Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: a601970 ที่ พฤศจิกายน 16, 2021, 21:11:40
-
เช่นฮอนด้าซีอาร์วี ไม่ว่าจะไปโชว์รูมไหนก็จะมีแต่ตัวดีเซลให้ลอง ตัวเบนซิน 2.4 หาลองไม่ได้เลย
โตโยต้าคัมรี่ก็มีแต่ตัวไฮบริด คนอยากทดลองขับตัว 2.5 กับ 2.0 ก็หาไม่ได้
อัลติสก็มีแต่ไฮบริดให้ลอง หาตัว 1.8 หรือ 1.6 ไม่มีเลย
ยิ่งกระบะตอนเดียวเกียร์ธรรมดาไม่มีให้ลองซักยี่ห้อ
แย่มากเลยนะครับ เป็นทุกยี่ห้อ ส่วนมากจะเอารุ่นแพงๆที่ลูกค้ากำลังซื้อไม่ไหวมาเป็นตัวทดลองขับ
รุ่นเครื่องยนต์ตัวล่างๆ หรือรุ่นเกียร์ธรรมดาไม่มีให้ลองเลย
คนซื้อรถไม่ได้รวยทุกคน
ขอฝากถึงบริษัทรถทั้งหลายด้วยนะครับ
ยอดขายจะเพิ่มอีกมากถ้าคุณเอารถที่ราคาจับต้องได้มาให้ลูกค้าได้ลองขับบ้าง
ผมอยู่สุราษฎร์ธานีเดินทางไปๆมากับนครศรีธรรมราช รถลองของศูนย์ทำแบบนี้ทุกยี่ห้อ
เพื่อนสมาชิกที่อยู่จังหวัดอื่นเป็นแบบนี้หรือเปล่าครับ
-
รถเดโม่ศูนย์ต้องซื้อเอง ถ้าจะซื้อครบทุกเครื่อง คงเจ๊งพอดี
-
กรณีของโตโยต้า เขามี TDEX อยู่แถวบางนา กทม ครับ
พี่สามารถจองรถรุ่นที่อยากลองขับได้เลยทางเว็บไซต์
ไว้ถ้ามีโอกาสขึ้นมาทำธุระที่ กทม ก็ลองเผื่อเวลาแวะมาใช้
บริการได้ครับ
ส่วนโชว์รูมทั่วไป ถ้ามีรถ Demo ได้คันเดียว คันที่ควรมี
คือคันที่มีออปชั่นครบทุกอย่างในคันนั้นให้ลูกค้าได้ลองใช้ไงครับ
แต่ถ้าพี่อยากลองรุ่นล่างๆ ลงมา น่าจะใช้วิธีเช่าเอาดีกว่าครับ
ส่วนใหญ่แล้วรถเช่าจะมีรุ่นที่ไม่ท็อปอยู่แล้วครับ
-
เป็นเทคนิคทางการตลาดครับ
ต้องเอารุ่นท็อปมาให้ลูกค้าลองเพื่อให้ลูกค้าได้ประสบการณ์และความประทับใจให้มากที่สุดทั้งด้านเครื่องและ option
บางคนตั้งใจไม่ซื้อตัวท็อปแต่ลองแล้วเปลี่ยนใจก็มี
ถ้าเอารุ่นล่างมาก็เหมือนเอาของไม่ครบให้ลูกค้าลอง ก็จะมีเรื่องให้บ่นได้เยอะกว่ารุ่นท็อป
และรุ่นที่บริษัทให้ดีลเลอร์ซื้อในราคาเดโม่ส่วนใหญ่ก็เป็นรุ่นท็อปด้วยครับ
-
น่าจะเป็นที่นโยบายของแต่ละดีลเลอร์ เกี่ยวกับต้นทุนที่ตัดรถในสตอกมาทำรถเทส
Honda Accordตัวเริ่ม1.5T มีให้ลองนะครับส่วนตัวก็เคยลองก่อนซื้อเหมือนกัน แต่กับcivic fcตัวที่แล้ว ศูนย์ส่วนใหญ่ก็มีแต่1.5T
Isuzu บางที่ก็มีดีแมคสเปชแคปตัวเตี้ยให้ลองนอกจากสีประตูขับสี่ล้อ บางที่ก็มีMu-X 1.9 ให้ลองแต่ส่วนใหญ่มักเป็น3.0
ส่วนตัวอยากให้มีให้ลองทุกเครื่องยนต์ แบบอัลติสควรมีให้ลองทุกเครื่องหรืออย่างน้อยมี1.8ไม่ไฮบริดก็ยังดี แต่ไม่ต้องครบทุกรุ่นย่อยก็ได้อย่างรถกระบะอาจจะไม่ต้องครบทุกรุ่นย่อยหรอก เช่นมีเครื่องเล็กขับสองแคปเตี้ยเกียร์mt สี่ประตูยกสูงเครื่องเล็กอีกคัน สี่ประตูเครื่องใหญ่อีกคัย
-
สมัยก่อน ช่วง Camry Hybrid ขาดตลาดรอนานๆ ช่วงนั้นก็มี 2.5g ให้เทสหลายที่เลยครับ
น่าจะอยู่ที่นโยบายการตลาดแล้วแต่ช่วงเวลามั้งครับ
-
ทำไมถึงมีแต่รุ่น Top?
เพราะ รุ่น Top ให้ Option มากสุด "น่าจะ" ทำให้เกิดความประทับใจแก่ ล/ค มากสุด
เท่าที่รู้มา..
"โดยมาก" รถทดลองขับแต่ละศูนย์ๆ นั้นจะต้องซื้อเอง
แต่จะได้ "ส่วนลดมากเป็นพิเศษ" จาก บ.แม่
แต่ก็มี "ข้อจำกัด" ว่าให้ซื้อได้แค่รุ่นละกี่คัน ตามขนาดของยอดสั่งซื้อของศูนย์นั้นๆ และห้ามจำหน่ายก่อนแบบมีเงื่อนไข
ดังนั้น รถทดลองขับ เมื่อผ่านไประยะหนึ่งตามเงื่อนไขที่ บ.แม่กำหนด ที่สามารถเอามาขายต่อได้
ตัว Top ที่ได้มา "มีโอกาส" ขายได้ง่ายและกำไรมากกว่า จากส่วนลดพิเศษ
ศูนย์ต่างๆ จึงเลือกแบบนี้
-
ยังดีนะครับที่มีรถให้เทส ถ้าเป็นแบรนด์ยุโรป ในต่างจังหวัด รถให้ทดลองขับแทบไม่มีเลยต้องรอยืมรถจากบ.แม่มาเป็นอาทิตย์ๆเอา
รถเทสทางดีลเลอร์ต้องซื้อเข้ามาเป็นสต๊อกครับ จะลงในเอกสารซื้อขายรถจากบ.แม่เลยว่าคันนั้นเป็นรถเทส จะได้ราคาที่ต่ำกว่ารถขายทั่วไปหน่อย
พอวิ่งครบระยะศูนย์ก็จะนำมาขายเป็นรถทดสอบยังไม่จดเทียน วนไปอย่างงี้ ในมุมของดีลเลอร์ถ้าจะสต๊อกรถทดสอบรุ่นเดียวหลายเกรด
สู้สั่งเข้ามาเป็นรถสต๊อกเอเอาขึ้นโชว์บนโชวรูมยังจะคุ้มกว่าครับ
ส่วนเรื่องเครื่องที่ต่างกัน ถ้าไม่ใช่ศูนย์ใหญ่ๆก็แทบจะมีเป็นรุ่นท๊อปไปเลย เพราะต้องเฉลี่ยนรถให้ครบทุกรุ่น
-
รถเทสที่ ศ. ให้ท่านๆลองขับ
คือรถที่ ดีลเลอร์ของพื้นที่นั้นๆ จะต้อง "ซื้อ" เองนะครับ (อาจจะซื้อได้ถูก แต่ก็ต้องซื้อ)
จะสังเกตุว่า ศ.เล็กๆ จะไม่มีรถให้เทส ถ้าจะเทส เขาจะต้องยืมจาก ศ. อื่น (ที่เป็นดีลเลอร์เจข้าของเดียวกัน) มาให้
ดังนั้น บอกเลย ไม่มี ศ. ไหนมีรถให้ท่านเทสทุก ศ.
ดังนั้น ศ. จะต้องซื้อรถที่ Option เต็มสุดมา เพื่อให้ลูกค้าลองทุกระบบ และเพื่อให้เซลซึกษาทุกระบบด้วยเช่นกัน
-
นอกจากที่หลายๆท่านบอกมาแล้ว การเอารุ่นแพงสุดมาลง ทำให้เหมือนลูกค้าได้อะไรมากมาย ครบๆ ล้นๆ จะสร้างความประทับใจได้มากกว่าเอารุ่นล่างๆ มานะครับ
-
นอกจากที่หลายๆท่านบอกมาแล้ว การเอารุ่นแพงสุดมาลง ทำให้เหมือนลูกค้าได้อะไรมากมาย ครบๆ ล้นๆ จะสร้างความประทับใจได้มากกว่าเอารุ่นล่างๆ มานะครับ
ผมก็คิดแบบนี้ครับ