Headlight Magazine : community
General => Discussion Forum => ข้อความที่เริ่มโดย: TeslaX ที่ กุมภาพันธ์ 11, 2022, 17:04:54
-
อนาคตนี้น่าจะถึงแน่นอน เตรียมตัวเตรียมใจกันหรือยัง ล่าสุดเพิ่มอีก 50 สตางค์ ส่วนตัวคงใช้รถน้อยลง ขับเท่าที่จำเป็น
-
เราเคยผ่านเบนซิน 2 ลิตรเกือบร้อยมาแล้ว
เคยติดจะเลิกใช้รถ แต่ถึงเวลาจริงก็เลิกไม่ได้หรอกครับ ของมันต้องใช้งาน
ทำงานหาเงิน ประหยัดเพิ่มขึ้นมาจ่ายค่าน้ำมันกันไป
-
ตอนนั้นร้าน ติดแก๊ส เฟื่องฟู มาก
ซึ่งมันคุ้มจริงๆ แหละคนขับรถเยอะๆ ไม่ถึงปี ก็คืนทุนแล้ว ผมติดแก๊สตามกระแสไปประมาณ 2 ปีก็คืนทุนแล้ว
-
รถ Eco car ทุกวันนี้ ก็กินอยู่ที่ 17-20 Km/L ต่อให้มันขึ้นไปที่ 50 บาทจริง ก็ ไม่ต้องขับรถแล้วครับ
พังกันทั้งโลกละ
-
ผมว่ามีสิทธิ์มาแน่ลิตรละ 50 บาทเนี้ย
แต่ถ้ามาถึงระดับนั้น ภาครัฐควรมีมาตรการงดเว้นภาษีทั้งหลายแหล่ครับ
หากจะมีคำถามต่อไป แล้วภาครัฐจะหาเงินจากไหนมาใช้จ่าย
ก็คงต้องตอบว่า ใช้ประหยัดๆ ให้เกิดประโยชน์หน่อย ไม่ใช่หว่านแห่ไปทั่ว มั่วไปหมดแบบทุกวันนี้
-
เราเคยผ่านเบนซิน 2 ลิตรเกือบร้อยมาแล้ว
เคยติดจะเลิกใช้รถ แต่ถึงเวลาจริงก็เลิกไม่ได้หรอกครับ ของมันต้องใช้งาน
ทำงานหาเงิน ประหยัดเพิ่มขึ้นมาจ่ายค่าน้ำมันกันไป
ช่วงที่น้ำมันแพงๆคนใช้รถยนต์น้อยลงไปเยอะเลยนะครับ ถนนตามต่างจังหวัดโล่งไปเลย พอน้ำมันลงราคามาเหลือลิตรละยี่สิบกว่าบาทรถเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวเลยครับ
-
คิดว่าแพงจัง
-
ถ้าเบนซิน 50 เหมือนจะเคยผ่านมาแล้วนะครับ
แต่ถ้า Gasohol95 E10 ไป 50฿ นี่ สยองเลยครับ นี่แค่ 35.5 ผมว่าจะขายไป รถไฟฟ้าซักคันนึงแล้วล่ะครับ
-
คิดยังไง = คิดมากเลยครับ
:'( :'( :'( :'( :'(
-
ก็ถ้าจำเป็นก็ยังต้องใช้นะครับ แม้ราคาจะสูงขึ้น
-
คิดว่า จำเป็นต้องเดินทาง ก็ต้องเติม 50 60 70 ... 100 บาท ก็ต้องเติม
แต่ราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ก็ทำให้เป็นการเร่งการตัดสินใจซื้อรถไฟฟ้าด้วยเช่นกัน
-
คิดว่ารถคันต่อไปคงเป็น Hybrid หรือ PHEV แล้วล่ะครับ
-
จำได้เลย สมัยลุงโทนี่ สั่งปิดปั๊ม ตอนเที่ยงคืน สั่งปิดห้างตอน 4ทุ่ม
ตอนนั้นเรียนม.อยู่แถวกล้วยน้ำไท
ประมาทมาก ขับกลับบ้านโดยไม่เติมน้ำมันเข้าบ้าน
หมาดันป่วย
ปั๊มแถวบ้านปิดหมดแล้ว เหลือที่เปิดดึกหน่อยแถวเอกมัย ต้องคลานไปเติม แล้วก็ให้หมาหาหมอแถวทองหล่อ...
หวังว่าเหตุการณ์นี้คงไม่เกิดอีกนะ ตอนนั้นถึงน้ำมันแพง แต่คนมีตังค์จะเติม ประเทศไทยขาดดุลกระจาย
แต่ตอนนี้ คนมีตังค์น้อยลง เหตุการณ์ปิดปั๊มปิดห้างคงไม่มาหลอนอีก
-
ข้อดีอย่างนึงคือ รถในถนนจะน้อยลง ระบบขนส่งมวลชนจะเยอะขึ้น ช่วงที่แพงที่สุด ดีมากๆ ส่วนพวกวิ่งเซลล์ที่เบิกค่าน้ำมันเป็นลิตรได้ ก็ไม่มีปัญหา ยังไงก็ต้องใช้รถ ดังนั้นเฉยๆครับ
-
ขับรถแบบประหยัดน้ำมันช่วยได้ระดับหนึ่งครับ
-
เราคงได้เห็นหน้า เจ้เกียว อีกรอบ ... เหวอออ
-
ยังกระทบผมน้อยมากครับ วันๆใช้ไฟวิ่งเป็นหลัก มากหน่อยก็น้ำมันลิตรนึงครับ
-
คิดยังไงไม่รู้ แต่ที่รู้คือคนใช้รถน้อยลงแน่ๆ รถจะได้ติดน้อยๆหน่อย
-
ไม่คิด ตอนที่ 10กว่าบาท ยังคิดว่าถ้าขึ้นมา 30 บาทจะทำยังไง ปัจจุบันก็ยังใช้รถเหมือนเดิม
-
ถ้ามันเป็นไปตามกลไกตลาดโลกจะไม่บ่นเลยครับ นี่มามีกองทุนอะไรมาบิดเบือนราคามั่วซั่วไปหมด แล้วยังมีbioที่ทำให้ต้นทุนสูงขึ้น อะไรตัดได้ก็ตัดเถอะ
-
ไม่คิดอะไร ค่าน้ำมันเบิกบริษัท อยู่แล้ว ไม่มีผลกับผมเลย 😄
-
ไม่คิดแล้วครับ จำเป็นต้องใช้ก็ใช้ ไม่จำเป็นต้องใช้ก็ไม่ใช้
ไว้ให้ทางเลือกใหม่มี infrastructure ที่ดีเท่าแล้วค่อยไปครับ
-
คุยกับร้านติดแก๊ส เค้าบอกยังเงียบ
คนคิดว่าเดียวมันก็ลง หรือรอยุค bev กัน
ขึ้น50ตังค์มาหลายบาทแล้วรถก็ยังคงติดเหมือนเดิม
-
ก็ใช้รถเท่าที่จำเป็นจริงๆ ซื้อของถ้าสั่งออนไลน์ก็สั่งออนไลน์ จ่ายตลาดก็ไปทีซื้อเยอะๆอยู่ได้สักห้าวันเลย
-
ทำใจครับ
-
ถ้ามีกำลัง คงต้องมีรถทั้งเครื่องยนต์ดีเซลและเบนซินอย่างละคันครับ
ไม่ได้อยากเห็นแก่ตัว แต่เราต้องอยู่รอดกับการบริหารแบบนี้
ผมขี้เกียจคิดละครับ อะไรประหยัดได้ก็ประหยัด ใช้เท่าที่จำเป็น
-
ถ้าไม่มีการรบกันจริง ๆ เกิดขึ้น น้ำมันไม่น่าถึง 50 บาท ผมเชื่อว่าอย่างมากก็ป้วนเปี้ยนสูงสุดแค่ 40 กว่าบาท จากนั้นก็ทรง ๆ แล้วราคาลดลงมา เพราะกลุ่มโอเปกไม่มีทางปล่อยน้ำมันให้ราคาแพงเกินไป เดี๋ยวคนจะหันไปหาพลังานทดแทนกันหมด มันก็เป็นเช่นนี้มานานแล้ว พอน้ำมันแพงคนถวิลหาพลังงานทางเลือก โอเปกก็เพิ่มกำลังการผลิตไม่ปล่อยให้ คนไปแสวงหาพลังงงานทางเลือกที่คุ้มค่ากว่าราคาน้ำมัน ราคาน้ำมันแพงจนเศรษฐกิจทั่วโลกมีปัญหาจนกำลังซื้อหายไป แน่นอนว่าผู้ค้าน้ำมันก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น
-
ถ้าไม่มีการรบกันจริง ๆ เกิดขึ้น น้ำมันไม่น่าถึง 50 บาท ผมเชื่อว่าอย่างมากก็ป้วนเปี้ยนสูงสุดแค่ 40 กว่าบาท จากนั้นก็ทรง ๆ แล้วราคาลดลงมา เพราะกลุ่มโอเปกไม่มีทางปล่อยน้ำมันให้ราคาแพงเกินไป เดี๋ยวคนจะหันไปหาพลังานทดแทนกันหมด มันก็เป็นเช่นนี้มานานแล้ว พอน้ำมันแพงคนถวิลหาพลังงานทางเลือก โอเปกก็เพิ่มกำลังการผลิตไม่ปล่อยให้ คนไปแสวงหาพลังงงานทางเลือกที่คุ้มค่ากว่าราคาน้ำมัน ราคาน้ำมันแพงจนเศรษฐกิจทั่วโลกมีปัญหาจนกำลังซื้อหายไป แน่นอนว่าผู้ค้าน้ำมันก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น
ตอนนี้ที่แพงเพราะ OPEC ผลิตน้อยครับ นัดกันผลิตน้อยแต่เศรษฐกิจโลกกำลังกลับมาเลยเกิดการแย่งน้ำมัน ซึ่งตอนนี้อเมริกาต้องปั๊มมาป้อนส่วนที่ OPEC ไม่ผลิตออกมาพยุงไม่ใช้แพงไปกว่านี้ รอดูไบเดน เจรจากับ OPEC ให้ผลิตมากขึ้นได้มั้ยวันสองวันนี้ อาจมึข่าวดี
-
ผมดีหน่อย ปีที่แล้วถอย cross hybrid มาช่วยใด้เยอะ แต่ก็ยังต้องใช้น้ำมันอยู่
อีกคัน crv 2.0 กินพอตัว อาทิตย์นึงออกวิ่ง 5-60 กิโล พอใด้อยู่
ผมมองว่า 40 บาทไม่น่าถึง ใอ้คนขึ้นกำหนดราคา จิตวิทยามันดี
-
ถึง 50 บาทวันไหนผมจะถอยรถไฟฟ้ามาใช้วันนั้นแหละ
-
ไม่ได้คิดอะไรครับ ไม่ได้ขับรถเยอะขนาดที่ส่วนต่างราคาจะทำให้เดือดร้อน
-
สมัยก่อน เติมเบนซิน 95 ลิตรละ 50 บาท ที่เชียงใหม่ ก็เติมมาแล้ว หุหุ
-
น้ำมัน 50 คิดว่าข้าวคงจานละ 70 บาท
ของอุปโภคบริโภคราคาสูงขึ้น
เงินฝืด ขายของไม่ได้ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวซบเซา
โอที ไม่มี เพราะต้องลดต้นทุน จากวัตถุดิบราคาสูง
เดาว่าคงชลอๆแถวๆ 40-45 บาท
แล้วสหรัฐคงเคลียร์กับเจ้าของแหล่งน้ำมัน
-
เคยเจอช่วงปี57ตอนนั้นเงินเดือนน้อยกว่านี้ยังผ่านมาได้ 8)
50ไม่กลัว แต่ถ้า70+ มีขายพวกต่ำกว่า12โลลิตรทิ้งแน่
-
อาทิตย์หน้าเห็นว่าขึ้นอีกครับ
-
ผมว่าผมเกิดทันช่วงนึงที่มันแพงๆมากๆแต่ตอนนั้นโซเซียลยังไม่เข้ามามีส่วนร่วมขนาดนี้
-
น้ำมันแพงครั้งก่อนมี LPG และ NGV เป็นพระเอก ไปอู่ไหนก็หันมารับติดตั้งตั้ง LPG NGV
เมื่อก่อนตอนน้ำมันแพงในเว็บบอร์ดนี้ ก็มีถามเรื่องติดตั้ง LPG NGV แทบทุกวัน
มาตอนนี้มาเป็นรถ hybrid และ PHEV รถกลุ่ม EV
ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ ย้อยไปค้นหาคำถาม LPG NGV ในเว็บบอร์ด
https://community.headlightmag.com/index.php?action=search2
-
ก็คงไม่คิดอะไรมาก เพราะไม่ใช้รถน้ำมันแล้ว
มันอาจจะส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าโดยรวม แต่ก็ไม่ชัดเท่ากับน้ำมันที่เติมทุกวันๆ
เดิมๆเนี่ยวิ่งเยอะเดือนๆจ่ายค่าน้ำมันเป็นหมื่น
เปลี่ยนมาใช้ไฟฟ้าเหลือสองพัน
ไปจ่ายค่างวดรถแพงกว่ารถน้ำมันแทน ฮ่าๆ
-
ได้ปั่นจักรยานไปทำงาน ::)
-
เป็นcarguyต้องทำใจครับ ;D
-
ถ้าสมัยก่อนคงเครียด ดิ้นรนหาทางออกแล้วล่ะ ..
แต่ผมว่าคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะแคร์กันแล้วมั้ง หาเงินมาเติมเอาถ้าอยากใช้รถ
อีกอย่างปริมาณรถบนถนนก็ไม่เห็นจะน้อยลงเลย ... เชื่อว่า เค้ารับกันได้แล้วล่ะ ... ที่เหลือก็แค่หาเงินมาเติมน้ำมันแค่นั้น ...
-
ก็คงใช้รถเหมือนเดิมครับ ต้องใช้รถทำงาน
ตอนนี้รถไฮบริด กับ ติดแก๊ส ถ้าไม่เหยียบก็ตก กม. ละ 1.5-1.8 บาทอยู่ครับ
-
ถ้าสมัยก่อนคงเครียด ดิ้นรนหาทางออกแล้วล่ะ ..
แต่ผมว่าคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะแคร์กันแล้วมั้ง หาเงินมาเติมเอาถ้าอยากใช้รถ
อีกอย่างปริมาณรถบนถนนก็ไม่เห็นจะน้อยลงเลย ... เชื่อว่า เค้ารับกันได้แล้วล่ะ ... ที่เหลือก็แค่หาเงินมาเติมน้ำมันแค่นั้น ...
น้อยลงครับ น้อยลงอย่างมีนัยเลย
เมื่อคืน ออกจากบ้านตอน 1 ทุ่ม จากพระราม2 ไปราชประสงค์ คือ สภาพเหมือนช่วง lock down เลย ใช้เวลาแค่ 20 นาทีบนทางด่วนเท่านั้น
ปกติ เย็นวันศุกร์แบบนี้ ช่วงเวลานี้ ไม่มีทางเป็นไปได้เลยครับที่จะใช้เวลา 20 นาที
-
คงลำบากครับ ต้องขับรถไปกลับที่ทำงานวันละ15กิโลทุกวัน
ไม่นับค่าเช่าห้อง ค่าข้าว ค่าครองชีพอื่นๆอีก
-
ก็คงลดการใช้ลงเท่าที่ทำได้ครับ ปัญหาคือค่าครองชีพด้านอื่นๆจะพุ่งตามน้ำมันไปด้วย คงจะอ่วมกันถ้วนหน้าหละครับ
-
1.อาจเพิ่มรถไฟฟ้า แต่ลงทุนไม่คุ้มแน่เลยราคารถแพงแท้เก็บมาเติมน้ำมันแพงๆได้หลายปีอยู่
2.ซื้อรถถูกๆมือสอง2-3แสน มาติดแก๊ส
3.ขายคันเก่าทิ้งแล้วมองไปที่PHEV เพราะส่วนมากวิ่งทำงานในเมืองออกตจวน้อย
สมัยก่อนตอนใช้รถแก๊สตกโลละ1.2-1.5บาท แต่ตอนนี้ขับcivicเติมe85ก็วิ่งตกโลละ1.8-2บาท ยังพอรับได้อยู่
-
สำหรับคนที่ไม่ได้ใช้รถเยอะมาก ปีละไม่ถึง 10000 โล +- คงไม่ได้คิดมากถึงขนาดนั้นครับ แต่ตอนเติมก็จะแค่บ่นๆนิดหน่อยครับ
-
หาข้อมูล ครูซ ดีเซลรอล่ะครับ
ถ้าต้องกลับไปทำงาน
-
ไม่ค่อยเดือดร้อนครับ เบนซินลิตรละ 50 บาทก็เจอมาแล้ว
ตอนนี้ใช้รถ PHEV เป็นคันหลัก (เพราะรถใหม่ยังมีประกัน + BSI ก็เลยต้องใช้เป็นรถหลัก) เติมน้ำมันน้อยมากน่าจะเดือนละหนเท่านั้น รถดีเซลอีกคันเอามาวิ่งสัปดาห์ละวันกันสตาร์ทไม่ติด
ส่วนคุณนายใช้เบนซินก็วิ่งน้อย ลูกเรียนออนไลน์
-
95 58.xx
95 E10 53.xx
91 E10 52.xx
E20 50.xx
Diesel B7 43.xx
ถ้าเป็นแบบนี้จริงแล้วค่าแรงไม่ขึ้นตาม ในเบื่องต้น รถ Daily Use คงต้องหันไปใช้รถไฟฟ้าแล้วครับ ปัญหาที่ใหญ่กว่าคือ มันจะพาอย่างอื่นขึ้นไปด้วย
-
ตอนนี้ใช้อยู่ 3 คัน ขายครับ ทั้ง 3 คัน แล้วเอาเงินที่ขายมาซื้อรถไฟฟ้า
-
สมัยน้ำมันแพง 49-50B/L คนรอบข้างเอารถไปติด LPG เยอะ คนที่วิ้งเยอะก็คุ้มหละครับ รถผมวิ่งน้อยไม่ทำอะไร ใช้รถเก่าต่อไป
ถึงตอนนี้คนที่วิ่งเยอะ เปลี่ยนรถไปหมดแล้ว
คนที่ติด LPG บางส่วนเครื่องพังไปแล้ว ส่วนรถผมยังอยู่รอดด้วยการดูแลตามระยะทาง
ถ้าวันนี้กำลังจะซื้อรถใหม่คงสนใจรถไฮบริด หรือ Ev (ที่ไม่แพง) แต่จริงๆไม่ได้อยากซื้อรถก็เลยใช้ที่มีอยู่ต่อไป ค่าน้ำมันที่แพงยังไงๆก็ไม่แพงเท่าซื้อรถ
-
ง่ายสุดคือ ขับให้ประหยัดขึ้น วางแผนการเดินทาง
จะให้ติดแก๊สก็คิดว่าไม่คุ้ม ไหนจะเครื่องโทรม เสี่ยงจุกจิกขึ้น และอาจใช้ไม่คุ้มค่าติดแก๊สด้วยซ้ำ
ถ้าแพลนซื้อรถใหม่ คงไปหา PHEV / Hybrid หรือพวก Diesel ขอสัก 15km/l ขึ้นก็โอเคแล้ว
เอาจริงๆที่น่ากลังคือ ของกินของใช้แพงขึ้นนี้แหละ ค่าน้ำมันขึ้นยังพอไหว
ถ้าน้ำมันขึ้น โลละบาท 50 โล ก็ 50 บาท เจอค่าข้าวขึ้นจานละ 5-10 บาทดูกระทบกว่า ของต้องกินทุกวัน รถยังจอดได้ แชร์ได้
-
ก็เติมๆไป
-
ใช้ PHEV อยู่รอดตัวไป เดือนหนึ่งเติมน้ำมันอย่างมากครั้งเดียวเอง
ใครยังใช้รถน้ำมันก็ซื้อหุ้นโรงกลั่นชดเชยกันไป
-
คนเราก็ต้องปรับตัวแหละครับ คงเห็นรถบนถนนน้อยลง คนใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น
-
คนเราก็ต้องปรับตัวแหละครับ คงเห็นรถบนถนนน้อยลง คนใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น
ช่วงนี้ถนนโล่งมากจริงๆ นึกว่าอยู่ในช่วงล๊อคดาวน์ สงสัยคนไม่กล้าขับรถกัน