Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: !note! ที่ ตุลาคม 21, 2021, 00:21:57

หัวข้อ: ปกติท่านที่ซื้อรถเงินสด ซื้้อกันกี่เปอร์เซ็นต์ของเงินในบัญชีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: !note! ที่ ตุลาคม 21, 2021, 00:21:57
พอดีสนใจรถอยู่รุ่นนึงแพงสุดในชีวิตที่เคยซื้อ
รายได้ประจำไม่เหลือให้ผ่อนอะไรได้อีก
แต่มีเงินในบัญชี+บัญชีลงทุน ประมาณสองเท่าของราคารถ
อยากรู้ความเห็นหลายๆท่านว่าจะมีแนวทางยังไง
ถ้าซื้อจะซื้อกันกี่เปอร์เซ็นต์ของเงินเก็บครับ
หัวข้อ: Re: ปกติท่านที่ซื้อรถเงินสด ซื้้อกันกี่เปอร์เซ็นต์ของเงินในบัญชีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Puppu ที่ ตุลาคม 21, 2021, 01:34:54
ไม่เกิน 10% ครับ
หัวข้อ: Re: ปกติท่านที่ซื้อรถเงินสด ซื้้อกันกี่เปอร์เซ็นต์ของเงินในบัญชีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: REX ที่ ตุลาคม 21, 2021, 03:04:55
ไม่เกิน 25% ของเงิน บ/ช ธนาคาร
รถแพง ค่าใช้จ่ายแพงขึ้น ก่อนซื้อมักถามตัวเองก่อน ซื้อแพงขึ้นแล้วได้อะไร
ใช้สมรรถนะตุ้มค่าหรือเปล่า  ซื้อที่เหมาะกับเรา
ถ้าซื้อประหยัดลงได้  มีตังค์เหลือทอนเยอะ เอาไปลงทุนต่อในสินทรัพย์ให้ชนะเงินเฟ้อ
หัวข้อ: Re: ปกติท่านที่ซื้อรถเงินสด ซื้้อกันกี่เปอร์เซ็นต์ของเงินในบัญชีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Terng ที่ ตุลาคม 21, 2021, 05:54:00
ให้คิดว่า ถ้าวันนี้ไม่มีรายได้เข้ามาเพิ่มอีก เงินทั้งหมดที่มีจะเอาไปลงทุน หรือเก็บดอกเบี้ย ปันผลต่างๆ ให้เราใช้ในชีวิตประจำวันได้นานแค่ไหน แล้วนานพอจนเราจากโลกนี้ไปหรือไม่ แล้วทดลองดึงเงินเท่ามูลค่ารถที่อยากได้ออกดู ว่ากระทบขนาดไหน หากมันทำให้ชีวิตลำบากขึ้น แสดงว่ามูลค่ารถคันนั้นเยอะเกินไปเมื่อเทียบกับเงินที่คุณมีครับ ก็มีให้เลือกว่าจะหดฝันลง หรือจะหาเงินเพิ่ม ผมว่ามันไม่มีตายตัวหรอกว่า 10% 25%
หัวข้อ: Re: ปกติท่านที่ซื้อรถเงินสด ซื้้อกันกี่เปอร์เซ็นต์ของเงินในบัญชีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Turin ที่ ตุลาคม 21, 2021, 06:47:25
แพงสุดที่เคยซื้อ ประมาณ 30% ของ "เงินสด" ในมือ ซื้อแล้วใจหวิวๆ ... แต่ไม่มีหนี้ (สินเชื่อบ้านผ่อนหมดแล้ว) ทั้งบ้านผมมีประกันสุขภาพความคุ้มครองสูงอยู่ทุกคน เลยสบายใจได้หน่อย + เงินเดือนแต่ละเดือนผมเหลือเยอะอยู่ เฉลี่ยราวๆ 5% ของราคารถ ไม่รวมเงินและเงินเดือนของภรรยา

กรณี จขกท ไม่ค่อยเชียร์ ตึงอยู่นะครับ เพราะต่อเดือนไม่มีเงินเหลืออยู่แล้ว เรียกว่าถ้าซื้อแล้ว กว่าจะสะสมเงินได้ใหม่น่าจะอีกนาน (ไม่แน่ใจว่ามีสินเชื่อด้วยหรือเปล่า ถ้ามี ก็ยิ่งไม่ค่อยเหมาะครับ)

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็ต้องพิจารณาให้ละเอียดครับเป็นกรณีๆไปครับ เงื่อนไขชีวิตแต่ละคนไม่เหมือนกัน

ปล. "เงินสด" คือ เงินฝาก+กองทุนที่ขายได้ ไม่รวม LTF RMF SSF Provident fund ที่ขายไม่ได้ทั้งหลาย ไม่รวมทรัพย์สินที่ไม่มีสภาพคล่อง
หัวข้อ: Re: ปกติท่านที่ซื้อรถเงินสด ซื้้อกันกี่เปอร์เซ็นต์ของเงินในบัญชีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: joekling ที่ ตุลาคม 21, 2021, 08:03:35
ผมซื้อ 30% ของเงินสดที่มีครับ รายได้ต่อปีผมประมาณ 200% ของราคารถ

ก่อนหน้านี้เอาเงินไปซื้อบ้านเงินสด เลยมีเงินสดน้อยครับ แต่ผมสนับสนุนให้ซื้อเงินสดครับ

คนเราไม่ควรบริหารหลายเรื่องเกินไป ซื้อสดแล้วเอาเวลาไปทำอย่างอื่นง่ายกว่า
หัวข้อ: Re: ปกติท่านที่ซื้อรถเงินสด ซื้้อกันกี่เปอร์เซ็นต์ของเงินในบัญชีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: mongolias ที่ ตุลาคม 21, 2021, 08:13:36
ผมว่าแล้วแต่ว่าคุณวางแผนการเงินอย่างไรครับ
ซื้อเงินสด ข้อดีคือ ไม่มีดอกเบี้ย ตัดประเด็นเรื่องปัญหาเงินผ่อนออกไป แต่เงินออกจากแบงก์ก็อาจจะหวิวๆหน่อย 555
ส่วนตัวเคยซื้อรถเงินสดครั้งเดียว ตอนโครงการรถคันแรก ที่บ้านออกรถให้ภรรยา โดยมีเงินเหลือในบัญชีน่าจะราวๆ เท่านึงของรถครับ

ปัจจุบันรถ 2 คัน เป็นหนี้หัวโตอยู่ทั้งคู่ คันนึงปีหน้าหมด อีกคันนึงอีก 2.5 ปี เงินสดที่มีสามารถซื้อเงินสดได้พร้อมกันทั้ง 2 คัน แต่เอาเงินไปลงทุนได้ดอกเบี้ยมากกว่าดอกเบี้ยรถครับ
หัวข้อ: Re: ปกติท่านที่ซื้อรถเงินสด ซื้้อกันกี่เปอร์เซ็นต์ของเงินในบัญชีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: รถจักรไอน้ำ ที่ ตุลาคม 21, 2021, 08:39:45
ตอบยากแหะ ถ้านับแค่บัญชีออมทรัพย์ก็ 100% เลยครับ เพราะผมจะตัดมาให้พอดีกับราคารถก่อนซื้อแคชเชียเช็ค

แต่ถ้านับทั้งหมดที่ลงทุนไว้เป็นกี่ % ก็แค่หลักหน่วยครับ
หัวข้อ: Re: ปกติท่านที่ซื้อรถเงินสด ซื้้อกันกี่เปอร์เซ็นต์ของเงินในบัญชีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: mobgang33 ที่ ตุลาคม 21, 2021, 08:43:04
รายได้ประจำมั่นคง สำหรับผมซื้อผ่อน อย่างเดียวครับ เพราะเลือกดอกเบี้ยถูก ไม่เกิน 1.2%
ดาวน์เยอะ ผ่อน48เดือนพอหรือน้อยกว่านั้น ราคารถไม่เกินรายได้ 1ปีครับ
แต่ถ้าต้องซื้อสด ก้อคงต้องแค่ 10% ของเงินเย็น นิ่งๆเลย ในบัญชีครับ
หัวข้อ: Re: ปกติท่านที่ซื้อรถเงินสด ซื้้อกันกี่เปอร์เซ็นต์ของเงินในบัญชีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: F e r m a r c o ที่ ตุลาคม 21, 2021, 09:34:01
สิ่งที่คิดไว้
ซื้อเงินสด ถ้าไม่เกิน 20% ของเงินที่มี

สิ่งที่เป็น
ผ่อนทุกคัน โดยเลือกที่ดอกเบี้ยน้อยหรือ0% มองรถจะตกรุ่น, เดโม่ บ้างเพราะส่วนลดเยอะ
แล้วเอาเงินส่วนต่างมาลงทุนต่อ
 :P
หัวข้อ: Re: ปกติท่านที่ซื้อรถเงินสด ซื้้อกันกี่เปอร์เซ็นต์ของเงินในบัญชีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: GOBBS ที่ ตุลาคม 21, 2021, 09:46:27
ไม่มีตายตัวนะ
ตอนผมซื้อรถ ไม่ได้ดูเลยว่าเท่าไหร่ คิดแค่ว่า ผ่อนมันก็เสียดอก ก็ซื้อสดไปสิประหยัดไปหลายหมื่น แค่นั้นจริงๆ
งานประจำก็มี งานที่ร้าน(ตัวเอง)ก็ยุ่ง ไม่มีเวลาเอาเงินไปลงทุนอะไร ก็ไม่รู้จะเสียดอกไปทำไม แค่นั้น
**บางรุ่นบอกผ่อน 0 เปอร์เซนต์ แต่ถ้าซื้อสด ส่วนลดขอได้เพิ่มนะ**
..............
แต่สิ่งที่ต้องคิดมากกว่าคือ รถคันนั้นมันจำเป็นกับคุณรึเปล่าละครับ ต้องใช้ไหม หรือเราซื้อรุ่นถูกกว่าก็ได้
เพราะถ้าต้องมาคิดเรื่องแผนการเงินมากมายแล้ว แปลว่าการเงินคุณอาจจะตึงๆอยู่
รถมันสินค้าเทคโนโลยีครับ ปีหน้าก็มีรถที่ดีกว่าเดิมออกมาอยู่ดี .... เป็นผมเอารถพอใช้วันนี้ ไปเอารถดีกว่าในวันที่การเงินเราคล่องๆ ดีกว่าครับ
และอย่าลืมว่า รถยิ่งแพง ค่าใช้จ่ายที่ตามมายิ่งสูงกว่ารถราคาถูกครับ(ยกเว้นยี่ห้อ XXX นะอันนั้นรถราคาถูก คชจ.ดันแพงกว่ารถตลาด)
ค่าประกัน ค่าภาษี หลายอย่างที่มองไม่เห็นมีอีกเยอะครับ...ยกตัวอย่างชาวเน็ต ชอบเชียร์เครื่องใหญ่ตัวแรง 3.0....ภาษีป้ายดำนี่เกินครึ่งหมื่นเลยนะ อันนี้อย่าลืมคิดด้วย
หัวข้อ: Re: ปกติท่านที่ซื้อรถเงินสด ซื้้อกันกี่เปอร์เซ็นต์ของเงินในบัญชีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Sacrifice ที่ ตุลาคม 21, 2021, 10:20:27
สำหรับผม 99% ครับ  พึ่งซื้อ HRV ไปเลย

สำหรับคนรายได้ต่ำ มนุษย์เงินเดือนอย่างผม ไม่อยากผ่อน เป็นหนี้ เสียดอกเบี้ย  ก็วนใน loop นี้แทน

เก็บเงิน > ซื้อรถ > รถเริ่มเก่า 9 ปี >มีเงินเก็บ + ขายรถเก่า > ซื้อรถใหม่ > เก็บเงิน

ถ้าเป็นมนุษย์เงินเดือนทั่วๆ ไปก็

เก็บเงิน ดาวน์รถ > ซื้อรถ > ผ่อนจนหมด > รถเก่า > ขายรถเก่า+เงินเก็บ  > ดาวน์รถใหม่

หัวข้อ: Re: ปกติท่านที่ซื้อรถเงินสด ซื้้อกันกี่เปอร์เซ็นต์ของเงินในบัญชีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: SM. ที่ ตุลาคม 21, 2021, 11:36:48
ก็น่าจะซื้อได้นะครับ จากการเงินของ จขกท

ถ้าอยากให้มั่นใจกว่านี้ก็ต้องดูว่า เงินอนาคตที่จะได้มานั้น แน่นอนแค่ไหนและเท่าไหร่ครับ
หัวข้อ: Re: ปกติท่านที่ซื้อรถเงินสด ซื้้อกันกี่เปอร์เซ็นต์ของเงินในบัญชีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: tew ที่ ตุลาคม 21, 2021, 18:11:29
ซื้อผ่อน ดอกเบี้ยต่ำๆ พอคิดอัตราเงินเฟ้อแล้ว ถูกกว่าซื้อสดในวันนี้อีก
หัวข้อ: Re: ปกติท่านที่ซื้อรถเงินสด ซื้้อกันกี่เปอร์เซ็นต์ของเงินในบัญชีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: whoami ที่ ตุลาคม 22, 2021, 09:13:53
ถ้ามีกิจการปล่อยกู้นอกระบบ ดอกร้อยละ 20 ผมจะเชียร์ให้ซื้อผ่อนให้ได้มากที่สุด แล้วเอาเงินที่เหลือมาปล่อยกู้

ถ้าคิดว่าผ่อนแล้วเอาไปลงทุนอย่างอื่น อย่าลืมว่ามันมีโอกาสเจ๊งด้วยนะ ไม่ใช่ทุกคนที่ลงทุนแล้วกำไร

ดังนั้นซื้อสดให้ได้เท่าที่ไหวครับ แบบพอยังมีเงินเหลือติดบัญชีไว้บ้างยามจำเป็น อาจลดรุ่นย่อยลงมาตัวล่าง ไม่จำเป็นต้องตัวท็อป หรือลดไปซื้อรุ่นถูกลงก็ได้เพื่อให้มีเงินเหลือไว้บ้าง

อนึ่งบางครั้งรถบางรุ่นมีดอกเบี้ย 0% แต่เค้าก็เอาส่วนลดเงินสดที่จะให้คุณนั่นแหละ มาจ่ายดอกให้ไฟแนนซ์
หัวข้อ: Re: ปกติท่านที่ซื้อรถเงินสด ซื้้อกันกี่เปอร์เซ็นต์ของเงินในบัญชีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: Seatar ที่ ตุลาคม 22, 2021, 09:40:31
ประมาณ 50-60%ครับ.....คือ ผมมีเงินสดไม่เยอะครับ อยุ่ในรุปสินทรัพย์มากกว่า
หัวข้อ: Re: ปกติท่านที่ซื้อรถเงินสด ซื้้อกันกี่เปอร์เซ็นต์ของเงินในบัญชีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: locomotive ที่ ตุลาคม 22, 2021, 10:20:56
รถมอไซค์ที่บ้าน 5 คันล่าสุด Forza350 PCX150 Wave125 Grandfilano 125 HB และคันล่าสุด SuperCub 125 ซื้อสดทุกคัน ส่วนรถยนต์ที่ใช้อยู่ Ranger T6 2020 ผ่อนเอา แต่เหลือยอดอีกปี ว่าจะจ่ายก้อนให้หมด
หัวข้อ: Re: ปกติท่านที่ซื้อรถเงินสด ซื้้อกันกี่เปอร์เซ็นต์ของเงินในบัญชีครับ
เริ่มหัวข้อโดย: D Water Law ที่ ตุลาคม 22, 2021, 14:54:12
สำหรับผมนะ ถ้ามีเงินเก็บเพียงพอในกรณีฉุกเฉิน หรือมีการป้องกันความเสี่ยงอย่างเพียงพอแล้ว เช่น ซื้อประกันสุขภาพแล้ว  มีประกันรถยนต์ครบแล้ว  ซึ่งมัน Cover กับความเสี่ยงแล้ว     ผมไม่สนใจเรื่องเปอร์เซนต์ของเงินสดเลยครับ    ตัวแปรหลักมี 2 ตัว คือ

1. เงินสดหรือเงินลงทุนที่มีอยู่ สามารถสร้างผลตอบแทนแค่ไหน และ มีความเสี่ยงในระดับไหน

2. ประเมินรายได้ที่เข้ามาในอนาคต และ รายจ่ายในอนาคต หักลบกันแล้ว เหลืออยู่ที่เดือนละเท่าไร


ดังนั้น  2 คันล่าสุดที่ซื้อมา  ใช้เงินสดซื้อครับ   ขายเงินลงทุนในส่วน Fix Income   เพราะคำนวณแล้ว  การเอาเงินที่จะจ่ายค่างวดมาผ่อนคืนเข้าการลงทุน Fix Income แทน   มันคุ้มกว่าเอาไปจ่ายดอกเบี้ยและค่าดำเนินการโอนอื่นๆ ให้กับไฟแนนซ์ครับ

ปล.  สำหรับรถยนต์ ผมคิดว่าผ่อน 0% ไม่มีจริงครับ  เพราะถ้าที่ราคานั้นเราสามารถผ่อน 0% ได้  แสดงว่าเรายังสามารถขอส่วนลดเงินสดได้อีกครับ