Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Red Bicycle ที่ กันยายน 28, 2021, 09:22:25
-
💕 สำนักแต่งรถกระบะดูมีให้ใช้บริการมากมาย
เต็มไปหมด ขนาดระดับอำเภอก็เยอะเลยครับ
ดูเข้าถึงง่าย การตบแต่ง ดัดแปลง อัพเกรด
จูนนิ่ง เพิ่ม performance มากมาย
ช่างก็ดูชำนาญ แต่รถเก๋งดูมีสำนักไม่มาก
-
หลายชิ้น เป็น Otop ครับ
หน่วยงานตรวจสอบมาตรฐานในการใช้บนถนนก็ไม่มี
ก็เลยสนุกกันแบบที่เห็นนั่นล่ะครับ
-
ถ้าในกทมและปริมณฑลผมว่าเก๋งรถครอบครัวรถบ้าน ก็เยอะพอควรเหมือนกันนะแต่ถ้าทางต่างจังหวัด รถวัยรุ่นสร้างตัวกินขาดเลยครับ
-
อยู่ที่ปริมาณครับ
Dmax revo สองรุ่นนี้ขายกันเกินครึ่ง
ลูกค้าก็เยอะ สต๊อกก็ง่าย เดือนนึง2รุ่นนี้ขายกัน 2-3หมื่นคัน
ถ้าเอา ppv มาด้วยอีกเท่าไหร่
แถมแนวทางยังเยอะ ซิ่ง on road off road ได้หมด
-
ยอดขายครับ
เอาแค่ DMax รุ่นเดียวขายทั้งปี (2020) 160K รถยนต์นั่งรวมกันทุกยี่ห้อประมาณ 100K
นี่ยังไม่รวม Revo NP300 Triton Ranger และ ยาวไปยัน Mux Fortuner Everest
พอจะเห็นภาพไหมครับ
ส่วนช่างแต่ง สำนักแต่งมีคุณภาพไหม พอว่าถ้าคิดเป็น% ก็มีทั้งห่วยและดี พอกันทั้งรถยนต์นั่งและรถเชิงพาณิชย์
-
ผมว่ามันก็เรื่อง demand supply นะครับ
กระบะขายมากกว่า มีโอกาสที่คนจะเอามาแต่งมากกว่า ทำให้มีชุดแต่งให้เลือกเยอะ และราคาก็มีหลายระดับ
-
Civic / City / Jazz นี่ก็ไม่น้อยนะ เพียงแต่รถพวกนี้ ส่วนใหญ่จะอยู่ใน กทม ร้านก็อยู่ กทม เป็นหลัก
ในขณะที่ กระบะตรงข้าม เพราะ กทม ไม่นิยม ไปเจอกันที่ ภูธร ซะมากกว่า และยอดขายกระบะมันก็มากกว่าครับ
-
มันเป็นกระแสในกลุ่มวัยรุ่นทำซ้ำๆ วนๆไป แค่นั้น กระบะดีเซลวิ่งแช่ยาวๆ ใส้ในพัง แตกละเอียดหมด แรงอัดมันสูง มันรับแรงอัดต่อเนื่องไม่ได้ขนาดนั้นหรอก ยิ่งพวกแต่งซิ่งนึกว่ารถแรง โบขาด กันทุกคัน แพ้รถเดิม แถมแพ้รถเบนซิล 1.5 NA ด้วยซ้าไป ใน ยูทุป มีคลิปแข่งกัน ทางเรียบถนนดำ กระบะให้ตายก้สุ้เก่งไม่ได้หรอก เพราะโครงสร้างรถมันผิดกัน กระบะก้คือกระบะ มีแผงคัสชี มีเพลา มันคือตัวหน่วง แถมรถไม่เกาะอีกต่างหาก ถ้าเกิน 140 นี้ ไม่ถอนก้ลงนรกเถอะ พวกกระบะชิ่ง ใช้ ล้อ ยางก็อป ทั้งนั้น ไม่กลัวล้อแตก ก้ให้รู้ไป เอารถใหม่ๆออกมา ใไปให้อู่ยำ เอาอะไหล่จีนมาใส่แล้วหลอกว่าของแรง โบตัวละแสน อุ่ก้เอาของถอดไปขายให้อุ่นอก รวยๆ
-
ถ้าหมายถึงแต่งรถกระบะเป็นรถซิ่ง อันนี้มันสะท้อนถึงการใช้รถผิดประเภทหรือเปล่าครับ?
-
หลายชิ้น เป็น Otop ครับ
หน่วยงานตรวจสอบมาตรฐานในการใช้บนถนนก็ไม่มี
ก็เลยสนุกกันแบบที่เห็นนั่นล่ะครับ
รู้แค่ว่า กฏหมายบ้านเรามี เข้มด้วย
แต่ผู้บังคับใช้กฏหมายมันไม่ได้เรื่อง
มอไซค์เล็ก ท่อดัง โดน
บิ๊กไบ้ค์ ถ้าเจอจังๆ โดน
แต่ฮาเล่ย์ ไม่โดน
เช่นกันครับ ถ้าผู้บังคับใช้กฏหมายเข็มเหมือนมอไซค์เล็กให้หมด
OTOP ไม่ได้เกิดหรอก หรือถ้าเกิด ก็เหมือนขายยาเสพติดกันเลยทีเดียว
-
แต่งล้อล้น ควันดำ ซิ่งกวนเมือง ไม่น่าชื่นชมหรอกครับ
-
💕 สำนักแต่งรถกระบะดูมีให้ใช้บริการมากมาย
เต็มไปหมด ขนาดระดับอำเภอก็เยอะเลยครับ
ดูเข้าถึงง่าย การตบแต่ง ดัดแปลง อัพเกรด
จูนนิ่ง เพิ่ม performance มากมาย
ช่างก็ดูชำนาญ แต่รถเก๋งดูมีสำนักไม่มาก
ตอบตามที่ถาม ยังไม่อยากนอกเรื่องดราม่าไปไกล
มีร้านทำดีเซลเยอะ เพราะรถมันมีเยอะและที่สำคัญมันคือรถ Turboครับ แค่ปรับนิดหน่อยมันก็แรงขึ้นชัดเจนแล้ว. รถเก๋งเบนซินNA ก็แต่งได้แต่ทำให้แรงมันยากและเสียเงินเยอะครับ แต่ในปัจจุบัน รถเก๋งเริ่มเปลี่ยนมาเป็น turboแล้ว และก็มีคนแต่งมากขึ้นเพราะมันทำง่าย ไม่นานก็จะมีของแต่งออกมาเยอะครับ.
-
ยอดขายกระบะมากกว่าเก๋งครับ
-
ทำมาเยอะเดี๋ยวเจอcity โบสวนงายเงิบเลย
-
หมายถึง body part ภายใน กระจุ๊กกระจิ๊ก หรือ เครื่องยนต์ ครับ
ถ้า body part มีทั่วไปเลย มีมาก่อนกระบะ และ ยังมีอยู่ เห็นได้ตามร้านแต่งรถทั่วไป
ถ้า เครื่องยนต์ ก็มีให้เห็นโดยทั่วไป สายเบนซิน มีคนเยอะแยะ ส่วนมากจะเป็นสาย Honda เยอะที่สุด รองลงมาก็ Toyota
ถ้า ภายใน ก็มีทั่วไป ทั้งแท้ ทั้งเทียบ ทั้งเกรด A 10 ตัว ก็มีหมด
อยู่ที่จะ focus ขนาดไหน
แต่กระบะมันเยอะ ช่วงหลังมานี่ 4-5 ปี ฮิตมาก เลยเห็นบ่อยๆ บนถนน
-
กระบะผลิตไทย ไทยใช้กระบะเยอะ แต่สำนักแต่งอุปกรณ์กระบะที่มีคุณภาพเป็นแบรนด์ออสเตรเลีย 80-90% อีก 10-20%เป็นอเมริกา เหลือของไทยไม่กี่% น่าเสียดายครับ
ของไทยขายได้หลักร้อย-หลักพัน ของออสเตรเลียขายได้หลักหลายพัน-หลักหมื่น
-
ร้านจูนเนอร์ เกิดขึ้นเพียบ รีแมพ 1800 แรงกว่าเดิมชัดเจน แต่แรงกว่ารถทั่วไปบนท้องถนนหรือหรือไม่ ขอตอบว่าไม่เลย
-
กระบะผลิตไทย ไทยใช้กระบะเยอะ แต่สำนักแต่งอุปกรณ์กระบะที่มีคุณภาพเป็นแบรนด์ออสเตรเลีย 80-90% อีก 10-20%เป็นอเมริกา เหลือของไทยไม่กี่% น่าเสียดายครับ
ของไทยขายได้หลักร้อย-หลักพัน ของออสเตรเลียขายได้หลักหลายพัน-หลักหมื่น
ถ้าร้านของแต่กระบุ หรือ suv แบรนด์ไทย ส่งออกขายไปแดนออสซี่ เยอะนะครับ
ผมเชื่อว่า เยอะกว่าไทยเอาแบรนด์ออสซี่มาขายในไทยซะอีกด้วย ทั้งช่วงล่าง กันชนออฟโรด บอดี้พาร์ท เพียบเลย แค่หลายคนไม่รู้
ไหนจะตะวันออกกลาง หรือ ประเทศเพื่อนบ้านเรา แบรนด์ ทั้งนั้นครับ ไปยันตลาดเมกา และ อังกฤษ ก็หลายแบรนด์ ลองหาข้อมูลดู
และพวกที่ส่งออกไปขายเมืองนอก ไม่ได้ถูก กระโหลกกะลา ด้วย
-
กระบะ Commonrail Turbo จูนกล่อง เพิ่มบูส สะกิดนิด สะกิดหน่อย ก็ได้แรงม้าเพิ่มหลายตัวแล้ว
ต่างกับรถเก๋งเครื่อง 1.2/1.5 N/A กว่าจะได้ม้าเพิ่มแต่ละตัวยากกว่าเครื่อง Turbo อยู่ไม่น้อย
วัยรุ่นสร้างตัวเลยนิยม ถอยกระบะมาแต่งซิ่งมากกว่าครับ
เรื่องของแต่ง /สำนักแต่ง เป็นเรื่อง demand - supply
-
กระบะ Commonrail Turbo จูนกล่อง เพิ่มบูส สะกิดนิด สะกิดหน่อย ก็ได้แรงม้าเพิ่มหลายตัวแล้ว
ต่างกับรถเก๋งเครื่อง 1.2/1.5 N/A กว่าจะได้ม้าเพิ่มแต่ละตัวยากกว่าเครื่อง Turbo อยู่ไม่น้อย
วัยรุ่นสร้างตัวเลยนิยม ถอยกระบะมาแต่งซิ่งมากกว่าครับ
เรื่องของแต่ง /สำนักแต่ง เป็นเรื่อง demand - supply
ผมว่า มันต่างกันครับ เอารถ NA ไปเทียบกับรถ เทอร์โบ มันไม่ค่อยใช่เท่าไหร่
ถ้าจะเทียบ ลองเทียบพวก Civic 1.5 Turbo ดูครับ เครื่อง 1.5 เดิมๆ ยังเกือบ 200 ม้าแล้วเลย พอๆ กับเครื่องกระบะดีเซล 3.0 เลยครับ แล้วทำโน่น ทำนี่ ทะลุ 300 ม้าได้สบาย
แต่จุดตายหรือจุดอ่อนของมันคือ เกียร์ ที่มันจะเอาไม่อยู่ พังก่อนอายุไขของมัน มันเลยทำให้ตลาดเก๋งซิ่ง เก๋งแต่ง มันไม่ได้กระโดดไปมากกว่านี้ เพราะมันตันด้วยเกียร์ พอจะไปยกเกียร์ FK7 / เครื่องเกียร์ FK8 มาลง ก็งบเยอะไปอีก
ด้วยราคา กระบะ เกียร์ MT ที่ตัวเริ่มๆ ก็ 4 ซะ 5 แสน ซึ่งถูกกว่า FC/FK เท่าตัวเลย มันเลยจับต้องง่ายกว่าครับ
-
กระบะ ดีเซลเทอโบทำง่ายกว่าครับ รีแมฟนิดเดียวก็ขึ้นแล้ว(เบนซิลเทอโบก็ด้วย) ที่สำคัญคือตัวรถราคาถูกกว่า คนใช้เยอะกว่า โดนเฉพสะต่างจังหวัด อู่แต่งรถ ร้านของแต่งเลยเยอะตามไป
คนซื้อกระบะมาเพื่อจะแต่งแรง ลง track คิดว่าไม่เยอะเท่าเก๋ง คิดว่าส่วนมากคือใช้กระบะตอบโจทย์การใช้งานอยู่แล้ว เลยเอาไปแต่งเพิ่มมากกว่า
-
ตามที่ตอบใน DBJ เลยครับ
-
สำหรับผมมันเป็นเพราะรถเก๋งขับหลังราคาจับต้องได้ในไทยมีแต่ Cefiro กับ Crown ครับ
ส่วนตัวผมก็ใช้แต่รถเก๋ง แต่ในเรื่องการทำรถ เล่นรถ จับวางเครื่อง สับเกียร์ธรรมดา ขนาดของห้องเครื่อง รถกระบะเทียบกับรถเก๋งทั่วๆไปมันทำอะไรได้เยอะกว่ามาก และมันไม่ใช่เพราะยอดขายสูงกว่า (ยอดขายมันเป็นเพียงแค่โครงสร้างภาษีทำให้กระบะสองประตูราคาคุ้มกว่า)
-
รถเก๋งก็มีสำนักแต่งรถมากๆพอกับรถกระบะครับ
รถเก๋งส่วนใหญ่ นิยมแต่งรถมากที่สุดก็มี Cefiro/Skyline/Civic/City/Yaris/Vios
-
กระบะ Commonrail Turbo จูนกล่อง เพิ่มบูส สะกิดนิด สะกิดหน่อย ก็ได้แรงม้าเพิ่มหลายตัวแล้ว
ต่างกับรถเก๋งเครื่อง 1.2/1.5 N/A กว่าจะได้ม้าเพิ่มแต่ละตัวยากกว่าเครื่อง Turbo อยู่ไม่น้อย
วัยรุ่นสร้างตัวเลยนิยม ถอยกระบะมาแต่งซิ่งมากกว่าครับ
เรื่องของแต่ง /สำนักแต่ง เป็นเรื่อง demand - supply
ผมว่า มันต่างกันครับ เอารถ NA ไปเทียบกับรถ เทอร์โบ มันไม่ค่อยใช่เท่าไหร่
ถ้าจะเทียบ ลองเทียบพวก Civic 1.5 Turbo ดูครับ เครื่อง 1.5 เดิมๆ ยังเกือบ 200 ม้าแล้วเลย พอๆ กับเครื่องกระบะดีเซล 3.0 เลยครับ แล้วทำโน่น ทำนี่ ทะลุ 300 ม้าได้สบาย
แต่จุดตายหรือจุดอ่อนของมันคือ เกียร์ ที่มันจะเอาไม่อยู่ พังก่อนอายุไขของมัน มันเลยทำให้ตลาดเก๋งซิ่ง เก๋งแต่ง มันไม่ได้กระโดดไปมากกว่านี้ เพราะมันตันด้วยเกียร์ พอจะไปยกเกียร์ FK7 / เครื่องเกียร์ FK8 มาลง ก็งบเยอะไปอีก
ด้วยราคา กระบะ เกียร์ MT ที่ตัวเริ่มๆ ก็ 4 ซะ 5 แสน ซึ่งถูกกว่า FC/FK เท่าตัวเลย มันเลยจับต้องง่ายกว่าครับ
ที่ผมเทียบกับรถเก๋งเครื่อง 1.2/1.5 เพราะว่าระดับราคามันพอๆ กันครับ
ถ้า Civic FC 1.5Turbo มันก็ต้องมี 9 แสน -1 ล้าน up
แต่ถ้ารถ B Segment มันก็อยู่ 6-7 แสน ก็ไปพอๆ กับกระบะตัวเตี้ย มีแค๊ป( แบบที่นิยมเอามาแต่ง มากที่สุด)ที่ราคาประมาณ 6-7 แสนกว่าๆ
ถ้าเรื่องเครื่อง ไม่เถียงหรอกว่า 1.5 V-Tec Turbo ทำแล้วแรงกว่า แต่ประเด็นคือ ระดับราคาที่วัยรุ่น หรือ คนเพิ่งเริ่มทำงาน แล้วซื้อรถจะเลือก
-
ยอดขายในไทย กระบะขายดีกว่ามาก และตัวถังมีให้เลือกน้อย ลงทุนทำ Part น้อยกว่า ใช้รวมกันได้ทั้งตอนเดียว แคป 4 ประตู