Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: รักเธอเสมอ ที่ สิงหาคม 07, 2021, 08:35:29
-
*อุปกรณ์มาตรฐานรุ่น EL
ราคา 964,900 บาท
ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ เปิด-ปิดอัตโนมัติ
ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED
ไฟท้าย LED
ระบบปิดไฟหน้าอัตโนมัติเมื่อดับเครื่องยนต์
ไฟตัดหมอกคู่หน้า LED
มือจับประตูด้านนอกสีเดียวกับตัวรถ
กระจกมองข้างปรับ-พับไฟฟ้า พร้อมไฟเลี้ยว
ระบบปัดน้ำฝนแบบปรับตั้งหน่วงเวลา
ท่อไอเสียแบบคู่
เสาอากาศแบบครีบฉลาม
เบาะนั่งหุ้มผ้า
ระบบกุญแจ Honda Smart Key System พร้อมปุ่มสตาร์ท
ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ด้วยรีโมท Remote Engine Start
พวงมาลัยปรับได้ 4 ทิศทาง
กระจกไฟฟ้าคู่หน้าขึ้น-ลงอัตโนมัติ
มาตรวัดแบบ TFT ขนาด 7 นิ้ว
เบรกมือไฟฟ้า พร้อม Auto Brake Hold
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ
หน้าจอเครื่องเสียง Advanced Touch ขนาด 7 นิ้ว
รองรับ Apple CarPlay
ปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและรับ-วางสายโทรศัพท์บนพวงมาลัย
ระบบเชื่อมต่อ Bluetooth
ระบบเชื่อมต่อ Smartphone และสั่งงานด้วยเสียง Siri
ช่อง USB 1 ตำแหน่ง
ลำโพง 4 ตำแหน่ง
ระบบความปลอดภัย Honda SENSING
ระบบช่วยเตือนความเหนื่อยล้า Driver Attention Monitor
กล้องมองภาพปรับมุมมองได้ 3 ระดับ
สัญญาณไฟฉุกเฉินอัตโนมัติขณะเบรกกะทันหัน (ESS)
ถุงลมคู่หน้า/ถุงลมด้านข้างคู่หน้า/ม่านถุงลม
ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยคู่หน้า และไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง
ระบบล็อกประตูอัตโนมัติเมื่ออยู่ห่างตัวรถ (Walk Away Auto Lock)
ระบบควบคุมเสถียรภาพ VSA
ระบบเบรก ABS/EBD
ระบบ Auto Brake Hold
ล้ออัลลอยขนาด 16 นิ้ว
*อุปกรณ์มาตรฐานรุ่น EL+ (เพิ่มเติมจากรุ่น EL)
ราคา 1,009,900 บาท
กระจกมองข้างปรับ-พับไฟฟ้า พร้อมพับเก็บอัตโนมัติ
เบาะนั่งหุ้มหนังแท้สลับหนังสังเคราะห์
พวงมาลัยหุ้มหนัง
เบาะนั่งผู้ขับขี่ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
ช่อง USB 3 ตำแหน่ง
ลำโพง 8 ตำแหน่ง
*อุปกรณ์มาตรฐานรุ่น RS (เพิ่มเติมจากรุ่น EL+)
ราคา 1,199,900 บาท
ไฟหน้า LED
มือจับประตูด้านนอกสีดำ
สปอยเลอร์หลังแบบ Wing
ปลอกหุ้มท่อไอเสียแบบคู่
ระบบปัดน้ำฝนอัตโนมัติ
เสาอากาศแบบครีบฉลามสีดำ
ห้องโดยสารสีดำ
เบาะนั่งหุ้มหนังกลับสลับหนังสังเคราะห์ ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง
เบาะนั่งผู้โดยสารปรับไฟฟ้า 4 ทิศทาง
ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift)
โหมดการขับขี่ Sport
มาตรวัดแบบ TFT ขนาด 10.2 นิ้ว
ไฟส่องสว่างตกแต่งแผงประตูคู่หน้าและที่เท้า
กุญแจแบบ Honda Smart Key Card
ระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกปรับอุณหภูมิซ้าย-ขวา
กระจกมองหลังปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ
ระบบชาร์จไร้สาย Wireless Charger
แป้นเหยียบคันเร่งและเบรกแบบสปอร์ต
หน้าจอเครื่องเสียง Advanced Touch ขนาด 9 นิ้ว
ระบบนำทาง
ช่อง USB 4 ตำแหน่ง
ระบบเชื่อมต่อ Honda CONNECT
ระบบ Honda LaneWatch
ระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัยผู้โดยสารตอนหลัง
ล้ออัลลอยขนาด 17 นิ้ว
-
รุ่น EL ก็โอเคละ
ส่วนค่ายอื่นๆคงดับสนิท
-
el น่าใช้สุดแล้ว ถ้าได้ blind spot ด้วยนี่จะ perfect เลย
-
EL คุ้มสุดๆ เลย กุญแจ FC 1.8 ในมือสั่นเลย 555
-
เห็นแล้วอยากได้เลย ตัว EL
option พอเพียงครับ ไม่ชอบเบาะหนังอยู่แล้วไม่กระทบเลย
เสียอย่างเดียว รถมันเตี้ยมาก บ้านผมที่จอดรถสูง ขึ้นไม่ได้แน่ๆ
-
EL ถ้าคิดว่ามันคือ E เดิมที่เพิ่มเครื่อง Turbo กับ Sensing มา
ราคานี้ สบายใจเลยครับ มองจากดาวอังคารก็คุ้ม
EL+ เทียบราคากับสิ่งที่ได้อ่ะมันก็คุ้มอยู่หรอก
แต่สิ่งที่ผมคาดหวังไว้ก่อนเปิดตัวคือมันจะเป็นรุ่นที่เป็นรองท็อปที่ให้ออพชั่นเฉลี่ยมาตรงกลางระหว่าง EL กับ RS พร้อมราคาที่เฉลี่ยมาตรงกลางเช่นกัน
ไม่คิดเลยว่า Honda จะวางเกมส์ให้ EL+ เพิ่มแค่ในสิ่งที่คนทั่วไปอยากได้จาก EL แล้ว gap ต่างกันนิดเดียว
เพียงเพื่อจะดึงลูกค้ากลุ่มใหญ่ๆ ที่ไม่แต่งรถให้อุดหนุนมากกว่า EL แทนไปซะงั้น
แบบนี้ไม่ต้อง set EL มาให้ดูต่ำล้านก็ได้ครับ เปิดด้วย EL+ ไปเลย ยังไงเดินเข้าโชว์รูมที่ตั้งใจไปดู EL ก็เสร็จ EL+ หมด
เพราะผมคาดหวังในสิ่งที่ FC Turbo ตัวรอง และ FC 1.8EL มี แล้วตัวนี้ดันไม่มีไว้มากเลย อย่างปัดน้ำฝน Auto , ล้อ 17" , เบาะไฟฟ้าคู่หน้า , แอร์แยกซ้ายขวา , Paddle Shift , LaneWatch
ซึ่งถ้ามีของที่ผมกล่าวมาด้านบนซัก 3 ใน 6 อย่างนี้แล้วจะดันราคาไปช่วง 1,069,000-1,099,000 ยังไงก็ยังขายได้ และไม่ทับไลน์กับ EL มากด้วย
เลยกลายเป็นถ้าผมอยากได้ของพวกนี้ ผมต้องไป RS ที่แม้จะคุ้มค่าด้วยราคาที่ถูกลงแต่ได้ของเพิ่ม แต่ขัดใจที่ได้ชุดแต่งที่ไมได้สวยในสายตาทุกคนมาด้วย
-
EL คุ้มมาก เครื่องกับsensing ก็คุ้มแล้วเทียบกับ 1.8 EL เดิม honda สร้างมาตรฐานใหม่อีกแล้ว ระบบความปลอดภัยเต็มตั้งแต่เริ่ม ครูซคอนโทรลแปรผันไม่กองในตัวท็อปเหมือนค่ายอื่น ค่ายอื่นจะขยับตามไหม
ในกลุ่ม fc ก็พยายามบลัฟ g11 ว่าไม่ดี ก็อปปี้รถยี่ห้อนึงมา ผมเองก็ใช้ fc ผมก็อยากได้ g11 นะ ของใหม่มันก็ย่อมดีกว่านั่นแหละ รูปทรงเดี๋ยวก็ชินตา
-
EL+ คุ้มเลย ฮอนด้ามางวดนี้เอาจริง ตอบโจทย์ผู้บริโภคเลยครับ
-
EL คุ้มสุด RS กลายเป็นแพงมากไปเลย ออฟชั่นแทบไม่ต่าง ไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มเงิน2แสนกว่าไปเอาตัว RS เลย แต่งข้างนอกได้เกือบหมด และถูกกว่าเยอะมาก
-
คราวนี้กำหนดออปชั่นสอดคล้องกับราคาได้เด็ดขาดมาก คงยืนหนึ่งนานเลย
-
ตัวท็อปนี้ชนเจ้าตลาด ชน mazda นี้ยังลำบากเลย
แต่ตัวเริ่มต้นนี้ ดีกว่าชาวบ้าน ผมทำตารางเทียบไว้ เผื่อใครสนใจ
https://docs.google.com/spreadsheets/d/19R7uRVziTa-eyzRbr9o8deTcYu6N8_MuyA8Sp9QLcBI/edit?usp=sharing
(https://i.ibb.co/3cgfVdT/Mazda-3-vs-Civic-vs-Altis-Medium.jpg) (https://ibb.co/KWTNBh5)
-
EL ถ้าคิดว่ามันคือ E เดิมที่เพิ่มเครื่อง Turbo กับ Sensing มา
ราคานี้ สบายใจเลยครับ มองจากดาวอังคารก็คุ้ม
EL+ เทียบราคากับสิ่งที่ได้อ่ะมันก็คุ้มอยู่หรอก
แต่สิ่งที่ผมคาดหวังไว้ก่อนเปิดตัวคือมันจะเป็นรุ่นที่เป็นรองท็อปที่ให้ออพชั่นเฉลี่ยมาตรงกลางระหว่าง EL กับ RS พร้อมราคาที่เฉลี่ยมาตรงกลางเช่นกัน
ไม่คิดเลยว่า Honda จะวางเกมส์ให้ EL+ เพิ่มแค่ในสิ่งที่คนทั่วไปอยากได้จาก EL แล้ว gap ต่างกันนิดเดียว
เพียงเพื่อจะดึงลูกค้ากลุ่มใหญ่ๆ ที่ไม่แต่งรถให้อุดหนุนมากกว่า EL แทนไปซะงั้น
แบบนี้ไม่ต้อง set EL มาให้ดูต่ำล้านก็ได้ครับ เปิดด้วย EL+ ไปเลย ยังไงเดินเข้าโชว์รูมที่ตั้งใจไปดู EL ก็เสร็จ EL+ หมด
เพราะผมคาดหวังในสิ่งที่ FC Turbo ตัวรอง และ FC 1.8EL มี แล้วตัวนี้ดันไม่มีไว้มากเลย อย่างปัดน้ำฝน Auto , ล้อ 17" , เบาะไฟฟ้าคู่หน้า , แอร์แยกซ้ายขวา , Paddle Shift , LaneWatch
ซึ่งถ้ามีของที่ผมกล่าวมาด้านบนซัก 3 ใน 6 อย่างนี้แล้วจะดันราคาไปช่วง 1,069,000-1,099,000 ยังไงก็ยังขายได้ และไม่ทับไลน์กับ EL มากด้วย
เลยกลายเป็นถ้าผมอยากได้ของพวกนี้ ผมต้องไป RS ที่แม้จะคุ้มค่าด้วยราคาที่ถูกลงแต่ได้ของเพิ่ม แต่ขัดใจที่ได้ชุดแต่งที่ไมได้สวยในสายตาทุกคนมาด้วย
เห็นต่างครับ EL+ เพียงพอแล้ว ปัดน้ำฝนเองไม่ได้ลำบากแค่บิดนิดเดียว ล้อใหญ่แก้มยางก็เตี้ยไม่ได้อยากได้รถสปอร์ต เบาะคนขับปรับไฟฟ้าก็ดีแล้ว น่าเสียดายคนนั่ง แต่ทุกๆครั้งก็ไม่ได้ปรับอยู่แล้ว แอร์แยกมีก็ดี ไม่มีก็ได้ ขอแค่มันเย็นเร็ว paddle shift น่าเสียดายแต่ก็ยังมีเกียร์ S L lanewatch ไม่ชอบ อยากได้ blindspot ราคาสิชอบ 1,009,900 บาท ยังไม่ไกลจาก 1 ล้านมาก ไม่อยากจ่ายสิ่งที่ไม่ได้ใช้ ฮอนด้าน่าจะทำมาอีกรุ่นย่อยให้คุณ จะได้แฮปปี้ทั้งคู่
-
แล้วโตต้าจะทำยังไงต่อไปเนี่ย ป่านนี้ยืนเกาหัวแกรกๆ
-
EL ถ้าคิดว่ามันคือ E เดิมที่เพิ่มเครื่อง Turbo กับ Sensing มา
ราคานี้ สบายใจเลยครับ มองจากดาวอังคารก็คุ้ม
EL+ เทียบราคากับสิ่งที่ได้อ่ะมันก็คุ้มอยู่หรอก
แต่สิ่งที่ผมคาดหวังไว้ก่อนเปิดตัวคือมันจะเป็นรุ่นที่เป็นรองท็อปที่ให้ออพชั่นเฉลี่ยมาตรงกลางระหว่าง EL กับ RS พร้อมราคาที่เฉลี่ยมาตรงกลางเช่นกัน
ไม่คิดเลยว่า Honda จะวางเกมส์ให้ EL+ เพิ่มแค่ในสิ่งที่คนทั่วไปอยากได้จาก EL แล้ว gap ต่างกันนิดเดียว
เพียงเพื่อจะดึงลูกค้ากลุ่มใหญ่ๆ ที่ไม่แต่งรถให้อุดหนุนมากกว่า EL แทนไปซะงั้น
แบบนี้ไม่ต้อง set EL มาให้ดูต่ำล้านก็ได้ครับ เปิดด้วย EL+ ไปเลย ยังไงเดินเข้าโชว์รูมที่ตั้งใจไปดู EL ก็เสร็จ EL+ หมด
เพราะผมคาดหวังในสิ่งที่ FC Turbo ตัวรอง และ FC 1.8EL มี แล้วตัวนี้ดันไม่มีไว้มากเลย อย่างปัดน้ำฝน Auto , ล้อ 17" , เบาะไฟฟ้าคู่หน้า , แอร์แยกซ้ายขวา , Paddle Shift , LaneWatch
ซึ่งถ้ามีของที่ผมกล่าวมาด้านบนซัก 3 ใน 6 อย่างนี้แล้วจะดันราคาไปช่วง 1,069,000-1,099,000 ยังไงก็ยังขายได้ และไม่ทับไลน์กับ EL มากด้วย
เลยกลายเป็นถ้าผมอยากได้ของพวกนี้ ผมต้องไป RS ที่แม้จะคุ้มค่าด้วยราคาที่ถูกลงแต่ได้ของเพิ่ม แต่ขัดใจที่ได้ชุดแต่งที่ไมได้สวยในสายตาทุกคนมาด้วย
เห็นต่างครับ EL+ เพียงพอแล้ว ปัดน้ำฝนเองไม่ได้ลำบากแค่บิดนิดเดียว ล้อใหญ่แก้มยางก็เตี้ยไม่ได้อยากได้รถสปอร์ต เบาะคนขับปรับไฟฟ้าก็ดีแล้ว น่าเสียดายคนนั่ง แต่ทุกๆครั้งก็ไม่ได้ปรับอยู่แล้ว แอร์แยกมีก็ดี ไม่มีก็ได้ ขอแค่มันเย็นเร็ว paddle shift น่าเสียดายแต่ก็ยังมีเกียร์ S L lanewatch ไม่ชอบ อยากได้ blindspot ราคาสิชอบ 1,009,900 บาท ยังไม่ไกลจาก 1 ล้านมาก ไม่อยากจ่ายสิ่งที่ไม่ได้ใช้ ฮอนด้าน่าจะทำมาอีกรุ่นย่อยให้คุณ จะได้แฮปปี้ทั้งคู่
จริงๆของที่ขาดมันก็ไม่ได้แพงนะ
ขนาดมาสด้า2 ปี2018 ผมยังมีกะระยะถอย กับrain sensorเลย แถมไฟหน้า led ทั้งสูงต่ำ
และผมซื้อตัวรองท๊อปเองนะ
มาสด้าไม่เคยบ่นว่าขาดทุน มีแต่บอกว่าขายดีๆๆ แต่ตอนแรกไม่ให้ แป๊กไป2ปี ก็เอาต้นทุนมาอ้างแก้เก้อ อย่าไปบ้าจี้ตาม
ผมมองว่าอะไรให้ได้ก็ควรให้ อะไรไม่ได้จริงๆก็ต้องรับสภาพ
เช่นมันควรขายได้4000คัน แต่ขายได้3500 แบบนี้เค้าไม่รู้ตัวหรอก แต่มีผลแน่กับลูกค้าบางกลุ่มบางคน
บางทีก็เข้าตำราเสียน้อยเสียยาก แต่ไม่รู้ตัว
-
EL ถ้าคิดว่ามันคือ E เดิมที่เพิ่มเครื่อง Turbo กับ Sensing มา
ราคานี้ สบายใจเลยครับ มองจากดาวอังคารก็คุ้ม
EL+ เทียบราคากับสิ่งที่ได้อ่ะมันก็คุ้มอยู่หรอก
แต่สิ่งที่ผมคาดหวังไว้ก่อนเปิดตัวคือมันจะเป็นรุ่นที่เป็นรองท็อปที่ให้ออพชั่นเฉลี่ยมาตรงกลางระหว่าง EL กับ RS พร้อมราคาที่เฉลี่ยมาตรงกลางเช่นกัน
ไม่คิดเลยว่า Honda จะวางเกมส์ให้ EL+ เพิ่มแค่ในสิ่งที่คนทั่วไปอยากได้จาก EL แล้ว gap ต่างกันนิดเดียว
เพียงเพื่อจะดึงลูกค้ากลุ่มใหญ่ๆ ที่ไม่แต่งรถให้อุดหนุนมากกว่า EL แทนไปซะงั้น
แบบนี้ไม่ต้อง set EL มาให้ดูต่ำล้านก็ได้ครับ เปิดด้วย EL+ ไปเลย ยังไงเดินเข้าโชว์รูมที่ตั้งใจไปดู EL ก็เสร็จ EL+ หมด
เพราะผมคาดหวังในสิ่งที่ FC Turbo ตัวรอง และ FC 1.8EL มี แล้วตัวนี้ดันไม่มีไว้มากเลย อย่างปัดน้ำฝน Auto , ล้อ 17" , เบาะไฟฟ้าคู่หน้า , แอร์แยกซ้ายขวา , Paddle Shift , LaneWatch
ซึ่งถ้ามีของที่ผมกล่าวมาด้านบนซัก 3 ใน 6 อย่างนี้แล้วจะดันราคาไปช่วง 1,069,000-1,099,000 ยังไงก็ยังขายได้ และไม่ทับไลน์กับ EL มากด้วย
เลยกลายเป็นถ้าผมอยากได้ของพวกนี้ ผมต้องไป RS ที่แม้จะคุ้มค่าด้วยราคาที่ถูกลงแต่ได้ของเพิ่ม แต่ขัดใจที่ได้ชุดแต่งที่ไมได้สวยในสายตาทุกคนมาด้วย
เห็นต่างครับ EL+ เพียงพอแล้ว ปัดน้ำฝนเองไม่ได้ลำบากแค่บิดนิดเดียว ล้อใหญ่แก้มยางก็เตี้ยไม่ได้อยากได้รถสปอร์ต เบาะคนขับปรับไฟฟ้าก็ดีแล้ว น่าเสียดายคนนั่ง แต่ทุกๆครั้งก็ไม่ได้ปรับอยู่แล้ว แอร์แยกมีก็ดี ไม่มีก็ได้ ขอแค่มันเย็นเร็ว paddle shift น่าเสียดายแต่ก็ยังมีเกียร์ S L lanewatch ไม่ชอบ อยากได้ blindspot ราคาสิชอบ 1,009,900 บาท ยังไม่ไกลจาก 1 ล้านมาก ไม่อยากจ่ายสิ่งที่ไม่ได้ใช้ ฮอนด้าน่าจะทำมาอีกรุ่นย่อยให้คุณ จะได้แฮปปี้ทั้งคู่
จริงๆของที่ขาดมันก็ไม่ได้แพงนะ
ขนาดมาสด้า2 ปี2018 ผมยังมีกะระยะถอย กับrain sensorเลย แถมไฟหน้า led ทั้งสูงต่ำ
และผมซื้อตัวรองท๊อปเองนะ
มาสด้าไม่เคยบ่นว่าขาดทุน มีแต่บอกว่าขายดีๆๆ แต่ตอนแรกไม่ให้ แป๊กไป2ปี ก็เอาต้นทุนมาอ้างแก้เก้อ อย่าไปบ้าจี้ตาม
ผมมองว่าอะไรให้ได้ก็ควรให้ อะไรไม่ได้จริงๆก็ต้องรับสภาพ
เช่นมันควรขายได้4000คัน แต่ขายได้3500 แบบนี้เค้าไม่รู้ตัวหรอก แต่มีผลแน่กับลูกค้าบางกลุ่มบางคน
บางทีก็เข้าตำราเสียน้อยเสียยาก แต่ไม่รู้ตัว
จริงครับ ของที่เพิ่มมา ต้นทุนว่ากันจริงๆ ไม่ได้สูงเลย
แลกกับการที่สามารถเพิ่มราคาได้มากกว่าต้นทุนแล้วอุดช่องว่างสำหรับที่อยากได้ออพชั่นบางตัวที่ดีขึ้นจาก EL แต่ไม่ต้องการชุดแต่ง RS ได้
ไม่รู้จะปล่อย gap ตรงนี้ให้กว้างไว้ทำไมกัน ทั้งที่ความเป็นไปได้ในการจัดของจัดราคาตรงนี้ยังมีอยู่
-
EL ถ้าคิดว่ามันคือ E เดิมที่เพิ่มเครื่อง Turbo กับ Sensing มา
ราคานี้ สบายใจเลยครับ มองจากดาวอังคารก็คุ้ม
EL+ เทียบราคากับสิ่งที่ได้อ่ะมันก็คุ้มอยู่หรอก
แต่สิ่งที่ผมคาดหวังไว้ก่อนเปิดตัวคือมันจะเป็นรุ่นที่เป็นรองท็อปที่ให้ออพชั่นเฉลี่ยมาตรงกลางระหว่าง EL กับ RS พร้อมราคาที่เฉลี่ยมาตรงกลางเช่นกัน
ไม่คิดเลยว่า Honda จะวางเกมส์ให้ EL+ เพิ่มแค่ในสิ่งที่คนทั่วไปอยากได้จาก EL แล้ว gap ต่างกันนิดเดียว
เพียงเพื่อจะดึงลูกค้ากลุ่มใหญ่ๆ ที่ไม่แต่งรถให้อุดหนุนมากกว่า EL แทนไปซะงั้น
แบบนี้ไม่ต้อง set EL มาให้ดูต่ำล้านก็ได้ครับ เปิดด้วย EL+ ไปเลย ยังไงเดินเข้าโชว์รูมที่ตั้งใจไปดู EL ก็เสร็จ EL+ หมด
เพราะผมคาดหวังในสิ่งที่ FC Turbo ตัวรอง และ FC 1.8EL มี แล้วตัวนี้ดันไม่มีไว้มากเลย อย่างปัดน้ำฝน Auto , ล้อ 17" , เบาะไฟฟ้าคู่หน้า , แอร์แยกซ้ายขวา , Paddle Shift , LaneWatch
ซึ่งถ้ามีของที่ผมกล่าวมาด้านบนซัก 3 ใน 6 อย่างนี้แล้วจะดันราคาไปช่วง 1,069,000-1,099,000 ยังไงก็ยังขายได้ และไม่ทับไลน์กับ EL มากด้วย
เลยกลายเป็นถ้าผมอยากได้ของพวกนี้ ผมต้องไป RS ที่แม้จะคุ้มค่าด้วยราคาที่ถูกลงแต่ได้ของเพิ่ม แต่ขัดใจที่ได้ชุดแต่งที่ไมได้สวยในสายตาทุกคนมาด้วย
เห็นต่างครับ EL+ เพียงพอแล้ว ปัดน้ำฝนเองไม่ได้ลำบากแค่บิดนิดเดียว ล้อใหญ่แก้มยางก็เตี้ยไม่ได้อยากได้รถสปอร์ต เบาะคนขับปรับไฟฟ้าก็ดีแล้ว น่าเสียดายคนนั่ง แต่ทุกๆครั้งก็ไม่ได้ปรับอยู่แล้ว แอร์แยกมีก็ดี ไม่มีก็ได้ ขอแค่มันเย็นเร็ว paddle shift น่าเสียดายแต่ก็ยังมีเกียร์ S L lanewatch ไม่ชอบ อยากได้ blindspot ราคาสิชอบ 1,009,900 บาท ยังไม่ไกลจาก 1 ล้านมาก ไม่อยากจ่ายสิ่งที่ไม่ได้ใช้ ฮอนด้าน่าจะทำมาอีกรุ่นย่อยให้คุณ จะได้แฮปปี้ทั้งคู่
จริงๆของที่ขาดมันก็ไม่ได้แพงนะ
ขนาดมาสด้า2 ปี2018 ผมยังมีกะระยะถอย กับrain sensorเลย แถมไฟหน้า led ทั้งสูงต่ำ
และผมซื้อตัวรองท๊อปเองนะ
มาสด้าไม่เคยบ่นว่าขาดทุน มีแต่บอกว่าขายดีๆๆ แต่ตอนแรกไม่ให้ แป๊กไป2ปี ก็เอาต้นทุนมาอ้างแก้เก้อ อย่าไปบ้าจี้ตาม
ผมมองว่าอะไรให้ได้ก็ควรให้ อะไรไม่ได้จริงๆก็ต้องรับสภาพ
เช่นมันควรขายได้4000คัน แต่ขายได้3500 แบบนี้เค้าไม่รู้ตัวหรอก แต่มีผลแน่กับลูกค้าบางกลุ่มบางคน
บางทีก็เข้าตำราเสียน้อยเสียยาก แต่ไม่รู้ตัว
จริงครับ ของที่เพิ่มมา ต้นทุนว่ากันจริงๆ ไม่ได้สูงเลย
แลกกับการที่สามารถเพิ่มราคาได้มากกว่าต้นทุนแล้วอุดช่องว่างสำหรับที่อยากได้ออพชั่นบางตัวที่ดีขึ้นจาก EL แต่ไม่ต้องการชุดแต่ง RS ได้
ไม่รู้จะปล่อย gap ตรงนี้ให้กว้างไว้ทำไมกัน ทั้งที่ความเป็นไปได้ในการจัดของจัดราคาตรงนี้ยังมีอยู่
ช่องว่างราคาตรงนั้น เดาว่าคงเว้นไว้สำหรับ e-hev ล่ะครับ
สัก 2 รุ่นย่อย ถูกกว่า กับ แพงกว่า 1.5RS
-
EL+ คุ้มเลย ฮอนด้ามางวดนี้เอาจริง ตอบโจทย์ผู้บริโภคเลยครับ
+1
-
ตัวล่างสุด ลำโพง 4 ตัว
น้อยไปไหน นี่รถปี 2022 นะ ไม่ใช่ 1990 :-\