Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: CHANOM ที่ ธันวาคม 19, 2021, 13:20:12
-
เราตัดสินใจเปลี่ยนรถ เพราะอยากได้รถที่ใหญ่ขึ้น เพื่อให้คนในครอบครัวนั่งสบายขึ้น
ชอบ Subaru มานานแล้ว เพราะเคยใช้สมัยอยู่ต่างประเทศแล้วชอบในช่วงล่าง
ชอบภายนอกของ Forester แต่ชอบภายในของ CRV มากกว่าค่ะ
พฤติกรรมขับรถ ขับในเมือง 95% ขับรถเฉลี่ยปีละ 10,000 กม ขับรถเร็ว(เกินกำหนด)
แต่ไม่กด ค่อยๆเร่งไปจนถึงความเร็วค่ะ ขับคนเดียวส่วนใหญ่
แต่จะเป็นรถคันใหญ่สุดในบ้าน เลยอยากให้ผู้ใหญ่ 4 คน (170ซม +) นั่งสบายค่ะ
.
.
หลังจากที่ลังเลระหว่าง CRV 2.4S กับ Forester มาสักพักใหญ่
ตัดสินใจจอง Forester IS Eyesight ไปช่วงมอเตอร์โชว์ที่ผ่านมา เพื่อมาแทน HRV คันเดิมค่ะ
สุดท้ายตัดสินใจเลือก Forester เพราะอุปกรณ์ความปลอดภัยที่มากกับตัวรถ ที่ CRV ไม่มีให้ ในราคาเท่าๆกัน
ทีนี้ พอมาเล่าให้คนที่บ้านฟัง คุณพ่อ (มีความรู้เรื่องรถ) บอกว่า Forester เป็นรถดี
แต่ไม่เชียร์ เพราะว่าห่วงเรื่องศูนย์บริการ การบำรุงรักษา เพราะเราไม่มีความรู้เรื่องดูแลรถ
คุณพ่อบอกว่า เชียร์ CRV มากกว่า แต่ถ้าอยากได้รถขับดี ไป CX5 ยังน่าจะมีอนาคตมากกว่าค่ะ
ส่วน คุณแม่ กับ น้องสาว บอกว่าไม่มีความคิดเห็นเรื่องรถ แต่บอกแค่ว่า Forester ไม่สวย เชียร์ CRV มากกว่าค่ะ
วันที่ไปลองขับ คนที่บ้านก็ไม่มีใครยอมไปดูด้วย บอกให้เราตัดสินใจเอาเองเลย
แต่พอตัดสินใจมาแล้ว กลับมาทำให้เขวกันไปหมดเลย
.
.
สำหรับเพื่อนสมาชิก ความคิดเห็นของคนในบ้าน มีความสำคัญมากน้อยแค่ไหนคะ
บอกเลยว่าตอนนี้เขวมาก จะเปลี่ยนใจ ก็เสียดายเทคโนโลยีความปลอดภัย
แต่ถ้าจะไปต่อ ก็ต้องหนักแน่น เพราะคนที่บ้านไม่มีใครสนับสนุนสักคน
แถมเปลี่ยนในระยะสั้นไม่ได้แน่นอน เพราะราคาขายต่อร่วงแน่ (เพื่อนสนิทมีแต่คนกลัวเราเบื่อ) ::)
ขอบคุณค่า ^^
-
ความเห็นของคนในบ้านตอนจะซื้อ สำหรับผมไม่มีผล เพราะรถซื้อเอง ใช้เอง เอาเข้าอู่เอง ก็เลือกคันที่ชอบที่สุด เพราะจะอยู่กับมันไปอีกหลายปีครับ
ความเห็นของคนในบ้านจะมีผลเหมือนเป็น feedback สำหรับคันถัดไปมากกว่าครับ เช่นปกติไปไหนมาไหนหลายคน หรือคันเดิมนั่งแล้วเมื่อย แคบ เสียงดัง อะไรแบบนี้ ตอนเลือกคันใหม่ก็จะเอาเรื่องนี้มาคิดด้วย แต่จะไม่ได้ไปถามว่าจะเอารุ่นไหนสีอะไร
-
เอาแบบหยวนๆ ก็ไป cx-8 เลยเป็นไงครับ ตัวท๊อปเบนซิน 6 ที่นั่ง นั่งสบายกันทุกคนแน่นอน อย่างน้อยคุณพ่อยังก็ยังเชียร์นิดๆครับ
-
ขออนุญาตเล่า ปสก. กับที่บ้านนะครับ (แต่น่าจะคนละประเด็นกับ จขกท.)
ย้อนไปช่วงกลางปี 2012 ตัวผมเลือก Mazda BT-50 Pro มาใช้ เพราะศึกษาข้อมูล/ดูรีวิวอะไรต่างๆ ณ เวลานั้นมาหมดแล้ว ซึ่งมันก็เป็นกระบะที่ขับดีที่สุดในช่วงดังกล่าว
ส่วนช่วงปลายปี 2012 คุณพ่อกับคุณแม่เลือก Chevrolet Colorado เข้าบ้าน โดยที่ไม่ได้ศึกษารายละเอียดอะไรมามากนัก
พอหลังจาก Chev ได้ป้ายขาวแค่นั้นแหละ ผมก็ถูกคุณพ่อกับคุณแม่ยึด BT ไปทันทีครับ โดยท่านให้เหตุผลว่า "Chev มันแข็ง" ซึ่งช่วงล่างเวลาขับผ่านทางไม่เรียบ มันก็แข็งกว่าจริงๆ เมื่อเทียบกับ BT
ทุกวันนี้ ทั้งสองท่านก็มีความสุขดีกับ BT ที่ผมเลือก ส่วนผมก็ลองผิดลองถูกกับช่วงล่างเชฟ หมดเงินไปก็หลายหมื่น เพื่อจะให้ฟีลลิ่งหมือนกับ BT แต่ก็ไม่เหมือนครับ สุดท้ายได้แค่ยอมรับว่ารถคนละคันคนละยี่ห้อ ยังไงก็ไม่มีทางให้ความรู้สึกหรือทำให้เหมือนกันกับอีกคันได้ครับ
เล่ามาซะยาว เหมือนไม่มีอะไรช่วย จขกท. เลย ;D ;D ;D ;D ;D
ขอให้มีความสุขกับการตัดสินใจเลือกรถที่ชอบครับ ;)
-
ในกลุ่ม FORESTER ยังมีคนแอบแนะนำ CRV เลยครับ 5555 เพราะคุณพ่อก็พูดถูกครับ ถ้าเอาความสบายใจ CRV จบกว่าจริงๆถ้า ผญ ขับ และ เน้นใช้งานไม่อยากเข้าศูนย์หรือมีปัญหาอะไรที่อาจจะต้องเข้าศูนย์บ่อย
แต่ถามว่ารถดีไหมมันดีมากครับ การขับขี่ ช่วงล่าง มุมมองโปร่ง แต่ อาจจะอืดหน่อย + ดีไซน์ กับ ศูนย์และปัญหา อันนี้ลองดูในกลุ่มเพิ่มเติมได้ครับบ ว่าโอเคไหมหรือแนะนำไหม
-
quote เจ้าของเว็บ สมัยแคมรี่ไฮบริดไทยตัวแรก ประมาณว่า เงินใคร สุดท้ายให้เขาตัดสินใจครับ
-
ถ้าคุณขับเอง ผ่อนเอง ดูแลเอง ก็เลือกยังไงก็ขึ้นอยู่กับตัวเรา คนอื่นมีผลน้อยมาก แต่ subaru เรื่องอะไหล่บางชิ้นอาจจะต้องรอนาน ถ้ามีรถสำรองคงไม่เป็นไร ค่าบำรุงรักษาแพงกว่า ถ้ารับก็ไม่มีปัญหา
ที่สำคัญถ้ามีเรื่องต้องรออะไหล่ หรือ เข้าคิวศูนย์นาน หรือ อะไรต่างๆ ห้ามบ่นเด็ดขาด ไม่งั้นจะเจอประโยคที่ว่า บอกแล้วไม่เชื่อ เท่านั้นแหละ 555
-
จ่ายเงินเอง ขับเอง ... เอาที่ตัวเองชอบสุดครับ
ไม่ทราบว่าบ้านอยู่แถวไหน ศูนย์ซู ที่มีคุณภาพค่อนข้างใช้ได้ครับ (โดยรวมดีกว่าศูนย์มาสด้า) อาจมีปัญหาบ้างเครื่องอะไหล่ตัวถัง
ปล. แฟนเก่าซูอยู่แล้วนี่นา
-
ผมก็จองไปก่อน แล้วค่อยบอกที่บ้านเหมือนกันครับ แล้วค่อยไปคุยตกลงกันครับเพราะบางทีมีโปรดี เข้ามาเลยต้องรีบจองไว้ก่อนครับ
-
ถ้าที่บ้านเค้ารับรู้ความดีของรถที่เราจะซื้อหมดแล้ว แต่เค้าจะเอาอีกคัน เชื่อตามที่บ้านไม่เลวร้ายครับ
ไว้เงินเหลือวันหลังเรามาสร้างฝันเราเองก็ไม่สายครับ
ผมเคยดื้อมาก่อน คิดย้อนแล้วน่าจะฟังที่บ้านบ้าง แต่ถึงอย่างไรมันคือประสบกาาณ์ทั้งหมดครับ
เราไม่ควรเอาอะไรมาตัดสินแพ้ชนะ คนในบ้านแพ้ชนะไปก็เท่านั้น ประเภทบอกเงินใครคนนั้นเลือก ตรรกะแบบนี้ผมไม่ใช้ และไม่เคยใช้ แม้ผมเคยเลือกที่จะไม่เชื่อที่บ้านแต่ผมไม่ได้ใช้ตรรกะนี้
ถ้าที่บ้านทุกคนคิดว่าเงินใครเงินมัน ก็แยกบ้านกันอยู่ดีกว่า จริงมั๊ย แบบนั้นอย่าใช้คำว่าครอบครัว
ผมเชื่อว่าถึงเค้าจะไม่เชียร์ แต่เค้าคงไม่ขัดอะไรมากหรอก แค่พูดให้ได้คิดต่อเองเท่านั้น
จองไปแล้วก็ถอนจองคืนเงินได้ เหมือนที่ผมเคยบอก
เซลเค้ารู้ดี แต่เค้าเลือกที่จะกินตังค์คนที่ไม่รู้หรือหัวอ่อนเท่านั้นครับ อันนี้ก็ตามจิตศรัทธาเลยครับ
-
เล่าให้ฟัง ไม่รู้เกี่ยวกันหรือเปล่านะ สมัยก่อนเคยจะซื้อNissan Teana ชอบมาก
เมียถามคำเดียว ศูนย์อยู่ไหน จบเลย
ทางบ้านคงกลัวว่าถ้าจะซื้อซูบารุจะเอาเข้าศูนย์บริการที่ไหน ถ้าCRV นี่มีทุกหัวมุมถนนอย่างกะเซเว่นเลย พอๆกับโดโยต้า
-
เอาที่ตัวเองชอบไปเลย ไม่งั้นจะคาใจไปนานกว่าจะซื้อรถใหม่อีกครั้ง คนอื่นแค่นั่งด้วยถ้าเค้านั่งแล้วสบายก็จบ
-
บ้านผมให้น้ำหนักกับเจ้าของรถครับ ถ้าใครอยากซื้อคันไหนคนที่รู้เรื่องรถอาจคอมเมนท์ได้ แต่ตามใจเจ้าของครับ
คงคล้าย จขกท ที่คนรู้เรื่องรถก็คอมเมนท์เป็นธรรมดา เหมือนผมที่คนรอบตัวต่างไม่เห็นด้วยตอนผมจะซื้อวอลโว่ บ้างว่าจุกจิก บ้างว่าราคาขายต่อไม่ดี บ้างว่าไม่มีภาพลักษณ์สู้แบรนอื่นไม่ได้ แต่ทุกวันนี้ทุกคนชอบวอลโว่มากครับ
เลือกไปแล้วอย่าได้ทุกข์ใจกับสิ่งที่เลือกเลยครับ
-
เลือกรถที่ชอบคัยที่ใช่ในสไตล์ของเราครับ จะได้ไม่มีอาการโทษคนอื่นถ้าไม่พอใจและไม่ติดใจอะไรกับคันที่เราเลือกครับ ยิ่งถ้าเงินเรา เราใข้เป็นหลัก ซื้อเถอะครับ
แทบทุกคันที่ผมซื้อราคาตกหมดครัลเพราะผมไม่เล่นแบรนด์เจ้าตลาด ทุกวันนี้มีเจ้าตลาดจอดอยู่บ้านคันนึงครับ ปีนึงขับ2000กม
ถามว่ารถดีมั้ยดี รัหรถมาก แต่ภาพรวมมันสู้คันที่เราเลือกเองไม่ได้ครับ
คนอื่นบอกคันนี้นั่งสบาย นุ่ม ส่วนตัวผมว่ามันเเข็งไม่สบายครับ
รถเราเรามข้เราเลือกครับ
-
ผมเคยใช้บริการทั้งศูนย์ Subaru และ Honda ผมยังโอเคกับศูนย์ Subaru มากกว่าเลย
Honda ศูนย์เยอะก็จริง แต่สำหรับผมเคยเจอประสบการณ์แย่ๆมา 2 ศูนย์ เลยเข็ดกับยี่ห้อนี้
แต่ถ้าแถวบ้านไม่มีศูนย์ Subaru เลย แล้วต้องเป็นภาระในการเดินทางเพื่อไปเข้าศูนย์ไกลๆ
แบบนี้เอา CRV ก็น่าจะโอเคกว่าครับ อย่างน้อยก็อาจจะไม่เจอศูนย์แย่แบบผมก็ได้
-
เคสนี้ ผมว่าเลือกใช้งานได้ทั้งสองตัว
ประเด็นคุณพ่อคือศูนย์บริการ
รถญี่ปุ่นไม่ว่ายี่ห้อไหน Reliable สูงและดีที่สุดในโลกแล้ว (ถ้าไม่ใช่คนจุกจิกจู้จี้ นิดๆหน่อยๆไม่ได้)
ใช้รถแค่ปีละ 10,000 โล เข้าศูนย์บริการปีละครั้งเองครับ ยิ่งพูดถึงตัวรถอย่าว่าแต่5 ปีผมว่า 10ปี สบายๆ ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงเลยสักนิด
อาจจะแค่บำรุงรักษา forester แพงกว่า CRV นิดหน่อย แต่ราคาค่าตัวผมว่าน่าจะได้ forester มาถูกกว่าพอสมควร ดังนั้นไม่น่ามีปัญหาอะไร
การขับขี่ และความนุ่มนวล ผมให้ forester 10/10 ขอแค่ยอมรับหน้าตาและความอืดที่ไม่ทันใจอยู่บ้างได้ เป็นรถที่ดีมากๆคันนึงเลยทีเดียว
-
เอาคนขับ และคนจ่ายเงิน เป็นหลักครับ นาน ๆ จะมีคนมานั่งซักที ไม่เป็นไรครับ
-
ผมเห็นด้วยกับหลายๆ ท่านว่าคนจ่ายเงินคนขับชอบคันไหนให้ซื้อคันนั้นครับ แต่ละคนมีเหตุผลต่างกันไป
แต่จากประสบการณ์ส่วนตัวที่มีทั้งสองยี่ห้อก็บอกเลยว่า คุณพ่อท่านก็พูดถูกครับในเรื่องราคาแต่มันไม่ได้ต่างกันราวฟ้ากับเหวเหมือนรถยี่ปุ่น VS รถยุโรปนะครับ สมมุติ CR-V ค่าใช้จ่าย 100 นึง CX-5 ก็ 110-120 ส่วน Forester ถ้าเทียบกับ XV ผมที่แพงกว่า CX-5 ก็สัก 120-140 อะไรประมาณนั้น แต่เรื่องบริการผมว่าไม่ต่างกันมากเลยสักค่าย
ผมไม่แน่ใจว่าโจทย์ของ จขกท. คือเรื่องไหนสำคัญกว่า แต่ผมว่า CX-5 ก็ไม่ได้ปลอดภัยน้อยกว่า Forester เลยครับ (เมืองนอกเทสกันคะแนนสูงกว่าด้วยซ้ำ) ถ้าเอาตัว 2.0 ก็ขาดแค่ขับสี่ แต่ช่วงล่าง CX-5 ที่มี GVC+ ช่วยผมว่าไม่ต้องถึงกับขับสี่ก็ได้ถ้าไม่ใช่คนขับเร็ว (แต่ถ้าอยากได้ขับสี่ก็ขอให้ข้ามไป 2.5T เลยได้อะไรมากกว่าดีเซล XDL ในราคาแทบไม่ต่างกัน) ในด้านความสบาย ถ้าคนขับสูง 170 ไม่เกิน 180 ผมว่า CX-5 ก็นั่งได้สบายครับ แต่ไม่เท่า CR-V หรือ Forester แน่นอน ถ้าเอาสบายไป CX-8 2.5 ดีกว่า
-
คุณพ่อ (มีความรู้เรื่องรถ) บอกว่า Forester เป็นรถดี แต่ไม่เชียร์ เพราะว่าห่วงเรื่องศูนย์บริการ การบำรุงรักษา เพราะเราไม่มีความรู้เรื่องดูแลรถ ---> ปกติเอารถเข้าศูนย์เอง ดูแลรถเองหรือเปล่าครับ ถ้าเอาเข้าศูนย์เองอยู่แล้ว และสำรวจศูนย์บริการว่ามีความสะดวกอยู่แล้ว ข้อนี้ผมว่าไม่น่ามีปัญหา
คุณพ่อบอกว่า เชียร์ CRV มากกว่า แต่ถ้าอยากได้รถขับดี ไป CX5 ยังน่าจะมีอนาคตมากกว่าค่ะ ---> แต่ความชอบความอยากมันห้ามกันไม่ได้เนอะครับ
ส่วน คุณแม่ กับ น้องสาว บอกว่าไม่มีความคิดเห็นเรื่องรถ แต่บอกแค่ว่า Forester ไม่สวย เชียร์ CRV มากกว่าค่ะ ---> อันนี้แล้วแต่คนชอบ ส่วนตัวผมก็ว่า Forester ไม่สวย XV รุ่นน้องสวยกว่าเยอะ แถมจะมี Eyesight แล้วนะครับ แต่เรื่องนี้ต้องตามใจคนใช้ครับ
โดยสรุปความเห็นผมนะ ถ้า
1. ปกติเอารถเข้าศูนย์เอง ดูแลรถเองอยู่แล้ว
2. เรื่องค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าไม่ทำให้กระทบกับคุณภาพชีวิตในด้านอื่นๆ
3. อยู่กทม. หรือ เล็งไว้แล้วว่ามีศูนย์บริการที่สะดวกและยั่งยืน
ผมว่าเลือก Forester นั่นแหละครับ นานๆ ซื้อรถทั้งที ถ้ามีงบประมาณกันเอาไว้ใช้จ่ายสำหรับเรื่องนี้อย่างไม่ลำบากแล้ว เลือกรถที่ชอบดีกว่าครับ
ผมเข้าใจความหวังดีของหลายๆ ท่านที่กังวลเรื่อง อะไหล่แพง ค่าซ่อมบำรุงสูง ราคาขายต่อไม่ดี แต่เหตุผลทั้งทั้งหมดทั้งปวงที่ดูเหมือนจะเยอะแยะหลายข้อ สุดท้ายมันก็แปลงเป็นตัวเงินนั่นแหละครับ ก็ในเมื่อเรายินดีที่จะจ่ายแพงกว่า เพื่อตอบสนองความชอบที่มากกว่า ถ้าเรามีงบประมาณที่เพียงพอกับความจำเป็นทุกอย่างในชีวิตแล้ว ความชอบมันคือเหตุผลที่ดีที่สุดแล้วครับ
ปล. ผมก็ไม่ชอบตรรกะ ใครจ่ายเงินคนนั้นมีสิทธิเลือกนะ คนรักกันอยู่กันเป็นครอบครัว สำหรับผม ผมจะหาจุดลงตัวร่วมกัน ฟังความเห็นซึ่งกันและกัน และจะไม่เอาเรื่องเงินว่าใครจ่ายมาใช้ตัดสินครับ มันแข็งเกินกว่าจะเอามาใช้ในครอบครัวครับ แต่เคสของ จขกท. ผมว่าครอบครัวน่ารักนะ ทุกคนแสดงความเห็นของตัวเองอย่างตรงไปตรงมา ดีกว่าการเก็บไว้แล้วมาพูดทีหลัง และสุดท้ายเค้าก็ให้ จขกท. เป็นผู้เลือกเองอยู่แล้วรึเปล่าครับ ถ้าแบบนี้ ผมว่าเดินหน้าต่อเลยครับ
-
กลัวแต่ว่าตามใจคนในบ้าน พอได้มาแล้วขัดใจตัวเอง
ขับไปบ่นไปแล้วจะโทษใคร
-
คุณ จขกท. ก็เจอคล้ายๆผมเมื่อตอนจะออกรถใหม่เหมือนกันครับ
ทุกวันนี้ผมขับ Subaru XV มาจะ 6 ปีล่ะ ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับที่บ้านล่ะ
หลักๆคือถ้าเราดูแลรักษารถด้วยตัวเองได้ ไม่ทำให้ที่บ้านเห็นว่าเราลำบากหรือรถมีปัญหาจุกอะไร สุดท้ายก็ไม่มีอะไรหรอกคับ
-
จขกท.พูดถึง Subaru ตั้งแต่ก่อนออก mazda2 > จากนั้นมา HRV > มาตัวใหม่นี้ ถ้าผ่านมาหลายปีแล้ว ใจมาทาง Subaru ก็คงได้เวลาแล้วมั้งครับ
แต่ที่จขกท.ลังเลว่าจะเบื่อเร็วหรือเปล่า อันนี้ก็จริงเหมือนกัน
อย่างผมขับ XV รถขับดีจริงแต่ไม่มีลูกเล่นอะไร ดีที่ตอนขับไปกลับที่ทำงาน รถไม่ติด ไม่ค่อยมีไฟแดง เลยได้ใช้ประโยชน์จากสิ่งที่ผมหวังจากคันนี้บ่อยหน่อย คือความนุ่มนวล+มั่นใจในการขับขี่ (ไม่ได้หมายถึงขับเร็วนะครับ)
ถ้าขับในเมือง 95% อาจไม่ค่อยได้ในจุดนี้บ่อยแบบผม
นึกได้อีกเรื่องคือ XV ถ้าขับความเร็วต่ำจะเจออาการกระตุกๆของเกียร์ ไม่รู้เรียกถูกหรือเปล่า Forester ไม่รู้เป็นเหมือนกันมั้ย
-
รอ CRV มั้ยค้าบ
2022 ก็มาแล้วครับ อีกปีเดียวว
ระหว่างนี้ใช้ HRV ไปก่อน ยังไม่เก่าเลย ปีละหมื่นโล เอง
-
คิดถูกแล้วล่ะครับ เห็นชอบตาม จขกท.
-
ใครจ่ายใครขับก็ควรตัดสินใจนะครับ เราได้รถที่ไม่ชอบมาโคตรจะหงุดหงิดแบบไม่อยากขับมันเลย
-
ส่วนตัวผมก็ว่าฟอเรสเตอร์มันเชยมากก แต่ลองขับแล้วคือของเขาดีจริงๆ ไร้ข้อกังขา ผมยังอยากได้เลย แต่มันเกินการใช้งานของผม
เรื่องครอบครัว ผมไม่แคร์นะ โดยส่วนตัวเวลาจะตัดสินใจอะไร จะหาข้อมูลเยอะมาก และคิดหลายมุมที่สุดเท่าที่จะคิดได้
ลำดับความสำคัญของแต่ละอย่าง ให้คะแนนเปรียบเทียบ เลือกตัวที่เหมาะที่สุด
ถ้าตัดสินใจไปแล้วก็เหมือนศาลตัดสินไปแล้วอะ ไม่มีถอน จะอุทรณ์ต้องมีหลักฐานใหม่ที่มีผลต่อรูปคดีเท่านั้น
ฟังดูเหมือนใจดำ แต่1ในการตัดสินใจก็เอาคนในบ้านมาอยู่ในสมการแล้ว เช่น แม่จะนั่งสบายไหม อะไรประมาณนี้
แล้วเรารับผิดชอบเองคนเดียว ถ้าคนอื่นไม่มารับผิดชอบร่วมก็ไม่เอามาเป็นหลักใหญ่ใจความครับ
-
งานนี้แนะนำให้เชื่อคุณพ่อครับ
คิดเล่นๆถ้าซื้อ mazda แล้วเจอปัญหา
ก็รบกวนคุณพ่อไปรับส่งเวลาเข้าศูนย์ อย่างเลวร้ายมีปัญหาอ้อนคุณพ่อช่วยโปะ mazda ไปซื้ออย่างอื่น
แต่ถ้าซื้อ FRT มีปัญหาอะไรมา จะทำไงดีหละเนี่ย....
-
ถ้าคุณเป็นคนที่จิตใจไม่เข้มแข็งมากพอ
ผมว่าทิ้งจองไปเลยครับ
ผมเคยมาแล้วแบบนี้เลย
เอามาแล้วเวลาคนที่บ้านขึ้นมานั่งก็จะบ่นตลอดทุกครั้งที่มันนั่งรถเรา ใช้แล้วเสียสุขภาพจิต
แต่ผมก็ทนขับมาได้ห้าปีแล้วก็ขายทิ้งเลย
-
ชาช่าตัดสินใจซื้อรถด้วยเหตุผลมา 2 คันแล้ว
ผลสุดท้ายก็อยู่กับชาช่าได้ไม่นาน
ถ้าหากจะตัดสินใจซื้อด้วยอารมณ์บ้าง
บางที มันอาจจะดีกว่าที่คิดก็ได้นะ
ต้องให้รู้ด้วยตัวเอง จะได้ไม่ค้างคาใจ จริงๆ
-
ประเด็นว่าเงินใครออกครับ ถ้าเงินตัวเองก็จัดไปครับ ไม่งั้นไม่จบครับ ความอยากได้
มันยังคงอยู่
เรื่องอะไหล่ต่างๆ ผมว่าขึ้นกับว่าเจอชิ้นไหนที่ต้องเปลี่ยน ขนาดผมใช้ CRV G5
ช่วงล่างดัง ศูนย์ฯ เสนอเปลี่ยน Shock Up ปรากฎว่าไม่มีของ ผมต้องรอถึงต้น
เดือนมกรา ปีหน้าถึงจะมีของ ต้องเอารถออกจากศูนย์ฯ มาใช้ก่อน
ปล. ส่วนตัวผมว่า Subaru เป็นรถดีครับ ขอให้ประทับใจกับรถใหม่ครับ
-
คุณคิดถูกแล้วครับ
จงมั่นใจ
-
เรื่องของศูนย์บริการถ้าเชี่ยวชาญจริงๆจะไม่พูด ออกมาว่ายี่ไหนดีกว่สกันครับเพราะทุกยี่ห้อมีคดีที่ช่าลทำชุ่ยทำพลาดเหมือนกันหมด ถ้าอ่านตามเว็บบอร์ดรถยนต์เยอะๆจะเห็นขัด แต่พอพูดเรื่องซื้อรถใหม่คนก็จะทำเป็นลืมสิ่งที่เคยเกิดขึ้นแล้วก็อวยยี่ห้อที่ตัวเองชื่นชอบกัน :-X ชีวิตคนเราจะมีโอกาสซื้อรถใหม่กี่ครั้ง? ชอบคันไหนซื้อไปเถอะครับ ไม่งั้นก็เหมือนคูนยืมรถคนอื่นมาใช้ทั้งๆที่เสียเงินซื้อเอง :-X
-
เราชอบกควรตามเราแหล่ะครับ อันนี้คือพูดเพราะเห็นว่าเป็นสมาชิกในนี้ มีความรู้พื้นฐานเรื่องรถระดับนึง
ทำให้ที่บ้านเขารู้สึกว่าเราฟังเขาแล้ว แต่เราชอบของเรา ประมาณนี้ครับ เหตุผล บางทีก็ไม่ได้มองเหมือนกันซักทีเดียว เพราะคนละมุม และน้ำหนักแต่ละเรื่องไม่เท่ากัน
โชคดีครับ
-
เงินใคร ใครขับ คนนั้นตัดสินใจครับ
-
forester จะไม่เสียใจครับ อาจไม่ดีที่สุด แต่ไม่แย่ที่สุดแน่นอน
-
ซื้อมาใช้ที่บ้านอาจจะมองว่ามันโอเคก็ได้นะครับ ผมใช้ตั้งแต่รุ่น SG9 หน้าตาก็ไม่สวย คันก็เล็ก แต่ขับดีมากๆ ครับ คุณแม่นั่งหลังปกติจะเมารถเสมอ (ก่อนหน้าที่ที่บ้านใช้แต่ CR-V G1 กับ G2) แต่พอนั่ง Forester แล้วไม่เมาครับ
-
ผมไม่มีปัญหาเรื่องนี้ เพราะก่อนจะซื้อรถสักคันจะปรึกษากันก่อน
และใครเป็นคนใช้รถ คนนั้นจะเลือกรุ่นที่ตัวเองอยากได้ แล้วก็มาคุยกันครับ ซึ่งแฟนผมไม่เคยมีประเด็นอะไรกับรถที่ผมเลือกครับ
-
คุณอบSubaruอยู่แล้วก็คิดถูกแล้วครับ ซื้อรถใหม่ไม่จำเป็นต้องใช้รถมหาชนตามที่คุณพ่อบอกเลย ผมซื้อกับRoyde พระราม3 และService ที่นี่ก็ไม่เห็นรถจะมีปัญหาอะไรเลย ถ้ามีก็คุยกับเจ้าของศูนย์ชื่อเฮียเฮาโดยตรงก็ได้ เฮียเค้าอัธยาศัยดีและเป็นกันเองมาก Foresterก็มีวิ่งเยอะแยะไป ผมไม่เห็นจะต้องกังวลเรื่องซ่อมบำรุงยกเว้นคุณเป็นเซลล์ที่ต้องวิ่งงานทุกวัน แบบนั้นถึงต้องกังวล ขนาดแฟนผมขับBenz ถ้ารถต้องเข้าซ่อมและไม่มีรถสำรองว่าง เค้าก็นั่งแท็กซี่ไปรับลูกที่โรงเรียนเองได้
-
ซุบารุ รถดีขับดี ช่วงล่างดี คนนั่งก็สบาย
แต่ด้วยหน้าตา ภายใน ไม่ค่อยดึงดูด
ศูนย์บริการ อะไหล่ ยังเป็นรองเจ้าตลาด
การขายมือ2 ลืมราคาที่ขาย HRV ไปเลยครับ แถวบ้านผมบางเต็นท์ไม่รับซื้อ
เหมาะกับคนที่รักแบรนนี้จริงๆ อยู่กันยาวๆ อินดี้
ใจเย็นมีเวลารออะไหล่ และมีเงิน ไม่สนใจว่ามือ2จะขายได้เท่าไหร่ หรือไม่ก็ใช้ไปยันเป็นซากโน้น.....เลยครับ
ถ้าคุณเป็นคนที่ดูแลรถประมานว่าเข้าศูนย์แล้วจบ
ไม่อยากไปอู่เฉพาะทาง ไม่สิงในคลับ ไม่ชอบลองหาอู่ไปเรื่อยๆ ขับรถข้ามจังหวัดไปหาอู่ไกลๆไม่ได้ ผมว่าอาจไม่เหมาะกับซุบารุครับ
ลองชั่งใจดูครับ
-
หลายคนห่วงแต่เรื่องศูนย์ ..
เห็นบอกวิ่งปีนึง 1หมื่นโล โดยประมาณ ดังนั้น ก็จะได้เข้าศูนย์ตามระยะทุก 6 เดือนเท่านั้น
สรุปสั้นๆ ปีนึงเข้าศูนย์ครั้งเดียว .. คำถามกลัวอะไรกับศูนย์ ... เพราะได้เข้าแค่ปีละครั้ง ไม่ได้เข้าทุกเดือน ...
ลองบอกทางบ้านเรื่องนี้สิครับ เรื่องศูนย์ที่หลายๆคนชอบพูดกับผมว่า ซื้อมาสด้าไม่กลัวศูนย์หรอ ผมถามกลับ แล้วเรา เข้าศูนย์ปีละกี่ครั้ง ปีนึงไม่เกิน 2ครั้งจะไปกลัวอะไร ...
ชอบคันไหนก็ซื้อเลยครับ เลิกคิดเลิกกังวลเรื่องศูนย์กันได้แล้ว ...
-
ถ้าแบบคิดให้ละเอียด
ผมก็ถือว่าคอมเมนต์พ่อก็เป็นการให้ข้อคิดที่ดี
เราเอามาคิดแล้วตัดสินใจก็ได้ประโยชน์
ถ้าให้คิดจากคอมเมนต์จะได้ประเด็นดังนี้
1.ห่วงเรื่องศูนย์
ประเด็นนี้ผมว่าก็สำคัญสำหรับคนขับรถนะ ถ้าฮอนด้า โตต้า เที่ยวทั่วไทย ไปไหนก็เจอศูนย์ ไม่เข้าศูนย์ก็หาอู่ซ่อมแก้ขัดไม่ยาก
อันนี้ผมว่าเราก็ต้องมาลองดู ว่าเราใช้รถแบบไหน ถ้าใช้กรุงเทพอย่างเดียวหายห่วง ยิ่งถ้าใกล้บ้านมีศูนย์ซูบารุดีๆ มันก็เพียงพอแล้ว
แต่ถ้าไว้ออกต่างจังหวัดด้วย ลองไปเช็คดู ตามเส้นทางที่ใช้บ่อยๆ มีศูนย์รองรักมั้ย + หาอู่ดีๆใส่ลิสต์ไว้ด้วย ถ้าดูแล้วรองรับ ก็หายห่วง ตอบความกังวลข้อนี้ของพ่อได้
แล้วที่สำคัญว่าศูนย์คือรถจุกจิกมั้ย อย่างโตต้ากับฮอนด้าที่บ้านเจ็ดแปดปีมีแต่ซ่อมบำรุงตามระยะ เพราะงั้นศูนย์จะดีมากดีน้อยไม่ค่อยกระทบด้วยซ้ำ แต่ถ้าไปมาสด้า ปั็มติ๊ก กับน้ำดัน ต่อให้ศูนย์ดีศูนย์เยอะแต่ต้องไปคอยซ่อมก็ไม่ใช่เรื่องสะดวกเลย ไปเสียกลางทางลำบากเข้าไปอีก
2.CX-5ยังมีอนาคตมากกว่า อันนี้งงๆ ถ้ามองเรื่องอนาคตของรถ คิดว่าน่าจะเป็นเรื่องราคาขายต่อ กับการซัพพอร์ตอะไหล่ระยะยาว
อันนี้เราดูก่อนว่าเราจะใช้รถกี่ปี ถ้า 3 ปี 5 ปี ผมว่าดูยี่ห้อดูคอมเมนต์เฉพาะรุ่น ก็ไม่ใช่รุ่นที่มีปัญหาจุกจิก เรื่องอะไหล่มันก็ไม่ต้องห่วงเลยเพราะไม่ต้องเสียไม่ต้องซ่อมไม่ต้องรอเคลม เทียบกับมาสด้าปั็มติกไม่จบ ดีเซลน้ำดัน อนาคตน่าจะแย่กว่านะ
ส่วนราคาขายต่อลองเช็ครุ่นเก่าๆดูก็คิดว่าไม่ต่างกับมาสด้า เพราะงั้นก็จะตอบได้ว่าอนาคตดีหรือไม่ดีกว่ามาสด้า
ผมก็ไม่เคยใช้ซูบารุนะ แต่เท่าๆที่อ่านๆ ก็ดูเป็นยี่ห้อที่โอเค ไม่ได้มีปัญหาจกจิกอะไร + ตัวรถผมว่าค่อนข้างเป็นมิตรกับผู้โดยสารนะ คือกว้าง โปร่ง ดูแล้วน่าจะสบาย เพราะงั้น ซื้อมาใช้ๆไปน่าจะชนะใจผู้โดยสารได้อยู่
-
รถดี หมายถึง รถที่สมรรถนะและอื่นๆ โดยรวมดีกว่าอีกยี่ห้อที่เลือกไว้
แต่บางครั้ง รถที่ "สบายใจ" อาจจะแค่กลางๆ
ถ้ารถดีที่เลือก ได้ใช้แล้ว "ไม่มีปห.ใดๆ" ก็สบายตัวไป แต่ถ้าไม่ใช่...
คนที่บ้าน จะคอยให้กำลังใจหรือต่อว่า
อันนี้ต้อง "คิดพิจารณา" เพราะแต่ละครอบครัว ไม่เหมือนกัน...
เข้าใจว่า "เงินของเรา"
มันขึ้นอยู่ว่า คุณจะ "ให้น้ำหนัก ให้ความสำคัญ" ไปที่ไหนมากกว่า?
แต่ถ้าเป็นคนอื่น "ที่ไม่สำคัญ"
อันนี้ ไม่ต้องสน เงินเราเองใช้เอง "ผิดถูกก็ตัวกู"
แต่ถ้าเป็น "เคสนี้" ผมเลือกสบายใจ เลือกครอบครัวมาก่อน...
-
เห็นเคยใช้ mazda อยู่ มาใช้ subaru ผมว่าน่าจะพอรับความเสี่ยงได้ระดับนึงนะครับ
อีกอยากเปลี่ยนแล้วรถดีขึ้น รถใหญ่ขึ้น ก็น่าลองครับ
-
รถเรา เราขับ เรามีความสุข + ความปลอดภัยเป็นของเรา
ผมจะซื้อรถที่ทำให้เราสะดวกสบายมากขึ้น ปลอดภัยมากขึ้น และเลือกแบรนด์ที่ไม่เอาเปรียบผู้บริโภค
crv ผมตัดทิ้งเลยครับ ออฟชั่นโบราณมาก
-
ก็ถอนจองได้นะ
crv g5 ปลายตลาดมากแล้ว
ผมว่า รอ Crv G6 ดีกว่าครับ น่าจะกลาง - ปลายปีหน้า
ตอนแรกผมก็จะเลือก forester เพราะชอบการขับขี่
แต่ไม่ชอบหน้าตาภายนอกจริง ๆ :P
-
Forester กับ CX5
ผมมองว่า Forester มีอนาคตดีกว่าครับ ถ้าดูในคลับ จะเห็นเค้า recall เรื่อยๆ ตามต่างประเทศ อันนี้คือ ความรับผิดชอบ ที่น่าชื่นชมครับ แต่ Mazda เงียบกริ๊บ ปัญหาที่เคยเกิดก็ยังแก้ไม่ได้
ถ้าเงินคุณ ลุยเลยครับ หนักแน่น แล้วพาที่บ้านไปนั่ง โชว์หักหลบสักครั้ง แล้วบอกว่า .. ถ้า CRV คว่ำไปละ ลองสักครั้งเดี๋ยวเค้าก็ยอม
ผมนั่ง CRV G3 / G4 / G5 จนชิน มาเจอ Forester SJ ของเพื่อน นั่งไม่เกิน 5 นาที ยังอ้าปากค้างเลย รถนิ่ม แต่ไม่เอียง กระจกใหญ่ เพดานสูงมาก ประทับใจ ผมเชื่อว่า ถ้าเค้าได้นั่งสักครั้ง เค้าจะชอบมัน ครับ
-
เหมือนผมเลย จะซื้อรถ พ่อบอกว่า ให้เลือก ACCORD เป็นอันดับแรกนะ ไม่อยากให้พ่อเสียใจ จึงซื้อ ACCORD เป็นคันที่ 4 แล้วครับ เพื่อทำให้แก่สบายใจครับ ดูแล้วมีความสุขครับ
-
เจ้าของกระทู้เป็นคนเบื่อง่ายจริงๆอย่างที่บอกเองน่ะแหละ (ระยะเวลาประมาณ 5 ปีเปลี่ยนรถไป 2 คัน และนี่จะเป็นคันที่ 3) ผมเกรงว่าถ้าซื้อ forester มาอาจจะขับได้ไม่นาน ยิ่งมีคนทางบ้านคอยติเรื่องหน้าตา + ศูนย์ งานนี้ที่บ้่าน 3 เสียงไม่มีใครเชียร์เลยซักคนเป็นใครก็ต้องมีเขวบ้างล่ะครับ
เรื่อง Forester ผมไม่มีความเห็นนะครับ แต่ถ้าเป็นผมจะรอ CRV genใหม่ (ไม่รู้ว่าจะมี e-HEV ด้วยมั้ย) หรือไม่ก็รอ PHEV ญป.
-
ผมคิดว่าที่คุณพ่อแนะนำก็มีเหตุผลนะครับ ถ้ามีความรู้เรื่องรถในระดับนึงผมคงแนะนำ Forester ครับ เพราะตอบโจทย์ที่สุดแล้ว แต่ถ้าเป็นคนที่เน้นขับ ไม่ชอบเรื่องจุกจิกอย่างเช่น การหาอะไหล่, อู่นอก พึงพาศูนย์บริการเป็นหลัก แบบนี้ Honda ตอบโจทย์กว่าแน่นอน เหตุผลคือไม่ใช่ว่ามันดีกว่าอีกเจ้า แต่เพราะมัน Mass กว่าแค่นั้น เจอศูนย์ไม่ดีก็เปลี่ยนที่ใหม่ได้เรื่อยๆ แต่ Subaru มีข้อจำกัดตรงนี้มากกว่าในระยะยาว
เลือกแบบไหนก็ไม่มีผิดครับ เพราะเจ้าของรถคือผู้ที่ต้องอยู่กับรถไปอีกนาน
ผมแค่อยากให้คุณมองรอบๆด้านก่อนตัดสินใจครับ
โชคดีนะครับ ;)
-
ผมซื้อรถ ผมไม่ถามคนในบ้านเลย ผมว่าผมคิดเผื่อแล้ว รถคันไหน เพื่ออะไร
อีกอย่าง คนในบ้านไม่รู้เรื่องรถกันจริงๆซักคน มีแต่ใช้ความรู้สึกกับได้ยินมาจากที่อื่น
-
คนในบ้านผมมีผลกับผมทุกคนครับ โดยเฉพาะภรรยา เพราะใช้สลับกันบ่อยครั้ง ควรพอใจกันทั้งคู่
คุณพ่อ ไม่อยู่แล้ว มีผลมาก แต่ไม่เคยเชื่อ มีผลคือไม่สบายใจ แต่ก็ไม่ทำตาม เพราะคิดต่างกันเยอะ
คุณแม่ มีผลมากที่สุด มากกว่าภรรยา แต่ก็ไม่เคยพูดอะไร ให้คิดเอาเอง เพราะรู้ว่าลูกชายเชื่อที่สุด
น้องสาวมีผลมาก แต่ชอบอะไรเหมือนๆกัน โน้มน้าวใจไม่ยาก
รถที่บ้านทุกคนขับได้หมด สลับกันไปมา แม้ว่าจะมีรถทุกคน แต่บางทีก็ยืมกันขับได้ เลยต้องฟังกันบ้างครับ
ชอบที่คุณชานมแคร์คนในบ้านนะ คนบ้านเดียวกัน ควรฟังกัน และอธิบายเหตุผล
ส่วนเขาจะไม่ชอบ ถ้าเรามั่นใจก็ลุยเลย เพียงแต่ควรบอกกันทุกๆเรื่อง
-
มีหลายๆท่านคิดเหมือนผมเลยครับ รอ CRV G6 ครับ (จากคนใช้ G5 อยู่ ) ใหม่ไปอีก 5 ปี ปี 2022 ก็เปิดตัวแล้วครับ ผมคิดว่าเม.ย.ที่ US น่าจะเห็นเต็มๆ
-
เราใช้เป็นหลักเราขับทุกวัน ต้องเอาตามเราครับ เอา crv เอา cx5 ไปก็จะคาใจเรา
ฟังดูคุณพ่อก็แค่แนะนำด้วยความเป็นห่วง ส่วนแม่กับน้องคงไม่ได้อะไรมาก แค่เรื่องความสวยงามมากกว่า ฉนั้นเอาตามเราครับ
แต่เตรียมใจไว้นิดนึงนะครับถ้าสมมุติเกิดมีซ่อมที่มันนอกเหนือกว่าปกติ defect รออะไหล่นานหรืออะไรก็แล้วแต่ อาจจะโดนทับถมได้นิดนึง ต้องแข็งในจุดยืนเราไว้ครับ
-
ขอบคุณทุกท่านสำหรับคำแนะนำนะคะ ต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้เข้ามาตอบเลย (ภารกิจรัดตัว)
มีโอกาสเจอ CRV กับ Forester จอดอยู่ข้างกัน ยังยืนว่าภายใน CRV สวยกว่า แต่เราชอบหน้าตาของ Forester มากกว่าค่ะ
ลองคุยกับที่บ้านเพิ่มเติมแล้ว ว่าเรามองที่เทคโนโลยีทางด้านความปลอดภัยเป็นหลัก ซึ่ง CRV 2.4S (ในงบ) ไม่ตอบโจทย์ตรงนี้จริงๆ
เราตัดสินใจว่าจะออก Forester ต่อไปนะคะ ล่าสุดไฟแนนซ์อนุมัติแล้ว กำลังรอฤกษ์นัดรับค่า
ต้องขอบคุณทุกท่านอีกครั้งนะคะ ^^