Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Gunther ที่ มิถุนายน 16, 2021, 18:30:29
-
ในชั่วโมงนี้ ผมอยากทราบว่า รถยนต์ไฟฟ้ามีข้อดี และ ข้อเสียอย่างไรบ้างครับ
และ
การบำรุงรักษา รถยนต์ไฟฟ้า ต่างกับ รถยนต์ที่มีเครื่องยนต์ (ICE) น้อยกว่าหรือมากกว่าครับ
(https://encrypted-tbn0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSVDFHBgNUiv0C0yzgfyKkn-sl26UGPnobZfQ&usqp=CAU)
และอยากทราบว่า MG ในตอนนี้ยังจำหน่าย ZS EV อยู่หรือไม่ กับ MG EP จะขายดีเท่า ZS EV หรือไม่ และเหมือนได้ข่าวมาว่า MG EP จะทำเป็นรถ Taxi EV ต่อจาก BYD e6
(https://encrypted-tbn0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcSzglTz0EEkd3AuC2HJVLMbdZx5Dn4QAglpwA&usqp=CAU)
(https://encrypted-tbn0.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcTAWKWUvOo03E-stpEYl4qm1RHpIudpAVrkEQ&usqp=CAU)
#สนับสนุนคนไทยใช้รถยนต์ไฟฟ้า100%ครับ🇹🇭
-
แล้วเค้าจะไปยกเลิกขายทำไมล่ะครับ ZS EV มันก็ขายได้
-
ข้อเสียของรถไฟฟ้า คือ ประกันแพง...
-
EP ขายดีเท่า ZS แล้วหรอครับ?
ทุกวันนี้เห็นบนถนนตั้งแต่เปิดตัวมา 1 คันถ้วน (ในวันเดียวกันเจอ Tesla ที่ไม่ใช่รถตำรวจไป 2 คันด้วย)
ที่จีน ZS EV ยังไม่ minor change เลยครับ ถ้ายังไม่เห็นความเคลื่อนไหวก็ไม่แปลก
ส่วนข้อเสียในมุมมองผมตอนนี้ก็มีแค่เรื่องความสะดวกในการเติมพลังงานเหมือนเดิมนี่แหละ
-
สำหรับผมข้อดีที่สุดเลยคือเงียบครับ อัตราเร่งเป็นเรื่องรองลงมา
-
ev ชิ้นส่วนน้อยกว่าครับ บำรุงน้อยกว่าแน่ๆ แต่เทียบกับค่าแบตในปัจจุบัน โดยรวมไม่แน่ใจว่าใครแพงกว่า แต่ส่วนใหญ่มีประกันหมด SoC 80% 4-5ปีแรก หายห่วงเลย ไม่รวมเทคโนโลยีเสริมต่างๆของรถนะครับ
ส่วน zsev เห็นลือกันว่ารอ marvel-r มาแทนที่ในอนาคต minorchange คงไม่มีแล้วมั้งครับ แต่คงคนละ segment กันกับ ep
ผมว่า iX3 ที่เอา ICE มาปู้ยี้ปู้ยำ เผลอๆก็ไม่ยกหน้าตามตัวน้ำมันรึเปล่า ลากขาย 3 ปี แล้วก็เป็นโมเดลใหม่เลย ฟิล X4 ตัวที่แล้ว
EP ขายดีเท่า ZS แล้วหรอครับ?
ทุกวันนี้เห็นบนถนนตั้งแต่เปิดตัวมา 1 คันถ้วน (ในวันเดียวกันเจอ Tesla ที่ไม่ใช่รถตำรวจไป 2 คันด้วย)
ที่จีน ZS EV ยังไม่ minor change เลยครับ ถ้ายังไม่เห็นความเคลื่อนไหวก็ไม่แปลก
ส่วนข้อเสียในมุมมองผมตอนนี้ก็มีแค่เรื่องความสะดวกในการเติมพลังงานเหมือนเดิมนี่แหละ
ผมวิ่งเพลินจิต เลียบด่วน สายสอง เจอ ep เยอะอยู่นะครับ พอๆกับ zs ev เลย
แต่เชื่อว่าโดยรวมทั้งประเทศ ep น่าจะขายได้น้อยกว่าเยอะครับ target zs กับ ep นิคนละกลุ่มสุดๆ
-
ประเด็นเดียวที่ผมยังรออยู่คือ ตัวที่ตลาดจริงๆราคาไม่แพงมาก มีแค่
MG ZS EV วิ่งได้แค่ 250 กม
MG EP วิ่งได้แค่ 320 กม
ข้างบนนี่คือผมตามดูคลับที่เค้าวิ่งได้จริงนะครับ ยิ่งในเมืองก็จะเยอะกว่านี้นิดหน่อย แต่ถ้านอกเมืองก็น้อยลง ยิ่งวิ่ง 100กม/ชม ขึ้นไปเยอะเปลืองไฟมาก ซึ่งแน่นอน วิ่งทางยาว ให้แช่ 80-90 เพื่อเอาระยะทางคงไม่ไหว
ตอนนี้รอดู Good Cat หรือ MG Ep ตัวใหม่ที่เปยี่นแบตมาให้วิ่งได้ 500กม++ แล้วเท่านั้น ไม่งั้นยังคงต้องพึ่งพารถที่มีเครื่องยนต์อยู่ดีครับ
ใครบอกว่าไปชาร์จตามจุดก็ได้ บางจุดฟรี เอาเลยครับ ผมไม่อยากเสียเวลา 1 ชมเพื่อชาร์จ หรือเสี่ยงไปแล้วหัวชาร์จเสีย หรือ คนรอต่อคิวเยอะ ไม่คุ้มกับที่ประหยัดค่าเดินทางเลยครับ
-
ZS EV เหมือนจะมีรุ่นปรับปรุงแบต กับพลังม้าเพิ่ม รอออกมาที่ UK กับอินเดียคับ วิ่งได้เพิ่มเป็น 500 km แรงม้าน่าจะเพิ่มขึ้นมาเป็น 180-190 ตัว เท่ากับ MG5 EV ตัว facelift ที่ยุโรป
Marvel R ราคาจะอยู่ประมาณ D-segment ครับ
-
ข้อดี ประหยัดน้ำมัน ขับในกรุงเทพฯ มันเหมาะมากครับ
ข้อเสีย ไม่เหมาะสำหรับเดินทางไกล เพราะต้องรอชาร์จไฟนาน
-
ถ้าในเมืองก็โอเค
แต่ถ้านอกเมืองแล้วจะชาร์จ ไม่ใช่แค่จุดชาร์จน้อย ไปถึง มีคิวรึเปล่า เครื่องเสียรึเปล่า มีรถจอดบังรึเปล่า 108 1009 สำหรัยต่างจังหวัดครับ
-
คอขวด ของ Techonology EV Car คือ Battery และ การ Charger
ในเมือง ระยะต่อวันไม่เกิน 200 km ผมว่าโอเครเลย
เพื่อนซื้อมาใช้คันนึง ไปวังน้ำเขียว ต้องขับ 70-80 km/hr มันก็ไม่สุนทรีย์เท่าไหร่
ขับเร็วกว่านี้ ต้องแวะชาร์ท
ที่บอกว่า วิ่งได้เท่าโน้น เท่านี้ มันต้องดูด้วย ว่า ให้ขับเท่าไหร่
400km จริง แต่ ให้วิ่ง 80km/hr
สำหรับผม ยังครับ แต่ อีก 8-10 ปี
ผมว่าน่าจะพัฒนาไปอีก ครับ น่าจะทันได้เห็น อะไรดีๆ
-
ผมเป็นคนนึงที่อาจจะมีรถ ev มากครับ แต่ต้องรอให้อะไรหลายๆอย่างมันเวิร์คกว่านี้ซะก่อน
ถ้าเป็นรถใช้เอง ผมต้องรอให้สถานีชาร์ตมีครอบคลุมตามเส้นทางหลัก ตามปั้มให้ครบๆก่อน
และระยะทางที่วิ่งจริงต้องเกิน 300 km โดยที่ไม่ต้องวิ่ง 70-80 เพื่อประคองการกินแบต เพราะใน 1 วันผมวิ่งรถ 100-200 km + อยู่แล้ว
เดินทางข้ามจังหวัดตลอด ถ้าระยะและสถานีชาร์ทไม่ครอบคลุมผมก็บาย ส่วนราคาก็ไม่เกี่ยงเพราะรถใช้งานอยู่แล้ว
แต่ถ้าให้แฟนใช้ อันนี้น่าจะมีโอกาสเป็นไปได้ที่สุด เพราะแฟนใช้วิ่งรับส่งลูก ซื้อของ ส่งขนมวนๆอยู่ในเมือง ทีนี้ก็เหลือรอราคาแล้ว
เพราะโจทย์นี้ มันจบที่ eco car ได้แบบสบายๆ เพราะอะไรถึงต้องจ่ายเกือบล้านเพื่อซื้อรถไฟฟ้า ทั้งที่ eco car ถูกกว่าเกือบครึ่ง
ถ้าชนะโจทย์นี้ได้ก็คงได้ซื้อแน่ๆ
-
ประเด็นเดียวที่ผมยังรออยู่คือ ตัวที่ตลาดจริงๆราคาไม่แพงมาก มีแค่
MG ZS EV วิ่งได้แค่ 250 กม
MG EP วิ่งได้แค่ 320 กม
ข้างบนนี่คือผมตามดูคลับที่เค้าวิ่งได้จริงนะครับ ยิ่งในเมืองก็จะเยอะกว่านี้นิดหน่อย แต่ถ้านอกเมืองก็น้อยลง ยิ่งวิ่ง 100กม/ชม ขึ้นไปเยอะเปลืองไฟมาก ซึ่งแน่นอน วิ่งทางยาว ให้แช่ 80-90 เพื่อเอาระยะทางคงไม่ไหว
ตอนนี้รอดู Good Cat หรือ MG Ep ตัวใหม่ที่เปยี่นแบตมาให้วิ่งได้ 500กม++ แล้วเท่านั้น ไม่งั้นยังคงต้องพึ่งพารถที่มีเครื่องยนต์อยู่ดีครับ
ใครบอกว่าไปชาร์จตามจุดก็ได้ บางจุดฟรี เอาเลยครับ ผมไม่อยากเสียเวลา 1 ชมเพื่อชาร์จ หรือเสี่ยงไปแล้วหัวชาร์จเสีย หรือ คนรอต่อคิวเยอะ ไม่คุ้มกับที่ประหยัดค่าเดินทางเลยครับ
MG ZS EV วิ่งได้ไกลสุด 330km ต่อการชาร์จครั้งเดียว
และ
MG EP วิ่งได้ไกลสุด 380km ต่อการชาร์จครั้งเดียวครับ
ถ้าชาร์จด้วยระบบ Fast Charge 30 นาที จะชาร์จได้มากสุด 80%
ฉะนั้น เอาระยะวิ่งได้ไกลสุด x 0.8 ผลลัพธ์ก็คือระยะวิ่งที่แบตเหลือ 80% จากการใช้ Fast Charge
ถ้า MG ZS EV กับ MG EP มาชาร์จด้วย Fast Charge 30 นาที 80% ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ
MG ZS EV วิ่งได้ไกลสุด 264km ต่อการชาร์จถึง 80%
และ
MG EP วิ่งได้ไกลสุด 304km ต่อการชาร์จถึง 80%
แต่ว่า Ora Good Cat ที่จะมาไทยจะมาในรุ่นไหน 400km หรือ รุ่น 500km
ผมขอคำนวณจากการชาร์จด้วย Fast Charge 80% แล้วกัน
ระยะวิ่งได้ไกลสุด x 0.8
รุ่น 400km ถ้าชาร์จถึง 80% จะวิ่งได้ไกลสุด 320km
และ
รุ่น 500km ถ้าชาร์จถึง 80% จะวิ่งได้ไกลสุด 400km
ปล. ระยะวิ่ง x 0.8 นั้น.........0.8 ก็คือ 80% ครับ
ผมคิดว่า Ora Good Cat น่าสนใจและน่าขับมากกว่า MG ZS EV และ MG EP
ผมรอลุ้น Ora Good Cat จะดีกว่าครับ แถมวิ่งได้ไกลกว่า นั่งสบายกว่า เทคโนโลยีดีกว่า MG EP แต่ว่าจะมาในรุ่นไหน 400km หรือ 500km หรือว่ามาทั้งคู่เลยหรือเปล่าครับ
-
ใช่ว่าไฟเต็มหม้อจะวิ่งได้ตามระยะทางที่ โรงงานกำหนดไว้ ที่แน่ๆหายไป 30 กิโลกว่า ยิ่งเหยียบ ไฟยิ่งรั่ว ระยะทางก็วิ่งได้น้อยลง ออกนอกเมืองก็หาที่เสียบไฟยากแล้ว แถมต้องลุ้นอีกว่า ตู้จะใช้ได้ไหม จะเสียไหม ไฟบ้านธรรมดาที่ไม่ใช่ 3 เฟส รอกันหลายวันทีเดียวกว่าจะเต็ม
-
รถไฟฟ้าสำหรับผมคงเอาไว้ใช้แค่ชีวิตประจำวันอ่ะ
ผมขับรถไปทำงานวันละ 60-80 กม. ถ้าชาร์จ 1 ครั้ง วิ่งได้สัก 3 วัน หรือเอาชัวร์ก็ 2 วัน/ชาร์จ 1 ครั้งกำลังดี
หรือไปไหนที่ระยะมันสามารถไปกลับได้ ผมก็โอเคนะ
ที่มองไว้ก็สนใจ ORA Goodcat นี่แหล่ะ
-
ใช่ว่าไฟเต็มหม้อจะวิ่งได้ตามระยะทางที่ โรงงานกำหนดไว้ ที่แน่ๆหายไป 30 กิโลกว่า ยิ่งเหยียบ ไฟยิ่งรั่ว ระยะทางก็วิ่งได้น้อยลง ออกนอกเมืองก็หาที่เสียบไฟยากแล้ว แถมต้องลุ้นอีกว่า ตู้จะใช้ได้ไหม จะเสียไหม ไฟบ้านธรรมดาที่ไม่ใช่ 3 เฟส รอกันหลายวันทีเดียวกว่าจะเต็ม
เห็นด้วยเลยครับ การชาร์ตนอกบ้าน ผมว่ายังเป็นปัญหาอยู่มาก ทำให้คนยังไม่กล้าที่จะใช้อย่างแพร่หลาย คงต้องใช้เวลาอีกหน่อย
-
EP ขายดีเท่า ZS แล้วหรอครับ?
ทุกวันนี้เห็นบนถนนตั้งแต่เปิดตัวมา 1 คันถ้วน (ในวันเดียวกันเจอ Tesla ที่ไม่ใช่รถตำรวจไป 2 คันด้วย)
ที่จีน ZS EV ยังไม่ minor change เลยครับ ถ้ายังไม่เห็นความเคลื่อนไหวก็ไม่แปลก
ส่วนข้อเสียในมุมมองผมตอนนี้ก็มีแค่เรื่องความสะดวกในการเติมพลังงานเหมือนเดิมนี่แหละ
เชื่อมั้ยครับผมอยู่ตจว. แต่เห็น taycan บ่อยกว่าเห็น ep
-
ประเด็นเดียวที่ผมยังรออยู่คือ ตัวที่ตลาดจริงๆราคาไม่แพงมาก มีแค่
MG ZS EV วิ่งได้แค่ 250 กม
MG EP วิ่งได้แค่ 320 กม
ข้างบนนี่คือผมตามดูคลับที่เค้าวิ่งได้จริงนะครับ ยิ่งในเมืองก็จะเยอะกว่านี้นิดหน่อย แต่ถ้านอกเมืองก็น้อยลง ยิ่งวิ่ง 100กม/ชม ขึ้นไปเยอะเปลืองไฟมาก ซึ่งแน่นอน วิ่งทางยาว ให้แช่ 80-90 เพื่อเอาระยะทางคงไม่ไหว
ตอนนี้รอดู Good Cat หรือ MG Ep ตัวใหม่ที่เปยี่นแบตมาให้วิ่งได้ 500กม++ แล้วเท่านั้น ไม่งั้นยังคงต้องพึ่งพารถที่มีเครื่องยนต์อยู่ดีครับ
ใครบอกว่าไปชาร์จตามจุดก็ได้ บางจุดฟรี เอาเลยครับ ผมไม่อยากเสียเวลา 1 ชมเพื่อชาร์จ หรือเสี่ยงไปแล้วหัวชาร์จเสีย หรือ คนรอต่อคิวเยอะ ไม่คุ้มกับที่ประหยัดค่าเดินทางเลยครับ
MG ZS EV วิ่งได้ไกลสุด 330km ต่อการชาร์จครั้งเดียว
และ
MG EP วิ่งได้ไกลสุด 380km ต่อการชาร์จครั้งเดียวครับ
ถ้าชาร์จด้วยระบบ Fast Charge 30 นาที จะชาร์จได้มากสุด 80%
ฉะนั้น เอาระยะวิ่งได้ไกลสุด x 0.8 ผลลัพธ์ก็คือระยะวิ่งที่แบตเหลือ 80% จากการใช้ Fast Charge
ถ้า MG ZS EV กับ MG EP มาชาร์จด้วย Fast Charge 30 นาที 80% ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ
MG ZS EV วิ่งได้ไกลสุด 264km ต่อการชาร์จถึง 80%
และ
MG EP วิ่งได้ไกลสุด 304km ต่อการชาร์จถึง 80%
แต่ว่า Ora Good Cat ที่จะมาไทยจะมาในรุ่นไหน 400km หรือ รุ่น 500km
ผมขอคำนวณจากการชาร์จด้วย Fast Charge 80% แล้วกัน
ระยะวิ่งได้ไกลสุด x 0.8
รุ่น 400km ถ้าชาร์จถึง 80% จะวิ่งได้ไกลสุด 320km
และ
รุ่น 500km ถ้าชาร์จถึง 80% จะวิ่งได้ไกลสุด 400km
ปล. ระยะวิ่ง x 0.8 นั้น.........0.8 ก็คือ 80% ครับ
ผมคิดว่า Ora Good Cat น่าสนใจและน่าขับมากกว่า MG ZS EV และ MG EP
ผมรอลุ้น Ora Good Cat จะดีกว่าครับ แถมวิ่งได้ไกลกว่า นั่งสบายกว่า เทคโนโลยีดีกว่า MG EP แต่ว่าจะมาในรุ่นไหน 400km หรือ 500km หรือว่ามาทั้งคู่เลยหรือเปล่าครับ
ตามที่ท่านคำนวนมา ถูกต้องแล้วครับ มันวิ่งได้ 80% เท่านั้นแหละครับ ถ้าใช้งานปกตินะ พวกที่ได้เยอะๆ ส่วนมากคลานหรือย่องในเมือง ซึ่งถ้าเป้นคนที่ใช้งานนอกเมืองหรือทางไกล หมดสิทธิ์ได้ระยะทางขนาดนั้นครับ
หวังว่า Good Cat จะทำการบ้านมาดีหน่อย เอาตัว 500KM มาเถอะ วิ่งหวังผลได้ 400Km ก็ยังดี
-
ใช่ว่าไฟเต็มหม้อจะวิ่งได้ตามระยะทางที่ โรงงานกำหนดไว้ ที่แน่ๆหายไป 30 กิโลกว่า ยิ่งเหยียบ ไฟยิ่งรั่ว ระยะทางก็วิ่งได้น้อยลง ออกนอกเมืองก็หาที่เสียบไฟยากแล้ว แถมต้องลุ้นอีกว่า ตู้จะใช้ได้ไหม จะเสียไหม ไฟบ้านธรรมดาที่ไม่ใช่ 3 เฟส รอกันหลายวันทีเดียวกว่าจะเต็ม
ยังไม่เข้าใจเรื่องไฟ 3เฟส อยู่เลย ก็ไม่แปลกที่จะยังกังวลขนาดนั้น
-
ตามที่ท่านคำนวนมา ถูกต้องแล้วครับ มันวิ่งได้ 80% เท่านั้นแหละครับ ถ้าใช้งานปกตินะ พวกที่ได้เยอะๆ ส่วนมากคลานหรือย่องในเมือง ซึ่งถ้าเป้นคนที่ใช้งานนอกเมืองหรือทางไกล หมดสิทธิ์ได้ระยะทางขนาดนั้นครับ
หวังว่า Good Cat จะทำการบ้านมาดีหน่อย เอาตัว 500KM มาเถอะ วิ่งหวังผลได้ 400Km ก็ยังดี
แต่ความจริงแล้ว ควรชาร์จรถบ่อยๆทุกวัน+ใช้รถยนต์EVบ่อยๆ
ทุกวัน+ชาร์จประมาณ 80% เพื่อเพิ่มอายุการใช้งานแบตเตอรี่
นี่คือข้อแนะนำในการขับรถยนต์ไฟฟ้า จะได้ขับรถยนต์ไฟฟ้าอย่างสบายใจ
-
ในความคิดผมถ้าในปั๊ม ปตท. และบางจากทุกที่ มีหัวชาร์จ DC 6-10 หัวชาร์จขึ้นไปอย่างน้อย 5-10 หัวชาร์จ ถึงจะพอ
-
ผมใช้ EP อยู่ครับ ด้วยรูปทรงที่เป็นรถพ่อบ้าน คงไม่ได้รับความนิยมเหมือน ZS EV แน่ๆ แต่ด้วยความที่แบตโต มอเตอร์แรงกว่า ก็จะเป็นตัวเลือกสำหรับคนที่เบื่อทรง SUV หรือมีรถน้ำมันที่เป็น SUV อยู่แล้ว หรือชอบเทคโนโลยีแล้วมองหารถ EV ที่ราคาถูกสุดในตลาดมาลอง (ที่เป็นรถจริงๆ)
สเปค 380 แต่ระยะชับจริงประมาณ 300 กิโล ถ้าใช้ชีวิตประจำวันอยู่ในระยะ 300 กิโล ก็ไม่มีปัญหาอะไร กลับบ้านชาร์จ ตื่นมาก็เต็ม 100% ได้ทุกวัน ไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ค่าบำรุงรักษา 1 แสนโล 8-9 พันบาท จุดคุ้มทุน-คุ้มเสี่ยง อยู่ที่ระยะที่ขับต่อปี เมื่อขับถึง 1 แสนกิโล เทียบน้ำมันก็ประหยัดไป 1-2 แสนบาท ตอนนี้ตู้ชาร์จฟรียังมีเป็นตัวเลือก บางคนขับมาหลายเดือนแล้วชาร์จฟรีตลอด ค่าไฟ 0 บาทก็มี ก็เหมือนได้ cash back มาช่วยผ่อนรถทุกเดือน จะมากจะน้อยก็อยู่ที่ระยะที่จำเป็นต้องเดินทาง ใครขับเกินวันละ 150 กิโล ก็จะเริ่มประหยัดที่คุ้มค่าตัวที่แพงขึ้นจากรถน้ำมัน
อัตราเร่ง 0-100 ใช้เวลาราวๆ 8 วินาที ถ้าแบตเต็มเหลือไม่ถึง 8 วินาที ขับตาม MX-5 พอทัน เร็วกว่ารถ standard ญี่ปุ่นติดเทอร์โบทุกรุ่นในตลาด ถ้าเทียบรถยุโรปก็ยังอยู่กลางตาราง กินไฟ 160 kWh/km (ชาร์จในบ้านตกกิโลละ 50-80 สตางค์ นอกบ้านกิโลละ 1.2 บาท) จะขับทางไกลหรือรถติดแค่ไหน ก็กินพอๆกัน
ช่วงล่างกับพวงมาลัย ถ้าให้คุณ Jimmy มา review ก็คงโดนสับแหลก ห้องโดยสารกลางๆ วัสดุภายในพอได้นะ ไม่หนีจากรถญี่ปุ่นราคา 8-9 แสน คุณภาพงานประกอบก็จีนๆอย่างที่รู้ๆกัน คนในกลุ่มหลายคนมีรถน้ำมันดีๆเก็บไว้อยู่ ก็ยังขับไฟฟ้าเป็นหลัก เพราะมันประหยัด
หลายคนจะกลัวแบตเตอรี่เสื่อม เพราะประสพการณ์และคำบอกเล่าจากผู้ใช้รถ Hybrid สมัยก่อนที่แบตมีอายุประมาณ 10 ปี ซึ่งเดี๋ยวนี้เปลี่ยนไปแล้ว แบต EV มีหม้อน้ำหล่อเย็นเหมือนเครื่องยนต์ อุณหภูมิใช้งานไม่ถึง 50 องศา ชาร์จผ่าน 2000 รอบ (x300 = 600,000 กิโล) ได้สบายๆ เสื่อมมากเข้าก็ยังใช้ต่อได้ ระยะวิ่งจะค่อยๆลดลงจนเหลือซัก 70-80% ที่ 2000 รอบนี่แหละ ถ้าเป็น LFP ก็มีแนวโนมที่จะเสื่อมช้ากว่า NMC อีกเท่าตัว (EP เป็น LFP)
ส่วนตัวคิดว่ายังไม่ใช่รถที่เหมาะกับทุกคน ถึงจะได้ระยะ 500+ กิโล ก็ยังต้องชาร์จเกือบชั่วโมงอยู่ดี การชาร์จเสร็จใน 15 นาที อย่างที่หลายค่ายมาอวดเทคโนโลยียังเป็นความจริงไกลๆ เพราะชาร์จได้เร็วขนาดนั้นก็จะดึงไฟเท่ากับหมู่บ้านเล็กๆ เครื่องชาร์จต้องลงทุนแถวๆ 10 ล้านบาท/หัวชาร์จ
ถ้าพร้อมปรับตัว อยากรู้อยากลอง ระยะขับประจำวันได้ และอาจจะมีรถน้ำมันอีกคันอยู่ EV ก็เหมาะแล้วครับ แต่ก็ควรเปลี่ยนรถเก่าตามระยะที่เหมาะสม ยังใช้ได้ก็ใช้ไปก่อน ปีหน้าจะมีตัวเลือกเพิ่มขึ้นอีกเยอะเลย