Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: Neshz ที่ ธันวาคม 16, 2021, 13:33:16
-
เผอิญจะขายรถคันเก่า แล้วไปเจอเต๊นท์นึงให้ราคาดีที่สุด แต่ติดแค่ว่าไม่ค่อยไว้ใจเรื่องการโอนลอยเท่าไหร่
เพื่อนๆก็บอกเก็บเอกสารสัญญาซื้อขายอะไรไว้ให้เรียบร้อยก็พอ ส่วนใหญ่เต๊นท์ก็ไม่อยากเพิ่มชื่อในเล่มให้เป็นมือที่สามกันหรอก เพราะมันราคาตก
ตอนแรกว่าจะขายเอง แต่ไม่มีเวลาด้วยครับ
พี่ๆเพื่อนๆ เวลาขายรถเข้าเต๊นท์ด้วยการโอนลอย มีปัญหา และแนวทางแก้กันยังไงบ้างครับ
-
เก็บหนังสือสัญญาซื้อขายไว้ครับ
ถ่ายรูปตอนส่งรถเข้าเต๊นท์ ถ่ายรูปเอกสารสำคัญไว้ เช่นใบโอนลอย ใบเสร็จรับเงิน
(ตอนผมขายเค้าโอนให้ทาง ธนาคาร)
เอกสารเหล่านี้เก็บไว้สัก 3 ปีก็ได้ครับ กันเหนียว
ถ้ารถตลาดสีคนนิยม จอดไม่กี่เดือนก็ออกครับ
ถ้ารถทะเบียนกรุงเทพ ไปขายเต็นท์ ตจว. คนซื้อเวลาโอนจะเปลี่ยนทะเบียนจังหวัดเค้า
มันจะขาดจากเราอบ่างสิ้นเชิงตอนนั้นครับ
-
ผมเก็บหนังสือสัญญาไว้ครับ
ผมเคยเจอใบสั่งจับความเร็วส่งมาหลังจากปล่อยรถไปแล้ว ก็ไปลงบันทึกประจำวันว่า เราได้ขายรถไปแล้ว
หลังจากนั้นก็ส่งใบสั่งกลับไป พร้อมกับสำเนาสัญญาซื้อขายครับ
-
เก็บสัญญาครับ ผ่านไปสักไม่นาน ก็ทำ สัญญาหายครับ ฮ่าๆๆๆ นานเกอนก็หาไม่เจอ
-
มีคันนึงเคยขายไป 11ปีแล้ว ทุกวันนี้ยังได้ใบสั่ง แจ้งความไปก็แล้ว ถ้าปีหน้านี้ยังมาอีกผมจะไปแจ้งยกเลิกใช้รถที่ขนส่ง ตอนนี้ถเาจะขายเตนท์ผมขายให้รุ่นน้องที่ทำเตนท์โอนทันทีเพราะเขาเตนท์เป็นบริษัท ให้ราคาดีด้วย
พี่คนนึง ขายรถไป มีสัญญาซื้อขาย แต่คนซื้อต่อจากเตนท์ไปไม่โอน เอาไปขนยาเสพติด โดนเรียกไปสอบสวนเสียเวลาแสดงหลักฐาน เข้าออกโรงพักโดยไม่จำเป็นสองสามครั้ง
แล้วแต่ดวงครับ
-
เวลาเราขายรถให้เต้นท์หรือคนรับซื้อเนี่ย ถ้าตกลงราคาซื้อขายเรียบร้อย ทางผู้ซื้อจะต้องออกเอกสารสัญญาซื้อขาย หรือ สัญญาจะซื้อจะขาย ให้เราด้วยครับ
โดยรายละเอียดที่ระบุก็รายละเอียดราคารถ รุ่นรถ ราคาที่ซื้อขายกัน ลงให้ละเอียด ลงนามและเก็บไว้คนละฉบับ
ส่วนการโอนลอย ... ถามว่าทำไมต้องโอนลอย ก็เพราะความสะดวกเวลาที่เต็นท์นำไปขายต่อครับ เพราะเมื่อมีคนมาซื้อต่อไป เค้าจะลงเอกสารเป็นชื่อของเจ้าของใหม่ได้เลยโดยที่ยังไม่ต้องไปแจ้งกับขนส่ง รอมีเจ้าของใหม่แล้วค่อยไปแจ้งทีเดียวครับ ....
ทีนี้ในมุมกลับกัน การที่เราโอนลอยไปโดยที่ชื่อปัจจุบันยังเป็นชื่อเราอยู่ ทางเต็นท์ก็กลัวเราเช่นกันครับว่า บางครั้งเจ้าของรถก็แจ้งรถหายเพื่อเอาเงินประกัน ดังนั้น เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ เอกสารสัญญาซื้อขาย เต้นท์ก็ต้องใช้เพื่อความปลอดภัยของตัวเองเช่นกัน .. ต่างคนก็ต่างกลัวกันนั่นแหละ ...
ดังนั้น ไม่ต้องกลัวครับ การโอนลอยมันเป็นเรื่องเบสิกปรกติมากๆ ถ้าเรามีสัญญาซื้อขาย มีสำเนาบัตรของผู้ซื้อเก็บไว้ ก็อุ่นใจได้ระดับนึงแล้ว
-
เวลาเราขายรถให้เต้นท์หรือคนรับซื้อเนี่ย ถ้าตกลงราคาซื้อขายเรียบร้อย ทางผู้ซื้อจะต้องออกเอกสารสัญญาซื้อขาย หรือ สัญญาจะซื้อจะขาย ให้เราด้วยครับ
โดยรายละเอียดที่ระบุก็รายละเอียดราคารถ รุ่นรถ ราคาที่ซื้อขายกัน ลงให้ละเอียด ลงนามและเก็บไว้คนละฉบับ
ส่วนการโอนลอย ... ถามว่าทำไมต้องโอนลอย ก็เพราะความสะดวกเวลาที่เต็นท์นำไปขายต่อครับ เพราะเมื่อมีคนมาซื้อต่อไป เค้าจะลงเอกสารเป็นชื่อของเจ้าของใหม่ได้เลยโดยที่ยังไม่ต้องไปแจ้งกับขนส่ง รอมีเจ้าของใหม่แล้วค่อยไปแจ้งทีเดียวครับ ....
ทีนี้ในมุมกลับกัน การที่เราโอนลอยไปโดยที่ชื่อปัจจุบันยังเป็นชื่อเราอยู่ ทางเต็นท์ก็กลัวเราเช่นกันครับว่า บางครั้งเจ้าของรถก็แจ้งรถหายเพื่อเอาเงินประกัน ดังนั้น เมื่อเกิดเรื่องแบบนี้ เอกสารสัญญาซื้อขาย เต้นท์ก็ต้องใช้เพื่อความปลอดภัยของตัวเองเช่นกัน .. ต่างคนก็ต่างกลัวกันนั่นแหละ ...
ดังนั้น ไม่ต้องกลัวครับ การโอนลอยมันเป็นเรื่องเบสิกปรกติมากๆ ถ้าเรามีสัญญาซื้อขาย มีสำเนาบัตรของผู้ซื้อเก็บไว้ ก็อุ่นใจได้ระดับนึงแล้ว
ปกติผมก็โอนลอย แต่เมื่อ2-3ปีที่แล้ว เจอเจ้านึงขับพาไปโอนที่ขนส่งเลย
เค้าบอกว่าระบบร้านเค้าเป็นแบบนี้ เคยเจอโอนไม่ได้
ซึ่งสำหรับผมก็ไม่ได้ติดขัดอะไร แต่เพิ่งเคยเจอที่ขับรถพาไปโอนทันที
ต่างคนต่างกลัวกันจริงๆ
-
ขอบคุณมากๆครับทุกท่าน
เผอิญด้วยความที่ไม่อยากมามีปัญหาทีหลัง เพราะเห็นทางสำนักงานขนส่งก็มีเตือนๆบ้าง แต่ไม่แน่ใจจะทำอย่างไรเวลาขายรถ เพราะเต๊นท์ร้อยทั้งร้อยยังไงก็ให้โอนลอยทั้งนั้น แล้วก้ทำกันมาแบบนี้แต่ไหนแต่ไร แต่หลายๆท่านให้ความรู้มา ก็พอสบายใจขึ้นบ้างแล้วครับ
-
หนังซื้อสัญญาจะซื้อจะขาย รูปถ่ายตอนส่งรถเข้าเต๊นท์
-
ถ้ารถดีๆก็ขายเองครับไม่ต้องผ่านเต็นท์
รถผมบอกขายวันเดียวก็มีคนในบริษัทซื้อไปแล้วครับไม่ต่อซักคำทั้งที่บอกขายแพงสุดๆ คนซื้อก็คุ้มผมใช้ปีละหมื่นโลแถมตีนไม่หนัก win-winครับ
-
สัญญาซื้อขายครับ เอกสารนี้จะเป็นหลักฐานในการป้องกันตัวเราเอง หากมีการนำรถไปใช้ในทางไม่ดีในชื่อของเราครับ