Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: PattaponP ที่ มิถุนายน 07, 2021, 12:35:35
-
สวัสดีครับ ขอสอบถามความคิดเห็นคนที่มีประสบการณ์ครับ
รถผมเป็น Toyota Fortuner เครื่อง GD 2.8 ปี 2016
หลังจากที่ผมเอารถไป รีแมพมา ที่ Vichai ECU ขับได้ 2 อาทิตย์ขับสนุกขึ้นมากครับติดใจ 5555
ตอนนี้เริ่มคันจะเพิ่มสเตปเครื่องยนตร์รถครับ
ปัจจุบัน เทอร์โบเริ่มมีเสียงหอนเบาๆไม่รู้ก่อนหรือหลังจูน ปกติเปิดเพลงดัง 5555 เลยจะทำเทอร์โบใหม่
ตอนนี้ลังเลอยู่ระหว่างไป
1. อัพเกรดไส้เปลี่ยนครีบแปรผันทำเป็นเทอร์โบหมก ของ Worldtech Engineering?
หรือ
2. ทำเป็นเทอร์โบคู่ของน้าจิตรไทยจิตรเจริญดิเซลดีครับผมไปดูรถของน้ามา ไม่มีตัดแต่งอะไรเลยเป็นชุด Kit ผมเลยสนใจ ?
ผมคิดว่าอันแรกจะไม่แรงเท่าอันที่สองแน่ๆ แต่รถผมเกียร์ออโต้ อยากได้สัก 230-250 ม้า ทอร์คซัก 500 นิดหน่อย
ทำมากก็หนักเกียร์ แต่ถ้าพังก็เปลี่ยนได้ครับ
ไม่คิดว่าจะต้องทำจนเว่อร์เพราะสเตปมันไม่สูง ปัจจุบันรถผมจูนมา 190 ม้า ทอร์ค 400 ครับ
มีใครเคยอัพสเตปแบบไหนช่างที่ไหนกันบ้างครับรบกวนชี้แนะบอกต่อหน่อยครับผมจะหาข้อมูลต่อ
เน้นแต่งแบบผู้ใหญ่ ลงชุด Kit ไม่ตัดรถ ควันไม่ท่วม ครับผม
ขอบคุณครับบบบบบ
*ขออภัยครับรับพิมพ์ บูสหมายถึงทอร์คครับ ปัจจุบันรถผมวิ่ง 140,000 ปกติเข้าศูนย์ตลอดตามเวลา
ตอนนี้อยากเสริมกล้ามเนื้อครับบบ
-
สวัสดีครับ ขอสอบถามความคิดเห็นคนที่มีประสบการณ์ครับ
รถผมเป็น Toyota Fortuner เครื่อง GD 2.8 ปี 2016
หลังจากที่ผมเอารถไป รีแมพมา ขับได้ 2 อาทิตย์ขับสนุกขึ้นมากครับติดใจ 5555
ตอนนี้เริ่มคันจะเพิ่มสเตปเครื่องยนตร์รถครับ
ปัจจุบัน เทอร์โบเริ่มมีเสียงหอน เลยจะทำเทอร์โบใหม่
ตอนนี้ลังเลอยู่ระหว่างไป
1. อัพเกรดไส้เปลี่ยนครีบแปรผันทำเป็นเทอร์โบหมก ของ Worldtech Engineering?
หรือ
2. ทำเป็นเทอร์โบคู่ของน้าจิตรไทยจิตรเจริญดิเซลดีครับผมไปดูรถของน้ามา ไม่มีตัดแต่งอะไรเลยเป็นชุด Kit ผมเลยสนใจ ?
ผมคิดว่าอันแรกจะไม่แรงเท่าอันที่สองแน่ๆ แต่รถผมเกียร์ออโต้ อยากได้สัก 230-250 ม้า บูสซัก 500 นิดหน่อย
ทำมากก็หนักเกียร์ แต่ถ้าพังก็เปลี่ยนได้ครับ
ไม่คิดว่าจะต้องทำจนเว่อร์เพราะสเตปมันไม่สูง ปัจจุบันรถผมจูนมา 190 ม้า บูส 400 ครับ
มีใครเคยอัพสเตปแบบไหนช่างที่ไหนกันบ้างครับรบกวนชี้แนะบอกต่อหน่อยครับผมจะหาข้อมูลต่อ
เน้นแต่งแบบผู้ใหญ่ ลงชุด Kit ไม่ตัดรถ ควันไม่ท่วม ครับผม
ขอบคุณครับบบบบบ
เอาทีละเรื่องนะครับที่บอกว่า remap มา2อาทิต ตอนนี้ที่Turbo เริ่มหอน เป็นมาก่อนหรือหลังremap? ถ้าหลัง อันนี้คนจูนน่าจะทำมาเยอะ แต่ก็ไม่น่าจะพังเร็วขนาดนี้. ถ้าเป็นมาก่อนแล้ว รถไมล์เท่าไหร่? ถ้าไม่ถึงแสนแล้วTurboหอน ผมว่าคุณดูแลรถไม่ถึงนะ เพราะที่ผ่านมาคือรถเดิมๆใช้มั่ย?
Boost คือแรงดันของTurbo ครับ ไม่ใช้แรง Torque ที่เครื่องผลิต ที่คุณพูดถึงคือแรงบิด (Torque) จะ 400-500 NM. ก็แล้วแต่
ทำความเข้าใจbasic ของเครื่องก่อนจะไปจูนนะครับ จะได้คุณกับคนจูนถูก และไม่โดนหลอก. ส่วนตัว Tuner ที่ราคาหลักพันต้น ไม่ต้องไปทำนะครับ พวกนี้โยนfile เอาที่มีชื่อหน่อย และที่สำคัญเอา Tuner ที่ทำรถเก๋ง หรือรถบ้าน อย่าไปเอาพวกที่ดังในหมู่กระบะควันดำ เพราะTuner แบบแรกจะจูนแรงได้โดยไม่เอาควันดำ ย่ำว่าไม่เอาควันดำเลย เพราะเค้ารู้ว่าควันดำ ไม่ได้แรงขึ้น และต่อให้ลูกค้าไม่สนใจ ขอดำๆตามกระแส Tuner พวกนี้ก็ไม่ทำให้ครับ. เรื่อง Turbo ผมว่าไปที่ Worldtech ดีกว่า เค้าน่าจะอัพทั้งใบ และใส่ใหม่ให้คุณเลย ผมเคยดู fb และ clip ของร้านนี้ ความรู้หลักการครับ ไม่มั่ว.
ปล. ผมเองมี Fortuner BMC 2010 ที่มีกล่องดันรางจากอู่แถวพัฒนาการ ตอนนั้นยังไม่สามาร remap ได้ เลยใส่แต่กล่อง ทุกวันนี้ใช้งานปรกติดี.
-
บูสต์ 400 น่าจะพวกเอาใบเจ็ตมาปั่น ::) ::) ::) ::) ม้าน่าจะ 3,000 ตัว
แซวๆนะครับ
เอาเป็นว่าผมไปโบหมกครับ รอบดีเซลมันไม่เยอะครับแค่โบแปรผัน สเตปถนนก็สุดแล้วครับ เอาซัก 250 ม้าที่เครื่องพอ ไม่งั้นเกียร์ก็ลากลับโลกเก่า
พวกโบคู่นี่ไม่อยากรอรอบแถมบูสหนัก เอาไว้ลงสนาม โบคู่ ถ้าไม่คิดจะเอา600 ม้า อย่างเพิ่งไปทำ
เน้นนะครับถ้าเปลี่ยนโบมาต้องดูแลมันให้ดีกว่าเดิมเยอะ ก้านกับข้อ 2.8 ไม่ทนเท่าไหร่
-
ของผม 2.4 ปี 2015
เอาสเตปที่ผมทำเลยนะ
- ปี 16 Remap+กรอง กับสำนักดัง ขับแล้วสนุกมาก 2.4 ผม ไล่ 2.8 ได้สบาย
- ปี 17 อัพไปโบใหญ่ หัวฉีด อินเตอร์ จูนบนไดโน ต้นเหี่ยว กินน้ำมันมาก
สมัยนั้น (ปี17) ของ 2.4 ผมหาไม่ค่อยได้ ไม่ค่อยทำกัน แต่เสี้ยน ผลเลยจบไม่สวย
ที่แย่คือควันดำปี๋ ตอนคิ๊กดาวน์นี่เห็นควันเต็มหลังรถ
สุดท้ายขายทิ้งให้เพื่อนในกลุ่มที่เป็น 2.8 ไปครึ่งราคา
- ปี18 กลับไปใส่หัวฉีดเดิมโรงงาน ทำเดิมๆเหมือนเดิมจากโรงงานทั้งหมด (อู่โตต้า)
สายไฟ ปลั๊ก แม้กระทั่งท่ออินเตอร์ เบิกทุกอย่างที่เบิกได้ ยกเว้นโบ
แค่ใส่กล่อง Ultraboost ม้า 160 ตัว บ้านๆ ไม่แรงแต่ขับสบาย ก็ประมาณ 2.8 เดิมๆ
- ปี20 ใส่ท่อเพิ่มอีกใบ แล้วเอาไปจูนใหม่แปลกใจว่าได้ม้า 5-6 ตัว
งบที่หมดไป รวมค่าเสียเวลา น่าจะเกือบ 2 แสน ตลอดเวลา 5 ปีกว่าๆ
มันมีลิมิตในการอัพเกรด มันแรงกว่านี้ได้มาก แต่มันไม่ตอบโจทย์เรา เราอาจจะไม่ชอบ
สำคัญสำหรับผมคือต้องเอารถอยู่ ช่วงล่างต้องถึง ยางต้องเกรดดีไม่ขี้เหนียว
ตอนใส่ยางเดิม เทียบกับ Michelin นี่ต่างกันเยอะ นิ่ง เก็บอาการดี เหมาะกับพลังที่มันเพิ่มขึ้นมา
จานเบรค dba พร้อมผ้า Prospec ผมยังคิดเลยว่าซัก 200 ม้าสำหรับรถประเภทนี้ก็เพียงพอแล้ว
-
ของผม 2.4 ปี 2015
เอาสเตปที่ผมทำเลยนะ
- ปี 16 Remap+กรอง กับสำนักดัง ขับแล้วสนุกมาก 2.4 ผม ไล่ 2.8 ได้สบาย
- ปี 17 อัพไปโบใหญ่ หัวฉีด อินเตอร์ จูนบนไดโน ต้นเหี่ยว กินน้ำมันมาก
สมัยนั้น (ปี17) ของ 2.4 ผมหาไม่ค่อยได้ ไม่ค่อยทำกัน แต่เสี้ยน ผลเลยจบไม่สวย
ที่แย่คือควันดำปี๋ ตอนคิ๊กดาวน์นี่เห็นควันเต็มหลังรถ
สุดท้ายขายทิ้งให้เพื่อนในกลุ่มที่เป็น 2.8 ไปครึ่งราคา
- ปี18 กลับไปใส่หัวฉีดเดิมโรงงาน ทำเดิมๆเหมือนเดิมจากโรงงานทั้งหมด (อู่โตต้า)
สายไฟ ปลั๊ก แม้กระทั่งท่ออินเตอร์ เบิกทุกอย่างที่เบิกได้ ยกเว้นโบ
แค่ใส่กล่อง Ultraboost ม้า 160 ตัว บ้านๆ ไม่แรงแต่ขับสบาย ก็ประมาณ 2.8 เดิมๆ
- ปี20 ใส่ท่อเพิ่มอีกใบ แล้วเอาไปจูนใหม่แปลกใจว่าได้ม้า 5-6 ตัว
งบที่หมดไป รวมค่าเสียเวลา น่าจะเกือบ 2 แสน ตลอดเวลา 5 ปีกว่าๆ
มันมีลิมิตในการอัพเกรด มันแรงกว่านี้ได้มาก แต่มันไม่ตอบโจทย์เรา เราอาจจะไม่ชอบ
สำคัญสำหรับผมคือต้องเอารถอยู่ ช่วงล่างต้องถึง ยางต้องเกรดดีไม่ขี้เหนียว
ตอนใส่ยางเดิม เทียบกับ Michelin นี่ต่างกันเยอะ นิ่ง เก็บอาการดี เหมาะกับพลังที่มันเพิ่มขึ้นมา
จานเบรค dba พร้อมผ้า Prospec ผมยังคิดเลยว่าซัก 200 ม้าสำหรับรถประเภทนี้ก็เพียงพอแล้ว
ใช้ครับ ผมว่าใช้ถนน Step basic remap หรือเพิ่มแค่อัฟใบTurbo แค่นี้ก็พอแล้วครับ ขับง่ายเหมือนเดิม.
-
แบบที่1 เทอร์โบเดิมแปรผัน อัพใบหน้า-หลัง ให้อัพไส้ในเทอร์โบแปรผันใหญ่กว่าเดิม บูสได้มากกว่าเดิม ใส่กรองแต่ง จะไปRemap หรือ ใส่กล่องพ่วงเพิ่ม มีงบหน่อย ใส่ชุดอินเตอร์คูลเลอร์เพิ่ม แค่นี้ ได้แรงม้า แรงบิดจากSTDมากกว่าเดิม ขับสนุก อัตราเร่งสบายๆ แล้ว อย่า!จูนมากเกินลิมิตปั้มกับหัวฉีดเดิมSTD และ แรงม้า+แรงบิดอย่าเกินลิมิตของเกียร์ออโต้ก็พอครับ
แบบที่ 2 เทอร์โบคู่ อันนี้ต้องจัดเต็มหน่อย
อัพไส้เครื่องยนต์ ลูก+ก้าน+ข้อ ใส่ปั้มแต่ง+หัวฉีด ระบบน้ำมัน ปั้มติ๊ก+ถังA+เรกูเรต ชุดอินเตอร์คูลเลอร์
โมเกียร์ออโต้เพิ่มรับแรงม้า และ แรงบิด ครับ
มีแรงม้า แรงบิด มากกว่าเดิม อัพช่วงล่างตามทำไปด้วย โช๊คอัพแต่งยี่ห้อดีๆ ยางยี่ห้อดีๆ ระบบเบรค จานเบรคขยายหน้า-หลัง ด้วยยิ่งดี ผ้าเบรคเกรดดีทนความร้อน เพีงยงพอแล้วครับ
-
ได้รู้จักร้านโม turbo กะร้านทำเครื่องเพิ่มมาอีกร้านเลย
ขอบคุณ จขกท อย่างมากครับ
-
มารอฟังความรู้ไว้เผื่อปรับปรุงคันตัวเองครับ
ของผม 2.8 TRD ใส่ ultraboost ทำช่วงล่างนิด จอ android ยกเบาะ Lexus GS มาใส่ แค่นี้จริงๆ ก็รู้สึกว่าโอเคขึ้นเยอะแล้วครับ ถ้าไม่มีอะไรพังก็คงไม่ทำเพิ่มละ สงสัยอายุเยอะขึ้น ::)
-
ผม "ไม่รู้" ว่า โบเดี่ยวเปลี่ยนไส้ กับ โบคู่อันไหนแรงกว่า?
แต่ถ้าคิดถึงความต่อเนื่อง "โบคู่" น่าจะดีกว่า...
เพราะ ตัวแรกส่งในรอบต่ำ-กลาง ตัวสองกลาง-สูง มันน่าจะต่อเนื่องมากกว่า
และยิ่ง จขกท. บอกว่ามันเป็น "ชุดคิท" ถอด-ยกใส่ จบ?
ก็น่าจะดีกว่า ถ้าไม่เกี่ยงเรื่อง "งบ"
แต่ถ้า มี ปห.เรื่อง "งบ"
หาที่จูนจากของเดิมเพิ่ม จะเป็นที่เก่าหรือที่ใหม่ ก็แล้วแต่
ผมว่ามันยังจูนได้อีก แต่อาจจะมีทำ "ส่วนควบ" อื่นๆ เพิ่มอีกหน่อย
แต่ "แรงม้า" ไม่น่าถึง 230-250 ตามเป้า
แต่ในบางครั้ง รถแรงม้าเยอะ ไม่ใช่รถที่ "ขับสนุก" ก็เยอะ!!
-
สาย Fortuner ก็ต้องน้าจิตล่ะครับ
เชียร์ เทอร์โบคู่ อนุกรมครับ แรงมาต่อเนื่อง ขับง่าย เดินเบาบูสก็ติดแล้ว
-
หาช่างให้ถูกคนครับ ดูผลงานในเพจเค้า ดูรายที่มีปัญหาว่าเค้าดูแลลูกค้ายังไง ผมเปลี่ยนโบ h1 ไปใส่ของ dmax vgs 3.0 ขับดีมาก ใช้เวลาจาก กทม-สกลนคร 7 ชั่วโมง 15 นาที เท่ากับ bmw 520d g30 กินน้ำมันประมาณ 10 กม/ลิตร ไม่ต่างจากเดิมเลย แต่ขับเหมือนรถคนละคัน พลิ้วมากครับ สำหรับรถตัวใหญ่แบบ h1 เลยต้องลามไปเปลี่ยนแม็คยางให้ใหญ่ขึ้น เพราะทำเบรคด้วยไม่งั้นเวลารถพุ่งขึ้นไปแล้วเบรคจะเย็นทั้งตัว เพราะเบรคเเดิมเอาไม่อยู่ครับ
-
เทอร์โบคู่เลยครับ ขับมันส์กว่า ขับง่ายกว่า สายซิ่งถูกใจสิ่งนี้
-
ใช้ 2.8 เดิมๆมา4ปีล่ะทำช่วงล่างนิดหน่อย ว่าจะไปรีแมพตั้งแต่ป้ายแดงสรุปยังไม่ได้ทำอะไรเลยตอนนี้ :) :) :) :)ตามๆ