Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: โตมากับ Honda ที่ มิถุนายน 09, 2021, 15:20:24
-
Camry TNGA 2.0G VS 2.5G VS Hybrid เริ่มต้น
สามรุ่นย่อยนี้ แต่ละคนจะมีเหตุผลในการเลือกอย่างไรบ้างครับ
-
Camry TNGA 2.0G VS 2.5G VS Hybrid เริ่มต้น
สามรุ่นย่อยนี้ แต่ละคนจะมีเหตุผลในการเลือกอย่างไรบ้างครับ
2.0 รถบริษัท 2.5 ซื้อใช้เองครับ.
-
2.5 ครับ แรงดูแลง่าย ขายต่อราคาไม่ตก
-
2.0 อุปกรณ์พื้นฐานครบ ใช้ในเมืองกินน้ำมันไม่ดุ ไม่จุกจิก
ส่วนต่างเอามาเติมน้ำมัน+บำรุงรักษาได้อีกเยอะ
-
2.5G ครับ
ขนาดพี่จิมมี่ยังอยากได้เลย ;D
-
2.0 อุปกรณ์พื้นฐานครบ ใช้ในเมืองกินน้ำมันไม่ดุ ไม่จุกจิก
ส่วนต่างเอามาเติมน้ำมัน+บำรุงรักษาได้อีกเยอะ
ในเมืองดุใช้ได้นะครับ ถ้าเบรคๆเร่งๆ 2.0 ผมใช้อยู่ทุกวัน สุขุมวิท สยาม ชมเร่งด่วน เฉลี่ย 5-7 โลลิตรครับไม่เกินนี้
เคยเอา hybrid ของพ่อมาใช้สองอาทิตย์ตอนรถผมเคลมสี ได้ 10-13 โลลิตรครับ เส้นทางและวันเวลาเดียวกัน
-
ใช้แบบทนๆเรื่อยๆขับไม่เร็วมากแนะนำ 2.0 ครับ
ชอบแรงๆทนๆและใช้ยาวๆชอบความเร็วสูงแช่ได้ยาวๆไป 2.5G
ชอบนิ่มขับสบายๆความสะดวกสบายครบประหยัดน้ำมันไป Hybrid
ถ้าคิดว่า 5ปีขายคันไหนก็ได้ครับผมจากที่ขับ2.5G รุ่นปัจจุบันมาก่อน
มันเป็นรถที่ขับสนุกใช้ได้ทีเดียวครับ แช่ยาวๆก็ไม่มีปัญหา
แต่ผมขายมาใช้ volvo คือชอบอัตราเร่งเป็นหลักและความปลอดภัยครบ
ถ้าคิดว่าใช้ยาวๆผมให้คัมรี่ภาษีดีกว่า volvo อีกครับขับรถญี่ปุ่นความกังวล
ในการใช้งานแทบไม่มีเลยครับ ทนทานแน่นอน แรงไป 2.5 สบายไปHybrid ครับ
-
ไม่ได้ออกเงินค่าน้ำมันเอง เป็นคนนั่งอย่างเดียว 2.0G
ไม่ได้ออกเงินค่าน้ำมันเอง เป็นคนขับด้วย 2.5G
ออกเงินค่าน้ำมันเอง เป็นทั้งคนนั่งหรือคนขับก็ได้ Hybrid ครับ
-
งบจำกัดแต่อยากได้รถใหญ่ ไม่เน้นแรง ไม่สนออฟชั่น เน้นซ่อมบำรุงง่าย เลือก 2.0
ชอบความแรง ไม่ชอบรถถ่าน เลือก 2.5
เป็นคนขับรถเยอะโดยเฉพาะใช้ในย่านการจราจรแออัดบ่อยๆอยากเซฟค่าน้ำมัน ไม่กลัวค่าบำรุงรักษาระบบไฮบริด เลือก 2.5hv
-
ง่ายๆเลย
งบน้อย = 2.0
งบมากขึ้นมาแต่กลัวค่าบำรุงในอนาคต = 2.5g
งบมากพอๆกับ2.5 = แต่อยากได้ความประหยัดกับความแรง 2.5hv
-
เหตุผลในการเลือก ก็จะดูรถที่มีที่บ้าน
มี hybrid หลายคันแล้ว เลือก 2.5G แรงๆ
มีรถใหญ่ๆ รถกินน้ำมันหลายคัน เลือก 2.5 HV ตัวเริ่ม
ให้ภรรยาใช้ ลูกใช้ พ่อแม่ใช้ เก็บไว้เป็นรถรอง ไป 2.0G
-
ถ้าไม่จำกัดงบ ไป HB ครับ
2.5 ไม่ได้แรงอย่างกะแรงม้าที่บอก
มันออกแนว เครืองใหญ่ ทางไกลดีครับ
ขับในเมือง ธรรมดามาก
-
อยากแรงสุดของcamry เท่าที่จะเป็นไปได้เอา 2.5G ครับ ถ้าเน้นออปชั่น ขับไม่เกิน 190Km/h เอาไฮบริดครับ
-
ถ้าไม่ได้วิ่งทางไกลบ่อยๆ ผมว่าข้าม 2.5 ไปได้เลย
อัตราเร่งออกตัวในเมืองมันไม่แรงอย่างที่คิดเลย
กว่าเครื่องตัวนี้แสดงกำลังคือกลางถึงปลายครับ
งบถึง ไม่กลัวราคาขายต่อไปไฮบริดดีกว่าครับ
ต้นถึงกลางดีตลอด ความเร็วช่วงปลายจะได้ใช้เยอะแค่ไหนกันครับสำหรับบ้านเรา
ถ้าเน้นขับแบบเรื่อยๆก็ 2.0 ก็พอ
-
เลือก 2.5 hv ครับ แรงและประหยัดดี ลงตัวครับ
-
เข้ามาอ่าน คนรู้จักกำลังอยากได้ Camry เลยมาเก็บความเห็นครับ :-X
-
งบมาก ไม่รังเกียจไฮบริท ก็เลือก ตัวท๊อปเลย
ถ้ายังไงก็ไปสันดาป เลือกเอาว่าจะตีนหนักมั้ย รึไม่ตีนหนัก ระหว่าง 2.0 และ 2.5
ส่วนตัว 3ตัวนี้ ขอเลือก 2.5
-
ถ้าไม่ติดโควิดผมคงถอย2.0Gเงินสด เอาส่วนต่างมาเติมน้ำมันเพราะปกติค่าน้ำมันL332.0ผมเดือนละ3-4พันบาท 8)
โควิดมาไม่ได้ไปไหนเหลือเดือนไม่ถึง2พัน เลยพับโครงการซื้อรถใหม่ยาวๆ
-
อันดับแรกผมตัด Hybrid ออกก่อนเลยครับ ทีนี้เหลือแค่ 2.0 G กับ 2.5 G เลือกตามการใช้งานครับ
ถ้าขับในกรุงเทพฯ เจอรถติดทุกวันไป 2.0 G ถ้าขับชานเมืองหรือต่างจังหวัดไป 2.5 G
แต่ถ้าเน้นความทนทานในระยะยาวผมไว้ใจ 2.0 G มากกว่านะ
-
ถ้าไม่ได้วิ่งทางไกลบ่อยๆ ผมว่าข้าม 2.5 ไปได้เลย
อัตราเร่งออกตัวในเมืองมันไม่แรงอย่างที่คิดเลย
กว่าเครื่องตัวนี้แสดงกำลังคือกลางถึงปลายครับ
งบถึง ไม่กลัวราคาขายต่อไปไฮบริดดีกว่าครับ
ต้นถึงกลางดีตลอด ความเร็วช่วงปลายจะได้ใช้เยอะแค่ไหนกันครับสำหรับบ้านเรา
ถ้าเน้นขับแบบเรื่อยๆก็ 2.0 ก็พอ
ตามนี้เลยครับ
ก่อนจัด 2.0 มา ก็ลอง 2.5
ช่วงออกตัวรู้สึกเหมือนไม่ได้มี 209 แรงม้า
F30 184 แรงม้า เฉือนเงียบๆ
แถม 8 เกียร์ แรงบิดแคบ แต่ทดแบบ 0-100 ใช้ 2 เกียร์ จะยืดยาวไปไหน
ส่วน hybrid ก็กดเป็นมา อันนี้รู้สึกช่วงออกตัวจะต่างชัดเจน
ครั้นจะอัพจาก 2.0 -> HY ก็ต่างกันเกือบ 2แสน ในยุคนี้ ประหยัดได้ก็คงต้องประหยัดแหล่ะครับ อุปกรณ์มาตรฐานปลอดภัยก็ครบดี ขาดพวก pre collision ซึ่งก็ต้องอัพไป premium hybrid ตัวท๊อป ต่างกัน 3-4 แสน
ส่วนภายนอก อยากได้ล้อแม๊กของ 2.5 + ไฟของ hybrid แต่ไม่ได้ก็คงไม่เป็นไร
-
ลองขับทุกรุ่น จะได้คำตอบเลยครับ
สำหรับผม...
HV ต้นถึงกลาง แทบจะ no lag เลยครับ แตะเป็นมา
ในเมือง หรือทางไกลก็ประหยัด ขับสบาย
แต่ขับในเมืองช่วงระบบไฮบริดตัดต่อ บางคนอาจรู้สึกรำคาญ
2.5g กลางถึงปลายจะฟินไปไหน ลื่นดี
ขาซิ่ง ใช้ทางไกลเหมาะเลย
แต่ผมตอบตัวเองไม่ได้ ทุกวันนี้ผมจะขับเกิน 150 ได้ที่ไหน
กล้องเยอะ และห่วงคนข้างหลัง
ช่วงความเร็วต่ำ เร่งๆ ถอนๆ ตามคันหน้า ผมว่าแปลกไม่สมูท
2.0g ไม่เคยลองครับ คุ้มค่าสำหรับคนไม่เร่งรีบ
ผมว่าเครื่องตัวนี้แม้จะดี แต่เล็กไปสำหรับ D seg.
ผมเคยใช้ D seg. 2.0 ตอนฉุกเฉินต้องแซงให้รอด
ผมว่ายังไม่พอ บางทีเจอพวกโรคจิตกดตอนเราแซง เหนื่อยครับ
สรุปผมจบกับไฮบริดอีกค่าย no lag จริงๆ
พอกลาง-ปลาย ก็ตัวใครตัวมัน
ตัวผมขับไม่เกิน 150 อยู่แล้วครับ
-
ถ้าส่วนใหญ่ขับในเมือง ไม่ได้เดินทางไกลยิงยาวบ่อยๆ
HYBRID ดีกว่าครับ อัตราเร่ง ต้น-กลาง จัดจ้าน
สายซิ่งมุด ยกแล้ว กดต่อ นี่น่าจะชอบ แรงมันไหลมาต่อเนื่อง แต่ปลายสุด 194km/h
2.5G ขับในเมือง ช่วงออกตัวค่อนข้างอืด ชอบออกตัวด้วยเกียร์ 4 ทำให้รอบต่ำไม่มีแรง
ยิ่งขึ้นลานจอดรถตามห้างที่ชันๆ จะเห็นชัดเลย นึกว่าขับ YARIS 1.2
ช่วงกลาง 80 ไปแล้ว ถึงจะคล่องตัวหน่อย
แต่ปลายมันไหลดี 220 สบายๆ วิ่งมอเตอร์เวย์ เจอพวกควันดำ ก็หนีสบายๆ
-
2.5G ความเงอะงะของรอบต้นจะหมดไป เมื่อไปติดคันเร่งไฟฟ้าครับ คราวนี้ออกตัวก็สบาย ทางไกลก็สนุก แต่อย่าถามเรื่องประหยัด 555+ ตกอยู่แถวๆ 9-10 ต้นๆ ถ้าจะเอา HV ไป Top เลยดีกว่าครับ HV เหมือนเป็นรุ่น Decoid เพื่อให้ไป HVP มากกว่า
-
งบเหลือเลือกไฮบริดครับ ออฟชั่นครบ 8)
แต่ถ้าเป็นผมรถรุ่น Mc หรือไม่ก็รถโฉมใหม่ ซื้อตอนออกใหม่เลย ขับยาว ๆ
-
ถ้าผมซื้อ ผมจะดูเงินในกระเป๋าครับ คงไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่เล่นไฮบริดถ้าเงินถึงครับ ถ้าไม่ถึงค่อยพิจารณารุ่นรองๆลงมา
-
ถ้าจะใช้นานๆ วิ่งทางไกลบ่อย 2.5g. เป็นทางเลือกที่ดีครับ แรง+ประหยัดพอได้