Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: e:smart Hybrid ที่ ธันวาคม 22, 2021, 10:18:00
-
https://www.youtube.com/watch?v=ZWXHQ9gP5-c&t=636s (https://www.youtube.com/watch?v=ZWXHQ9gP5-c&t=636s)
จากคลิป ผมได้ดูการซ่อมรถยุโรปมาสักพัก เมื่อก่อนผมเคยคิดว่ารถ BMW Benz รุ่นใหม่ๆ มือ 2 ไม่น่าเล่นเลย แต่พอมาดู F30 แล้ว
ผมแอบแปลกใจนิดนึงว่า ค่าดูแลอะไหล่ มันก็ไม่ได้แพงโหดไปเท่าไหร่นัก เทียบ D-seg ญี่ปุ่น ก็คงแพงกว่าแต่ก็เหมือนจะไม่มากเท่าที่คิดไว้ครับ (ผมคิดว่าจะแพงแบบ 2-3 เท่าอะไรประมาณนี้)
อยากให้ช่วยเปรียบเทียบหน่อยครับว่า F30 นี่ ปัจจุบันถือว่าเอามาวิ่งใช้งานทั่วไปปีละไม่เกิน 2 หมื่นได้หรือไม่ครับ มีอะไรที่ต้องดูแลเป็นพิเศษบ้าง และมีเครื่องตัวไหนให้เลือกบ้าง อย่างเช่น 316I 318I กับ 320D 320I นี่ตัวไหนราคาเท่าไหร่ ต่างกันอย่างไรครับ
-
ผมสิงอยู่ตามคลับ BMW ชอบคอมเม้นท์นึงครับ "ค่าซ่อมค่าอะไหล่ ไม่ได้น่ากลัวเท่าอู่" ครับ
-
มือสองยุโรป ผมว่าน่าเล่นก็ต้องเมื่อ เงินถึงซ่อมถึงครับ
ถ้าเงินมีไม่พอ ซ่อมไม่จบ มันจะเรื้อรังกับส่วนอื่นๆต่อ
ส่วน F30 น่าเล่นอยู่ครับ ถ้าจะเอาผมคงไปเบนซิน 2.0 มากกว่าดีเซล
และถ้าคุณมีอู่ ที่ไม่ไกลมาก และงานดี
-
สำหรับผมถ้าจะเล่นยุโรปมือสองต้อง re mind ตัวเองตลอดว่ารถคันนั้นเมื่อมันออกมา มันราคาเท่าไหร่ ค่าดูแลรักษาก็แพงเป็นเงาตามตัว
ครั้นมือสองราคาลงมาเยอะจนจับต้องได้ แต่การดูแลรักษาก็ใช่ว่าจะถูกลงตามค่าเสื่อมรถ
ถ้ารับได้ผมก็คงเล่นแน่นอน แต่ส่วนตัวตอนนี้ยังไม่สามารถดูแลรถได้ในมูลค่าขนาดนั้นได้ เลยขอปักหลักรถญี่ปุ่นไปก่อนครับ
-
จากที่ใช้ยุโรปมือสองมา แล้วมาใช้D Seg กับ CSuv ญี่ปุ่นนะครับ ค่าซ่อมพอเลย 7-8หมื่นโลมา ขนาดอู่นอก ยังแพงกว่า 2 เท่าเลยครับ อย่าดูแต่ค่าใช้จ่ายถ่ายน้ำมันเครื่องอย่างเดียวครับ อะไหล่อื่นๆ ยิ่งพวกไฟฟ้านี่เจอทีเดียวซ่อม D Seg ได้ทั้งปีเลย และยิ่งถ้าหูดีนี่ เข้าอู่อย่างบ่อย
แต่ที่น่าปวดหัวสุดคือ หาอู่นอกที่ไว้ใจได้แหละครับ หายากมาก
-
ใช้ดีครับ ซ่อมแพงหน่อย เข้าศูนย์ครั้งละ 10K++
ก่อนซื้อลองนั่งก่อนนะครับ ผมว่าเบาะรุ่น m sport นั่งไม่สบายครับ
-
ไม่สนใจ 520D กับ 525D F10 บ้างหรือครับ ผมว่าราคาไม่ค่อยต่างกัน แต่อารมณ์และความรู้สึกต่างกันเยอะ
-
คุ้มจากราคารถที่ตกลงไป ใช่ครับ
-
https://community.headlightmag.com/index.php?topic=81851.0
-
ถ้าเทียบ D Seg ญี่ปุ่นใหม่ๆ เช่นCamry Accord Teana ปี2014ขึ้นไป ค่าซ่อมF30จะแพงกว่าราวๆ 30% แต่ถ้าไปเล่นตัวดีเซลแล้วโซ่ดันขาด ตะแพงกว่าหลายร้อยเปอร์เซ็นต์ หรือเจอท่อDPF พัง เทอร์โบสลาย หัวฉีดรั่ว ปั๊มคอมมอนเรล ปั๊มแรงดันสูง จะเพิ่มค่าซ่อมไปอีก พวกใช้น้ำมันพรีเมี่ยมมาตลอด บอกลาDPFก่อนครับ เพราะพรีเมียมเมืองไทย+ไบโอดีเซล มันเหมือนเผาได้เขม่ามากกว่า อันนี้ผมทดลองเองบ้านๆนะครับ
อะไหล่ช่วงล่าง พอกัน จานเบรค ผ้าเบรค โช๊คอัพรุ่นธรรมดานะครับ ถ้าเอาแบบเวอร์ชั่นพิเศษ ก็ต้องจ่ายพิเศษ
ขับดีกว่าไหม มันคนละเรื่องคนละแบบคนละสไตล์กับDSeg ขับหน้า เลยครับ
ถ้าชอบให้จัดไปอย่าปล่อยให้คาใจ ยิ่งไม่เคยมีรถยุโรปมาก่อนต้องลองสักตั้ง
-
ผมใช้เกือบหกปีแล้ว X3 ใช้แต่น้ำมันพรีเมี่ยม เครื่อง เกียร์ ช่วงล่างการตอบสนองยังดีอยู่เลย ใกล้เคียงรถใหม่
เพิ่งเสียเงินเปลี่ยนปีกนกตัวเดียว เพราะวิ่งทางวิบากบ่อย ตกหลุมบ่อย
ฺBMW นี่ต้องระวังการรั่วซึม ซีล โอริง, พูลเลย์หน้าเครื่องเปลี่ยนก่อนแสนโล
แต่ก่อนผมกลัวแร็คพวงมาลัยจะพังง่าย เห็นคนบ่นกัน ใช้จริงก็ทนดีไม่เคยเสีย อยู่ที่คนขับมากกว่า
แถมตอนนี้มีชุด่ซ่อมสามสี่พันบาทถูกมาก คอมแอร์เกือบหกหมื่น ของoem หมื่นกว่าก็มีให้เลือก
นอกนั้นก็ไม่เห็นมีอะไรจุกจิก กลุ่มผู้ใช้ก็ดูคึกคักให้คำแนะนำดี ไม่หนักใจเรื่องการซ่อม
-
ไม่คุ้มแน่นอนครับถ้าเล่นมือ2 ไปเล่นรถมือ1 ดีกว่า คุ้มกว่า ปลอดภัยกว่าครับ
-
ถ้าเรื่องราคาคุ้มครับ
หลักๆแล้วอยู่ที่เราเลย คุ้มไม่คุ้มมันอยู่ที่ว่าเราชอบไม่ชอบครับ
ต่อให้ราคาด่แค่ไหนซื้อมาแล้วไม่ชอบไม่จบมันก็ไม่คุ้มครับ อิอิ
-
เมื่อเล่นมือสอง ก็ต้องเผื่อใจไว้ซ่อมครับ
ถ้าว่าคุ้มไหม ตอบว่า คุ้ม เมื่อไม่ต้องซ่อมอะไรชิ้นใหญ่ๆ แพงๆ
แต่ถ้าซื้อมาซ่อม มีปัญหา จุกจิก บอกคำเดียวเลย ขายทิ้งมาเยอะแล้ว
เพื่อนผมซื้อ C200 Coupe มา ใช้ได้ 3 เดือน ขายทิ้งเลย ซ่อมโน้น ซ่อมนี่ ไม่จบซะที และ ค่าซ่อมก็ไม่ได้ถูกเลย
-
ต้องเข้าใจก่อนว่า ในคลิปไม่ใช่ค่าซ่อมทั้งหมดที่เจอ
อะไหล่ bmw ในตัวเครื่องใช้พลาสติกเยอะมาก ๆ ถึงเวลามันก็จะแตกกรอบ แล้วก็เสียเป็นปกติ เหมือนที่เขาเปลี่ยนท่อน้ำข้างเครื่องในคลิปนั่นแหละ
ตัวพูลเล่ย์หน้าเครื่องมันเป็นยาง ใช้ๆ ไปมันจะแตก แล้วก็เสีย ราคา 20000 กว่าบาท คุณรับได้ไหม กับต้องเปลี่ยนทุกๆ 8หมื่นถึงแสนโล
dpf ท่อไอดี ที่ต้องล้างทุกๆ หกหมื่นโล ไม่รวมเปลี่ยนปะเก็นอีก ก็ราวๆ 5 พันบาท
น้ำมันเกียร์ และ อ่างเกียร์ อีก ราวๆ 8 พัน บาท
สิ่งเหล่านี้ คุณจะไม่เจอเลยใน แคมรี่ ราคาเดียวกัน เพราะ คชจ.มันจะถูกกว่ากันมากๆ อย่างน้ำมันเกียร์ ผมว่า ไม่ถึง 1500 ด้วยมั้ง
อีกอย่าง f30 มันโบ พอสมควร เบรค hold ไม่มี เบรคมือดึงเอง กล้องหลังไม่มี ถ้าไม่นับว่า เครื่องที่ประหยัด อย่างอื่นผมว่า ไม่ไหวเลย
-
คุ้มครับ (ถ้าซ่อมเก็บงานให้จบ แล้วไม่เรื้อรัง) ผมก็ใช้แต่รถมือ 2 เท่านั้นครับ (เป็นคนชอบใช้รถดีๆ แต่ซื้อมือ 1 ไม่ไหว 55555) ;D ถ้ามีงบประมาณเผื่อเหลือดูแลมันได้ ก็ลองหาซื้อมาใช้ดูครับ ;)
-
ใช้ F30 320d ปี2013 ใช้ตั้งแต่ป้ายแดงจนปัจจุบัน รุ่นนี้ยังไม่เจออะไรจุกจิกครับ
-
ส่วนตัวมองว่าคุ้มครับ จากที่ใช้ทั้งมือสองและป้ายแดงมา เพียงเก็บงานดีๆมันไม่ได้จุกจิกเสียบ่อย แต่ที่บ่นๆกันว่าจุกจิก ซ่อมแพง ซ่อมไม่จบ เพราะส่วนใหญ่ลากเกินกว่าระยะซ่อม บวกกับเจอช่างที่ไม่ชำนาญจริง ส่วนเรื่องอะไหล่แพง มันมีของนอกศูนย์ให้เลือกแบบของแท้ ราคาถูกกว่าศูนย์เป็นเท่าตัวก็มีครับ
-
จากที่ใช้ยุโรปมือสองมา แล้วมาใช้D Seg กับ CSuv ญี่ปุ่นนะครับ ค่าซ่อมพอเลย 7-8หมื่นโลมา ขนาดอู่นอก ยังแพงกว่า 2 เท่าเลยครับ อย่าดูแต่ค่าใช้จ่ายถ่ายน้ำมันเครื่องอย่างเดียวครับ อะไหล่อื่นๆ ยิ่งพวกไฟฟ้านี่เจอทีเดียวซ่อม D Seg ได้ทั้งปีเลย และยิ่งถ้าหูดีนี่ เข้าอู่อย่างบ่อย
แต่ที่น่าปวดหัวสุดคือ หาอู่นอกที่ไว้ใจได้แหละครับ หายากมาก
อู่จ้องจะฟัน จะหลอกเกินราคา เหมือนกันหมดหล่ะ