Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: trendiiz ที่ ธันวาคม 02, 2021, 01:23:12

หัวข้อ: ขอคำแนะนำเรื่องกล่อง Stand Alone ครับ (และอื่นๆเล็กน้อยด้วย)
เริ่มหัวข้อโดย: trendiiz ที่ ธันวาคม 02, 2021, 01:23:12
พอดีมี (ซาก) รถ BMW E12 วางเครื่อง 1G-GTE (Water-cooled) เกียร์ AT

เป็นของคนรู้จักครับ ฝากมากู้ชีพหลังจากจอดนานเกิน 10ปี ทางผมเลยไม่มีข้อมูลใดๆ (ให้โจทย์ว่า ทำให้วิ่งได้ แหละประหยัดงบเท่าที่จะทำได้)

จากการเอามาให้ช่างรื้อเครื่องดู เครื่องยังหมุนได้ครับ แต่สตาร์ทไม่ได้เนื่องจากกล่องเครื่องหายสาบสูญไปแล้ว

ทางช่างแนะนำว่าให้โดดไปเล่นพวกกล่อง Stand Alone เพื่อคุมเครื่องโดยตรง (ไม่ต้องพ่วงกล่องเดิม) รวมถึงตัดการใช้ air mass sensor (หรือ air flow sensor นี่แหละ) และแปลงไปใช้ระบบ direct coil ด้วย

ไอผมมันไม่สันทัดกับพวกการพ่วงกล่องเลยอยากสอบถามครับ ว่าถ้าต้องการฟังก์ชั่นแค่
- คุมเครื่อง & ระบบรถหลักๆ ให้วิ่งได้ + แอบซิ่งนิดหน่อย (ไม่ได้ถึงกับระดับลงสนาม)
- ตัดการใช้ air mass (หรือ air flow)
- แปลง direct coil
- จูนใช้น้ำมัน E20 เป็นหลัก
- ปลด 180 (ถ้าเดิมๆมันติดอยู่ ซึ่งไม่แน่ใจว่าติดมั้ย)
- มีช่องต่อ OBD2 (มีก็ดี ไม่มีก็ได้)
ควรไปลงกับตัวไหนดีครับ ในงบ 15-20k (หรือมากกว่าอีกหน่อยก็ได้ถ้าจำเป็น)

และอีกเล็กน้อย คือเรื่องเกียร์ครับ คือเกียร์เดิมเป็น AT กี่สปีดไม่รู้ เท่าที่คุยกับช่าง ถ้ารถจอดนานเกิน ให้ assume ว่าเกียร์พังได้เลย บวกกับความคันไม้คันมือส่วนตัวด้วย เลยอยากจะเปลี่ยนไปเป็น MT ซึ่งผมเห็นว่าเกียร์ 1G มีคนเอาไปทำหัวหมูใส่กับตระกูล JZ กันเป็นส่วนมาก ช่างเลยแนะนำให้ชนเกียร์ไมตี้ เพราะหาง่าย + ไม่แพง แล้วใช้การทดเฟืองท้ายแก้เอา

ก็เลยมีคำถามว่า
- ถ้าเกียร์ 1G ไปทำหัวหมูใส่ JZ มาแล้ว ยังเอากลับมาใช้กับเครื่อง 1G ได้อยู่มั้ยครับ
- เกียร์ 1G ควรจับกับเฟืองท้ายเบอร์ไหน
- ถ้าใช้เกียร์ไมตี้ ควรจับกับเฟืองท้ายเบอร์ไหน

และคำถามสุดท้าย เรื่องเทอร์โบครับ พอดีผมไปอ่านเจอว่า 1G-GTE ใช้เทอร์โบ CT-12 แบบ sequential เหมือนกับ 1JZ-GTE ตัวหลังตะขาบ เลยอยากรู้ว่าเอามาใช้กันได้เลยมั้ยครับ (ไม่นับเรื่องเฮดเดอร์ที่จะตีใหม่อยู่แล้ว)

สุดท้ายนี้ขอขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกคำตอบและทุกข้อมูลนะครับ ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยครับ เพิ่งตั้งกระทู้ครั้งแรก

ปล. เผื่อมีคนถามว่าทำไมไม่ยกวางเครื่องตัวอื่นใหม่ๆไปเลย ขอตอบว่าเป็นเรื่องของงบประมาณครับ บวกกับเห็นว่าเครื่องเดิมยังหมุนได้อยู่ ไม่มีสูบติด เปิดฝาดูยังใสๆครับ เลยคิดว่าถ้าทำใช้งานเฉยๆน่าจะไปต่อได้ (ในใจถ้าเป็นรถตัวเองจะยกวาง M20B25 หรือ B27 ให้รู้แล้วรู้รอด แต่ติดที่ไม่ใช่รถตัวเองนี่แหละครับ  :'( )
หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำเรื่องกล่อง Stand Alone ครับ (และอื่นๆเล็กน้อยด้วย)
เริ่มหัวข้อโดย: Turin ที่ ธันวาคม 02, 2021, 07:56:50
ทำที่ว่างบ 20K ไม่น่ารอดนะครับ แค่ค่ากล่อง FCON มือสองก็หมดแล้ว (ไม่แน่ใจว่ามีตัวเลือกอื่นอีกไหม) ยังไม่รวมทำๆไปเจอนู่นนี่หน้างานอีก รถจอด 10 ปีนี่ แตะตรงไหนก็น่าจะเจอของเสียไปหมด .. เอาง่ายๆพวกปั๊มต่างๆ วาวล์น้ำ ท่อยาง ไม่น่ารอด

[อ่านใหม่ดีๆ คิดว่างบน่าจะแค่ค่ากล่อง ก็คงไม่พ้น FCON ... แต่ดูทรงแล้วมีงานเกียร์อีก งบรวมๆ น่าจะไปถึง 5-6 หมื่นได้ง่ายๆ ยังคงเชียร์ให้วางใหม่อยู่ครับ]

วางใหม่น่าจะเป็นทางเลือกที่คุมงบประมาณง่ายกว่านะครับ
หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำเรื่องกล่อง Stand Alone ครับ (และอื่นๆเล็กน้อยด้วย)
เริ่มหัวข้อโดย: apinui ที่ ธันวาคม 02, 2021, 09:18:21
ผมว่าเกียร์ 1G มันก็ทนอยู่นะ .. สมัยโน้นนน (นานหน่อย) ผมเอาเครื่อง 1G มาวาง แล้วขับวิ่งเป็นปีโดยไม่ได้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ เพราะไม่รู้ตอนนั้นยังเด็ก เพื่อนบอกให้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ พอยกมาคว่ำทอร์คลงนี่น้ำดำๆไหลออกมาเต็มเลย ไม่มีน้ำมันเลย .. สุดท้ายเปลี่ยนฟรัส ก็ใช้ได้ต่อ แต่มาพังตรงสมองมันในอีก 3 เดือนต่อมา 5555 แต่ก็ไปหาเกียร์เดิมมาชนอีก ก็ใช้จนขาย .. และเกียร์เดิมมัน 4 speed ครับ พร้อมโอเวอร์ไดร์


เรื่องกล่อง อันนี้ผมไม่สันทัดเลย เพราะตอนกล่องพังผมก็ไปเดินหาเชียงกง ขายกันไม่กี่บาทเอง เสียบแทนของเก่าจบเลย ...

ส่วนเฟืองท้าย เกียร์ AT เดิมผมใส่ 4.5 นะ ก็ไม่รู้ว่ามันวิ่งดีไหม แต่มันวิ่งได้ก็พอแล้ว 5555

ส่วนเทอร์โบ ลูกเดิมพังไป 3 ลูกครับ ควันไหล เลยเปลี่ยนโบเดียวของอะไรไม่รู้จำไม่ได้ แต่ทนกว่าของเดิมมาก ถ้าเอาของ jz มาใส่ผมก็ว่าไม่ทนเหมือนกันแหละ เพราะมันบูสทองเหลือง ไม่นานควันไหลแน่ๆ (ถ้าชอบซัด)

ก็ประมาณนี้ครับ โดนส่วนตัวลืมไปหมดและ มันตั้งแต่ปี 90 โน่นอะ

และก็ไม่ต้องไปปลดล๊อคมันหรอกครับความเร็ว เราวิ่งไม่ถึงหรอก ... เพราะรถมันจะปริว บอดี้มันไม่ได้แล้ว 160 ก็ยกแล้วมั้ง
หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำเรื่องกล่อง Stand Alone ครับ (และอื่นๆเล็กน้อยด้วย)
เริ่มหัวข้อโดย: Guille ที่ ธันวาคม 02, 2021, 09:36:18
กล่องสแตนราคาก็ประมาณ 20K ขึ้นไปแล้วครับ ไหนจะเรื่องของเครื่อง,เกียร์, เทอร์โบและอื่นอีก เผลอๆผมว่าทะลุ 50k ผมว่าไปหา 1JZ-GTE มาวางดีกว่าครับ auto ราคาเครื่อง+วางน่าจะพอๆกัน
หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำเรื่องกล่อง Stand Alone ครับ (และอื่นๆเล็กน้อยด้วย)
เริ่มหัวข้อโดย: Weetting ที่ ธันวาคม 02, 2021, 09:54:23
เน้นประหยัดงบใช่ไหมครับ 

เอาเครื่อง J ขายครับ เอาเกียร์ J ขายซากครับ   มีคนซื้อแน่นอน

จากนั้นพิจารณา M20 ก็เหมาะกับบอดี้ดีครับ  ค่าเครื่องค่าวางไม่รวมขายเครื่องน่าจะอยู่ใน 35K  หักลบไปๆมาๆเหลือซัก 20K ได้มั้ง 

หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำเรื่องกล่อง Stand Alone ครับ (และอื่นๆเล็กน้อยด้วย)
เริ่มหัวข้อโดย: madboy ที่ ธันวาคม 02, 2021, 12:42:03
กล่องเดี่ยวๆ พื้นๆก็น่าจะต้องเริ่มกับ Fcon เงิน อัพโปรแล้ว ซื่งราคาของมือสองก็มี หมื่นนึงแล้ว ค่านู่นนี่จุกกจิก จบๆคงมี 3 หมื่น แล้วต้องมาเสี่ยงกับกล่องเก่าๆอีก

กล่องรุ่นใหม่ๆ ของใหม่ เดี๋ยวนี้มีขายเยอะเลยครับ ราคาจบๆน่าจะประมาณ 4-5 หมื่น++++ ซึ่งก็ดูจะไปไกล

ถ้าไม่ถนัดแนวเครื่องยุ่น ไปทางเครื่องบีเอ็มเลยก็ได้ครับ เปิดมายังมีตราใบพัดอยู่ เครื่องติดรถมาถอดขายให้พวกที่เล่นจริงๆจะดีกว่า  :D
หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำเรื่องกล่อง Stand Alone ครับ (และอื่นๆเล็กน้อยด้วย)
เริ่มหัวข้อโดย: TheRealMeaw ที่ ธันวาคม 02, 2021, 17:00:07
เคยไปถามมา กล่อง Link รวมเซนเซอร์ รวมจูนทั้งหมด ประมาณ 60k หรืออย่าง KKT Xerxes แค่เริ่มก็ 20k ละครับ บวกเซนเซอร์ไปอีก 10k แล้วแต่ว่าอยากได้ขนาดไหน มันฟังดูแพงนะ แต่มันมีข้อดีมากกว่าฟังก์ชั่นคือ มันไม่ต้องปวดหัวกับการหาอะไหล่บางชิ้นที่ต่อให้มีเงินก็ซื้อไม่ได้ครับ ทั้งเซนเซอร์ ทั้งกล่อง ECU ที่เดี๋ยวนี้หาไม่ได้แล้ว เรื่องฟังก์ชั่น กล่อง Standalone มันทำได้หมดแหละ ขอแค่คนทำทำเป็นเท่านั้น

เรื่องเกียร์ ผมเดาเอานะ คิดว่า เดิมมันเป็น A340E อัตราทด 2.8/1.5/1/0.71 โดยเดาว่า ตอนนี้ชนกับเฟืองท้าย 520 3.90 วงล้อประมาณ 25 นิ้ว (195/65R15) รอบเครื่องตัดที่ 6500 ความเร็วสูงสุดจะได้ 70/131/199/280km/h ก็คือเกียร์สุดท้ายเหลือ overdrive พอสมควร

ผมไม่แน่ใจว่าเกียร์ไมตี้ที่บอกมันคือตัวไหนนะครับ แต่เดาว่ามันน่าจะเป็น W55 หรือ W56 สองตัวนี้ต่างกันแค่ที่เกียร์ 2 สมมติเอาอัตราทดจาก W55 อยู่ที่ 3.56/2.05/1.38/1/0.85

ด้วยความที่เกียร์มันสั้นกว่าเยอะ และมีอัตราทดมากกว่าอยู่ 1 เกียร์ ความเร็วสูงสุดแต่ละเกียร์จะอยู่ที่ 54/100/143/199/233km/h เอาความจริงมันก็ใช้ได้แหละครับ วิ่ง 120 รอบมันก็จะอยู่ที่ประมาณ 3300 แต่ถ้าได้ 3.64 มันก็เกียร์ยาวกว่านิดหน่อย ขับไกลๆ รอบมันก็จะต่ำกว่า แต่ก็ไม่ได้เยอะหรอกครับ วิ่ง 120 มันอาจจะเหลือ 3100 ถามว่าอย่างไหนเหมาะกว่า ก็ตอบไม่ได้ เอาจริงผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทดเฟืองท้ายตอนนี้มันเท่าไหร่ หรือว่าเกียร์จะใช้ตัวนี้จริงๆหรือไม่ ผมว่าปัญหามันอยู่ที่เฟืองท้าย E12 มากกว่า จะหาเปลี่ยนได้ไหม? หรือจะแปลงเอาเฟืองท้ายญี่ปุ่นใส่? อันนี้ผมก็ตอบไม่ได้ ไม่เคยเล่น

ส่วนเรื่องเทอร์โบ ถ้าจะปั้นเฮดใหม่ ใส่ Standalone แล้ว ทำโบเดี่ยวไปเลย ไม่ต้องใช้ระบบเดิมแล้วครับ จับคู่โบกับเครื่องให้พอดี ดีกว่ากลับไปใช้เทอร์โบ Sequential แน่นอน

ที่แน่ๆคือ ทำทุกอย่างที่บอกมา ไม่ต้องบอกว่าประหยัดงบหรอกครับ แค่ที่พูดกันตรงหน้านี้ แสนนึงก็อาจจะไม่พอ ยังไม่รวมส่วนอื่นๆ ที่อาจจะงอกเงยตามมาอีก และสุดท้ายปัญหามันก็กลับมาที่อะไหล่ที่มีเงินก็หาซื้อไม่ได้ครับ ถ้าจัดการส่วนนี้ได้ ยังไงก็ทำได้
หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำเรื่องกล่อง Stand Alone ครับ (และอื่นๆเล็กน้อยด้วย)
เริ่มหัวข้อโดย: trendiiz ที่ ธันวาคม 03, 2021, 19:45:50
ทำที่ว่างบ 20K ไม่น่ารอดนะครับ แค่ค่ากล่อง FCON มือสองก็หมดแล้ว (ไม่แน่ใจว่ามีตัวเลือกอื่นอีกไหม) ยังไม่รวมทำๆไปเจอนู่นนี่หน้างานอีก รถจอด 10 ปีนี่ แตะตรงไหนก็น่าจะเจอของเสียไปหมด .. เอาง่ายๆพวกปั๊มต่างๆ วาวล์น้ำ ท่อยาง ไม่น่ารอด

[อ่านใหม่ดีๆ คิดว่างบน่าจะแค่ค่ากล่อง ก็คงไม่พ้น FCON ... แต่ดูทรงแล้วมีงานเกียร์อีก งบรวมๆ น่าจะไปถึง 5-6 หมื่นได้ง่ายๆ ยังคงเชียร์ให้วางใหม่อยู่ครับ]

วางใหม่น่าจะเป็นทางเลือกที่คุมงบประมาณง่ายกว่านะครับ

ขอบคุณครับ งบที่ว่าคือค่ากล่องอย่างเดียวครับ

วางใหม่ขอเป็น worst case กรณีที่เครื่องสูบติด หมุนต่อไม่ไหวแล้วครับ
เพราะเจ้าของที่ฝากมาทำมีความผูกพันธ์ส่วนตัวกับเครื่องตัวนี้ครับ
หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำเรื่องกล่อง Stand Alone ครับ (และอื่นๆเล็กน้อยด้วย)
เริ่มหัวข้อโดย: trendiiz ที่ ธันวาคม 03, 2021, 19:49:27
ผมว่าเกียร์ 1G มันก็ทนอยู่นะ .. สมัยโน้นนน (นานหน่อย) ผมเอาเครื่อง 1G มาวาง แล้วขับวิ่งเป็นปีโดยไม่ได้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ เพราะไม่รู้ตอนนั้นยังเด็ก เพื่อนบอกให้เปลี่ยนน้ำมันเกียร์ พอยกมาคว่ำทอร์คลงนี่น้ำดำๆไหลออกมาเต็มเลย ไม่มีน้ำมันเลย .. สุดท้ายเปลี่ยนฟรัส ก็ใช้ได้ต่อ แต่มาพังตรงสมองมันในอีก 3 เดือนต่อมา 5555 แต่ก็ไปหาเกียร์เดิมมาชนอีก ก็ใช้จนขาย .. และเกียร์เดิมมัน 4 speed ครับ พร้อมโอเวอร์ไดร์


เรื่องกล่อง อันนี้ผมไม่สันทัดเลย เพราะตอนกล่องพังผมก็ไปเดินหาเชียงกง ขายกันไม่กี่บาทเอง เสียบแทนของเก่าจบเลย ...

ส่วนเฟืองท้าย เกียร์ AT เดิมผมใส่ 4.5 นะ ก็ไม่รู้ว่ามันวิ่งดีไหม แต่มันวิ่งได้ก็พอแล้ว 5555

ส่วนเทอร์โบ ลูกเดิมพังไป 3 ลูกครับ ควันไหล เลยเปลี่ยนโบเดียวของอะไรไม่รู้จำไม่ได้ แต่ทนกว่าของเดิมมาก ถ้าเอาของ jz มาใส่ผมก็ว่าไม่ทนเหมือนกันแหละ เพราะมันบูสทองเหลือง ไม่นานควันไหลแน่ๆ (ถ้าชอบซัด)

ก็ประมาณนี้ครับ โดนส่วนตัวลืมไปหมดและ มันตั้งแต่ปี 90 โน่นอะ

และก็ไม่ต้องไปปลดล๊อคมันหรอกครับความเร็ว เราวิ่งไม่ถึงหรอก ... เพราะรถมันจะปริว บอดี้มันไม่ได้แล้ว 160 ก็ยกแล้วมั้ง

ขอบคุณครับ เรื่องเทอร์โบคงจะปรึกษาช่างอีกทีครับ ไม่อยากใช้โบเดี่ยวเพราะกลัวเรื่องรอรอบด้วยครับ

เดี๋ยวจะลองศึกษาหาโบขนาดพอเหมาะพอดีดูครับ

ส่วนเรื่องความเร็ว คงต้องรอให้รถเสร็จก่อนครับ ค่อยลองดูอีกที  ;D
หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำเรื่องกล่อง Stand Alone ครับ (และอื่นๆเล็กน้อยด้วย)
เริ่มหัวข้อโดย: trendiiz ที่ ธันวาคม 03, 2021, 19:52:16
กล่องสแตนราคาก็ประมาณ 20K ขึ้นไปแล้วครับ ไหนจะเรื่องของเครื่อง,เกียร์, เทอร์โบและอื่นอีก เผลอๆผมว่าทะลุ 50k ผมว่าไปหา 1JZ-GTE มาวางดีกว่าครับ auto ราคาเครื่อง+วางน่าจะพอๆกัน

ขอบคุณครับ

1JZ-GTE ราคาไปไกลมาก เจ้าของเลยไม่เอาครับ

บวกกับเจ้าของมีความผูกพันธ์กับเครื่องตัวนี้ เลยเลือกจะเข็นตัวนี้ต่อครับ
หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำเรื่องกล่อง Stand Alone ครับ (และอื่นๆเล็กน้อยด้วย)
เริ่มหัวข้อโดย: trendiiz ที่ ธันวาคม 03, 2021, 19:56:15
กล่องเดี่ยวๆ พื้นๆก็น่าจะต้องเริ่มกับ Fcon เงิน อัพโปรแล้ว ซื่งราคาของมือสองก็มี หมื่นนึงแล้ว ค่านู่นนี่จุกกจิก จบๆคงมี 3 หมื่น แล้วต้องมาเสี่ยงกับกล่องเก่าๆอีก

กล่องรุ่นใหม่ๆ ของใหม่ เดี๋ยวนี้มีขายเยอะเลยครับ ราคาจบๆน่าจะประมาณ 4-5 หมื่น++++ ซึ่งก็ดูจะไปไกล

ถ้าไม่ถนัดแนวเครื่องยุ่น ไปทางเครื่องบีเอ็มเลยก็ได้ครับ เปิดมายังมีตราใบพัดอยู่ เครื่องติดรถมาถอดขายให้พวกที่เล่นจริงๆจะดีกว่า  :D

ขอบคุณครับ ยกวางใหม่นี่เป็นทางเลือกสุดท้ายจริงๆ เพราะตัวเจ้าของมีความผูกพันธ์กับเครื่องตัวนี้ครับ
หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำเรื่องกล่อง Stand Alone ครับ (และอื่นๆเล็กน้อยด้วย)
เริ่มหัวข้อโดย: trendiiz ที่ ธันวาคม 03, 2021, 20:01:02
เคยไปถามมา กล่อง Link รวมเซนเซอร์ รวมจูนทั้งหมด ประมาณ 60k หรืออย่าง KKT Xerxes แค่เริ่มก็ 20k ละครับ บวกเซนเซอร์ไปอีก 10k แล้วแต่ว่าอยากได้ขนาดไหน มันฟังดูแพงนะ แต่มันมีข้อดีมากกว่าฟังก์ชั่นคือ มันไม่ต้องปวดหัวกับการหาอะไหล่บางชิ้นที่ต่อให้มีเงินก็ซื้อไม่ได้ครับ ทั้งเซนเซอร์ ทั้งกล่อง ECU ที่เดี๋ยวนี้หาไม่ได้แล้ว เรื่องฟังก์ชั่น กล่อง Standalone มันทำได้หมดแหละ ขอแค่คนทำทำเป็นเท่านั้น

เรื่องเกียร์ ผมเดาเอานะ คิดว่า เดิมมันเป็น A340E อัตราทด 2.8/1.5/1/0.71 โดยเดาว่า ตอนนี้ชนกับเฟืองท้าย 520 3.90 วงล้อประมาณ 25 นิ้ว (195/65R15) รอบเครื่องตัดที่ 6500 ความเร็วสูงสุดจะได้ 70/131/199/280km/h ก็คือเกียร์สุดท้ายเหลือ overdrive พอสมควร

ผมไม่แน่ใจว่าเกียร์ไมตี้ที่บอกมันคือตัวไหนนะครับ แต่เดาว่ามันน่าจะเป็น W55 หรือ W56 สองตัวนี้ต่างกันแค่ที่เกียร์ 2 สมมติเอาอัตราทดจาก W55 อยู่ที่ 3.56/2.05/1.38/1/0.85

ด้วยความที่เกียร์มันสั้นกว่าเยอะ และมีอัตราทดมากกว่าอยู่ 1 เกียร์ ความเร็วสูงสุดแต่ละเกียร์จะอยู่ที่ 54/100/143/199/233km/h เอาความจริงมันก็ใช้ได้แหละครับ วิ่ง 120 รอบมันก็จะอยู่ที่ประมาณ 3300 แต่ถ้าได้ 3.64 มันก็เกียร์ยาวกว่านิดหน่อย ขับไกลๆ รอบมันก็จะต่ำกว่า แต่ก็ไม่ได้เยอะหรอกครับ วิ่ง 120 มันอาจจะเหลือ 3100 ถามว่าอย่างไหนเหมาะกว่า ก็ตอบไม่ได้ เอาจริงผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทดเฟืองท้ายตอนนี้มันเท่าไหร่ หรือว่าเกียร์จะใช้ตัวนี้จริงๆหรือไม่ ผมว่าปัญหามันอยู่ที่เฟืองท้าย E12 มากกว่า จะหาเปลี่ยนได้ไหม? หรือจะแปลงเอาเฟืองท้ายญี่ปุ่นใส่? อันนี้ผมก็ตอบไม่ได้ ไม่เคยเล่น

ส่วนเรื่องเทอร์โบ ถ้าจะปั้นเฮดใหม่ ใส่ Standalone แล้ว ทำโบเดี่ยวไปเลย ไม่ต้องใช้ระบบเดิมแล้วครับ จับคู่โบกับเครื่องให้พอดี ดีกว่ากลับไปใช้เทอร์โบ Sequential แน่นอน

ที่แน่ๆคือ ทำทุกอย่างที่บอกมา ไม่ต้องบอกว่าประหยัดงบหรอกครับ แค่ที่พูดกันตรงหน้านี้ แสนนึงก็อาจจะไม่พอ ยังไม่รวมส่วนอื่นๆ ที่อาจจะงอกเงยตามมาอีก และสุดท้ายปัญหามันก็กลับมาที่อะไหล่ที่มีเงินก็หาซื้อไม่ได้ครับ ถ้าจัดการส่วนนี้ได้ ยังไงก็ทำได้

ขอบคุณครับ ได้ข้อมูลละเอียดมากเลย เรื่องเกียร์ผมพยายามหาเกียร์ 1G-GTE (MT) ตรงรุ่นมันอยู่ครับ ส่วนเฟืองท้ายคงต้องแงะมาดูอีกที แต่ได้ข้อมูลและแนวทางจากพี่มากเลย ช่วยได้เยอะเลยครับ

เรื่องเทอร์โบเดี่ยว จะลองศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมดูครับ

ส่วนเรื่องงบโดยภาพรวม เจ้าของเป็นประเภทจ่ายไหวครับ แต่ถ้ามี alternative choice ที่ประหยัดได้ก็ให้เลือกครับ (ยกเว้นยกวางใหม่ให้เป็นทางเลือกสุดท้าย)
หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำเรื่องกล่อง Stand Alone ครับ (และอื่นๆเล็กน้อยด้วย)
เริ่มหัวข้อโดย: trendiiz ที่ ธันวาคม 03, 2021, 20:03:48
เน้นประหยัดงบใช่ไหมครับ 

เอาเครื่อง J ขายครับ เอาเกียร์ J ขายซากครับ   มีคนซื้อแน่นอน

จากนั้นพิจารณา M20 ก็เหมาะกับบอดี้ดีครับ  ค่าเครื่องค่าวางไม่รวมขายเครื่องน่าจะอยู่ใน 35K  หักลบไปๆมาๆเหลือซัก 20K ได้มั้ง

ขอบคุณครับ

ขายซากไม่อยู่ในตัวเลือกครับ เพราะถ้าขายซากเจ้าของคงขายเองไปนานแล้ว

คงไม่โยนมาให้ผมหาอะไหล่ หาข้อมูล ฯลฯ ให้งงเล่นๆแบบนี้หรอกครับ
หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำเรื่องกล่อง Stand Alone ครับ (และอื่นๆเล็กน้อยด้วย)
เริ่มหัวข้อโดย: trendiiz ที่ ธันวาคม 03, 2021, 20:12:54
ขอบคุณทุกความเห็นมากนะครับ ได้ข้อมูลเพิ่มเติมมาพอสมควรเลย

ตอนนี้เท่าที่ลองคุยกับช่างคืออาจจะลองหากล่องเดิมดูก่อน แล้วให้ผมลองหาข้อมูลเพิ่มเติมไปพลางด้วย
และอาจจะยังไม่ไปยุ่งกับระบบอะไรมาก แค่จะทำให้สตาร์ทติดวิ่งได้ขับได้ก่อน

ส่วนสาเหตุที่ขอให้ การยกวางเครื่องใหม่ เป็นทางเลือกสุดท้าย เพราะเหตุผลส่วนตัวของเจ้าของ คือ เขามีความผูกพันธ์กับเครื่องตัวนี้ครับ
ซึ่งทางเลือกสุดท้ายที่ว่า คือกรณีที่ สูบติด เครื่องไม่หมุน ฝาโก่งจนปาดไม่ไหว ฯลฯ

จริงๆรถคันนี้เป็นโปรเจคค่อนข้างใหญ่ครับ ทำสีปะผุทั้งคัน รื้อ/ซ่อมแซม/เก็บงาน/ประกอบภายในใหม่ เก็บช่วงล่าง ฯลฯ
สภาพตอนแรกผมเห็นแล้วก็คิดเหมือนพี่ๆหลายๆท่าน คือ ขายซาก ซื้อคันใหม่ร่นเดิม จบกว่า ถูกกว่าแน่นอน

แต่ด้วยสาเหตุของเจ้าของครับ ง่ายๆเลยคือ ความผูกพันธ์ (ซึ่งขอไม่ระบุมากกว่านี้เนื่องจากเป็นเหตุผลส่วนตัว)
ทางเจ้าของเลยให้ความไว้ใจผมในการเอามาปลุกปั้น โดยไม่ได้กำหนดระยะเวลาครับ เป็น project car ที่ให้ทำไปเรื่อยๆ

สุดท้ายนี้ขอบคุณทุกความเห็น ทุกคำแนะนำอีกครั้งครับ
หัวข้อ: Re: ขอคำแนะนำเรื่องกล่อง Stand Alone ครับ (และอื่นๆเล็กน้อยด้วย)
เริ่มหัวข้อโดย: TheRealMeaw ที่ ธันวาคม 03, 2021, 20:26:22
ปลอบใจได้แค่ว่า เริ่มวาง M20 ตอนนี้ก็หมดแสนเหมือนกันแหละครับ ถ้าเจ้าของพร้อมจ่าย ทำตามใจเจ้าของดีที่สุด

เทอร์โบ CT12 บอกเลยครับไม่ได้ติดบูสต์ไวเลย ผมแอบไปค้นๆมา เหมือนว่าโบคู่ของ 1G มันเป็น Parallel ไม่ใช่ Sequential ถ้าจะทำเฮดเดอร์อยู่แล้ว ทำโบเดี่ยวไปเลยครับ เชื่อเลยต่อให้ลูกใหญ่ มันก็ติดบูสประมาณ 3500-4000 รอบเหมือนโบเดิม

เครื่อง 1G-GTE ทำเสร็จออกมา รับรองได้อย่างนึง เสียงอย่างโหด โหดแบบตระกูล JZ ก็สู้ไม่ได้ครับ พอเข้าใจได้ว่าทำไมถึงอยากคงเครื่องนี้ไว้ มันมีเอกลักษณ์ของมันอยู่