมลพิษและอัตราสิ้นเปลืองของค่ายรถที่ได้อัตราสิ้นเปลืองโอเวอร์แต่เอาเข้าจริงแย่กว่าเดิมตั้งเยอะ เคยมีถอดฝาเครื่องออกมาแล้วสึกหรอเร็วกว่า 05w30หรือ 10w40 ก็เหมือนกับกรณีเดียวกันที่ไม่มีออยเกียร์แยกในรถหลายๆรุ่นแล้วเกิดเกียร์ฮีทเข้าเซฟโหมดแหละครับ บางคันวิ่งไม่ได้ซิ่งอะไรเกียร์ร้อนจี๋แล้วเพราะน้ำในคูลแลนท์มันไม่ช่วยอะไร แค่เอาไปอุ่นเกียร์แค่นั้นครับ ส่วนน้ำมันเกียร์หนามันไม่ได้ทำให้เครื่องสึกหรอพังเร็วแต่แค่ทำให้อาจจะอืดขึ้น ถ้าเติม เบอร์ 10w40 ส่วน 5w30 ที่เติมใส่ในมาร์ชที่ระยะ 5000 กม. นั้นไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรแถมยังเครื่องเดินนิ่ง อัตราเร่งดีเหยียบเป็นมา แถมประหยัดน้ำมันกว่า 0w20 เสียอีก
เคยขับSwif1.2 ปี2012 นมค เบอร์หลังw20 ใช้ได้ครับ
ที่ศูนย์บริการรถทั่วไป B QUIK, COCK PIT , FIT
หรือสั่งon line เปลี่ยนอู่ไกล้บ้านครับ
เบอร์หลังw30, w40 ปกป้องเครื่องยนต์ดีกว่า ฟลิ์มน้ำมันแกร่งกว่าครับ
ใช่ครับ คนที่ใช้รถแค่เข้าศูนย์ ไม่ได้ศึกษาเรื่องรถอะไร ไม่ค่อยเข้าใจตรงนี้หรอกครับ บางครั้งโดนฟันน้ำยาต่างๆจนหัวแบะ
เบอร์มัลติเกรด 0W-16 มีใช้แพร่หลาย ครับโดยเฉพาะโซนหนาวเย็น
คู่มือรถไม่ได้ระบุเบอร์น้ำมันเครื่องมัลติเกรดแค่เบอร์เดียวหรอกครับ ดูว่า เบอร์หนาสุด อยู่ที่เบอร์อะไรที่ใช้ได้ครับ
เบอร์บาง เช่น xW-16 หรือ xW-20 ต้องใช้ additive พวก Friction modifier ช่วยไม่ให้น้ำมันที่บางอยู่แล้ว บางลงไปอีก มันจะเกิดการสึกหรอ แบบ metal contact metal เพราะฟิล์มน้ำมันที่เคลือบโลหะหนาไม่เพียงพอ จึงเกิดแรงเสียดทานขึ้น
น้ำมันเครื่องเบอร์หนาขึ้นให้การปกป้องที่ดีกว่าครับ :) :)
ใช่ครับเบอร์บางไปมันปกป้องต่ำกว่ามาก ถ้าอยากซ่อมเครื่องเร็วก็ต้องเลือกตัวบางครับ
น่าจะสับสน น่าจะไม่เคยเห็นเครื่องยนต์ รุ่นต่างๆที่วางในแลปเทส น่าจะไม่เคยสัมผัส Test Carร ///Test car ก็ใช้เบอร์น้ำมันเครื่องที่โรงงานกำหนดวิ่งทดสอบหนักๆมาทั่วไทยหรือครึ่งโลกก็เยอะ ก่อนออกจำหน่าย วงการสารหล่อลื่นก็พัฒนาไปพร้อมๆและควบคู่กับวงการยายนต์นั่นละ พูดอย่างกับสารหล่อลื่นตามหลังวงการรถยนต์เป็นสิบปีอะไรขนาดนั่น ไหนจะมาตรฐาน API ที่มี ILSAC GF ควบคุมอีกทีสำหรับน้ำมันเครื่องเบอร์ 30 ลงมา
สับสนบ้าบออะไรอย่ามาอวดรู้ เห็นที่คนที่ใช้งานจริงใช้น้ำมันสังเคราะหฺ์สูตรบางๆแบบนี้หลวมเร็วมากหลายคันแล้ว อย่ามาอ้างเรื่องเทสบ้าบออะไร เห็นเทสดีรหนักหนาแต่ใช้งานจริงไม่ได้ดั่งเทส ทดสอบทั้งหลาย เห็นพูดถึงยี่ห้อนี้บ่อยจริง ซันออย ทุกระทู้เลย
กะลาบนหัวแข็งจริง คนประเภทนี้ อ้างใช้แบบนั้นแบบนี้ วงการสารหล่อลื่นเขาพัฒนาตลอด ดูที่เม้นมาทั้งหมดฟังมาทั้งนั้น 555 มีอะไรที่มีเหตุผลบ้าง ข้ออ้างตามความคิดแคบๆตัวเองทั้งนั้น 555
กะลาคุณนะสิ คนอะไรความคิดแคบๆ รู้ว่าพัฒนา แต่อย่ามาโฆษณาของที่ขายอยู่ เห็นโฆษณาตลอด หลายความเห็นเค้าก็พูดอยู่ว่าฟลิ์มน้ำมันเครื่องบางไปแม้จะเติมอะไรมาปกป้อง มันก็ป้องกันการสึกหรอของเครื่องไม่ได้ฟิล์มเบอร์หนา อีกอย่าโฆษณาสินค้าที่ตัวเองบ่อยขนาดนี้ช่วยไปซื้อโฆษณากับเว็ปด้วย อย่ามาเนียนโฆษณาทุกโพสต์
กะลาบนกระโหลก เปิดกว้างๆบ้าง จะได้ตามโลกทัน โลกไม่ได้หยุดหมุน เหมือนกะลาบนหัว 5555
บอกคุณเองหรอ ที่ต้องเอากะลาออกบนหัว ไอ้แอบชอบมาลงโฆษณาแฝงในโพสต์
-
[quoteauthor=Sinplug link=topic=79784.msg1398126#msg1398126 date=1623030027]
ขึ้นอยู่กับว่าเครื่องวิ่งไปเท่าไร เปลี่ยนเบอร์ที่ หนึดกว่าเดิม 16->20 ตัวเลขอาจจะแค่ 4 แต่คิดเป็น Percent ก็ประมาณ 20% ที่เพิ่มขึ้นมา
ถ้าไม่ค่อยได้วิ่ง ก็ใช้ 20w ก็ได้ แต่อาจจะกินน้ำมันมากกว่าเดิม แต่ถ้าเป็นผม วิ่งไม่เกิน 120k แล้วไม่ได้รอบจัดมาก ลาก 3,500-4,000 รอบประจำ ผมก็ยังใช้ 16 อยู่นะ ถ้าวิ่งเกินแล้วรอบจัดประจำ ก็ไปที่ 20 ได้เลย
ที่รถบางยี่ห้อใช้ 0w16 เพราะเค้าอ้างอิงเมืองนอกครับ อากาศเค้าเย็นกว่าบ้านเรา ของบ้านเรา 5w30 นี่เหมาะแล้ว อีกอย่างไม่เห็นเปลืองน้ำมันอะไรเลย ที่เค้ายัดเบอร์ 16 นี่เพราะรถจะได้พังเร็วๆจะได้เปลี่ยนรถเร็วๆหรือขายอะไหล่ได้
เบอร์ 0W16 นั้นมาจากโรงงานในเมืองไทยครับไม่ได้มาจากเมืองนอก แต่ผมว่าจาก 16->30 นี้เยอะไป
ส่วนตัวเทคโนโลยี ถ้าทางผู้ผลิตเค้าบอกว่าเป็น 0w16 ได้ผมก็จะตามนั้นก่อน เพราะว่ากว่าเค้าจะตกลงเอาเบอร์นี้มาใส่เป็นน้ำมันเครื่องประจำรุ่น ต้องเข้า Lab อะไรอีกมากมาย กว่าจะได้เบอร์ที่เหมาะสม ถ้า 0w16 -> ไปใส่ 30 นี้ผมว่าเครื่องพังเร็วกว่าครับ แทนที่จะกดแล้วเร่งไป กลับว่าน้ำมันเครื่องหนิดแล้วทำให้มีการเสียดสีมากกว่าที่ควรจะเป็น
เบอร์ 0w16 นี้มาจากสเปคเมืองหนาวครับ ทางค่ายเหล่านี้ที่เอามาใช้เพราะต้นถูกมันถูก ช่วยให้ลื่นประหยัดน้ำมันปล่อยมลภาสวะน้อยแต่มันไม่ได้ปกป้องเครื่องยนต์ได้ดีนัก ส่วนที่ทดสอบในแลปคือทดสอบโดยที่อยู่ในห้องแอร์มีการควบคุมตัวแปรต่างๆ ไม่มีสภาวะอากาศและความชื้นแปรปรวนแบบสภาวะอากาศจริงในประเทศไทย เหมือนกันกับทดสอบมลพิษและอัตราสิ้นเปลืองของค่ายรถที่ได้อัตราสิ้นเปลืองโอเวอร์แต่เอาเข้าจริงแย่กว่าเดิมตั้งเยอะ เคยมีถอดฝาเครื่องออกมาแล้วสึกหรอเร็วกว่า 05w30หรือ 10w40 ก็เหมือนกับกรณีเดียวกันที่ไม่มีออยเกียร์แยกในรถหลายๆรุ่นแล้วเกิดเกียร์ฮีทเข้าเซฟโหมดแหละครับ บางคันวิ่งไม่ได้ซิ่งอะไรเกียร์ร้อนจี๋แล้วเพราะน้ำในคูลแลนท์มันไม่ช่วยอะไร แค่เอาไปอุ่นเกียร์แค่นั้นครับ ส่วนน้ำมันเกียร์หนามันไม่ได้ทำให้เครื่องสึกหรอพังเร็วแต่แค่ทำให้อาจจะอืดขึ้น ถ้าเติม เบอร์ 10w40 ส่วน 5w30 ที่เติมใส่ในมาร์ชที่ระยะ 5000 กม. นั้นไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรแถมยังเครื่องเดินนิ่ง อัตราเร่งดีเหยียบเป็นมา แถมประหยัดน้ำมันกว่า 0w20 เสียอีก
เคยขับSwif1.2 ปี2012 นมค เบอร์หลังw20 ใช้ได้ครับ
ที่ศูนย์บริการรถทั่วไป B QUIK, COCK PIT , FIT
หรือสั่งon line เปลี่ยนอู่ไกล้บ้านครับ
เบอร์หลังw30, w40 ปกป้องเครื่องยนต์ดีกว่า ฟลิ์มน้ำมันแกร่งกว่าครับ
ใช่ครับ คนที่ใช้รถแค่เข้าศูนย์ ไม่ได้ศึกษาเรื่องรถอะไร ไม่ค่อยเข้าใจตรงนี้หรอกครับ บางครั้งโดนฟันน้ำยาต่างๆจนหัวแบะ
เบอร์มัลติเกรด 0W-16 มีใช้แพร่หลาย ครับโดยเฉพาะโซนหนาวเย็น
คู่มือรถไม่ได้ระบุเบอร์น้ำมันเครื่องมัลติเกรดแค่เบอร์เดียวหรอกครับ ดูว่า เบอร์หนาสุด อยู่ที่เบอร์อะไรที่ใช้ได้ครับ
เบอร์บาง เช่น xW-16 หรือ xW-20 ต้องใช้ additive พวก Friction modifier ช่วยไม่ให้น้ำมันที่บางอยู่แล้ว บางลงไปอีก มันจะเกิดการสึกหรอ แบบ metal contact metal เพราะฟิล์มน้ำมันที่เคลือบโลหะหนาไม่เพียงพอ จึงเกิดแรงเสียดทานขึ้น
น้ำมันเครื่องเบอร์หนาขึ้นให้การปกป้องที่ดีกว่าครับ :) :)
ใช่ครับเบอร์บางไปมันปกป้องต่ำกว่ามาก ถ้าอยากซ่อมเครื่องเร็วก็ต้องเลือกตัวบางครับ
น่าจะสับสน น่าจะไม่เคยเห็นเครื่องยนต์ รุ่นต่างๆที่วางในแลปเทส น่าจะไม่เคยสัมผัส Test Carร ///Test car ก็ใช้เบอร์น้ำมันเครื่องที่โรงงานกำหนดวิ่งทดสอบหนักๆมาทั่วไทยหรือครึ่งโลกก็เยอะ ก่อนออกจำหน่าย วงการสารหล่อลื่นก็พัฒนาไปพร้อมๆและควบคู่กับวงการยายนต์นั่นละ พูดอย่างกับสารหล่อลื่นตามหลังวงการรถยนต์เป็นสิบปีอะไรขนาดนั่น ไหนจะมาตรฐาน API ที่มี ILSAC GF ควบคุมอีกทีสำหรับน้ำมันเครื่องเบอร์ 30 ลงมา
สับสนบ้าบออะไรอย่ามาอวดรู้ เห็นที่คนที่ใช้งานจริงใช้น้ำมันสังเคราะหฺ์สูตรบางๆแบบนี้หลวมเร็วมากหลายคันแล้ว อย่ามาอ้างเรื่องเทสบ้าบออะไร เห็นเทสดีรหนักหนาแต่ใช้งานจริงไม่ได้ดั่งเทส ทดสอบทั้งหลาย เห็นพูดถึงยี่ห้อนี้บ่อยจริง ซันออย ทุกระทู้เลย
กะลาบนหัวแข็งจริง คนประเภทนี้ อ้างใช้แบบนั้นแบบนี้ วงการสารหล่อลื่นเขาพัฒนาตลอด ดูที่เม้นมาทั้งหมดฟังมาทั้งนั้น 555 มีอะไรที่มีเหตุผลบ้าง ข้ออ้างตามความคิดแคบๆตัวเองทั้งนั้น 555
กะลาคุณนะสิ คนอะไรความคิดแคบๆ รู้ว่าพัฒนา แต่อย่ามาโฆษณาของที่ขายอยู่ เห็นโฆษณาตลอด หลายความเห็นเค้าก็พูดอยู่ว่าฟลิ์มน้ำมันเครื่องบางไปแม้จะเติมอะไรมาปกป้อง มันก็ป้องกันการสึกหรอของเครื่องไม่ได้ฟิล์มเบอร์หนา อีกอย่าโฆษณาสินค้าที่ตัวเองบ่อยขนาดนี้ช่วยไปซื้อโฆษณากับเว็ปด้วย อย่ามาเนียนโฆษณาทุกโพสต์
กะลาบนกระโหลก เปิดกว้างๆบ้าง จะได้ตามโลกทัน โลกไม่ได้หยุดหมุน เหมือนกะลาบนหัว 5555
[/quote]เป็นพ่อค้าปากเสียแบบนี้ขอให้ขายดีนะ น้ำมันพระอาทิตย์ และอย่าลืมจ่ายค่าโฆษณาให้เว็ปด้วยนะ
-
ใช้ได้ครับ ผมใช้รถ Honda city ปี09 แถมติดแก๊สก็ใช้เบอร์ 0w20 จนไมล์ทะลุ3แสนเลยครับ เคยไปเปลี่ยนที่อู่ทำแก๊สด้วยแล้วลืมบอกร้าน เฮียแกเปลี่ยน 10w40ให้ รถอืดวิ่งแทบใจขาดเลยครับ ใช้ได้ไม่ถึง3พันโลเปลี่ยนกลับมา 0w20 เหมือนเดิมครับ ค่อยยังชั่วหน่อย เคยลอง 5w30 ก็ดีครับ แต่แพง มาจบที่0w20 หลายท่านทักว่าบางไป เกรงจะสึกหรอ ผมบอกว่าไม่เป็นไรครับผมขับไม่เร็ว เน้นขับง่าย เร่งออกตัวง่าย และไม่แพง
ปล.ผมก็เพิ่งรู้ว่ามีเบอร์ 0w16 ด้วยนะครับเนี่ย 😄
-
[quoteauthor=Sinplug link=topic=79784.msg1398126#msg1398126 date=1623030027]
ขึ้นอยู่กับว่าเครื่องวิ่งไปเท่าไร เปลี่ยนเบอร์ที่ หนึดกว่าเดิม 16->20 ตัวเลขอาจจะแค่ 4 แต่คิดเป็น Percent ก็ประมาณ 20% ที่เพิ่มขึ้นมา
ถ้าไม่ค่อยได้วิ่ง ก็ใช้ 20w ก็ได้ แต่อาจจะกินน้ำมันมากกว่าเดิม แต่ถ้าเป็นผม วิ่งไม่เกิน 120k แล้วไม่ได้รอบจัดมาก ลาก 3,500-4,000 รอบประจำ ผมก็ยังใช้ 16 อยู่นะ ถ้าวิ่งเกินแล้วรอบจัดประจำ ก็ไปที่ 20 ได้เลย
ที่รถบางยี่ห้อใช้ 0w16 เพราะเค้าอ้างอิงเมืองนอกครับ อากาศเค้าเย็นกว่าบ้านเรา ของบ้านเรา 5w30 นี่เหมาะแล้ว อีกอย่างไม่เห็นเปลืองน้ำมันอะไรเลย ที่เค้ายัดเบอร์ 16 นี่เพราะรถจะได้พังเร็วๆจะได้เปลี่ยนรถเร็วๆหรือขายอะไหล่ได้
เบอร์ 0W16 นั้นมาจากโรงงานในเมืองไทยครับไม่ได้มาจากเมืองนอก แต่ผมว่าจาก 16->30 นี้เยอะไป
ส่วนตัวเทคโนโลยี ถ้าทางผู้ผลิตเค้าบอกว่าเป็น 0w16 ได้ผมก็จะตามนั้นก่อน เพราะว่ากว่าเค้าจะตกลงเอาเบอร์นี้มาใส่เป็นน้ำมันเครื่องประจำรุ่น ต้องเข้า Lab อะไรอีกมากมาย กว่าจะได้เบอร์ที่เหมาะสม ถ้า 0w16 -> ไปใส่ 30 นี้ผมว่าเครื่องพังเร็วกว่าครับ แทนที่จะกดแล้วเร่งไป กลับว่าน้ำมันเครื่องหนิดแล้วทำให้มีการเสียดสีมากกว่าที่ควรจะเป็น
เบอร์ 0w16 นี้มาจากสเปคเมืองหนาวครับ ทางค่ายเหล่านี้ที่เอามาใช้เพราะต้นถูกมันถูก ช่วยให้ลื่นประหยัดน้ำมันปล่อยมลภาสวะน้อยแต่มันไม่ได้ปกป้องเครื่องยนต์ได้ดีนัก ส่วนที่ทดสอบในแลปคือทดสอบโดยที่อยู่ในห้องแอร์มีการควบคุมตัวแปรต่างๆ ไม่มีสภาวะอากาศและความชื้นแปรปรวนแบบสภาวะอากาศจริงในประเทศไทย เหมือนกันกับทดสอบมลพิษและอัตราสิ้นเปลืองของค่ายรถที่ได้อัตราสิ้นเปลืองโอเวอร์แต่เอาเข้าจริงแย่กว่าเดิมตั้งเยอะ เคยมีถอดฝาเครื่องออกมาแล้วสึกหรอเร็วกว่า 05w30หรือ 10w40 ก็เหมือนกับกรณีเดียวกันที่ไม่มีออยเกียร์แยกในรถหลายๆรุ่นแล้วเกิดเกียร์ฮีทเข้าเซฟโหมดแหละครับ บางคันวิ่งไม่ได้ซิ่งอะไรเกียร์ร้อนจี๋แล้วเพราะน้ำในคูลแลนท์มันไม่ช่วยอะไร แค่เอาไปอุ่นเกียร์แค่นั้นครับ ส่วนน้ำมันเกียร์หนามันไม่ได้ทำให้เครื่องสึกหรอพังเร็วแต่แค่ทำให้อาจจะอืดขึ้น ถ้าเติม เบอร์ 10w40 ส่วน 5w30 ที่เติมใส่ในมาร์ชที่ระยะ 5000 กม. นั้นไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรแถมยังเครื่องเดินนิ่ง อัตราเร่งดีเหยียบเป็นมา แถมประหยัดน้ำมันกว่า 0w20 เสียอีก
เคยขับSwif1.2 ปี2012 นมค เบอร์หลังw20 ใช้ได้ครับ
ที่ศูนย์บริการรถทั่วไป B QUIK, COCK PIT , FIT
หรือสั่งon line เปลี่ยนอู่ไกล้บ้านครับ
เบอร์หลังw30, w40 ปกป้องเครื่องยนต์ดีกว่า ฟลิ์มน้ำมันแกร่งกว่าครับ
ใช่ครับ คนที่ใช้รถแค่เข้าศูนย์ ไม่ได้ศึกษาเรื่องรถอะไร ไม่ค่อยเข้าใจตรงนี้หรอกครับ บางครั้งโดนฟันน้ำยาต่างๆจนหัวแบะ
เบอร์มัลติเกรด 0W-16 มีใช้แพร่หลาย ครับโดยเฉพาะโซนหนาวเย็น
คู่มือรถไม่ได้ระบุเบอร์น้ำมันเครื่องมัลติเกรดแค่เบอร์เดียวหรอกครับ ดูว่า เบอร์หนาสุด อยู่ที่เบอร์อะไรที่ใช้ได้ครับ
เบอร์บาง เช่น xW-16 หรือ xW-20 ต้องใช้ additive พวก Friction modifier ช่วยไม่ให้น้ำมันที่บางอยู่แล้ว บางลงไปอีก มันจะเกิดการสึกหรอ แบบ metal contact metal เพราะฟิล์มน้ำมันที่เคลือบโลหะหนาไม่เพียงพอ จึงเกิดแรงเสียดทานขึ้น
น้ำมันเครื่องเบอร์หนาขึ้นให้การปกป้องที่ดีกว่าครับ :) :)
ใช่ครับเบอร์บางไปมันปกป้องต่ำกว่ามาก ถ้าอยากซ่อมเครื่องเร็วก็ต้องเลือกตัวบางครับ
น่าจะสับสน น่าจะไม่เคยเห็นเครื่องยนต์ รุ่นต่างๆที่วางในแลปเทส น่าจะไม่เคยสัมผัส Test Carร ///Test car ก็ใช้เบอร์น้ำมันเครื่องที่โรงงานกำหนดวิ่งทดสอบหนักๆมาทั่วไทยหรือครึ่งโลกก็เยอะ ก่อนออกจำหน่าย วงการสารหล่อลื่นก็พัฒนาไปพร้อมๆและควบคู่กับวงการยายนต์นั่นละ พูดอย่างกับสารหล่อลื่นตามหลังวงการรถยนต์เป็นสิบปีอะไรขนาดนั่น ไหนจะมาตรฐาน API ที่มี ILSAC GF ควบคุมอีกทีสำหรับน้ำมันเครื่องเบอร์ 30 ลงมา
สับสนบ้าบออะไรอย่ามาอวดรู้ เห็นที่คนที่ใช้งานจริงใช้น้ำมันสังเคราะหฺ์สูตรบางๆแบบนี้หลวมเร็วมากหลายคันแล้ว อย่ามาอ้างเรื่องเทสบ้าบออะไร เห็นเทสดีรหนักหนาแต่ใช้งานจริงไม่ได้ดั่งเทส ทดสอบทั้งหลาย เห็นพูดถึงยี่ห้อนี้บ่อยจริง ซันออย ทุกระทู้เลย
กะลาบนหัวแข็งจริง คนประเภทนี้ อ้างใช้แบบนั้นแบบนี้ วงการสารหล่อลื่นเขาพัฒนาตลอด ดูที่เม้นมาทั้งหมดฟังมาทั้งนั้น 555 มีอะไรที่มีเหตุผลบ้าง ข้ออ้างตามความคิดแคบๆตัวเองทั้งนั้น 555
กะลาคุณนะสิ คนอะไรความคิดแคบๆ รู้ว่าพัฒนา แต่อย่ามาโฆษณาของที่ขายอยู่ เห็นโฆษณาตลอด หลายความเห็นเค้าก็พูดอยู่ว่าฟลิ์มน้ำมันเครื่องบางไปแม้จะเติมอะไรมาปกป้อง มันก็ป้องกันการสึกหรอของเครื่องไม่ได้ฟิล์มเบอร์หนา อีกอย่าโฆษณาสินค้าที่ตัวเองบ่อยขนาดนี้ช่วยไปซื้อโฆษณากับเว็ปด้วย อย่ามาเนียนโฆษณาทุกโพสต์
กะลาบนกระโหลก เปิดกว้างๆบ้าง จะได้ตามโลกทัน โลกไม่ได้หยุดหมุน เหมือนกะลาบนหัว 5555
555 ขัดกะลาบนหัวให้บางๆ จะได้เปิดรับข้อมูลใหม่ๆ
-
[quoteauthor=Sinplug link=topic=79784.msg1398126#msg1398126 date=1623030027]
ขึ้นอยู่กับว่าเครื่องวิ่งไปเท่าไร เปลี่ยนเบอร์ที่ หนึดกว่าเดิม 16->20 ตัวเลขอาจจะแค่ 4 แต่คิดเป็น Percent ก็ประมาณ 20% ที่เพิ่มขึ้นมา
ถ้าไม่ค่อยได้วิ่ง ก็ใช้ 20w ก็ได้ แต่อาจจะกินน้ำมันมากกว่าเดิม แต่ถ้าเป็นผม วิ่งไม่เกิน 120k แล้วไม่ได้รอบจัดมาก ลาก 3,500-4,000 รอบประจำ ผมก็ยังใช้ 16 อยู่นะ ถ้าวิ่งเกินแล้วรอบจัดประจำ ก็ไปที่ 20 ได้เลย
ที่รถบางยี่ห้อใช้ 0w16 เพราะเค้าอ้างอิงเมืองนอกครับ อากาศเค้าเย็นกว่าบ้านเรา ของบ้านเรา 5w30 นี่เหมาะแล้ว อีกอย่างไม่เห็นเปลืองน้ำมันอะไรเลย ที่เค้ายัดเบอร์ 16 นี่เพราะรถจะได้พังเร็วๆจะได้เปลี่ยนรถเร็วๆหรือขายอะไหล่ได้
เบอร์ 0W16 นั้นมาจากโรงงานในเมืองไทยครับไม่ได้มาจากเมืองนอก แต่ผมว่าจาก 16->30 นี้เยอะไป
ส่วนตัวเทคโนโลยี ถ้าทางผู้ผลิตเค้าบอกว่าเป็น 0w16 ได้ผมก็จะตามนั้นก่อน เพราะว่ากว่าเค้าจะตกลงเอาเบอร์นี้มาใส่เป็นน้ำมันเครื่องประจำรุ่น ต้องเข้า Lab อะไรอีกมากมาย กว่าจะได้เบอร์ที่เหมาะสม ถ้า 0w16 -> ไปใส่ 30 นี้ผมว่าเครื่องพังเร็วกว่าครับ แทนที่จะกดแล้วเร่งไป กลับว่าน้ำมันเครื่องหนิดแล้วทำให้มีการเสียดสีมากกว่าที่ควรจะเป็น
เบอร์ 0w16 นี้มาจากสเปคเมืองหนาวครับ ทางค่ายเหล่านี้ที่เอามาใช้เพราะต้นถูกมันถูก ช่วยให้ลื่นประหยัดน้ำมันปล่อยมลภาสวะน้อยแต่มันไม่ได้ปกป้องเครื่องยนต์ได้ดีนัก ส่วนที่ทดสอบในแลปคือทดสอบโดยที่อยู่ในห้องแอร์มีการควบคุมตัวแปรต่างๆ ไม่มีสภาวะอากาศและความชื้นแปรปรวนแบบสภาวะอากาศจริงในประเทศไทย เหมือนกันกับทดสอบมลพิษและอัตราสิ้นเปลืองของค่ายรถที่ได้อัตราสิ้นเปลืองโอเวอร์แต่เอาเข้าจริงแย่กว่าเดิมตั้งเยอะ เคยมีถอดฝาเครื่องออกมาแล้วสึกหรอเร็วกว่า 05w30หรือ 10w40 ก็เหมือนกับกรณีเดียวกันที่ไม่มีออยเกียร์แยกในรถหลายๆรุ่นแล้วเกิดเกียร์ฮีทเข้าเซฟโหมดแหละครับ บางคันวิ่งไม่ได้ซิ่งอะไรเกียร์ร้อนจี๋แล้วเพราะน้ำในคูลแลนท์มันไม่ช่วยอะไร แค่เอาไปอุ่นเกียร์แค่นั้นครับ ส่วนน้ำมันเกียร์หนามันไม่ได้ทำให้เครื่องสึกหรอพังเร็วแต่แค่ทำให้อาจจะอืดขึ้น ถ้าเติม เบอร์ 10w40 ส่วน 5w30 ที่เติมใส่ในมาร์ชที่ระยะ 5000 กม. นั้นไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรแถมยังเครื่องเดินนิ่ง อัตราเร่งดีเหยียบเป็นมา แถมประหยัดน้ำมันกว่า 0w20 เสียอีก
เคยขับSwif1.2 ปี2012 นมค เบอร์หลังw20 ใช้ได้ครับ
ที่ศูนย์บริการรถทั่วไป B QUIK, COCK PIT , FIT
หรือสั่งon line เปลี่ยนอู่ไกล้บ้านครับ
เบอร์หลังw30, w40 ปกป้องเครื่องยนต์ดีกว่า ฟลิ์มน้ำมันแกร่งกว่าครับ
ใช่ครับ คนที่ใช้รถแค่เข้าศูนย์ ไม่ได้ศึกษาเรื่องรถอะไร ไม่ค่อยเข้าใจตรงนี้หรอกครับ บางครั้งโดนฟันน้ำยาต่างๆจนหัวแบะ
เบอร์มัลติเกรด 0W-16 มีใช้แพร่หลาย ครับโดยเฉพาะโซนหนาวเย็น
คู่มือรถไม่ได้ระบุเบอร์น้ำมันเครื่องมัลติเกรดแค่เบอร์เดียวหรอกครับ ดูว่า เบอร์หนาสุด อยู่ที่เบอร์อะไรที่ใช้ได้ครับ
เบอร์บาง เช่น xW-16 หรือ xW-20 ต้องใช้ additive พวก Friction modifier ช่วยไม่ให้น้ำมันที่บางอยู่แล้ว บางลงไปอีก มันจะเกิดการสึกหรอ แบบ metal contact metal เพราะฟิล์มน้ำมันที่เคลือบโลหะหนาไม่เพียงพอ จึงเกิดแรงเสียดทานขึ้น
น้ำมันเครื่องเบอร์หนาขึ้นให้การปกป้องที่ดีกว่าครับ :) :)
ใช่ครับเบอร์บางไปมันปกป้องต่ำกว่ามาก ถ้าอยากซ่อมเครื่องเร็วก็ต้องเลือกตัวบางครับ
น่าจะสับสน น่าจะไม่เคยเห็นเครื่องยนต์ รุ่นต่างๆที่วางในแลปเทส น่าจะไม่เคยสัมผัส Test Carร ///Test car ก็ใช้เบอร์น้ำมันเครื่องที่โรงงานกำหนดวิ่งทดสอบหนักๆมาทั่วไทยหรือครึ่งโลกก็เยอะ ก่อนออกจำหน่าย วงการสารหล่อลื่นก็พัฒนาไปพร้อมๆและควบคู่กับวงการยายนต์นั่นละ พูดอย่างกับสารหล่อลื่นตามหลังวงการรถยนต์เป็นสิบปีอะไรขนาดนั่น ไหนจะมาตรฐาน API ที่มี ILSAC GF ควบคุมอีกทีสำหรับน้ำมันเครื่องเบอร์ 30 ลงมา
สับสนบ้าบออะไรอย่ามาอวดรู้ เห็นที่คนที่ใช้งานจริงใช้น้ำมันสังเคราะหฺ์สูตรบางๆแบบนี้หลวมเร็วมากหลายคันแล้ว อย่ามาอ้างเรื่องเทสบ้าบออะไร เห็นเทสดีรหนักหนาแต่ใช้งานจริงไม่ได้ดั่งเทส ทดสอบทั้งหลาย เห็นพูดถึงยี่ห้อนี้บ่อยจริง ซันออย ทุกระทู้เลย
กะลาบนหัวแข็งจริง คนประเภทนี้ อ้างใช้แบบนั้นแบบนี้ วงการสารหล่อลื่นเขาพัฒนาตลอด ดูที่เม้นมาทั้งหมดฟังมาทั้งนั้น 555 มีอะไรที่มีเหตุผลบ้าง ข้ออ้างตามความคิดแคบๆตัวเองทั้งนั้น 555
กะลาคุณนะสิ คนอะไรความคิดแคบๆ รู้ว่าพัฒนา แต่อย่ามาโฆษณาของที่ขายอยู่ เห็นโฆษณาตลอด หลายความเห็นเค้าก็พูดอยู่ว่าฟลิ์มน้ำมันเครื่องบางไปแม้จะเติมอะไรมาปกป้อง มันก็ป้องกันการสึกหรอของเครื่องไม่ได้ฟิล์มเบอร์หนา อีกอย่าโฆษณาสินค้าที่ตัวเองบ่อยขนาดนี้ช่วยไปซื้อโฆษณากับเว็ปด้วย อย่ามาเนียนโฆษณาทุกโพสต์
กะลาบนกระโหลก เปิดกว้างๆบ้าง จะได้ตามโลกทัน โลกไม่ได้หยุดหมุน เหมือนกะลาบนหัว 5555
555 ขัดกะลาบนหัวให้บางๆ จะได้เปิดรับข้อมูลใหม่ๆ
กะลาบนหัวแกหรอ อย่าลืมจ่าค่าโฆษณาให้เว็ปด้วยนะอย่าหน้าด้านลงฟรีแบบนี้
-
[quoteauthor=Sinplug link=topic=79784.msg1398126#msg1398126 date=1623030027]
ขึ้นอยู่กับว่าเครื่องวิ่งไปเท่าไร เปลี่ยนเบอร์ที่ หนึดกว่าเดิม 16->20 ตัวเลขอาจจะแค่ 4 แต่คิดเป็น Percent ก็ประมาณ 20% ที่เพิ่มขึ้นมา
ถ้าไม่ค่อยได้วิ่ง ก็ใช้ 20w ก็ได้ แต่อาจจะกินน้ำมันมากกว่าเดิม แต่ถ้าเป็นผม วิ่งไม่เกิน 120k แล้วไม่ได้รอบจัดมาก ลาก 3,500-4,000 รอบประจำ ผมก็ยังใช้ 16 อยู่นะ ถ้าวิ่งเกินแล้วรอบจัดประจำ ก็ไปที่ 20 ได้เลย
ที่รถบางยี่ห้อใช้ 0w16 เพราะเค้าอ้างอิงเมืองนอกครับ อากาศเค้าเย็นกว่าบ้านเรา ของบ้านเรา 5w30 นี่เหมาะแล้ว อีกอย่างไม่เห็นเปลืองน้ำมันอะไรเลย ที่เค้ายัดเบอร์ 16 นี่เพราะรถจะได้พังเร็วๆจะได้เปลี่ยนรถเร็วๆหรือขายอะไหล่ได้
เบอร์ 0W16 นั้นมาจากโรงงานในเมืองไทยครับไม่ได้มาจากเมืองนอก แต่ผมว่าจาก 16->30 นี้เยอะไป
ส่วนตัวเทคโนโลยี ถ้าทางผู้ผลิตเค้าบอกว่าเป็น 0w16 ได้ผมก็จะตามนั้นก่อน เพราะว่ากว่าเค้าจะตกลงเอาเบอร์นี้มาใส่เป็นน้ำมันเครื่องประจำรุ่น ต้องเข้า Lab อะไรอีกมากมาย กว่าจะได้เบอร์ที่เหมาะสม ถ้า 0w16 -> ไปใส่ 30 นี้ผมว่าเครื่องพังเร็วกว่าครับ แทนที่จะกดแล้วเร่งไป กลับว่าน้ำมันเครื่องหนิดแล้วทำให้มีการเสียดสีมากกว่าที่ควรจะเป็น
เบอร์ 0w16 นี้มาจากสเปคเมืองหนาวครับ ทางค่ายเหล่านี้ที่เอามาใช้เพราะต้นถูกมันถูก ช่วยให้ลื่นประหยัดน้ำมันปล่อยมลภาสวะน้อยแต่มันไม่ได้ปกป้องเครื่องยนต์ได้ดีนัก ส่วนที่ทดสอบในแลปคือทดสอบโดยที่อยู่ในห้องแอร์มีการควบคุมตัวแปรต่างๆ ไม่มีสภาวะอากาศและความชื้นแปรปรวนแบบสภาวะอากาศจริงในประเทศไทย เหมือนกันกับทดสอบมลพิษและอัตราสิ้นเปลืองของค่ายรถที่ได้อัตราสิ้นเปลืองโอเวอร์แต่เอาเข้าจริงแย่กว่าเดิมตั้งเยอะ เคยมีถอดฝาเครื่องออกมาแล้วสึกหรอเร็วกว่า 05w30หรือ 10w40 ก็เหมือนกับกรณีเดียวกันที่ไม่มีออยเกียร์แยกในรถหลายๆรุ่นแล้วเกิดเกียร์ฮีทเข้าเซฟโหมดแหละครับ บางคันวิ่งไม่ได้ซิ่งอะไรเกียร์ร้อนจี๋แล้วเพราะน้ำในคูลแลนท์มันไม่ช่วยอะไร แค่เอาไปอุ่นเกียร์แค่นั้นครับ ส่วนน้ำมันเกียร์หนามันไม่ได้ทำให้เครื่องสึกหรอพังเร็วแต่แค่ทำให้อาจจะอืดขึ้น ถ้าเติม เบอร์ 10w40 ส่วน 5w30 ที่เติมใส่ในมาร์ชที่ระยะ 5000 กม. นั้นไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรแถมยังเครื่องเดินนิ่ง อัตราเร่งดีเหยียบเป็นมา แถมประหยัดน้ำมันกว่า 0w20 เสียอีก
เคยขับSwif1.2 ปี2012 นมค เบอร์หลังw20 ใช้ได้ครับ
ที่ศูนย์บริการรถทั่วไป B QUIK, COCK PIT , FIT
หรือสั่งon line เปลี่ยนอู่ไกล้บ้านครับ
เบอร์หลังw30, w40 ปกป้องเครื่องยนต์ดีกว่า ฟลิ์มน้ำมันแกร่งกว่าครับ
ใช่ครับ คนที่ใช้รถแค่เข้าศูนย์ ไม่ได้ศึกษาเรื่องรถอะไร ไม่ค่อยเข้าใจตรงนี้หรอกครับ บางครั้งโดนฟันน้ำยาต่างๆจนหัวแบะ
เบอร์มัลติเกรด 0W-16 มีใช้แพร่หลาย ครับโดยเฉพาะโซนหนาวเย็น
คู่มือรถไม่ได้ระบุเบอร์น้ำมันเครื่องมัลติเกรดแค่เบอร์เดียวหรอกครับ ดูว่า เบอร์หนาสุด อยู่ที่เบอร์อะไรที่ใช้ได้ครับ
เบอร์บาง เช่น xW-16 หรือ xW-20 ต้องใช้ additive พวก Friction modifier ช่วยไม่ให้น้ำมันที่บางอยู่แล้ว บางลงไปอีก มันจะเกิดการสึกหรอ แบบ metal contact metal เพราะฟิล์มน้ำมันที่เคลือบโลหะหนาไม่เพียงพอ จึงเกิดแรงเสียดทานขึ้น
น้ำมันเครื่องเบอร์หนาขึ้นให้การปกป้องที่ดีกว่าครับ :) :)
ใช่ครับเบอร์บางไปมันปกป้องต่ำกว่ามาก ถ้าอยากซ่อมเครื่องเร็วก็ต้องเลือกตัวบางครับ
น่าจะสับสน น่าจะไม่เคยเห็นเครื่องยนต์ รุ่นต่างๆที่วางในแลปเทส น่าจะไม่เคยสัมผัส Test Carร ///Test car ก็ใช้เบอร์น้ำมันเครื่องที่โรงงานกำหนดวิ่งทดสอบหนักๆมาทั่วไทยหรือครึ่งโลกก็เยอะ ก่อนออกจำหน่าย วงการสารหล่อลื่นก็พัฒนาไปพร้อมๆและควบคู่กับวงการยายนต์นั่นละ พูดอย่างกับสารหล่อลื่นตามหลังวงการรถยนต์เป็นสิบปีอะไรขนาดนั่น ไหนจะมาตรฐาน API ที่มี ILSAC GF ควบคุมอีกทีสำหรับน้ำมันเครื่องเบอร์ 30 ลงมา
สับสนบ้าบออะไรอย่ามาอวดรู้ เห็นที่คนที่ใช้งานจริงใช้น้ำมันสังเคราะหฺ์สูตรบางๆแบบนี้หลวมเร็วมากหลายคันแล้ว อย่ามาอ้างเรื่องเทสบ้าบออะไร เห็นเทสดีรหนักหนาแต่ใช้งานจริงไม่ได้ดั่งเทส ทดสอบทั้งหลาย เห็นพูดถึงยี่ห้อนี้บ่อยจริง ซันออย ทุกระทู้เลย
กะลาบนหัวแข็งจริง คนประเภทนี้ อ้างใช้แบบนั้นแบบนี้ วงการสารหล่อลื่นเขาพัฒนาตลอด ดูที่เม้นมาทั้งหมดฟังมาทั้งนั้น 555 มีอะไรที่มีเหตุผลบ้าง ข้ออ้างตามความคิดแคบๆตัวเองทั้งนั้น 555
กะลาคุณนะสิ คนอะไรความคิดแคบๆ รู้ว่าพัฒนา แต่อย่ามาโฆษณาของที่ขายอยู่ เห็นโฆษณาตลอด หลายความเห็นเค้าก็พูดอยู่ว่าฟลิ์มน้ำมันเครื่องบางไปแม้จะเติมอะไรมาปกป้อง มันก็ป้องกันการสึกหรอของเครื่องไม่ได้ฟิล์มเบอร์หนา อีกอย่าโฆษณาสินค้าที่ตัวเองบ่อยขนาดนี้ช่วยไปซื้อโฆษณากับเว็ปด้วย อย่ามาเนียนโฆษณาทุกโพสต์
กะลาบนกระโหลก เปิดกว้างๆบ้าง จะได้ตามโลกทัน โลกไม่ได้หยุดหมุน เหมือนกะลาบนหัว 5555
555 ขัดกะลาบนหัวให้บางๆ จะได้เปิดรับข้อมูลใหม่ๆ
กะลาบนหัวแกหรอ อย่าลืมจ่าค่าโฆษณาให้เว็ปด้วยนะอย่าหน้าด้านลงฟรีแบบนี้
555 หรืออายุเยอะจนต้องเรียกว่า แก่กระโหลก กะลา หาสาระไม่ได้ไปวันๆ ได้แต่ฟังเขามา 555
-
[quoteauthor=Sinplug link=topic=79784.msg1398126#msg1398126 date=1623030027]
ขึ้นอยู่กับว่าเครื่องวิ่งไปเท่าไร เปลี่ยนเบอร์ที่ หนึดกว่าเดิม 16->20 ตัวเลขอาจจะแค่ 4 แต่คิดเป็น Percent ก็ประมาณ 20% ที่เพิ่มขึ้นมา
ถ้าไม่ค่อยได้วิ่ง ก็ใช้ 20w ก็ได้ แต่อาจจะกินน้ำมันมากกว่าเดิม แต่ถ้าเป็นผม วิ่งไม่เกิน 120k แล้วไม่ได้รอบจัดมาก ลาก 3,500-4,000 รอบประจำ ผมก็ยังใช้ 16 อยู่นะ ถ้าวิ่งเกินแล้วรอบจัดประจำ ก็ไปที่ 20 ได้เลย
ที่รถบางยี่ห้อใช้ 0w16 เพราะเค้าอ้างอิงเมืองนอกครับ อากาศเค้าเย็นกว่าบ้านเรา ของบ้านเรา 5w30 นี่เหมาะแล้ว อีกอย่างไม่เห็นเปลืองน้ำมันอะไรเลย ที่เค้ายัดเบอร์ 16 นี่เพราะรถจะได้พังเร็วๆจะได้เปลี่ยนรถเร็วๆหรือขายอะไหล่ได้
เบอร์ 0W16 นั้นมาจากโรงงานในเมืองไทยครับไม่ได้มาจากเมืองนอก แต่ผมว่าจาก 16->30 นี้เยอะไป
ส่วนตัวเทคโนโลยี ถ้าทางผู้ผลิตเค้าบอกว่าเป็น 0w16 ได้ผมก็จะตามนั้นก่อน เพราะว่ากว่าเค้าจะตกลงเอาเบอร์นี้มาใส่เป็นน้ำมันเครื่องประจำรุ่น ต้องเข้า Lab อะไรอีกมากมาย กว่าจะได้เบอร์ที่เหมาะสม ถ้า 0w16 -> ไปใส่ 30 นี้ผมว่าเครื่องพังเร็วกว่าครับ แทนที่จะกดแล้วเร่งไป กลับว่าน้ำมันเครื่องหนิดแล้วทำให้มีการเสียดสีมากกว่าที่ควรจะเป็น
เบอร์ 0w16 นี้มาจากสเปคเมืองหนาวครับ ทางค่ายเหล่านี้ที่เอามาใช้เพราะต้นถูกมันถูก ช่วยให้ลื่นประหยัดน้ำมันปล่อยมลภาสวะน้อยแต่มันไม่ได้ปกป้องเครื่องยนต์ได้ดีนัก ส่วนที่ทดสอบในแลปคือทดสอบโดยที่อยู่ในห้องแอร์มีการควบคุมตัวแปรต่างๆ ไม่มีสภาวะอากาศและความชื้นแปรปรวนแบบสภาวะอากาศจริงในประเทศไทย เหมือนกันกับทดสอบมลพิษและอัตราสิ้นเปลืองของค่ายรถที่ได้อัตราสิ้นเปลืองโอเวอร์แต่เอาเข้าจริงแย่กว่าเดิมตั้งเยอะ เคยมีถอดฝาเครื่องออกมาแล้วสึกหรอเร็วกว่า 05w30หรือ 10w40 ก็เหมือนกับกรณีเดียวกันที่ไม่มีออยเกียร์แยกในรถหลายๆรุ่นแล้วเกิดเกียร์ฮีทเข้าเซฟโหมดแหละครับ บางคันวิ่งไม่ได้ซิ่งอะไรเกียร์ร้อนจี๋แล้วเพราะน้ำในคูลแลนท์มันไม่ช่วยอะไร แค่เอาไปอุ่นเกียร์แค่นั้นครับ ส่วนน้ำมันเกียร์หนามันไม่ได้ทำให้เครื่องสึกหรอพังเร็วแต่แค่ทำให้อาจจะอืดขึ้น ถ้าเติม เบอร์ 10w40 ส่วน 5w30 ที่เติมใส่ในมาร์ชที่ระยะ 5000 กม. นั้นไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรแถมยังเครื่องเดินนิ่ง อัตราเร่งดีเหยียบเป็นมา แถมประหยัดน้ำมันกว่า 0w20 เสียอีก
เคยขับSwif1.2 ปี2012 นมค เบอร์หลังw20 ใช้ได้ครับ
ที่ศูนย์บริการรถทั่วไป B QUIK, COCK PIT , FIT
หรือสั่งon line เปลี่ยนอู่ไกล้บ้านครับ
เบอร์หลังw30, w40 ปกป้องเครื่องยนต์ดีกว่า ฟลิ์มน้ำมันแกร่งกว่าครับ
ใช่ครับ คนที่ใช้รถแค่เข้าศูนย์ ไม่ได้ศึกษาเรื่องรถอะไร ไม่ค่อยเข้าใจตรงนี้หรอกครับ บางครั้งโดนฟันน้ำยาต่างๆจนหัวแบะ
เบอร์มัลติเกรด 0W-16 มีใช้แพร่หลาย ครับโดยเฉพาะโซนหนาวเย็น
คู่มือรถไม่ได้ระบุเบอร์น้ำมันเครื่องมัลติเกรดแค่เบอร์เดียวหรอกครับ ดูว่า เบอร์หนาสุด อยู่ที่เบอร์อะไรที่ใช้ได้ครับ
เบอร์บาง เช่น xW-16 หรือ xW-20 ต้องใช้ additive พวก Friction modifier ช่วยไม่ให้น้ำมันที่บางอยู่แล้ว บางลงไปอีก มันจะเกิดการสึกหรอ แบบ metal contact metal เพราะฟิล์มน้ำมันที่เคลือบโลหะหนาไม่เพียงพอ จึงเกิดแรงเสียดทานขึ้น
น้ำมันเครื่องเบอร์หนาขึ้นให้การปกป้องที่ดีกว่าครับ :) :)
ใช่ครับเบอร์บางไปมันปกป้องต่ำกว่ามาก ถ้าอยากซ่อมเครื่องเร็วก็ต้องเลือกตัวบางครับ
น่าจะสับสน น่าจะไม่เคยเห็นเครื่องยนต์ รุ่นต่างๆที่วางในแลปเทส น่าจะไม่เคยสัมผัส Test Carร ///Test car ก็ใช้เบอร์น้ำมันเครื่องที่โรงงานกำหนดวิ่งทดสอบหนักๆมาทั่วไทยหรือครึ่งโลกก็เยอะ ก่อนออกจำหน่าย วงการสารหล่อลื่นก็พัฒนาไปพร้อมๆและควบคู่กับวงการยายนต์นั่นละ พูดอย่างกับสารหล่อลื่นตามหลังวงการรถยนต์เป็นสิบปีอะไรขนาดนั่น ไหนจะมาตรฐาน API ที่มี ILSAC GF ควบคุมอีกทีสำหรับน้ำมันเครื่องเบอร์ 30 ลงมา
สับสนบ้าบออะไรอย่ามาอวดรู้ เห็นที่คนที่ใช้งานจริงใช้น้ำมันสังเคราะหฺ์สูตรบางๆแบบนี้หลวมเร็วมากหลายคันแล้ว อย่ามาอ้างเรื่องเทสบ้าบออะไร เห็นเทสดีรหนักหนาแต่ใช้งานจริงไม่ได้ดั่งเทส ทดสอบทั้งหลาย เห็นพูดถึงยี่ห้อนี้บ่อยจริง ซันออย ทุกระทู้เลย
กะลาบนหัวแข็งจริง คนประเภทนี้ อ้างใช้แบบนั้นแบบนี้ วงการสารหล่อลื่นเขาพัฒนาตลอด ดูที่เม้นมาทั้งหมดฟังมาทั้งนั้น 555 มีอะไรที่มีเหตุผลบ้าง ข้ออ้างตามความคิดแคบๆตัวเองทั้งนั้น 555
กะลาคุณนะสิ คนอะไรความคิดแคบๆ รู้ว่าพัฒนา แต่อย่ามาโฆษณาของที่ขายอยู่ เห็นโฆษณาตลอด หลายความเห็นเค้าก็พูดอยู่ว่าฟลิ์มน้ำมันเครื่องบางไปแม้จะเติมอะไรมาปกป้อง มันก็ป้องกันการสึกหรอของเครื่องไม่ได้ฟิล์มเบอร์หนา อีกอย่าโฆษณาสินค้าที่ตัวเองบ่อยขนาดนี้ช่วยไปซื้อโฆษณากับเว็ปด้วย อย่ามาเนียนโฆษณาทุกโพสต์
กะลาบนกระโหลก เปิดกว้างๆบ้าง จะได้ตามโลกทัน โลกไม่ได้หยุดหมุน เหมือนกะลาบนหัว 5555
555 ขัดกะลาบนหัวให้บางๆ จะได้เปิดรับข้อมูลใหม่ๆ
กะลาบนหัวแกหรอ อย่าลืมจ่าค่าโฆษณาให้เว็ปด้วยนะอย่าหน้าด้านลงฟรีแบบนี้
555 หรืออายุเยอะจนต้องเรียกว่า แก่กระโหลก กะลา หาสาระไม่ได้ไปวันๆ ได้แต่ฟังเขามา 555
บอกตัวเองหรอ ว่าแก่กะโหลกกะลา และอย่าลืมไปจ่ายค่าโฆษณาให้เว็ปด้วยนะอย่าหน้าอึดหน้าทนยิ่งกว่าคอนกรีตทำถนนนะ
-
[quoteauthor=Sinplug link=topic=79784.msg1398126#msg1398126 date=1623030027]
ขึ้นอยู่กับว่าเครื่องวิ่งไปเท่าไร เปลี่ยนเบอร์ที่ หนึดกว่าเดิม 16->20 ตัวเลขอาจจะแค่ 4 แต่คิดเป็น Percent ก็ประมาณ 20% ที่เพิ่มขึ้นมา
ถ้าไม่ค่อยได้วิ่ง ก็ใช้ 20w ก็ได้ แต่อาจจะกินน้ำมันมากกว่าเดิม แต่ถ้าเป็นผม วิ่งไม่เกิน 120k แล้วไม่ได้รอบจัดมาก ลาก 3,500-4,000 รอบประจำ ผมก็ยังใช้ 16 อยู่นะ ถ้าวิ่งเกินแล้วรอบจัดประจำ ก็ไปที่ 20 ได้เลย
ที่รถบางยี่ห้อใช้ 0w16 เพราะเค้าอ้างอิงเมืองนอกครับ อากาศเค้าเย็นกว่าบ้านเรา ของบ้านเรา 5w30 นี่เหมาะแล้ว อีกอย่างไม่เห็นเปลืองน้ำมันอะไรเลย ที่เค้ายัดเบอร์ 16 นี่เพราะรถจะได้พังเร็วๆจะได้เปลี่ยนรถเร็วๆหรือขายอะไหล่ได้
เบอร์ 0W16 นั้นมาจากโรงงานในเมืองไทยครับไม่ได้มาจากเมืองนอก แต่ผมว่าจาก 16->30 นี้เยอะไป
ส่วนตัวเทคโนโลยี ถ้าทางผู้ผลิตเค้าบอกว่าเป็น 0w16 ได้ผมก็จะตามนั้นก่อน เพราะว่ากว่าเค้าจะตกลงเอาเบอร์นี้มาใส่เป็นน้ำมันเครื่องประจำรุ่น ต้องเข้า Lab อะไรอีกมากมาย กว่าจะได้เบอร์ที่เหมาะสม ถ้า 0w16 -> ไปใส่ 30 นี้ผมว่าเครื่องพังเร็วกว่าครับ แทนที่จะกดแล้วเร่งไป กลับว่าน้ำมันเครื่องหนิดแล้วทำให้มีการเสียดสีมากกว่าที่ควรจะเป็น
เบอร์ 0w16 นี้มาจากสเปคเมืองหนาวครับ ทางค่ายเหล่านี้ที่เอามาใช้เพราะต้นถูกมันถูก ช่วยให้ลื่นประหยัดน้ำมันปล่อยมลภาสวะน้อยแต่มันไม่ได้ปกป้องเครื่องยนต์ได้ดีนัก ส่วนที่ทดสอบในแลปคือทดสอบโดยที่อยู่ในห้องแอร์มีการควบคุมตัวแปรต่างๆ ไม่มีสภาวะอากาศและความชื้นแปรปรวนแบบสภาวะอากาศจริงในประเทศไทย เหมือนกันกับทดสอบมลพิษและอัตราสิ้นเปลืองของค่ายรถที่ได้อัตราสิ้นเปลืองโอเวอร์แต่เอาเข้าจริงแย่กว่าเดิมตั้งเยอะ เคยมีถอดฝาเครื่องออกมาแล้วสึกหรอเร็วกว่า 05w30หรือ 10w40 ก็เหมือนกับกรณีเดียวกันที่ไม่มีออยเกียร์แยกในรถหลายๆรุ่นแล้วเกิดเกียร์ฮีทเข้าเซฟโหมดแหละครับ บางคันวิ่งไม่ได้ซิ่งอะไรเกียร์ร้อนจี๋แล้วเพราะน้ำในคูลแลนท์มันไม่ช่วยอะไร แค่เอาไปอุ่นเกียร์แค่นั้นครับ ส่วนน้ำมันเกียร์หนามันไม่ได้ทำให้เครื่องสึกหรอพังเร็วแต่แค่ทำให้อาจจะอืดขึ้น ถ้าเติม เบอร์ 10w40 ส่วน 5w30 ที่เติมใส่ในมาร์ชที่ระยะ 5000 กม. นั้นไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรแถมยังเครื่องเดินนิ่ง อัตราเร่งดีเหยียบเป็นมา แถมประหยัดน้ำมันกว่า 0w20 เสียอีก
เคยขับSwif1.2 ปี2012 นมค เบอร์หลังw20 ใช้ได้ครับ
ที่ศูนย์บริการรถทั่วไป B QUIK, COCK PIT , FIT
หรือสั่งon line เปลี่ยนอู่ไกล้บ้านครับ
เบอร์หลังw30, w40 ปกป้องเครื่องยนต์ดีกว่า ฟลิ์มน้ำมันแกร่งกว่าครับ
ใช่ครับ คนที่ใช้รถแค่เข้าศูนย์ ไม่ได้ศึกษาเรื่องรถอะไร ไม่ค่อยเข้าใจตรงนี้หรอกครับ บางครั้งโดนฟันน้ำยาต่างๆจนหัวแบะ
เบอร์มัลติเกรด 0W-16 มีใช้แพร่หลาย ครับโดยเฉพาะโซนหนาวเย็น
คู่มือรถไม่ได้ระบุเบอร์น้ำมันเครื่องมัลติเกรดแค่เบอร์เดียวหรอกครับ ดูว่า เบอร์หนาสุด อยู่ที่เบอร์อะไรที่ใช้ได้ครับ
เบอร์บาง เช่น xW-16 หรือ xW-20 ต้องใช้ additive พวก Friction modifier ช่วยไม่ให้น้ำมันที่บางอยู่แล้ว บางลงไปอีก มันจะเกิดการสึกหรอ แบบ metal contact metal เพราะฟิล์มน้ำมันที่เคลือบโลหะหนาไม่เพียงพอ จึงเกิดแรงเสียดทานขึ้น
น้ำมันเครื่องเบอร์หนาขึ้นให้การปกป้องที่ดีกว่าครับ :) :)
ใช่ครับเบอร์บางไปมันปกป้องต่ำกว่ามาก ถ้าอยากซ่อมเครื่องเร็วก็ต้องเลือกตัวบางครับ
น่าจะสับสน น่าจะไม่เคยเห็นเครื่องยนต์ รุ่นต่างๆที่วางในแลปเทส น่าจะไม่เคยสัมผัส Test Carร ///Test car ก็ใช้เบอร์น้ำมันเครื่องที่โรงงานกำหนดวิ่งทดสอบหนักๆมาทั่วไทยหรือครึ่งโลกก็เยอะ ก่อนออกจำหน่าย วงการสารหล่อลื่นก็พัฒนาไปพร้อมๆและควบคู่กับวงการยายนต์นั่นละ พูดอย่างกับสารหล่อลื่นตามหลังวงการรถยนต์เป็นสิบปีอะไรขนาดนั่น ไหนจะมาตรฐาน API ที่มี ILSAC GF ควบคุมอีกทีสำหรับน้ำมันเครื่องเบอร์ 30 ลงมา
สับสนบ้าบออะไรอย่ามาอวดรู้ เห็นที่คนที่ใช้งานจริงใช้น้ำมันสังเคราะหฺ์สูตรบางๆแบบนี้หลวมเร็วมากหลายคันแล้ว อย่ามาอ้างเรื่องเทสบ้าบออะไร เห็นเทสดีรหนักหนาแต่ใช้งานจริงไม่ได้ดั่งเทส ทดสอบทั้งหลาย เห็นพูดถึงยี่ห้อนี้บ่อยจริง ซันออย ทุกระทู้เลย
กะลาบนหัวแข็งจริง คนประเภทนี้ อ้างใช้แบบนั้นแบบนี้ วงการสารหล่อลื่นเขาพัฒนาตลอด ดูที่เม้นมาทั้งหมดฟังมาทั้งนั้น 555 มีอะไรที่มีเหตุผลบ้าง ข้ออ้างตามความคิดแคบๆตัวเองทั้งนั้น 555
กะลาคุณนะสิ คนอะไรความคิดแคบๆ รู้ว่าพัฒนา แต่อย่ามาโฆษณาของที่ขายอยู่ เห็นโฆษณาตลอด หลายความเห็นเค้าก็พูดอยู่ว่าฟลิ์มน้ำมันเครื่องบางไปแม้จะเติมอะไรมาปกป้อง มันก็ป้องกันการสึกหรอของเครื่องไม่ได้ฟิล์มเบอร์หนา อีกอย่าโฆษณาสินค้าที่ตัวเองบ่อยขนาดนี้ช่วยไปซื้อโฆษณากับเว็ปด้วย อย่ามาเนียนโฆษณาทุกโพสต์
กะลาบนกระโหลก เปิดกว้างๆบ้าง จะได้ตามโลกทัน โลกไม่ได้หยุดหมุน เหมือนกะลาบนหัว 5555
555 ขัดกะลาบนหัวให้บางๆ จะได้เปิดรับข้อมูลใหม่ๆ
กะลาบนหัวแกหรอ อย่าลืมจ่าค่าโฆษณาให้เว็ปด้วยนะอย่าหน้าด้านลงฟรีแบบนี้
555 หรืออายุเยอะจนต้องเรียกว่า แก่กระโหลก กะลา หาสาระไม่ได้ไปวันๆ ได้แต่ฟังเขามา 555
บอกตัวเองหรอ ว่าแก่กะโหลกกะลา และอย่าลืมไปจ่ายค่าโฆษณาให้เว็ปด้วยนะอย่าหน้าอึดหน้าทนยิ่งกว่าคอนกรีตทำถนนนะ
โรคจิตแน่ PM มาด่าคนอื่น แล้วบล๊อค PM ซะงั้น กระจอกแท้ (https://sv1.picz.in.th/images/2021/09/07/CgzbRb.png)