Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: new36 ที่ พฤศจิกายน 30, 2021, 00:56:18
-
ผมกำลังจะขยายความจุเครื่องที่ใช้อยู่ครับ เป็นเครื่องเบนซิน จากเดิม 1,990 ซีซี (2.0) เป็น 2,533 ซีซี (2.5) ครับ
สูตรนี้ผมได้มาจากเว็บคลับเมืองนอกครับ ซึ่งในส่วนระบบเครื่องกลก็ไม่ติดอะไร แต่มีข้อสงสัยอย่างนึงตรงเรื่องระบบจ่ายน้ำมันครับ คือในเว็บเขาบอกว่าให้ใช้ระบบจ่ายน้ำมันของเดิมได้เลยคือ กล่อง ecu เดิม หัวฉีดเดิม เรกูเรเตอร์เดิม แอร์โฟร์เดิม ของเครื่อง 2.0
แต่ผมมาคิดดู เราเพิ่มความจุไปตั้ง 500 ซีซี มันควรจะต้องเปลี่ยนเพื่อให้สอดคล้องกัน
ผมไม่ต้องการเครื่องแรงมาก ขอแค่ให้เครื่องเซฟที่สุดก็พอครับ คือกลัวพังอย่างเดียวว่างั้น แรงพอประมาณพอ 555+
ทีนี้จากข้อมูลที่ผมรวบรวม ที่จริงรถรุ่นนี้ก็มีเครื่อง 2.5 (2,494 ซีซี) จากโรงงานอยู่แล้วครับ ซึ่งใช้อุปกรณ์ต่างกับเครื่อง 2.0 ดังนี้
หัวฉีด
2.0 = 154 ซีซี
2.5 = 190 ซีซี
เรกูเรเตอร์
2.0 = 3 บาร์
2.5 = 3.5 บาร์
ผมสงสัยว่าเว็บนอกบอกให้ใช้อุปกรณ์ของเดิมของเครื่อง 2.0 ได้ แปลว่ามันเอาอยู่ แต่ถ้าผมจะอัพเกรตเพื่อเซฟเครื่อง (ยังไงผมก็คิดว่าใช้ของ 2.0 ส่วนผสมน่าจะบางครับ เมื่อกดหนักๆ) ผมควรเปลี่ยนตัวไหนบ้างครับ?
ปล. ผมไม่อยากเปลี่ยนทั้งหมดเพราะอยากรู้ด้วยว่าแต่ละอย่างมีผลอย่างไร และเว็บนอกเขาบอกว่าของเดิมเอาอยู่ก็จะได้ประหยัดเงินด้วย
-
"ใช้ได้" กับ "ใช้ดี" ไม่เหมือนกันครับ
ถ้ายังไม่อยากเปลี่ยนทั้งหมดทีเดียว ลองหาทางวัด duty cycle หัวฉีด กับ AF Ratio ดูก่อนครับ ถ้า WOT รอบสูงๆ duty cycle ยังไม่สูงมาก (90% อะไรงี้) และ AF ยังได้อยู่ .. ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง (แต่ safety factor ก็ลดลงอ่ะนะครับ)
-
การขยาย cc เพิ่มทำให้มีแรงม้าเพิ่มจาก cc ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งผลคือต้องมีการเปลี่ยนอุปกรณ์ที่ตามมาหลายๆเช่น regulator, หัวฉีด อาจต้องรวมไปถึงต้องพ่วงกล่องจูนไปด้วยครับ ยิ่งถ้าเป็นเครื่อง turbo ผมว่าได้เปลี่ยนลูก ก้าน ข้อไปด้วยแน่ๆ ถ้ามีตรงรุ่น 2500 cc หาตรงรุ่นมาวางดีกว่าครับ
-
"ใช้ได้" กับ "ใช้ดี" ไม่เหมือนกันครับ
ถ้ายังไม่อยากเปลี่ยนทั้งหมดทีเดียว ลองหาทางวัด duty cycle หัวฉีด กับ AF Ratio ดูก่อนครับ ถ้า WOT รอบสูงๆ duty cycle ยังไม่สูงมาก (90% อะไรงี้) และ AF ยังได้อยู่ .. ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง (แต่ safety factor ก็ลดลงอ่ะนะครับ)
ใช่ครับ ผมก็ยึดถือคำนี้เหมือนกัน "ใช้ได้" กับ "ใช้ดี" ไม่เหมือนกันครับ ;)
ในที่นี้ผมจึงพยายามที่จะทำให้เครื่องเซฟที่สุดครับ แต่อย่างที่บอกผมไม่ต้องการแรงม้ามากเกินไป แบบ 200+ ขอแค่ขับสนุกกว่าเดิมเล็กน้อยก็พอแล้ว เพราะใช้ในเมืองซะมากกว่า
ส่วนตัวผมก็มีตัว 2.5 โรงงานอยู่เหมือนกันครับและผมลองจับอัตราการกินน้ำมัน พบว่าตัว 2.0 กินแทบไม่ต่างกับ 2.5 เลย ประหยัดกว่าแค่นิดเดียว (7 กับ 8 โลลิตร) แต่ความแรงต่างกันอยู่พอสมควร นี่จึงอีกเหตุผลหนึ่งที่ผมจะเอาเครื่อง 2.0 มาโมครับ
ส่วนเรื่อง A/F ratio ถ้าหาเกจวัดมาติดที่คอนโซล น่าจะพอใช้ได้ไหมครับ? หรือจำเป็นต้องหาแบบที่เป็นซอฟต์แวร์มืออาชีพมาดูเลย
รบกวนด้วยครับผมยังใหม่เรื่องการโมเครื่องยนต์อยู่มาก
-
อันนั้นงานใหญ่ อย่าทำเลยครับ
ที่ทำ ส่งผลต่อทุกส่วนของระบบ ต้องอัปเกรดตามอยู่แล้วครับ เสียรถเปล่า กลายเป็นรถรักอู่ เดี๋ยวนั่นพังนี่พัง
ถ้าทำแค่ปรับหัวฉีด ใส่ค่าที่ถูกต้อง ปรับค่า การจ่ายน้ำมัน -ส่วนผสม -ตามสมการตมแรงบิด แรงม้าที่เราต้องการปรับเพิ่ม ก็เพียงพอแล้ว
-
ผมแอบงงโจทย์นิดนึงนะครับ
เห็นบอกกลัวเครื่องพัง อยากให้เครื่องเหนียว ไม่ได้ต้องการความแรง หรือ แรงม้าเยอะๆ
คำถามผม ทำไมถึงต้องเพิ่ม CC หรือป่าวครับ ..... ??
เพราะการเพิ่ม CC มันคือ จุดสุดท้ายที่เขาจะทำกัน ในกรณีที่ เครื่องเดิม CC เดิม มันเริ่มตัน ดัน แรงม้า แรงบิด ไม่ได้แล้ว เลยต้องเพิ่ม CC กัน เช่น RB28, K26,K28 หรือ สายดีเซลพวก 4JJ เครื่อง 3000->3200 เป็นต้น
ถ้าเป็นผม แค่อยากขับสนุกขึ้น ผมจะเน้นทุกอย่างเดิม ทำ remap (ถ้าศัพท์รถยุโรปอาจจะเรียก Stage1) หรือจะไล่ข้าง พวก ท่อ กรอง กล่อง เทอร์โบ (ถ้าศัพท์รถยุโรปอาจจะเรียก Stage2) เอาก็ได้ แค่นี้ แรงม้าก็มาเป็นฝูงแล้ว ไม่ได้จำเป็นต้องไปยกใส้ใน หรือ ทำเยอะขนาดนั้นเลย
ปล. เครื่องอะไร รถอะไร เหรอครับ
-
ที่ทำ 2.0 เป็น 2.5 นี่เป็นเครื่องบล็อกเดียวกัน ลูกสูบขนาดเท่ากัน เปลี่ยนแค่เพลาข้อเหวี่ยงกับก้านสูบหรือเปล่าครับ? ถ้ามากกว่านั้นผมว่าเปลีี่ยนเครื่องน่าจะคุ้มกว่านะครับ
ผมว่าอย่างน้อยน่าจะเปลี่ยน regulator สักหน่อย เผื่อจังหวะขึ้นรอบสูงมากๆแล้วน้ำมันไม่พอ
-
จากข้อมูลที่ให้มา ผมเดาว่า M50B20 ใส่แครงก์ M52B28
ผมคิดว่าต่อให้เอาหัวฉีด ใส่เรก 2.5 ก็ไม่จบครับ เพราะ Bore/Stroke ของทั้งสองตัวก็ไม่เหมือนกันเลย เหมือนจะไม่มีผลเพราะสรุปสุดท้าย CC พอ ๆ กัน แต่เอาเข้าจริงทุกปัจจัยมีผลครับ ผมว่าถ้าจะรื้อเครื่องออกมาขนาดนี้แล้ว จะใช้หัวฉีดเดิม หรือเปลี่ยนหัวฉีด ก็ต้องจูนกล่องเพิ่มอยู่ดี และถ้ามันเป็นรถที่ผมเดาจริง ๆ กล่อง Motronic เดี๋ยวนี้ก็รีแมปได้ละครับ และไม่แพงด้วยเมื่อเทียบกับค่ารื้อเครื่อง ค่าเปลี่ยนเครื่องใหม่ถ้าเกิดสภาวะ Lean ขึ้นมา
โดยส่วนตัวผมเชื่อว่า กรณีนี้ หัวฉีดเดิม กล่องเดิม มันก็พอจริง ๆ นั่นแหละครับ ฝรั่งในบอร์ดเฉพาะรุ่น เขาทำเขาเล่นกันจริงมาเยอะกว่าพวกเราแน่นอนครับ แต่ก็นะ รีแมปหมื่นต้น ๆ ได้แรงกว่าเดิมชัวร์ ๆ ผมว่ามันคุ้มกว่านะถ้าเราจะยอมเปลี่ยนแครงก์ รื้อเครื่องแล้ว
-
หวังอะไรจากการเพิ่มขนาด CC ครับ ??
เป็นผมจะไม่ทำเพราะมันเกี่ยวเนื่องกันทั้งระบบ รื้อทีไม่สนุกเท่าไหร่
แต่ถ้าจะทำก็ไม่ต้องมาคิดว่าเซฟตรงนี้ดีไหม เป็นผมทำแล้วก็ไปให้สุด
เริ่องการขยาย CC เป็นผมจะเก็บไว้ลำดับท้ายๆ ทำลูกเดิมให้สุดแล้วค่อยว่ากัน ;)
-
ผมแอบงงโจทย์นิดนึงนะครับ
เห็นบอกกลัวเครื่องพัง อยากให้เครื่องเหนียว ไม่ได้ต้องการความแรง หรือ แรงม้าเยอะๆ
คำถามผม ทำไมถึงต้องเพิ่ม CC หรือป่าวครับ ..... ??
เพราะการเพิ่ม CC มันคือ จุดสุดท้ายที่เขาจะทำกัน ในกรณีที่ เครื่องเดิม CC เดิม มันเริ่มตัน ดัน แรงม้า แรงบิด ไม่ได้แล้ว เลยต้องเพิ่ม CC กัน เช่น RB28, K26,K28 หรือ สายดีเซลพวก 4JJ เครื่อง 3000->3200 เป็นต้น
ถ้าเป็นผม แค่อยากขับสนุกขึ้น ผมจะเน้นทุกอย่างเดิม ทำ remap (ถ้าศัพท์รถยุโรปอาจจะเรียก Stage1) หรือจะไล่ข้าง พวก ท่อ กรอง กล่อง เทอร์โบ (ถ้าศัพท์รถยุโรปอาจจะเรียก Stage2) เอาก็ได้ แค่นี้ แรงม้าก็มาเป็นฝูงแล้ว ไม่ได้จำเป็นต้องไปยกใส้ใน หรือ ทำเยอะขนาดนั้นเลย
ปล. เครื่องอะไร รถอะไร เหรอครับ
รถ BMW E36 320i ครับ
พอดีรถคันนี้วิ่งมาค่อนข้างเยอะแล้ว เกือบ 4 แสนโล ถึงเวลาจะต้องฮอลเครื่องใหม่เลยคิดว่าจะอัพเกรดไปในตัวด้วยเลยครับ
-
จากข้อมูลที่ให้มา ผมเดาว่า M50B20 ใส่แครงก์ M52B28
ผมคิดว่าต่อให้เอาหัวฉีด ใส่เรก 2.5 ก็ไม่จบครับ เพราะ Bore/Stroke ของทั้งสองตัวก็ไม่เหมือนกันเลย เหมือนจะไม่มีผลเพราะสรุปสุดท้าย CC พอ ๆ กัน แต่เอาเข้าจริงทุกปัจจัยมีผลครับ ผมว่าถ้าจะรื้อเครื่องออกมาขนาดนี้แล้ว จะใช้หัวฉีดเดิม หรือเปลี่ยนหัวฉีด ก็ต้องจูนกล่องเพิ่มอยู่ดี และถ้ามันเป็นรถที่ผมเดาจริง ๆ กล่อง Motronic เดี๋ยวนี้ก็รีแมปได้ละครับ และไม่แพงด้วยเมื่อเทียบกับค่ารื้อเครื่อง ค่าเปลี่ยนเครื่องใหม่ถ้าเกิดสภาวะ Lean ขึ้นมา
โดยส่วนตัวผมเชื่อว่า กรณีนี้ หัวฉีดเดิม กล่องเดิม มันก็พอจริง ๆ นั่นแหละครับ ฝรั่งในบอร์ดเฉพาะรุ่น เขาทำเขาเล่นกันจริงมาเยอะกว่าพวกเราแน่นอนครับ แต่ก็นะ รีแมปหมื่นต้น ๆ ได้แรงกว่าเดิมชัวร์ ๆ ผมว่ามันคุ้มกว่านะถ้าเราจะยอมเปลี่ยนแครงก์ รื้อเครื่องแล้ว
ถ้าซื้อหวย คงถูกแน่เลยครับ 555
ใช่ครับเครื่อง M50B20TU ครับ กล่องเป็นของ Siemens แล้วครับ
-
55 ผมก็ว่าอยู่ ว่าน่าจะ M50
เข้าใจความลำบากใจ ใจนึงก็อยากใช้เครื่องเดิม (ผมก็ชอบ overhaul มากกว่า ยกเครื่องใหม่มาใส่) .. ไอ้ครั้นยกลงมาขนาดนั้นแล้วจะทำเดิมก็ยังไงๆ พอเริ่มจะขยายความจุก็เริ่มจะบาน 8)
การวัด af จุดติดตั้งสำคัญมาก และไม่ได้ทำง่ายๆ ไม่แน่ใจว่าเครื่อง/กล่องตัวนี้ยอมให้อ่านค่าจะกล่องได้ง่ายแค่ไหน (ผมเลิกเล่น bm ก่อนยุคที่จะ reflash motronic ได้) ถ้าอ่านได้แม้จะไม่ใช่ wideband แต่ก็น่าจะพอช่วยได้ ... หรือถ้าอยากสบายใจสุดๆ ก็ประกอบขึ้นมาใหม่ก่อน แล้วเอาไป reflash ถึงจุดนี้คนจูนน่าจะช่วยแนะนำได้แล้วว่าหัวฉีดกับเรคเดิมไหวไหม
แต่โดยรวม ผมว่าฝรั่งเค้าเล่นมาพอควรแล้ว น่าจะพอดีชื่อ guideline ของเค้าได้อยู่นะครับ
-
ทำไมผมก็เดาถูกอีกคน
สมัยผมขับ e34 ก็มีคำถามในหัวประมาณนี้เช่นกัน
สมัยตรงยุคของรถรุ่นนั้น(ต้องหลังจากรถรุ่นนั้นหมดไป 3-5ปี) แล้วกลายเป็นมือ 2 ยอดฮิตถึงจะถูก)
คนมักจะหา 320 เพราะมันถูกกว่า แล้วก็หาท่อนบนของ 325 มาลง ไม่ก็ไป j ไป rb กันไปเลย
สมัยนี้ จะไปหาท่อนบน 2.5 ตรงรุ่นคงลำบากมากแล้ว
ถ้าให้ผมเดานะ เพราะสมัยนั้นเคยศึกษามาบ้างนิหน่อย
ระหว่าง 2.0 กับ 2.5 ช่วงชักน่าจะเท่ากัน แล้วไปขยายความกว้างของกระบอกสูบเอา จึงอาจใช้ชุดหัวฉีดเดิมได้ แต่ทีนี้อาจจะต้องมาดูปั๊มติ๊กว่า มันเหมือนกันหรือเปล่ามากกว่า
เทคโนโลยีการรีแม็พสมัยนั้นยังไม่ดีเท่าที่ควร ก็อาจจะทำให้คนสมัยนั้นไม่ได้นึกถึงจุดนี้
ส่วนการกินน้ำมัน ในเมืองรถติดๆ การกินไม่ต่างกันเลยครับ ส่วนนอกเมือง หาขับเรื่อยๆ 2.0 ประหยัดกว่าแต่ ไม่มาก แต่ถ้าเหยียบปุ๊บ 2.0 กินใช้ได้เลย
จริงๆมันมีอีกบล๊อคที่ผมเคยเจอว่า ความสูงของเสื้อสูบเท่ากันคือ v6 2.4 กับ 2.8 ใน MB ที่ตอนนั้นใช้ 2 หัวเทียนต่อสูบ และ จะเพิ่มความสูงขึ้นมาใน 3.2 โดยใช้ฐานเดิม
-
ซื้อหวยไม่ถูกหรอกครับ น่าจะพลาดไปเลขนึง ผมเดาถูกว่าเป็น M50 แต่คิดว่าไม่ใช่ E36 เพราะตัวนี้ 320i หายากมากครับ
ถ้าต้องฮอลใหม่อยู่แล้ว หาแครงก์ B28 ได้ ผมว่าก็ไม่น่าจะต้องคิดมากว่าจะอัพหรือไม่อัพนะ เพราะยังไงก็ต้องทำอยู่แล้ว แต่ก็ต้องทำให้ถูกแหละครับ จริง ๆ คือผมเชื่อว่าใส่หัวฉีดเดิมน่ะ มันไม่มีปัญหาหรอกตราบใดที่ไม่เกิดสภาวะ Lean แล้วถ้าคนอื่นทำมาแล้วไม่เจอว่าเขก มันก็ใช้ได้แหละครับ แต่ยังไงก็ตามนี่คือเดาเอาจากประสบการณ์ที่เคยมีคนทำนะครับ ไม่ได้เห็นค่า A/F จริง ๆ เหมือนที่ท่าน Turin บอกไว้ครับ ใช้ได้ กับใช้ดี ไม่เหมือนกัน
เพราะงั้น ผมว่าการใส่ Wideband อ่าน A/F ตามที่พี่ Turin บอกก็เป็นเรื่องที่ดีครับ ทำยาก แต่ทำได้ เดี๋ยวนี้ขนาด KKT ก็ทำ Wideband ขายแล้ว ราคาไม่แพงมาก หรือจะ AEM ไปเลยก็ 9,000 ไม่รวมใส่ แต่ถ้าคิดจะโมรถแล้ว การวัด A/F มันช่วยให้เรียนรู้อะไรหลาย ๆ อย่างได้เยอะครับ
กล่อง Siemens ผมว่าเดี๋ยวนี้ก็รีแมพได้แล้วเหมือนกันครับ ต้องทำชิปใหม่หรือไม่ ก็คงต้องปรึกษาคนจูนครับ แต่ที่แน่ ๆ ไม่ใช่เรื่องยากเหมือนแต่ก่อนแล้ว และน่าจะจบที่หมื่นต้น ๆ หรือถ้าสายทำเก็บ ทำดีทำทีเดียว ใส่กล่อง Link Standalone ทั้งชุดแบบจบจบ ก็ประมาณ 60,000 บาทครับเดี๋ยวนี้
ขออภัยนะครับ ไม่ช่วยตอบคำถามข้างต้นเลย เพราะผมก็ไม่เคยแตะรุ่นนี้เหมือนกัน แต่หวังว่าจะมีประโยชน์ครับ 555
-
เช็ครายละเอียดหัวฉีดให้ดีๆครับ ว่าพอจริงๆไหม
-
เช็ครายละเอียดหัวฉีดให้ดีๆครับ ว่าพอจริงๆไหม
ไม่ทราบว่ามีวิธีเช็คอย่างไรหรอครับ
-
ผมแอบงงโจทย์นิดนึงนะครับ
เห็นบอกกลัวเครื่องพัง อยากให้เครื่องเหนียว ไม่ได้ต้องการความแรง หรือ แรงม้าเยอะๆ
คำถามผม ทำไมถึงต้องเพิ่ม CC หรือป่าวครับ ..... ??
เพราะการเพิ่ม CC มันคือ จุดสุดท้ายที่เขาจะทำกัน ในกรณีที่ เครื่องเดิม CC เดิม มันเริ่มตัน ดัน แรงม้า แรงบิด ไม่ได้แล้ว เลยต้องเพิ่ม CC กัน เช่น RB28, K26,K28 หรือ สายดีเซลพวก 4JJ เครื่อง 3000->3200 เป็นต้น
ถ้าเป็นผม แค่อยากขับสนุกขึ้น ผมจะเน้นทุกอย่างเดิม ทำ remap (ถ้าศัพท์รถยุโรปอาจจะเรียก Stage1) หรือจะไล่ข้าง พวก ท่อ กรอง กล่อง เทอร์โบ (ถ้าศัพท์รถยุโรปอาจจะเรียก Stage2) เอาก็ได้ แค่นี้ แรงม้าก็มาเป็นฝูงแล้ว ไม่ได้จำเป็นต้องไปยกใส้ใน หรือ ทำเยอะขนาดนั้นเลย
ปล. เครื่องอะไร รถอะไร เหรอครับ
รถ BMW E36 320i ครับ
พอดีรถคันนี้วิ่งมาค่อนข้างเยอะแล้ว เกือบ 4 แสนโล ถึงเวลาจะต้องฮอลเครื่องใหม่เลยคิดว่าจะอัพเกรดไปในตัวด้วยเลยครับ
อ้อ 36 นกแก้ว M50
เหมือนตัวนี้กล่อง Siemens มีคนทำ reflash แล้วหรือป่าวครับ
แต่ถ้าบอกว่า ไหนๆ ก็จะ Overhaul เครื่องอยู่แล้ว ก็เลยอัพสเต็ปขึ้นไปอีกสักหน่อย ผมว่าก็ทำได้
เพิ่ม CC มี 2 อย่าง คือ ยึดชัก(ท่อนล่าง) กับ เพิ่มขนาดลูก(ท่อนบน)
สิ่งที่บอกมา ไม่ว่าจะหัวฉีด หรือ regulator หรือ อื่นๆ มันก็คงต้องดู ตอนจูนแหละครับ
ถ้าคนทำหรืออู่ เขามี reference แล้ว ก็ยิ่งดี มันจะเป็นสูตรสำเร็จ ตอบได้เลย
แต่ถ้าอู่ทำไม่เคยทำ เราดูจากคนอื่นที่เคยทำ จะไทยหรือเทศ ผมว่ามันก็แนวทางอีกทางนึง ที่ง่ายและ(อาจจะ)ไม่บานปลายได้ดีกว่าการเดา
สุดท้าย ถ้าอยู่ในงบ ผมว่าก็ทำได้ครับ
-
ผมคิดว่าทำแล้วคงไม่จบ มีปัญหานู่นนี่ตามมาไม่จบ งบอาจจะบาน ถ้าเอาเครื่องมือสองมาวางน่าจะจบกว่า งบน่าจะไม่ต่างกัน
-
เช็ครายละเอียดหัวฉีดให้ดีๆครับ ว่าพอจริงๆไหม
ไม่ทราบว่ามีวิธีเช็คอย่างไรหรอครับ
ถ้าเป็นผมก็ส่งร้านเทสหัวฉีดอ่ะครับ
-
จำได้ว่าเมื่อ 10 ปีที่แล้วในบอร์ด e36Thailand มีคนเอาท่อนบน M50B25TU ตัวมีวานอสแล้ว มาประกบท่อนล่าง B28 ของ M52 ก็ไม่เป็นอะไรนะครับ เพราะท่อไอดี M50 ใหญ่กว่า M52 จะได้กำลังรอบปลายดีกว่าด้วย
ผมคิดว่าตอนนี้กล่อง Siemens จูนได้แล้วล่ะ แต่ปรึกษาจูนเนอร์ก่อนก็ดีนะ
เป็นผมนะ ทำระบบน้ำมันให้เป็นตัว M50 2.5 ไปเลย หรือถ้าอยากไปต่อ ลองหาหัวฉีด M54B30 มาใส่ดูครับ แต่คิดว่าต้องแปลงใส่กับรางของ E36 นะ
พิมพ์ไปก็คิดถึงรถคันเก่าจัง :'(