Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: MacH1 ที่ มกราคม 25, 2022, 23:33:46
-
ชอบอันไหนมากกว่ากันครับ คหสต. ใช้ทั้งสองอันในแบบ wireless ผมให้ Apple Carplay เหนือกว่า แม้ gap จะเริ่มขยับเข้ามาใกล้ขึ้น
AA ย้อนกลับไปสักสองสามปีก่อนนี่ยังไม่โอเคเท่าไร UI ยังใช้งานยากส์ถ้าเทียบกับ Carplay ในยุคเดียวกัน แต่เหนือกว่าUI โบราณๆตกยุคของโปรแกรมติด infotainment รถ
ปล. หลังจากนี้ Android Automotive OS น่าจะเริ่มเข้ามามีบทบาทมากขึ้น แม้ว่าใน XC40 EV จะยังมีรวนๆบ้าง ก็ OTA update พัฒนากันไปเรื่อยๆ คุ้นๆว่าฝั่ง Apple ก็จะมี OS ติดรถแบบเดียวกันโผล่มา
-
Apple Carplay ครับ
-
เคยได้ลองใช้ทั้งคู้ใน Mazda3
ชอบ Android Auto มากกว่า.......เพราะผมไม่ได้ใช้ iOS เป็นหลัก (และถ้าถามต่อว่าทำไมถึงไม่ใช้ iOS ผมคงร่ายยาวบอกเหตุผลความกากของมันได้เป็นร้อยๆบรรทัด)
กับอีกอย่างคือ ระบบสั่งการด้วยเสียง Siri มันโง่เกิน ใช้ประโยชน์ตอนขับรถไม่ได้เลย ของ Google Assistant โอเคกว่าเยอะ
ส่วนพวก UI หลายๆอย่าง ตอนนี้ทำมาไม่ค่อยต่างกันมาก หน้าตา Apple Carplay ดูดีกว่านิดนึง แต่ทั้งคู่คือดีกว่า UI ระบบติดรถอยู่แล้ว
-
จากการทดลองสั่งงานด้วยเสียง ทั้ง apple car play และ android auto
Android กินขาดครับ บอกอยากไปไหน มันเปิด google map ให้ อยากฟังเพลงไร มันก็หามาให้ (เปิดจาก Youtube imusic)
ทั้งนี้ทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับว่าท่านใช้มือถือรุ่นไหน เอาที่สะดวกดีกว่า ไม่ได้ต่างแบบมีนัยยะ
-
แผนที่ผมยกให้ android auto ครับ แต่เรื่องโปรแกรมอื่ย ๆ ผมให้ apple carplay เหนือกว่า
สิ่งที่งงก็คือ การสั่งด้วยเสียง เมื่อก่อน android auto ฉลาดมาก แต่พออัพเดทหลัง ๆ เริ่มโง่ขึ้น สั่งนำทางไม่ไปไหนเลยซะงั้นครับ
-
ผมชอบ Apple Carplay ครับเพราะว่ารถที่ผมใช้มันเล่น Android Auto ไม่ได้ นั่นก็คือ Nissan Almera ครับ55555 ปกติผมใช้แอนดรอยครับแต่พอใช้นิสสันมันใช้ Android Autoไม่ได้ ผมก็เลยเปลี่ยนมาใช้ iPhone เลยครับ แต่ส่วนใหญ่ผมก็ฟัง YT Music อยู่แล้วครับแล้วพวกแผนที่ผมก็ใช้กูเกิ้ลแมปไม่เคยใช้ Apple Maps ครับ
-
ผมชอบใช้เครื่องเสียง Android ในตัวเองเลยไม่ต้องมาต่อมือถือ อย่างมากก็แชร์WIFI เพราะเน้นใช้ GOOGLE MAP แอพของGoogle เอง จบในตัวเดียว Android ก็คือ google os อยู่แล้วจะไปข้ามสายวุ่นวายเปล่า ๆ ครับ
-
ผมโลว์เทคฯ ไม่ใช้ทั้งคู่
เพราะมือถือผม เป็นแอนดรอย(ยังไม่เคยใช้ แอปเปิลเลยสักเครื่อง ) นิสสันคิ๊ก เป็นคาร์เพลย์ มันใช้กันไม่ได้
เปลี่ยนเป็นแอนดรอยไหม ก็ไม่เปลี่ยน มันไม่ได้มีความสำคัญขนาดนั้น
-
ในมุมของการใช้งานได้ทั้งคู่ แต่เสียง Apple carplay ดีกว่าครับ เลยเลือก apple carplay
-
ผมใช้ car play เพราะมือถือหลักเป็น apple แต่ก็ค้าง เด้ง แฮงบ่อย
Aa เคยลองเสียบแล้วไม่ชินเลยไม่ได้ใช้จริงจัง
-
Android Auto ดีกว่าเยอะคับ
-
Android Auto ตั้งแต่อัพเดตใหญ่มา ผมว่าเมนูที่ไม่จำเป็นระหว่างใช้งานตอนขับรถ และการจัดวาง มันทำให้ดูใช้ยากกว่าก่อนอัพเดตประมาณนึงเลย
Recent Apps นู้นน ไปอยู่มุมซ้ายล่าง ไกลมือคนขับไปอีก แทนที่จะได้สลับกันง่ายๆ
และสีกับขนาดไอคอนเมนูที่ใช้ ยังรู้สึกต้องละสายตาลงมามองเยอะกว่า
เหมือนตอนใช้งานระหว่างขับรถ Apple CarPlay จะทำการบ้านตรงนี้มาเยอะกว่าอย่างชัดเจน
ส่วนสั่งงานด้วยเสียง ผมก็ไม่มีปัญหากับ Siri นะ
แต่เรื่องยี้ก็ยอมรับว่า Google Assistant มันเหนือกว่ามาก
ก็ยอมรับว่า ผมขาด Android Auto ไม่ได้
เพราะมือถือ Android มันไม่สามารถต่อ USB ฟังเพลงได้เหมือนของ iPhone
การมี Android Auto มันทำให้สามารถฟังเพลงจาก USB ได้
(ไม่ใช่ทุกครั้งที่จะสะดวก Bluetooth)
ขอปฏิญาณกับตัวเลยว่า หลังจากแม่ผมออก Almera (ที่ไม่มี) ไป จะไม่เอารถคันไหนที่ไม่มี AA เข้าบ้านอีก
ส่วนของแม่ผมที่ปักใจไปกับ Almera แล้ว คงต้องหา iPhone 12 ซักเครื่องให้แกใช้แทน Samsung S9 เดิม
-
ในมุมของการใช้งานได้ทั้งคู่ แต่เสียง Apple carplay ดีกว่าครับ เลยเลือก apple carplay
คิดเหมือนผมเลย ผมต่อทั้ง Front Kenwood Pioneer
ตอนแรกใช้ iPhone ต่อสาย Apple Carplay กับ Apple Music และ Spotify แล้วเปลี่ยนมาใช้ Android ชิพ Eyxnos 2100 กับ Snap 888 รู้สึกได้เลยว่าเสียงไม่ดีเท่าเดิม บวกกับเปลี่ยนมาแล้วไม่ประทับใจเลยกับแอนดรอยรุ่นท๊อป ที่ค้างและเด้งบ่อยมากๆ ไหนจะร้อนและแบตหมดไวมาก ยิ่งอัพ 12 ยิ่งหายนะเลย
สุดท้ายสนใช้ได้แค่ 6 เดือน ขายทิ้งแบบขาดทุนเละกลับมา iPhone13 จบๆเลยครับ ไม่มีค้างไม่มีเด้งอีกเลย
แล้วไหนจะ Interface ที่ Carplay ทำมาใช้งานง่ายกว่าเยอะด้วย
-
เคยใช้สลับไปๆมาๆ สรุปใช้ Apple auto เป็นหลัก ทำงานกับรถผม smooth กว่ามาก
Andriod auto ผมว่าไม่ไหว สู้ไม่ได้เลย
-
Android Auto ตั้งแต่อัพเดตใหญ่มา ผมว่าเมนูที่ไม่จำเป็นระหว่างใช้งานตอนขับรถ และการจัดวาง มันทำให้ดูใช้ยากกว่าก่อนอัพเดตประมาณนึงเลย
Recent Apps นู้นน ไปอยู่มุมซ้ายล่าง ไกลมือคนขับไปอีก แทนที่จะได้สลับกันง่ายๆ
และสีกับขนาดไอคอนเมนูที่ใช้ ยังรู้สึกต้องละสายตาลงมามองเยอะกว่า
เหมือนตอนใช้งานระหว่างขับรถ Apple CarPlay จะทำการบ้านตรงนี้มาเยอะกว่าอย่างชัดเจน
ส่วนสั่งงานด้วยเสียง ผมก็ไม่มีปัญหากับ Siri นะ
แต่เรื่องยี้ก็ยอมรับว่า Google Assistant มันเหนือกว่ามาก
ก็ยอมรับว่า ผมขาด Android Auto ไม่ได้
เพราะมือถือ Android มันไม่สามารถต่อ USB ฟังเพลงได้เหมือนของ iPhone
การมี Android Auto มันทำให้สามารถฟังเพลงจาก USB ได้
(ไม่ใช่ทุกครั้งที่จะสะดวก Bluetooth)
ขอปฏิญาณกับตัวเลยว่า หลังจากแม่ผมออก Almera (ที่ไม่มี) ไป จะไม่เอารถคันไหนที่ไม่มี AA เข้าบ้านอีก
ส่วนของแม่ผมที่ปักใจไปกับ Almera แล้ว คงต้องหา iPhone 12 ซักเครื่องให้แกใช้แทน Samsung S9 เดิม
สรุปถอยAlmeraมาแล้วหรอคับ?
ใช้ดีมั้ย
-
ส่วนตัวใช้โทรศัพท์ Android เป็นหลัก เลยใช้ Android Auto เป็นหลัก ประทับใจนะครับ Google Assistant ก็สั่งงานได้รู้เรื่องกว่า Siri แน่นอน
ส่วนตัวใช้บน Accord G10 ที่ยังแก้ไม่ได้สำหรับ Apple CarPlay คือ GPS รวนมากหลงทางตลอด ซึ่ง Android Auto ไม่เป็น
-
ทุกคนในบ้านเปลี่ยนมาใช้ Apple กันหมดเพราะมันเสถียรกว่า
เลิกใช้ Android ตั้งแต่กะลาสี S4 เพราะความร้อน ทำให้เครื่องค้าง ทำให้คนใช้หงุดหงิดนี่แหละ (กังวลแบตระเบิดด้วยครับ) ค้างแล้วพาลทำให้จิ้มผิดไปสมัครโฆษณา หักเงินเราอีก :'(
-
Android Auto ตั้งแต่อัพเดตใหญ่มา ผมว่าเมนูที่ไม่จำเป็นระหว่างใช้งานตอนขับรถ และการจัดวาง มันทำให้ดูใช้ยากกว่าก่อนอัพเดตประมาณนึงเลย
Recent Apps นู้นน ไปอยู่มุมซ้ายล่าง ไกลมือคนขับไปอีก แทนที่จะได้สลับกันง่ายๆ
และสีกับขนาดไอคอนเมนูที่ใช้ ยังรู้สึกต้องละสายตาลงมามองเยอะกว่า
เหมือนตอนใช้งานระหว่างขับรถ Apple CarPlay จะทำการบ้านตรงนี้มาเยอะกว่าอย่างชัดเจน
ส่วนสั่งงานด้วยเสียง ผมก็ไม่มีปัญหากับ Siri นะ
แต่เรื่องยี้ก็ยอมรับว่า Google Assistant มันเหนือกว่ามาก
ก็ยอมรับว่า ผมขาด Android Auto ไม่ได้
เพราะมือถือ Android มันไม่สามารถต่อ USB ฟังเพลงได้เหมือนของ iPhone
การมี Android Auto มันทำให้สามารถฟังเพลงจาก USB ได้
(ไม่ใช่ทุกครั้งที่จะสะดวก Bluetooth)
ขอปฏิญาณกับตัวเลยว่า หลังจากแม่ผมออก Almera (ที่ไม่มี) ไป จะไม่เอารถคันไหนที่ไม่มี AA เข้าบ้านอีก
ส่วนของแม่ผมที่ปักใจไปกับ Almera แล้ว คงต้องหา iPhone 12 ซักเครื่องให้แกใช้แทน Samsung S9 เดิม
สรุปถอยAlmeraมาแล้วหรอคับ?
ใช้ดีมั้ย
พึ่งจองครับ กำลังจะทำเรื่องไฟแนนซ์
-
รถผมไม่มีทั้ง AA และ ACP ครับ เศร้า
ปล. Camry ACV70 ก่อน MC
-
ชอบ Android Auto ครับ เท่าที่ใช้ Google Assistance ฉลาดมาก ทั้งในมือถือและในรถครับ พูดไทยคำอังกฤษคำในประโยคได้ สั่งไม่เคยพลาด แต่ Siri นี่มีปัญหามาก ฟังไม่เคยรู้เรื่อง ส่วน Interface ผมว่าแล้วแต่ความชินครับ แต่สำหรับผมได้ทั้งสองตัว
-
ชอบ Apply Carplay ครับ เพราะผมสามารถ ซื้อ พวก Android carplay box มาต่อในรถแล้วใช้งานเป็น Android ได้เลย
ดูหนัง ดู TV ฟังเพลงในรถผ่าน Appต่างๆได้ดีกว่า พวกใช้มือถือมาต่อกับรถเยอะเลยครับ(พวกนั้นได้แต่เสียงกับแผนที่ ดูหนังไม่ได้ครับ)
-
ใช้แต่ Andriod Auto เคยใช้ Apple Carplay บ้างแต่ไม่บ่อย ชอบ Andriod Auto ตรงใช้แมป Google เนี่ยแหละหาอะไรง่ายมากแล้วเมื่อปีที่แล้วเปิดในไทยอย่างเป็นทางการ UI มันสลับด้านให้ละก่อนหน้านี้มันนึกว่าพวงมาลับซ้าย UI มันเลยไปอยู่ทางซ้าย พอมันปล่อนในไทยUI ทางขวาซะงั้นแปลกดี
สำหรับโทรศัพท์ ใช้ทั้ง 2 ค่าย iPhone ได้ความเสถียรแต่เรื่องเทคนิคเชื่อมกับแอปที่ผมใช้ทำงานมันค่อนข้างแย่เลยใช้ Android เป็นหลักมี iOS ไว้ลองระบบนิดหน่อย
-
Andriod Auto เพราะมันหลากหลายกว่า
ที่สำคัญ Google มันดี
-
ชอบ Carplay มากกว่า รู้สึก UI ใช้ง่ายกว่า และออกแบบมาสวยกว่าเต็มจอกว่า
เคยใช้ Andriod Auto แล้วงงว่าทำไมต้องมีติ่งนาฬิกาข้างๆ เปิดอะไรก็ไม่เต็มจอและก็ยังไม่ค่อยชอบ UI ของ Android Auto
ส่วนเรื่องสั่งงานด้วยเสียงต้องยกให้ Android Auto ฉลาดกว่า Siri ไปไกลมาก บอกให้หาอะไร จะไปไหนสั่งได้หมด Siri ยังสั่งนำทางไม่ได้เลย
-
ผมใช้ Samsung S20+
CLS300d
- เมื่อก่อนเคยต่อได้ แต่ตอนนี้ต่อไม่ได้ เป็นไรไม่รู้ รีเครื่องก็ไม่ได้ แต่ Apple Carplay ได้ปกติ
X5 G05
- ต่อแบบไร้สาย ถ้าเปิด Google Map อย่างเดียวไม่เป็นไร แต่ถ้าฟัง Spotify ไปด้วย ฟังไปซักสักจะกระตุก และค้างไปในที่สุด
และทั้งหมดที่กล่าวมา Youtube Music และ JOOX ควบคุมผ่าน Android Auto ไม่ได้ ควบคุมได้แต่ Spotify เท่านั้น ตอนนี้รอ Iphone 14 ออกมา ผมจะย้ายกลับไป IOS ละ
-
วิทยุธรรมดาไม่มีจอ มือถือ android ลง app for phone screen ต่อสายชาร์จแปะไว้บนคอนโซล
เปิดเพลงจาก app radio tuner + yt music มีสั่งงานเสียง ok google ว่า กลับบ้าน บ้างพอเป็นพิธี ::)
-
ชอบทั้งคู่
-
ชอบ AA ครับเพราะ Custom ได้ ใน CX-5 ผมเอาลูกศรบอกทางเลี้ยวถัดไป + ระยะทางก่อนถึงจุดเลี้ยว + ชื่อถนน ไปแสดงใน HUD ได้ทำให้แทบไม่ต้องมองจอเลยถ้าขับนอกเมืองที่ซอยไม่เยอะแบบ กทม.
อีกอย่างนึงคือ Fermata Auto ที่ตอบโจทย์การเปิดเว็บดูหนัง ดู Youtube บนรถได้ สะดวกมากๆ
-
ผมชอบ apple CarPlay ฟังเพลงเสียงใส กิ๊ก ชัดๆ จาก apple music ขับทางไกล ฟังเพลินๆ เสียงใสๆ ตลอดเส้นทางไม่มีเบื่อเลยครับ
-
ชอบ Apple Carplay ครับ ถ้าแต่ใช้ Google Maps ชอบบบน AA มากกว่าครับ
-
Apple Car Play ครับ อาจจะเพิ่มใช้ iPhone เป็นหลัก เลยชินกับ UX/UI ของ IOS มากกว่า
แต่ชอบใช้ Google Maps มากว่า Apple Maps
-
ใช้โทรศัพท์ทั้ง Android IOS ลองใช้มาทั้งคู่ครับ ชอบ Android Auto มากกว่า แต่เคยเจอบั๊คกลางคืนไม่จอรถไม่ยอมปรับเป็นโหมดมืดให้ ถึงจะตั้งค่าแล้วก็ตาม แสบตามากเลยไม่ได้ใช้ (ตอนนี้น่าจะหายแล้วเห็นอัพเดตบ่อยอยู่)
ส่วน Apple Carplay รู้สึกว่าเวลาฟังเพลงเสียงดีกว่า ใช้ แอพ Spotify คุณภาพสูงทั้งสองเครื่อง
-
เคยใช้จอ pioneer ชอบ Apple Carplay มากกว่า
-Apple Carplay มือถือตัวเอง iPhone 7+ ไม่เคยค้าง เสียงดูมีมิติกว่า Android Auto แต่นำทางใช้ Google Map ใช้ Map Apple แล้วมันค้นหาปลายทางลำบาก
-Android Auto มือถือแฟน Vivo v19 ค้างเป็นบ้างครั้ง เสียงรู้สึกด้อยกว่า Apple Carplay แต่ก็ดีกว่าบลูทูธ
แต่แปลกถ้าใช้ Apple Carplay หรือ Android Auto ปิดแสงหน้าจอไม่ได้ กดปุ่มปิดแสงจอกลายเป็นเด้งไปหน้าจอหลัก pioneer ขับกลางคืนทีไรต้องเปลี่ยนเป็นบลูทูธเพื่อกดปุ่มปิดแสงจอแล้วดับ
-
Apple Carplay ตอนใช้งานยังเข้า Maps หาชื่อบนมือถือได้ สะดวกกว่าพอสมควรครับ แต่ Android พอใช้ Auto แล้วจะต้องทำบนจอรถอย่างเดียวเลยเสียตรงนี้แหละผมว่า
-
(ใช้แต่แบบ wired)
Android auto :
ข้อดี มี widget กดนำทางไปบ้าน หรือที่ทำงาน ที่ที่ไปบ่อยได้เลย (กดดูเพราะบางทีรถติด มีเส้นอื่นที่ไปได้ไวกว่า)
ข้อเสีย ตาม style มือถือ android note 10 ที่ไม่ได้เก่ามาก บางทีมีค้าง / กระตุก
หากมีคนนั่งไปด้วย ไม่สามารถกดมือถือเราไปด้วยได้ เช่น ฝากตอบไลน์ หรือ หาสถานที่ใหม่จากมือถือ
Apple CarPlay :
ข้อดี interface ใช้ง่าย มี podcast ใช้มือถือเก่าขนาด iphone 6s ยังลื่น สามารถให้คนนั่งข้างๆใช้มือถือไปด้วยได้ขณะกด
ข้อเสีย อยากได้ widget หาเส้นทางง่ายๆ ไว้หน้าหลักเลย
ส่วน Siri พวกคำสั่งง่ายๆ navigate me to home, play ... song on google music ก็ทำได้พอๆกับ google assistance เลยให้คะแนนไปพอๆกัน