Headlight Magazine : community

General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: sattakorn ที่ ตุลาคม 19, 2010, 22:30:51

หัวข้อ: ทำไมคนไทย ไม่ได้ใช้อะไร ดีๆ เหมือน ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: sattakorn ที่ ตุลาคม 19, 2010, 22:30:51
ผมลองนั่งคิดดูว่า ทำไมบริษัทรถใหญ่ๆ ในไทย ทั้ง T ทั้ง H ทั้ง Mi หรือกระทั่ง Ni ที่มีฐานการผลิตในไทย ส่งออกขายต่างประเทศ แต่ option ดีๆ กลับเอาไปขายต่างประเทศ spec ต่ำกว่า เอาขายในไทย... รถ รุ่นเดียวกัน หากต่างภูมิภาค ก็ได้ option ที่สูงกว่าไทยเกือบทั้งนั้น... ผมว่าผมชอบแนวคิด "One Ford" นะ ลองเปิดเว็บฟอร์ดในอเมริกา กับ ไทยดูสิครับ option อะไรต่างกันมั่ง ในรุ่นเดียวกัน ไม่รวมรุ่นพิเศษ ไม่ได้อคติ แต่อยากถามเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ใน headlightmag ว่ามีความเห็นอย่างไร... ป.ล ความคิดเห็นส่วนตัว ไม่ได้โจมตีใครนะครับ... ไม่ได้เป็นอะไรกับ Ford และไม่ได้มีรถ Ford
หัวข้อ: Re: ทำไมคนไทย ไม่ได้ใช้อะไร ดีๆ เหมือน ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: Fly to dream ที่ ตุลาคม 19, 2010, 22:44:50
จริงนั้นแหละครับที่ผมชอบ Ford ก็เพราะแบบนี้แหละ บาง อ็อฟชั่นก็ตัดไปบ้างแต่ไม่สำคัญเท่าไร  มาสด้าก็โอเค
เชพโรเล็ต อีกยี่ห้อ   ไอพวกอื่นมันลดต้นทุนจนน่าเกลียดเกินไปมากๆ แถมขายแพงกว่าด้วยไม่รู้ทำไม เหมือนกับมันคิดว่าคนไทยโง่มาก  แต่ก็มีส่วนจริงเยอะ เพราะคนไทยเค้าซื้อรถเพราะอะไรบ้าง ของแถม  โฆษณา   ของแต่งเยอะ   ขายต่อ  คงแค่นั้น

Mazda Ford Chev  มันลดต้นทุนในไทยแต่มันลดไม่น่าเกลียดจริงๆ เช่น Focus TDCi เมืองนอกแอร์เป็นมือหมุนหลายประเทศเลย
Mazda 3 ถุงลมม่าน บางประเทศไม่มีให้
หัวข้อ: Re: ทำไมคนไทย ไม่ได้ใช้อะไร ดีๆ เหมือน ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: HOMY_DEMIO ที่ ตุลาคม 19, 2010, 22:45:42
รถ Ford เมืองนอกจริง ๆ ก็ออพชั่นต่างจากบ้านเราเยอะไม่แพ้ค่ายรถญี่ปุ่นเลยนะครับ

แล้วอันที่จริง One Ford คือกลยุทธ์การพัฒนาสินค้าของเขา ไม่เกี่ยวกับออพชั่นติดรถเสียเท่าไรเลยนะครับ เข้าใจผิดแล้ว เป็นกลยุทธ์ที่จะต้องแก้ปัญหาสินค้าไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันทั่วโลก เพราะมันเริ่มหมดยุคที่จะต้องแยกพัฒนา model ให้แตกต่างในแต่ละท้องถิ่นแล้วครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมคนไทย ไม่ได้ใช้อะไร ดีๆ เหมือน ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: kengointer ที่ ตุลาคม 19, 2010, 23:01:56
ในเรื่องตัดฟังก์ชั่นนี่ โตโยต้าตัวพ่อเลยแหละ เพราะยังไงๆ คนไทยก็ซื้อโตโยต้า กับ ฮอนด้า อยู่ดี หึหึ
หัวข้อ: Re: ทำไมคนไทย ไม่ได้ใช้อะไร ดีๆ เหมือน ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: alzeto ที่ ตุลาคม 19, 2010, 23:05:16
แต่จะบอกว่า ไอ้ค่ายใหญ่ๆ  นี่ จัดสเปก บ้านเราได้อุบาทว์ ยังกับประเทศเราคือโลกที่สามของบ้านเขาค่ะ


อันนี้จริงๆนะคะ

เห็นทุกรุ่นที่ขายบ้านเรา  พอเจอเวอร์ชั่นบ้านเขา หรือส่งออกนี่แหละ  อยากจะกริ๊ดด ให้แคมกระพือให้ได้ค่ะ


ริงโกะค่ะ
หัวข้อ: Re: ทำไมคนไทย ไม่ได้ใช้อะไร ดีๆ เหมือน ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: YIM ที่ ตุลาคม 19, 2010, 23:20:09
1. ภาษาีบ้านเราแพงโหด ถ้าให้ของเล่นเยอะ จะคุมราคาไม่ได้
2. เขาเห็นบ้านเราเป็นฐานผลิตที่สำคัญ แต่ไม่ใช่ตลาดที่สำคัญ เขาลงทุนใช้แรงงานราคาถูกในบ้านเรา แต่ไม่สนใจทำรถให้เราใช้หรอกครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมคนไทย ไม่ได้ใช้อะไร ดีๆ เหมือน ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: prai ที่ ตุลาคม 19, 2010, 23:37:53
ผมชอบการจัดออฟชั่นแบบ วอลโว่ เขาล่ะครับ ที่ให้เลือกได้ว่าลูกค้าต้องการอะไร จะเอาอะไร
ถ้าค่ายตลาดหลักทำแบบนี้บ้างคงดี ทีนี้ก็มีของเล่นให้ลูกค้าติดตั้ง
แต่เรื่องของราคาก็อีกเรื่องนึง ในเมื่อลูกค้าต้องการก็จัดให้แล้ว
ก็อย่ามาบ่นอีกล่ะกันว่ามันแพงน่ะครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมคนไทย ไม่ได้ใช้อะไร ดีๆ เหมือน ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: Iwata Kana Σ4 ที่ ตุลาคม 19, 2010, 23:45:05
อยากให้มี Maker Option แบบตปท.จัง
หัวข้อ: Re: ทำไมคนไทย ไม่ได้ใช้อะไร ดีๆ เหมือน ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: Ruksadindan ที่ ตุลาคม 19, 2010, 23:51:23
ผมชอบการจัดออฟชั่นแบบ วอลโว่ เขาล่ะครับ ที่ให้เลือกได้ว่าลูกค้าต้องการอะไร จะเอาอะไร
ถ้าค่ายตลาดหลักทำแบบนี้บ้างคงดี ทีนี้ก็มีของเล่นให้ลูกค้าติดตั้ง
แต่เรื่องของราคาก็อีกเรื่องนึง ในเมื่อลูกค้าต้องการก็จัดให้แล้ว
ก็อย่ามาบ่นอีกล่ะกันว่ามันแพงน่ะครับ
ว่ากันตามตรงแล้วออปชั่นก็แปลว่าทางเลือก ตัวเลือก ที่เราจะเอาอะไรใส่ในรถบ้างนั่นแหละครับ แต่มาไทยนี่บังคับซะเลย
หัวข้อ: Re: ทำไมคนไทย ไม่ได้ใช้อะไร ดีๆ เหมือน ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: LimitedEdition ที่ ตุลาคม 20, 2010, 03:55:30
ต้องคิดถึงหลักการ Demand กับ Supply ด้วยครับ

เทียบง่ายง่ายกับรถที่อเมริกา
ที่นี่ ทุกคันมี Heater และมี Cruise Control ตั้งแต่รุ่นประหยัดไปจนถึงรุ่นท้อป
ก็เพราะว่าที่อเมริกาไม่มี Heater ไม่ได้ เวลาหนาวจนหิมะตก มันต้องอาศัย Heater
แล้วภูมิประเทศของอเมริกา เป็นประเทศกว้างใหญ่ คนขับรถเดินทางกันทียาวๆ ก็ต้องมี Cruise Control
ถุงลมนิรภัยต้องมีครบ เพราะเป็นกฎหมายของประเทศเค้าไปแล้ว
แต่รถแต่ละคันที่นี่ มักจะไม่ใช่แอร์ออโต้ บางทีรถรุ่นรองท้อปยังเป็นแอร์ลูกบิดด้วยซ้ำไป แถมเบาะผ้าอีกต่างหาก
Camry ที่นี่ ล้อยังเป็นกระทะเหล็กพร้อมฝาครอบพลาสติกก็มีครับ

รถที่เมืองไทย รุ่นต่ำๆ ลงไป เดี๋ยวนี้ยังขยันใส่แอร์ออโต้ กุญแจ Keyless Entry มาให้
ซึ่งพอเทียบกับรถที่อเมริกาแล้ว มักจะไม่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกเหล่านั้น แล้วอะไรดีกว่าอะไรกันล่ะครับ

ถ้าจะมองต่อไปอีก ก็ต้องมองสัดส่วนรายได้เทียบกับราคารถยนต์ และพฤติกรรมผู้บริโภคบ้าง
ถ้า Honda Jazz เมืองไทย มาออพชันเต็มแบบเวอร์ชันสูงสุดที่จะมีได้ ใส่แอร์ออโต้ Start Stop ปัดน้ำฝนไฟหน้า เบาะหนังแท้ปรับไฟฟ้า ม่านนิรภัย คอมพิวเตอร์ออนบอร์ด นาวิเกเตอร์ ไฟหน้าไบซีนอน ระบบตรวจวัดลมยางอัตโนมัติ และอื่นอื่นอีกมากมาย แต่ราคา 1,000,000 บาท ก็คงขายไม่ได้ เพราะโครงสร้างภาษีรถยนต์บ้านเรามันแพงครับ เทียบกลับกันกับรถที่อเมริกาซึ่งเป็นรุ่นท้อปก็ขายกันระดับ 15,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 450,000 บาทเท่านั้น สัดส่วนรายได้ของคนที่นี่ก็เยอะกว่าคนไทยหลายเท่าตัว เค้าก็สามารถซื้อหากันได้ง่ายกว่า จริงๆ จะโทษบริษัทรถอย่างเดียวก็ไม่ได้หรอกครับ เพราะมันเกี่ยวเนื่องตั้งแต่โครงสร้างภาษีของประเทศ รายได้เฉลี่ย ฯลฯ อีกเยอะแยะมากมาย ที่ทำให้ผู้ผลิตไม่สามารถใส่ออพชันเต็มมาได้เพราะมันจะตั้งราคาขายได้ไม่สมเหตุสมผลอีกต่อไป
หัวข้อ: Re: ทำไมคนไทย ไม่ได้ใช้อะไร ดีๆ เหมือน ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: parinda ที่ ตุลาคม 20, 2010, 08:53:40
เห็นในเว็ปต่างประเทศมีให้เลือกเอาเลยว่าจะเอาอะไรบ้าง ก็เพิ่มราคาเข้าไป แบบนี้ก้อแฟร์ดี
หัวข้อ: Re: ทำไมคนไทย ไม่ได้ใช้อะไร ดีๆ เหมือน ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: Dark Overlord ที่ ตุลาคม 20, 2010, 09:08:20
ตามท่านเนยเลย
หัวข้อ: Re: ทำไมคนไทย ไม่ได้ใช้อะไร ดีๆ เหมือน ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ ตุลาคม 20, 2010, 09:29:04
ทำใจเถอะครับ ประเทศไทยเป็นประเทศยากจน

รัฐบาลต้องเก็บภาษีหารายได้ หรือจะให้ไปเก็บภาษีที่ดิน(เก็บภาษีบ้านที่เราๆอยู่กันทุกหลัง) ก็คงไม่เหมาะแน่ๆครับ(เดือดร้อนตั้งแต่คนจน-รวย)

ต้องยอมรับว่ารถยนต์เป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ดังนั้นรัฐบาลก็ควรจะเก็บภาษีในระดับนี้แหละครับ
ถ้าไม่มีตังก็ไปซื้อรถมือ 2 ซึ่งมันอาจจะแพงถ้าเทียบกับเมืองนอกแต่อย่างน้อยราคามือ 2 ในไทยตกน้อยมากนะครับ ถ้าเทียบกับเมืองนอก
แถมภาษีประจำปีบ้านเราถูกโคตรๆ เครื่อง 1.6 รถ 10 ปี 890 บ. เท่านั้น

กลับมาที่คนไทยก็ควรจะเปลี่ยนทรรศนคติที่ไม่ถูกต้อง เช่น ล้อ Max แอร์ออโต้ กระจกไฟฟ้า เบาะหนัง ซึ่งพวกนี่แหละที่ทำให้รถแพงเกินเหตุ
ไปเน้นที่ค.ปลอดภัย เช่น ถุงลม ABS แต่อย่างว่าพูดไปก็มีแต่คนในนี้เท่านั้นแหละที่เห็นค.สำคัญ คนไม่บ้ารถเขาไม่สนใจหรอก
หัวข้อ: Re: ทำไมคนไทย ไม่ได้ใช้อะไร ดีๆ เหมือน ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: 2k ที่ ตุลาคม 20, 2010, 10:40:15
ตราบใดที่คนไทยยังคงทำตัวเป็นสาวกกันอยู่ก็จะต้องเป็นแบบนี้ต่อไปและอาจจะตลอดไป  :P


คนไทยซื้อรถต้องโตโยต้าต้องฮอนด้าเท่านั้นยี่ห้ออื่นมันกระจอกมันไม่ดีทั้งนั้นด้วยเหตุผลต่างๆนาๆและความเชื่อทางไสยศาสตร์  ในเมื่อสองยี่ห้อใหญ่ทำรถมาขายเต็มไปด้วยปัญหาจากตัวรถเองและนโยบายที่เอารัดเอาเปรียบลูกค้าแต่คนไทยยังคงจงรักภักดีตั้งก๊กเป็นสาวกมีศาสดาที่ห้ามแตะห้ามว่า บริษัทรถทั้งหลายผลิตอะไรมาก้ขายได้ขายดีไปหมดทุกรุ่น ค่ายรถพวกนี้มันไม่ใส่ออฟชั่นมาให้มันกำไรหดหรอกครับ แทนที่จะประชาสัมพันธ์ว่าระบบABS ระบบการทรงตัว แอร์แบกมีประโยชน์ยังไงมีผลดียังไงกับชีวิตอย่างที่ประเทศอื่นเค้าทำกันบ่อยๆค่ายรถกลับยัดเยียดแค่คำว่า "คุ้มค่า" กับ "ประหยัดน้ำมัน" ให้ฝังรากลึกในสมองคนไทยเพื่อว่าซื้อรถจะได้เอาแต่ของถูกๆ ชนขึ้นมาตายห่าไม่ว่าพวกข้าขอจ่ายถูกก็พอ  :-\


ในเมื่อเจ้าตลาดเล่นไม้นี้แล้วขายดี ยี่ห้อย่อยๆจะฝืนกระแสก็ใช่ที่จำใจต้องตามน้ำหั่นออฟชั่นให้กุดหมดเพื่อที่จะตั้งราคาต่ำๆมาสู้ นานๆๆๆๆๆๆทีถึงจะมียี่ห้อที่ใจกล้ายัดออฟชั่นเยอะราคาถูกมาสู้สักที(เชฟโรเล็ทครูซไง) ถ้าค่ายรถทั้งหลายนึกถึงคนซื้อเป็นหลักจริงป่านนี้มีรถความปลอดภัยสูงขายกันเพียบแล้ว ม่านนิรภัย แอร์แบก12 ลูกอะไรเนี่ย ไอ้เรื่องราคาไม่ต้องห่วงเลยว่าคนไทยจะซื้อไมไหว คนไทยมีกำลังซื้อมากกว่าคนชาติๆอื่นๆเยอะนัก แต่นี่ตัดมันหมดทุกอย่าง ของที่ต้องมีมากับตัวถังอย่างคานกันกระแทกหลังมันยังเอาออกเลย  ???


คนไทยเองนี่แหละวางตัวเองให้อยู่ตำแหน่งต่ำกว่าบริษัทรถไม่มีปากเสียงไม่มีอำนาจต่อรอง อ้าแขนขาให้ปู้ยี่ปู้ยำเอาเปรียบยังไงก็ได้พวกข้ายอมหมด
หัวข้อ: Re: ทำไมคนไทย ไม่ได้ใช้อะไร ดีๆ เหมือน ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ ตุลาคม 20, 2010, 10:51:40
เห็นด้วยกับคนข้างบนมากๆ

ผมว่า Cruze ให้ของมาครบมากๆ ในราคาที่ O.K. มากๆ

แต่ EX นี่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องไปทำตามเจ้าตลาดก็ไม่รู้แถมน้อยกว่าอีกต่างหาก
หัวข้อ: Re: ทำไมคนไทย ไม่ได้ใช้อะไร ดีๆ เหมือน ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: J!MMY ที่ ตุลาคม 20, 2010, 11:04:08
เกือบทุกท่านมองโลกในแง่ร้ายไปหน่อยหรือเปล่าครับ

ยกตัวอย่างง่ายที่สุด


สมมติว่า คุณเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ด แต่มีลูกค้าเรียกร้อง อยากกินข้าวหน้าเป็ดด้วย
ถ้าเป็นลูกค้าเพียงรายเดียว เจอกันทีไร ก็เรียกร้องขอให้คุณทำข้าวหน้าเป็ดให้เขากิน
เขายินดีจ่าย แต่ว่าลูกค้าที่คุณเจอ ตลอด 1 เดือนนั้น มีคนถามถึงข้าวหน้าเป็ด แค่ 3-4 คน เท่านั้น
คุณจะยินดี ลงทุนซื้อข้าว และหม้อหุงข้าว รวมทั้ง ทำน้ำราดหน้าเป็ด ที่ต้องใช้เวลาทำเยอะ
และจะต้องเตรียมเครื่องปรุงต่างๆด้วย เพื่อจะทำข้าวหน้าเป็ดขาย คนเพียง 3-4 คนนี้ไหมครับ?

ทำไมรถในบ้านเรา ถึงใส่ออพชันแบบเมืองนอกครบขนาดนั้นไม่ได้?

ความจริงหนะ ใส่ได้...แต่ ถ้ามมติว่า ใส่ซันรูฟ แล้วต้นทุนต่างๆ มันพุ่งขึ้นไปอีก 5-6 หมื่นบาท
และจำเป็นต้องเพิมราคาขายไปเลย 8 หมื่นบาท กับรถเล็กๆ อย่าง Fiesta ใครที่ไหนจะซื้อครับ?
นี่แค่ตัวอย่างเดียวนะ

อย่ามาบอกว่าคุณยอมซื้อ เพราะคนที่ยอมซื้อแบบคุณ จะมีไม่กี่รายเท่านั้น เต็มที่ก็แค่หลักร้อย
จากคนทั้งประเทศ แล้วการจะต้องทำอะไรที่ เอใจคนเพียงไม่กี่ร้อยคน แต่ต้องกระทบกับ
การจัดการด้านการผลิต การบริหารต้นทุน และส่งผลให้ราคารถมันถีบพุ่งขึ้น จะยอมหรือครับ?

เอาง่ายๆ ต้นทุนรถในบ้านเราหนะจริงๆ แต่ละคัน มันไม่เท่าไหร่เลย ต้นทุนถูกมาก
แต่ว่า รัฐบาล ยังคงมองรถยนต์ เป็นเพียงแค่ สินค้าส่งออก ที่ต้องเอาไว้เรียกรายได้เข้าประเทศ
และมองรถยนต์ว่าเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ก็เลยยังคงมีการเก็บภาษีในส่วนต่างๆ ที่ยิบย่อยมหาโหดกัน


ความจริงที่คนไม่ค่อยรู้กันคือว่า
คุณรู้ไหม ประเทศไทยเอง ก็เคยมีความพยายามของผู้ผลิต ที่จะสั่งสเป็กรถ ดีๆ เข้ามาขายในบ้านเรา

Toyota Wish รุ่นเดิม ในเมืองไทย ใช้ช่วงล่างด้านหลังดีกว่า ร่นขับล้อหน้าของญี่ปุ่นองเสียอีก?
Mazda Astina รุ่นแรก ใช้เครื่องยนต์ 140 แรงม้า แรงกว่า เวอร์ชันญี่ปุ่น ที่ 125 แรงม้า เสียอีก (ส่วนหนึ่งเพราะ
ไม่มีแคตาไลติค คอนเวอร์เตอร์ มาให้ กฎหมายยังไม่กำหนดในตอนนั้น)
Nissan Cefiro A31 หากเทียบรุ่นเครื่องยนต์ เดียวกัน คือ RB20E อันถือว่าเป็นรุ่นเครื่องยนต์ต่ำสุด
ออพชัน ในบ้านเรา บานตะไท เกินหน้าเวอร์ันญี่ปุ่นไปไกลเลย ทั้ง โซนาร์ เกียร์อัตโนมัติ  ฯลฯ

อีกเคสนึงที่คลาสสิคมากสำหรับผมคือ Toyota Yaris
นี่คือ ผลจากการที่ คนใน Toyota อยากให้คนไทย ได้ใช้ของดีๆ เหมือนในญี่ปุ่นบ้าง
ก็เลยอัดกระหน่ำใส่ออพชันมาให้ซะพอกันกับเวอร์ชันญี่ปุ่นเลย
แต่สุดท้าย ราคามันโดด เป็นไงละครับ ตอนเปิดตัวออกมา ขายแทบไม่ออก
ดีลเลอร์ใน กรุงเทพฯ เอง ก็ไม่อยากขาย จน Toyota เอง ต้องอกแคมเปญช่วย
ยอดถึงจะเดินบ้าง

เลยอยากจะมาเล่าสู่กันังไว้บ้างว่า อย่าเพิ่งมองในแง่ร้ายอย่างเดียวครับ
ออพชันบางอย่างที่เมืองนอกมี บ้านเรามันไม่จำเป็นต้องมีนาดเขาครับ

-----------------------------------

อ้อ คุณ GreenG
คุณไม่ต้องไปพยายาม เข้าใจ Lancer EX หรอกครับ
เอาเป็นว่าคนที่เกี่ยวข้องหนะ เขารู้อยู่แล้วว่า ทำไม เขาก็พยายามแก้กันอยู่
เท่าที่คนตัวเล็กๆ ในองค์กรใญ่ๆ อย่างเขา จะทำได้ หนะครับ
รู้แค่นี้พอ
หัวข้อ: Re: ทำไมคนไทย ไม่ได้ใช้อะไร ดีๆ เหมือน ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: pkdiamond ที่ ตุลาคม 20, 2010, 11:12:46
เจอพี่จิมออกตัวด้วยก๋วยเตี๋ยวเป็ด + ข้าวหน้าเป็ดอีก อย่างงี้ก็ หิวสิครับ กลางวันแล้วด้วย. ;D
หัวข้อ: Re: ทำไมคนไทย ไม่ได้ใช้อะไร ดีๆ เหมือน ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ ตุลาคม 20, 2010, 11:14:35
เห็นด้วยกับพี่จิมมี่นะที่ของบางอย่างมันไม่จำเป็น

ก็อย่าใส่มาเลยครับ แต่ค.ปลอดภัย ขอให้ใส่มานะครับ อย่างน้อย ถุงลม 1 ใบก็ยังดี

Lancer EX ผมสงสารนะครับ รถมันน่าจะมีอะไรที่ดูเด่น(ที่ optionและราคา) มากกว่านี้ พอที่จะให้คนรู้ว่ารถมันก็ดีนะ
หัวข้อ: Re: ทำไมคนไทย ไม่ได้ใช้อะไร ดีๆ เหมือน ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: Dark Overlord ที่ ตุลาคม 20, 2010, 11:15:59
ตราบใดที่คนไทยยังคงทำตัวเป็นสาวกกันอยู่ก็จะต้องเป็นแบบนี้ต่อไปและอาจจะตลอดไป  :P


คนไทยซื้อรถต้องโตโยต้าต้องฮอนด้าเท่านั้นยี่ห้ออื่นมันกระจอกมันไม่ดีทั้งนั้นด้วยเหตุผลต่างๆนาๆและความเชื่อทางไสยศาสตร์  ในเมื่อสองยี่ห้อใหญ่ทำรถมาขายเต็มไปด้วยปัญหาจากตัวรถเองและนโยบายที่เอารัดเอาเปรียบลูกค้าแต่คนไทยยังคงจงรักภักดีตั้งก๊กเป็นสาวกมีศาสดาที่ห้ามแตะห้ามว่า บริษัทรถทั้งหลายผลิตอะไรมาก้ขายได้ขายดีไปหมดทุกรุ่น ค่ายรถพวกนี้มันไม่ใส่ออฟชั่นมาให้มันกำไรหดหรอกครับ แทนที่จะประชาสัมพันธ์ว่าระบบABS ระบบการทรงตัว แอร์แบกมีประโยชน์ยังไงมีผลดียังไงกับชีวิตอย่างที่ประเทศอื่นเค้าทำกันบ่อยๆค่ายรถกลับยัดเยียดแค่คำว่า "คุ้มค่า" กับ "ประหยัดน้ำมัน" ให้ฝังรากลึกในสมองคนไทยเพื่อว่าซื้อรถจะได้เอาแต่ของถูกๆ ชนขึ้นมาตายห่าไม่ว่าพวกข้าขอจ่ายถูกก็พอ  :-\


ในเมื่อเจ้าตลาดเล่นไม้นี้แล้วขายดี ยี่ห้อย่อยๆจะฝืนกระแสก็ใช่ที่จำใจต้องตามน้ำหั่นออฟชั่นให้กุดหมดเพื่อที่จะตั้งราคาต่ำๆมาสู้ นานๆๆๆๆๆๆทีถึงจะมียี่ห้อที่ใจกล้ายัดออฟชั่นเยอะราคาถูกมาสู้สักที(เชฟโรเล็ทครูซไง) ถ้าค่ายรถทั้งหลายนึกถึงคนซื้อเป็นหลักจริงป่านนี้มีรถความปลอดภัยสูงขายกันเพียบแล้ว ม่านนิรภัย แอร์แบก12 ลูกอะไรเนี่ย ไอ้เรื่องราคาไม่ต้องห่วงเลยว่าคนไทยจะซื้อไมไหว คนไทยมีกำลังซื้อมากกว่าคนชาติๆอื่นๆเยอะนัก แต่นี่ตัดมันหมดทุกอย่าง ของที่ต้องมีมากับตัวถังอย่างคานกันกระแทกหลังมันยังเอาออกเลย  ???


คนไทยเองนี่แหละวางตัวเองให้อยู่ตำแหน่งต่ำกว่าบริษัทรถไม่มีปากเสียงไม่มีอำนาจต่อรอง อ้าแขนขาให้ปู้ยี่ปู้ยำเอาเปรียบยังไงก็ได้พวกข้ายอมหมด

ผมไม่เห็นด้วยคับ แต่ขี้เกียจอธิบาย  :-\
หัวข้อ: Re: ทำไมคนไทย ไม่ได้ใช้อะไร ดีๆ เหมือน ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: demo2 ที่ ตุลาคม 20, 2010, 11:16:20
เกือบทุกท่านมองโลกในแง่ร้ายไปหน่อยหรือเปล่าครับ

ยกตัวอย่างง่ายที่สุด


สมมติว่า คุณเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ด แต่มีลูกค้าเรียกร้อง อยากกินข้าวหน้าเป็ดด้วย
ถ้าเป็นลูกค้าเพียงรายเดียว เจอกันทีไร ก็เรียกร้องขอให้คุณทำข้าวหน้าเป็ดให้เขากิน
เขายินดีจ่าย แต่ว่าลูกค้าที่คุณเจอ ตลอด 1 เดือนนั้น มีคนถามถึงข้าวหน้าเป็ด แค่ 3-4 คน เท่านั้น
คุณจะยินดี ลงทุนซื้อข้าว และหม้อหุงข้าว รวมทั้ง ทำน้ำราดหน้าเป็ด ที่ต้องใช้เวลาทำเยอะ
และจะต้องเตรียมเครื่องปรุงต่างๆด้วย เพื่อจะทำข้าวหน้าเป็ดขาย คนเพียง 3-4 คนนี้ไหมครับ?

ทำไมรถในบ้านเรา ถึงใส่ออพชันแบบเมืองนอกครบขนาดนั้นไม่ได้?

ความจริงหนะ ใส่ได้...แต่ ถ้ามมติว่า ใส่ซันรูฟ แล้วต้นทุนต่างๆ มันพุ่งขึ้นไปอีก 5-6 หมื่นบาท
และจำเป็นต้องเพิมราคาขายไปเลย 8 หมื่นบาท กับรถเล็กๆ อย่าง Fiesta ใครที่ไหนจะซื้อครับ?
นี่แค่ตัวอย่างเดียวนะ

อย่ามาบอกว่าคุณยอมซื้อ เพราะคนที่ยอมซื้อแบบคุณ จะมีไม่กี่รายเท่านั้น เต็มที่ก็แค่หลักร้อย
จากคนทั้งประเทศ แล้วการจะต้องทำอะไรที่ เอใจคนเพียงไม่กี่ร้อยคน แต่ต้องกระทบกับ
การจัดการด้านการผลิต การบริหารต้นทุน และส่งผลให้ราคารถมันถีบพุ่งขึ้น จะยอมหรือครับ?

เอาง่ายๆ ต้นทุนรถในบ้านเราหนะจริงๆ แต่ละคัน มันไม่เท่าไหร่เลย ต้นทุนถูกมาก
แต่ว่า รัฐบาล ยังคงมองรถยนต์ เป็นเพียงแค่ สินค้าส่งออก ที่ต้องเอาไว้เรียกรายได้เข้าประเทศ
และมองรถยนต์ว่าเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ก็เลยยังคงมีการเก็บภาษีในส่วนต่างๆ ที่ยิบย่อยมหาโหดกัน


ความจริงที่คนไม่ค่อยรู้กันคือว่า
คุณรู้ไหม ประเทศไทยเอง ก็เคยมีความพยายามของผู้ผลิต ที่จะสั่งสเป็กรถ ดีๆ เข้ามาขายในบ้านเรา

Toyota Wish รุ่นเดิม ในเมืองไทย ใช้ช่วงล่างด้านหลังดีกว่า ร่นขับล้อหน้าของญี่ปุ่นองเสียอีก?
Mazda Astina รุ่นแรก ใช้เครื่องยนต์ 140 แรงม้า แรงกว่า เวอร์ชันญี่ปุ่น ที่ 125 แรงม้า เสียอีก (ส่วนหนึ่งเพราะ
ไม่มีแคตาไลติค คอนเวอร์เตอร์ มาให้ กฎหมายยังไม่กำหนดในตอนนั้น)
Nissan Cefiro A31 หากเทียบรุ่นเครื่องยนต์ เดียวกัน คือ RB20E อันถือว่าเป็นรุ่นเครื่องยนต์ต่ำสุด
ออพชัน ในบ้านเรา บานตะไท เกินหน้าเวอร์ันญี่ปุ่นไปไกลเลย ทั้ง โซนาร์ เกียร์อัตโนมัติ  ฯลฯ

อีกเคสนึงที่คลาสสิคมากสำหรับผมคือ Toyota Yaris
นี่คือ ผลจากการที่ คนใน Toyota อยากให้คนไทย ได้ใช้ของดีๆ เหมือนในญี่ปุ่นบ้าง
ก็เลยอัดกระหน่ำใส่ออพชันมาให้ซะพอกันกับเวอร์ชันญี่ปุ่นเลย
แต่สุดท้าย ราคามันโดด เป็นไงละครับ ตอนเปิดตัวออกมา ขายแทบไม่ออก
ดีลเลอร์ใน กรุงเทพฯ เอง ก็ไม่อยากขาย จน Toyota เอง ต้องอกแคมเปญช่วย
ยอดถึงจะเดินบ้าง

เลยอยากจะมาเล่าสู่กันังไว้บ้างว่า อย่าเพิ่งมองในแง่ร้ายอย่างเดียวครับ
ออพชันบางอย่างที่เมืองนอกมี บ้านเรามันไม่จำเป็นต้องมีนาดเขาครับ

-----------------------------------

อ้อ คุณ GreenG
คุณไม่ต้องไปพยายาม เข้าใจ Lancer EX หรอกครับ
เอาเป็นว่าคนที่เกี่ยวข้องหนะ เขารู้อยู่แล้วว่า ทำไม เขาก็พยายามแก้กันอยู่
เท่าที่คนตัวเล็กๆ ในองค์กรใญ่ๆ อย่างเขา จะทำได้ หนะครับ
รู้แค่นี้พอ

ซึ้งเลยครับ และผมก็เลือก Ex ไปแล้ว
หัวข้อ: Re: ทำไมคนไทย ไม่ได้ใช้อะไร ดีๆ เหมือน ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: bungy ที่ ตุลาคม 20, 2010, 11:19:37
รถหรูๆๆ ก็เป็นครับ พวก option แต่ถ้า option มันเกี่ยวกับช่วงล่าง ปรับได้ ก็อย่าใส่มาเลย ดีกว่า ซ่อมที่ ก็กระอัก ได้

ทำไมประเทศแถว อาเซียน ไม่สามารถเลือก option เองได้ เหมือนพวก ประเทศตะวันตก ครับ สงสัย ขนาดผลิตในไทยนะครับ

แต่พวก ถุงลม อุปกรณ์ความปลอดภัย ระบบ VSC กฎหมายไทย น่าจะบังคับนะครับ แต่ว่า ราคาคงขึ้นน่าดู หรือว่าจะลดภาษีให้กับอุปกรณ์ความปลอดภัย ครับ อิอิ
หัวข้อ: Re: ทำไมคนไทย ไม่ได้ใช้อะไร ดีๆ เหมือน ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: apinui ที่ ตุลาคม 20, 2010, 11:32:10
อะไรดีๆคืออะไรครับ ระหว่าง option กับ คุณภาพ

-Option: คืออุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆซึ่งหมายถึง เทคโนโลยีใหม่ๆที่ติดมากับรถด้วย

-คุณภาพ: คือวัสดุที่ใช้ในการผลิต เช่นตัวถัง แผงประตู ระบบเบรค ฯลฯ

ตามความคิดผม เรื่อง option เป็นเรื่องของความพอใจมากกว่า ถ้าอยากได้ option เยอะ ก็เลือกตัว TOP ซึ่งส่วนใหญ่ก๊มีครบตามต้องการแทบจะทุกยี่ห้อ  

แต่ถ้าคุณภาพ ... จะตัว TOP หรือตัว  LOW สุด ก็คุณภาพเท่ากันคือ วัสดุ แบบเดียวกัน แผงประตู ตัวถัง ฯลฯ วัสดุแบบเดียวกัน บางยังไงในรุ่น LOW รุ่น TOP ก็บางอย่างนั้น ....

ฉะนั้นผมมองว่า คุณภาพ และ การ QC ต่างหากครับที่ผู้ผลิตไม่ค่อยให้ความสนใจ  option เทคโนโลยีสูง แต่ ใช้วัสดุตัวถังเป็น รีไซเคิล เหล็กบางๆ ปีกนก โช๊คอัพ ห่วยๆ ก็ไม่ไหว .....  

คำว่า "อะไรดีๆ" คืออะไรระหว่าง "คุณภาพ" กับ "option"
หัวข้อ: Re: ทำไมคนไทย ไม่ได้ใช้อะไร ดีๆ เหมือน ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: BBOnLY ที่ ตุลาคม 20, 2010, 13:21:58
เกือบทุกท่านมองโลกในแง่ร้ายไปหน่อยหรือเปล่าครับ

ยกตัวอย่างง่ายที่สุด


สมมติว่า คุณเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ด แต่มีลูกค้าเรียกร้อง อยากกินข้าวหน้าเป็ดด้วย
ถ้าเป็นลูกค้าเพียงรายเดียว เจอกันทีไร ก็เรียกร้องขอให้คุณทำข้าวหน้าเป็ดให้เขากิน
เขายินดีจ่าย แต่ว่าลูกค้าที่คุณเจอ ตลอด 1 เดือนนั้น มีคนถามถึงข้าวหน้าเป็ด แค่ 3-4 คน เท่านั้น
คุณจะยินดี ลงทุนซื้อข้าว และหม้อหุงข้าว รวมทั้ง ทำน้ำราดหน้าเป็ด ที่ต้องใช้เวลาทำเยอะ
และจะต้องเตรียมเครื่องปรุงต่างๆด้วย เพื่อจะทำข้าวหน้าเป็ดขาย คนเพียง 3-4 คนนี้ไหมครับ?

ทำไมรถในบ้านเรา ถึงใส่ออพชันแบบเมืองนอกครบขนาดนั้นไม่ได้?

ความจริงหนะ ใส่ได้...แต่ ถ้ามมติว่า ใส่ซันรูฟ แล้วต้นทุนต่างๆ มันพุ่งขึ้นไปอีก 5-6 หมื่นบาท
และจำเป็นต้องเพิมราคาขายไปเลย 8 หมื่นบาท กับรถเล็กๆ อย่าง Fiesta ใครที่ไหนจะซื้อครับ?
นี่แค่ตัวอย่างเดียวนะ

อย่ามาบอกว่าคุณยอมซื้อ เพราะคนที่ยอมซื้อแบบคุณ จะมีไม่กี่รายเท่านั้น เต็มที่ก็แค่หลักร้อย
จากคนทั้งประเทศ แล้วการจะต้องทำอะไรที่ เอใจคนเพียงไม่กี่ร้อยคน แต่ต้องกระทบกับ
การจัดการด้านการผลิต การบริหารต้นทุน และส่งผลให้ราคารถมันถีบพุ่งขึ้น จะยอมหรือครับ?

เอาง่ายๆ ต้นทุนรถในบ้านเราหนะจริงๆ แต่ละคัน มันไม่เท่าไหร่เลย ต้นทุนถูกมาก
แต่ว่า รัฐบาล ยังคงมองรถยนต์ เป็นเพียงแค่ สินค้าส่งออก ที่ต้องเอาไว้เรียกรายได้เข้าประเทศ
และมองรถยนต์ว่าเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ก็เลยยังคงมีการเก็บภาษีในส่วนต่างๆ ที่ยิบย่อยมหาโหดกัน


ความจริงที่คนไม่ค่อยรู้กันคือว่า
คุณรู้ไหม ประเทศไทยเอง ก็เคยมีความพยายามของผู้ผลิต ที่จะสั่งสเป็กรถ ดีๆ เข้ามาขายในบ้านเรา

Toyota Wish รุ่นเดิม ในเมืองไทย ใช้ช่วงล่างด้านหลังดีกว่า ร่นขับล้อหน้าของญี่ปุ่นองเสียอีก?
Mazda Astina รุ่นแรก ใช้เครื่องยนต์ 140 แรงม้า แรงกว่า เวอร์ชันญี่ปุ่น ที่ 125 แรงม้า เสียอีก (ส่วนหนึ่งเพราะ
ไม่มีแคตาไลติค คอนเวอร์เตอร์ มาให้ กฎหมายยังไม่กำหนดในตอนนั้น)
Nissan Cefiro A31 หากเทียบรุ่นเครื่องยนต์ เดียวกัน คือ RB20E อันถือว่าเป็นรุ่นเครื่องยนต์ต่ำสุด
ออพชัน ในบ้านเรา บานตะไท เกินหน้าเวอร์ันญี่ปุ่นไปไกลเลย ทั้ง โซนาร์ เกียร์อัตโนมัติ  ฯลฯ

อีกเคสนึงที่คลาสสิคมากสำหรับผมคือ Toyota Yaris
นี่คือ ผลจากการที่ คนใน Toyota อยากให้คนไทย ได้ใช้ของดีๆ เหมือนในญี่ปุ่นบ้าง
ก็เลยอัดกระหน่ำใส่ออพชันมาให้ซะพอกันกับเวอร์ชันญี่ปุ่นเลย
แต่สุดท้าย ราคามันโดด เป็นไงละครับ ตอนเปิดตัวออกมา ขายแทบไม่ออก
ดีลเลอร์ใน กรุงเทพฯ เอง ก็ไม่อยากขาย จน Toyota เอง ต้องอกแคมเปญช่วย
ยอดถึงจะเดินบ้าง

เลยอยากจะมาเล่าสู่กันังไว้บ้างว่า อย่าเพิ่งมองในแง่ร้ายอย่างเดียวครับ
ออพชันบางอย่างที่เมืองนอกมี บ้านเรามันไม่จำเป็นต้องมีนาดเขาครับ

-----------------------------------

อ้อ คุณ GreenG
คุณไม่ต้องไปพยายาม เข้าใจ Lancer EX หรอกครับ
เอาเป็นว่าคนที่เกี่ยวข้องหนะ เขารู้อยู่แล้วว่า ทำไม เขาก็พยายามแก้กันอยู่
เท่าที่คนตัวเล็กๆ ในองค์กรใญ่ๆ อย่างเขา จะทำได้ หนะครับ
รู้แค่นี้พอ


เห็นด้วยกับพี่จิมมี่ครับ

จริงๆผมก็เคยได้ฟังมาเหมือนกันว่าภาษีบ้านเรามหาโหดขนาดไหน เอาง่ายๆครับ คุณซื้อ fiesta 1 คันเนี่ย คุณต้องจ่ายในราคาที่สามารถซื้อรถประมาณคันครึ่ง-2 คันนะครับ ส่วนที่เกิน รัฐบาลเอาไปกินครับ ส่วนจะเอาไปทำอะไรเราก็รู้ๆกันอยู่ ยิ่งถ้ารถนำเข้าอย่าง Benz BMW คณจ่ายเงินเพื่อซื้อรถสามคันแต่ได้รถจริงๆคันเดียวนะครับ ส่วนที่เหลือภาษีล้วนๆๆ

มันก็เลยเป็นเช่นนี้ละครับ บริษัทก็ไม่อยากใส่ของที่มีคุณภาพแต่ต้นทุนแพงๆได้ มันก็เลยต้องทำแบบนี้ละครับ

อย่างเพื่อนผมที่อเมริกาเค้ายังพูดเลยว่ามีเงินประมาณล้านบาทไทยก็ได้ Benz BMW มาขับละ อย่าง  Camry Accord  ราคาก็ประมาณ Civic  Altis บ้านเราเอง

หัวข้อ: Re: ทำไมคนไทย ไม่ได้ใช้อะไร ดีๆ เหมือน ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: 6162002 ที่ ตุลาคม 20, 2010, 13:43:05
อย่างนึงที่เป็นเรื่องจริงที่ต้องยอมรับ อย่างที่ท่านก่อนๆบอกมาครับ คือ
ประเทศไทยไม่ได้มีเงินเยอะ จะลดภาษีลดยนต์ ไปเพิ่มภาษีอย่างอื่นก็คงตายกันพอดี รถก็ต้องเป็นของฟุ่มเฟือยไปเป็นธรรมดา มันก็เลยต้องแพงครับ แค่นี้เงินยังไม่พอจะใช้กันเลย รัฐบาล
จะมองอะไรคงต้องมองผลกระทบด้วยครับ จะไปว่าำภาษีรถแพงอย่างเดียวไม่ได้ ภาษีรถมันกระทบกับชาวบ้านน้อยกว่าพวกภาษีอื่นๆ
ส่วนออฟชั่นที่มันไม่เยอะ ผมว่าไม่ใช่เพราะเขาเห็นว่าคนไทยโง่ ใส่อะไรมาก็ได้หรอกครับ เขาคงไม่พร้อมใจกันคิดอะไรง่ายๆขนาดนั้น
แต่อย่างที่พี่จิมมี่บอกแหละ ภาษีก็แพง อัดมาเยอะ คนไทยก็ไม่ซื้อ คนซื้อมันมีไม่กี่คน เหมือนคนที่เรียกร้องเกียร์ธรรมดา(แบบผม)นั่นแหละครับ เอิ๊ก
หัวข้อ: Re: ทำไมคนไทย ไม่ได้ใช้อะไร ดีๆ เหมือน ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: 2k ที่ ตุลาคม 20, 2010, 13:58:34
ถ้าจิมมี่ว่ามาแบบนั้นผมว่ามันวกไปหาคำตอบคุณเนยนะ ออฟชั่นทั้งหลายอย่างซันรูฟ, smart entry, ไฟหน้าเลี้ยวตามองศาพวงมาลัย, โซนาร์, ฮีทเตอร์, voice control, แอร์ดิจิตอล, เบาะอุ่นก้น/ปั่นเย็น และอะไรอื่นๆอีกมากมายนั้นเป็นอุปกรณ์จุกจิกสิ้นเปลืองประหนึ่งลิปสติก แบล็คเบอรี่ กระเป๋าปราด้า มีมาให้ก็ดีแต่ถ้าไม่มีให้ไม่ตายเลย แต่ออฟชั่นพื้นฐานยังชีพที่จำเป็นสำหรับชีวิตผู้โดยสารประหนึ่งยารักษาโรคกับเครื่องนุ่งห่มเช่นม่านนิรภัย ABS  แอร์แบก ระบบทรงตัวที่ควรจะใส่มาเป็นพื้นฐานแต่แรกกลับไม่มี  ทั้งที่ประเทศอื่นๆเค้าออกให้เป้นกฏหมายหรือเป็นค่านิยมพื้นฐานที่รถในประเทศต้องมีไปแล้ว   :P


ถ้าหากรถในรุ่นล่างๆอย่าง ยาริส ซีวิค อัลติส เฟียสต้าที่ต่างประเทศเค้าใส่คานกันกระแทกหลังมาให้แต่บ้านเราต้องหาซื้อใส่เอง ผมเชื่อไม่ลงจริงๆว่าบริษัทพวกนี้หวังดีกับผู้บริโภคอย่างเรา มันเสียความรู้สึกน่ะครับไปดูในยูโร N cap ทดสอบชนมาได้ 5 ดาวหรูหราเชียวแต่ของบ้านเรา เฮ้ยยยไม่มีม่านนิรภัยอย่างเค้า อ้าวววแอร์แบกน้อยกว่าเว้ยย  เวรรรรกันชนโบ๋ใส่โฟมมาให้แทน   :-X 
หัวข้อ: Re: ทำไมคนไทย ไม่ได้ใช้อะไร ดีๆ เหมือน ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: zzzz ที่ ตุลาคม 20, 2010, 14:21:05
เรื่องหม้อก๋วยเตี๋ยวนี่เข้าใจดีครับ
แต่ที่ยังไม่ค่อยเข้าใจคือ รถประกอปบ้านเราตัวที่ส่งออก มีอุปกรณ์ติดตัวมากกว่าบ้านเรา
แต่ราคาขายเขาสูสี หรือต่ำกว่า ทั้งที่เขามีค่าขนส่งข้ามทะเล แต่เราไม่มี  :P
ตัวอย่างเช่นเจ้า fiesta บ้านเรามี Airbag 2 ลูก ตัวส่งออสเตเลียมี airbag ข้างให้ด้วย จาก line ผลิดเดียวกัน
ไม่ต้องไปเตรียมน้ำจิ้มหรือน้ำราดเพิ่มเติม เพราะร้านนี้ ขายทั้งหน้าเป็ดและก๋วยเตี๋ยวเป็ดอยู่แล้ว
แต่หน้าร้าน ชั้นจะขายก๋วยเตี๋ยวอย่างเดียวอะ...หน้าเป็ดจะส่ง delivery เท่านั้น...ใครจะทำไม...555

เพราะภาษีมันแพง...ต้นทุนมันสูง...จริงหรือ?
หรือเราไม่ค่อยซีเรียสกับเรื่องนี้...แค่เก็บตัง...กัดพันซื้อรถให้ได้...
ให้มันวิ่งรับใช้เพื่อไปทำมาหาส่งค่างวดได้ก็พอ...
ถ้ามีออปชั้นให้ก็ถือว่าโชคดีที่ผู้ผลิดเขาติดมาให้...
แล้ว...ตกลงปัญหามันคืออะไร.... :-\
อันนี้ อยากรู้จริงๆครับ ไม่ใช่คนในวงการ
ขอทราพถึงข้อมูลและต้นเหตุจริงๆ

น้อยใจในการที่คนไทย ต้องจ่ายภาษีสำหรับรถยนต์แพงมหาโหด
ออปชั้นด้านความปลอดภัยก็ไม่ค่อยจะเต็มที่
ถ้าต้นเหตุเป็นที่ภาษี
รัฐท่านอาจจะมองมองอุสาหกรรมรถยนต์เป็นขุมเงินขุมทองของท่าน อันนี้เข้าใจ
แต่คุณภาพชีวิตของคนชาติเดียวกัน ก็ไม่ควรละเลยนะครับ

ขออภัยถ้าบ่นเกินไปจ้า
หัวข้อ: Re: ทำไมคนไทย ไม่ได้ใช้อะไร ดีๆ เหมือน ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ ตุลาคม 20, 2010, 14:29:49
คิดในด้านดีของประเทศเราก็มีนะครับ

เช่น ค่าซ่อมรถกับอะไหล่บ้านเราถูกมากๆ เช่น

ลูกหมาก เคยไปซ่อม+อัดลูกหมาก ชิ้นละ 100 บ.เอง ต่างประเทศเขาไม่มีนะครับแบบนี้

ผ้าเบรคtaxi 200 บ./คู่ ค่าเปลี่ยนผ้าเบรคบ้านเรา คู่ละ 100 บ.  ต่างประเทศคงไม่ใช่ราคานี้แน่นอน

ต่อภาษี+ประกันบ้านเรายิ่งเก่ายิ่งถูกลง รถผมเครื่อง 1.6 890 บ.ต่อปี
ถ้ารถ 1.3 ประมาณ 600 บ.เองครับ
พรบ. ถูกสุด 400-450 บ. หาได้นะครับราคานี้

ลองคิดเรื่องรถในบ้านเราในแง่ดีบ้าง อย่าไปมองที่ภาษีอย่างเดียวครับ
ขอให้ยอมรับค.จริงว่ารถบ้านเราแพง แต่ราคามือ 2 บ้านเราช่วง 1-2 แสน แทบจะไม่ตกเลยนะครับ
ถ้าไม่มีตัง ก็ซื้อมือ 2 ไป ขับไปซ่อมไป หาความรู้ไปครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมคนไทย ไม่ได้ใช้อะไร ดีๆ เหมือน ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: Dark Overlord ที่ ตุลาคม 20, 2010, 14:41:23
ถ้าจิมมี่ว่ามาแบบนั้นผมว่ามันวกไปหาคำตอบคุณเนยนะ ออฟชั่นทั้งหลายอย่างซันรูฟ, smart entry, ไฟหน้าเลี้ยวตามองศาพวงมาลัย, โซนาร์, ฮีทเตอร์, voice control, แอร์ดิจิตอล, เบาะอุ่นก้น/ปั่นเย็น และอะไรอื่นๆอีกมากมายนั้นเป็นอุปกรณ์จุกจิกสิ้นเปลืองประหนึ่งลิปสติก แบล็คเบอรี่ กระเป๋าปราด้า มีมาให้ก็ดีแต่ถ้าไม่มีให้ไม่ตายเลย แต่ออฟชั่นพื้นฐานยังชีพที่จำเป็นสำหรับชีวิตผู้โดยสารประหนึ่งยารักษาโรคกับเครื่องนุ่งห่มเช่นม่านนิรภัย ABS  แอร์แบก ระบบทรงตัวที่ควรจะใส่มาเป็นพื้นฐานแต่แรกกลับไม่มี  ทั้งที่ประเทศอื่นๆเค้าออกให้เป้นกฏหมายหรือเป็นค่านิยมพื้นฐานที่รถในประเทศต้องมีไปแล้ว   :P


ถ้าหากรถในรุ่นล่างๆอย่าง ยาริส ซีวิค อัลติส เฟียสต้าที่ต่างประเทศเค้าใส่คานกันกระแทกหลังมาให้แต่บ้านเราต้องหาซื้อใส่เอง ผมเชื่อไม่ลงจริงๆว่าบริษัทพวกนี้หวังดีกับผู้บริโภคอย่างเรา มันเสียความรู้สึกน่ะครับไปดูในยูโร N cap ทดสอบชนมาได้ 5 ดาวหรูหราเชียวแต่ของบ้านเรา เฮ้ยยยไม่มีม่านนิรภัยอย่างเค้า อ้าวววแอร์แบกน้อยกว่าเว้ยย  เวรรรรกันชนโบ๋ใส่โฟมมาให้แทน   :-X 

ทุกอย่างมีที่มาที่ไปครับ อย่างบ้านเราอุปกรณ์เกี่ยวกับความปลอดภัยต่างๆ มันจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นตามยุคสมัย
ตอนนี้รถรุ่นเล็กๆ ก็เริ่มมีถุงลมคู่มาให้ละ ซึ่งกว่าทุกค่ายจะปรับตัวให้อุปกรณ์พวกนี้มีเพิ่มขึ้น ก็ต้องอาศัยเวลา
ไม่อยากให้คิดว่า บริษัทรถเอาเปรียบทุกๆ ทาง เพื่อให้ได้กำไรก้อนใหญ่กลับประเทศอะไรอย่างงี้นะครับ
แต่ถ้าตลาดโดยรวม กฎหมาย ข้อบังคับต่างๆ ยังไม่เอื้อ อัตราภาษี และการสนับสนุนจากรัฐ การพัฒนาระบบ
ความปลอดภัยในรถ มันก็จะเพิ่มขึ้นช้าๆ แบบนี้ไปเรื่อยๆ

จะเห็นว่ารัฐเน้นการประหยัดการนำเข้าพลังงานเชื้อเพลิงมากๆ นโยบายอะไรต่างๆ เกี่ยวกับพลังงานทดแทน,
พลังงานไฮบริด และอื่นๆ ก็ออกมาเต็มไปหมด ลดภาษีการนำเข้าอะไรต่างๆ ถ้ารัฐเห็นความปลอดภัยของคน
ขับรถเป็นสำคัญ และคำนึงว่าการสูญเสียชีวิต ก็เหมือนกับการสูญเสียมูลค่าทางทรัพยากร หลายสิบล้าน รัฐ
ต้องบังคับให้รถทุกรุ่นต้องมีแอร์แบ็ก

ส่วนด้านตลาดโดยรวม เหมือนมันจะพัฒนากันเองอย่างช้าๆ แต่เมื่อยี่ห้อ A เริ่มใหุ้ side airbag มา อีกยี่ห้อ
ก็จะเริ่มเคลื่อนไหวตามบ้าง แต่มันจะเป็นไปอย่างช้าๆ เพราะมันไม่มีกฎข้อบังคับอะไร ด้วยระดับภาษีที่เรียกเก็บ
จากรัฐที่แพง บริษัทรถก็ไม่ใช่องกรค์ประชาสงเคราะห์ ดังนั้น หลายๆ รุ่น ไม่มี airbag และแทบทุกรุ่น รุ่นล่างๆ
จะไม่มี airbag จนกระทั่ง Nissan, Ford, Mazda เริ่มเคลื่อนไหว ใส่ airbag มาให้ตั้งแต่รุ่นล่างสุด เพื่อการแข่ง
ขันกับค่ายใหญ่ได้สมน้ำสมเนื้อ (โดยการให้มากกว่า) ถัดไปก็ถึงคราว ค่ายใหญ่ๆ ต้องเริ่มขยับตามบ้าง ซึ่งเป็น
เหตุผลทางการตลาด และการแข่งขันกันล้วนๆ ไม่ได้เกิดจากความหวังดี หรือเสียดายชีวิต คนซื้ออะไรขนาดนั้น
และสำหรับคนที่ซื้อรุ่นล่างๆ ราคาถูกสุด ที่ไม่มี airbag คนขับทำไมขับกันซิ่งจังล่ะ ขับกัน 150-170 อะไรเงี่ย

ส่วนจะให้วิวัฒนาการจนมี airbag รอบคัน อย่างนั้นคงต้องรอไปอีกนานแสนนาน หรือไม่ก็ไม่มีเลยก็ได้ครับ
ประเทศในแถบนี้ที่มีโครงสร้างภาษีใกล้เคียงกันกับบ้านเรามันก็ได้พอๆ กัน แบบนี้ทั้งนั้น ถ้าจะมองไปที่ตลาด
ยุโรป ญี่ปุ่น หรือสหรัฐ ต้องดูประวัิติความเป็นมา อะไรต่างๆ ด้วยครับ ว่า รัฐที่นั่น ตลาดที่นั่น เค้ามีที่มาที่ไปกันยังไง
และการแข่งขันที่รุนแรงของหลายๆ ค่าย ก็เป็นอีกประเด็นนึง ที่แต่ล่ะค่ายต้องพยายามยัดของเข้าไปเพื่อให้สามารถ
แข่งขันกับคู่แข่งได้ ไม่ใช่ความรับผิดชอบต่อสังคม หรือความเป็นห่วงเป็นใยในคนขับใดๆ ทั้งสิ้น แต่เส้นทางต่างๆ
ที่ผ่านมา ทำให้ในตลาดเหล่านั้น ของพวกนี้เป็นของจำเป็น และต้องพัฒนาให้ช่วยชีวิตคนให้ได้มากที่สุดอีกต่างหาก

คนอเมริกา เค้าทั้งบ่น ทั้งอิจฉารถในฝั่งยุโรปเช่นกัน ว่าทำไมเค้าถึงไม่ได้ air auto มาใช้บ้าง ทุกค่ายต่างใช้แอร์มือ
บิด จนเป็นธรรมเนียมของตลาดไปแล้ว นอกเสียจากว่า เป็นรถตลาดบนๆ ถึงจะได้ air auto มาใช้ อย่าง Camry นี่ยัง
ถือว่าเป็นตลาดล่างนะครับ ต้องคำนึงถึงประเพณีของตลาดนั้นด้วย เรื่อง air bag บ้านเราก็เข้าข่ายทำนองนี้ ตราบใด
ที่รัฐยังไม่มาบีบคอ ก็ยากที่จะให้ผู้ผลิต วันดีคืนดี หันมายัด air bag เต็มคันรถตาม spec ยุโรป แต่บ้านเราจะค่อยๆ
พัฒนาขึ้น ตามสภาพตลาด VSC TRC ก็เพิ่งเริ่มมา ESP ก็เพิ่งเริ่มมา มันจะค่อยๆ เพิ่มมาขึ้นเรื่อยๆ ตามลำดับขั้นของมัน
หรือจะเรียกได้ว่า วิวัฒนาการก็ได้ครับ

แต่พูดมานี่ ยังสรุปไม่ได้นะครับ ว่า ค่ายรถบ้านเรา กั๊กมาก เพื่อหอบเงินกลับประเทศ หรือ กั๊ก เพราะโดนภาษีรีดไปเยอะ
ทั้งสองส่วนนี้ อาจถูกต้องทั้งคู่ เหมือน กับ ไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน ดังนั้น จึงต้องปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด
คือเชียร์ให้ ค่ายรองบ่อน อัด option เทพเข้าไปเยอะๆ จนทำให้ยอดขายกระเตื้องจนกินส่วนแบ่งคู่แข่ง ซึ่งคู่แข่งก็ต้อง
ขยับตามอย่างเสียไม่ได้ แต่ถ้าค่ายไหน กล้าอัด option เทพเข้ามา แต่ราคาขึ้นสูงจนเอื้อมไม่ถึง จนขายไม่ออกแบบนี้
คู่แข่งจ้าวอื่นๆ เค้าก็คงไม่จำเป็นต้องขยับตามครับ เพราะยอดขายเค้าไม่โดนผลกระทบอะไร ดังนั้น Jazz จึงไม่เคยมีแผน
ที่จะต้องมี keyless start system เข้ามาใช้ เพื่อแข่งกับ Yaris ไง

ดังนั้นต้องขอบคุณ March / Mazda 2 / Fiesta กันให้มากๆ เลย เมื่อรถราคาถูกในตลาด กลับให้ทุกอย่างมาครบ ไม่ว่า
จะ Airbag Push start air auto และยังรักษาราคา กับได้ส่วนแบ่งของตลาดไปมากพอสมควร ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้ทำให้
เกิดการวิวัฒนาการ ทำให้รถค่ายอื่นๆ ที่อยู่ระดับสูงกว่า ต้องพลอย เพิ่มสิ่งต่างๆ เข้าไปด้วย เพื่อไม่ให้เสียศักดิ์ศรี หรือ
ถ้ารุ่นไหนไม่มี หรือขาดหายไปจนน่าเกลียด ทั้งๆ ที่ราคาแพงลิ่ว ผลก็คือ ยอดขายไม่ดี ขายไม่ออก ก็ว่ากันไป
ตอนนี้ ยังเหลือ Cruise control ที่ ไม่ได้มีต้นทุนที่แพงอะไรเลย และเมื่อมี โมเดลใหม่มาเมื่อไหร่ ที่มีสิ่งนี้ติดมาด้วย
และทำยอดขายได้เป็นกอบเป็นกำจนไปแย่งส่วนแบ่งของชาวบ้าน คู่แข่งในตลาดก็จำต้องติดเ้จ้า Cruise control มาให้
อย่างแน่นอน ที่ Proton มี Cruise แต่ไม่สามารถ ทำให้คู่แข่งต้องทำตามได้ เพราะยอดขายนั้นอยู่ในระดับธรรมดาเท่านั้น
side airbag ก็เช่นเดียวกัน ต้องรอการเคลื่อนไหว และวิวัฒนาการของตลาด ซึ่งในตอนนี้ รถ C segment บางคัน ก็มีมาให้แล้ว
เพียงแต่ ยังไม่มีอิทธิพลในตลาดอย่างชัดเจนนัก ตอนนี้ต้องรอ L02B ซีดาน คันเล็กจาก Nissan ว่า จะยัดอุปกรณ์ ไฮโซ อะไร
มาให้อีก ซึ่ง ต้องมีผลทำให้ คู่แข่งในตลาด ต้องขยับตาม เพื่อเพิ่มสิ่งต่างๆ เหล่านั้น แน่ๆ
หัวข้อ: Re: ทำไมคนไทย ไม่ได้ใช้อะไร ดีๆ เหมือน ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: Dark Overlord ที่ ตุลาคม 20, 2010, 15:09:34
เรื่องหม้อก๋วยเตี๋ยวนี่เข้าใจดีครับ
แต่ที่ยังไม่ค่อยเข้าใจคือ รถประกอปบ้านเราตัวที่ส่งออก มีอุปกรณ์ติดตัวมากกว่าบ้านเรา
แต่ราคาขายเขาสูสี หรือต่ำกว่า ทั้งที่เขามีค่าขนส่งข้ามทะเล แต่เราไม่มี  :P
ตัวอย่างเช่นเจ้า fiesta บ้านเรามี Airbag 2 ลูก ตัวส่งออสเตเลียมี airbag ข้างให้ด้วย จาก line ผลิดเดียวกัน
ไม่ต้องไปเตรียมน้ำจิ้มหรือน้ำราดเพิ่มเติม เพราะร้านนี้ ขายทั้งหน้าเป็ดและก๋วยเตี๋ยวเป็ดอยู่แล้ว
แต่หน้าร้าน ชั้นจะขายก๋วยเตี๋ยวอย่างเดียวอะ...หน้าเป็ดจะส่ง delivery เท่านั้น...ใครจะทำไม...555

เพราะภาษีมันแพง...ต้นทุนมันสูง...จริงหรือ?
หรือเราไม่ค่อยซีเรียสกับเรื่องนี้...แค่เก็บตัง...กัดพันซื้อรถให้ได้...
ให้มันวิ่งรับใช้เพื่อไปทำมาหาส่งค่างวดได้ก็พอ...
ถ้ามีออปชั้นให้ก็ถือว่าโชคดีที่ผู้ผลิดเขาติดมาให้...
แล้ว...ตกลงปัญหามันคืออะไร.... :-\
อันนี้ อยากรู้จริงๆครับ ไม่ใช่คนในวงการ
ขอทราพถึงข้อมูลและต้นเหตุจริงๆ

น้อยใจในการที่คนไทย ต้องจ่ายภาษีสำหรับรถยนต์แพงมหาโหด
ออปชั้นด้านความปลอดภัยก็ไม่ค่อยจะเต็มที่
ถ้าต้นเหตุเป็นที่ภาษี
รัฐท่านอาจจะมองมองอุสาหกรรมรถยนต์เป็นขุมเงินขุมทองของท่าน อันนี้เข้าใจ
แต่คุณภาพชีวิตของคนชาติเดียวกัน ก็ไม่ควรละเลยนะครับ

ขออภัยถ้าบ่นเกินไปจ้า

ในการเริ่มต้นผลิตรถยนต์ มันมีความเสี่ยงอยู่ถูกมั๊ยครับ
ดังนั้นก่อนจะเริ่มผลิตขาย ก็ต้องมี spec sheet ของแต่ละประเทศ
ซึ่งแต่ละประเทศ จะเลือก spec อะไรต่างๆ ที่ต้องการแล้วส่งกลับให้
บริษัทแม่ ดู เพื่อดูความเหมาะสม ต้นทุนอะไรต่างๆ
อย่างรถที่ผลิตในประเทศไทย แต่ต้องส่งออกไปประเทศอื่นด้วย
spec จะถูกกำหนดมาไม่เหมือนกัน หลายๆ อย่างที่หลายๆ ประเทศขอไป
บางทีก็ไม่ได้ ต้องถูกตีกลับ โดยบริษัทแม่ต้อง ตัดสินใจอย่างระมัดระวัง
เพื่อไม่ให้เกิดความเสี่ยง ได้ไม่คุ้มต้นทุนที่เสียไปอะไรแบบนี้ แล้วยังต้อง
มีการต่อรอง volume กับทาง supplier เป็นขั้นตอนต่อมาอีก ทั้ง cost
ทั้ง purchasing ทั้ง project management ต้องทำงานให้ประสานกันให้
มากที่สุด ทั้ง sourcing ก็ต้องทำ และ part มีไม่ใช่น้อยๆ option ต่างๆ
ที่แต่ละประเทศได้ จึงต้องอิงกับสภาพตลาดที่เหมาะสมในประเทศนั้นๆ
อย่างเมืองไทย ให้แค่รุ่นท๊อปได้แอร์แบ็กไปก็พอแล้ว ตามคู่แข่ง อะไรแบบนี้
เพราะต้นทุนที่เพิ่มโดยไม่จำเป็น เนื่องจากในตลาดไม่มีใครใส่ airbag มาใน
รุ่นล่างๆ แถมยอดขายก็โอเคอยู่แล้ว ยังไม่จำเป็นต้องทำตรงนี้ เพราะความเสี่ยง
ในการลงทุนของรถ มันมีอยู่ทั่วทั้งคัน มันไม่ใช่ part ชิ้นสองชิ้น และ ไหนจะต้อง
มองความเสี่ยง หากรถโชคร้าย ขายไม่ออกไม่ได้ถึงเป้าอีก ถ้าลงทุนไป แต่ได้
เงินกลับมาไม่พอให้บริหารจัดการ ทำการตลาด ก็จะยิ่งแย่ไปซะเปล่า

ดังนั้นทุกๆ สิ่งทุกๆ อย่างมันไม่ได้มาจากคนๆ เดียวทุบโต๊ะ ปึ้ง ผมต้องการ
moonroof ในรถรุ่นนี้ ขายในประเทศไทย มันทำอย่างงั้นไม่ได้ ! แต่ในขณะที่หาก
เป็นที่เมืองจีน supplier เค้าพร้อมอยู่แล้ว ตลาดเค้าแข่งกันใส่ moonroof กันทุกรุ่น
อยู่แล้ว คู่แข่งต้องแข่งกันตรงนี้อยู่แล้ว เอาล่ะ ไม่ใส่ไม่ได้ เราต้องใส่ moonroof ให้
รถคันนี้

การผลิตรถท้ายที่สุดมันได้กำไรไม่มากนัก เพราะทันทีที่รถออกมาจากโรงงาน ก็โดน
ภาษีสูบ โดน dealer สูบ และก่อนหน้านั้นก็โดน supplier สูบมาประมาณนึง (แต่บาง
supplier ก็โดนกด) การวางแผนจึงต้องมั่นใจจริงๆ ต้องมี volume ทุกครั้งที่ผลิต part
ชิ้นๆ นึง รถบางคันทำไมมี cruise ในรุ่นส่งออก แต่ในไทยตัดออก เพราะ ประเทศที่
นำเข้ารถเรา ขอ spec ดังกล่าวได้รับการอนุมัติ volume สำหรับส่งออกเท่านั้น ก็ส่งไป
ยัง supplier คำนวนค่า tooling ต้นทุนอะไรต่างๆ เสร็จสรรพ และ part Cruise ก็ถูกผลิต
เข้า line ที่ผลิตส่งออกเท่านั้นไป ในขณะที่ประเทศปลายทาง ที่กำหนด volume และ
กำหนด spec และ forecast การผลิตมาให้ เหล่านี้มาก็ต้องรับผิดชอบความเสี่ยงใน
การลงทุนที่เพิ่มขึ้นตรงจุดนี้ ถ้าขายไม่ดี กำไรไม่มี ก็ต้องรับผิดชอบขายตาม spec ที่ตัว
เองกำหนดไว้แต่แรกให้ได้ forecast มาเท่าไหร่ ต้องรับไปขายเท่านั้น จะมายกเลิกหรือ
แก้ spec ทีหลังเพราะอยากจะมาประหยัดต้นทุนในภายหลังมันทำไม่ได้ ถ้าได้ ใครจะ
รับผิดชอบต่อ supplier ซึ่งไม่ได้หรอก ไม่มีใครเค้าทำกัน
 
สมมติว่า รถคันนึงขายได้กำไร 50,000 บาท เน็ตๆ หลังโดนหักโน้นหักนี้ไปแล้ว รวมค่า
ไฟ ค่าแรง ค่าจ้างด้วยนะ Cost control ยื่นตัวเลขนี้ให้ผู้บริหาร ผู้บริหารบอกว่า เงินเหลือนี่
แบบนี้ต้องเพิ่ม side airbag เข้าไป ลูกละ 5,000 บาท มันทำอย่างงั้นไม่ได้ครับ เพราะ
มันไม่มีอะไรมายืนยัน ว่ารถจะขายดีแบบนั้นไปได้เรื่อยๆ ถ้ายังไม่มีคู่แข่งที่ทำให้ผู้ผลิต
ต้องเจียดตรงนี้เข้าไป ผู้ผลิตขอเก็บเงิน 50,000 บาทนี้เป็นทุนสำรอง เผื่อเหตุกรณีฉุกเฉิน
ดีกว่า จนกว่า ตลาดจะเรียกร้อง จะจำเป็นจริงๆ การ Minor Change จึงเป็นการปรับตัวอย่าง
หนึ่ง ตามระยะเวลาที่เหมาะสม ไม่มากไม่น้อย ที่จะมีการ revise volume กับทาง supplier
ทำการ re-spec ต่างๆ เพื่อขยับให้ตามทันคู่แข่ง แต่ไม่ใช่ว่า ชั้นได้กำไรเยอะ ชั้นต้องเพิ่ม
side airbag, air digital, push start มันทำแบบนั้นไม่ได้เลย นอกเสียจากว่า ผู้ผลิตรายนั้น
กำลังบริหารบริษัทผลิตรถที่ไม่มีวันเจ๊ง ก็คงไม่จำเป็นต้องระมัดระวังเรื่องตรงนี้

ดังนั้น จะมีอะไรเพิ่มขึ้นมาในแต่ล่ะ segment ในบ้านเรา หลักใหญ่ใจความต้องเกิดการจาก
market evolution หรือ การวิวัฒนาการของตลาด เป็นหลัก เพราะเป็นการลงทุนที่ปลอดภัยที่สุด
ที่ควรจะทำ ไม่มาก หรือไม่น้อยจนเกินไป ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิต รายใหญ่ หรือรายเล็ก มีสิทธิ์
กระตุ้นตลาดให้เพิ่มในบางสิ่งบางอย่างได้ แต่สิ่งไหนจะฮิต หรืออยู่อย่างยั่งยืน ต้องดูส่วน
แบ่งยอดขายที่เพิ่มขึ้นเป็นสำคัญ ตอนนี้ March มี Air auto, Push start ในรุ่นท๊อปแล้ว หรือ
ทั้ง March, Mazda 2, Fiesta มี airbag มาให้ตั้งแต่รุ่นล่างสุด ต่อไปถ้า next Vios, City, Jazz,
 Aveo ไม่มีสิ่งเหล่านี้ให้ ถุ๊ย ! มันจะดูธุเรศมากจนเกินไปในทันที
หัวข้อ: Re: ทำไมคนไทย ไม่ได้ใช้อะไร ดีๆ เหมือน ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: 2k ที่ ตุลาคม 20, 2010, 15:35:12
อืมมมถ้าบริษัททั้งหลายไม่ได้แสวงหาแต่ผลกำไรมากขนาดที่ผมคิดก็ดีไปครับ แต่ผมก็ยังอยากได้รถที่มันมีอุปกรณ์ปลอดภัยครบครันอยู่ดี ในเมื่อมีโรงงานประกอบรถในบ้านเราตั้งมากมายแล้วอยากให้ให้มีรุ่นพิเศษที่ใส่อุปกรณ์พวกนี้มาให้ครบครันตามสั่งจริงๆเพราะทุกๆนาทีบนถนนเรามีสิทธิตายได้ทุกเมื่อไม่ว่าจากตัวเองหรือคนอื่นมาชน  :-X


ผมสนับสนุนการแข่งขันกันให้มากๆเพื่อที่ว่าผลประโยชน์จะได้ตกกับคนไทยเยอะๆ เฟียสต้า สวิฟ 2 อาวิโอ เนี่ยยกพวกตียอดขายกันให้เต็มที่ไปเลย แต่อย่างที่ผมบ่นไปว่ากลไกการแข่งขันจะหยุดชงักหรือเติบโตช้าถ้าคนไทยยังมีพฤติกรรมตั้งตัวเป็นสาวกต้องฮอนด้าต้องโตโยต้าเท่านั้น 4 รุ่นใหม่มันลูกเมียน้อยต่างจากพวกของข้าไม่เปิดร้บ!!! เห็นมาหลายบ้านแล้วตระกูลเราต้อง honda lover ต้อง toyota mania  ยี่ห้ออื่นมันไม่ดี ห่วยสะบัด แต่ถ้าถามไม่ดียังไงก็ตอบดันไม่ค่อยจะได้หรือใช้ไม้ตายก้นหีบ "ราคาขายต่อตก"   :-X


ยังดีที่ยุดนี้ความเชื่อฝังหัวว่ายี่ห้อเจ้าตลาดดีที่สุดเริ่มล้มหายตายจากไปเยอะแล้วดูได้จากากรที่มาสด้า 2 เป็นตัวเลือกมาแรงอันที่ 3 สำหรับคนรุ่นใหม่มองหารถ คนรุ่นใหม่เชื่อมั่นในตนเองมีอำนาจตัดสินใจมากขึ้นกล้าลองของใหม่มากขึ้น คนกลุ่มนี้จะช่วยให้ตลาดลูกค้าใหม่ๆเปิดใจยอมรับยี่ห้ออื่นๆมากกว่าในอดีตได้ ในอนาคตตัวรถจะมีออฟชั่นเยอะขึ้นและมีรุ่นหลากหลายเยอะขึ้น แต่ถ้าไปหวังภาครัฐให้เล็งเห็นถึงความสำคัญด้านนี้น่ะเหรอ................จัดสรรผลประโยชน์ 3 Gกับรถไฟฟ้าสายแบริ่งให้รอดก่อนเหอะ    8)
หัวข้อ: Re: ทำไมคนไทย ไม่ได้ใช้อะไร ดีๆ เหมือน ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: pladaek ที่ ตุลาคม 20, 2010, 19:14:13
เข้ามาอ่าน
หลายๆข้อความก็เห็นด้วย หลายๆข้อความก็ไม่เห็นด้วย แต่ผมรับฟังทุกความคิดเห็นครับ
ไม่มีไรครับ แค่ผมรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจยังไงไม่รู้  ที่มีส่วนทำให้กลไกการแข่งขันเติบโตช้า..
ผมยอมรับว่าผมเป็นสาวกฮอนด้า และที่บ้านผมก็มีรถตลาดอย่าง โตโยต้า และอิซูซุด้วย
เอาเป็นว่า.. การที่จะซื้อรถยี่ห้อไหนยังไง ทุกคนมีเหตุผลในการเลือกซื้อของตัวเอง
เพียงแต่ใครจะให้น้ำหนักของเหตุผลข้อใหนมากกว่า เท่านั้น..
หัวข้อ: Re: ทำไมคนไทย ไม่ได้ใช้อะไร ดีๆ เหมือน ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: Dark Overlord ที่ ตุลาคม 20, 2010, 19:36:09
เข้ามาอ่าน
หลายๆข้อความก็เห็นด้วย หลายๆข้อความก็ไม่เห็นด้วย แต่ผมรับฟังทุกความคิดเห็นครับ
ไม่มีไรครับ แค่ผมรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจยังไงไม่รู้  ที่มีส่วนทำให้กลไกการแข่งขันเติบโตช้า..
ผมยอมรับว่าผมเป็นสาวกฮอนด้า และที่บ้านผมก็มีรถตลาดอย่าง โตโยต้า และอิซูซุด้วย
เอาเป็นว่า.. การที่จะซื้อรถยี่ห้อไหนยังไง ทุกคนมีเหตุผลในการเลือกซื้อของตัวเอง
เพียงแต่ใครจะให้น้ำหนักของเหตุผลข้อใหนมากกว่า เท่านั้น..


ก็ไม่ใช่อย่างนั้นนะครับ อย่างเครื่องยนต์ Honda, Toyota ก็
มักจะนำหน้าอยู่เสมอ ทำให้คู่แข่งต้องรีบตามให้ทัน มันเอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้
หรอกครับ เพียงแต่ว่า ประวัติศาสตร์การเปลี่ยนแปลงทางการตลาดของแต่ละ
ประเทศมันมีที่มาที่ไปแตกต่างกัน แต่ละค่ายต้องผลัดกัน ก้าวขึ้นไปทีล่ะก้าว
ตามๆ กันไป 
หัวข้อ: Re: ทำไมคนไทย ไม่ได้ใช้อะไร ดีๆ เหมือน ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: Iwata Kana Σ4 ที่ ตุลาคม 20, 2010, 19:41:36
สิ่งที่ผมจำได้ขึ้นใจเลยเกี่ยวกับออปชั่นส่งออกดีกว่าคือ

Altis ทั่วภูมิภาคมีเซนเซอร์รอบคันให้ แต่บ้านเราและสิงคโปร์ไม่มีให้!!
(ยังดีที่ให้ตอนไมเนอร์ แต่แค่ 2 จุด)

ส่วน March เบาะหลังดีกว่าบ้านเรานั้น
ที่ญี่ปุ่นยังมีให้เฉพาะตัวสูงสุดเลยครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมคนไทย ไม่ได้ใช้อะไร ดีๆ เหมือน ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: Dark Overlord ที่ ตุลาคม 20, 2010, 19:58:09
สิ่งที่ผมจำได้ขึ้นใจเลยเกี่ยวกับออปชั่นส่งออกดีกว่าคือ

Altis ทั่วภูมิภาคมีเซนเซอร์รอบคันให้ แต่บ้านเราและสิงคโปร์ไม่มีให้!!
(ยังดีที่ให้ตอนไมเนอร์ แต่แค่ 2 จุด)

ส่วน March เบาะหลังดีกว่าบ้านเรานั้น
ที่ญี่ปุ่นยังมีให้เฉพาะตัวสูงสุดเลยครับ

และที่จีน เครื่อง 1500 กับภายในสีครีมก็จริง
แต่ไม่ได้ Air auto ส่วน เบาะหลังไม่ได้เบาะรองคอเหมือนบ้านเราเลย
แต่ City ที่จีนก็ได้ Air auto เครื่อง 1800 ไอแบบนี้ก็ได้ของครบเครื่อง
สุดๆ ไปเลย ซึ่งมันเอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้จริงๆ ต้องบอกว่า แล้วแต่
หัวข้อ: Re: ทำไมคนไทย ไม่ได้ใช้อะไร ดีๆ เหมือน ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: muying ที่ ตุลาคม 20, 2010, 20:16:22
สิ่งที่ผมจำได้ขึ้นใจเลยเกี่ยวกับออปชั่นส่งออกดีกว่าคือ

Altis ทั่วภูมิภาคมีเซนเซอร์รอบคันให้ แต่บ้านเราและสิงคโปร์ไม่มีให้!!
(ยังดีที่ให้ตอนไมเนอร์ แต่แค่ 2 จุด)

ส่วน March เบาะหลังดีกว่าบ้านเรานั้น
ที่ญี่ปุ่นยังมีให้เฉพาะตัวสูงสุดเลยครับ

และที่จีน เครื่อง 1500 กับภายในสีครีมก็จริง
แต่ไม่ได้ Air auto ส่วน เบาะหลังไม่ได้เบาะรองคอเหมือนบ้านเราเลย
แต่ City ที่จีนก็ได้ Air auto เครื่อง 1800 ไอแบบนี้ก็ได้ของครบเครื่อง
สุดๆ ไปเลย ซึ่งมันเอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้จริงๆ ต้องบอกว่า แล้วแต่


เห็นพูดถึงจีน  เลยอยากจะสะกิดนิดนึงว่า ที่จีนหน่ะ ราคาขายกันหน่ะ ถูกกว่าบ้านเราเยอะน่ะครับ ของแต่งก็เยอะด้วย  เพื่อนเมียผมซื้อโซนาต้า มีซันรูฟ ตีเป็นเงินไทยแค่ห้าแสนเอง ของแถมเพียบ ยกเว้นค่าจดทะเบียนต้องจ่ายเอง(ในรายเพื่อนเมียผมน่ะ เพราะัมันเลือกเอาไปจดฯขอเลขเอง) เป็นเงินไทยไม่กี่่ร้อยครับ
หัวข้อ: Re: ทำไมคนไทย ไม่ได้ใช้อะไร ดีๆ เหมือน ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: Dark Overlord ที่ ตุลาคม 20, 2010, 20:34:50
สิ่งที่ผมจำได้ขึ้นใจเลยเกี่ยวกับออปชั่นส่งออกดีกว่าคือ

Altis ทั่วภูมิภาคมีเซนเซอร์รอบคันให้ แต่บ้านเราและสิงคโปร์ไม่มีให้!!
(ยังดีที่ให้ตอนไมเนอร์ แต่แค่ 2 จุด)

ส่วน March เบาะหลังดีกว่าบ้านเรานั้น
ที่ญี่ปุ่นยังมีให้เฉพาะตัวสูงสุดเลยครับ

และที่จีน เครื่อง 1500 กับภายในสีครีมก็จริง
แต่ไม่ได้ Air auto ส่วน เบาะหลังไม่ได้เบาะรองคอเหมือนบ้านเราเลย
แต่ City ที่จีนก็ได้ Air auto เครื่อง 1800 ไอแบบนี้ก็ได้ของครบเครื่อง
สุดๆ ไปเลย ซึ่งมันเอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้จริงๆ ต้องบอกว่า แล้วแต่


เห็นพูดถึงจีน  เลยอยากจะสะกิดนิดนึงว่า ที่จีนหน่ะ ราคาขายกันหน่ะ ถูกกว่าบ้านเราเยอะน่ะครับ ของแต่งก็เยอะด้วย  เพื่อนเมียผมซื้อโซนาต้า มีซันรูฟ ตีเป็นเงินไทยแค่ห้าแสนเอง ของแถมเพียบ ยกเว้นค่าจดทะเบียนต้องจ่ายเอง(ในรายเพื่อนเมียผมน่ะ เพราะัมันเลือกเอาไปจดฯขอเลขเอง) เป็นเงินไทยไม่กี่่ร้อยครับ

้ต้องสันนิษฐานก่อนว่า ภาษีเค้าคิดยังไง แล้ว ยอดผลิตเค้าเยอะ
มากมั๊ย โอกาสที่ ต้นทุน tooling ก็จะถูกครับ อย่าง moonroof
เค้าฮิตกันเหลือเกิน มีจำนวนการผลิตมาก ของชิ้นๆ นี้ก็น่าจะถูกลง
ไปเยอะ
หัวข้อ: Re: ทำไมคนไทย ไม่ได้ใช้อะไร ดีๆ เหมือน ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: Good Boy ที่ ตุลาคม 21, 2010, 01:12:10
อืม....ผมอาจจะเข้าใจโลกน้อยไปหรือเข้าใจอะไรยาก

..........................................................................

ถ้าคิดจะใส่มาให้จริงๆจะไม่มีวิธีบริหารจัดการต้นทุน การกระจายความเสียงเลยหรอ .......

ทำไมจะต้องรอภาครัฐหรือผู้บริโภคเรียกร้องถึงจะใส่มาให้ ABS ครบทุกรุ่น airbag ครบทุกรุ่น

ผมไม่เห็นด้วยเท่าไรครับ

ปล.แต่ก็รับฟังทุกความคิดเห็น
หัวข้อ: Re: ทำไมคนไทย ไม่ได้ใช้อะไร ดีๆ เหมือน ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: LimitedEdition ที่ ตุลาคม 21, 2010, 01:34:23
มันก็คงจะทำได้ครับ แต่ถ้าใส่ ABS กับ Airbag มารอบคัน
แล้วไม่มีกุญแจคีย์เลส กระจกมองข้างพับไฟฟ้า แอร์ออโต้ ปุ่มปรับเครื่องเสียงบนพวงมาลัย
ผมว่าก็คงลำบากที่มันจะขายได้ดีในบ้านเรา

ลองนึกย้อนกลับไปสมัยปี 2000 ครับ
มาสด้า โปรทีเจ เป็นรถที่ีมีแอร์แบ็กคู่ เบรก ABS พร้อม EBD เข็มขัดนิรภัยแบบผ่อนแรงดึงกลับ คานกันยุบแบบพิเศษในประตู
รวมไปถึงรถกระบะมาสด้าไฟเตอร์ ฟอร์ดเรนเจอร์ ผู้นำกระบะนิรภัยรายแรกในไทย
เรียกว่าช่วงนั้น ฟอร์ด กับ มาสด้า เน้นอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยมากกว่าเจ้าอื่นอย่างมากมายโข
หรือจะมองไปที่ Nissan Sunny NEO รุ่น VIP ที่ได้แอร์แบ็กสองใบ กับอุปกรณ์ความปลอดภัยเต็มพิกัดเช่นกัน

แล้วยอดขายเป็นอย่างไรครับ รถที่ขายดีที่สุดกลายเป็นรถเจ้าตลาด ที่ีมีปุ่มบนพวงมาลัยไว้เปลี่ยนเกียร์ หรือมีอุปกรณ์จุกจิกอย่างอื่น
โดยรุ่นที่ขายดีกลับไม่ใช่รุ่นที่มีอุปกรณ์ปลอดภัยเหล่านั้นเลยด้วย

ผมว่ามันเป็นตัวอย่างที่ดีว่านอกจากเราๆ ในเว็บแล้ว
ความต้องการของคนไทยในเรื่องรถ สิ่งที่คาดหวังจากรถในอันดับต้นๆ เนี่ย คืออุปกรณ์อำนวยความสะดวก หรือความปลอดภัย
หัวข้อ: Re: ทำไมคนไทย ไม่ได้ใช้อะไร ดีๆ เหมือน ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: Spirit_P ที่ ตุลาคม 21, 2010, 04:16:27
ผมคิดว่า ไม่ว่าความต้องการของคนไทยจะเป็นอุปกรณ์อำนวยความสะดวก หรือความปลอดภัย มันก็โดนตัดตอนไว้ทั้ง 2 อย่างนั่นแหละ ยังไงก็ขายได้ว่างั้น เพิ่มทำไมให้กำไรหด ออพชั่นก็เพิ่มนิดเพิ่มหน่อยเป็นเงินหมด รถก็ราคาแพงจะแย่อยู่แล้ว เดี๋ยวนี้อยากมีรถดีๆ ซักคัน ต้องมีเงินเป็นล้าน ไอ้ซีวิคกะอัลติส ราคาถึงล้านนี่พูดตรงๆ รับไม่ได้จริงๆ ให้เลือกรุ่นรองลงมาหน่อยเหรอ ผ่อนจบเบ็ดเสร็จก็เกือบล้านเหมือนกัน คนไทยเดี๋ยวนี้หาเงินล้านกันได้ง่ายขนาดนั้นเชียว หรือมีเงิน 7-8 แสน อยากจะหารถออฟชั่นเยอะ..ก็มี แต่ได้คันเท่ากระจึ๋งนึง คงได้ใช้แต่กระบะ ขนข้าวขนของขนคน ขนทุกอย่าง เออก็ประหยัดดี ชีวิตไม่มีแอร์แบ็คอยู่แล้ว....สงสัยถ้าอยากใช้รถดีๆ ต้องเป็นหนี้หัวโต...อิอิ   
หัวข้อ: Re: ทำไมคนไทย ไม่ได้ใช้อะไร ดีๆ เหมือน ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: 6162002 ที่ ตุลาคม 21, 2010, 05:25:05

้ต้องสันนิษฐานก่อนว่า ภาษีเค้าคิดยังไง แล้ว ยอดผลิตเค้าเยอะ
มากมั๊ย โอกาสที่ ต้นทุน tooling ก็จะถูกครับ อย่าง moonroof
เค้าฮิตกันเหลือเกิน มีจำนวนการผลิตมาก ของชิ้นๆ นี้ก็น่าจะถูกลง
ไปเยอะ
ถ้าจะเอาต้นทุนมาพูด แอร์แบคต้นทุนจริงๆมันไม่กี่พันด้วยซ้ำครับ ถ้าเอาเฉพาะตัวถุงลม เพราะช่องใส่อะไรๆมันมีเตรียมไว้อยู่แล้ว ABS เพิ่มจากเดิม เอาต้นทุนจริงๆก็คงไม่กี่พัน เงินแค่เขาต้องมีวิธีบริหารแน่ๆครับ ถ้าเขาจะใส่มา
ส่วนเรื่องที่เป็นเหมือนวิวัฒนาการ ผมว่าจริงตามนั้นแหละครับ ในเมื่อ Ford มีESPแล้ว กระบะโตโยต้าก็เริ่มใส่มาแล้ว ยี่ห้ออื่นถ้าออกรุ่นใหม่มา ไม่มีบ้างก็คงน่าเกลียดจริงๆ เรื่องต้องปรับตัวตามคู่แข่งนี่มันเป็นกลไกที่ ถึงจะช้า แต่ก็ได้ผลจริงๆแฮะ
หัวข้อ: Re: ทำไมคนไทย ไม่ได้ใช้อะไร ดีๆ เหมือน ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: GreenG ที่ ตุลาคม 21, 2010, 08:15:05
มันก็คงจะทำได้ครับ แต่ถ้าใส่ ABS กับ Airbag มารอบคัน
แล้วไม่มีกุญแจคีย์เลส กระจกมองข้างพับไฟฟ้า แอร์ออโต้ ปุ่มปรับเครื่องเสียงบนพวงมาลัย
ผมว่าก็คงลำบากที่มันจะขายได้ดีในบ้านเรา

ลองนึกย้อนกลับไปสมัยปี 2000 ครับ
มาสด้า โปรทีเจ เป็นรถที่ีมีแอร์แบ็กคู่ เบรก ABS พร้อม EBD เข็มขัดนิรภัยแบบผ่อนแรงดึงกลับ คานกันยุบแบบพิเศษในประตู
รวมไปถึงรถกระบะมาสด้าไฟเตอร์ ฟอร์ดเรนเจอร์ ผู้นำกระบะนิรภัยรายแรกในไทย
เรียกว่าช่วงนั้น ฟอร์ด กับ มาสด้า เน้นอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยมากกว่าเจ้าอื่นอย่างมากมายโข
หรือจะมองไปที่ Nissan Sunny NEO รุ่น VIP ที่ได้แอร์แบ็กสองใบ กับอุปกรณ์ความปลอดภัยเต็มพิกัดเช่นกัน

แล้วยอดขายเป็นอย่างไรครับ รถที่ขายดีที่สุดกลายเป็นรถเจ้าตลาด ที่ีมีปุ่มบนพวงมาลัยไว้เปลี่ยนเกียร์ หรือมีอุปกรณ์จุกจิกอย่างอื่น
โดยรุ่นที่ขายดีกลับไม่ใช่รุ่นที่มีอุปกรณ์ปลอดภัยเหล่านั้นเลยด้วย

ผมว่ามันเป็นตัวอย่างที่ดีว่านอกจากเราๆ ในเว็บแล้ว
ความต้องการของคนไทยในเรื่องรถ สิ่งที่คาดหวังจากรถในอันดับต้นๆ เนี่ย คืออุปกรณ์อำนวยความสะดวก หรือความปลอดภัย

คนไทยส่วนใหญ่ ไม่เน้นความปลอดภัยครับ เพราะมีญาติผมซื้อ Civic 1.8S ไม่มี ABS Airbag แต่มีตังไปเปลี่ยน Mag กับชุดแต่ง Module ได้ ซึ่งรวมๆก็พอๆกับรุ่น มีABS เลย
หัวข้อ: Re: ทำไมคนไทย ไม่ได้ใช้อะไร ดีๆ เหมือน ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: 2k ที่ ตุลาคม 21, 2010, 09:15:43
ไม่ต้องจริงจังกับคำตอบของผมมากนัหหรอกครับ มันไม่ได้หมายความว่ามันจะต้องถูกเสมอไป ต่างคนต่างความคิด เอาแค่ว่าผมสนับสนุนให้มีการแข่งขันอย่างเทียมกันเท่านั้นแหละ คนไทยจะได้ผลประโยชน์เต็มที่  :)
หัวข้อ: Re: ทำไมคนไทย ไม่ได้ใช้อะไร ดีๆ เหมือน ต่างประเทศ
เริ่มหัวข้อโดย: accidenty ที่ ตุลาคม 21, 2010, 18:15:22
อย่างที่พี่จิมมี่บอกไว้ คนตัวเล็กๆ ในองค์กร ใหญ่ๆ ก็ทำเท่าที่ทำได้ ผู้บริโภค ก็ดิ้นรนเท่าที่ทำได้    บ้านผมก็เคยนั่งบ่นกัน นั่งคิดกัน "เออ ทำไมไม่ได้อะไรดีๆเหมือนเมืองนอกเค้ามั่งวะ" แต่คิดไปก็ปวดกบาล พ่อผมสอนว่า แทนที่ เวลาจะขับรถแต่ละทีก็นั่งน้อยใจเมืองนอกเค้า ไม่ต้องคิดซะดีกว่า อยากได้รถดีๆ ออพชั่นเยอะๆ ก็หาเงินให้ได้เยอะๆละกัน ใช้ฟอร์จูนเนอร์ แล้วเซงออพชั่น เซงระบบ ก็หาเงินให้ได้อีกสักสิบเท่าไปถอย cayene ก็ไม่ต้องนั่งนเอยใจละ ออพชั่นได้พอๆกัน รถญี่ปุ่นอยากได้ออพชั่นครบ ก็หาคนนำเข้ามาทั้งคันเอา

สรุป...ผมว่าถ้ามองรวมๆ ไม่มองแค่ รถ มองการใช้ชีวิตแต่ละวันของคนไทย ราคากับออพชั่นมันก็โอเคแล้วละ หรือต้องให้บ้านเราข้าวจานละ 200 แต่รถ ราคาเท่าญี่ปุ่น เราถึงจะพอใจ???

ความคิดเห็นจาก เด็กมหาลัยปี2 ครับ